'ซูเปอร์โพล' เผยผลสำรวจนักการเมืองน่าประทับใจที่สุดแห่งปี 2564 ฝั่งรัฐบาล 'บิ๊กตู่-จุรินทร์' ฝ่ายค้าน 'พิธา-สุทิน'

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 64 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ที่สุดแห่งปี 2564 ด้านการเมืองภาพใหญ่ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,086 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-17 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ที่สุดแห่งปี 2564 ด้านการเมืองภาพใหญ่ ผลสำรวจพบ นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ 

อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 31.6 
อันดับ 2 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 22.4 
และอันดับ 3 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 8.8 ตามลำดับ 

ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 32.9 
อันดับ 2 นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 15.0 
และอันดับ 3 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 5.1 ตามลำดับ

สำหรับผลงานของรัฐบาลที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 โครงการคนละครึ่ง ร้อยละ 50.4 
อันดับ 2 เพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้อยละ 12.6 
และอันดับ 3 โครงการประกันรายได้เกษตรกร ร้อยละ 11.4 ตามลำดับ 

ส่วนพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก พบว่า 
อันดับ 1 ยังคงเป็น พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 30.3 
อันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 23.9 
และอันดับ 3 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 17.4 ตามลำดับ 

ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่น่าประทับใจ และพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 41.6 
อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 32.5 
และอันดับ 3 พรรคเสรีรวมไทย ได้ร้อยละ 11.3 ตามลำดับ

ที่น่าสนใจ คือ ประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทในภูมิภาค และเป็นที่พอใจของคนไทย แห่งปี 2564 ได้แก่ 

อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา อยู่ที่ร้อยละ 39.4 เพราะมีความเป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ โดยยอมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ส่งผลให้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่ล้ำสมัย แถมยังช่วยเหลือเรื่องวัคซีน และยังมีความโดดเด่นเรื่องการศึกษาและเทคโนโลยี 

อันดับ 2 จีน อยู่ที่ร้อยละ 27.1 เพราะช่วยเรื่องวัคซีน เข้าใจวัฒนธรรมไทย เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เด่นเรื่องการค้าขายและเทคโนโลยี เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี ช่วยเหลือคนไทยอย่างจริงจัง 

อันดับ 3 อังกฤษ อยู่ที่ร้อยละ 13.6 เพราะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว มีความเจริญ และมีระบบการศึกษาที่ดี 

อันดับ 4 เยอรมัน อยู่ที่ 8.9 เพราะมีความเจริญ คนในชาติมีวินัย และโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยียานยนต์ แถมยังเป็นมหาอำนาจด้านอุตสาหกรรม 

และอันดับ 5 ญี่ปุ่น อยู่ที่ร้อยละ 7.1 เพราะคนญี่ปุ่นมีวินัย ส่งผลให้ประเทศเจริญก้าวหน้า มีความสงบเรียบร้อย เสียสละ แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และมีความเป็นมิตร

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลการศึกษาในครั้งนี้ พบอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนที่แสดงออกผ่านตัวเลขสถิติว่า ประชาชนคนไทยเข้าใจเรื่องบทบาทการเมืองภาพใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงระหว่างบทบาทมหาอำนาจทั้ง 2 ขั้วกับพรรคการเมือง และนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน โดยรับรู้ถึงผลงานของรัฐบาล และพรรคการเมืองซึ่งเป็นที่พอใจที่สุดแห่งปี 2564 เมื่อพิจารณาบทบาทของการแสดงออกทางการเมืองของตัวละครนักการเมืองจะพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงมีฐานสนับสนุน หรือแฟนพันธุ์แท้อยู่ถึง 1 ใน 3 ซึ่งถือเป็นทุนทางการเมือง เช่นเดียวกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้ฐานสนับสนุนไม่แตกต่างกัน ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน กลับเป็นของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจและพอใจในบทบาทที่เป็นอยู่ขณะนี้ ทั้งในบทบาทของฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน

ที่น่าพิจารณา คือ ประเทศมหาอำนาจ ยังมีบทบาทต่อการเมืองในประเทศ และอารมณ์ของประชาชนในภาพรวม โดยระดับความพอใจและไม่พอใจขึ้นกับบทบาท ท่าที นโยบาย และผลประโยชน์ที่แต่ละประเทศเคลื่อนไหวผ่านการผลักดัน ทั้งพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง กลุ่มธุรกิจ และองค์กรที่จัดตั้งขึ้น หรือแม้กระทั่งนักวิชาการและสถาบันการศึกษา จึงเป็นเรื่องที่เราต้องตระหนัก ตื่นรู้ และเท่าทันต่อเครือข่ายความเคลื่อนไหวดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกันเอง และถูกใช้ให้เป็นหมากตัวหนึ่งในการเดินเกม


ที่มา : https://www.posttoday.com/politic/news/670916