Tuesday, 7 May 2024
ประชาธิปัตย์

'อภิสิทธิ์' ห่วง สมาชิกพรรค ปชป.ลาออก พร้อมแจงร่วมโต๊ะ 'เสี่ยหนู' ไม่มีนัยการเมือง

(29 พ.ย. 65) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ว่า ตอนนี้ทุกคนรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความชัดเจน บนเวทีทุกคนก็เห็นตรงกันว่าตอนนี้มีปัญหา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาทำไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดปัญหา แต่ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) ศาลก็จะเป็นผู้กำหนดทางออก ถ้าศาลวินิจฉัยว่ามีปัญหาและขัดกันในเรื่องของกฎหมายลูก คงต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายใหม่ แต่ถ้าชี้ว่าไม่ขัด มาตราที่มีการผูกติดกับระบบเดิมก็ไม่ต้องใช้ ค้างไว้เช่นนั้น ทั้งนี้ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรเลวร้ายถึงขั้นที่ต้องลงถนน ทุกอย่างอย่างยังคงต้องอยู่ในกติกา ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่าภายในปีหน้าต้องมีการเลือกตั้ง เพียงแต่ว่าการจัดการเลือกตั้งจะจัดให้ราบรื่นได้อย่างไร ภายใต้ข้อจำกัดที่อาจมีปัญหาในข้อกฎหมาย ที่อาจจะไม่ทันแต่เชื่อว่าจะไม่มีอะไรที่นำไปสู่ความขัดแย้งได้

'ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย' เปิดศึกนครศรีธรรมราช ฟาก 'พปชร.' หวั่น!! รทสช.แย่งแชร์ หลังบิ๊กตู่ซบ

นาทีนี้ คงต้องมาเป่านกหวีดเช็คความพร้อม สนามเลือกตั้งเมืองคอนกันสักเล็กน้อย หลังจากสนามนี้ 'ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย' พร้อมเปิดศึกกันเต็มอัตรา ส่วน พลังประชารัฐ อาจจะอ้อแอ้ เมื่อลุงตู่มาร่วมทัพรวมไทยสร้างชาติ จนทำให้พรรคคึกคักขึ้น

ย้อนความไปเมื่อพลันที่พรรคภูมิใจไทย เปิดตัว 8 ผู้สมัครนครศรีธรรมราช พร้อมประกาศลั่นพร้อมสู้ทั้ง 9 เขต หวังปักธงอย่างน้อย 3 เขต ทำให้ต้องมาเช็กสนามกันอีกรอบ เพื่อสำรวจความพร้อมของแต่ละพรรค    

เพราะนาทีนี้ "นครศรีธรรมราชไม่เงียบนะ" เป็นคำตอบยืนยันมาจาก 'แทน-ชัยชนะ เดชเดโช' ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ รองเลขาธิการพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวผู้สมัครไปแล้ว 8 เขตเช่นกัน

8 คนที่ประชาธิปัตย์ได้ตัวผู้สมัครแล้วนั้นเป็นทั้งคนหน้าเก่าและหน้าใหม่ ได้แก่…

- นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี

- นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ที่ปรึกษารมช.พาณิชย์

- น.ส.อวยพรศรี เชาวลิต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช 3 สมัย

- ว่าที่ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ อดีตรองนายกอบจ.นครศรีธรรมราช

- นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช 5 สมัย

- นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย และอดีตรมช.ศึกษาธิการ

- นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

- น.ส.ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ บุตรสาวของนายชินวรณ์ และเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

โซนหัวไทร, ชะอวด, เชียรใหญ่ ทำโพลเสร็จพบ  'ยุทธการ' ชนะ 'พงศ์สิน เสนพงศ์' น้องชายของเทพไท เสนพงษ์ โดย ยุทธการ รัตนมาศ เป็นอดีตรองนายกฯ อบจ.นครศรีธรรมราช, นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นป้ายแนะนำตัวเต็มเขตเลือกตั้งแล้ว ส่วนพงศ์สินเคยลงสมัครเมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อม เขต 3 ซึ่งก็คือพื้นที่โซนนี้แหละ แต่แพ้ให้กับอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่ง ก็จำเป็นต้องหาที่ยืนใหม่ สุดท้ายก็ไปลงที่รวมไทยสร้างชาติ

ไม่ว่าจะเป็นพงศ์สิน หรือยุทธการ ในมุมมองของ #นายหัวไทร เชื่อว่า มีฐานเสียงเดียวกัน คือโซนชะอวด ฐานเสียงโซนหัวไทรจะเบาบางทั้งคู่

"เรามีวิธีในการเรียกคะแนนจากประชาชน ขอให้สนามเลือกตั้งเปิดก่อน" เป็นคำยืนยันจาก 'ชัยชนะ'

'แทน-ชัยชนะ' ยังเชื่อมั่นอีกว่า เลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนพรรคประชาธิปัตย์จะชนะยกจังหวัด 9 ที่นั่ง ส่วน 'ภูมิใจไทย' คงสู้เต็มที่ทุกเขต แต่หากยืนอยู่บนความเป็นจริง ขอส่วนแบ่งไม่น้อยกว่า 3 เขต

การที่ภูมิใจไทย หวัง 3 เขต แปลความได้ว่าจะต้องไปแบ่งมาจากประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ เพราะภูมิใจไทยไม่มี ส.ส.นครศรีธรรมราชมาก่อน เหลืออีก 6 เขต ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐก็ต้องไปสู้ส่วนแบ่งกัน ซึ่งดูจากเนื้อผ้าแล้ว เชื่อว่าพลังประชารัฐจะได้น้อยกว่าเดิม เพราะ 'สายัณห์ ยุติธรรม' ไปกับลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชัดเจนแล้วว่า จะไปรวมไทยสร้างชาติ ก็จะเหลือ ส.ส.เก่าพลังประชารัฐที่ปักหลักสู้อยู่กับพรรคเดิม คือ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ที่จะต้องประดาบกันหนักกับ 'ราชิต สุดพุ่ม' อดีตผู้ว่าฯปัตตานี ที่ผันตัวเองมาใส่เสื้อสีฟ้าประชาธิปัตย์ ก็ไม่ใช่หมูในอวยแน่นอน

ส่วนตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย อย่าง 'ผู้การฯ ติ๊ก' ก็จะมาแย่งคะแนนไปได้ไม่น้อยกับเครือข่ายศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมะ ที่ทุกวันนี้ผู้การฯ ติ๊กนั่งเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าเบญจมะอยู่ด้วย ทราบว่า หลังจากลงคลุกพื้นที่ขยันเดินพบปะ คะแนนตีตื้นขึ้นมาไล่บี้ 'รงค์-ราชิต' แล้ว ราชิตก็พยายามตีโอมล้อม 'ป่าล้อมเมือง' เข้ามาประชิตรั้ว ดร.รงค์แล้ว อยู่ที่ว่า ดร.รงค์ยังจะลงเขตเหมือนเดิม หรือขึ้นบัญชีรายชื่อ ปัญหาของ ดร.รงค์ คือ คนใกล้ตัวลงแข่งหมด

ด้าน อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ สองปีกับการเป็นผู้แทนยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ ‘ทุกคะแนนไม่สูญเปล่า’ เครือข่ายเพื่อนฝูง-ญาติพี่น้องเยอะ ช่วยได้มาก แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยช่วยให้ชนะการเลือกตั้งกระจัดกระจายกันไปหมดแล้ว คงทำให้อาญาสิทธิ์มีปัญหาบ้าง และให้จับตาคนใกล้ตัวอย่างนายหัวอาจจะลงแข่งกับอาญาสิทธิ์ด้วย ซึ่งคงจะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะนายหัวคือผู้เกื้อหนุนอาญาสิทธิ์มาก่อน

'เจือ ราชสีห์' ซบ 'รวมไทยสร้างชาติ' บู๊เขต 1 สงขลา เผชิญหน้า 'สรรเพชญ' ลูกชาย 'นิพนธ์ บุญญามณี'

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า 'เจือ ราชสีห์' ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตัดสินใจย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากมีปัญหาพื้นที่เลือกตั้งทับซ้อนกับ 'สรรเพชญ บุญญามณี' จากพรรคประชาธิปัตย์ที่จะลงเขต 1 สงขลา ในนามพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน

กล่าวสำหรับเจือ ราชสีห์ เคยเป็น ส.ส.เขต 1 ในนามประชาธิปัตย์มา 4 สมัย แต่การเลือกตั้งครั้งปี 62 พรรคประชาธิปัตย์ส่ง 'เพชญ' ลูกชายของนิพนธ์ บุญญามณี ลงสมัครแทนตามผลโพล 'เจือ' จึงต้องไปลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อแบบ 'ไม่เต็มใจ' และผลการเลือกตั้ง 'เจือ' ก็ไม่ได้เป็น ส.ส. จนกระทั่งเพิ่งจะได้รับเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.หลังจาก ส.ส.บางคนลาออก เท่ากับว่าสมัยนี้เจือได้เป็น ส.ส.แค่ 4-5 เดือนเท่านั้น

เมื่อเขตเลือกตั้งทับซ้อนกัน และเจือยังยืนยันจะลงระบบเขต เนื่องจากบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าลำดับเกิน 20 ก็คงยากที่จะได้รับเลือกเป็นเป็น ส.ส. ซึ่งคราวที่แล้วเจืออยู่ลำดับที่ 27 ถ้ายังอยู่ลำดับเดิม หรือขยับมา 20-25 ก็เป็นลำดับที่ไม่ได้ จึงย้ายไปลงระบบเขตของพรรครวมไทยสร้างชาติ

ถ้าเป็นอย่างนี้ 'เจือ' ก็ต้องไปสู้กับ 'เพชญ' ซึ่งมีฐานะเป็นหลาน (ลูกของเพื่อน) ฤๅการเมืองก็ต้องไปว่ากันในสนามเลือกตั้ง ประชาชนจะเป็นคนติดสิน

‘จิตภัสร์’ โต้ข่าวเท็จ ถูกโยงคิดโค่น ‘จุรินทร์’ ซัด!! พวกปล่อยข่าว หยุดสร้างความแตกแยก

‘ตั๊น จิตภัสร์’ โต้ ข่าวเท็จ โยงรองเลขาฯ ปชป. คิดโค่น ‘จุรินทร์’ จี้ พวกปล่อยข่าวหยุดสร้างความแตกแยก ลั่นไม่คิดย้ายพรรค เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งกับประชาธิปัตย์

(14 ธ.ค. 65) น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีมีการระบุว่าเป็น 5 ใน 6 คน ของรองเลขาธิการพรรคฯ ร่วมก่อการเข้าชื่อเพื่อกดดันให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป. ลาออกจากตำแหน่งนั้นว่า... 

ขอปฏิเสธว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะตนไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวดำเนินการใด ๆ ในพรรค เพราะตนตระหนักดีว่าในห้วงเวลาที่เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งที่ทุกพรรคการเมืองต้องเตรียมความพร้อม ทั้งนโยบายในการรณรงค์หาเสียง และคัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อสู้ศึกการเลือกตั้ง จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาสร้างข่าว หรือสร้างความแตกแยกด้วยการตอกลิ่มเพิ่มขึ้นในพรรคที่เปรียบเสมือนบ้านของพวกเรากันเอง แต่เป็นห้วงเวลาที่พรรคต้องเป็นเอกภาพ และต้องการความสมัครสมานสามัคคีของสมาชิกพรรคทุกระดับเพื่อรวมพลังในการสู้ศึกการเลือกตั้ง

สนามเลือกตั้งสตูล 2 เก้าอี้ ส่อเค้าเดือด ประชาธิปัตย์ส่งหน้าใหม่ ‘ปลัดซอบรี-กำนันเกตุชาติ’ ลงทวงแชมป์คืนจากภูมิใจไทย

เมื่อวานเจอ ‘กำนันเกตุชาติ เกษา’ ในงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ลูกสาวพี่อ๊อดบ้านสวน ปทุมธานี ซึ่งมาจัดงานเลี้ยงย่านพระราม 9 ได้เจอกับกำนันเกตุชาติ

กล่าวสำหรับกำนันเกตุชาติ ผมไม่เคยรู้จัก หรือพบเจอมาก่อน แต่จากการบอกกล่าวทราบว่า เป็นคนกว้างขวางพอได้ ในจังหวัดสตูล

กำนันเกตุชาติเคยลงสมัครชิงเก้าอี้นายกฯ อบจ.สตูล แต่คะแนนแพ้ ‘สัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์’ นายกฯ อบจ.สตูล สมัย 2 แต่ยังมุ่งมั่นเดินหน้าทำกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด

ปัจจุบันกำนันเกตุชาติเป็นที่ปรึกษาท่านประธานรัฐสภา ‘ชวน หลีกภัย’ ทำงานใกล้ชิดท่านชวนมาตลอด เป็นกำนันมา 29 ปี

"ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สตูล เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การสนับสนุนของพี่นิพนธ์ บุญญามณี และท่านประธานชวน หลีกภัย ทั้งสองท่านเมตตา และเอ็นดูผมเหมือนลูกเหมือนหลาน ให้คำปรึกษา ชี้แนะตลอด"

กล่าวสำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 สตูล ทุกวันนี้ ‘วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์’ (โกแพ) เป็น ส.ส.อยู่ในนามพรรคภูมิใจไทย ถ้าเป็นอย่างนี้ กำนันเกตุชาติก็ต้องไปสู้กับโกแพนั้นเอง อาจจะกล่าวได้ว่า เมื่อกำนันเกตุชาติลงลุยสนามเลือกตั้ง ส.ส.และชนกับโกแพ สนามนี้ก็จะไม่ธรรมดา กระแสพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้ และทั่วประเทศกำลังดี มี ส.ส.ไหลเข้าจากแรงดูดค่อนข้างมาก แต่กำนันเกตุชาติ ได้ใช้ตำแหน่งนักปกครองช่วยเหลือประชาชนในนามส่วนตัวมามาก และยาวนาน เป็นที่รู้จักกันของพี่น้องชาวสตูล ก็พอจะฟัดเหวี่ยงกันได้

‘จุรินทร์’ ควง ‘สุทัศน์-นิพนธ์’ ออนทัวร์สกลนคร เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร มั่นใจปักธงสกลนคร ชู ‘ประกันรายได้-ดันอีสานเชื่อมไทยเชื่อมโลก ผ่านการค้า-ส่งออก’

วันนี้ 24 ธันวาคม 2565 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันนำ ‘จุรินทร์ ออนทัวร์’ เดินทางไปจังหวัดสกลนคร เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสกลนคร ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โดยมีพี่น้องชาวสกลนครมารอต้อนรับเป็นแถวยาวเพื่อผูกผ้าขาวม้าและมอบพวงมาลัยดอกไม้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการขอถ่ายรูปกับนายจุรินทร์อย่างใกล้ชิด ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จังหวัดสกลนครเคยมีผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ มาแล้วถึง 7 สมัย ดังนั้นประชาธิปัตย์กับคนสกลนครจึงมีความผูกพันกันมายาวนาน นับตั้งแต่ ‘ประชา ตงศิริ’ ส.ส.ที่ทุ่มเททำงานหนักเข้าร่วมอุดมการณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต สืบต่อด้วย ‘อนงค์ ตงศิริ’ ส.ส.หญิงคนแรกของสกลนคร และเป็น ‘หญิงเหล็ก’ ในวงการเมือง 

นอกจากนี้ยังมี ‘ทวีวัฒน์ ฤทธิฤาชัย’ ‘องุ่น สุทธิวงศ์’ ไปจนถึง ‘อภิชาติ ตีรสวัสดิชัย’ เป็นช่วงเวลาที่ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องชาวสกลนครอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และทุกคนมีบทบาทโดดเด่นในสภาอย่างน่าชื่นชมที่ล้วนเกิดจากมือของคนสกลนครที่เคยให้โอกาสประชาธิปัตย์มาในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา 

สำหรับการเลือกตั้งเที่ยวหน้า พี่น้องชาวสกลนครคงจะให้โอกาสกับประชาธิปัตย์อีกคำรบหนึ่ง หากจะถามว่าประชาธิปัตย์เอาอะไรมาขายกับคนสกลนครในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง คำตอบสั้น ๆ ก็คือ ประชาธิปัตย์ขายความเป็นประชาธิปัตย์ ขายนโยบาย ขายผลงานให้พี่น้องชาวสกลนครอยู่ดีกินดีต่อไปในอนาคต ที่สำคัญก็คือขายผู้สมัครที่ประชาธิปัตย์คัดสรรบุคคลที่มีศักยภาพและมีความรู้ความสามารถที่จะไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนคนสกลนครได้ต่อไป 

“ที่บอกว่าขายความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากความผูกพันที่ต่อเนื่องมายาวนานแล้ว ในเรื่องนโยบายและผลงานพี่น้องคงเห็นอยู่ชัดเจนว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่เข้าร่วมรัฐบาล แม้เราจะมีแค่ 52 เสียงใน 500 เสียง แต่ 3 ปีกว่าๆ จนเข้าปีที่ 4 ประชาธิปัตย์สร้างผลงานให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศมากเกินจำนวนเสียงที่ได้รับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายประกันรายได้เกษตรกร จึงเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ประชาธิปัตย์ทำมากับมือ ไม่เฉพาะกับคนภาคเหนือ คนภาคกลาง คนภาคใต้ แต่ให้กับคนอีสานเป็นการเฉพาะด้วย” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

พร้อมกับเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนั้นเรายังขับเคลื่อนการส่งออกเพื่อให้สินค้าเกษตรของพี่น้องคนภาคอีสาน คนสกลนครสามารถส่งไปขายต่างประเทศ นำเงินเข้าประเทศมาสร้างความร่ำรวยให้กับประเทศด้วย และต่อไปในอนาคต อีสานจะต้องไม่อยู่แค่ภาคการเกษตร แต่เราจะต้องทำให้อีสานลืมตาอ้าปากได้ ด้วยการทำอีสานเชื่อมประเทศ เพื่อสร้างเศรษฐกิจและทำอีสานเชื่อมโลกต่อไปในอนาคตด้วย นโยบายอีสานเชื่อมไทยอีสานเชื่อมโลก จึงเป็นการใช้การเกษตรเป็นฐาน และใช้การส่งออกเป็นการสร้างเงินให้ประเทศ รวมทั้งใช้การท่องเที่ยวสร้างเงินให้กับชาวอีสาน และต่อไปสกลนครต้องขายการท่องเที่ยวพร้อมกับซอฟท์พาวเวอร์  ที่เป็นการนำศิลปะวัฒนธรรมวิถีชีวิตของคนอีสาน และมีความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองมาขายเพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอีสาน และสกลนครต่อไป 

'จุรินทร์' ชู ยุทธศาสตร์ 3 ส. สร้าง 'เงิน คน ชาติ' สู้ศึกเลือกตั้ง ไม่ห่วงคน ปชป. ซบพรรคอื่น ความจริงแค่คนสองคน

'จุรินทร์' ชู ยุทธศาสตร์ 3 ส. สร้าง 'เงิน คน ชาติ' สู้ศึกเลือกตั้ง เน้นความเป็นสถาบันของประชาธิปัตย์ ตัวผู้สมัครและนโยบายชัด

(3 ม.ค. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ถึงความมั่นใจในเรื่องนโยบายหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ขึ้นอยู่กับ...

1. ความเป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีหลักการชัดเจนในการนำประเทศไปสู่ความสำเร็จ และสามารถแก้ปัญหาทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในอนาคตได้

2. ตัวผู้สมัคร พรรคได้เตรียมการไว้เกือบครบทั้งหมดแล้ว 

3. นโยบาย ขณะนี้ได้เริ่มเปิดแคมเปญไปแล้วผ่านการรณรงค์ทางป้ายที่ติดอยู่ทั่วประเทศ โดยมีหลักใหญ่ที่เราจะเดินหน้าไปสู่ทิศทางในการสร้างเงิน สร้างคน และสร้างชาติ ซึ่งจะมีรายละเอียดอยู่ในนั้น และจะมีการประกาศต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่าในปีใหม่นี้จะมีการเดินเกมในภาคใต้อย่างไร เพราะมีหลายพรรคตั้งความหวังที่จะชิงเก้าอี้ของประชาธิปัตย์ว่า เรื่องนี้ได้เคยตอบไปหลายรอบแล้ว ขณะนี้มีผู้สมัครครบทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วยทั้งผู้แทนราษฎรปัจจุบัน อดีตผู้แทนราษฎร และมีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมจำนวนมาก 

“เที่ยวหน้าปักษ์ใต้มี 58 ที่นั่ง คราวที่แล้วเราได้ 22 ที่นั่ง ฉะนั้นยังมีพื้นที่ที่เป็นการบ้านให้ประชาธิปัตย์ทำอีกเยอะ เกินกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะก็ได้เตรียมผู้สมัครพร้อมไว้หมดแล้ว และมีการลงพื้นที่โดยต่อเนื่องอยู่แล้ว ทั้งผู้แทนปัจจุบัน รวมทั้งผู้สมัครรุ่นใหม่ก็ลงพื้นที่ต่อเนื่องมาเป็นปีแล้ว เพราะสำหรับพื้นที่ภาคใต้นั้น ประชาธิปัตย์เตรียมพร้อมมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาเตรียมเมื่อวาน หรือเมื่อวานซืน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ปชป. กางยุทธศาสตร์ 3 ส. 'สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ' ย้ำ!! เจตนารมณ์พรรค 70 ปี มุ่งทำงานเพื่อชาติเป็นหลัก

ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ประกาศความพร้อมแบบ 'เต็มอัตราศึก' พร้อมลุยทุกสนามเลือกตั้ง ในทุกกระบวนท่า พร้อมทั้งในแง่นโยบาย ในแง่บุคลากร โดยจะส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งในทุกเขต 400 เขต และบัญชีรายชื่อ 100 คน ครบ 500 คน

การประกาศความพร้อมในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นความพยายามในการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ การคิดนโยบายใหม่ ๆ เพื่อสนองตอบต่อปัญหาของประชาชน

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ อันเป็นการ 'ปูพรม' กับการเปิดยุทธศาสตร์ 3 ส. คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ

โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง อธิบายขยายความกับเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ 3 ส. ว่า นอกจากการเตรียมผู้สมัครในแต่ละเขตแล้ว เรื่องนโยบายที่ใช้หาเสียงก็เป็นเรื่องที่พรรคให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน ซึ่งการจัดทำนโยบายของพรรคนั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในทุก ๆ ด้าน ทั้งเรื่องความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ กรอบงบประมาณที่ต้องใช้ภายใต้นโยบายที่จัดทำ ระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดต่อประชาชน และประเทศชาติ ทั้งด้านการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ต้องดีขึ้น 

ซึ่งขณะนี้ หลักคิดเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะเป็นทั้ง มาสเตอร์แพลน (Master plan) หรือแผนแม่บทของพรรคในการวางอนาคตของประเทศชาติและประชาชน ที่จะใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงครั้งนี้คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ โดยมีแนวทางที่สำคัญของทั้ง 3 ส. ดังนี้  

1.สร้างเงิน โดยการแยะเป็นสองส่วนใหญ่ ๆ คือ สร้างเงินให้ประเทศ และสร้างเงินให้ประชาชน

2.การสร้างคน ที่พรรคจะสนับสนุนและส่งเสริมดูแลคนตั้งแต่ในครรภ์มารดา จนส่งสู่เชิงตะกอน ทั้งสร้างสวัสดิการเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคงขึ้น เพราะพรรคเชื่อว่าเมื่อเราสร้างคนให้มีความความรู้และความมั่นคงในชีวิต จะแปรเปลี่ยนพลังของประชาชนให้เป็นพลังในการสร้างประเทศชาติได้อย่างมั่นคง 

3.สร้างชาติ ด้วยระบบประชาธิปไตย ที่สุจริต ควบคู่ไปกับการกระจายอำนาจมุ่งสู่สร้างเมืองมหานคร พร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน คมนาคมเพื่อเชื่อมประเทศไทยกับโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ มีความคืบหน้าจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งท่านหัวหน้าพรรค 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' และท่านเลขาฯ จะแถลงเปิดนโยบายฯ อย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคมนี้ และในขณะนี้พรรคได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านแล้ว

‘ปชป.’ เรียกน้ำย่อย คิกออฟ 8 นโยบายฐานราก ก่อนชูยุทธศาสตร์ใหญ่ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’

(13 ม.ค. 66) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยเตรียมการเลือกตั้งของพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงนโยบายซีซั่น 1 ของพรรคภายใต้สโลแกน ‘ทำได้ไว ทำได้จริง’ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้กล่าวว่า... 

ขณะนี้เรากำลังเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง และเหลือเวลาประมาณ 2 เดือนเศษที่จะต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งมาตลอดเวลา ทั้งด้านนโยบายและด้านตัวบุคคล โดยมียุทธศาสตร์ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’ สร้างเงิน เป็นยุทธศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นหลายเรื่อง เช่น ประกันรายได้คนไทย และประกันรายได้ให้กับประเทศ ส่วนการสร้างคนนั้น คือยุทธศาสตร์ทางด้านสังคมซึ่งจะมุ่งเน้นในเรื่องของการศึกษาและการสาธารณสุข สวัสดิการตลอดชีพ และสุดท้ายการสร้างชาติ ก็จะสร้างชาติด้วยนโยบายทางการเมืองที่จะมุ่งเน้นประชาธิปไตยอันนี้มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและประชาธิปไตยสุจริต ซึ่งจะมีรายละเอียดตามมาอีกครั้ง ส่วนวันนี้จะเป็นการเปิดตัว 8 นโยบายฐานรากก่อน 

สำหรับนโยบายทั้ง 8 นั้น จะมุ่งเน้นหลักไปที่การพัฒนาเกษตรและการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนทั้งในต่างจังหวัดและในกรุงเทพมหานคร โดยทางด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นโยบายด้านการเกษตรเป็นนโยบายฐานรากของคนไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย 8 นโยบายหลัก รายละเอียดดังนี้…

นโยบายที่ 1. ประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด ซึ่งเป็นนโยบายต่อเนื่องจากความสำเร็จของพรรคประชาธิปัตย์ในการประกันรายได้ เราจะจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร

นโยบายที่ 2. ชาวนารับ 30,000 บาทต่อครัวเรือน ปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกข้าวกว่า 4.7-4.8 ล้านครัวเรือน เราช่วยให้ชาวนารับ 30,000 บาทต่อหนึ่งครัวเรือน นโยบายนี้สร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องชาวนา ให้มีความสามารถในการพัฒนาตัวเอง อย่างยั่งยืน

นโยบายที่ 3. ฟรี นม โรงเรียน 365 วัน เพื่อเป็นการพัฒนาเด็ก พัฒนาบุคลากรของประเทศ ซึ่งประเทศชาติต้องการพัฒนาเด็กให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า และยังเป็นการช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้มีส่วนช่วยดูแลเด็กไทยอีกด้วย 

นโยบายที่ 4. ประมงท้องถิ่น รับ 100,000 บาททุกปี นโยบายนี้จะให้กลุ่มประมงทุกกลุ่ม กว่า 2,800 กลุ่ม ซึ่งจะได้รับทันทีเมื่อประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล เพื่อให้กลุ่มประมงมีความเข้มแข็งในตัวเองอย่างยั่งยืน

'นิพนธ์' ระดมสมองผู้สมัครประชาธิปัตย์ ชายแดนใต้ ชู นโยบาย 'สันติภาพสู่สันติสุข' สอดรับ คำประกาศ '3 ส. สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ' พร้อมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประชุม ชู 8 นโยบาย ด้านการเกษตร สู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำสันติภาพสู่สันติสุข โดยมีผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และสงขลาบางส่วน ร่วมประชุมรับทราบนโยบายดังกล่าว ณ ห้องประขุมย่อย บ้านพักเขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออก 3  ยุทธศาสตร์หลัก เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้คือ การสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ  โดยเฉพาะนโยบายในการนำมาใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือ การสร้างเงิน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นหลายนโยบาย โดยเฉพาะเน้นในเรื่องของนโยบายประกันรายได้คน และประกันรายได้ให้กับประเทศ 

ซึ่งในส่วนของการประกันรายได้ มุ่งเน้นในเรื่องของการเกษตร การประกันรายได้เงินส่วนต่าง ในเรื่องของ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์ม ยังคงนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการให้เงินส่วนต่าง และนโยบายช่วยเหลือชาวนา 30,000 บาทต่อครัวเรือน แม้แต่ปลูกข้าวกินก็ยังได้ส่วนต่าง สำหรับผู้ที่มาลงทะเบียน นโยบายการจัดตั้งธนาคารหมู่บ้าน-ชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท การออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน การให้เงินทุนสำรองประมงท้องถิ่น 100,000 บาททุกปี ทุกกลุ่มที่ขึ้นทะเบียน การออกเอกสารสิทธิทำกินในที่ดิน ให้ผู้ที่ทำกินในที่ดินของรัฐ และการปลดล๊อกประมงพาณิชย์ ภายใต้ luu นี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำนโยบายในเรื่องของการสร้างเงิน 8 นโยบาย และอีก 5 ฟรี คือเรียนฟรี อาหารกลางวันฟรี นมโรงเรียนฟรี และหญิงตั้งครรภ์รับทันที 600 บาท ต่อเดือน จนคลอด ฟรี

ในวันนี้เราได้เน้นในเรื่องของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งเราต้องเดินหน้าต่อ พร้อมกับการขยายการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งจังหวัดชายแดนใต้ต้องยุติความขัดแย้ง  การสูญเสียชีวิตมันต้องยุติได้แล้ว และเราอยากเห็นจังหวัดชายแดนใต้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน

สำหรับนโยบายสร้างเงิน 8 นโยบายที่พรรคได้ประกาศ นี่เฉพาะกลุ่มแรกหลังจากที่พรรคประกาศยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งงวดแรกที่ได้กล่าวไปแล้วนั่นคือเรื่องของการสร้างเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในภาคเกษตรเป็นหลัก และจะมีภาคธุรกิจอื่นตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเศรษฐกิจทันสมัย เรื่องของนวัตกรรม เรื่องของ SME และเรื่องอื่นๆ ที่จะทยอยประกาศตามมา เพื่อสร้างรายได้ในส่วนนั้น และในเรื่องของการสร้างคนซึ่งจะเป็นตัวตนของประชาธิปัตย์ รวมถึงเรื่องของสาธารณสุข รวมถึงในเรื่องของsold power และสุดท้ายในเรื่องของการสร้างชาติ นั่นคือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น รวมถึงในเรื่องของการกระจายอำนาจ ซึ่งสุดท้ายนโยบายชายแดนภาคใต้ซึ่งได้ขอความเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งเราเคยมีนโยบาย ใต้สันติสุข แต่วันนี้เราจะไม่เอาเพียงใต้สันติสุข แต่จะเป็นนโยบายใต้ชายแดน 'สันติภาพสู่สันติสุข' เพราะการยุติความขัดแย้งนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งเราจะไม่มีวันจบในเรื่องของการใช้อาวุธเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้ง แต่จะจบด้วยการพูดคุยกัน เราใช้งบประมาณ กว่า 4.9 แสนล้าน ในเวลา19 ปี ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้นจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงต้องพูดคุยกัน ทุกฝ่ายเพื่อยุติความขัดแย้ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top