Thursday, 2 May 2024
พรรคพลังประชารัฐ

สนง.เลขาธิการสภาฯ กางค่าตอบแทน ‘สิระ’ จ่อแจ้งให้ชำระเงินคืนภายใน 30 วัน

ที่ปรึกษาประธานสภาฯ แจงรายละเอียดค่าตอบแทน - สิทธิประโยชน์ “สิระ” หลังศาลรธน. สั่งพ้นสภาพ ส.ส. ระบุ สนง.เลขาธิการสภาฯ กำลังรวบรวมก่อนแจ้งให้ชำระภายใน 30 วัน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10.45 น. ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง คือ วันที่ 24 มี.ค. 62 และตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 วรรคสอง ระบุในกรณีกระทำผิดตามวรรคหนึ่ง ผู้ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมา แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า เมื่อมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงคำวินิจฉัยเต็มเมื่อไหร่ ก็คงจะได้ดำเนินการ 

ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ โดยสำนักงานการคลัง กำลังดำเนินการรวบรวมจำนวนเงิน เพื่อรายงานไปยังเลขาธิการสภาฯ จากนั้น จะแจ้งไปยังนายสิระให้คืนเงิน ภายใน 30 วัน หลังจากได้รับหนังสือแจ้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว ส่วนเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่นั้น วันนี้คงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่สำหรับหลักเกณฑ์ในการคิดคำนวณเงินกรณีนี้ ซึ่งเคยใช้กับอดีต ส.ส. พรรคก้าวไกล ท่านหนึ่งที่มีกรณีใกล้เคียงกัน คือ พ้นจากสมาชิกภาพ และตอนนี้อยู่ระหว่างการคืนเงินให้สภา

'ซูเปอร์โพล' เผยผลสำรวจนักการเมืองน่าประทับใจที่สุดแห่งปี 2564 ฝั่งรัฐบาล 'บิ๊กตู่-จุรินทร์' ฝ่ายค้าน 'พิธา-สุทิน'

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 64 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ที่สุดแห่งปี 2564 ด้านการเมืองภาพใหญ่ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,086 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-17 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ที่สุดแห่งปี 2564 ด้านการเมืองภาพใหญ่ ผลสำรวจพบ นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ 

อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 31.6 
อันดับ 2 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 22.4 
และอันดับ 3 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 8.8 ตามลำดับ 

ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 32.9 
อันดับ 2 นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 15.0 
และอันดับ 3 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 5.1 ตามลำดับ

สำหรับผลงานของรัฐบาลที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 โครงการคนละครึ่ง ร้อยละ 50.4 
อันดับ 2 เพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้อยละ 12.6 
และอันดับ 3 โครงการประกันรายได้เกษตรกร ร้อยละ 11.4 ตามลำดับ 

ส่วนพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก พบว่า 
อันดับ 1 ยังคงเป็น พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 30.3 
อันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 23.9 
และอันดับ 3 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 17.4 ตามลำดับ 

ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่น่าประทับใจ และพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 41.6 
อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 32.5 
และอันดับ 3 พรรคเสรีรวมไทย ได้ร้อยละ 11.3 ตามลำดับ

‘ธรรมนัส’ แจงแล้ว!! หลังสื่อลือสะพัด ขอ ‘มท.1’ ให้ ‘ลุงป้อม’ แลกหนุน รบ.

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า ตามที่มีข่าวจากสำนักข่าวบางสำนัก เผยแพร่ข่าวว่าผมและกลุ่มพี่น้อง ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ได้มีการประชุมกันที่ภูเก็ตและได้มีมติว่า “ทางพรรคจะร่วมรัฐบาลโดยขอต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ”

“บิ๊กตู่” ยันยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่คิดสังกัดพรรคไหน ขอบคุณทุกพรรคที่สนับสนุน ชี้เป็นเรื่องต้องตัดสินใจเองเมื่อการเลือกตั้งมาถึง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบหมาย โดยเมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงว่ามีการพูดคุยกันแล้วและถือเป็นคำตอบของนายกรัฐมนตรีเองใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรียังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เนื่องจากเป็นพรรคที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ นักบริหารมืออาชีพ ตัวจริงข้างรัฐบาลลุงตู่

นับตั้งแต่การก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐเมื่อปลายปี 2561 จนถึงวันนี้ ตัวละครในพรรคพลังประชารัฐเปลี่ยนโฉมหน้าไปหลายคำรบ ตั้งแต่ผู้บริหารพรรคยันไปจนถึง ส.ส. เหตุเพราะตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ ต้องเผชิญกับปัญหาภายในพรรคมาอย่างต่อเนื่อง 

แน่นอนว่า หนึ่งในภาพใหญ่ที่คอการเมืองคงจำได้ดี นั่นคือ กลุ่ม ‘4 กุมาร’ ภายใต้การนำของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ กลุ่ม อดีต กปปส. ที่ต้องคำพิพากษา จนต้องตัดสินใจหันหลัง ออกจากพรรคไป ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ตั้งพรรคมากับมือ แต่สัมพันธภาพของ 4 กุมาร และ ‘สุริยะ’ ก็ไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงเหนียวแน่น เป็นการออกกันไปเองของ 4 กุมาร และตอนนี้ก็มีพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว

อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของเหล่าคีย์แมนหลักอย่าง ‘นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รมว.อุตสาหกรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดูจะไม่ได้กระเทือนอย่างที่ใครคาดคิด เพียงแต่ดุลอำนาจจากกลุ่มสามมิตรที่เสียไป อาจจะสั่นคลอนไปบ้าง สังเกตได้จากกรณี นายอนุชา นาคาศัย ถูก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กระชากเก้าอี้ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปแบบต่อหน้าต่อตา 

ขณะเดียวกันความขัดแย้งระหว่างสามมิตรกับธรรมนัส ที่ยังคงดูจะยังคุกรุ่นต่อเนื่อง จนถึงขั้นมีข่าวลือหนาหูว่าสามมิตร จะหวนกลับไปซบรังเก่า ‘พรรคเพื่อไทย’ พลันให้แกนหลักอย่าง ‘สุริยะ’ ต้องรีบออกมาสยบข่าวลือว่า ‘กลุ่มสามมิตรจะยังอยู่กับ พปชร. ต่อไป ไม่ย้ายซบเพื่อไทยแน่นอน’

แต่ถึงกระนั้น ภายหลังก๊วน ส.ส. กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ถูกขับออกจากพรรคเมื่อ 19 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา กูรูการเมืองต่างก็วิเคราะห์กันว่า ‘กลุ่มสามมิตร’ จะกลับมาพาวเวอร์ฟูล ในพลังประชารัฐอีกครั้ง หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันที่จะนำรัฐนาวาแห่งนี้แล่นไปถึงฝั่ง (อยู่ครบเทอม) เพราะ ส.ส.ที่อยู่ในกลุ่มนี้ราว 30 คน ล้วนเป็นฐานเสียงสำคัญที่จะช่วยประคองขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ไม่ให้หักก่อนเวลาอันควร

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การมโน เพราะหากตรวจแนวรบของสามมิตร โดยมี ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ ค้ำยันเป็นคีย์แมนหลักแล้ว ก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า โอกาสที่สถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐจะหมดสิ้น รวมไปถึงการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ น่าจะเดินหน้าไปด้วยกันได้ดี

เหตุที่กล่าวเช่นนี้ นั่นเพราะ ในยุทธจักรการเมืองไทย ‘สุริยะ’ ถือเป็น ‘นักการเมืองที่ไม่ค่อยมีภาพความขัดแย้ง’ และที่สำคัญสามารถทำงานได้กับทุกฝ่ายทุกก๊วน 

‘ชัยวุฒิ’ คลายปมแย้งบ้านใหญ่ชลบุรี เชื่อ!! ไม่กระทบ ‘พลังประชารัฐ’

18 ก.พ. 65 ที่รัฐสภา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ว่า การอภิปรายผ่านไปได้ดี เป็นโอกาสดีที่ได้ชี้แจงกับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีตอบคำถามได้ทุกเรื่อง ทั้งปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านร้องเรียนรัฐบาลก็ได้นำไปแก้ไข เพื่อดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ซึ่งถือว่าช่วยกันทำงาน

ส่วนปัญหาบ้านใหญ่ชลบุรี ระหว่างนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มองว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมือง และมองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดการแข่งกัน จะได้ช่วยกันพัฒนาจังหวัดให้ดียิ่งขึ้น

ไม่ได้โม้!! เปิดใจ 'สมรักษ์' ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พปชร. ใต้บริบทของ ส.ส. ที่ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

เป็นอีกความฮือฮา เมื่อวีรบุรุษนักชกเหรียญทองโอลิมปิก 1996 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา อย่าง 'นาวาตรี สมรักษ์ คำสิงห์' ได้เปิดตัวเป็น ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 10 จังหวัดขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ 

แน่นอนว่าการเปิดตัวครั้งนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายแง่มุมในโลกโซเชียล

อย่างไรก็ตาม สมรักษ์ คำสิงห์ ก็ได้คลายปมเหตุของการลงเล่นการเมืองไว้กับช่องยูทูบ 'มอสทะเล Mos Tha-lay Channel' ระบุว่า...

>> การเมือง...อีกเรื่องที่อยากทำ!!
จริงๆ แล้ว ผมคิดจะเล่นการเมืองตั้งแต่ปี 54 แล้ว แต่ตอนนั้นชีวิตส่วนตัวไม่ยังเข้าที่เข้าทาง จึงต้องพักไปก่อน แล้วตอนนี้มีโอกาสแล้ว จึงตัดสินใจลงเล่นการเมือง เพียงแต่ครอบครัวก็ยังไม่เห็นเท่าไร

>> พรรคไหนไม่สำคัญ!! ขอแค่ให้โอกาสไปทำงานพัฒนาท้องถิ่นเป็นพอ!!
ส่วนตัวมองว่าถ้าพรรคไหนเห็นความสำคัญของเรา เห็นว่าเราเป็นตัวแทนหมู่บ้านได้ ไปพัฒนาท้องถิ่นได้ เราก็น่าจะไปนะ เพราะจริงๆ แล้ว ส.ส.คือตัวแทนของเขต ไม่ว่าใครก็เป็นส.ส.ได้ ขอแค่ประชาชนเลือกเข้าไป 

>> จุดประกาย!! ถวายตัวเองเพื่อพัฒนาบ้านเกิดก่อน!!
ตั้งแต่เกิดมาก็เจอบรรยากาศการเลือกตั้งมาเยอะ เจอ ส.ส.บ้านเรามาเยอะ ก็มีความคิดว่า...พอมีโอกาสก็อยากรับใช้บ้านเกิด อยากพัฒนาบ้านเกิด เลิกทำอาชีพนักมวยแล้ว แก่ตัวมาแล้ว ก็อยากสละตัวเองมาพัฒนาบ้านเกิด

>> สั่งสมประสบการณ์!!
หลายคนบอกว่าผมพูดไม่ชัด แต่ประสบการณ์ผมเยอะนะ หลายคนไม่รู้ว่าผมเป็นวิทยากรมาเยอะ ทั้งหน่วยงานราชการและในสถานกักกันนักโทษ

>> เจอได้ 24 ชม. ไม่ได้โม้!!
ผมสัมผัสพื้นที่ในจังหวัดขอนแก่นมานาน ชาวบ้านก็เล่าให้ฟังเวลามาแวะเวียนเข้าไปหา ซึ่งผมก็ถามว่าทำไมไม่ไปหา ส.ส. คำตอบที่ชาวบ้านบอก คือ ส่วนมากพอได้ตำแหน่งแล้วก็หาตัวไม่เจอ ฉะนั้นผมจึงบอกอย่างแน่วแน่เลยว่า...กับผมเนี่ย เจอได้ตลอด 24 ชม. และถ้าโทรมาผมก็จะรับทุกสายเลย

‘ทิพานัน’ ยกคังคุไบ สวน ‘ทักษิณ’ เรื่องความซื่อสัตย์ ชี้ แค่ความซื่อตรงยังไม่มี อย่าริสอนจริยธรรมคนอื่น

‘ทิพานัน’ ยก ‘คังคุไบ’ ตอกกลับ ‘ทักษิณ’ เรื่องความซื่อสัตย์ จากโสเภณีกลายเป็นนายกกามธิปุระ ส่วน ‘นายกฯ ทักษิน’ กลายเป็น นักโทษหนีอยู่คดีอยู่ดูไบ’ เพราะโกง แนะถอดบทเรียนด่วน กระซิบรีบกลับไทยมารับโทษ ก่อนสอนจริยธรรมคนอื่น

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรียกข้อคิดจากภาพยนตร์อินเดีย ‘คังคุไบ’ สอนการเป็นผู้นำต้องเห็นใจ และเคารพคนอื่นว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนอกจากจะให้ความบันเทิง ยังให้ข้อคิดในหลากหลายมุมมาก หนึ่งในข้อคิดที่อยากจะชวนท่านอดีตนายกรัฐมนตรีได้ขบคิดไปพร้อมๆกันก็คือ  Be Honest ความซื่อสัตย์และจริงใจจะทำให้คุณเป็นคนที่ดีกว่าเดิม  ในประโยคที่คังคุไบพูดในภาพยนตร์ว่า ‘..คนจะคิดว่าเราไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่เป็นไร แต่จงทำงานสกปรกด้วยความซื่อสัตย์ด้วยความจริงใจอย่างที่สุด…’ ซึ่งถ้าเปรียบประโยคนี้ กับสุภาษิตของไทย ใกล้เคียงกับสุภาษิตที่ว่า ‘ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน’ แล้วทำไมคังคุไบถึงพูดเช่นนี้ ถึงแม้ว่าใครจะไม่เห็นว่าเธอซื่อตรงกับตัวเองและเต็มที่กับงานแค่ไหน ถึงแม้ว่างานของเธอจะไม่ถูกยอมรับในสังคมแค่ไหน  แต่คนที่จะเห็นและรับรู้ได้ก็คือตัวเธอของคังคุไบเอง และเธอคนที่จะเห็นจุดอ่อน-จุดแข็ง เปลี่ยนความกลัวและข้อบกพร่องทั้งหมดจนพัฒนาให้เป็นความกล้าและพลังเพื่อให้เป็นเธอในเวอร์ชันที่ดีขึ้นๆ ได้ จนเปลี่ยนจาก ‘โสเภณี’ กลายเป็น ‘นายกของกามธิปุระ’ ได้ในที่สุด
 

'ทิพานัน' นำร่องพาวัยเก๋า 'เดิน ล่อง ท่องคลอง ณ จอมทอง' โชว์ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ฝั่งธน ต่อยอดและสร้างรายได้ให้ชุมชน ดัน 'ตะลิงปลิงแช่อิ่ม' เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของดีกระตุ้นเศรษฐกิจเขตจอมทอง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนได้จัดโครงการ 'เดิน ล่อง ท่องคลอง ณ จอมทอง' เพื่อให้ชุมชนตระหนักและมีส่วนรวมในการอนุรักษ์คลองธรรมชาติ ภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม การเกษตรและวิถีชีวิตของชุมชนริมคลอง พัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในเชิงสร้างสรรค์ สร้างโอกาสและต่อยอดรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในชุมชน เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 

โดยกลุ่มเป้าหมายโครงการนี้ ได้นำผู้สูงอายุ วัยเก๋า! เข้าร่วมโครงการเนื่องจาก สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเพื่อเป็นไอเดียให้กับลูกหลานพาคุณพ่อ คุณแม่ ปู่ย่า ตายายในครอบครัวมาเที่ยวในกรุงเทพฯ แบบวันเดย์ทริป หรือวันเดียวจบ ซึ่งผู้สูงอายุจะได้ความเพลิดเพลิน และไม่เหนื่อยกับการเดินทางมากเกินไป ที่สำคัญผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีศักยภาพในการใช้จ่าย

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยทริปนี้ได้พาคณะล่องเรือจากวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร (จอมทอง) เข้าชมวัดนางชี ซึ่งมีงานศิลปะการประดับมุกบนบานประตู หน้าต่างของญี่ปุ่นแบบนางาซากิ ผ่านวัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คย่านฝั่งธนบุรี  ชม 'พระพุทธธรรมกายเทพมงคล' พระองค์ใหญ่สูงเท่าตึก 20 ชั้นจากมุมมองที่สวยที่สุด จากนั้นมนัสการพระประธานปางทรงเครื่องจักรพรรดิราชวัดนางนองราชวรวิหาร  หรือ พระพุทธมหาจักรพรรดิ แวะรับประทานอาหารกลางวันภูมิใจการ์เด้น สวนลิ้นจี่โบราณอายุกว่า 100 ปี ริมคลองบางขุนเทียน จากนั้นเดินทางกลับวัดราลโอรสารามราชวรวิหาร 

"ในการมาครั้งนี้ ได้มีสินค้าชุมชนมาออกร้านขาย ที่พร้อมผลักดันเป็นของอร่อยย่านจอมทอง เป็นสินค้าของท้องถิ่นที่จะเตรียมผลักดัน ให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของเขตจอมทอง คือ 'ตะลิงปลิงแช่อิ่ม' ให้เป็นเมนูยอดนิยม สูตรพิเศษที่เฉพาะเขตจอมทองเท่านั้น   เรียกว่าอิ่มบุญ อิ่มอร่อยและสุขใจสำหรับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี" น.ส. ทิพานัน กล่าว 

‘รมว.ชัยวุฒิ’ เปิดโครงการ ‘ยุวโฆษก by ดร.ส้ม พัชรินทร์’ ปั้นนักสื่อสารเชิงสร้างสรรค์-สานฝันเป็นโฆษก

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2565 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ยุวโฆษก by ดร.ส้ม พัชรินทร์” ที่ดำเนินการโดย ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมกล่าวเปิดงาน มอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตรแก่คณะผู้บริหารโรงเรียนและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ  พร้อมด้วยตัวแทนยุวโฆษกร่วมสัมภาษณ์นายชัยวุฒิ ถึงแนวทางการรับมือกับข่าวปลอมและภัยจากสื่อออนไลน์  โดยมีนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส. หัวหน้าภาค กทม. และส.ส.เขตบางพลัด – บางกอกน้อย ร่วมงานเปิดโครงการ

นายชัยวุฒิกล่าวว่า โครงการยุวโฆษก ที่พปชร.จัดขึ้น โดย ภาคกทม. ที่มีส.ส.พัชรินทร์ เป็นผู้ริเริ่มโครงการ มีเป้าหมาย เพื่อให้ความรู้เยาวชน และนักเรียน สามารถจับประเด็น การพูดคุย บทสนทนา นำไปสู่แนวทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เยาวชนเป็นนักสื่อสารที่ดี สามารถสร้างความเข้าใจสู่สาธารณะได้อย่างมีประสิทธิผล เป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญ เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต ครั้งนี้ถือเป็นโครงการนำร่องที่จะขยายไปสู่กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในมิติต่างๆ  ส่งเสริมองค์ความรู้ขั้นพื้นฐานที่สำคัญนอกเหนือจากการเรียนในหลักสูตร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top