Sunday, 19 May 2024
ประชาธิปัตย์

รู้จัก 'ปลื้ม สุรบถ' ลูกนายหัวชวน หลังขยับนั่ง ส.ส.ป้ายแดงของ ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า นายสุรบถ หลีกภัย หรือ ปลื้ม ลูกชายของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จ่อจะได้เป็นผู้เเทนฯ สมัยเเรก ในช่วงท้ายของสภาฯ ชุดปัจจุบันซึ่งจะครบวาระ 4 ปี ในเดือนมี.ค. 2566 เนื่องจากนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ยื่นใบลาออกจาก การเป็นส.ส.ในวันที่ 19 ม.ค.2566 ต่อเนื่องจากนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อประธานสภาฯไปก่อนหน้า 

ทั้งนี้ นายอิสระ เป็นคณะทำงานใกล้ชิดของนายชวน หลีกภัย ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานต่าง ๆ ของประธานสภาฯ โดยตลอด รวมทั้งได้รับแต่งตั้งเป็น เลขานุการประธานรัฐสภา ก่อนหน้าจะมาดำรงตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ส่วน นายสุรบถ หรือ ปลื้ม อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 33 ของ ปชป. เป็นอดีตรองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม และเคยเป็นพิธีกรวีอาร์โซ และยังเคยเป็นที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการด้วย

นายสุรบถ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2530 ปัจจุบัน อายุ 36ปี เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของชวนและนางภักดิพร สุจริตกุล เป็นที่รู้จักของสังคมมาตั้งแต่ยังเล็ก เนื่องจากเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยมักนิยมเรียกติดปากว่า 'น้องปลื้ม' โดยชื่อ 'สุรบถ' นั้น แปลว่า ท้องฟ้า เป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากภักดิพร ผู้เป็นมารดาได้ขอพระราชทานจากพระองค์ท่านในฐานะที่ทรงเป็นสหายร่วมชั้นเรียนมาด้วยกันในโรงเรียนจิตรลดา

>> ประวัติการศึกษา 
นายสุรบถสำเร็จการศึกษาชั้นอนุบาลจากโรงเรียนจิตรลดา ประถมศึกษาโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มัธยมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน และโรงเรียนพร้าววิทยาคม (เป็นประธานนักเรียน และตั้งวงดนตรี ชื่อ 'วงหมากเหนือ' เป็นมือคีย์บอร์ดของวง) และระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

>> บทบาททางการเมือง
ที่ผ่านมานายสุรบท นอกจากความเป็นบุตรชายของนายชวนแล้ว ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมักได้รับคำวิจารณ์ว่าเสนอความคิดเห็นได้เฉียบแหลม จนได้รับฉายาว่า 'มีดโกนน้อย' คู่เคียงกับฉายา 'มีดโกนอาบน้ำผึ้ง' ของบิดาเคยช่วยนายชวนหาเสียงให้แก่พรรคประชาธิปัตย์อย่างสม่ำเสมอ 

วัดพลังสองพรรคใหญ่ 'ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย' ต่างคนต่างมั่นใจ ในศึกชิงเก้าอี้ ส.ส.เมืองคอน

ช่วงวันที่ 11-12 ก.พ.66 ที่ผ่านมา สองพรรคการเมือง อย่าง ประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทย ได้จัดกิจกรรมทางการเมืองพร้อมกัน และเป้าหมายเดียวกัน คือ ส่งขุนพลลุยเมืองคอน เป้าหมายยึดฐานเมืองคอนให้ได้ ดังนี้...

- ประชาธิปัตย์ขนขุนพลไปเปิดสัมมนาผู้สมัครจากภาคใต้ทั้งหมด 58 เขตเลือกตั้ง 'จุรินทร์' ลั่นหวังกวาดยกจังหวัด 9 ที่นั่ง 

- ภูมิใจไทย จัดกิจกรรมอบรมว่าที่ผู้สมัคร โฆษกบนเวทีเกี่ยวกับทักษะการพูดในที่ชุมชน การเตรียมตัวปราศรัย สองวันเต็มอิ่มกับวิทยากรจากรายการสภาโจ๊ก ด้าน 'อารี ไกรนรา' ลั่น!! มั่นใจ-พร้อม 100% เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ 26 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อปักธงภูมิใจไทยในเมืองคอนได้แน่นอน

- นิด้าโพลสำรวจคนคอน ยังเลือกลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ตามด้วยอุ๊งอิ๊ง ส่วนพรรคการเมือง ยังเป็นประชาธิปัตย์มาอันดับ 1 แต่น่าแปลกใจ เลือกเพื่อไทยมาอันดับ 2

>> ปรากฏการณ์แรก
'จุรินทร์' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ 58 เขตครบ มั่นใจกวาดเรียบ

เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 11 ก.พ.2566 ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้สพรรค ปชป.ได้เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ของภาคใต้ 14 จังหวัดภาคใต้ ครบทั้ง 58 เขต 58 คน โดยมีแกนนำพรรคปชป.ประกอบด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน, นายนิพนธ์ บุญญามณี, นายเดชอิศน์ ขาวทอง มาร่วมเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย

นายจุรินทร์ ได้แถลงว่าพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่อยู่คู่กับประเทศชาติมายาวนานมีขึ้นมีลงบ้างเป็นธรรมดาของพรรคการเมืองทุกยุคทุกสมัย วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของภาคใต้ทั้ง 58 เขต วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมแล้วในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคใต้ทั้ง 58 เขตเลือกตั้งและมั่นใจจะสามารถกวาดคว้าชัยชนะหมดทั้ง 58 เขต

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้ ครบทั้ง 58 เขตเลือกตั้ง ถือเป็นพรรคแรกของประเทศ ที่แสดงความพร้อมของกับการเสนอตัวรับใช้ประชาชนในภาคใต้ จากเดิมเมื่อปี 2548 ทางพรรคฯ ส่งผู้สมัครไปแค่ 53 เขต ได้รับการเลือกตั้งมากถึง 51 เขต ในสมัยนายบรรทัดฐาน นั่งดำรงตำแหน่ง หน.พรรคฯ การเลือกตั้งสมัยหน้า ขอประกาศว่า พรรค ปชป.พร้อมสู้ทุกเขต พร้อมคัมแบ็คทั้ง 58 เขตเลือกตั้ง และในวันนี้ทางพรรคฯ ได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดกับคนภาคใต้ ยืนยันได้จากจำนวน ส.ส.จำนวน 18 คน ที่ยังคงเป็นตัวแทนชาวบ้านอยู่ในตอนนี้ และรวมไปถึงบุคคลที่เป็นรัฐมนตรี และ อดีตรัฐมนตรี ทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, นายสาธิต วงค์หนองเตย, นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพานิชย์ 

ทางพรรคฯ ไม่มีความหวั่นไหว และมั่นใจว่ายังครองใจคนภาคใต้ได้อยู่ ขอให้คนภาคใต้ช่วยกันสนับสนุน ลงคะแนนเลือก พรรคที่เคียงข้างประชาชน มาตลอดเวลา 76 ปี และในฐานะ ที่ตนเองก็เป็นคนภาคใต้ มีจิตวิญญาณคนใต้ ที่จะนำ พรรค ปชป.กลับคืนสู่ประชาชนต่อไป

>> ปรากฏการณ์ที่ 2
'อารี ไกรนรา' จัดอบรมทักษะการพูด-การปราศรัยให้กับว่าที่ผู้สมัคร-โฆษกบนเวที เตรียมเปิดต้ว 9 ผู้สมัครภูมิใจไทยเมืองคอน และปราศรัยใหญ่ เป็น 26 กุมภาพันธ์ เจอกันที่ทุ่งท่าลาด

‘ประชาธิปัตย์’ เห็นพ้อง ส่ง ‘จุรินทร์’ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

(15 ก.พ.66) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นบุคคลที่พรรคพิจารณาให้ความเห็นชอบเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เป็นผู้เสนอ โดยการเสนอชื่อดังกล่าวถือว่าเป็นการเสนอชื่อบุคคลที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่จะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ 

'ประชาธิปัตย์' มั่นใจนโยบายโดนใจชาวสกลนคร!! | THE STATES TIMES Y WORLD EP.64

ปักธงนโยบาย 'พรรคประชาธิปัตย์' เปิดกลยุทธ์ด้วยประกาศ 8 นโยบายของพรรค ที่มั่นใจว่าโดนใจประชาชนแน่นอน !!!
จะมีรายละเอียดอย่างไร ไปชมกัน!

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x ELECTION TIME
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8

#THESTATESTIMES
#THESTATESTIMESYWORLDxELECTIONTIME
#เลือกตั้ง
#เลือกตั้ง66
#ประชาธิปัตย์

ปชป. คว้า ‘ดร.ปิยกาญจน์’ ปักธงเมืองลุง เขต 2 มั่นใจ!! กระแสตอบรับดี - คนในพื้นที่ไว้วางใจ

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดตัว 3 ผู้สมัครในจังหวัดพัทลุงในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม เวลา 15.00-20.00 น. ณ สนามกีฬาสิริวัณวลี อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง 3 คน ประกอบด้วย เขต 1 คือ ‘สุพัชรี ธรรมเพชร’ อดีต ส.ส.จากตระกูลบ้านใหญ่ ที่ยังคงมั่นอยู่กับประชาธิปัตย์ 

เขต 2 คือ ‘ดร.ปิยกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี’ หรือ ดร.เดย์ ลูกสาวของ สานันท์ สุพรรณบุรี อดีต ส.ส. 2 สมัย อดีตนายกฯ อบจ.พัทลุง 2 สมัย ได้วางมือทางการเมืองไปแล้ว 

ส่วนเขต 3 ก็เป็น ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ส.ส. 5 สมัยของพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย

ส่วนแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมาร่วมเวทีเปิดตัวผู้สมัคร และปราศรัย เบื้องต้นประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค, นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผอ.เตรียมการเลือกตั้ง, นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคภาคใต้, ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรค

'นิพนธ์' ชู!! ศก.พอเพียง แก้ปัญหา ศก.ชายแดนใต้ แนะ!! สร้างความมั่นคงทางอาหาร รับตลาด 'ซาอุฯ-มาเลย์'

(18 ก.พ.66) นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานคณะทำงานและคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานกำหนดแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือ ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงพาณิชย์ โดยมีคณะทำงานอาทิ นายอรัญ วงศ์อนันต์ รองประธานคณะทำงาน, นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต., ผศ.ดร.สุกรี หลังปูเต๊ะ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ มฟน., ดร.ศิดดิก ลาลีวัน รองผู้จัดการใหญ่สหกรณ์อิบนุเอาฟ์, นายอธิพงศ์ ยาชะรัคน์ เลขานุการเครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย, นายอาฟันดี หะชั้น อ.ประจำสาขาวิขายริหารธุรกิจ มฟน., นายอัดนัน อัลฟารีฏีร์ อ.ประจำสาขาเศรษฐศาสตร์การเงินฯ มฟน. ณ ห้องประชุมสะบารัง โรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี จังหวัดปัตตานี  

โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) กำหนดแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงติดตามและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของพื้นที่ ให้เกิดการยกระดับการค้าและการตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม และรวดเร็วทันเหตุการณ์

นายนิพนธ์ กล่าวว่า "เราต้องมาดูกระบวนการผลิตว่าจะมาปรับทำอย่างไร และเมื่อประตูการค้าเปิดการค้าขายแล้วเราจะทำอย่างไร ซึ่งประเทศซาอุดีอาระเบียถือเป็นตลาดใหญ่ของตะวันออกกลาง วันนี้ก็เป็นกระบวนการหนึ่งในการที่จะส่งเสริมการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง เราคิดกันไว้ว่าอย่างไร 

"แต่ก่อนที่จะไปถึงการค้าระหว่างประเทศเราต้องถือว่าทำอย่างไรการผลิตในพื้นที่จะต้องเพียงพอกับการบริโภคภายใน ตามหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงคือ ผลิตเพื่อบริโภค และเหลือไปจำหน่าย นี่คือหลักคิดที่รัชกาลที่ 9 ท่านได้ทรงวางไว้ให้กับปวงชนชาวไทย เพื่อเดินตามยุทธศาสตร์และจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับพื้นที่ ซึ่งนอกจากซาอุฯ แล้ว วันนี้ยังคิดว่าที่จะจับคู่การค้ากับมาเลเซีย เพราะตลาดต้มยำกุ้งเป็นตลาดที่ใหญ่อีกตลาดหนึ่ง ถ้าสิ่งใดที่ปรับฐานการผลิตของเรา ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทางได้ เราก็ยังเชื่อได้ว่าการส่งออกยังมีช่องทางอีกมากในการที่จะจับคู่การค้ากับมาเลเซีย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรจากบ้านเรายังเป็นที่ต้องการของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย 

"ผมเคยเดินทางไปดูที่มาเลเซียมาแล้วพบว่ายังมีช่องทางการค้า การลงทุนไม่ว่าจะเป็นสินค้าประมงที่เราเลี้ยง สัตว์น้ำทั้งกุ้ง ปลายังนำไปเป็นวัตถุดิบต้มยำกุ้ง ก็ต้องไปจากประเทศไทยทั้งนั้น นอกจากนั้นยังมีพืชผักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ มะกรูด คะน้ารวมถึงหอม กระเทียม พริก เป็นต้น ผมจึงคิดว่ายังมีช่องทางอีกมาก ดังนั้นทำอย่างไรที่จะส่งเสริมส่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่คือที่มาที่บอกว่า ทำให้เป็นพื้นที่ที่มีความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยสภาพแวดล้อมโดยภูมิศาสตร์แล้ว ทางนี้เหมาะอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเลี้ยง การประมง การปศุสัตว์ ซึ่งกระทรวงเกษตรได้ส่งเสริมอยู่ในขณะนี้ ทั้งในเรื่องของโครงการโคบาลชายแดนใต้ หรือโครงการโคเนื้อ หรือโคเนื้อลังกาสุกะก็ดี นี่คือสิ่งที่จะทำรายได้ให้กับเกษตรกร เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ ในเชิงโครงสร้างได้อย่างแท้จริงนั่นคือความยากจน"

'อลงกรณ์' มั่นใจประชาธิปัตย์คัมแบ็ค ประชาชนขานรับนโยบายธนาคารหมู่บ้านชุมชน2ล้านตอบโจทย์ใหญ่ 5 ข้อ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเงินสะพัด 4 ปี 3.6 ล้านล้านบาท

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความมั่นใจถึงอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นพรรคทางเลือกหลักของประเทศอีกครั้งหนึ่งด้วยผลงาน นโยบายและความสามารถในการบริหารที่พิสูจน์แล้ว4ปียุคอุดมการณ์-ทันสมัย”ทำได้ไว ทำได้จริง”โดยเฉพาะนโยบายธนาคารหมู่บ้าน-ธนาคารชุมชน 2 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการขานรับดีมากจากเวที”ฟัง คิด ทำ”ระดับหมู่บ้านและชุมชนเพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจและเป็นเมกกะโปรเจคทางเศรษฐกิจที่กระจายเม็ดเงิน 160,000 ล้านบาทลงไปถึงฐานรากคือหมู่บ้านและชุมชน 80,000แห่งใน77จังหวัดทั่วประเทศสามารถตอบโจทย์ 5 ข้อของประชาชนและประเทศได้แก่
1. แก้หนี้ แก้จน สร้างงาน สร้างเงิน สร้างอาชีพ
2. สร้างระบบการออมและสินเชื่อชุมชน
3. สร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้านและชุมชน
4. วางโครงสร้างระบบการเงินฐานรากใหม่
5. กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ

“เป็นครั้งแรกของประเทศที่มีการวางรากฐานของระบบสถาบันการเงินระดับหมู่บ้านและชุมชนในรูปแบบธนาคารหมู่บ้านและธนาคารชุมชนพร้อมกันทั่วประเทศ76จัวหวัดและกรุงเทพมหานครด้วยทุนประเดิมเริ่มต้นแห่งละ2ล้านบาทจำนวน 8 หมื่นหมู่บ้านและชุมชนคิดเป็นเงิน 160,000 ล้านบาทโดยในทางเศรษฐศาสตร์เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ5รอบซึ่งจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างน้อย 9 แสนล้านบาทต่อปี หรือ 3.6 ล้านล้านบาทใน 4 ปีแรกเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจและยังเป็นการวางรากฐานระบบการเงินใหม่ของประเทศในระดับฐานรากครอบคลุมทุกจังหวัด

‘สาธิต’ ชัดเจน!! ยังอยู่ ‘ประชาธิปัตย์’ เช่นเดิม พร้อมเปิดตัว ‘ทีมสาธิต’ ทำงานเพื่อ 8 จว.ตะวันออก

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.66) ที่หาดแหลมเจริญ จ.ระยอง นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมเปิดโยบายส่งเสริมศักยภาพจังหวัดภาคตะวันออก ภายใต้แนวคิด ‘คิดนำ ทำจริง’ ที่สอดคล้องกับการเป็นส่วนหนึ่งของ EEC พร้อมเปิดตัว ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคตะวันออก’ พรรคประชาธิปัตย์ ในนาม ‘ทีมสาธิต’

โดยนายสาธิต ขึ้นเวทีเปิดใจการเมืองท่ามกลางการจับตาไปที่ทิศทางการเมือง ว่า 20 ก.พ.เป็นวันที่เรานัดหมายกันผมทราบดีว่าคอการเมืองทั้งประเทศ กำลังติดตามว่าการตัดสินใจทางการเมืองของผมวันนนี้ซึ่งถือว่าเป็นวันสำคัญอย่างที่สุด 

ผมเรียนกับทุกท่านว่าสถานการณ์การเมืองปัจจุบันไม่ว่าผมจะอยู่พรรคการเมืองไหนมีคำถามมากมายทำไมต้องเป็น 20 ก.พ.จะย้ายพรรคหรือไม่ ถ้าย้ายไปอยู่พรรคอะไร มีสื่อสารมวลชนได้พยายามสื่อสารไปสร้างความสับสนให้กับคนทั้งประเทศรวมทั้งคน จ.ระยอง เป็นอย่างมาก บางสื่อบอกว่านายกช้าง (ปิยะ ปิตุเตชะ) ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย บางสื่อบอกว่าแบ่ง 2 คนลงอีกพรรคหนึ่ง แล้วอีก 3 คนจะลงอีกพรรคการเมืองหนึ่ง

“ผมไปที่ไหน บอกใครว่าไม่ย้ายพรรค คนเขาไม่เชื่อ เพราะเขาได้ซึมซับข้อมูลผ่านสื่อสารมวลชนที่เข้าเชื่อเกิดความลังเลขึ้นในสังคมเป็นจำนวนมากนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องบอกกับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศว่าผมจะต้องมีความชัดเจน และความชัดเจนนี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความลังเลใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่บนพื้นฐานของการตัดสินใจบนข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้านมีความจำเป็นอย่างที่สุดที่เราจะพยายามให้พี่น้องทั้งในพื้นที่จ.ระยองและพื้นที่ต่าง ๆ ได้เข้าใจสถานการณ์” นายสาธิต กล่าว

- ผนึก ‘ทีมสาธิต’ สู้เพื่อ 8 จังหวัดตะวันออก

นายสาธิต ยังกล่าวอีกว่า ผมทราบว่าทุกคนรอคอยคำตอบว่าผมจะตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญนี้อย่างไร ขอย้ำว่าการตัดสินใจของครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของเพื่อนร่วมทีม อยู่บนพื้นฐานของคนส่วนใหญ่ในจ.ระยอง คน จ.ระยอง ให้โอกาสผมมา 20 ปีเต็ม ผมไม่ตัดสินใจภายใต้ความคิดผม วันนี้จะมีความชัดเจนที่สุดและเราจะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ผมย้ำว่าผมร่วมตัดสินใจกับ ‘ทีมสาธิต’

“ผมอยู่ไหนไม่สำคัญเท่าทีมสาธิตจะทำอะไรให้กับคนภาคตะวันออก ทีมสาธิตจะทำอะไรให้กับคนประเทศนี้ และทีมสาธิตจะต้องทำอะไรให้กับ 8 จังหวัด โดยเฉพาะคนระยองที่ไว้วางใจผมมาตลอดระยะเวลา 20 ปี” นายสาธิตกล่าว

นายสาธิต ยังกล่าวว่า มีคำถามว่าทำไมตะวันออกต้องพิเศษ? ขอย้ำว่าไม่ได้หมายความว่าภาคอื่นไม่สำคัญ ทุกภาคมีความสำคัญ แต่ภาคตะวันออกสำคัญที่สุดมันจึงต้องพิเศษกว่าที่อื่น ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นบ้านหลังหนึ่งพื้นที่ตะวันออกเปรียบเสมือนห้องครัวของบ้านหลังนั้น 

คนภาคตะวันออก 8 จังหวัดมีอัตราการเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งสูงขึ้น ขณะที่การลงทุนของบีโอไปในพื้นที่ EEC 3.8 แสนล้านบาท มีภาษีที่เก็บไปเลี้ยงคนทั้งประเทศจุด 5 ของจีดีพีของประเทศ แต่คนที่นี่กลับได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนา การถมทะเล การทำท่าเรือแต่เราไม่สามารถปฏิเสธการพัฒนาได้  

ฉะนั้นประชาชนที่อาศัยใน 8 จังหวัดจะต้องได้รับการดูแลดีกว่าที่อื่นให้สมกับที่แบกรับผลกระทบ เหล่านี้คือสิ่งที่ทีมสาธิตจะร่วมกันเรียกร้องถ้าเป็นรัฐบาลต้องทำให้ได้ที่สำคัญจะต้องทำให้ภาคการลงทุนมาช่วยประชาชน เกษตรกร และผู้ที่ไม่มีงานทำ

วันนี้ข้อเสนอต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควรทั้งปัญหาช้าง ปัญหาผลไม้ รวมถึงคุณภาพชีวิตแต่ต้องทำให้ได้ภายใต้ ‘ทีมสาธิต’

>> ชูธง ‘ระยอง’ เป็นจังหวัดจัดการตนเองเป็นแห่งแรก ดัน ‘เลือกตั้งผู้ว่าฯ’

นายสาธิต กล่าวว่า “ถ้าผมได้กลับไปเป็นรัฐบาลภายใต้ทีมสาธิต สิ่งที่จะต้องทำคือเก็บภาษีส่วนกลางกลับมาที่บ้านเราให้มากกว่านี้ นั่นคือจังหวัดจัดการตัวเอง ‘ทีมสาธิต’ ต้องทำและอาจนำไปสู่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ผ่านประชาชนจังหวัดแรก จังหวัดที่ 2 และจังหวัดที่ 3 ต้องเกิดขึ้นให้ได้ภายในพื้นที่ 8 จังหวัด” 

นายสาธิต ยังกล่าวต่อว่า ผมยืนยันว่าคนที่ยืนอยู่กับผมวันนี้ไม่มีสีเทา ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าภายใต้ทีมสาธิตเพื่อแก้ไขปัญหาคนภาคตะวันออก โดยชี้แจงให้คนทั้งประเทศเห็นว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติ 

“สถานการณ์การเมืองวันนี้ผมมีความกดดันสูงมากมันเป็นรอยต่อของการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ทางการเมืองหลายปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ผ่านมาพรรคการเมืองอ่อนแอทุกพรรค การเมืองอ่อนแอหมด ผมไม่แน่ใจว่ามีความตั้งใจหรือมันเกิดโดยธรรชาติ แต่ผมย้ำกับทุกท่านว่า ในฐานะที่ท่านไว้ใจผม ท่านทราบดี หลายคนที่มานั่งฟังรู้จักผมดี การเมืองสุจริตของผมย้ำกับทุกท่านว่านักการเมืองที่ชื่อสาธิตได้รับการเลือกตั้งจากพี่น้องคนระยองโดยไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงแม้แต่บาทเดียว” นายสาธิต กล่าว

‘เฉลิมชัย’ ผุดไอเดียเพิ่มมูลค่ายางพาราไทย สู่ตลาด Sex Toy - Made in Thailand

ไม่นานมานี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

‘Sex Toy - Made In Thailand’ กอบกู้ ‘ยางไทย’ เพิ่มมูลค่า #น้ำยางไทยดีที่สุดของโลก เพื่อกู้ราคายางในไทย

วันนี้เราต้องกล้าตัดสินใจ แปรรูปยางเข้าสู่ตลาด Sex Toy เพื่อทำกำไรเข้าประเทศ และไม่ใช่แค่เรื่องลามกจกเปรต แต่เป็นเรื่องของ ‘สุขภาวะทางเพศ’

ในปี 2021 ที่ผ่านมา ตลาด Sex Toy ทั่วโลก มีขนาด 1.3 ล้านล้านบาท!

ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2016 ตลาด Sex Toy เติบโตขึ้น 300% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ในปี 2030

นิพนธ์ - เดชอิศม์ -ไพเจน นายก อบจ. จับมือ สจ. หนุน ปชป.พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งสงขลา

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้งพรรคปชป. ประชุมร่วมกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และสมาชิกสภาอบจ.สงขลา 28 คน ประกาศจุดยืนเตรียมความพร้อมหนุน พรรคปชป.สู้ทุกเขตเลือกตั้ง ณ บ้านพักเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา

ทั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการเตรียมการเลือกตั้งที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคปชป. ผนึกกำลัง 3 ฝ่าย จับมือกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคปชป.ภาคใต้ ร่วมกับนายไพเจน มากสุวรรณ์ และสมาชิกสภา อบจ.สงขลาทั้ง 28 คน ในการเตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ และพร้อมลงช่วยเหลือผู้สมัครของพรรคปชป.ทุกเขตเลือกตั้ง

ซึ่งนายนิพนธ์กล่าวช่วงหนึ่งว่า วันนี้ผมอยากเห็นพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทั้งหมด ผนึกกำลังรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้ง เพื่อเป้าหมายสู่ชัยชนะการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดสงขลาทั้ง 9 เขต ของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจึงอยากให้ท่านสมาชิกสภา อบจ.สงขลาทั้ง 28 คนที่มาร่วมประชุม ได้ติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งในพื้นที่ของตนเอง เพื่อทำการประมวลผล อันจะนำมาซึ่งการพิจารณาหาแนวทางการทำงานของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในแต่ละเขตเลือกตั้ง ว่าขณะนี้ผู้สมัครแต่ละเขตกำลังเดินไปในทิศทางใด เพื่อจะนำปัญหาทั้งหมดมาร่วมกันแก้ไขต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top