Thursday, 25 April 2024
พรรคชาติพัฒนากล้า

'กรณ์-สุวัจน์' ผนึกกำลังเป็น “ชาติพัฒนากล้า” เติมความแข็งแกร่งเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่

ชัดเจนลงตัว!! 'กรณ์-สุวัจน์' ผนึกกำลังเป็น “ชาติพัฒนากล้า” จัดประชุมใหญ่ชื่นมื่น ลูกพรรคครบทีม เดินหน้าเติมความแข็งแกร่ง เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ 

ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคชาติพัฒนา มีวาระการเปลี่ยนชื่อพรรคเพื่อนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม หลังจากที่มีการแถลงข่าวความร่วมมือในการทำงานทางการเมือง และด้านเศรษฐกิจระหว่าง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยวันนี้ได้ชื่อพรรคใหม่ ชื่อว่า “พรรคชาติพัฒนากล้า” 

โดยนายกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมฯ ว่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนทางกฎหมายแล้วว่า ทีมผู้บริหารและผู้สมัครของพวกเราทุกคนได้ มาผนึกกำลังอยู่ร่วมกันที่ “พรรคชาติพัฒนากล้า” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

'สุวัจน์ - กรณ์' เปิดอนุสรณ์สถานรำลึก 'น้าชาติ-ป้ายพรรคฯ' ส่งสัญญาณลุยเลือกตั้ง ดันทีมศก. ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

'สุวัจน์ - กรณ์' ทำพิธีเปิดอนุสรณ์สถานรำลึก 'น้าชาติ' พร้อมเปิดป้ายพรรคชาติพัฒนากล้า ย้ำ!! ความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับชาวโคราช พร้อมเดินหน้าเลือกตั้งเดินเครื่องทีมเศรษฐกิจ ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

(12 ต.ค. 65) พรรคชาติพัฒนากล้า จัดงานพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมพิธีเปิดป้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า ที่ จ.นครราชสีมา โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค เป็นประธานในพิธี และคณะกรรมการบริหาร อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรค, นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค, ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรค ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวโคราชเข้าร่วมในพิธี เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของ พล.อ.ชาติชาย อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคนแรก

นายสุวัจน์ กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวโคราช ที่มาร่วมงานพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งย้ายมาจากสำนักงานพรรคชาติพัฒนาเดิม จ.กรุงเทพมหานคร มาไว้สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า จ.นครราชสีมา พร้อมกล่าวรำลึกถึง พล.อ.ชาติชาย ทั้งในฐานะนักการทูต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่นโยบายต่างประเทศ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การพัฒนาเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด จนทำให้ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 10 ต่อ GDP ได้รับขนานนามว่าเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเชียในยุคนั้น เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ ปราศจากความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมย้ำถึงความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับชาวโคราช ผ่านโครงการ เขตอุตสาหกรรมสุรนารี, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า, โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, สวนสัตว์นครราชสีมา

'ชาติพัฒนากล้า' เตรียมเปิดนโยบายปลายปีนี้ ชู!! 'แก้ปัญหาปากท้อง-สร้างโอกาสศก.ระยะยาว'

'ชาติพัฒนากล้า' รวมทีมร่างนโยบาย สู้ศึกเลือกตั้ง 'กรณ์' ย้ำแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อน - สร้างโอกาสระยะยาว เตรียมเปิดนโยบายภายในปลายปีนี้ มั่นใจทีมเศรษฐกิจ รวมตัวท็อปไม่แพ้พรรคอื่น

พรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค และคณะผู้บริหารพรรคพร้อมทีมนโยบาย ประชุมเตรียมความพร้อมนโยบายพรรคที่จะสื่อสารออกต่อสาธารณะ เตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

นายกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการปรับทัพพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว เรามีความตั้งใจช่วยบ้านเมือง ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย สร้างโอกาส สร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศชาติและประชาชน จึงเอาแนวความคิดทางนโนบายของทั้งสองพรรคเดิม ที่เคยมีขับเคลื่อนนโยบายไว้ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนของพรรคต่อไป โดยได้สรุปแนวทางคือ 1.) ประเด็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขโดยเร็ว เช่น ราคาน้ำมันแพง ค่าไฟแพง ปัญหาหนี้สิน และ 2.) การสร้างโอกาสระยะยาวให้กับประชาชน บนหลักการวิเคราะห์แนวโน้มโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ต้องผลักดันจุดแข็งของประเทศ เสริมสร้างให้ดีกว่าเดิม เพื่อเป็นโอกาสสร้างรายได้ โดยไม่เกินปลายปีนี้ เราจะเริ่มเปิดแนวความคิดของชาติพัฒนากล้า ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ 

"เรามีแนวความคิดดีๆ หลายเรื่อง ซึ่งต้องอาศัย ความกล้าเป็นตัวแทนของประชาชน ในการต่อสู้กับโครงสร้างหรือระบบที่เป็นตัวถ่วงโอกาสของประชาชน ต้องอาศัยพลังทางการเมือง ซึ่งเป็นสาเหตุที่เรามาจับมือกัน เพื่อมีพลังที่มากขึ้น ในการที่ปลดล็อกโครงสร้างที่ล้าหลังมานาน และปลดแอกประชาชน เพิ่มโอกาสในการหารายได้ในอนาคต" นายกรณ์ กล่าว

'กรณ์' ไม่ขัด!! ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดิน-ที่อยู่อาศัย เชื่อ!! ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้!! ทดลอง 5 ปี ไม่ดีเลิก

'อดีตรมว.คลัง' เห็นด้วย ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดินและที่อยู่อาศัยได้ ชี้!! กระตุ้นเศรษฐกิจ ทดลอง 5 ปี ไม่ดีเลิก แต่ต้องออกมาตรการภาษีอย่างรัดกุม ชี้แจงประชาชนให้คลายความกังวล  

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมหาดไทย ปลดล็อกต่างชาติ ให้สามารถซื้อบ้าน-ถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาท ว่า โดยรวมมองว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ เพราะจะเป็นจุดดึงดูดทุนจากต่างประเทศเข้าในประเทศไทย และตัวคนต่างชาติเองก็จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ดังนั้นมุมทางเศรษฐกิจ ในระยะสั้นก็จะมีเงินเข้ามาจากการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัย และในระยะยาวกว่านั้นก็มาจากการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งการใช้ทักษะ ความรู้ความสามารถของเขา มาสร้างงาน สร้างโอกาสในบ้านเราด้วย 

อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ ระบุว่า เป็นธรรมดาที่หลายคนอาจจะกังวล ในแง่ของผลข้างเคียง ว่าต่างชาติจะมาแย่งซื้อที่ซื้อบ้านจากคนไทยหรือไม่ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ ครม.ได้วางกรอบกติกา เพื่อที่จะจำกัดผลค้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น การที่ระบุว่า ต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาซื้อที่ดิน หรือที่อยู่อาศัย ต้องมีเงินลงทุนผูกพัน ในประเทศไทย อย่างน้อย 3 ปี เป็นวงเงิน 40 ล้าน ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า ตัวมูลค่าสินค้า บ้านและที่ดิน ในราคาค่อนข้างสูง จะเป็นคนละตลาดกับการซื้อขายบ้านทั่วไป 

นอกจากนี้ กฎหมายยังจำกัดพื้นที่ในการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัยเฉพาะในเขตเทศบาลเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แย่งซื้อกับชาวบ้าน เกษตรกร ที่อยู่นอกเขตเทศบาล และการที่รัฐบาลจำกัดเวลาการทบทวนใน 5 ปี ก็ชี้ให้เห็นหลักคิดในเชิงแซนด์บ๊อกซ์ คือ ทำทดลองดู เรื่องนี้พูดกันมานานมาก ถกเถียงกันมาไม่มีข้อสรุป รัฐบาลเลยให้ลองดู 5 ปี มีข้อเสียมากกว่าข้อดี ก็สามารถยกเลิกกฎหมายได้ตามความเหมาะสม ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า เป็นแนวทางที่ดี แต่ก็ต้องคอยดู จะเป็นอย่างไร 

'ชาติพัฒนากล้า' ปักหมุดชุมพร โฟกัสเมืองท่องเที่ยว พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต2

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เดินทางไปยัง จ.ชุมพร เพื่อเปิดตัวนายลิขิต ศรีชาติ ทนายความชื่อดัง อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ครอบคลุมพื้นที่ อ.ท่าแซะ และ อ.ปะทิว โดยนายกรณ์ ได้พบปะประชาชนในงานทอดกฐินวัดดอนตะเคียน อ.ปะทิว จ.ชุมพร ชาวบ้านให้การต้อนรับและได้ร่วมพูดคุยกันถึงการเพิ่มรายได้ให้กับชาวสวนผลไม้ และเกษตรกร ซึ่งนายกรณ์ได้นำเสนอวิธีการต่อยอดจากโครงการเกษตรเข้มแข็งที่ได้ช่วยพี่น้องภาคอีสานมากว่า 9 ปี โดยใช้หลัก 'เกษตรพรีเมี่ยม' เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร จนประสบความสำเร็จ   

นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปยังชุมชนธุรกิจโฮมสเตย์บ้านไม้ชายคลอง และน้องจอยดำน้ำ เพื่อร่วมพูดคุยถึงประเด็นเศรษฐกิจท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งพบว่าหลังจากเปิดประเทศเนื่องจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ชุมพรเป็นเมืองรองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซี่งนายกรณ์มองว่า สามารถเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยววิถีชุมชน ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับชาวบ้านพบว่า ชาวบ้านกว่าครึ่งในพื้นที่ อ.ปะทิว ไม่มีเอกสารสิทธิในการถือครองที่ดิน ทั้งที่อยู่อาศัยมาชั่วอายุคน ทำให้ขาดความมั่นคงในเรื่องที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน อันเกิดจากนโยบายที่ไม่เป็นธรรมของระบบราชการ

'กรณ์ - สุวัจน์' นำทัพชาติพัฒนากล้า บุกภูเก็ต เตรียมเปิดนโยบายเศรษฐกิจ – ว่าที่ผู้สมัครส.ส.

'สุวัจน์-กรณ์' นำชาติพัฒนากล้า ยกทัพใหญ่บุก 'ภูเก็ต' เตรียมเปิดนโยบายพลิกโฉมเศรษฐกิจไข่มุกอันดามัน พร้อมเปิดตัว 2 ผู้สมัคร ส.ส.   

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ในวันที่ 12 พฤศจิกายน พรรคชาติพัฒนา กล้า จะยกทีมใหญ่ ลงไป จ.ภูเก็ต อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรค พันเอกวินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ นายวรวุฒิ อุ่นใจ  นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และนายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค  

ด้านนายกรณ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ก็จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 2 คน ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ จิตอาสา มาจากสายอสังหาริมทรัพย์ และสายธนาคาร ตั้งใจทำงาน มีความรู้ความสามารถ ประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับ ตอบรับเสียงคนภูเก็ตที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

‘ชาติพัฒนากล้า’ ปลุกพลังบวกส่งต่อน้องๆ ม.สวนดุสิต ฉายภาพอนาคต ‘Soft Power’ ปลุกเศรษฐกิจสร้างสรรค์

(12 พ.ย. 65) พรรคชาติพัฒนากล้าได้โพสต์บรรยากาศและมุมมองสร้างสรรค์ของงานเสวนาแบบสบายๆ ในธีม ‘My Life / My Goal’ ซึ่งจัดขึ้นที่ ดุสิต บิสโทร ผ่านเฟซบุ๊กของพรรค ว่า...

คนรุ่นใหม่ ‘ชาติพัฒนากล้า’
ปลุกพลังบวกส่งต่อน้องๆ ม.สวนดุสิต

ผ่านงานเสวนาแบบสบายๆ ในธีม ‘My Life / My Goal’ จัดขึ้นที่ ดุสิต บิสโทร

ผ่านประเด็นดังต่อไปนี้...
1. Soft power  
2. เศรษฐกิจสายมู 
3. บ้านในฝัน 
4. จากซึมเศร้าสู่สร้างสรรค์
5. Future Learning
6. Green Eco Life

งานนี้ อีฟ วิเวียน จุลมนต์ สมาชิก #พรรคชาติพัฒนากล้า นำทีมฉายภาพอนาคตผ่าน Keywords เริ่มด้วย ‘Soft Power’ นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างไร

นุ่น ยศยา ชิยาปภารักษ์ - Yossaya Chiyapapharak : พูดถึงเศรษฐกิจสายมู ผ่านการเล่าเรื่อง How to สร้างเม็ดเงินจากมูเตลู เปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่ทำได้จริง สร้างอาชีพให้กับน้องๆทุกคน ถ้าคุณไม่ได้เป็นสายมู แต่มี Passion ทำสิ่งใดสิ่งนั้นนำมามู Market ได้

PK Pasakorn Vanasirikul พีเค พัสกร วรรณศิริกุล : สุขภาพจิต จิตที่เหนื่อยล้าของเราทุกคนในสังคมจะทำอย่างไรให้ผันไปทางเรื่องสมดุล พีเค นำเสนอมุมมองเหนือชั้นที่ทุกคนในงานต่างร้อง Wow 

ธาม สมุทรานนท์ - Tharm Smuthranond : เล่าประสบการณ์เจอผู้คนที่เคยเจอวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ต้องสูญเสียอาชีพ บ้านโดนยึด ทำให้เกิดปมในใจ ผลักดันให้ธามอยากผลักดันให้คนส่วนใหญ่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ โดยมีคุณภาพดีและราคาจับต้องได้ 

ศราพงศ์ ปรินซ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา : ฉายภาพ Future Learning เพื่อให้น้องๆ สามารถออกแบบชีวิตที่ดีด้วยตัวเอง อาชีพใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ใช่เรื่องไกลตัว โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 

อีฟ วิเวียน จุลมนต์ : ได้ชี้เป้าให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน แล้วพาชวนมองภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิด และตระหนักรู้ถึงมาตรการของโลกที่จะตอบสนองต่อภาวะโลกร้อนเพื่อให้ผู้ฟังทุกคนเตรียมมองเห็นช่องทางในการทำเงินรวมถึงการปรับตัวในการดำรงชีวิต 

'กรณ์' ถอดรหัสความสำเร็จเจ้าภาพ G20 ซูฮก ‘โจโกวี’ สุดยอดผู้นำ พาอินโดฯโดดเด่นบนเวทีโลก

‘กรณ์’ ชื่นชม โจกีวี สุดยอดผู้นำ พาอินโดนีเซีย รุ่งเรือง ยกเป็นต้นแบบบริหารประเทศ ด้าน ‘เทมส์ ไกรทัศน์’ เสนอใช้ เวทีเอเปคเปิดฤดูท่องเที่ยว วอนอย่าทำเสียบรรยากาศ  

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีต รมว.คลัง กล่าวเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 โดยหยิบยกประเด็นที่ชาวโลกกำลังให้ความสนใจต่อประเทศอินโดนีเซีย และตัวประธานาธิบดี นายโจโก วิโดโด หรือ โจโกวี ที่ชาวโลกชื่นชมมากที่สุด เนื่องจากสัปดาห์นี้อินโดนีเซีย จะเป็นเจ้าภาพประชุม G20 ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 20 ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการประชุมประจำปี บางครั้งสำคัญ บางครั้งไม่สำคัญ แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สำคัญมาก เหมือนกับเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญมาก เป็นช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งในครั้งนั้นประเทศไทยได้เข้าร่วมประชุม โดยมีประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพ และได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น และตนในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการการคลัง เข้าร่วมแสดงความเห็นว่าวิกฤตเศรษฐกิจของโลก ควรจะได้รับการแก้ไขร่วมกันอย่างไร 

“ปีนี้ โจโกวี ได้เชิญผู้นำระดับโลก ที่ทุกคนจับตา ทั้งวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ,นายวอลอดือมือร์ แซแลสกึย ประธานาธิบดียูเครน ,นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ข้าร่วมประชุมด้วย จึงเป็นการประชุมที่สำคัญ เพราะสถานการณ์โลก มันตึงเครียดมาก ชาวโลกก็จับตาว่า ทั้งหมดมาเจอกันแล้วจะออกมายังไง แต่ก็ลดดรามาไปได้ระดับหนึ่ง เมื่อปูติน กับ แซแลนสกึย ไม่มา แต่ใช้ระบบออนไลน์แทน ส่วนถ้าไบเดนประชุมกับ สีเจิ้นผิง ปฏิสัมพันธ์ออกมาดี ก็จะเป็นข่าวดี สำหรับทุก ๆ ประเทศทั่วโลก” อดีต รมว.คลัง กล่าว 

นายกรณ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ทำให้ประเทศอินโดนีเซียน่าสนใจ นอกจากจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม G20 แล้ว ประชากรของอินโดนีเซีย ยังมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจประเทศหนึ่งด้วย ดูจาก จีดีพีโตขึ้น กว่า  5% ต่อปี อัตราเงินเฟ้อ ก็ 5% กว่า ๆ เท่านั้น เมื่อเทียบกับหลายประเทศโลกอยู่ที่ 8-10% ส่งออกโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้วประมาณ 30% ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนโยบายเศรษฐกิจ ที่ชัดเจนของประธานาธิบดีโจโกวี 

อดีต รมว. คลัง กล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดี โจโกวี อดีตเคยเป็นช่างเฟอร์นิเจอร์ ก่อนจะมาเป็นผู้ว่าเมืองจากาตาร์ แล้วก็ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ตอนนี้เป็นสมัยที่สองซึ่งเป็นสมัยสุดท้ายของเขา ตลอดการบริหารงานสองสมัย ท่านมีผลงานมากมาย ทั้งตัดถนนมอเตอร์เวย์เพิ่มขึ้นให้กับอินโดนีเซียถึง 2,000 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ที่ทำไปได้แค่ประมาณ 700 กว่ากิโลเมตร และยังมีสนามบินใหม่อีก 16 แห่ง ท่าเรืออีก 18 แห่ง เขื่อนกั้นน้ำอีก 20-30 แห่ง ทั้งหมดเป็นสาเหตุทำให้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียเติบโต และไม่ใช่แค่ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานเท่านั้น อินโดนีเซีย ยังเป็นแหล่งสตาร์ทอัพที่อยู่ในสเกล ยูนิเคอร์นมากกว่า 10 ราย ซึ่งในนั้นก็คือ gojek แพลตฟอร์มที่คนไทยรู้จักดี ซึ่งผู้ก่อตั้งคือนายนาเดีย มาคาริม ได้รับการตั้งแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีศึกษาธิการและเทคโนโลยี ในวัยเพียง 38 ปีเท่านั้น การเลือกใช้คนเก่ง เป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้อินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ รมว.คลังของอินโดนีเซีย นางศรี มุลยานี อินดราวาตี ก็เป็น รมว.คลัง ที่ทั้งโลกให้การยอมรับ และเคยได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้ว และโดยส่วนตัวตนถือศักดิ์เหมือนกับพี่สาว เพราะสมัยที่ตนอยู่ในตำแหน่งรมว.คลัง ท่านก็อยู่ในตำแหน่ง รมว.คลัง เช่นกัน ได้มีโอกาสต่อสายพูดคุย และขอคำปรึกษาจากท่านหลาย ๆ เรื่อง ตลอดมา นี่คือการเมืองของอินโดนีเซีย ซึ่งนอกเหนือจากการใช้คนที่ถูกต้องแล้ว ยังเป็นการเมืองสมานฉันท์ สามารถเอาอดีตคู่แข่งที่เป็นผู้นำกองทัพ มาเป็น รมต.กลาโหมในรัฐบาลของตัวเองได้ และยังเป็นการเมืองที่ให้ความสำคัญกับเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ จะเห็นได้จากเกือบทุกบทสัมภาษณ์ ของโจโกวี จะพูดถึงความกังวลที่มีต่อพี่น้องประชาชน ทางด้านเศรฐกิจ และปากท้อง เพราะฉะนั้น เราสามารถเรียนรู้จากประเทศเพื่อนบ้านของเราได้มาก ทั้งในเรื่องของ การเมืองและเศรษฐกิจในอนาคต ว่าเราจะต้องบริหารจัดการอย่างไร เพื่อความสุขและการอยู่ดีกินดีของคนไทยเรากันเอง  

‘เทมส์ ไกรทัศน์’ วอนอย่าทำเสียบรรยากาศเอเปค ชี้ เป็นโอกาสสำคัญฟื้นท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด

นายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต  พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า วันนี้เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า เรากำลังเข้าสู่ห้วงเวลาสัปดาห์การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค #APEC2022THAILAND เป็นเวลาและโอกาสสำหรับประเทศไทยที่จะได้แสดงศักยภาพของประเทศ รวมถึงการเน้นย้ำความเป็นผู้นำโลกในเรื่องของการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองระดับสำคัญและผู้มาเยือนจากทั่วโลก 

ขณะเดียวกัน ห้วงเวลานี้ของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและโดยเฉพาะชาวภูเก็ตที่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวและบริการทั้งจังหวัดเกือบ 100% เรากำลังมีการเปิดฤดูการท่องเที่ยว ที่จะเป็น High Season แรกที่เราจะทำมาหากินกันได้อย่างเต็มที่ หลังวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 

'สุวิจน์-กรณ์' พา 'ชาติพัฒนากล้า' ลงนามถวายพระพร กรมสมเด็จพระเทพฯ ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ

วันนี้ (23 พ.ย.65) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า, นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค นายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค ร่วมถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top