Sunday, 5 May 2024
พรรคชาติพัฒนากล้า

‘อรรถวิชช์’ ซัด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ - ประยุทธ์ ต้นตอทำค่าไฟแพง เอื้อเอกชนผลิตไฟฟ้าเกินจำเป็น 

‘อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี’ ซัด 2 รัฐบาล ทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลประยุทธ์ ต้นตอทำค่าไฟแพง หลังให้เอกชนผลิตไฟฟ้าสำรองเกินจำเป็น ลั่นหากได้เป็นรัฐบาล พร้อมผุดกองทุนโซลารูฟท็อป ให้ชาวบ้านผลิตไฟใช้พร้อมขายให้รัฐได้ด้วย

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวบนเวทีดีเบตอนาคตประเทศไทย ที่เวทีเกาะกลางอุทยานสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เวทีส่งท้ายนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองระดับภูมิภาค ภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 66 ซึ่งเป็นเวทีดีเบตภาคเหนือกับนโยบายที่กินได้ว่า

นโยบายสำคัญที่ต้องเร่งจัดการที่สุดตอนนี้คือ นโยบายด้านพลังงาน เพราะเป็นต้นตอที่ทำให้ของแพง แต่การจัดการกับนโยบายพลังงาน เป็นเรื่องยาก เนื่องจากทุนพลังงานใหญ่มา และพรรคการเมืองหลายพรรคให้ความเกรงใจไม่กล้าจัดการ และสาเหตุที่ประเทศไทยมีค่าไฟแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเราตั้งสำรองไฟเกิน 

ขณะที่การตั้งสำรองไฟเกินเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องย้อนไป สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไปดูว่าใครเป็นคนเซ็นสัญญา 5000 เมกะวัตต์ และคนที่สองที่ทำให้การตั้งสำรองเกินก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะค่าไฟ เวลาราคาขยับไป เรานึกไปถึงว่า ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ไป 5 พันเมกะวัตต์ ซึ่งถือว่าเกินมากแล้ว ตั้งสำรองเยอะแล้ว แต่ปรากฎว่าก่อนจะยุบสภาฯ รัฐบาลประยุทธ์ เพิ่งจะอนุมัติซื้อไฟเพิ่มไปอีก 2 ที่ ให้กับบริษัทใหญ่ จากเขื่อนแม่โขง 1 แห่ง และบริษัทพลังงานทางเลือกอีก 1 แห่ง เติมเข้าไปอีก

‘กรณ์’ ซัด!! ลดค่าไฟแค่ 2 สตางค์ น้อยจนน่าเกลียด ชี้!! ต้องยกเลิกค่าเอฟที 3 เดือนสุดร้อนเพื่อประชาชน

หัวหน้า ชพก. จวก ลดค่าไฟแค่ 2 สตางค์ อย่าอ้างว่าช่วย ยันต้องยกเลิกค่าเอฟที 3 เดือนสุดร้อน เพื่อประชาชน อีกแก้ปัญหาแบบขอไปที ลั่นต้องเลือกพรรคชนกับทุนผูกขาด

(23 เม.ย.66) จากกรณีมีข่าวว่า คณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) มีมติเห็นชอบตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าวงเงิน 130,000 ล้านบาท แทนประชาชนจาก 5 งวด ที่มีการเรียกเก็บค่าเอฟทีทุก 4 เดือน หรือ 20 เดือน จากงวดละ 27,000 ล้านบาท เป็น 6 งวด หรือ 24 เดือน เป็นเหลือเพียงงวดละ 22,000 ล้านบาท จึงทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่ 2 ของปีนี้ (พ.ค.- ส.ค.) ลดลง 7 สตางค์ ต่อหน่วย จากเดิมที่ประกาศจัดเก็บ 4.77 บาท เหลือเพียง 4.70 บาทต่อหน่วย

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า จากกระแสค่าไฟแพงที่ตนออกมาเรียกร้องเมื่อเดือนมีนาคม จนตอนนี้ปัญหาค่าไฟแพง กลายเป็นประเด็นรุนแรงทั่วโซเชียล จนคณะนุกรรมการเอฟทีชงบอร์ด กกพ. ให้ลดค่าไฟ แต่ตัวเลขที่ลดมันน้อยจนน่าเกลียด

‘กรณ์’ ลุยหาเสียงสงขลา ยกกรณีลดค่าไฟ 2 สตางค์ ช่วยปชช. ไม่ได้ ชี้!! เลือก ‘ชพก.’ การเมืองเปลี่ยน ยัน!! ต้องยกเลิกเก็บเอฟที

สงขลาแตก พ่อค้าประชาชน แห่ต้อนรับ กรณ์- จูรี และ 4 ผู้สมัคร ส.ส. เชียร์สุดใจให้ได้เป็นผู้แทน ชื่นชมนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ต่อชีวิตคนตัวเล็ก ‘กรณ์’ สวน มติ กกพ.ลดค่าไฟ 2 สตางค์ ลดให้ประชาชนด่า ยันต้องยกเลิกเก็บเอฟที ช่วยประชาชนได้จริง 

(24 เมษายน) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่  จ.สงขลา หาเสียงช่วย 2 สมัคร ส.ส. สงขลา นายจูรี นุ่มแก้ว เขต 2 เบอร์ 8 และทนายอาร์ม นายพงศธร สุวรรณรักษา.เขต 9 เบอร์ 8 ในช่วงโค้งสุดท้าย ณ บริเวณใจกลางเมืองหาดใหญ่ และตลาดกิมหยง โดยได้พบกับพ่อค้าแม่ค้าและนักธุรกิจเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนชาวหาดใหญ่มีความคาดหวังว่าจะได้ผู้แทนหน้าใหม่ ที่เข้าใจบริบทของการค้า การลงทุนและการพัฒนาเมือง เพื่อพัฒนาหาดใหญ่เป็นเมืองการค้าที่สำคัญ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มนักธุรกิจหาดใหญ่ได้เข้ามาทักทาย นายกรณ์ และชื่นชมนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า โดยเฉพาะยกเลิกแบล็กลิสต์เพราะถือเป็นการต่อลมหายใจธุรกิจท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการหลายรายขาดสภาพคล่องหนักในช่วงโควิด รวมถึงนโยบายการลดค่าไฟ และค่าน้ำมันที่นายกรณ์ ออกมาต่อสู้เพื่อประชาชนมาโดยตลอดอีกด้วย

นายกรณ์ กล่าวถึงกรณี บอร์ด กกพ.ไฟเขียวลดค่าไฟ 7 สต. เหลือ 4.70 บาทต่อหน่วย โดยชาวบ้านได้ลดค่าไฟจากงวดแรก 2 สตางค์ ใช้ทันบิลเดือนพฤษภาคมนี้ว่า  มติในครั้งนี้เกิดจากที่พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ริเริ่มกดดันให้ลดค่าไฟ หลังทราบว่า กกพ.มีมติจะขึ้นค่าไฟในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ร้อนมาก แต่การลดค่าไฟเพียงแค่ 2 สตางค์ไม่มีผลต่อการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน  ตนได้เสนอไปแล้วว่าให้เว้นการเก็บค่าเอฟทีในช่วง 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงร้อนจัด ซึ่งกฟผ.เองก็สามารถแบกรับภาระตรงนี้ได้ไม่มีปัญหาอะไร รัฐบาลเองก็สามารถเข้าไปช่วยบริหารจัดการภาระหนี้สินของ กฟผ. ได้ แต่การประกาศลดค่าไฟเพียงแค่ 2 สตางค์ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องเผชิญกับสินค้าราคาแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น 

นายกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะต้องปรับราคาค่าไฟด้วย ทั้งการนำเข้าก๊าซ LNG ที่นำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระไฟฟ้า ก็ลดลง ค่าเงินบาทก็มีเสถียรภาพ ทำไมถึงลดค่าไฟให้กับประชาชนมากกว่านี้ไม่ได้ ขอให้คิดตามว่า ถ้าสมมุติค่าไฟ 2,500 บาท เท่ากับใช้ไฟฟ้า 500 หน่วย ลด 2 สตางค์ เท่ากับลดราคาไป 10 บาท ถามว่าทำอะไรได้ ลดให้ถูกด่าเปล่า ถ้าเทียบกับข้อเสนอของเราว่าควรงดเก็บค่าเอฟที จะสามารถประหยัดได้ถึง 500 บาทต่อเดือนมันมีผลต่อค่าครองชีพ 

‘กรณ์’ ขึ้นเวทีดีเบตสงขลา ลั่น!! ขอแก้ปัญหาทุนผูกขาด หากทำได้ ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เกิด คนไทยจะลืมตาอ้าปาก

‘กรณ์’ ขึ้นเวทีดีเบตสงขลา ลั่น!! คนไทยจะลืมตาอ้าปากได้ ต้องรื้อระบบทุนผูกขาด หยุดการเมืองสกปรก แนะปรับทัศนคติผู้นำ เปลี่ยนความไม่สงบสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ให้โอกาสประชาชนร่ำรวย เชื่อ!! ชาวสงขลาเปิดทางให้ลูกชาวบ้านเป็นผู้แทน 

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ขึ้นเวทีดีเบต ที่จังหวัดสงขลา ณ สวนสาธารณะ เมืองสงขลา โดยกล่าวว่า วันนี้ตนขอมาให้คำตอบสั้น ๆ ชัด ๆ ว่าเราจะช่วยให้พี่น้องชาวใต้และคนไทยทั้งประเทศลืมตาอ้าปากได้ ต้องรื้อระบบทุนผูกขาดที่เป็นต้นตอทำให้ประชาชนทั้งประเทศไม่สามารถที่จะแข่งขันได้ ไม่มีโอกาสที่จะก้าวหน้าในชีวิต และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สินค้า ค่าครองชีพของพี่น้องสูงขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องคนไทยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และถามว่าเรื่องทุนผูกขาดเราจะแก้ได้อย่างไรจึงจะแก้ได้ เป็นโอกาสและเป็นสิทธิของพี่น้องประชาชน ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้

‘อรรถวิชช์’ แฉ!! ไทยสำรองไฟเกือบ 60% เหตุเกรงนายทุน ชี้!! ยุคปูเกี่ยว แต่ ‘บิ๊กตู่’ ก็เอี่ยวเซ็นเพิ่มทั้งที่รู้ว่าสำรองเกิน

(27 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 6 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เดลินิวส์ ร่วมกับ คณะนิเทศศาสตร์ และสำนักกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งมีการจัดเวทีประชันนโยบายพรรคการเมืองเพื่อคนรุ่นใหม่ หัวข้อ ‘New Voter เกมอนาคตกำหนดได้’ #ReadySetGo เวทีดีเบตเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมี 9 พรรคการเมือง ส่งตัวแทนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาและคนรุ่นใหม่เข้าร่วมเวทีประชันวิสัยทัศน์

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) หนึ่งในผู้ร่วมประชันวิสัยทัศน์บนเวที ได้ตอบคำถามจากนักศึกษา ที่ถามว่า กรณีที่ค่าไฟแพง หากได้เป็นรัฐบาลจะมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาอย่างไร อีกทั้งยังมีโรงงานเอกชนจำนวนเยอะมากเกินความจำเป็น จะมีแนวทางอย่างไรบ้างนั้น โดย นายอรรถวิชช์ ตอบคำถามว่า “ค่าไฟแพง หรือค่าไฟสำรองนั้น ปกติการเก็บค่าไฟสำรองจะอยู่ที่ 15% แต่ประเทศไทยสำรองไว้เกือบ 60% และที่สำรองเกินก็เพราะเกรงกลัวนายทุน และถึงแม้จะมีการเซ็นเกินมาเยอะในสมัยคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ทราบในเรื่องนี้ว่าเกิน แต่ก็ยังมีการเซ็นเพิ่ม ถ้าน้องนักศึกษาได้รับชมมาร์เวล (Marvels) จะรู้ว่าใครคือธานอสตัวจริง”

‘ชาติพัฒนากล้า’ ร่วมหารือนักธุรกิจรุ่นใหม่ ชู ‘โคราชโนมิกส์’ หวังยกระดับโคราชและภาคอีสานสู่ระเบียงเศรษฐกิจ

(28 เม.ย. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 5 พรรคชาติพัฒนากล้า ได้พบปะกับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของโคราช เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ‘งานดี มีเงิน ของไม่แพง’ โดยเฉพาะของจังหวัดนครราชสีมา มีนโยบาย ‘โคราชโนมิกส์’ ซึ่งเป็นนโยบายเฉพาะในการพัฒนาโคราชและภาคอีสาน เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ

1.) นโยบายการสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของโคราช
2.) นโยบายการสร้างระบบคมนาคมที่เข้มแข็งและทันสมัย
3.) นโยบายการสร้างให้โคราชอีสานเป็นดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอินเตอร์
4.) นโยบายโคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารให้กับโลก
5.) นโยบายการแก้ไขปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบมาก ๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาไม่เพียงพอ หรือนโยบายโคราชเมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ

‘กรณ์’ จวก!! ‘ก.พลังงาน’ เกรงใจทุนใหญ่ ปล่อยค่าไฟแพงพุ่ง ชี้!! ทางออกคือเปลี่ยนผู้มีอำนาจในรัฐฯ ให้เป็นอิสระจากทุนผูกขาด

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมดีเบต ‘เวลาของเศรษฐกิจปากท้อง’ ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยได้หยิบยกประเด็นค่าไฟแพงมาดีเบต โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าแพง รัฐบาลแก้ได้ทันที แต่ไม่ยอมแก้ เพราะเกรงใจนายทุนใหญ่ และโครงสร้างระบบพลังงานมีปัญหา เพราะค่าไฟ สะท้อนปัญหาระบบโครงสร้างของเศรษฐกิจเรา พรรคชาติพัฒนากล้า เรียกร้องมาตั้งแต่ค่าการกลั่น ราคาน้ำมันแพงเกินจริง ถ้าแก้วันนั้นสามารถลดราคาทันที 8 บาท ก็ไม่ทำ เราเสนอให้เก็บภาษีลาภลอย ก็ไม่ทำ ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไม่ชี้แจง และไม่ยอมมาขึ้นเวทีดีเบตที่ไหนเลย ค่าไฟฟ้ามีปัญหาตั้งแต่เดือนมีนาคม ถ้าดำเนินการตอนนั้น วันนี้ก็ไม่ต้องมาเสนอ กกต.ขอใช้งบกลางเพื่อช่วยลดภาระให้กับประชาชน ซึ่งมันไม่ใช่ทางออก

นายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาค่าไฟเป็นประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังไม่ได้ตอบ คือ ค่าก๊าซที่ทาง กฟผ.ซื้อแพงกว่าปิโตรเคม เพราะต้นตอปัญหามาจากการผูกขาด ต้องมาดูว่าใครมีอำนาจขายก๊าซแต่เพียงผู้เดียว ดูว่าใครถือหุ้นใหญ่ จะได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ตรงจุด พรรคชาติพัฒนากล้าเราเสนอให้ยกเว้นค่าเอฟทีไปเลย 3 เดือน เพราะขณะนี้ต้นทุนก๊าซลดลงอย่างรวดเร็ว กำลังการผลิตในอ่าวไทยก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และตอนที่ผลิตได้ลดก็เพราะความผิดพลาดที่มีการโอนสัมปทานให้เชฟรอน ทำให้ต้องไปนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี ในช่วงที่มีราคาแพงมากเนื่องจากภาวะสงคราม มันไม่ใช่ความผิดของประชาชน แต่ถูกโยนให้แบกภาระต้นทุนค่าไฟอย่างไม่เป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่การดีเบตดำเนินการไปอย่างเข้มข้น นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โทรศัพท์เข้ามาเพื่อขอชี้แจง โดยผู้เข้าร่วมดีเบตทุกคนต้องการให้นายสุพัฒน์พงษ์ เข้ามาชี้แจงเอง แต่เจ้าตัวบอกติดภารกิจที่พรรคจึงไม่สะดวก จึงขอชี้แจงทางโทรศัพท์แทน ซี่งนายกรณ์ ได้ถามว่า ทำไมถึงเพิ่งเริ่มคิดเยียวยาค่าไฟในช่วงนี้ ซึ่งในสุพัฒน์พงษ์ กล่าวว่า ได้ดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางมาตั้งแต่ปีที่แล้ว  และที่ต้องขึ้นค่าไฟเดือนพฤษภาคม ก็เพราะกว่าจะทราบว่าต้นทุนค่าไฟเท่าไรคือวันที่ 1 เมษายน ซี่งนายกรณ์ บอกว่าตนทราบว่า กกพ.มีมติจะขึ้นค่าไฟตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะทราบเดือนเมษายน เพราะมติ กกพ.ออกมาวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา มีการอนุมัติราคาใหม่มาแล้ว พอมีการท้วงติงท่านก็ลนลานมาแก้ปัญหาลดราคาให้ประชาชน 2 สตางค์ แต่ไม่ได้มีมาตรการชดเชยเยียวยาให้กับประชาชนแต่อย่างใด 

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการลงนามในสัญญากับเอกชนผลิตไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ ในช่วงที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ซึ่งเป็นความผิดปกติ และผิดพลาด ที่ทำให้ต้นทุนค่าไฟที่เพิ่มขึ้น แล้วโยนภาระนี้ให้ประชาชนแบกมันไม่เป็นธรรม เราตกอยู่ในสภาพที่ทุนใหญ่อยู่เหนือการเมืองผูกขาดมาโดยตลอด ทางออกในเรื่องนี้ คือ ต้องเปลี่ยนผู้มีอำนาจในรัฐบาลที่เชื่อมโยงกับทุนผูกขาด เพื่อให้การเมืองเป็นอิสระจากทุนผูกขาดทุกรูปแบบ 

‘เทวัญ’ ลุยฝนช่วย ‘วิว เยาวภา’ หาเสียงที่ตลาดเช้าโคราช ชู ‘โคราชโนมิกส์’ แก้ปัญหาปากท้อง-พัฒนาอีสานสู่ระเบียง ศก.

(30 เม.ย. 66) ที่จังหวัดนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคชาติพัฒนากล้า เบอร์ 5 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย น.ส.เยาวภา บุรพลชัย หรือ ‘วิว’ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมเดินตลาดทักทายพี่น้องประชาชนที่ตลาดสุพัตตราและเดินทักทายพูดคุยกับพี่น้องประชาชน บริเวณชุมชนบ้านหนองปรือ และชุนชนบึงแสนสุข ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พูดคุยสอบถามถึง ปัญหาปากท้อง และการค้าขายในชุมชนในตลาด

พร้อมนำเสนอนโยบาย งานดี มีเงิน ของไม่แพง ค่าน้ำมัน ค่าไฟต้องถูกลง รื้อโครงสร้างพลังงาน ลดค่าการกลั่น หั่นค่า FT เร่งช่วยปัญหาปากท้องประชาชน และนำเสนอนโยบายสำหรับคนโคราชโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีนโยบายแก้ปัญหา และพัฒนาเมืองโคราช สำหรับคนโคราช โดยเฉพาะ ด้วยนโยบาย ‘โคราชโนมิกส์’ คือ

‘กรณ์’ อ้อนคนสามพราน เทคะแนนให้ ‘ดร.ระวัง’ อดีต ส.ส. 2 สมัย ขอโอกาส ‘ชพก.’ แก้วิฤกตปากท้อง มั่นใจ!! ปักธงนครปฐมทั้ง 6 เขต

(30 เม.ย. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค นายอรัญ พันธุมจินดา รองเลขาธิการพรรค ลงพื้นที่ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ผศ.ดร.ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 เบอร์ 11 จังหวัดนครปฐม หาเสียง โดยมี พ.ต.ท.บุญลือ เสริมบุญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 และ นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ร่วมให้กำลังใจและขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาลงพื้นที่เพื่อช่วย ผศ.ดร.ระวัง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 จ.นครปฐม อดีต ส.ส.สองสมัย โดยได้พบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดวัดไร่ขิง และเข้าถวายสักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิง และสิ่งศักดิ์สิทธิประจำวัด โดยนายกรณ์ บอกว่า วันนี้มีประชาชนผู้มีศรัทธาเดินทางมายังวัดไร่ขิงเป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงกับนโยบายของพรรคที่สนับสนุนเศรษฐกิจสายมู ความศรัทธา แรงบันดาลใจ ที่ทำให้เกิดความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ และสามารถกระจายรายได้ไปยังชาวบ้านในชุมชน ที่นำสินค้ามาจำหน่ายในบริเวณวัดได้ด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนพบว่า กระแสความนิยมของ ผศ.ดร.ระวัง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในฐานะที่เป็น อดีต ส.ส.2 สมัย ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาจจะเคยเห็นว่าตนลงพื้นที่กับคนรุ่นใหม่ ผู้สมัครหน้าใหม่ การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรคชาติพัฒนากล้า มีการผสมผสานของนักการเมืองที่หลากหลาย มีประสบการณ์คนละด้านมาช่วยกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า บรรยากาศเศรษฐกิจในเวลานี้ หลายคนบ่นกับตนว่าเศรษฐกิจตอนนี้ฝืดเคือง กำลังซื้อของพี่น้องประชาชนลดลง และนี่คือภาระหน้าที่สำคญของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เรามีความตั้งใจตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคว่า เรามาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  สร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน เป้าหมายของพรรค สรุปได้ 3 คำคือ ประชาชน มีงานดีทำ มีเงินในกระเป๋า และสินค้าต้องไม่แพง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องปากท้องที่ต้องเร่งแก้ไข

“การเมืองขัดแข้งกันมาเยอะ และก็ยังมีความพยายามหาเรื่องทะเลาะกันว่า ยุคนี้เป็นกันเรื่องยุคเผด็จการ หรือประชาธิปไตย แต่พรรคชาติพัฒนากล้ามองว่า เนื่องจากประชาชนทุกคน มีโอกาสไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยกติกาเดียวกัน พรรคการเมืองทุกพรรคตกลงร่วมใจเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นความเป็นประชาธิปไตยก็จะมีขึ้นโดยปริยาย แต่ประเด็นปัญหาที่แท้จริง ที่รอการแก้ไขคือ ปัญหาปากท้อง” นายกรณ์ กล่าว

‘สุวัจน์’ โชว์วิสัยทัศน์ ชู 4 จุดแข็งของโคราช ดันไทยโกอินเตอร์  นำร่อง ‘ยูเนสโกรูท’ สู่ถนนท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

‘สุวัจน์’ จับเข่าคุย โคราชท่องเที่ยวอินเตอร์ นำร่อง ‘ยูเนสโกรูท’

(2 พ.ค.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงวิสัยทัศน์กับผู้ประกอบการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโคราช ปากช่อง-สีคิ้ว-วังน้ำเขียว ว่าประเทศไทยมีความเข้มแข็งและยั่งยืนหนึ่งในด้านสินค้าเกษตรเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 2.เรื่องท่องเที่ยวอินเตอร์ 3.เมืองไทยเมืองอาหารป้อนโลก และ 4.Soft power มาสร้างพลังทางเศรษฐกิจ ทั้ง 4 เรื่องเป็นจุดแข็งของประเทศไทย 

ฉะนั้น โคราชเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ มีความสมบูรณ์ทางด้าน Soft Power ที่สามารถหยิบพวกนี้เป็นเศรษฐกิจได้หมดทั้งด้านกีฬามวย ด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรีมีเพลงโคราช อาหารเนื้อวากิว หมี่โคราช ไก่ย่าง ขนมจีน ดังนั้น การคมนาคมต้องทันสมัย มอเตอร์เวย์โคราชต้องเปิดใช้ปีนี้ รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟรางคู่โคราชต่อไปถึงหนองคายไปเวียงจันทน์ไปจีน ประเทศคู่ค้าของเรามีประชากร 1,400 ล้านคน และต่อไปรัสเซีย ตามเส้นทางสายไหมเชื่อมไปยุโรป นี่คือแนวทางในการสร้างโคราชเป็นเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์

“พัฒนาโคราชเป็นเมืองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวอินเตอร์ ยูเนสโก กําลังจะประกาศให้โคราชเป็นอุทยานธรณีโลก วันนี้เรามีเขาใหญ่เป็นมรดกโลก มีเขตพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชเป็นมรดกโลก ฉะนั้น ถ้าเดือนพฤษภาคมนี้ โคราชได้รับการรับรองให้เป็นอุทยานธรณีโลก โคราชจะเป็น 1 ใน 3 จังหวัดของโลก ที่มี Triple Crown (ทริปเปิ้ลคราวน์) มีสามมงกุฎของยูเนสโกอยู่ที่นี่ เราจะดีไซน์การเชื่อมโยงสามมงกุฎนี้ด้วย “ถนนยูเนสโกรูท” แล้วพัฒนาให้เป็นถนนท่องเที่ยวระดับโลก เป็นพื้นฐานในการสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ยิ่งใหญ่ต่อไป” นายสุวัจน์ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top