‘สุวัจน์’ โชว์วิสัยทัศน์ ชู 4 จุดแข็งของโคราช ดันไทยโกอินเตอร์  นำร่อง ‘ยูเนสโกรูท’ สู่ถนนท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

‘สุวัจน์’ จับเข่าคุย โคราชท่องเที่ยวอินเตอร์ นำร่อง ‘ยูเนสโกรูท’

(2 พ.ค.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงวิสัยทัศน์กับผู้ประกอบการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโคราช ปากช่อง-สีคิ้ว-วังน้ำเขียว ว่าประเทศไทยมีความเข้มแข็งและยั่งยืนหนึ่งในด้านสินค้าเกษตรเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 2.เรื่องท่องเที่ยวอินเตอร์ 3.เมืองไทยเมืองอาหารป้อนโลก และ 4.Soft power มาสร้างพลังทางเศรษฐกิจ ทั้ง 4 เรื่องเป็นจุดแข็งของประเทศไทย 

ฉะนั้น โคราชเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ มีความสมบูรณ์ทางด้าน Soft Power ที่สามารถหยิบพวกนี้เป็นเศรษฐกิจได้หมดทั้งด้านกีฬามวย ด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรีมีเพลงโคราช อาหารเนื้อวากิว หมี่โคราช ไก่ย่าง ขนมจีน ดังนั้น การคมนาคมต้องทันสมัย มอเตอร์เวย์โคราชต้องเปิดใช้ปีนี้ รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟรางคู่โคราชต่อไปถึงหนองคายไปเวียงจันทน์ไปจีน ประเทศคู่ค้าของเรามีประชากร 1,400 ล้านคน และต่อไปรัสเซีย ตามเส้นทางสายไหมเชื่อมไปยุโรป นี่คือแนวทางในการสร้างโคราชเป็นเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์

“พัฒนาโคราชเป็นเมืองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวอินเตอร์ ยูเนสโก กําลังจะประกาศให้โคราชเป็นอุทยานธรณีโลก วันนี้เรามีเขาใหญ่เป็นมรดกโลก มีเขตพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชเป็นมรดกโลก ฉะนั้น ถ้าเดือนพฤษภาคมนี้ โคราชได้รับการรับรองให้เป็นอุทยานธรณีโลก โคราชจะเป็น 1 ใน 3 จังหวัดของโลก ที่มี Triple Crown (ทริปเปิ้ลคราวน์) มีสามมงกุฎของยูเนสโกอยู่ที่นี่ เราจะดีไซน์การเชื่อมโยงสามมงกุฎนี้ด้วย “ถนนยูเนสโกรูท” แล้วพัฒนาให้เป็นถนนท่องเที่ยวระดับโลก เป็นพื้นฐานในการสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ยิ่งใหญ่ต่อไป” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวว่า และในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ตนและเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า จะพาไปสำรวจเส้นทางยูเนสโกรูทร่วมกัน เพื่อดูความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว อาทิ วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติสองข้างทาง สินค้าพื้นบ้าน ห้องน้ำบริการ ร้านอาหาร โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของนักเที่ยว

สำหรับโปรแกรมเส้นทางนโยบาย ยูเนสโก รูท ได้แก่ เขาใหญ่-วังเขียว-ปักธงชัย-เมือง-สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เริ่มที่จุดแรกประมาณ 10.00 น. เยี่ยมชมศูนย์พิทักษ์สัตว์ป่า คลองปลากั้ง (มงกุฎ ที่1 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) จากนั้น เยี่ยมชมสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ( มงกุฎ ที่2 )ด้วยการนั่งรถ 6 ล้อเปิดประทุน ลุยป่า ดูความสมบูรณ์ ของป่าสะแกราช , เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ที่พิพิธภัณฑ์ ไม้กลายเป็นหิน (มงกุฎ ที่ 3) ต่อด้วย ไปที่วัดเขาจันทร์งาม ชมภาพเขียนสี 4,000 ปี เป็นอันจบโปรแกรม