Wednesday, 8 May 2024
ประชาธิปัตย์

‘สาทิตย์’ รับ!! สะพัด ‘ชวน’ ชวดลงสมัคร สส. หนาหู ชี้!! หากเป็นจริง กระทบความนิยม ปชป.ภาคใต้แน่

(12 เม.ย. 67) ที่บ้านวงศ์หนองเตย ถ.เทศบาล 5 อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ 7 สมัย และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรัง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่มีการพูดกันหน้าหูในคนใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันว่า คุณชวน หลีกภัย จะไม่ได้ลงสมัคร สส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ เรื่องนี้นายสาทิตย์ กล่าวว่า ก็หนาหูมาก ซึ่งตนเองก็ไม่สามารถไปตอบคำถามอะไรได้ เพราะเราไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับท่านชวน ถ้าเกิดท่านอยากจะลงแต่ว่าด้วยเหตุผลกลใดที่ไม่ได้ลง ตนมองว่ามีผลกระทบต่อความนิยมต่อพรรคประชาธิปัตย์ใน จ.ตรัง และภาคใต้แน่นอน เพราะต้องตอบให้ได้ว่าท่านทำผิดอะไร ที่กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ตัดรายชื่อนายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นทั้งอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเคยเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ออกจากผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งหน้า

ในส่วนการเมืองท้องถิ่น ที่มีกระแสข่าวว่าตนเองมีความสนใจนั้น จริง ๆ ตนเองสนใจเรื่อง อบจ.ตรัง หลายครั้งที่มีส่วนเข้าไปช่วยหาเสียงตั้งแต่ยุคสมัย นายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง พี่ชายนายชวน หลีกภัย ลงรับสมัคร เพราะตนมองว่า อบจ.เป็นจักรกลใหญ่ ที่เป็นตัวแทนคนตรังในการพัฒนาจังหวัด ครั้งที่แล้วนายสาธร วงศ์หนองเตย น้องชายตน ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.ตรัง แต่ด้วยรัฐธรรมนูญ ตนไปช่วยหาเสียงไม่ได้ ก็น่าเสียดาย เลยได้ อบจ.ชุดใหม่มา ตอนนี้เป็นความกังวลมีการพัฒนามา 3 ปีกว่าแล้ว แต่ตรังเรายังไปไม่ถึงไหนเลย และตามที่ อบจ.ตรัง ประกาศนโยบายเอาไว้ตั้งหลายข้อ ก็ยังมีคนถามว่าทำครบหรือยัง นอกเหนือจากถนนหนทางที่ทำกันไปทุกที่ โดยภาพรวมเราเทียบ จ.ตรัง กับจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.กระบี่ โกอินเตอร์ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวติดอันดับโลก ขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าตรัง อบจ.เขามีบทบาทสูงมากในการพัฒนาขึ้นมาได้ขนาดนี้ ส่วน จ.พัทลุง เขาไม่มีทะเลแต่ทุกวันนี้หาตัวตนพบ คน จ.ตรัง ขับรถพาพ่อแม่ลูกเมียไปเที่ยว จ.พัทลุง แล้ว จ.ตรัง เรามีจุดขายอยู่แค่เพียงชายหาดปากเมง ในส่วนแลนด์มาร์คอื่น ๆ ระยะเวลา 3 ปีกว่าตนยังไม่เห็นว่า อบจ.ตรัง จะทำให้ตรังเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศหรือทั่วโลก ส่วนเกาะกระดานนั้นมีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวมาเที่ยวอยู่แล้ว

ถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนตัวผู้บริหาร อบจ.ตรัง ที่มีวิสัยทัศน์ มองไปข้างหน้า ทำให้ตรังเศรษฐกิจเติบโต เพราะศักยภาพเรามีเยอะ มีทั้งทะเล ป่าไม้ ภูเขา มีทั้งประวัติศาสตร์ ของกิน อาหารที่โด่งดัง แต่เหมือนว่าเราไปไม่ถึงไหนสักที มันเป็นเพราะกลไกของ อบจ. ของจังหวัด ไม่ได้จับมือกัน ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตรังนั้นเติบโตหรืออย่างไร ตนคิดว่าที่สนใจคือใครจะมาลง ถ้ามีคนดีมาลงแล้วตนเห็นว่ามีแนวคิดที่ดีทำให้เศรษฐกิจตรังมันก้าวหน้า และเป็นการทลายการเมืองอิทธิพลในตรังตนจะสนับสนุน ซึ่งตนเองยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะลงด้วยตัวเอง ตอนนี้ก็พยายามกับพรรคพวกหลายฝ่ายหลายกลุ่มเฟ้นหาตัว หรือพยายามสดับรับฟังว่าใครที่จะสมัครลงเป็นนายก อบจ.ตรังบ้าง ก็บอกว่าถ้าเจอคนที่ดี ตั้งใจ มีวิสัยทัศน์ ทำให้ตรังเติบโตก้าวหน้าเศรษฐกิจดีขึ้น ชาวตรังอยู่ดีกินดีตนพร้อมที่จะสนับสนุน

ส่วนตัวหลังลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ยังไม่ได้คิดจะวางมือ ก็ยังอยู่ในแวดวงการเมือง ตั้งใจจะทำหน้าที่เป็นนักการเมืองของประชาชนต่อไป แม้จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังพูดคุยกับ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณกรณ์ จาติกวณิช และอีกหลายคน ต่างก็มีความเห็นร่วมกันว่า การเมืองยุคนี้เป็นการเมืองยุคฮั้วข้ามค่ายข้ามพรรค เป็นไปได้อย่างไรที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม นิยมทหารกับระบอบทักษิณจับมือกันตั้งรัฐบาล ซึ่งลักษณะนี้มันมีความรู้สึกว่ามันเหมือนกับมีดีลลับจริง ๆ แล้วก็ถ้ามีลักษณะแบบนี้ภาพที่เราเห็นก็คือมีความพยายามที่จะทำให้ฝ่ายค้านมีบทบาทน้อยที่สุด อย่างที่คุณทักษิณ เคยทำมาสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 หรือจะเป็นครั้งแรกก็ตาม

เพราะฉะนั้นข่าวเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ข่าวเรื่องจะดึงพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นรัฐบาล ก็สะท้อนให้เห็นเจตนาของรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่าคนที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลก็คือคุณทักษิณ ที่พยายามทำให้ฝ่ายค้านอ่อนแอ คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน เพราะจะกลายเป็นว่าชนชั้นอภิสิทธิชน ประสานผลประโยชน์กันได้แล้วก็ฮั้วจับมือกัน พรรคประชาธิปัตย์เองถูกชวนไปร่วมรัฐบาลก็ไม่เห็นปฏิเสธอย่างแข็งขัน ฝ่ายค้านเองกรณีคุณทักษิณไม่ติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว ตนก็ไม่เห็นว่าจะทำหน้าที่อย่างแข็งขันในสภา ก็มีแต่ คุณสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา พูดชัดเจนมากเรื่องการปกป้องระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศ เพราะฉะนั้นกลุ่มของเราก็คิดว่าถ้าการเมืองยังฮั้วกันอยู่แบบนี้ ประชาชนก็ยังจะถูกหลอกอยู่ร่ำไป

หากถามว่าคิดอย่างไรกับพรรคก้าวไกลในภาคใต้ ตนมองว่าเลือกตั้ง ปี 66 ที่ผ่านมา พื้นที่ภาคใต้ก้าวไกลมาเป็นที่ 1 ส่วน จ.ตรัง พรรคก้าวไกลคะแนนก็มาเป็นอันดับ 1 สะท้อนความรู้สึกของคนอยู่หลายทางเหมือนกันว่าอาจจะเห็นว่าพรรคการเมืองอื่นไม่สามารถเป็นที่พึ่งหวังได้ ก็มีแต่พรรคก้าวไกลเป็นที่พึ่งหวังมีความตั้งใจที่จะทำหลายเรื่องกระแสก้าวไกลยังดีอยู่ ตนมองว่ากระแสในตอนนี้ก็ยังดีอยู่ และเชื่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า ในภาคใต้รวมทั้ง จ.ตรัง พรรคก้าวไกลจะกวาดไปได้หลายที่นั่ง 

‘เต้ มงคลกิตติ์’ โผล่ซบ ‘ประชาธิปัตย์’ ยอมรับ!! มาทดแทนบุญคุณ ‘เฉลิมชัย’

(26 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เข้าพบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อช่วงสายของวันนี้ เพื่อขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายนายมงคลกิตติ์ ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว โดยนายมงคลกิตติ์ จะเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ ในวันที่ 27 เม.ย.67 ด้วย

นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า ตนได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว โดยพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างการตัดสินใจ เมื่อตนตัดสินใจว่าจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค จึงได้ไปพบนายเฉลิมชัย ที่บ้านในเวลา 11.30 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ จากนั้นช่วงบ่ายตนจึงเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งได้พบกับนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคด้วย ซึ่งนายชวน ก็บอกยินดีที่มีคนมาช่วยพรรค

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า การที่ตนเลือกเข้าประชาธิปัตย์ เพราะตนเข้าใจกฎระเบียบต่าง ๆ อยู่แล้วและเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการขุนพล รวมทั้งเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเป็นพรรคที่มีการเมืองเยอะที่สุด เมื่อตนเข้ามา ก็จะดึงคนรุ่นใหม่ให้พรรคพอสมควร ตนต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นหลักของบ้านเมือง เป็นที่พึ่งของประชาชนได้และต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเยอะ ๆ

เมื่อถามว่าทำไมเลือกเข้าพรรคประชาธิปัตย์ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายเฉลิมชัย มาเป็น 10 ปีมีบุญคุณต่อกัน ดังนั้น ตนเลือกเข้ามาเพราะต้องการช่วยพรรค และทดแทนบุญคุณนายเฉลิมชัย ตนได้เป็น สส.ครั้งแรก ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากนายเฉลิมชัย

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยถึงตำแหน่งในพรรคหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกัน จะให้ตนทำอะไรก็ได้จะทำเต็มที่ ซึ่งตนสามารถช่วยเหลือพรรคได้เรียกว่าเป็น ม้าเร็ว เคลื่อนที่ไป 77 จังหวัด ซึ่งการลงพื้นที่ตนชำนาญทั้งหมด ไม่ต้องฝึกกันแล้ว

ส่วนการตรวจสอบการทุจริตก็เห็นฝีมือตนอยู่แล้ว และถ้ามีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้น ตนก็พร้อมจะลงสมัครทั้งกรุงเทพฯ นนทบุรี และพิษณุโลก อย่างไรก็ตาม การประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคฯ ในวันที่ 27 เม.ย. นี้ ตนไปร่วมสังเกตการณ์ด้วยแน่นอน

'สุกฤษฏิ์ชัย' จี้รัฐบังคับใช้กฎหมายคุมวิกฤตอุตสาหกรรม ยกเหตุ 'กากแคดเมียม-ไฟไหม้โกดังหลายจังหวัด' ไม่ควรเกิดอีก

ไม่นานมานี้ นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์และผู้ช่วยผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ (หน่วยงานดีเด่นแห่งชาติสาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) กล่าวว่า...

ช่วงเดือนที่ผ่านมา ต้องขอแสดงความห่วงใยและรู้สึกกังวลใจต่อหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ทั้งการได้ลงพื้นที่เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เพื่อสังเกตการณ์ ตั้งแต่มีข่าวเรื่องพบโกดังเก็บกากแคดเมียม ก็ติดตามการแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิด มาจนถึงการจัดการขนย้ายกลับไปยังจังหวัดตาก ก็พบว่าในหลายขั้นตอนของการขนย้าย อาจไม่ปลอดภัยถูกต้องเพียงพอ แสดงให้เห็นถึงความไม่สนใจต่อปัญหานี้เท่าที่ควร ทั้งที่เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ รวมถึงเกิดเหตุไฟไหม้ที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับพื้นที่โกดังเก็บกากอุตสาหกรรม กระดาษรีไซเคิลและสารเคมีในหลายพื้นที่ ทั้งชลบุรี, ระยอง, สมุทรสาคร รวมถึงล่าสุดที่พระนครศรีอยุธยา ซึ่งใกล้ชุมชนและโรงพยาบาล

เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน กระทบต่อระบบนิเวศและธรรมชาติของพื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฝุ่นพิษ ฟุ้งกระจายไปในอากาศเป็นจำนวนมาก เป็นการเร่งปฏิกิริยาต่อสภาวะโลกร้อน ทวีความรุนแรงอย่างที่เรากำลังเผชิญสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นวิกฤติทางสิ่งแวดล้อมที่พวกเราจะหลีกหนีไม่ได้อย่างถาวรในที่สุด

ภาครัฐควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ออกมาตรการจัดการกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ มีแผนเผชิญเหตุที่ทันสมัยและรวดเร็ว ผู้ทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งระดับนโยบาย ระดับบริหาร และระดับปฏิบัติการ ต้องเอาจริงเอาจัง หากปล่อยปละละเลย ควรได้รับบทลงโทษทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย อีกทั้งต้องนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการขอใบอนุญาต ตรวจสอบจำนวน การขนย้าย การนำเข้าหรือส่งออก การนำไปใช้ที่ต้องตรงกับวัตถุประสงค์ ต้องอยู่ในกำกับของภาครัฐทั้งหมด เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ควรส่งเสริมให้ภาคธุรกิจลดการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมต่อธรรมชาติมากขึ้น 

"ในตอนนี้ เรากำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม วิกฤตอุตสาหกรรม หรือวิกฤตการบังคับใช้กฎหมาย” นายสุกฤษฏิ์ชัย ทิ้งท้าย

'ปชป.’ เหน็บ!! 'ภูมิธรรม' กินข้าวโชว์ก็เปลี่ยนคำพิพากษาไม่ได้ ถาม? ช้อนซื้อที่ไหน ตักติดแต่กับไม่ค่อยติดข้าว 

(7 พ.ค.67) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้ออกมายืนยันว่า โกดังข้าว 10 ปียังกินได้ว่า...

เรื่องนี้คงไม่มีใครขัดข้องถ้าข้าวที่เก็บไว้ในโกดังยังมีคุณภาพดี สามารถบริโภคได้ หุงได้ กินได้ แต่ดูจากข้อเท็จจริงแล้วเจ้าหน้าที่นำข้าวสารไปเตรียมการหุง ก่อนหุงข้าว ซาว 13-15 น้ำ นั้น น้ำซาวข้าวมีมอดลอยอยู่เป็นจำนวนมาก ย่อมแสดงให้เห็นว่าข้าวไม่ได้คุณภาพอย่างแท้จริง นายภูมิธรรมควรเอาข้าวในโกดังดังกล่าวไปหุงให้รัฐมนตรีได้กินกันทั้งคณะในทุกวันอังคารที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ต้องแนะนำแม่บ้านที่หุงข้าวไม่อยากให้ซาวน้ำหลายครั้งเพราะถ้าซาวน้ำมากกว่า 3 ครั้ง อาจจะทำให้สูญเสียสารอาหารและกลิ่นหอมในข้าวได้ ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและประหยัดค่าใช้จ่ายได้

นายราเมศกล่าวต่อไปว่า กระบวนการตรวจคุณภาพของข้าวว่ามีคุณภาพสามารถบริโภคได้หรือไม่ มีกระบวนการหลักการอยู่ มีหลายหน่วยงานที่สามารถเข้ามาช่วยกันได้เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ว่าบริโภคได้แน่ เพราะถ้าหากข้าวที่ไม่มีคุณภาพหลุดออกไปประชาชนผู้บริโภคคือผู้รับกรรม การตักข้าวใส่ปากกินโชว์ของรองนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่มาตรฐานการตรวจวัดคุณภาพข้าว และภาพมันฟ้องว่าแม้แต่ตัวรองนายกเองก็ไม่มีความกล้าเต็มร้อย เพราะเน้นกับไม่เน้นข้าว มีคนฝากถามช้อนซื้อที่ไหนตักติดแต่กับไม่ค่อยติดข้าว และอีกอย่างที่รองนายกรัฐมนตรีมีความประสงค์จะสื่อสารคือโครงการรับจำนำข้าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งการมากินข้าวโชว์ก็เช่นกันที่ไม่สามารถมาลบล้างเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาในคดีทุจริตรับจำนำข้าวได้แม้แต่บรรทัดเดียว 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top