Sunday, 19 May 2024
ประชาธิปัตย์

วอนสังคมให้อภัย ‘อลงกรณ์’ ขอโทษสังคม ปม ‘ส.ส.ชัยชนะ’ ปราศรัยพลาดพลั้ง เชื่อ ‘ปชป.’ ได้บทเรียน พร้อมปรับรูปแบบการหาเสียงให้ดีขึ้น

(6 มี.ค. 66) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวันนี้ กรณีที่นายชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวปราศรัยหาเสียงทางการเมืองในทำนองดูแคลนผู้สมัครจากพรรคการเมืองคู่แข่ง ว่าสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณ ไม่ได้จบการศึกษาจากต่างประเทศ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติเตียน ถึงความไม่เหมาะสมในคำพูดและทัศนคติอย่างกว้างขวางว่า เข้าใจดีถึงปฏิกิริยาไม่เห็นด้วยและการตำหนิติเตียนต่อคำปราศรัยดังกล่าวซึ่งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็มีความรู้สึกไม่แตกต่างกันและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนราคาแพงทั้งของ ส.ส.ชัยชนะและพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งต้องขอโทษและขออภัยมา ณ โอกาสนี้

“ความผิดพลาดในการปราศรัยบนเวทีการเมืองมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว รู้สำนึกหรือไม่ และจะแก้ไขอย่างไร สำหรับ ส.ส.ชัยชนะ รู้ถึงความผิดพลาดโดยสำนึกผิด แถลงขอโทษต่อสังคม และขอขมาต่อมหาวิทยาลัยทักษิณทันที ซึ่งแสดงถึงความรู้ผิดชอบชั่วดี ผิดพลาดแล้วแก้ไข

‘นิพิฏฐ์’ ซัด! ‘นิพนธ์’ หลังปราศรัยเหน็บ ‘บิ๊กป้อม’ ลั่น! ‘ทำไมหัวหน้าจืด’ ไม่สั่งสอนลูกพรรค

(7 มี.ค. 66) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์วันที่เปลี่ยนไป

ผมฟัง คุณนิพนธ์ บุญญามณี เพื่อนผม จากพรรคประชาธิปัตย์ไปปราศรัยที่ชายคาบ้านผม ที่จังหวัดพัทลุง เมื่อ 4 มี.ค.2566

คุณนิพนธ์ เครียดอะไรหรือเปล่า จึงยกเอาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไปด้อยค่า หรือ bully บนเวที ว่า พลเอกประวิตร อยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี เดินก็เดินไม่ไหวแล้ว คุณนิพนธ์เดินทำท่า ทำทาง ล้อพลเอกประวิตร

ไม่เข้าท่าครับ “ทำไมหัวหน้าจืด” จุรินทร์ ไม่สั่งสอนลูกพรรค หรือมันมีอะไรมันติดคอจุรินทร์อยู่ จึงไม่กล้าพูด หรือตอนนี้จุรินทร์อยู่ได้ก็อาศัยน้ำใต้ศอกนิพนธ์ บุญญามณี

พลเอกประวิตร อาจมีปัญหาเรื่องการเดินอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เห็นเป็นอุปสรรคในการทำงาน สมองท่านยังปลอดโปร่ง โทรศัพท์หาใครไม่ต้องพิมพ์ชื่อ ท่านจำได้หมด ใครลงจังหวัดไหน เขตไหน ท่านจำได้หมด พวกเราเสียอีกที่จำไม่ได้ต้องเปิดสมุดขึ้นมาดู เรื่องมันสมองผมว่าท่านไม่แพ้ใครในครม.

สงขลา-"นิพนธ์" จับมือ"เดชอิศม์"เปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา ของ นายสรรเพชญ บุญญามณี คึกคัก ยืนยันพร้อมสู้ทุกเขต 

เวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้  7 มีนาคม 2566 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคปชป. พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง  รองหัวหน้าพรรคปชป.ภาคใต้ และ ส.ส.เขต 5 สงขลา  ร่วมในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา โดยมีนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ผู้บริหาร และสมาชิกสภา อบจ.สงขลา  พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครจากพรรคปชป. ทั้ง 9 เขตที่มาร่วมในการเปิดศูนย์นายสรรเพชญ บุญญามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา ประกอบด้วย นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 นายสมยศ พลายด้วง ว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 3 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 4 นายเดชอิศม์ ขาวทอง  ส.ส.เขต 5 รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และว่าที่ผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 5  นางสาวสุภาภรณ์ กำเนิดผล ส.ส.เขต 6 และ ว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 6 นายศิริโชค โสภา ว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 7 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่  ส.ส.เขต 8 และว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 8 และนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 9  ร่วมแสดงความยินดีในการเปิดศูนย์ประสานงานนายสรรเพชญ บุญญามณี เขตเลือกตั้งที่ 1 ณที่ทำการศูนย์ประสานงาน โดยมีพระครูโสภณวราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ปฐมมาวาส พระอารามหลวง และรองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจิมป้าย ศูนย์ประสานงานพรรคปชป. เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ศูนย์ฯ   พร้อมด้วยประธานสาขาพรรค คณะกรรมการสาขา  สมาชิกพรรคปชป. และพี่น้องประชาชนเข้าร่วมในพิธีเปิดศูนย์ฯเป็นจำนวนมาก 

สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้าของการเปิดศูนย์ ฯ เสียงเพลงเช้าวันใหม่ ของเมธี ลาบานูน ยังคงดังกึกก้อง เรียกความเชื่อมั่น และความศรัทธาที่มีต่อพรรคปชป. ของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมในพิธีเปิดศูนย์ประสานงาน เขต 1 กลับมาอีกครั้ง ซึ่งทุกคนต่างร่วมแรง ร่วมใจส่งเสียงร้อง เรียกสรรเพชญดังกระหึ่ม แม้อากาศจะร้อนสักเพียงใด แต่ทุกคนไม่ถอย เพราะทุกคนคือครอบครัวประชาธิปัตย์ ที่พร้อมส่งเสียงเชียร์และให้กำลังใจ นายสรรเพชญ บุญญามณี และผู้สมัครทั้ง 9 เขต รวมถึงแกนนำชุมชน ที่สนับสนุนได้ทยอยมาร่วมอวยพร พร้อมทั้งมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีในการเปิดศูนย์ฯ ครั้งนี้  ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักสลับกับเพลงเช้าวันใหม่ 

นายนิพนธ์กล่าวว่า สิ่งที่ปชป.ทำมาขณะนี้ล้ำหน้าที่สุดคือเราจัดปราศรัยและทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ซึ่งอาจจะมีพี่น้องประชาชนที่ยังไม่เข้าใจอยู่บ้าง หรือยังไม่รู้ว่าพรรคเคยทำอะไรในอดีตซึ่งทางพรรคก็พยายามชี้แจงอยู่ในเรื่องนี้ คือพรรคเสนอตัวบุคคลความพร้อมในเขตเลือกตั้ง พรรคเสนอความพร้อมของพรรคปชป.ที่เป็นสถาบันการเมืองมายาวนานย่างเข้า 77 ปีในเดือนเมษานี้ กับพรรคอื่นที่เราเรียกว่าพรรคเฉพาะกิจ ที่ตั้งมาเพื่อให้ใครเป็นนายก แต่ถ้าไม่ได้เป็นนายกพรรคเหล่านั้นก็เลิกไป  ซึ่งเห็นมามากแล้วในอดีต ดังนั้นจึงไม่แปลกใจ  ประชาธิปัตย์เดินหน้าสร้างความเข้าใจ วันที่ 24 เราปราศรัยเพชรบุรี วันที่ 25 เราปราศรัยหาดใหญ่วันที่ 3 เราปราศรัยพัทลุง วันที่5 ปราศรัยที่ปัตตานี และเมื่อวานก็แราศรัยที่ กทม. ฉะนั้นนี่คือยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่าเราขายความเป็นสถาบันทางการเมือง เราขายความเป็นผู้นำรวมหมู่ เราไม่ฝากความหวังไว้กับคนใดคนหนึ่ง ซึ่งจะเห็นว่าเราเปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาเป็นคนที่ 8 แล้ว ประชาธิปัตย์ก็ยังอยู่ นี่คือความต่างจากพรรคอื่น มั้งความต่างในเชิงนโยบาย ความต่างในเรื่องผลงานในอดีต และความต่างในเรื่องตัวบุคคลที่เราเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นส.ส.มา 11 สมัยเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่อายุ 36 ปีมาจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านจุรินทร์ได้เป็นรัฐมนตรีทุกครั้งที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นี่คือตัวบุคคลที่เรานำเสนอมาให้พี่น้องประชาชนเลือกฉะนั้นผมจึงคิดว่ายุทธศาสตร์ของประชาธิปัตย์เดินมาถูกทางแล้ว 

นายหัวออกโรง ‘ชวน’ ลั่น!! หลังยุบสภาจะช่วยหาเสียงเต็มที่ งง ‘จุรินทร์’ เป็นคนเก่ง แต่ไฉนรั้งท้ายโพลตลอด

(8 มี.ค. 66) ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อดีตสมาชิกพรรค ปชป. ที่ออกไปอยู่พรรคการเมืองอื่นระบุว่า มีการซื้อเสียงกรรมการบริหารพรรค 200 ล้าน ตรงนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์หรือไม่ ว่า กระทบแน่นอน เรื่องที่เป็นด้านลบก็กระทบ แต่ในระบบพรรค ปชป. สมาชิกต้องมีความรู้สึกระลึกถึงบุญคุณพรรค การแต่งตั้งตำแหน่งต่าง ๆ ในพรรคไม่เคยใช้เงิน

ทั้งนี้ ตนยืนยันได้ว่าการเป็นรัฐมนตรีไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท เช่น นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดังนั้นคนในพรรคจะต้องมีความรู้สึกผูกพันกับสิ่งที่พรรคให้ เช่น การให้เกียรติ

“ผมมาเป็นหัวหน้าพรรคได้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ระบบพรรค ปชป. ที่ยอมรับเสียงข้างมากว่าคนไหนเหมาะสม ผมก็ใช้เวลาพิสูจน์ 22 ปี ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหัวหน้าพรรคได้ เมื่อชนะเลือกตั้ง ผมก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้จ่ายเงินสักบาท บุญคุณเหล่านี้ ในชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมด การที่มาจากเลือกตั้งโดยไม่ใช้เงิน บุญคุณที่มีกับชาวบ้านในชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมด ผมจึงคิดว่าในช่วงปลายของชีวิตผม จะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อขอบคุณคนที่เคยช่วยเหลือผมที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อเป็นการตอบแทนผ่านการทำงานอย่างซื่อสัตย์ และสุจริต ทั้งต่อหน้าและลับหลัง คนในพรรค ปชป. ต้องระลึกว่า คุณได้อะไรไปจากพรรคบ้าง” นายชวน กล่าว

‘มาดามเดียร์’ ลงใต้ คลุมฮิญาบ ร่วมงานวันสตรีมุสลิม ตอกย้ำความเท่าเทียมทางเพศ-ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

(9 มี.ค. 66) ที่ ดี อามาน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จ.สงขลา น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาราเร่ ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. ร่วมงานวันสตรีมุสลิมต้อนรับเดือนรอมฎอน จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดโดยสมาคมสมาพันธ์สตรีมุสลิมประเทศไทย สมาคมสตรีมุสลิม 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกับสมาคมสตรีจิตอาสา จังหวัดสงขลา

โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ใส่ผ้าคลุมฮิญาบ จะบอกว่าเมื่อใส่แล้วรู้สึกตื่นเต้น และเวลามองเข้าไป ตนเห็นว่า ผ้าคลุมฮิญาบ หรือวัฒนธรรมการแต่งตัวของสตรีชาวมุสลิม เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงพลังศรัทธาอันแรงกล้าของสตรีชาวมุสลิมที่มีต่อพระอัลเลาะห์ และศาสนาอิสลาม และผ้าคลุมนี้ยังแสดงออกถึงความยำเกรงที่ทำให้สตรีไม่ต้องไปเผชิญกับสายตาหรือความไม่ปลอดภัยที่จะเข้ามาได้ แต่ยังสะท้อนให้เห็นอีกมุมว่าการที่เป็นสตรีเราไม่ได้นำเรือนร่างของความเป็นเพศสตรีออกไปสู่สายตาสาธารณะ แต่เราต้องการให้เขามองข้ามรูปลักษณ์ภายนอกแต่ให้เขามองเห็นศักยภาพของเราจริง ๆ

น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า เมื่อวาน (8 มี.ค.) เป็นวันสตรีสากลโลก ซึ่งในปีนี้จะเห็นว่ากระแสความตื่นตัวของวันสตรีสากลมีมากกว่าปีก่อน ๆ และวันนี้บทบาทของสตรียุคใหม่มีมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม กระทั่งบทบาทต่อการเมือง ที่คนมักจะมองแต่ผู้ชาย และอย่างตนที่เคยผู้ตัดการทีมฟุตบอลทีมชาติชาย ซึ่งถือว่า เป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงคุมฟุตบอลทีมชาติ

สองหมื่นกำลังใจร่วมเชียร์!! ‘เฉลิมชัย–เมฆินทร์’ นำ ‘ปชป.’ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณฯ ประกาศกร้าว!! ขอโอกาสรับใช้ปชช. อย่างสุจริต ซื่อตรง

คนสุพรรณฯ กว่าสองหมื่นให้กำลังใจ ‘เฉลิมชัย–เมฆินทร์’ นำทัพ ปชป. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สุพรรณฯ ครบ 5 เขต ด้าน ‘พี่เม’ เผยนโยบายด้านการเกษตร ปชป. สอดคล้องกับ จ.สุพรรณฯ ที่เป็นเมือง ‘รุ่งเรืองเกษตรกรรม’ – ประกาศขอโอกาส ปชช. ทำหน้าที่เป็น ส.ส. รับใช้พี่น้อง อย่างสุจริต ซื้อตรง และมั่นคงในอุดมการณ์ต่อไป

(10 มี.ค.66) ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เปิดเวทีปราศรัยเพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ ส.ส. สุพรรณบุรี ทั้ง 5 เขต ณ ลานปราศรัยสามแยกบ่อพลอย ตำบลจรเข้าสามพัน อำเภออู่ทอง โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคฯ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 5 เขต ได้แก่ นายสมมาตร วิสุทธิวงษ์ เขต 1 (อ.เมืองสุพรรณบุรี) นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 2 (อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง) นายกิจจา วงศ์ประเสริฐ เขต 3 (อ.อู่ทอง อ.สองพี่น้อง) น.ส.พิรุณวัลย์ บ้านพลูหลวง เขต 4 (อ.ดอนเจดีย์ อ.หนองหญ้าไซ อ.ด่านช้าง อ.เดิมบางนางบวช) และนายภานรินทร์ อินสกุล เขต 5 (อ.ศรีประจันต์ อ.สามชุก อ.เดิมบางนางบวช)   ได้ขึ้นมาปราศรัยถึงนโยบายของพรรคฯ โดยมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 20,000 คน

โดยนายเมฆินทร์  ระบุว่า ต้องขอขอบคุณเลขาธิการพรรค และแกนนำพรรค ที่ได้มาลงพื้นที่และปราศรัยกับประชาชนชาว จ.สุพรรณบุรี ซึ่งยอมรับว่า การเลือกตั้งใน จ.สุพรรณบุรีในคราวนี้ดุเดือดกว่าทุกครั้ง โดยมีหลายๆพรรค ต่างมุ่งหน้ามาที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อมาขอเสียงสนับสนุนจากชาวสุพรรณฯ ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เอง ก็ได้มีการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี มาพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะนโยบายของพรรคฯ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เพราะ จ.สุพรรณบุรี ถือเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย สมกับคำขวัญของจังหวัดที่ว่า ‘รุ่งเรืองเกษตรกรรม’ เช่น การสานต่อนโยบายการประกันรายได้และจ่ายเงินส่วนต่าง ของผลผลิต โดยเฉพาะข้าว เพราะที่ จ.สุพรรณฯ ถือเป็นแหล่งปลูกข้าวชั้นดีอีกที่หนึ่งของประเทศ นโยบายชาวนารับ 30,000 บาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวนาให้มีความสามารถในการพัฒนาตัวเอง การออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาของพี่น้องที่ไม่มีที่ดินทำกิน อยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า และอีกส่วนหนึ่งก็คือ หากพี่น้องประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่ที่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ  ทางพรรคฯ ก็มีนโยบายออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้กับพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในที่ดินต่างๆ เพราะทางพรรคฯ มองเห็นว่า ที่ดินเป็นหลักประกันของชีวิต จึงควรที่ให้กรรมสิทธิ์เป็นสิ่งที่ยืนยันในการใช้ประโยชน์ ซึ่งทางพรรคฯ ได้มีการดำเนินการไปบ้างแล้ว ในสมัยที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งถึงยุคนายนริศ ขำนุรักษ์ ซึ่งเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนให้ความมั่นใจว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล จะเดินหน้าออกโฉนดที่ดินครบ 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี และออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้กับประชาชนได้ตามที่พรรคฯ ประกาศไว้  รวมทั้ง ยังมีนโยบายอื่นๆ ที่ตนมั่นใจว่า จะสร้างประโยชน์ให้กับชาวสุพรรณบุรีทุกคนอย่างแน่นอน

ลุยหาเสียงสาทร!! ‘องอาจ-เดียร์-เอ้’ นำทัพ ‘ปชป.’ ประกาศสงคราม PM 2.5 ทวงคืนอากาศสะอาด ลั่น!! พร้อมสู้ทุกรูปแบบไม่ห่วงแบ่งเขตช้า

‘องอาจ-เดียร์-เอ้’ นำทีม กทม. ลุยหาเสียงสาทร ประกาศสงคราม PM 2.5 ทวงคืนพื้นที่สีเขียวให้คนกรุง ลั่นพร้อมสู้ทุกรูปแบบไม่ห่วงแบ่งเขตช้า

(11 มี.ค.66) เวลา 7.00 น. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. และทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. อาทิ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขตปทุมวัน-สาทร-บางรัก นายอภิมุข ฉันทวานิช เขตยานนาวา-บางคอแหลม น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร เขตพญาไท-ราชเทวี นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย เขตบางกะปิ นายจักรวี วิสุทธิผล เขตสวนหลวง เขตหนองจอก น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ เขตบางบอน-หนองแขม นายธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ เขตจตุจักร ลงพื้นที่สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย พบปะพูดคุยและร่วมออกกำลังกายกับประชาชนที่มาออกกำลังกายในสวนสุขภาพ ทั้ง รำไท้เก๊ก แบดมินตัน ฮูลาฮูป ฯลฯ

น.ส.อรอนงค์ กล่าวว่า จุดลงพื้นที่วันนี้เป็นสุสานที่ปรับพื้นที่เป็นสวนให้ประชาชนเข้ามาดูแลสุขภาพ สำหรับผู้สูงอายุในช่วงเช้า และคนวัยรุ่นในช่วงเย็น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนที่ชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์อย่างดี

น.ส.วทันยา กล่าวว่า สวนนี้ได้รับความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับรัฐเพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้ามาใช้สอย แต่โดยภาพรวมแล้วพื้นที่ กทม. ยังมีความแออัดและพื้นที่สีเขียวที่ต่ำกว่ามาตรฐานโลกเฉลี่ย 6.1 ตร.ม./คน แต่ประชาชนกรใน กทม. เองยังมีประชากรแฝงที่ไม่ได้ถูกรวมไปในผลสำรวจ ทำให้ความเป็นจริงพื้นที่สีเขียวต่ำกว่ามาตรฐานมาก พรรคจึงมีแนวทางเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดฝุ่น ลดอุณหภูมิโลก และเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมให้ประชาชน

ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า ทีมประชาธิปัตย์ กทม. ประกาศสงครามชัดเจนกับ PM 2.5 ทุกวันนี้หายใจไม่ได้แล้วจริง ๆ เราจะผลักดันอากาศกฎหมายสะอาดให้เร็วที่สุด และกำหนดเขตพื้นที่มลพิษต่ำ ซึ่งต้องได้รับพลังจากประชาชนร่วมสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค เพื่อที่จะเข้าไปสภาปกป้องประชาชนจากฝุ่น ให้คุณให้โทษกับคนที่ไม่รับผิดชอบ และดูแลภาษีให้คนที่ช่วยป้องกันการเกิดฝุ่นพิษ รวมถึงย้ายโรงงานอุตสาหกรรมออกจากเขตเมือง

ปชป.รุก!!! โชว์อีก 8 นโยบายล็อตสอง ชูถ้าเป็น”แกนนำรัฐบาล

อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด  -เรียนฟรีป.ตรี -ตรวจสุขภาพ รักษาฟรี -ชมรมผู้สูงอายุรับ 3 หมื่น -ช่วย sme มีแต้มต่อ -ปลดล็อค กบข. และกองทุนเลี้ยงชีพ เอาเงินไปซื้อบ้านได้-หนุนเกษตรแปลงใหญ่-อกม.มีค่าตอบแทน มั่นใจเรียกคะแนนฐานเสียงหลากกลุ่มทั่วประเทศ

 

11 มี.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี นายอลงกรณ์ พลบุตร ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการนโยบายของพรรค ได้ร่วมกันแถลงเปิด 8 นโยบาย ชุดที่ 2 เพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเปิดนโยบายไปแล้ว 8 นโยบาย เพื่อสู้ศึกการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น

 

โดยนายจุรินทร์ กล่าวถึง 8 นโยบายใหม่ ที่ได้ประกาศในวันนี้ ประกอบด้วย

 

นโยบายที่ 1 “อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน”

ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าว หมายถึงชุมชนในเขตเมือง เขตเทศบาล เขตหน่วยการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งในพื้นที่ชุมชนของกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งจะมีทั้งหมดประมาณ 80,000 หมู่บ้าน/ชุมชน และจะมีอินเทอร์เน็ตฟรี รวมกันในหมู่บ้าน/ชุมชน ประมาณ 6 แสนจุด สำหรับห้องเรียน ทั่วประเทศมีประมาณ 350,000 ห้อง โดยจะจัดให้มีอินเทอร์เน็ตฟรีประมาณ 400,000 จุด รวมอินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ทุกห้องเรียน

 

นโยบายที่ 2 “เรียนฟรี ถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ”

จากการสำรวจเบื้องต้น โดย อว. พบว่ามีสาขาที่ตลาดต้องการ มีอยู่อย่างน้อยจำนวน 1.8 แสนคน โดยประมาณ ใน 12 สาขาสำคัญ หากประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาล จะสนับสนุนให้มีการเรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด เพื่อให้เรียนจบแล้วมีงานทำ สนองตลาดนำการผลิตทางการศึกษาได้ทันที

 

นโยบายที่ 3 “ตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว”

นโยบายนี้มี 2 เรื่องอยู่ในนโยบายเดียวกัน เรื่องที่ 1 คือ รักษาฟรี ที่เป็นมาตรการในการรักษาพยาบาล เรื่องที่ 2 คือตรวจสุขภาพฟรี เป็นมาตรการในการป้องกัน ดังนั้นถ้าพบว่ามีปัญหาสุขภาพก็จะทำการตรวจรักษาได้ทันท่วงที ถือเป็นการต่อยอดนโยบายเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ทำมาตั้งแต่อดีต โดยย้อนไปตั้งแต่ก่อนที่ท่านชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน เป็นเลขารัฐมนตรี ช่วงปี 31-32 เราได้มีการจัดให้มีการรักษาฟรี สำหรับเด็กประถม ผู้นำชุมชน รวมทั้งผู้สูงอายุ ต่อมาเมื่อนายจุรินทร์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในปี 53 จึงได้ริเริ่มนโยบาย บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรี 48 ล้านคน โดยไม่ต้องเสีย 30 บาท และสามารถดำเนินนโยบายนั้นได้ด้วยความราบรื่น เพราะฉะนั้นนโยบายนี้จึงเป็นการต่อยอดในสิ่งที่ได้ทำสำเร็จมาแล้วทั้งหมด เพื่อมาเดินหน้าต่อไป

 

นโยบายที่ 4 “ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000บาท ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน”

ปัจจุบันประเทศไทยมีชมรมผู้สูงอายุที่จดทะเบียนอยู่ประมาณ 30,000 ชมรม และถ้าประชาธิปัตย์เป็นการตั้งรัฐบาลก็จะช่วยสนับสนุนให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจกรรมรวมกลุ่มในลักษณะนี้ต่อไป เพื่อประโยชน์ทั้งทางด้านสุขภาพ ร่างกาย จิตใจและการอยู่ร่วมกันในสังคม รวมทั้งการส่งเสริมอาชีพเพื่อสร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับผู้สูงอายุต่อไปด้วย

นโยบายครอบคลุม ‘ปชป.’ เดินหน้าปล่อยนโยบายก๊อก 2 เพิ่ม 8 เรื่อง เอื้อประโยชน์ให้ด้านการเกษตร เพื่อดันเศรษฐกิจไทย

‘ปชป.’ เปิดนโยบายก๊อก 2 เพิ่ม 8 เรื่อง อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด เรียนฟรีถึงปริญญาตรี 12 สาขา เอื้อความต้องการตลาดแรงงาน เดินหน้ารักษาฟรี ตรวจสุขภาพฟรี บัตรประชาชนใบเดียวไม่ต้องเสีย 30 บาท พร้อมจัดเต็มต่อ SME ลืมตาอ้าปาก พร้อมปลดล็อกกองทุน กบข.ซื้อบ้านได้ เพิ่มเงิน อกม. 1 พันบาทต่อเดือน  

(11 มี.ค.66) เมื่อเวลา 10.10 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานนโยบายพรรค ร่วมกันแถลงนโยบายพรรคที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

โดย นายจุรินทร์ ได้นำแถลงเปิดตัวชุดนโยบายของพรรคว่า หลังจากพรรคประชาธิปัตย์เปิดตัว 1 ชุด 8 นโยบาย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ วันนี้จึงถือเป็นชุดที่ 2 ที่จะเปิดอีก 8 นโยบาย ได้แก่ 

1.อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ทุกห้องเรียน ซึ่งหมายถึงชุมชนในเขตเมือง เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชนในกทม. ด้วย

2. นโยบายเรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดต้องการ จากการสำรวจเบื้องต้นโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พบว่า ตลาดมีความต้องการประมาณ 1.8 แสนคน โดยประมาณ ใน 12 สาขาสำคัญ ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล จะสนับสนุนให้มีการเรียนฟรีในสาขาเหล่านี้ เพื่อที่เรียนจบจะได้มีงานทำได้ทันที 

3. นโยบายตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งมี 2 เรื่องในนโยบายเดียวกัน คือ รักษาฟรี และตรวจสุขภาพฟรี เป็นการต่อยอดนโยบายเดิมของพรรคที่ทำมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นรมว.สาธารณสุข (สธ.) ในปี 2531 และตนเป็นเลขานุการรมว.สธ. ต่อมาเมื่อตนเป็นรมว.สธ ในปี 2553 ตนได้ริเริ่มนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรี 48 ล้านคน โดยไม่ต้องเสีย 30 บาท ซึ่งดำเนินการได้อย่างราบรื่น วันนี้จึงเป็นการต่อยอดจากสิ่งที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว 

ต้องแก้ฝุ่นเชิงรุก ปชป. ติง!! ผู้รับผิดชอบปัญหาฝุ่น PM 2.5  มีทัศนคติไม่ถูกต้อง มองปัญหาจะหมดไปเอง

ปชป.กทม. ชู นโยบายประกาศสงครามฝุ่นพิษ ชงตั้ง 'โซนมลพิษต่ำ' นำร่อง 16 เขตใจกลางเมือง พร้อมเดินหน้ากรุงเทพฯ เมืองอากาศสะอาด เปิดทางทุกฝ่ายร่วมแก้ไขปัญหามลพิษ

(13 มี.ค.66) ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลกทม. และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงถึงแนวทางการประกาศสงครามกับปัญหามลพิษและฝุ่น PM 2.5 รวมถึงการกำหนดเขตควบคุมมลพิษใจกลางเมือง 16 เขต โดยนายองอาจ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นความสำคัญของปัญหาฝุ่น PM 2.5 จึงพยายามหามาตรการและแนวทางต่างๆ เพื่อแก้ไข แต่ยังพบว่าไม่สามารถดำเนินการได้เท่าที่ควร ด้วยสาเหตุดังนี้…

1.ผู้บริหารที่รับผิดชอบเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ยังมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง และมองว่าปัญหานี้จะค่อยๆ หมดไป หรือคิดว่าเป็นเรื่องที่มาตามเทศกาลช่วงปลายปีต่อเนื่องกับช่วงต้นปี

2.ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ยังไม่บังคับใช้กฎหมายและมาตรการที่มีอยู่ได้อย่างจริงจัง 3.ผู้บริหารที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ยังไม่พยายามหามาตรการหรือแนวทางให้เท่าทันกับปริมาณฝุ่นที่เพิ่มขึ้น 

พรรคฯ จึงมอบหมายให้นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ซึ่งเป็นประธานคณะทำงานนโยบายกทม.ของพรรคฯ ได้ศึกษาตามกระบวนการ ‘ฟัง-คิด-ทำ’ ร่วมกับนักวิชาการ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 จนมีข้อสรุปในเชิงนโยบาย เพื่อกำหนดวิธีการและมาตรการในการแก้ไขปัญหานี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับโอกาสให้ทำหน้าที่การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เราจะสามารถดำเนินการได้ในที่สุด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top