Sunday, 19 May 2024
ประชาธิปัตย์

'ชวน' กรีด!! ส.ส.ย้ายพรรค 'เอาเปรียบ-คบไม่ได้' เตือนเพื่อน ส.ส. รู้ทัน 'พรรคเฉพาะกิจ' ไม่ยั่งยืน!!

'ลุงชวน' เชื่อประชาธิปัตย์ภาคใต้ไม่สูญพันธุ์ แฉมีการจ่าย 200 ล้านบาท ดึงตัวคนประชาธิปัตย์ หวังกวาด ส.ส.ยกจังหวัด กรีด ส.ส.ย้ายพรรคหวังเป็นรัฐมนตรี เอาเปรียบ-คบไม่ได้

รายการ 'ชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์' ทางไทยพีบีเอส ได้สัมภาษณ์พิเศษ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายชวนกล่าวยอมรับว่า "เป็นห่วงความนิยมของพรรค โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้บางจุด แต่มั่นใจว่าไม่น่าจะถึงขั้นสูญพันธุ์ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์มีชาวบ้านเป็นฐานเสียงสำคัญ ที่ยังศรัทธาในความซื่อสัตย์สุจริตของพรรคประชาธิปัตย์"

เมื่อถามว่า ยุคนี้ถือเป็นยุคตกต่ำของประชาธิปัตย์ และมีปัญหาที่เกิดจากปัญหาภายในของพรรคมากน้อยแค่ไหน นายชวน ยอมรับว่า "ปัญหาภายในพรรคมีบ้าง เช่น มีบางคนในพรรคอยากให้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค บางคนมาเจรจาขอให้ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค ซึ่งได้ปฏิเสธไป เนื่องจากเป็นมติพรรคที่เลือกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค ทุกคนในพรรคก็ต้องช่วยกันทำงาน อีกทั้งการเปลี่ยนม้ากลางทางอาจไม่เหมาะสม ดังนั้น ทางเดียวคือหากต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องรอให้ครบวาระและเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่"

ทั้งนี้ นายชวน เชื่อด้วยว่าเหตุผลความไม่พอใจตัวหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เหตุผลของการย้ายสังกัดพรรค แต่เหตุผลสำคัญ คือ การกลัวแพ้เลือกตั้ง และการเจรจาทาบทามให้มีการย้ายพรรค

‘วัชระ’ จี้ ‘ชัชชาติ’ จัดการ ‘หนู-แมลงสาบ’ หลังพบวิ่งว่อนทั่วตลาดสนามหลวง 2

(27 ก.พ. 66) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. เขตหนองแขม-ทวีวัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่พร้อมกับว่าที่ร้อยตรีบัณฑิต ศุภพิสุทธิ์ ตัวแทนผู้ค้าสนามหลวง 2 พบปะเยี่ยมเยียนพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ

โดยนายวัชระ กล่าวว่า พบปัญหาหลายอย่างที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขอย่างเร่งด่วน จึงขอเรียกร้องให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร เข้ามาดูแลแก้ปัญหาให้หลังได้รับการร้องเรียนจากพ่อค้าแม่ค้าว่า ตลาดแห่งนี้ยังมีสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคจำนวนมากทั้งหนู แมลงสาบ รวมทั้งไฟส่องสว่างทางเดินที่ดวงเล็กมาก และลูกระบายอากาศที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาตลาดมีเสียงดังมาก โดยเฉพาะเวลาที่มีลมพัดแรงเกิดเสียงดังจนพ่อค้าแม่ค้าเปรียบเหมือนเสียงหมาโดนรถทับ ป้ายชื่อตลาดแตกชำรุด เป็นต้น จึงขอให้ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว หรือลงมาดูพื้นที่ด้วยตนเอง

‘พงศกร ขวัญเมือง’ สวมเสื้อประชาธิปัตย์ ลงชิงเก้าอี้ ส.ส. กทม. เขตคลองเตย

(27 ก.พ. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีการเปิดตัวคนรุ่นใหม่ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. จำนวน 14 คน แม้บางคนจะมีการเปิดตัวไปบ้าง แต่ก็มีคนใหม่ ๆ อีกหลายคน เป็นมือปืนทีมชาติก็มี และอีกคนที่สำคัญ ซึ่งได้พูดคุยส่วนตัวหลายครั้ง และขอบคุณที่ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายพงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษกกรุงเทพมหานคร บุตรชายพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตคลองเตย

จับตา สนามเลือกตั้ง 'เมืองหมูย่าง' ที่อาจจะ 'ไม่หมู' สำหรับการ 'ยกจังหวัด' ของ 'ประชาธิปัตย์'

จังหวัดตรัง หรือ 'ทับเที่ยง' เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวที่มี ทะเลสวยงาม เกาะแก่ง ที่เหมาะแก่การพักผ่อน และดำน้ำดูปะการัง ที่โด่งดังในการจัดงาน 'วิวาห์ใต้สมุทร' ใน 'วันวาเลนไทน์' และมีอาหารขึ้นชื่อคือ 'หมูย่าง' และต้นตำรับ 'เค้กลำภูรา' ที่เชิดชูหน้าตาของเมืองทับเที่ยง แห่งนี้ 

ในส่วนของเรื่อง 'การเมือง' จังหวัดตรังคือมาตุภูมิ ของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีต นายกรัฐมนตรี และ อดีต หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทุกคนยอมรับในความ 'ซื่อสัตย์ สุจริต' เป็น นักการเมือง 'มือสะอาด' คนหนึ่งของประเทศไทย 

ในการเลือกตั้งเลือกตั้งที่ผ่าน ๆ มา สนามเลือกตั้งของ จ.ตรัง “พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยเสียที่นั่งให้กับพรรคการเมืองอื่นเพราะ” ชื่อชั้น ของนายหัวชวน เป็นเครื่องหมายการค้า ที่ประชาชนยอมรับ ดังนั้นไม่ว่าจะส่งใครลงสนาม 'ประชาชน' ยินดีที่จะกาบัตร ให้เป็นผู้แทน โดยไม่มีข้อกังขา แต่ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของนายหัวชวน ถูกนักเลงดี จากพรรคพลังประชารัฐ นายนิพนธ์ ศิริพันธ์ ที่เป็นอดีต รอง ผวจ.ตรัง ปาดหน้าหมอสุกิจ นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ สส.หลายสมัย จากประชาธิปัตย์เข้าป้ายชนิดลอยลำเป็น ครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่สร้างความปราชัย ให้กับประชาธิปัตย์ ในสนามเมืองหมูย่าง แห่งนี้ 

เลือกตั้งในปี 2566 สนามเมืองหมูย่าง มีการเพิ่มเขตเลือกตั้งจาก 3 เขต เป็น 4 เขต โดยเขต 1 'ประชาธิปัตย์' ถอด นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ออก และส่ง  นพ.ตุลย์กานต์ มักคุ้น “คนใกล้ชิดคนในครอบครัว” หลีกภัย ลงแทน ซึ่งในเขตนี้ 'พลังประชารัฐ' ส่ง 'กิตติพงษ์ ผลประยูร' อดีตที่ดินจังหวัดตรังลงแทน 'นิพันธ์ ศิริธร' ที่ไม่ไปต่อในการเลือกตั้งครั้งนี้ เขต 2 ประชาธิปัตย์ ส่ง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย เสี่ยตาล ลง ป้องกันตำแหน่ง กับ ทวี สุระบาลจากพลังประชารัฐ เขต 3 ประชาธิปัตย์ ส่ง สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ลงป้องกันตำแหน่งกับ พ.ต.ท. ณัฐพงศ์ เรืองนัฐพงษ์ เขต 4 ประชาธิปัตย์ โดย โกหนอ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ หักด่านคนในตระกูล หลีกภัย ไม่ส่งสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการนายชวน หลีกภัย อดีต สส.เขตนี้ และส่งกาญจน์ ตั้งปอง ซึ่งเป็น นักการเมืองท้องถิ่นสายเลือดใหม่ ลงในเขตนี้แทน โดยอ้างว่า สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล มีคะแนนในการทำโพล ไม่ผ่าน และเป็นเหตุให้ สมบูรณ์ ลาออกจากประชาธิปัตย์ และ ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 4 สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ส่ง 'ลุงตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็น 'นายกรัฐมนตรี' สมัยที่ 3 ส่วน 'พลังประชารัฐ' ส่ง พล.ต.ต.บรรลือ ชูเวทย์ อดีต ผู้การจังหวัดตรังลงแข่ง 

ในขณะที่ พรรคภูมิใจไทย ซึ่ง 'ขุนพลภาคใต้' พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมต. กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศชัดว่า จะของแบ่ง ส.ส.ในภาคใต้ 16 ที่นั่งนั้น ได้เปิดตัว ผู้สมัครใน จ.ตรัง ที่แน่ชัดแล้ว 2 เขต ได้แก่ นพ.รักษ์ บุญเจริญ ในเขต 1 เพื่อต่อสู้กับ นพ ตุลกานต์ มักคุ้น ที่มี ดีกรี ของหมอเหมืนกัน และส่ง ดิษธัชนิน ภาคอิฐคน์ ลงในเขตเลือกตั้งที่ 4 เพื่อสู้กับ กาญจน์ ตั้งปอง จากประชาธิปัตย์ และ สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล จากรวมไทยสร้างชาติ 

ที่ต้องจับตามองคือ ดิษธัชนิน  ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็น หลานชายแท้ๆของ โกหนอ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ซึ่งถูกมองว่า ครั้งนี้คือ ผู้ที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งตัวจริงของประชาธิปัตย์ จังหวัดตรัง หาใช่กิจ หลีกภัย ที่เคยเป็นแม่ทัพ ในการ ดูแลการเลือกตั้ง ใน จ.ตรัง เหมือนที่ผ่านๆมา ซึ่งคนในเขตเลือกตั้งที่ 4 กำลังจับตามองว่าในที่สุดแล้ว ระหว่างหน่อจากไผ่กอเดียวกันอย่าง 'ดิษธัชนิน' กับ 'กาญจน์ ตั้งปอง' ที่เป็น ไผ่นอกกอ ผู้มาก บารมีอย่าง 'โกหนอ' จะสนับสนุนผู้สมัครฝ่ายไหร่ให้ได้เป็น ส.ส. 

และที่สำคัญ ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่ง 'สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล' คนสนิทของ 'นายหัวชวน' และเป็น อดีต ส.ส.เขตนี้ และไม่เคยแพ้ในการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่า ยังได้รับแรงหนุนจากคนในตระกูลหลีกภัย โดยเฉพาะ 'กิจ หลีกภัย' ที่เป็น พี่ใหญ่ ของตระกูล ดังนั้น ในเขตเลือกตั้งทั้ง 4 เขต เป็นอีกเขตหนึ่ง จะต้องจับตา เพราะอาจจะพลิกผันและทำให้ประชาธิปัตย์ ไม่สามารถยกจังหวัดอย่างที่ มีการ ประกาศ ไว้ก่อนหน้านี้

ถอนหงอกรุ่นใหญ่!! 'ชัยชนะ' อัด'ไตรรงค์' ปมเงินล็อบบี้ เพื่อนั่ง ‘กก.บห.’ ลั่น! “ให้ร้ายบ้านเก่าเพื่อเอาใจบ้านใหม่”

'ชัยชนะ' ซัด 'ไตรรงค์' ตบะแตกเข้าทำนอง 'ให้ร้ายบ้านเก่าเพื่อเอาใจบ้านใหม่' ชี้ต้องยอมออกหน้า ปมเงินล็อบบี้ 500,000 บาท เพื่อตำแหน่ง กก.บห. แทนเจ้าของเรื่อง เพราะอาศัยความมีหลักการและเครดิตที่สูง ชี้คนที่เกี่ยวข้องต้องออกมาชี้แจง ยันอุดมการณ์ ปชป. ยังเข้มแข็งอยู่ตลอดไป แต่บางคนเท่านั้นที่อ่อนไหวไม่มั่นคงกับอุดมการณ์ของพรรคฯ

2 มี.ค. 2566 - นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุถึงอดีตที่ผ่านมามีคนในปชป. เสนอเงิน 500,000 บาท ให้แก่ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้ช่วยล็อบบี้คนในกลุ่มของ น.ส.วชิราภรณ์ โหวตเป็นดำรงกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นึกไม่ถึงนายไตรรงค์ ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นนักการเมืองคุณภาพคนหนึ่งในวงการการเมือง จะทำตัวเข้าทำนอง 'ให้ร้ายบ้านเก่าเพื่อเอาใจบ้านใหม่' เพราะที่ผ่านมา หลังจากนายไตรรงค์ ได้ย้ายไปสังกัด รทสช. แล้ว ก็ไม่ได้มีการพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด แต่เมื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า มีพรรคการเมืองที่ไม่ได้เติบโตด้วยตนเอง แต่อาศัยตกปลาในบ่อเพื่อน ปรากฏว่า นายไตรรงค์ ออกอาการตบะแตก และแสดงพฤติกรรมไม่ต่างจากบางคนที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และไปสังกัดพรรคใหม่ คือการวาดภาพให้พรรคเดิมออกมาเลวร้าย เพื่อหวังให้ประชาชนสงสาร และตัดสินใจเลือกกลับเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง

กรณีที่นายไตรรงค์ กล่าวอ้างว่า ในการเลือกกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีการใช้เงินให้ได้ดำรงตำแหน่งฯ โดยกล่าวอ้างคำบอกเล่าของ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ บุตรสาวของนายชุมพล กาญจนะ ว่าอยู่ๆ มีคนเอาเงินมาให้ 500,000 บาท บอกให้ช่วยเจรจากับคนในกลุ่มอีก 3 คน เพื่อให้ยกมือสนับสนุนนั้น ตนสงสัยว่า ทำไมนายไตรรงค์ ถึงเพิ่งออกมาพูด ทั้งๆ ที่เวลาล่วงเลยมานานแล้ว ดังนั้น ตนขอชี้แจงว่า ยืนยันไม่มีใครเสนอให้เงินบุตรสาวนายชุมพล กาญจนะ ถึง 500,000 บาท ซึ่งหากไตรรงค์และ น.ส.วชิราภรณ์ มีข้อเท็จจริงก็ขอให้ยืนยันมา

ที่ผ่านๆมา นายไตรรงค์ ก็เป็นคนพูดจามีหลักการ และหลายๆคน ก็ยกย่องว่าเป็นนักการเมืองน้ำดี แต่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ นายไตรรงค์ อาจจะพูดจาแบบไม่ทันได้ยั้งคิด จึงทำให้เกิดผลกระทบลามไปจนถึงพรรคที่ท่านสังกัดอยู่ในเวลานี้ รวมทั้งหากไม่มีหลักฐานตามที่กล่าวอ้างแล้ว นายไตรรงค์ก็ทราบดีว่า คนที่ถูกพาดพิงก็มีสิทธิที่จะปกป้องตัวเองตามกฎหมายเช่นเดียวกัน

"ที่ผ่านมา ผมก็ทราบว่า บางคนที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไป ก็พยายามสร้างภาพให้ประชาชนดูว่า ที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไป เพราะตัวเองถูกรังแกบ้าง ไม่ได้รับโอกาสบ้าง รวมทั้งแกล้งทำเป็นหลงลืมเพื่อจะได้พูดจาตอบโต้พรรคที่เคยจากมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เองก็ได้แก้ปัญหาโดยการเปิดตัวคนใหม่ ให้มาเป็นผู้สมัครของพรรคฯ อย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนการเพาะพันธุ์ปลาตัวใหม่ โดยเสริมวัคซีนเพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาจับปลาในบ่อไปได้อีก รวมทั้งพยายามที่จะไม่โต้ตอบกับคนที่พูดจาในลักษณะนี้

‘กรณ์’ กรีดกลับ ‘ชวน’ ปมกล่าวหา ส.ส.ย้ายพรรคคบไม่ได้ แจงเหตุออกเพราะปชป.เปลี่ยนไป หาใช่ต้องการเงิน - ตำแหน่ง

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์ถึง ส.ส.ที่ย้ายพรรค ว่าเป็นพวกที่เอาเปรียบ - คบไม่ได้ โดยนายกรณ์ระบุข้อความว่า

เขียนตอบท่านชวน ด้วยความเคารพ

ผมออกมาจากประชาธิปัตย์ 3 ปี ผมไม่เคยพูดให้ร้ายพรรคเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมออกเพราะอยากไปทำงานตามที่ตั้งใจ และสำหรับผมประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

การลาออกของคนประชาธิปัตย์มีเหตุผลต่างกัน ผมพูดแทนเขาไม่ได้ แต่ในส่วนของผมนั้น ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่ท่านชวนกล่าวถึงในคลิป https://youtu.be/s0GpJaj7lUw ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือตำแหน่ง ยิ่งประชาธิปัตย์ยุคนี้แล้วเรื่องเงินยิ่งไม่เป็นปัญหา ส่วนตำแหน่งก็มีมากมายเพราะเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล

ผมสัมภาษณ์หลายครั้งว่า ผมได้เคยทำงานให้บ้านเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรีคลังมาแล้ว ซึ่งสำหรับผมถือเป็นการทำงานที่ตรงต่อความฝันทางการเมือง ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจผมได้ทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้นายกรัฐมนตรี และรองนายกฯเศรษฐกิจ (คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ดังนั้นความฝันทางการเมืองของผมวันนี้ไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง แต่คือโอกาสสร้างพรรคที่ตรงกับอุดมการณ์ของผม และการส่งเสริมนักการเมืองรุ่นใหม่ให้มีโอกาสได้ทำงาน

ประชาธิปัตย์ ลุยชายแดนใต้ เตรียมปราศัยใหญ่ พรุ่งนี้ 5 มี.ค. ที่ปัตตานี จุรินทร์-บัญญัติ นำทีม นิพนธ์ ยืนยัน ปชป.พร้อมทุกขุมกำลัง เตรียมเดินสายปราศัยทั่วทั้งประเทศ

วันนี้ ( 4 มี.ค.66 ) นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ /ผอ.เตรียมการเลือกตั้งพรรคฯ เปิดเผยว่า วันที่ 4-5 มี.ค. นี้ พรรคปชป.ได้เปิดเวทีปราศรัยในสองจังหวัดได้แก่ 4 มี.ค. ที่ จ.พัทลุง และ 5 มี.ค. ที่จังหวัดปัตตานี บริเวณสนามหน้าออมทอง(ข้างโรงแรมซีเอสปัตตานี) ซึ่งทั้งสองเวทีจะเริ่มในเวลา 16.00 น. คาดว่าจะมีประชาชนให้ความสนใจฟังปราศัยหลักหมื่นคน

ขอเคียงข้างชาวพัทลุง!! ‘มาดามเดียร์’ อ้อน! ขอโอกาส ส.ส. ‘ประชาธิปัตย์’ จับมือชาวใต้ โชว์อุดมการณ์แรงกล้า ‘เงินซื้อไม่ได้’

‘มาดามเดียร์’ ปราศรัยอ้อนชาวพัทลุงให้โอกาสผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ชวนแสดงอุดมการณ์ว่าคนภาคใต้เงินซื้อไม่ได้

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่จ.พัทลุง น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเวทีปราศรัย “ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ โอกาสปักษ์ใต้บ้านเรา” ในการเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง ที่สนามโรงเรียนพัทลุง ว่า วันนี้รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาเจอพี่น้องชาวพัทลุง ซึ่งวันนี้ตนตั้งใจมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาหาพี่น้องชาวพัทลุง และที่ผ่านมาทุกคนอาจจะได้เห็นข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเลือดไหลออก ทำให้หลายคนอาจจะรู้สึกกังวล แต่การมายืนอยู่ของตนเป็นสิ่งที่จะบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมีเลือกไหลเข้าไม่จบ เลือดเก่าที่ไหลออก แต่เลือดใหม่ที่ไหลเข้าเป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยืนอยู่คู่คนไทยไม่เปลี่ยนแปลง 

“เราไม่ใช่พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นเพียงฉาบฉวย ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เป็นสถาบันทางการเมืองที่อยู่คู่คนไทย อยู่คู่คนพัทลุงมา 77 ปี เพราะฉะนั้นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เราจะทำงานบนความรับผิดชอบ บนอุดมการณ์ที่ยึดมั่น และก็จะไม่เกิดขึ้นเพียงฉาบฉวย โดยที่ไม่คำนึงถึงอนาคตของคนรุ่นลูกรุ่นหลานในอนาคตข้างหน้า และสิ่งที่อยากจะบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงก้าวเดินต้อไปและจะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งประชาธิปัตย์ได้” น.ส.วทันยา กล่าว 

น.ส.วทันยา กล่าวตอว่า จังหวัดพัทลุงมีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 1,000 ปี และที่สำคัญบรรพบุรุษได้เคยสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศไทยหลายครั้งหลายคราว อย่างเช่น ในสมัยรัชกาลที่ 1 บรรพบุรุษชาวพัทลุงได้ช่วยกันสู้ศึกกับพม่าและสามารถรักษาเอกราชให้กับคนไทยไว้ได้ และตลอดระยะเวลากว่า 77 ปีที่ผ่านมา ที่จังหวัดพัทลุงได้มีพรรคการเมืองเข้ามาแล้วก็จากไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเห็นอยู่ คือ คนพัทลุงและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทอดทิ้งกัน เราร่วมต่อสู้และช่วยเหลือชาวพัทลุงมาโดยตลอด เราเป็นพรรคที่เกิดจากอุดมการณ์ที่มาจากประชาชน และมีรากฐานมาจากประชาชน และเป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีหัวใจเป็นประชาชน พรรคเราไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุนที่มาคอยชี้นำ และไม่มีอำนาจรัฐที่จะขู่เข็ญประชาชน แต่พรรคประชาธิปัตย์เรายืนยัดอยู่คู่คนพัทลุงได้นั้น เพราะเรามีศรัทธาของคนพัทลุงเป็นหลังพิงเท่านั้น 

นิ่งสยบ!! ‘จุรินทร์’ ลั่น! ไม่ตอบโต้ ‘รวมไทยสร้างชาติ’  มุ่งหาเสียงภาคใต้ พร้อมเปิด 5 ผู้สมัครส.ส.ปัตตานี พรุ่งนี้

‘จุรินทร์’ เผย ปชป. พร้อมเปิด 5 ผู้สมัครส.ส.ปัตตานี พรุ่งนี้ หลังกกต.ปรับแบ่งเขตเลือกตั้ง ชี้ พรรคไม่ต้องการโต้ตอบกับใคร ขอมุ่งหาเสียงอย่างเดียว

(4 มี.ค.66) ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปรับการคำนวณจำนวนประชากร ทำให้เกิดแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ส่งผลให้จ.นครศรีธรรมราชและปัตตานีมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ว่า เป็นเรื่องดีที่มีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น โดยจ.ปัตตานี เพิ่มจาก 4 เป็น 5 เขต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ปัตตานีทั้ง 5 เขต ในวันพรุ่งนี้(5 มี.ค.) ส่วนที่จ.นครศรีธรรมราช เพิ่มเป็น 10 เขต โดยเรากำลังดำเนินการ แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครเกินจำนวนเขตเลือกตั้งอยู่แล้ว

'จุรินทร์' มั่นใจ ชาวสงขลาหนุน 'ปชป.ยกทีม'

สุดคึก!! 'จุรินทร์ ออนทัวร์' มั่นใจชาวสงขลาหนุนประชาธิปัตย์ยกทีม ยันระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงข้างมากได้ เป็นแกนตั้งรัฐบาล ตั้งนายกฯ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พร้อมด้วย นายสรรเพรญ บุญญามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 และนายสมยศ พลายด้วง ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 เข้าสักการะศาลหลักเมือง จ.สงขลา โดยมีประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจตลอดเวลา

จากนั้นได้เดินทางไปเปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง เขต 1 และการมีปราศรัยย่อย เพื่อขอให้สนับสนุน นายสรรเพรญ เป็นผู้แทนเขต 1 บุตรชายของนายนิพนธ์ ผู้เป็นกำลังสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางประชาชนที่ตะโกนเป็นภาษาใต้ว่า “พันพรือ ก็ต้องเลือก สรรเพรญ” 

นายจุรินทร์ ได้กล่าวถึงการหาเสียงในพื้นที่ เขต 1 จ.สงขลา ว่า ประชาธิปัตย์มีความพร้อมมากกว่าพรรคอื่น เพราะมีการเปิดตัวเป็นพรรค แรกในสงขลา และผู้สมัครลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังเลือกตั้งปี 2562 โดยในเวทีปราศรัย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ผ่านมา ประชาชนเข้าร่วมฟังปราศรัย กว่า 40,000 คน

สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณประชาธิปัตย์ในสงขลาฟื้นกลับมา ทำให้พวกเรามีขวัญกำลังใจและมั่นใจว่าจะชนะยกจังหวัด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก พร้อมกับยืนยันว่า ที่พูดนี้ ไม่ได้มโน หรือจินตนาการ แต่พูดจากความจริงที่มีประสบการณ์ และเข้าใจความรู้สึกของพี่น้องชาวสงขลา รวมถึงว่าที่ผู้สมัครทุกคน ล้วนเป็นคนคุณภาพ คนรุ่นใหม่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top