Wednesday, 8 May 2024
ประชาธิปัตย์

“รองโฆษกปชป.”ขอฟาด “โอ๊ค”โหนน้ำทะเลหนุนท่วมกรุง หากระแสไม่ให้ “พ่อแม้ว-บริวาร”จางหาย  หวังได้กลับบ้านแบบเท่ๆ เย้ยทำสถิติวางมือไม่รู้กี่ครั้งแต่เดินหน้าสืบทอดอำนาจ แนะ ”ทักษิณ”ก่อนบอกคนอื่นให้ปล่อยวาง

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความถึงปัญหาน้ำทะเลหนุนท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯ พร้อมแนะนำให้รัฐบาลวางมือหรือยุบสภา เพื่อให้ประชาชนเลือกคนดีและคนเก่งที่มีความสามารถมาทำงานแทน ว่าถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่า นายทักษิณและบริวาร ออกอาการดิ้นรนและทุรนทุรายเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำการทุจริตและบิดเบือนหลักการประชาธิปไตย ซึ่งล่าสุด การที่นายพานทองแท้ ออกมาโหนเรื่องน้ำทะเลหนุนทำให้ปริมาณในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นท่วมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำและบริเวณใกล้เคียง โดยเรียกร้องให้บุคคลในรัฐบาลลาออกหรือยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้เลือกคนเก่งๆ คนดีๆ คนที่มีความรู้เข้ามาแก้ไขปัญหานั้น ถือได้ว่า นายพานทองแท้ และ นายทักษิณ ได้เผยความในใจออกมาชนิดที่เรียกได้ว่า 'อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่' 

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า การที่บอกให้คนอื่นปล่อยวางจากอำนาจ แต่ตัวเองกลับทำสถิติวางมือไม่รู้กี่สิบครั้ง และยังเดินหน้า 'สืบทอดอำนาจ' โดยผลักดัน น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ เข้ามาควบคุมดูแลภายในพรรคเพื่อไทย และยังพยายามปล่อยชื่อเครือญาติและคนใกล้ชิดของตัวเอง เพื่อหยั่งกระแสสาวกว่า ใครควรที่จะเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่ให้ความสำคัญหรือผลักดันให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงคือ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ได้แสดงถึงวิสัยทัศน์และศักยภาพถึงการเป็นผู้นำพรรคที่จะไปเป็นผู้นำประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งตนเห็นว่า ก่อนจะแนะนำคนอื่น นายพานทองแท้ ควรจะแนะนำให้นายทักษิณ และบรรดาเครือข่ายที่หลบหนี ให้ปล่อยวางและวางมือเสียก่อน โดยการกลับมายอมรับโทษตามกฎหมาย เพราะจะได้เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า นายทักษิณและเครือข่าย เป็นผู้รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่หมกหมุ่นเล่นละครหรือหาวิธีที่จะหาทางได้อำนาจรัฐ เพื่อสนองความต้องการของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น  

 

‘รองโฆษก ปชป.’ ปลื้มเลือดใหม่ทยอยเข้าพรรค พร้อมเปิดกว้างรับคนทุกกลุ่ม เปิดพื้นที่ให้ทำงานจริง

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ภายใต้แนวคิด “เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ” ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีคนรุ่นใหม่หลากหลายอาชีพสนใจทยอยสมัครเข้าพรรคกันอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อในความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรค และความตั้งใจจริงของผู้บริหารในการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสแสดงความรู้ ความสามารถ ตามประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน

ล่าสุดได้มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ได้เปิดตัวพร้อมมาร่วมขับเคลื่อนงานของพรรคคือนายเมธวิน  อังคทะวานิช โดยนายเมธวินจบการศึกษาในระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอดีตศิลปินเพลง นักแต่งเพลง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่เป็นที่คุ้นเคยกันดีทางรายการ “ที่นี่…ประเทศไทย” และรายการ “บ้านเลขที่ 5” ออกอากาศทางช่อง 5 ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จประกอบธุรกิจด้านดิจิทัล มีเดียและการตลาด ธุรกิจด้านบันเทิงและการสื่อสาร

นางดรุณวรรณกล่าวว่า นายเมธวินได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว มีความสนใจเรื่อง Creative Economy ด้านการศึกษา และการสื่อสารบนโลกดิจิทัล โดยได้ร่วมงานกับทีมเศรษฐกิจทันสมัยของพรรคที่มีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าทีม รวมถึงเป็นคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) 

“วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า พรรคภายใต้การนำของนายจุรินทร์ รวมถึงแกนนำคนสำคัญอีกหลายท่านที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า และตระหนักถึงพลังของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริงได้เปิดกว้างอย่างเต็มที่ เปิดพื้นที่ให้ทำงานได้จริง ไม่ใช่แค่เพียงแค่แสดงความตั้งใจ แต่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้มีคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ทยอยเข้าพรรค เพราะเชื่อมั่นในทีมผู้บริหารที่พร้อมรับฟังและมีมุมมองในการทำงานสอดคล้องกับคนรุ่นใหม่” นางดรุณวรรณ กล่าว

'ราเมศ' แจง 'ปชป' ให้ความสำคัญ เกษตรกร ตลอดมา ยืนหยัดระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงหลายเรื่องว่า

เรื่องสำคัญที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดคือกล่าวหาว่าประชาธิปัตย์ทำลายเกษตรกรนั้น ไม่เป็นความจริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านพรรคให้ความสำคัญกับพี่น้องเกษตรกรตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบาย รวมไปถึงภาคปฎิบัติในทางการเมืองที่ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดก็เต็มที่ คิดและทำเพื่อเกษตรกรตลอดมา ไม่เคยคิดนโยบายมาเพื่อหากินกับพี่น้องเกษตรกร ไม่มีนโยบายใดที่ทำลายเกษตรกรมีแต่ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้น

ต้องขอย้ำว่า เกษตรกรเป็นภาคการผลิตที่สำคัญอย่างยิ่งที่มีผลต่อประเทศ พรรคตั้งต้นแก้ปัญหาจากที่เห็นความลำบากของเกษตรกรไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ ความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร ผลผลิตขาดคุณภาพ ผลผลิตตกต่ำ คิดถึงอนาคตในเรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี รวมถึงการแปรรูป และเมื่อเข้าร่วมรัฐบาลก็ได้มีการผลักดันจนประสบความสำเร็จ เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำ ทุน เทคโนโลยี 
โครงการประกันรายได้ เงินส่วนต่างถึงมือเกษตรกรโดยตรง ไม่มีเรื่องทุจริตใดๆ การแก้ปัญหาหนี้สิน เรื่องน้ำที่ดำเนินการสำเร็จเห็นผลทั้งการขยายและปรับปรุงระบบชลประทานอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่การเกษตร เกษตรกรอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ระบบการเกษตรได้รับการพัฒนาควบคู่กันมาตลอด การลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร การส่งเสริมเรื่องคุณภาพ การส่งเสริมการส่งออก การส่งเสริมเทคโนโลยี  การพัฒนาพันธุ์ข้าว ทุกอย่างมีการคิดอย่างรอบด้านครบถ้วน

'ราเมศ' เผย 'ชินวรณ์-สาทิตย์' นำทีมอภิปราย แก้ รธน. ฉบับ ปชช 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรที่ภาคประชาชนเสนอต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า

ที่ประชุม ส.ส.ของพรรค ได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง รายละเอียดของหลักการและเหตุผล รวมถึงสาระสำคัญของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หลักสำคัญคือสนับสนุนหลักการขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ให้ประชาชนสามารถเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ ถือได้ว่าเป็นสิทธิที่สำคัญของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

การประชุมเพื่อพิจารณาในวาระที่หนึ่งนั้น พรรคจะรับฟังเหตุและผลของผู้เสนอที่จะได้มีการชี้แจงต่อรัฐสภา พร้อมทั้งจะมีการอภิปรายของ ส.ส.ในส่วนของพรรคด้วยเหตุและผลเช่นกัน อาจจะมีการตั้งคำถามเพื่อสอบถามในหลายประเด็นเพื่อให้ผู้เสนอได้ชี้แจง 

'ราเมศ' ย้ำ ร่างแก้ไข กฎหมายเลือกตั้งพร้อม  เสนอที่ประชุม ส.ส.พรรค พรุ่งนี้ 

 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณา ศึกษา รวบรวม ข้อมูลในการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
ได้กล่าวถึงการเตรียมร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวว่า

เมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 1 พ.ศ.2564 ได้มีผลใช้บังคับในวันนี้แล้ว ซึ่งมีสาระสำคัญคือการกำหนดจำนวน ส.ส.เขต เป็น 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อให้ประชาชนเลือก ส.ส.เขต ได้หนึ่งใบ ส่วนบัตรเลือกตั้งอีกใบเลือกพรรคการเมืองก็คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมได้กำหนดให้ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อกำหนดวิธีการคำนวณคะแนนและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การรับสมัคร การออกเสียงลงคะแนน  การนับคะแนน การรวมคะแนน การประกาศผลการเลือกตั้ง และเรื่องอื่นๆ นั้น

นายราเมศกล่าวในเรื่องนี้ว่า ในส่วนของพรรคได้มีการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุม ส.ส.ในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้แสดงความคิดเห็น และรณะทำงานจะเรียกประชุมเพื่อพิจารณาขั้นสุดท้ายในวันพุธที่จะถึงนี้

ปชป.ยินดีว่าที่นายก-สมาชิกอบต. ลั่นพร้อมทำงานร่วมกันเพื่อปชช.ทุกพื้นที่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) และนายกอบต. ว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอแสดงความยินดีต่อผู้ชนะการเลือกตั้งและเป็นกำลังใจให้กับผู้สมัครทุกคนที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ในทุกพื้นที่  ในส่วนของพรรคพร้อมร่วมทำงาน ส่งเสริมสนับสนุนการทำงานขององค์การบริหารส่วนตำบล อย่างเต็มที่ โดยมุ่งถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะพรรคมีอุดมการณ์เรื่องการกระจายอำนาจอย่างชัดเจนตั้งแต่เมื่อครั้งก่อตั้งพรรค คือพรรคจะกระจายอำนาจการดำเนินการในท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากความใกล้ชิดขององค์กรในท้องถิ่นมีมากกว่าส่วนกลาง หลักการสำคัญนี้คือจุดตั้งต้นที่สำคัญที่พรรคผลักดันและสนับสนุนการกระจายอำนาจเพื่อให้ประชาชนได้เลือกคนที่เป็นคนในพื้นที่ที่มีความรู้ความเข้าใจปัญหาต่าง ๆ ได้ดี เพื่อเข้าไปทำหน้าที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนท้องถิ่นนั้นๆ ในทุกเรื่อง

“ราเมศ” เผย ปชป. พร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่าตามกำหนดห้วงระยะเวลาการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ซึ่งคาดการณ์ว่าประมาณช่วงเดือน มี.ค.65 นั้น ในส่วนของพรรค ยืนยันพร้อมส่งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ในนามพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เตรียมการอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของนโยบาย พร้อมทั้งว่าที่ ส.ก. และผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มีการลงพื้นที่พบปะดูแลปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวกทม. ตลอดมา การเลือกตั้งในส่วนกทม.ครั้งนี้ เรามั่นใจพี่น้องชาวกทม. จะไว้วางใจให้ผู้สมัครในนามพรรคได้เข้าไปทำหน้าที่ทั้ง ส.ก. และผู้ว่าฯ กทม. อย่างแน่นอน 
       

‘จุรินทร์' มั่นใจ ปชป.ไม่ใช่ยุคตกต่ำ ระบุ คนที่เหลืออยู่ใน ปชป.ยังเหนียวแน่นอยู่กับพรรค หลัง 'นิพิฏฐ์' ลาออก 'เชื่อ' ชิงเก้าอี้รองหัวหน้าพรรคภาคใต้แข่งตามกติกา ปัดไม่รู้ 'บิ๊กตู่' เดินสายกดปุ่มจ่ายเงินประกันรายได้ที่สุพรรณบุรี 13 ธ.ค.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้มีสมาชิกคนอื่นทยอยลาออก หรือกระทบขวัญกำลังใจของคนที่เหลืออยู่ในพรรค  เพราะไม่มีความมั่นคงภายในพรรค  ว่า  ตนมั่นใจว่าคนที่อยู่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ยังเหนียวอยู่กับพรรค เพราะคนส่วนใหญ่ยังอยู่  ทั้งนี้ ส่วนตัวยังมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังเดินหน้าต่อไปได้  อีกทั้งปัจจุบันเรากำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี แม้อาจจะมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แต่พรรคก็ต้องฟันฝ่าต่อไป  ส่วนคนที่อยู่ในพรรคก็ยังต้องจับมือกันเดินไปข้างหน้า

"ผมไม่ขอพูดถึงกรณีของคุณนิพิฏฐ์ แต่ในภาพรวมทั่วไป  ผมเชื่อว่าประชาชนแยกแยะได้ว่าผู้ที่ออกไปแต่ละคนนั้นเกิดจากปัญหาอุดมการณ์ของพรรคหรือปัญหาส่วนตัว เชื่อว่าแต่ละคนก็เป็นแต่ละกรณีไป"นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่านายนิพิฏฐ์ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  หลังจากนายนิพิฏฐ์ลงแข่งขันในตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วแพ้เสียงโหวตภายในพรรค  ตนและพรรคได้แต่งตั้งให้นายนิพิฏฐ์เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีในส่วนของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เท่าที่พรรคมีแล้วจะให้ได้รองจากตำแหน่งรัฐมนตรี  แต่ถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้ตรวจสอบว่านายนิพิฏฐ์ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วหรือไม่

เมื่อถามย้ำว่านายนิพิฏฐ์ได้แจ้งลาออกกับนายจุรินทร์ด้วยตัวเองแล้วหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ตนทราบจากข่าว และเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าเขาไปลาออกจากพรรคเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.)  ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีนั้น ตนยังไม่ได้ทราบว่าเขาลาออกแล้วหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบ  ส่วนกรณีที่นายนิพิฏฐ์ไปอำลานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพียงคนเดียวนั้น ตนไม่ทราบ คงต้องไปถามนายนิพิฏฐ์ว่าได้บอกใครคนอื่นอีกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงการชิงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาคใต้ ซึ่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส. สงขลา และนายชินวรณ์บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่มีข่าวว่าแข่งขันกันอย่างรุนแรง เกรงว่าจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  พรรคมีกฎเกณฑ์กติกาและมีวิถีทางประชาธิปไตยภายในพรรค  ดังนั้นตำแหน่งใดที่มีผู้สนใจลงสมัครเกิน 1 คน ก็ต้องมีการลงคะแนนภายในพรรค ไม่มีใครชี้ได้ว่าจะให้คนนั้นคนนี้เป็น ยกเว้นเหลือเพียงคนเดียว ซึ่งพรรคก็ต้องลงมติพิจารณาด้วยเช่นกัน ว่าเห็นชอบหรือไม่ เป็นวิถีประชาธิปไตยภายในพรรค ซึ่งเป็นข้อดีและเป็นกติกาที่พักยึดถือมาเนิ่นนาน พรรคประชาธิปัตย์จึงอยู่ได้มา 70-80 ปี เรามีกฎเกณฑ์กติกาที่ชัดเจนแน่นอน และทุกคนยอมรับในกติกา

ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ถือว่าเป็นยุคที่พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำมากที่สุดใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  "ความจริง ถ้าเราจะบอกว่าได้ผู้แทนน้อยถือว่าตกต่ำนั้น เราก็เคยทั้งตกต่ำและหลังจากนั้นก็กลับมารุ่งเรือง และก็ตกต่ำพร้อมรุ่งเรืองอีกครั้ง หลายครั้งหลายรอบ เที่ยวนี้ก่อนที่ผมมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เราเหลือส.ส.เพียง 50 เสียง จาก 159 เสียง ถือว่าได้เสียน้อยลงมา หายไป 2 ใน 3  แต่เมื่อผมเข้ามาก็พยายามรวบรวมสรรพกำลัง มาพื้นฟูพรรค ผมคิดว่ามาถึงวันนี้ก็ค่อยๆดีขึ้น ซึ่งมีทั้งคนเก่าที่เคยออกจากพรรคไปกลับเข้ามา และมีทั้งคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคเยอะมาก ซึ่งเป็นไปตามแคมเปญของพรรคที่ว่า เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ ประสบความสำเร็จพอสมควร 

'ราเมศ' เผย 'ปชป' ลุย แก้กฎหมาย ทบทวนลดโทษ คดีทุจริต ให้ศาลร่วมกำหนดระยะเวลาปลอดภัยให้สังคม

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง กรณีการพักโทษ ลดโทษในคดีทุจริตตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ที่เป็นประเด็นให้มีการวิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า

ที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ได้มีมติให้ยื่นร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ต่อสภา เพื่อให้มีการแก้ไขในประเด็นที่สำคัญเช่นรูปแบบโครงสร้างของคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่มีความจำเป็นจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นคณะกรรมการที่มีความอิสระโปร่งใสและมีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง หลักเกณฑ์การลดวันต้องโทษจำคุก โดยเฉพาะคดีทุจริตจะมีการกำหนดความสำคัญไว้ให้มีกระบวนการที่รัดกุมและให้มีคณะกรรมการพิจารณาลดวันต้องโทษจำคุกคดีทุจริต โดยมีกระบวนสรรหาคณะกรรมการเช่นเดียวกับองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ให้มีความอิสระที่ทำหน้าที่ในการพิจารณาขั้นต้น หากคดีที่มีคำพิพากษาให้ต้องโทษจำคุก 15 ปีขึ้นไป ต้องส่งไปให้ศาลที่คดีถึงที่สุดพิจารณาการลดวันต้องโทษจำคุก

โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีการรับโทษมาแล้วกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลได้มีคำพิพากษา เมื่อเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาลดโทษ เช่นเดียวกับคดียาเสพติดที่ร้ายแรง และคดีอื่น ๆ ที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการยกร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวไว้แล้ว รอการพิจารณาร่วมกันของคณะกรรมการกฎหมายพรรคเพื่อที่จะให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงลายมือชื่อเพื่อยื่นต่อสภาต่อไป

ในเรื่องนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการกฎหมายของพรรครวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ที่มีข่าวเรื่องการลดวันต้องโทษจำคุกของจำเลยในคดีจำนำข้าว ซึ่งถือได้ว่าเป็นคดีที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติเป็นอย่างมากสูญเสียงบประมาณแผ่นดินไปหลายแสนล้านบาท และศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกบางราย ศาลตัดสินจำคุก 48 ปี ในปี 2560

'ราเมศ' แจง 'ปชป' คิดดีทำดีเพื่อชาวกรุงเทพ ทุกฝ่ายควรคิดเพื่อบ้านเมือง หยุดสร้างวาทะนำขัดแย้ง 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้ออกมากล่าวถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้ผู้สมัครในนามพรรคทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานครยาวนานที่สุด ระยะเวลาและผลงานคือคำตอบที่ดีที่สุด ทุกครั้งพรรคจะเตรียมความพร้อมในทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เรื่มต้นที่นโยบายที่คิดและทำเพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร การคัดเลือกผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างลึกซึ้งแท้จริง คือสาระสำคัญที่สุด 

การเมืองยุคนี้ควรหยุดวาทะที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ทางที่ดีที่สุดคือ ผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทำหน้าแทนประชาชนกรุงเทพ ควรแสดงให้เห็นถึงสาระของนโยบายว่าจะทำสิ่งใดให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

นายราเมศกล่าวต่อว่า การที่พรรคได้เลือก ดร สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ เชื่อว่าปัจจุบันนี้ด้วยวิวัฒนาการทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี การได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้กรุงเทพมหานครมีความเจริญรุ่งเรื่องในทุกด้าน ย่อมเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องชาวกรุงเทพอย่างแน่นอน และพรรคประชาธิปัตย์ก็คือคำตอบที่ทำให้ ดร สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เลือกลงในนามพรรค 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top