‘อรรถวิชช์’ ซัด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ - ประยุทธ์ ต้นตอทำค่าไฟแพง เอื้อเอกชนผลิตไฟฟ้าเกินจำเป็น 

‘อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี’ ซัด 2 รัฐบาล ทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลประยุทธ์ ต้นตอทำค่าไฟแพง หลังให้เอกชนผลิตไฟฟ้าสำรองเกินจำเป็น ลั่นหากได้เป็นรัฐบาล พร้อมผุดกองทุนโซลารูฟท็อป ให้ชาวบ้านผลิตไฟใช้พร้อมขายให้รัฐได้ด้วย

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวบนเวทีดีเบตอนาคตประเทศไทย ที่เวทีเกาะกลางอุทยานสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เวทีส่งท้ายนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองระดับภูมิภาค ภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 66 ซึ่งเป็นเวทีดีเบตภาคเหนือกับนโยบายที่กินได้ว่า

นโยบายสำคัญที่ต้องเร่งจัดการที่สุดตอนนี้คือ นโยบายด้านพลังงาน เพราะเป็นต้นตอที่ทำให้ของแพง แต่การจัดการกับนโยบายพลังงาน เป็นเรื่องยาก เนื่องจากทุนพลังงานใหญ่มา และพรรคการเมืองหลายพรรคให้ความเกรงใจไม่กล้าจัดการ และสาเหตุที่ประเทศไทยมีค่าไฟแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเราตั้งสำรองไฟเกิน 

ขณะที่การตั้งสำรองไฟเกินเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องย้อนไป สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไปดูว่าใครเป็นคนเซ็นสัญญา 5000 เมกะวัตต์ และคนที่สองที่ทำให้การตั้งสำรองเกินก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะค่าไฟ เวลาราคาขยับไป เรานึกไปถึงว่า ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ไป 5 พันเมกะวัตต์ ซึ่งถือว่าเกินมากแล้ว ตั้งสำรองเยอะแล้ว แต่ปรากฎว่าก่อนจะยุบสภาฯ รัฐบาลประยุทธ์ เพิ่งจะอนุมัติซื้อไฟเพิ่มไปอีก 2 ที่ ให้กับบริษัทใหญ่ จากเขื่อนแม่โขง 1 แห่ง และบริษัทพลังงานทางเลือกอีก 1 แห่ง เติมเข้าไปอีก

ทั้งนี้ ต้องถามว่า เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์อนุมัติซื้อจนสำรองเกินไปแล้ว เหตุใดรัฐบาลประยุทธ์ยังจะอนุมัติเพิ่มไปด้วย เพราะฉะนั้น ต้องบอกว่านายกฯ ทั้ง 2 ท่าน มีบทบาททำให้ค่าไฟมาถึงจุดนี้

และหากมองไปถึงวันข้างหน้า ที่จะทำให้ค่าไฟลดลงได้นั้น พรรคชาติพัฒนากล้า เรายืนยันว่าค่าเอฟที 93 สตางค์ต่อยูนิต จะลดลงทันที เพราะก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลงแล้ว กฟผ.อย่าผลักภาระให้ประชาชน สิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้า จะทำเป็นอันดับแรกนั่นก็คือโครงการกองทุนโซล่าร์รูฟท็อป โดยค่าติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาบ้าน 280,000 บาท พี่น้องประชาชนไม่จ่าย แต่จะนำเงินจากกองทุนฯ มาใช้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์ นอกจากจะสามารถใช้ไฟภายในบ้านตนเองแล้ว ยังส่งไฟไปขายให้กับภาครัฐได้ด้วย