Saturday, 4 May 2024
พรรคชาติพัฒนากล้า

‘กรณ์’ แจง ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง กรณี มีภาพถ่ายคู่ รถหรูทะเบียน 151 ย้ำชัด ไม่ชอบแอบแซะ 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงเรื่องที่มีภาพถ่ายคู่กับรถหรูทะเบียน 2 ขร 151 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีคนนำไปโยงกับเรื่องทางการเมือง ซึ่งนายกรณ์ ก็ได้ชี้แจงว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่ไม่เป็นเรื่องอย่างสิ้นเชิง โดยมีใจความว่า ...

เห็นมีคนเอาภาพนี้ไปดราม่ากัน ขอชี้แจงสั้นๆ ตรงนี้ครับ
-ภาพนี้ผู้ช่วยผมถ่ายตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้ว
-เป็นวันสบายๆ ทานอาหารเช้ากัน เขาเห็นผมถือตะกร้าให้ภรรยา และบอกว่ามันเข้ากับสีเสื้อที่ใส่ก็เลยถ่ายไว้ แล้วเอาไปโพสต์ส่วนตัวของเขา
-รถคันนี้จอดอยู่ลานจอดรถ หน้าร้านคาเฟ่ จอดอยู่หลายคัน รถใครก็ไม่ทราบ (ต้องขออภัยต่อเจ้าของรถด้วยนะครับที่กลายเป็นดราม่า) วันที่โพสต์ ยังไม่มีข่าวเรื่องมาตรา 151 หรืออะไรเลย ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่เป็นเรื่องอย่างสิ้นเชิง

ขอบอกว่าผู้ช่วยผมไม่ได้มีเจตนาอันใด และเดิมทีผมเองไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามีการโพสต์รูปนี้

ส่วนตัวนั้นผมไม่ชอบการแซะอะไรไร้สาระแบบนี้ 
ส่วนในกรณีปัญหาทางกฎหมายของคุณพิธานั้น ผมรู้สึกเสียดายที่มีอุปสรรคมากมาย กีดกันความต้องการของประชาชนจำนวนหนึ่งที่จะได้นายกฯ ที่เขาเลือกมา ผมเองแสดงความเห็นไว้ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งว่าผมอยากให้การรวมตัวตั้งรัฐบาลโดยพรรคที่ 1 กับพรรคที่ 2 ประสบความสำเร็จ และความเห็นผมที่อยากให้ระบอบประชาธิปไตยของเราเดินหน้าไปอย่างราบรื่นก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้หลังจากที่แฟนคลับพรรคส้มได้กดดันให้คุณพิธากลับคำในการเชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาล พร้อมกับด่าทอ กล่าวหาผมต่างๆนานา ซึ่งผมก็ไม่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลหรือคุณพิธาแม้แต่ครั้งเดียว

ในทางตรงกันข้าม ช่วงที่ผ่านมามีคนที่ผมรู้จักมากมายที่เลือกพรรคก้าวไกล และมาบ่นกับผมว่าผิดหวังในหลายๆการแสดงออกของคนของพรรค ไปจนถึงเรื่องนโยบายที่หาเสียงไว้และส่งสัญญาณว่ายังอาจจะทำไม่ได้ ผมก็บอกให้ทุกคนใจเย็น ให้โอกาสเขาก่อน ดังนั้นผมอยากเห็นทุกท่านตั้งสติกันหน่อยครับ โอกาสมันมากับความรับผิดชอบ และเป็นดาบสองคมเสมอ

ส่วนประเด็นเรื่องกฎหมายก็เป็นเรื่องที่นักการเมืองทุกคนต้องตระหนักและให้ความสำคัญ 
ผมเองก็เคยโดนพรรคอนาคตใหม่ยื่นร้องเรียนเพื่อถอดถอนผมจากการเป็น สส. ด้วยกฎหมายเดียวกัน คือได้กล่าวหาว่าผมถือหุ้นสื่อ ทั้งๆที่หุ้นที่ผมถือนั้นคือบริษัท ‘เกษตรเข้มแข็ง’ ที่ผมและทีมตั้งขึ้นมานำร่องทำนโยบายเกษตรพรีเมียมช่วยชาวนาไทย 

ประเด็นถือหุ้นสื่อ ผม (และเพื่อนสส.อีกหลายสิบคนที่ถูกกล่าวหาโดยอนาคตใหม่) ก็ต่อสู้ทางกฎหมายและชี้แจงตามข้อเท็จจริงไป ซึ่งส่วนตัวนั้นผมมองว่ากฎหมายนี้หยุมหยิมเกินไป และส่วนตัวไม่เคยยื่นฟ้องร้องใครด้วยกฎหมายนี้ แต่ก็เคารพสิทธิของอนาคตใหม่ในวันนั้นที่จะใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

พูดไปคนเชื่อก็คงเชื่อ คนที่มีอคติก็คงเลือกที่จะไม่เชื่อ แต่ผมขอพูดแค่ว่า คนที่รู้จักผมดีจะรู้ว่า ถ้าผมจะว่าอะไรใคร ผมไม่มาแอบแซะโง่ๆ แบบนี้ครับ ผมซัดตรงๆ แน่นอน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวทิ้งท้าย

'กรณ์ จาติกวณิช' ประกาศลาออก จากการเป็น ‘หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า’

นายกรณ์ จาติกวณิช ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการลาออก จากการเป็น ‘หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า’ โดยมีใจความว่า ...
.
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมได้เข้าพบ และยื่นจดหมายถึงประธานพรรค คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เพื่อขอบคุณในความไว้วางใจที่ท่านได้มอบให้ผม พร้อมกับแจ้งลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค

ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกคะแนนเสียงที่ได้สนับสนุนแนวคิดทางการเมืองของพวกเรา ผมจะสนับสนุนนโยบายทั้งหมดที่เราได้นำเสนอในสถานะประชาชนคนหนึ่งต่อไป 

ตลอดช่วง 18 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสรับใช้ประชาชนและประเทศที่ผมรักในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งที่มาจากการเลือกตั้ง 

ผมขอขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยผมทำภารกิจนี้มานับแต่ปี 48 

บ้านเมืองเรายังมีปัญหาอีกมากมายรอการแก้ไข ผมขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนนักการเมืองจากทุกพรรค และขอให้กำลังใจเป็นพิเศษแก่นักการเมืองที่กำลังจะเริ่มทำงานในสภาเป็นครั้งแรก อย่าให้ความต้องการเอาชนะครอบงำจิตใจและการแสดงออกของท่านจนเกินไป ทำงานด้วยการสร้างพลังบวกร่วมกันในสังคมให้ได้ ผมจะคอยเป็นกำลังใจ 

ช่วงนี้ผมขอพาครอบครัวไปพักผ่อน ติดหนี้ที่บ้านไว้เยอะครับ

ขอบคุณทุก ๆ คนจากใจ
 

‘สุวัจน์’ ชี้!! ตำแหน่งผู้นําฝ่ายค้านสำคัญต่อการบริหารบ้านเมือง ย้ำ!! รัฐบาลมีเสถียรภาพ ฝ่ายค้านเข้มแข็ง ประเทศได้ประโยชน์

เมื่อไม่นานนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเคลียร์ ชัด ชัด ช่องเวิร์คพอยท์ 23 ดำเนินรายการโดย ดร.ภูวนาท คุนผลิน เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2566 โดยมีประเด็นทางการเมืองที่น่าสนใจดังนี้

ปรากฏการณ์ ‘สลายขั้ว’
นายสุวัจน์ มองว่าที่ผ่านมาการแบ่งขั้วทางการเมืองมันแรงมากในประเทศไม่ว่าจะเป็นสี หรือจะเป็นอะไร แต่ละยุคแต่ละสมัย มีการเกิดความรุนแรง มีการสูญเสียเกิดขึ้น และวันนี้เราเห็นสิ่งที่มีอุดมคติว่า ‘จบสลายขั้ว’ สารพัดสีรวมกันได้หมด เพราะการเมืองนําไปสู่การเดดล็อก ทําให้มีการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้

ฉะนั้น พรรคการเมืองที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็คือ พรรคที่เป็นแกนนําในการจัดตั้งรัฐบาล อันนี้เหมือนเป็นราคาที่ต้องสูญเสียหมายความว่าต้องพยายามคลี่คลายวิกฤติในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ยกตัวอย่าง หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนําท่านเคยบอกไว้ว่าจะไม่จับมือกับคนนั้น ไม่จับมือกับพรรคนี้ แล้ววันนี้ด้วยเหตุจําเป็นทางการเมืองว่าถ้าไม่จับมือกับพรรคนั้นพรรคนี้ พรรคแกนนําไม่สามารถจะรวบรวมเสียงที่นําไปสู่การมีนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลได้ จําเป็นจะต้องไปจับมือ

เมื่อจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ หมอชลน่าน แสดงสปิริตประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว (30 ส.ค. 66) พรรคการเมืองอาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนได้รับ คือ การกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ ประเทศชาติเดินหน้า พี่น้องประชาชนมีความสุข

นายสุวัจน์ กล่าวว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม ที่เรียกว่า ‘สลายขั้ว’ รัฐบาลผสม คือ พรรคแกนนําไม่สามารถที่จะกําหนดอะไรได้จะต้องแบ่งกระทรวงให้พรรคนั้นพรรคนี้ ไม่สามารถที่จะเป็นลีดเดอร์ชิพได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และพอแบ่งกระทรวงไปให้พรรคนั้นพรรคนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรคว่าจะไปจัดบุคคลอย่างไร มันเป็นขีดจํากัดของรัฐบาลผสม ซึ่งมันจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้เลยถ้าแลนด์สไลด์ ถ้าเกิดมีพรรคหนึ่งพรรคใดได้เกินครึ่งไปเลยไม่ต้องพึ่งพรรคอื่น แต่เมื่อเป็นรัฐบาลผสมสิ่งที่เห็น คือ เสถียรภาพ และเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคการเมืองนั้น จะลดลง

บทบาทแกนนำฝ่ายค้านสำคัญอย่างไร?
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตําแหน่งผู้นําฝ่ายค้าน เป็นตําแหน่งที่สําคัญที่กําหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่าจะต้องมีผู้นําฝ่ายค้าน และเป็นตําแหน่งโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญต้องให้ความสําคัญกับตําแหน่งผู้นําฝ่ายค้าน เพราะในการบริหารประเทศเมื่อเลือกตั้งมาแล้วก็มีรัฐบาลกับมีฝ่ายค้าน ผู้นํารัฐบาล ก็คือนายกรัฐมนตรี ผู้นําฝ่ายค้าน ก็คือ ตําแหน่งผู้นําฝ่ายค้าน

ฉะนั้น ถ้าพรรคที่ได้อันดับหนึ่งของการเป็นฝ่ายค้านไม่รับตําแหน่ง ก็ต้องไปพรรคอันดับสอง พรรคอันดับสามที่จะไปเลือกกันตามที่กําหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

แต่ศักยภาพของความเป็นผู้นําฝ่ายค้านถ้าเป็นพรรคใหญ่ก็จะมีน้ำหนัก มีศักยภาพ ถ้าพรรคเล็กเป็นผู้นําฝ่ายค้าน ศักยภาพก็น้อย

“ถ้าตําแหน่งผู้นําฝ่ายค้าน อยู่กับพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านที่มีเสียงเยอะๆ จะทําให้การทํางาน มีพลัง เป็นประโยชน์ต่อประเทศ คือ รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ประเทศได้ประโยชน์” นายสุวัจน์ กล่าว

นโยบายเร่งด่วนที่สุดของรัฐบาล
นายสุวัจน์ กล่าวว่าทําอย่างไรของไม่แพง น้ำมันจะถูกลงได้อย่างไร ไฟฟ้าจะถูกลงได้อย่างไร เพื่อทําให้ต้นเหตุของราคาสินค้าต่างๆ มีราคาลดลง และทําให้ทุกคนมีงานทํา คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทําอย่างไรนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทําอย่างไรส่งออกดีขึ้น ทําอย่างไรให้เอสเอ็มอีได้กลับมาทํางานกันอีกครั้ง ฉะนั้น ปัญหาเฉพาะหน้าของรัฐบาล คือ จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจกลับมากระเตื้อง

'สุวัจน์' ชี้!! เทกระจาดโคราช สะท้อนวิกฤตเศรษฐกิจไทย เชื่อ!! หลากนโยบายรัฐบาลชุดนี้ ช่วยประชาชนได้โดยเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 66 คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ประธานในพิธีประเพณีทิ้งทาน (ซิโกว) พร้อมพี่น้องประชาชนชาวโคราช ได้มาร่วมงานประเพณีทิ้งทาน โดยมีชาวบ้านผู้ยากไร้มารอรับการบริจาคหลายพันคน

โดย คุณสุวัจน์ กล่าวว่า...

"วันนี้ปัญหาเร่งด่วน คือ ของแพง ให้ทุกคนมีงานทํา ให้เครื่องจักรทางเศรษฐกิจกลับมาทำงานกันให้ได้อีกครั้งหนึ่ง

"ซึ่งมูลนิธิหลักเสี่ยงเซี่ยงตึ๊ง สว่างเมตตาธรรมสถาน เป็นองค์กรการกุศลได้จัดงานเทศกาลทิ้งทาน (ซิโกว) คือ ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา แล้วนำมามอบให้กับผู้ยากไร้ทุกปีแจกวันเดียว แต่ปีนี้แจกสองวันเพราะมีจำนวนผู้ยากไร้เพิ่มขึ้น สะท้อนว่าวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้คนจน ผู้ยากไร้ ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเยอะขึ้น และเป็นดัชนีชี้วัดปัญหาของประเทศชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีท่านใหม่ ที่กําลังจะแถลงนโยบาย ต้องมีแนวทางในการมาช่วยเหลือคนยากคนจน แนวทางในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายที่รัฐบาลได้จัดทําครั้งนี้ ก็มีหลายนโยบายที่จะมีส่วนในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน

"อย่างเช่น นโยบายในการพักหนี้เกษตรกร หรือพักหนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องจากโควิด หรือนโยบายในเรื่องของการแจกเงิน หนึ่งหมื่นบาท ดิจิทัลวอลเล็ต อันนี้จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจถือว่าประชาชนสามารถจะนําเงินไปจับจ่ายใช้สอยก่อให้เกิดทวีคูณในเรื่องของตัวเลขการใช้จ่ายทางด้านเศรษฐกิจ หรือนโยบายในเรื่องของการลดค่าใช้จ่าย ที่จะประกาศเร็วๆ นี้ ว่าจะลดราคาไฟฟ้า ลดราคาน้ำมัน รวมทั้งในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่องมาตรการการท่องเที่ยว และเมื่อรัฐบาลได้มีการแถลงนโยบายแล้ว จากนี้ไปคงจะเห็นมาตรการ เห็นการทํางานในการเข้าไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป"

‘สุวัจน์’ นำคณะกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า วางพวงมาลา ถวายบังคม พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 เนื่องในวันนวมินทรมหาราช

(13 ต.ค. 66) ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้นำกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า ประกอบด้วย

นายอดุลย์ เลาหพล รองหัวหน้าพรรค นาย อรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค และ นางสาวเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรค ร่วมพิธีวางพวงมาลา และ ถวายบังคม พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องใน ‘วันนวมิทรมหาราช’ 13 ตุลาคม 2566 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top