Tuesday, 7 May 2024
ประชาธิปัตย์

'ชวน' ขอบคุณ 'สุเทพ' ยันไม่คิดหวนเป็นหัวหน้าพรรคอีก ยัน!! ยังช่วยพรรคเต็มที่ พร้อมหนุน 'จุรินทร์' กอบกู้ ปชป.

(2 พ.ค.65) ที่รัฐสภา คุณชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. เสนอให้นายชวน กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า ตนไม่มีความคิดที่จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค เพียงแต่พยายามที่จะช่วย โดยส่วนตัวตนเป็นหนี้บุญคุณพรรค เพราะในฐานะเป็นนักการเมืองมาจากพื้นฐานชาวบ้านคนหนึ่ง 

"เราไม่มีพื้นฐานความมั่งมี ร่ำรวย ครอบครัวใหญ่โต แต่เรามีโอกาสได้เพราะพรรคปชป. ไม่ว่าสถานการณ์ของพรรคจะขึ้นหรือลงก็ตามไม่มีความทิ้งพรรค มีแต่จะคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะช่วยกันภายใต้การดูแลของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป. ต้องยอมรับว่าตอนเลือกหัวหน้าพรรค ตนและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยทำให้นายจุรินทร์ชนะและสามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้

"เมื่อเลือกเข้ามาแล้ว ก็พยายามช่วยประคับประคองให้เขาทำงานได้ ซึ่งเข้าใจดีว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีความคิดที่แตกต่างและมีการแข่งขันสูงในตอนเลือกหัวหน้าพรรค จึงทำให้ผู้ร่วมแข่งขันลาออกไปหลายท่าน ซึ่งทรัพยากรคนเหล่านั้นน่าเสียดาย แต่พรรคต้องอยู่ และประสบการณ์นี้เราก็เคยผ่านมาแล้วที่มีคนตั้งพรรคใหม่บ้างมากมาย แต่เชื่อว่าความดีงามของพรรค ความยั่งยืนยาวนาน และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและในระบบรัฐสภา ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และยึดถือเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตเรื่องกฎหมายความยุติธรรม กฎหมายที่เข้มงวด กวดขัน ตรงไปตรงมา"

คุณชวน เผยอีกว่า "ทั้งหมด คือ สิ่งที่ทำให้พรรคอยู่รอดมาได้อย่างยาวนาน 70 กว่าปี ซึ่งไม่ง่ายนักที่พรรคการเมืองเจริญได้ยาวอย่างนี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องช่วยกันประคับประคองต่อไปเพราะเข้าใจดีว่าสมัยนี้หลายท่านก็มีความรู้สึกที่ไม่พอใจหัวหน้าบ้าง หรือมีความรู้สึกเป็นห่วง วิตกกังวลในการเลือกต้งครั้งต่อไปบ้าง ก็เข้าใจดีแต่พยายามให้กำลังใจทุกคนว่าเมื่อมีปัญหาต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ อย่าซ้ำเติมให้พรรคยิ่งลำบากขึ้น ดีที่ว่าบรรดาเพื่อนๆ ส่วนใหญ่เข้าใจและมาหารือกัน

"หลายคนมาหารือว่าตนพอจะไหวไหม หากให้มารักษาการสักพักหนึ่ง ตนตอบว่า ไม่มีความคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ แต่จะช่วยเท่าที่สามารถทำได้ ภายใต้กฎเกณฑ์กติกาที่เรามี โดยทั่วไปนายจุรินทร์ก็ไม่ธรรมดา เป็นคนเก่งคนหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดถึงแม้จะมีความคิดที่แตกต่างกันบ้างก็ตาม แต่ความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งเป็นหัวใจของพรรคปชป. ก็ยังคงยึดมั่นอยู่ แต่การทำงานอาจถูกใจบ้างหรือไม่ถูกใจบ้าง ก็พยายามให้กำลังใจแต่ก็ต้องยอมรับว่า หากมีอะไรที่สมาชิกไม่พอใจต้องพยายามทำความเข้าใจ อย่าเฉย นี่คือสิ่งที่ตนพยายามเตือน"

'พาณิชย์' ชงแก้อาหารสัตว์แพง เว้นมาตรการ 3 ต่อ 1 เปิดนำเข้าข้าวโพด 6 แสนตัน

'จุรินทร์' เป็นประธานการประชุม นบขพ. และคณะกรรมการนโยบายอาหาร มีมติผ่อนปรนมาตรการ 3 ต่อ 1 เพิ่มโควตานำเข้าข้าวโพดเป็น 6 แสนตัน ลดภาษีเหลือ 0% ชั่วคราว 3 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ พร้อมทำเรื่องเสนอ ครม. อนุมัติทันที 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) และคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ 1/2565 ว่า ที่ประชุมได้มีมติในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยยกเว้นเงื่อนไขที่กำหนดไว้เดิม ในการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน (มาตรการ 3 ต่อ 1) เป็นการชั่วคราวก่อน คือ ระหว่างเดือนพ.ค.-31 ก.ค.2565 ซึ่งเป็นการผ่อนปรนมาตรการที่กำหนดไว้เดิมในการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดในประเทศ 

ทั้งนี้ ยังได้อนุมัติเพิ่มโควตานำเข้าข้าวโพดภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) จากเดิมให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าไม่เกิน 54,700 ตัน เป็นให้ อคส. และผู้นำเข้าทั่วไปนำเข้าได้ ปริมาณ 600,000 ตัน ภายในเดือนพ.ค.-31 ก.ค.2565 โดยลดภาษีนำเข้าข้าวโพดจากอัตรา 20% เป็น 0% เป็นการชั่วคราว ในช่วง 3 เดือนนี้ และกระทรวงพาณิชย์จะช่วยจัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ให้เพียงพอในประเทศในช่วง 3 เดือนนี้ด้วย

สำหรับการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้ง 3 ช่องทาง ทั้งจากการผ่อนปรนมาตรการ 3 ต่อ 1 การนำเข้าภายใต้ WTO และการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน กำหนดปริมาณไว้รวมกันจะต้องไม่เกิน 1,200,000 ตัน ซึ่งรวมข้าวบาร์เลย์ด้วย และให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย เพื่อติดตามประเมินการผลดำเนินการทั้งหมด โดยสามารถเสนอให้ทบทวนหรือปรับปรุงมาตรการต่อไปได้เพื่อความเหมาะสม

นายจุรินทร์กล่าวว่า มติแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ดังกล่าว จะดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป คาดว่า เร็วสุดน่าจะเป็นวันที่ 3 พ.ค.2565 เพราะต้องเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลน เพื่อให้มีวัตถุดิบเพียงพอในการผลิตอาหารสัตว์ป้อนให้กับผู้เลี้ยงสุกร ไก่ ไข่ไก่ และไม่ให้กระทบต่อราคาเนื้อสัตว์ปลายทางถึงผู้บริโภค

‘เพชร กรุณพล’ ลั่น อย่าใช้มาตรฐานปชป.ตัดสิน หลัง ‘บุญยอด’ โจมตี ‘พิธา’ หาเสียงเกินจริง

‘เพชร กรุณพล’ สวน ‘บุญยอด’ อย่าใช้มาตรฐาน ปชป.ตัดสิน หลังโจมตี ‘พิธา’ หาเสียงเกินจริง ย้ำ 4 นโยบายก้าวไกล ถ้าเป็นรัฐบาลทำได้ทันที 

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในเรื่อง 4 นโยบายที่สามารถทำได้ทันที หากได้เป็นพรรคใหญ่ในรัฐบาล ได้แก่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า และรัฐสวัสดิการ เป็นการหาเสียงเกินจริงและไม่สามารถทำได้ตามใจหรือทันที ว่า นายบุญยอดคงตัดสินจากมาตรฐานพรรคที่ตนเองสังกัด ซึ่งต้องอาศัยอำนาจนอกระบบหรืออำนาจจากเผด็จการให้ตัวเองได้เป็นรัฐบาล จึงไม่สามารถมีนโยบายที่ยึดโยงกับประโยชน์ของประชาชนออกมาได้ แม้กระทั่งการหาเสียงก็ต้องโกหกประชาชนว่าจะไม่ร่วมกับเผด็จการ แต่สุดท้ายก็ไปโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้มีตำแหน่งในรัฐบาล แต่พอมีอำนาจกลับไม่สนใจที่จะแก้ไขกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมและฉุดรั้งไม่ให้ประเทศนี้มีการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเสมอภาคเป็นธรรมและทั่วถึง คอยอุ้มแต่ทุนใหญ่ ทั้งที่เป็นผู้ดูแลกระทรวงสำคัญ ได้แก่ กระทรงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายกรุณพล กล่าวต่อว่า การกล่าวหาว่านายพิธาไม่เข้าใจการแก้ไขกฎหมายในระบบรัฐสภา นายบุญยอดจะเอามาตรฐานพรรคตัวเองมาตัดสินพรรคอื่นไม่ได้ เพราะพรรคเสียงข้างมากในสภาที่มีเจตจำนงทางการเมือง ย่อมมีความสามารถพอในการแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสมัยที่พรรคของนายบุญยอดเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก จึงไม่สามารถแก้กฎหมายหรือผลักดันนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนได้เลย เพราะไม่เคยคิดชนะการเลือกตั้งด้วยนโยบาย จนในที่สุดประชาชนเสื่อมศรัทธา ความนิยมตกต่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน ต้องเผชิญกับปัญหาความวุ่นวายภายในพรรค ทำให้มีแต่คนเดินออกเป็นว่าเล่นดังทุกวันนี้

‘พนิต’ วอนหยุดปั่นกระแสเลือก ‘แพ็คคู่’ ยัน พรรคส่งส.ก.แต่ไร้ผู้ว่าฯกทม. ทำงานได้

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว Panich Vikitsreth - พนิต วิกิตเศรษฐ์  เรื่อง ‘พูดให้ครบอย่าหลอกคนกรุงเทพฯ ส่งส.ก.ไร้ผู้ว่าฯกทม.ทำงานได้’ ว่า หลังจากอธิบายประเด็นผู้ว่าฯ กทม.อิสระ โดยไม่มีส.ก.พ่วงท้ายสามารถทำงานได้ในโพสต์ที่ผ่านมา ส่วนโพสต์นี้ ผมในฐานะอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ที่มีประสบการณ์ตรงกับการทำงานในฝ่ายบริหารกทม.และ สภาฯ กทม. ขออธิบายถึงบทบาทของส.ก.สังกัดพรรค และไม่ส่งผู้ว่าฯ กทม.ของตัวเอง จะสามารถทำงานได้หรือไม่

หลังมีผู้ออกมาแสดงความเห็นว่า ‘ไม่สามารถทำงานได้’ ในขณะที่สนามเลือกตั้งกทม.ครั้งนี้หลังห่างหายไป 9 ปี มีหลายพรรคการเมืองที่ส่งส.ก.แต่ไม่ส่งผู้ว่าฯกทม. เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยยูไนเต็ด และพรรคกล้า เป็นต้น

ประเด็นดังกล่าวนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เปรียบดังเหรียญที่มีสองด้าน ส่วนข้อดี หากพรรคการเมือง ส่งส.ก. และ ผู้ว่าฯกทม. คือทำงานเป็นทีม และผลักดันนโยบายต่างๆ ตามที่หาเสียงไว้ ทำนอง ‘น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า’ และสมมุติว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทั้งผู้ว่าฯกทม. ส.ก. และ พรรคการเมืองจะต้องร่วมรับผิดชอบ จะชิ่งหนีเอาตัวรอดไม่ได้

แต่ก็มีข้อเสียที่สังคมอาจไม่รู้ คือผู้ว่าฯกทม. จะมีความเกรงใจจาก ส.ก.บางคนในพรรคเดียวกันเพราะอาจถูกเครมว่าได้ตำแหน่งมาเพราะพวกเขา รวมทั้งการครอบงำ และแรงกดดันต่าง ๆ จากพรรคการเมือง และนักการเมือง

ขณะเดียวกันระบอบการตรวจสอบอาจเป็นแบบขอไปที และบางเรื่องอาจถูกสังคมมองว่าเอื้อประโยชน์ และต่างตอบแทนซึ่งกันและกันเพราะเป็นพวกพ้องที่มาจากพรรคการเมืองเดียวกัน จึงละเว้นการตรวจสอบกันเองใช่หรือไม่

แตกต่างจาก ส.ก. ที่ไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. จะช่วยทำงานในศาลาว่าการกทม.โปร่งใส เพราะมีกระบวนการตรวจสอบกันและกันอย่างเข้มข้น ไม่ต้องกังวลหรือติดค้างอะไรกัน ภายใต้กลไกการทำงานในสภาฯกทม.

'เฉลิมชัย' เดินหน้าพัฒนาเกษตรอีสาน มอบ 'อลงกรณ์' คิกออฟงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ

'เฉลิมชัย' เดินหน้าพัฒนาเกษตรอีสานมอบ 'อลงกรณ์' คิกออฟงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติโชว์เทคโนโลยีอัจฉริยะและนวัตกรรมลดต้นทุนการผลิต เพิ่มศักยภาพชาวนาวิถีใหม่พร้อมมอบที่ทำกิน สปก.กว่า 200 ครัวเรือน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวระดับเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิดงาน “๙๐ พรรษา ชาวนาวิถีใหม่ ๙ ไกลด้วยพระบารมี” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 25 มิถุนายน 2565 โดยมีนางสาวนนทิชา วรรณสว่าง รองอธิบดีกรมการข้าว นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมการข้าว นายทินกร อ่อนประทุม นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เข้าร่วม ณ ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว จัดงานดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านข้าวแก่ชาวนาและผู้สนใจทั่วไป นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตข้าว รวมถึงผลงานของกรมการข้าวด้านอื่น ๆ ที่ดำเนินการในรอบปีที่ผ่านมา โดยให้ความสำคัญด้านการวางแผนการผลิต ระบบการผลิต และการบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงแก่ชาวนา รวมทั้งเป็นการเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวนา ในฐานะผู้ผลิตอาหารหลักให้กับประชาชนทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นช่องทางให้ชาวนาได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์กับหน่วยงานราชการ เอกชน และชาวนาด้วยกัน

“การจัดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวฯ ถือเป็นการแสดงวัฒนธรรมด้านข้าว ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างการเรียนรู้ของเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตข้าวให้เหมาะสม ทำให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งในการที่จะเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวของชาวนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ตามหลักการพึ่งพาตนเอง และทำให้อาชีพการทำนามีความยั่งยืน ก่อให้เกิดความมั่นคงแก่เกษตรกรต่อไป” นายอลงกรณ์ กล่าว

‘เฉลิมชัย’ มั่นใจ ‘ปชป.’ เสียงไม่แตก โหวตหนุน ‘นายกฯ-รมต.’ เต็มที่

จากกรณีก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ (18 กรกฎาคม 2565) ในการประชุมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.บัญชีราย พรรคประชาธิปัตย์ แจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบว่าจะขอใช้สิทธิ์ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคบางคนนั้น 

ล่าสุด (19 ก.ค.65) ที่รัฐสภา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความมั่นใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า “คะแนนเสียงไม่มีปัญหา”

'อนุทิน' โต้กลับ!! ไม่เคยด้อยค่า 'จุรินทร์' ลั่น!! สอนลูกพรรคเสมอให้ทำเพื่อปชช.

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่จ.กระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกรณีพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุอย่าด้อยค่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า...ไม่มี เราไม่เคยด้อยค่าใครอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ถูกกระทำมาโดยตลอด เราไม่เคยไปฟ้องร้องหรือทำอะไร หรือให้ร้ายกับคู่แข่งเลย มีแต่เราถูกคู่แข่งให้ร้ายว่ากล่าว และถูกฟ้องร้องตกเป็นจำเลยด้วยซ้ำ มาวันนี้ยังถูกกล่าวหาว่าขนอสม.มา ทั้งที่ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย เรามาทำงาน มาเสนอนโยบาย ให้กับประเทศชาติ ไม่เคยไปท้าตีท้าต่อยกับใครอยู่แล้ว 

‘ปชป.-ภท.’ เปิดศึก 4 ตระกูลดังถือหางคนละข้าง ‘เกี่ยวข้อง-ภูเก้าล้วน-กิตติธรกุล-เอ่งฉ้วน’

58 ที่นั่งส.ส.ของภาคใต้ หลายพรรคการเมืองจดจ้องจองเก้าอี้ ทั่งรักษาฐานเดิม และขยายฐานจากเดิมที่มีอยู่แล้ว ฐานเดิมประชาธิปัตย์เคยยึดครองมาเกือบทั้งภาคมาแล้ว แต่การเลือกตั้งปี 2562 มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย เข้ามาเบียดแทรก เจาะฐานประชาธิปัตย์ไปบางเขต เช่น ที่สงขลา พัทลุง สตูล หรือกระบี่ เป็นต้น

พรรคภูมิใจไทยฮึกเหิมหนัก หมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องได้ สส.มากกว่าเดิม ตีความได้ว่าเป็นการรุกเข้าไปในฐานของประชาธิปัตย์นั้นเอง และหรือรุกฆาตเข้าไปยังพื้นที่ของพลังประชารัฐที่กำลังอยู่ในภาวะอ่อนกำลัง คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่มานานร่วม 8 ปี ก็เริ่มถดถอย

เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565 อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และโกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ นำทัพหลวง หิ้วแม่ทัพใต้ ยกทีมไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ทั้ง 3 เขต ที่ลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่
 
การเลือกตั้งปี 2562 กระบี่ มี ส.ส. 2 คนคือ เขต 1 สาคร เกี่ยวข้อง พรรค ปชป. ส่วนเขต 2 สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง พรรคภูมิใจไทย  สมัยหน้า กระบี่ จะมี ส.ส.เพิ่มเป็น 3 คน พรรคภูมิใจไทย ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไว้เรียบร้อยแล้ว
 
เขต 1 โกหนึ่ง-กิตติ กิตติธรกุล เลขานุการนายก อบจ.กระบี่, เขต 2 สจ.ม้อ-ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ  อดีต ส.อบจ.กระบี่ เขต อ.อ่าวลึก และเขต 3 โกสุทธิ์-สฤษฏพงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ โดยมีท่านขุน เอ่งฉ้วน รองนายกฯอบจ.กระบี่ เป็น สส.บัญชีรายชื่อ
 
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ไว้แล้วเช่นกัน ได้แก่เขต 1 โกเคี่ยง ธนวัช ภูเก้าล้วน ลูกชายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่, เขต 2 สาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ และเขต 3 พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลูกสาวพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล 

แม่ทัพตัวจริงของภูมิใจไทย เมืองกระบี่คือ โกหงวน- สมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ 7 สมัย สหายร่วมรบของเนวิน ชิดชอบ
 
หนที่แล้ว โกหงวน ตั้งเป้าปั้น สฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง เป็นหัวหอกในการเจาะฐานเสียง ปชป. และโกสุทธิ์ทำได้สำเร็จ เอาชนะสุชีน เอ่งฉ้วน พรรค ปชป.ไปได้
 
ดูรายชื่อขุนพลทั้ง ปชป. และภูมิใจไทย รับประกันว่า สมัยหน้าสนามกระบี่ดุเดือดเลือดพล่านแน่นอน สายภูมิใจไทย ก็จะมี “ตระกูลเกี่ยวข้อง-กิตติธรกุล-เอ่งฉ้วน” เป็นกลไกขับเคลื่อน

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็มี “ตระกูลภูเก้าล้วน-เกี่ยวข้อง-เอ่งฉ้วน” เป็นมือไม้สำคัญ งานนี้ จุรินทร์-นิพนธ์-เดชอิศม์” จะต้องทำงานหนักเพื่อรักษา และขยายฐานไปสู่เป้าหมาย 35 ที่นั่งให้ได้

'คนเพื่อไทย' เย้ย ภท.-ปชป. หยุดโม้กวาด ส.ส.ใต้ แนะ!! ไปทำตามสัญญาที่ให้ปชช. ให้ได้ก่อน

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นพ.ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ อดีตนายกฯ อบจ.ภูเก็ต และประธานคณะทำงานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ต่างประกาศจะยึดเก้าอี้พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งหมดนั้น ตนอยากบอกว่า ขอให้ลืมไปได้เลย เพราะในปัจจุบันเท่าที่ทำหน้าที่ประสานงานให้พรรค พท. และลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้ทราบว่า ประชาชนไม่เอาด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีของพรรค ภท. ขณะที่พรรค ปชป. ก็ไม่มีผลงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนเลย ทำให้กระแสตกลงอย่างต่อเนื่อง

นพ.ประสิทธิ์กล่าวต่อว่า ท่านอย่าเพิ่งพูด หรือคาดหวังไปก่อนโดยเหมารวมเอาเองว่าพี่น้องประชาชนชาวใต้ฝั่งอันดามันจะให้คะแนนเสียงพวกเราให้ท่านเหมือนอดีต เพราะท่านอาจจะผิดหวังได้ วันนี้คนใต้ลำบากกันมาก ราคายางตกลงอย่างต่อเนื่อง หลายครอบครัวเริ่มเป็นหนี้หนัก เมื่อทั้ง ภท. และ ปชป.ประกาศกวาดเก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้ ภายใต้ภาวะที่ท่านเป็นรัฐบาล แต่ไม่ได้มีนโยบาย หรือแนวทางที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวใต้ให้กลับมาตั้งหลักได้อีกด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดพี่น้องประชาชนภาคใต้ต้องเลือกท่านกลับมาอีก

'รองโฆษกภท.' ซัด!! 'วัชระ' ดีแต่เสี้ยมให้ภท.-ปชป. ตีกัน ย้ำ หาเสียงสงขลาเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ปชช.

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หยิบยกคำปราศรัยหาเสียงของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยประกาศตอกเสาเข็มที่จังหวัดสงขลา โดยกล่าวหาเป็นพฤติกรรมที่ไม่เกรงใจพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากเป็นนักการเมืองมืออาชีพจะมองออกว่า การปราศรัยในทางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ ที่แต่ละพรรคจะงัดกลยุทธ์ออกมาเรียกคะแนนนิยมให้กับตัวเอง ที่สำคัญสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยนำมาปราศรัย ทั้งนโยบายและผลงานในโครงการที่ทำสำเร็จ ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่ประชาชนในพื้นที่จับต้องได้ อาทิ โครงการสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาเชื่อมจังหวัดพัทลุง และการวางแผนพัฒนาการขนส่งทุกระบบของสงขลา ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ เหล่านี้ทำให้พรรคกล้าที่จะประกาศอาสาตัวเข้ามาทำงานพัฒนาพื้นที่ เพราะพรรคภูมิใจไทย 'พูดแล้วทำ' ไม่ใช่เพียงวาทกรรมที่สวยหรูดังที่นายวัชระกล่าวหา 

นายณัฏฐ์ชนน กล่าวต่อว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยปราศรัย ไม่ใช่พฤติกรรมอหังกา แต่เพียงแค่อยากมีพื้นที่เข้าไปทำงานให้กับชาวปักษ์ใต้ จึงอาสาตัวเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อให้การพัฒนาภาคใต้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งการแข่งขันกันทำประโยชน์ให้กับประชาชนถือเป็นเรื่องดี เพราะชาวสงขลาพร้อมเปิดรับทุกพรรคการเมืองที่จะเข้ามาทำการเมืองอย่างสร้างสรร สู้ตามเกม กติกา และเป็นสิ่งที่นายวัชระควรนำไปดำเนินการในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับชาวบ้าน พร้อมขอให้นายวัชระเอาตัวเองให้รอดในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยไม่ต้องกังวลกับพื้นที่อื่นจนเกินไป เพราะท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

"ผมขอร้องนายวัชระอย่าทำตัว 'ชังกั้ง' หรือทำตัวไม่เข้าท่า ไม่ได้เรื่องได้ราว เสี้ยมให้คนสงขลาทะเลาะกัน วัน ๆ ไม่ทำงาน เอาแต่หาเรื่องให้พรรคต้นสังกัด และขอนายวัชระอย่าได้กังวลใจกับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาระดับแกนนำพรรคและ ส.ส. สงขลา ได้พูดคุยกันมาตลอด ซึ่งทุกคนเข้าใจดีถึงบทบาททางการเมือง มีเพียงนายวัชระที่อาจจะยังไม่เข้าใจ และยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตัวเองออกมาพูดในสถานะอะไร อีกทั้งผมเชื่อว่าคนในพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นานวัชระพูด ในฐานะคนสงขลา ขอให้นายวัชระถอนคำพูดที่กล่าวหาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย" นายณัฏฐ์ชนน กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top