Saturday, 4 May 2024
พรรคชาติพัฒนากล้า

‘กรณ์’ ลงพื้นที่ช่วย ‘ธาม’ ขอเสียงชาวบางกะปิ ขอโอกาส ‘ชาติพัฒนากล้า’ แก้ปัญหาปากท้อง ปชช.

‘กรณ์’ ลงพื้นที่ บางกะปิ ช่วย ‘ธาม’ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ขอโอกาส ชาติพัฒนากล้าเข้าไปทำงานแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน ปลื้ม นศ.ราม เทใจสนับสนุน หลังศึกษานโยบาย จับต้องได้ ทำได้จริง  

(2 เม.ย. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่บางกะปิ เพื่อช่วยนายธาม สมุทรานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ หาเสียงพบพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ค้าย่านรามคำแหง และตลาดนัด การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มาร่วมให้กำลังใจกันอย่างอบอุ่น ประกอบด้วย นายบุญสืบ จันทร์แจ่มศรี, นายกฤษณ์ เครือเจริญพร, ร.อ.วีรพล วงษ์มะเซาะ, นางสาววิเวียน จุลมนต์ และ นางสาวริณดา คงตาละ โดยมีประชาชนให้การต้อนรับอย่างคึกคัก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินสายพบประชาชนของนายกรณ์ และ นายธาม ครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงกว่า 10 คน มาเฝ้ารอพบนายกรณ์ และทีมว่าที่ผุ้สมัคร ส.ส. เพื่อเสนอตัวช่วยเดินสายหาเสียงในเขตบางกะปิ ซึ่งเป็นเขตที่ตัวเองพำนักอาศัยและศึกษาอยู่ 

โดยนักศึกษากลุ่มดังกล่าว เปิดเผยว่า รู้จักพรรคชาติพัฒนากล้าเพราะเป็นแฟนคลับของ นายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สงขลา และโดยส่วนตัวก็ชื่นชมการทำงานของนายกรณ์ และติดตามผลงานมาโดยตลอด จึงได้ติดตามว่าใครเป็นผู้สมัครของพรรคในเขตบางกะปิ จนกระทั่งได้เจอนายธาม ได้พูดคุยจนทราบว่า นายธามเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของแนวคิด อารยสถาปัตย์ ซ่อมบ้าน เพื่อความปลอดภัยให้ผู้สูงอายุและคนพิการครอบครัวละ 50,000 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ส่วนนโยบายที่ชื่นชอบนั้นคือการยกเลิกแบล็กลิสต์ ที่จะทำให้ประชาชนขับเคลื่อนชีวิตต่อไปได้  รวมถึงนโยบายอื่น ๆ ที่เน้นการแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ซึ่งพวกตนได้ศึกษาแล้วว่า จับต้องได้ และทำได้จริง ในสถานการณ์ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนักในเวลานี้  

นายกรณ์ กล่าวว่า ดีใจที่คนรุ่นใหม่ตื่นตัวในเรื่องของการเมือง และมีการศึกษานโยบายของพรรคอย่างจริงจัง สำหรับเขตบางกะปิ ผู้สมัครของพรรคคือ นายธาม เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่อายุแค่ 28 ปี แต่มีประสบการณ์การทำงานทางด้านอสังหาริมทรัพย์และช่วยเหลือสังคมมานานหลายปี เราภาคภูมิใจในคนรุ่นใหม่ของพรรค ด้วยพรรคมีเจตนาตั้งแต่แรก ที่จะส่งเสริมและให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน 

“ผมมีความเชื่อมาตั้งแต่ตั้งพรรคว่าพรรคเราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่เพราะว่าเป็นพรรคใหม่ แต่เราต้องการคนรุ่นใหม่ มีความคิดใหม่ ๆ มาช่วยกันขับเคลื่อนและสร้างความเปลี่ยนแปลงในแนวสร้างสรรค์ให้กับประเทศด้วย ผมขอฝาก ธาม ไว้กับพี่น้องชาวบางกะปิทุกคนด้วยครับ” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว  

‘สุวัจน์-กรณ์’ ถกผู้ประกอบการภูเก็ต ชูท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ดันภูเก็ตสู่ ‘World Class City’ สร้างรายได้ให้คนทุกกลุ่ม

‘สุวัจน์-กรณ์’ ถกผู้ประกอบการภูเก็ต ดันสู่ World Class City สร้างรายได้ให้คนทุกกลุ่ม มั่นใจ 2 ผู้สมัคร ‘เทมส์–อรทัย’ ผลักดันนโยบายทำได้จริง

(6 เม.ย.66) ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า มินิ คอนเวนชั่น ฮออล์ พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 เบอร์ 7 และ น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 เบอร์1 ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนต่อแนวทางการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงจัดเวทีเพื่อแสดงนโยบายของพรรค หัวข้อ ภูเก็ตแบบไหน ได้ใจคนทั้งโลก โดยมีจูรี นุ่มแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2 เบอร์ 8 มาร่วมสร้างแรงบันดาลให้กับผู้ประกอบการในฐานะประสบความสำเร็จจากการค้าขายออนไลน์ด้วย 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศปัจจุบัน จะรอนักลงทุน หรือการลงทุนนั้นยาก เพราะภาวะไม่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก ปัญหาสงคราม ภาวะโลกร้อน และการแบ่งขั้วของประเทศต่าง ๆ ดังนั้น สิ่งที่จะฟื้นประเทศ และเศรษฐกิจได้ ตนมองว่ามีเพียงด้านการท่องเที่ยว ดังนั้นพัฒนา 1-2 ปี ให้คนรากหญ้าอยู่ได้ ต้องฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยว โดยพื้นที่ภูเก็ต การเป็นพระเอกขี่ม้าขาวได้ ต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และต้องสร้างคำขวัญให้ภูเก็ตเป็นที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนก่อนตาย ตนเชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ ปีละ 50 ล้านคน จากปัจจุบันที่มี 12 ล้านคน

นายกรณ์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้คนไทย โดยพรรคให้ความสำคัญกับการสร้างนโยบายให้ประชาชนมีรายได้ นำเสนอในรูปแบบของเศรษฐกิจ 7 เฉดสี สร้างรายได้ 5 ล้านล้านบาท ซี่งสามารถพัฒนาให้เข้ากับภูเก็ตเพื่อไปสู่ World Class ได้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การสร้างธุรกิจใหม่ให้ท้องถิ่น สร้างงานใหม่เพื่อผู้สูงอายุ ขยายวีซ่ารับนักท่องเที่ยวให้อยู่ยาว ซึ่งทุกนโยบายของเราจับต้องได้จริง นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ จ.ภูเก็ต ต้องตอบสนองต่อความต้องการของคนภูเก็ตทุกคน ไม่เฉพาะผู้ประกอบการขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยผู้สมัครของทั้งสองคน จะสามารถกรณ์พัฒนาภูเก็ต ไปสู่ World Class ได้ นอกจากนี้ยังเสริมนายสุวัจน์ว่า ภูเก็ตไม่เพียงแต่จะมาก่อนตายเท่านั้น แต่อยากให้เป็นการมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่ จ.ภูเก็ต 

‘สุวัจน์’ หวั่นปชช. รับอันตราย จากการเดินทางช่วงสงกรานต์ ย้ำ ‘ชพก.’ ดันนโยบายสร้างมอเตอร์เวย์ทั่วไทย แก้ปัญหาจราจร

สุวัจน์ เป็นห่วงความปลอดภัยช่วงหยุดยาวสงกรานต์ เน้นนโยบายสร้างมอเตอร์เวย์ทั่วไทย เร่งเปิดใช้มอเตอร์เวย์โคราช

(9 เม.ย.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ปัญหาการจราจรติดขัด ในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ที่จะมาถึงนี้ 13 - 17 เมษายน 2566 วันสงกรานต์เป็นวันที่มีความสำคัญ สำหรับคนไทยเพราะถือเป็นวันครอบครัว ประชาชนคนไทยใช้โอกาสนี้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่ออยู่กับครอบครัว และทำบุญร่วมกัน  ถือว่าเป็นโอกาสในการเติมพลังแห่งความสุขพลังของครอบครัว เมื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยพร้อมเพียงกันก็จะเกิดปัญหาความไม่สะดวกสบาย ในเรื่องการเดินทางจากปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนสายหลักต่าง ๆ คือ ถนนเพชรเกษมลงใต้ ถนนมิตรภาพไปอีสาน ถนนสุขุมวิทไปภาคตะวันออก และถนนพหลโยธินมุ่งสู่ภาคเหนือ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ สูญเสียชีวิตและผู้บาดเจ็บตลอดจนความสูญเสียทางเศรษฐกิจอีกมาก 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้จากโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจร คือ ถนนที่ไม่เพียงพอ ไฟสัญญาณ และป้ายจราจรต่าง ๆ ที่มีไม่ทั่วถึง และเกิดจากผู้ขับขี่และสภาพรถยนต์ ฉะนั้น อยากให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้จัดทำเส้นทางการจราจรบนทางสายหลักสายรอง ที่จะช่วยระบายรถให้ประชาชนได้รับทราบและวางแผนการจัดจราจรล่วงหน้า 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ควรเร่งการปรับปรุงผิวจราจร การติดตั้งป้ายจราจร สัญญาณไฟต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ขณะเดียวกันผู้ขับขี่ก็ต้องเตรียมพร้อมในการตรวจสอบสภาพรถยนต์ ยาง เบรค ทุกอย่างให้อยู่ในสภาพความพร้อม รวมทั้งการดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยง สุรา และแอลกอฮอล์ต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์เต็มที่ ก็จะช่วยกันลดอุบัติเหตุได้

นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า ได้เน้นย้ำในเรื่องของนโยบาย การแก้ไขปัญหาการจราจรและสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมให้เพียงพอ เพื่อสนับสนุนภาวะด้าน การลงทุนและการท่องเที่ยวด้วย จึงได้จัดทำนโยบายเสริมสร้างระบบการคมนาคม โดยการสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ทั่วไทย ทั่วทุกทิศ ไปยังทุกภาค เป็นระยะทางประมาณ 2,000 กิโลเมตร 

ส่องชุดนโยบายเศรษฐกิจ #ชาติพัฒนากล้า ในภาพเดียว

- เศรษฐกิจเฉดสี หารายได้เข้าประเทศ 5 ล้านล้าน
- 12 นโยบายเศรษฐกิจ หลายเรื่องรื้อโครงสร้างเพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน โดยไม่ใช้เม็ดเงินภาษีฟุ่มเฟือย

 

‘สุวัจน์-กรณ์’ นำทัพ ‘ชพก.’ ขอพรวัดบวรฯ เสริมสิริมงคล พร้อมเล่นน้ำกับปชช. อย่างใกล้ชิด เผย!! เหมือน 14 อีกครั้ง

ไพรีพินาศ! ‘สุวัจน์-กรณ์’ พาผู้สมัคร ส.ส.กทม.ขอพรวัดบวรฯ เจ้าอาวาสมอบพระไพรีพินาศ อวยพรให้ชนะทุกสิ่ง พร้อมเล่นน้ำสงกรานต์ถนนข้าวสาร ‘กรณ์’ กล่าว รู้สึกเหมือน 14 อีกครั้ง! 

 (13 เมษายน) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนายนันทพันธ์ ศุภณ์ภัทรพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 กทม. และคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เดินทางไปยังวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เพื่อเข้าสักการะพระไพรีพินาศ และสรงน้ำพระธรรมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร จากนั้นได้เดินเล่นน้ำที่ถนนข้าวสารซึ่งจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์  ก่อนที่จะร่วมขบวนตุ๊กตุ๊กทักทายพี่น้องประชาชน ตามถนนย่านเมืองเก่า  

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์ ท่านเจ้าอาวาสได้มอบพระไพรีพินาศให้กับคณะด้วย ซึ่งวันนี้มาพร้อมกับผู้สมัคร กทม.หลายท่าน ก็ขอให้ทุกคนชนะทุกสิ่ง ชนะทุกเรื่อง   

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ประเพณีสงกรานต์ ถือว่าเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของไทย ที่โลกรู้จัก ว่าเป็นวันปีใหม่ของไทย ที่มีมีความรื่นเริงสนุกสนาน ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าเองมีนโยบายที่ส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์อยู่แล้ว ก็อยากให้โลกได้รู้จักเรามากขึ้นผ่านประเพณีสำคัญ ๆ 

ข้อความส่วนหนึ่งจาก นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า

“เราไม่แก้ ม.112 แต่ไม่ได้หมายความว่าเราทำงานกับพรรคก้าวไกลไม่ได้...พรรคชาติพัฒนากล้าที่ธงที่จะเป็นพรรคซึ่งกล้าเข้าไปชนกับผู้มีอำนาจ ณ ปัจจุบันในการรื้อโครงสร้าง เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นตอ พร้อมเข้าไปสร้าง ‘โอกาสนิยม’ แบบที่ไม่ใช่ ‘ประชานิยม’ ด้วยหลักปฏิบัตินิยมผ่าน ‘ยุทธศาสตร์ 7 เฉดสี’ นำพารายได้ 5 ล้านล้านบาทเข้าประเทศ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี”

‘กรณ์’ ช่วย ‘ดร.แวววรรณ’ ลุยหาเสียงพื้นที่ คุยปัญหาปากท้องกับชาวบ้าน มั่นใจ!! นโยบายทุบโครงสร้างพลังงาน-ลดค่าครองชีพ มัดใจปชช.

‘กรณ์’ ลงพื้นที่ บางเขน จตุจักร หลักสี่ ช่วย ‘ดร.แวววรรณ’ หาเสียง มั่นใจนโยบายทุบโครงสร้างพลังงาน ลดค่าครองชีพ มัดใจประชาชนอยู่ ปลื้มกระแสตอบรับพรรคดีมาก 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า, ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และ นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ดร.แวววรรณ ก้องไตรภพ ผู้สมัคร ส.ส.เขต บางเขน จตุจักร หลักสี่ เบอร์ 3 และ ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต ประกอบด้วย นางสาววิเวียน จุลมนต์ , นายอรรถสิทธิ์ เหลืองไพบูลย์ , นายวิโรจน์ จิตรอบอารีย์ และ นายโชคภิวัสร์ เลิศสุรสีห์ ลงพื้นที่ตลาดยิ่งเจริญ

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้มาพบพี่น้องประชาชน ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องนโยบายปากท้อง ซึ่งได้กระแสตอบรับดี ยิ่งทำให้เรา มั่นใจว่าเรามาถูกทาง ประเด็นที่พี่น้องอยากให้แก้ปัญหาโดยเร่งด่วน ไม่พ้นเรื่องปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะเรื่องค่าไฟ ที่ในเดือน พ.ค. นี้ ประชาชนต้องจ่ายแพงยิ่งกว่าเดิม ทำให้ตนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลแทนที่ช่วยลดค่าไฟ แต่กลับเพิ่ม ค่าไฟภาคประชาชน แล้วไปลดค่าไฟภาคอุตสาหกรรม  

หัวหน้าชาติพัฒนากล้ากล่าวต่อว่า การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะเป็นโอกาสที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง แนวทางการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ชาติพัฒนากล้าเราชัดเจนเรื่องนี้ ส่วนนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ ได้รับความสนใจจำนวนมาก มีประชาชนส่วนน้อยมากที่จะถามถึง นโยบายลดแลกแจกแถม ส่วนใหญ่อยากเห็นนโยบายยกระดับให้ชีวิตเปลี่ยน และสร้างโอกาสให้คนทำมาหากินได้สะดวกมากขึ้น เราพร้อมรื้อโครงสร้างที่เป็นปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้า

‘กรณ์’ จี้ รัฐฯ ยกเลิกค่าเอฟที ช่วง 3 เดือนที่ร้อนที่สุดทันที ชี้ ทำได้ เพราะต้นทุนก๊าซลดลง ลั่น!! ต้องรื้อโครงสร้างอตุฯ ไฟฟ้า

(21 เม.ย. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า การแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง คือ รัฐบาลต้องยกเลิกค่าเอฟที ในช่วง 3 เดือนนี้ทันที ทำได้เลย เพราะต้นทุน กฟผ. ลดลงมากจากราคาก๊าซ LNG ที่ถูกลงมาตลอด โดยพรรคชาติพัฒนากล้าเสนอว่า ต้องรื้อโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้า เนื่องจากเวลานี้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของบ้านเราใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่เป็นฟอสซิล ในปริมาณที่สูงเกินกว่า 50% นอกจากนั้น ยังมีถ่านหิน และน้ำมัน ซึ่งมีต้นทุนราว 5 บาท ส่วนที่เป็นพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์เราใช้ไม่ถึง 10% ทั้งที่ปัจจุบันต้นทุนการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 2 บาท กลับเลือกใช้น้อยที่สุด

ต่อข้อถามที่ว่าเรื่องนี้ขัดประโยชน์ของใคร นายกรณ์ กล่าวว่า นั่นเป็นประเด็นสำคัญว่า การจะแก้ปัญหาจะต้องมีความกล้าทางการเมือง ที่จะรื้อโครงสร้างไฟฟ้า โดยต้องเปิดเสรีให้กับประชาชนมีสิทธิเป็นผู้ลงทุน ซึ่งมีความแตกต่างกับปัจจุบันคือเราไม่ต้องพึ่งทุนใหญ่กับรัฐวิสาหกิจ เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่

“วันนี้การลงทุนครั้งใหญ่ในการสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าให้ต้นทุนถูกลง คือเราต้องปลดแอกให้ประชาชนทุกคนที่มีหลังคาเรือน สามารถเข้าถึงเงินทุนที่จะเข้าถึงแผงโซล่า และให้สิทธิในการขายไฟส่วนเกินคืนให้กับรัฐ ในราคาเดียวกันกับราคาค่าไฟที่ซื้อจากรัฐฯ ซื้อ 5 บาท แต่ปัจจุบันขายคืนในราคา 2.20 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การลงทุน โดยภาคประชาชน ภาคเอกชน มันไม่เกิด” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจนในแง่ของโอกาสซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของทุนใหญ่ เราควรเปิดเสรีเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเป็นผู้ลงทุนในส่วนนี้ได้ เพราะเทคโนโลยีไปถึงจุดนั้นแล้ว แต่อุปสรรคสำคัญคือ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของนโยบาย แต่อีกส่วนคือเรื่องของแหล่งทุน เพราะฉะนั้น เราจึงเสนอแหล่งทุนเพื่อให้ ทุกครัวเรือนสามารถติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เองได้โดยปลอดดอกเบี้ย ส่วนต้นทุนคือเงินที่ต้องใช้ในการติดตั้ง สามารถผ่อนจ่ายด้วยเม็ดเงินที่ประหยัดจากค่าไฟ ซึ่งคำนวณมาแล้วไม่เกิน 5 ปี ก็คืนทุน หลังจากนั้น ประชาชนจะได้ใช้ไฟฟ้าฟรีเลย ซึ่งตรงนี้เราสามารถทำได้ทันทีหลายล้านครัวเรือน และการติดตั้งก็ใช้เวลาไม่นานด้วย

‘สุวัจน์’ ปลื้มใจ!! 2 เวทีปราศรัยสูงเนิน-ขามทะเลสอ ตอบรับดี ชูนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้อง ลั่น!! จะสู้จนตายคาบ้าน

(21 เม.ย.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นำผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครราชสีมา 16 เขตเลือกตั้ง พร้อมด้วยที่ปรึกษาพรรคฯ อาทิ นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล , นายประเสริฐ บุญชัยสุข และ “วิว” นางสาวเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรคชาติพัฒนากล้า ปู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งที่ 2 ช่วยหาเสียงให้ นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 และนายสมบัติ กาญจนวัฒนา ผู้สมัครเขต 4 เบอร์ 4 ที่บริเวณลานอเนอกประสงค์เทศบาลตำบลขามทะเลสอ อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา โดยมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน ในจำนวนนี้มีส่วนหนึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษาร่วมฟังการปราศรัยคึกคัก

นายสุวัจน์ กล่าวว่าการปราศรัยทั้งสองสนามได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 4 ทั้งอำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสออย่างล้นหลาม เดินทางมารับฟังนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า แก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน งานดี มีเงิน ของไม่แพง และวันนี้พรรคนำเสนอคนรุ่นใหม่ไฟแรงลูกหลานชาวโคราช นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ผู้สมัครส.ส.เขต 4 เบอร์ 4 มารับใช้พี่น้องประชาชน 

“พรรคชาติพัฒนากล้าอยู่กับชาวคนโคราชมากว่า 30 ปี จะสู้จนตายคาบ้าน” นายสุวัจน์ กล่าว

ในการปราศรัยครั้งนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า ชูนโยบายเพื่อปากท้องและคุณภาพชีวิต งานดี มีเงิน ของไม่แพง, นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทยทุกทิศ 2,000 กม. สะดวก ปลอดภัย ประหยัดเวลาการเดินทาง , น้ำมัน ค่าไฟ ถูกลง รื้อโครงสร้างพลังงาน ลดค่าการกลั่น หั่นค่า FT, เพิ่มนักท่องเที่ยว 80 ล้านคน สร้างรายได้ 5 ล้านล้านบาท เพิ่มวัน เพิ่มเงิน เพิ่มคน , ยกเลิกแบล็คลิสต์ , ปรับปรุงบ้านหลังละ 50,000 บาท เพื่อผู้สูงอายุ คนพิการ , ทุนธุรกิจสร้างสรรค์ ให้ทุนทำธุรกิจสูงสุด 1,000,000 บาท สร้างเด็กไทย 3 ภาษา เรียนตรง เจ้าของภาษาไทย ต่างประเทศ Coding , ลดภาษีบุคคลรายได้ไม่เกิน 40,000 บาท/เดือน ไม่ต้องเสีย , รื้อระบบราชการ 1 คำขอ จบครั้งเดียว ราชการในมือถือ, งานสูงวัย ไฟแรง 500,000 ตำแหน่ง รัฐช่วยนายจ้างออกให้ 5,000 บา/เดือน, การคมนาคมทันสมัย , เมืองท่องเที่ยวอินเตอร์ เมืองอาหารป้อนโลก โคราช-อีสานระเบียงเศรษฐกิจใหม่ เมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง น้ำประปาเพียงพอ เศรษฐกิจยุคทองของพี่น้องชาวโคราชจะกลับมา พี่น้องประชาชนชาวโคราชจะได้ลืมตาอ้าปากกันทุกคน และโครงการกองทุน 1 แสนล้านบาทติดโซลาร์เซลล์ให้เป็นธนาคารพลังงานประชาชนในด้านพลังงาน และโครงการปลดล็อคกัญชาจากเยาวชน ร่วมทั้งนำกีฬามาพัฒนาเยาวชน 


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/725955
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top