Saturday, 9 December 2023
POLITICS NEWS

‘บิ๊กป้อม’ ติดตาม ช่วยเหลือคนยากไร้ ประชุม คกก. "สมัชชาคนจน" สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ไข ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว มอบ ร.อ.ธรรมนัส ลงพื้นที่ รับข้อเรียกร้องเพิ่มเติม รัฐบาลพร้อมช่วยคนจน ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานภายใต้คำสั่ง คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ซึ่งมีความคืบหน้าในภาพรวม พร้อมกำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวมถึง ผวจ.ทุกพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัด การแก้ไขปัญหาที่เป็นธรรม รวดเร็ว และรายงานให้คณะกรรมการฯ ทราบทุกเดือน

จากนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบ ข้อเสนอของสมัชชาคนจน พร้อมรับข้อเรียกร้องอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อทิ การขอใช้ประโยชน์ที่ดินทำกิน ,การของดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ และการขอรับค่าทดแทน กรณีต้องออกจากพื้นที่ เป็นต้น 

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับคณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน กษ.,ทส.,มท.,กค.และทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหา ของสมัชชาคนจน ให้ครอบคลุมทุกมิติและให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว พร้อมรับข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อพิจารณา และหาแนวทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชน ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างยั่งยืน ตามเจตนารมณ์ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

พล.อ.ประวิตร  ยังได้ มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กษ./ประธานอนุกรรมการประสานงานเร่งรัดฯ ลงพื้นที่จริง เพื่อติดตาม การแก้ไขปัญหาร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อยุติ ซึ่งจะทำให้สมัชชาคนจนได้รับการช่วยเหลือตรงตามความต้องการ ภายใต้กรอบ กม.ที่เป็นธรรม อย่างรวดเร็ว อีกด้วย

‘แรมโบ้’ กระชากหน้ากาก ‘หมอบุญ’ ซัด เป็นนายทุนในคราบหมอ จ้องหากินกับวัคซีน

5 กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงตอบโต้กรณีข่าว นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ออกมากล่าวหาโจมตีการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล ว่าล่าช้า ไม่ยอมดำเนินการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์น่า โดยยกย่องว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด อ้างว่าวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาใช้นั้นเป็นเกรดซี และอ้างว่าประเทศเพื่อนบ้านเราได้รับไฟเซอร์กันหมดแล้ว

นายเสกสกล ระบุว่า คนในวิชาชีพหมอ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง ยกมือไหว้ได้ เคารพได้ เพราะรักษาชีวิตผู้คน ยกเว้นหมอบางจำพวกที่แท้จริงเป็นนายทุน เป็นนักแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่อยู่ในคราบหมอ

น่าเสียใจที่หมอบุญ ซึ่งเป็นนักธุรกิจหลายประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงพยาบาลเอกชน ได้ออกมาให้ข้อมูลที่บิดเบือน เจตนาจะทำให้คนเข้าใจผิดในการทำงานของภาครัฐ และการจัดหาวัคซีน ซึ่งก็ดูแลโดยทีมหมอที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ในยามนี้

ในความเป็นจริง หากดูไทม์ไลน์แล้ว ภาครัฐไม่ได้ล่าช้าเลย

25 ก.พ. 64 ก่อนการระบาดใหญ่ องค์การเภสัชฯ ติดต่อตรงไปแสดงความจำนงค์ ไปยัง บ.โมเดอร์นา ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อสั่งจองวัคซีนกว่า 5 ล้านโดส พร้อมสอบถามความเป็นไปได้ว่า จะได้ทัน มิ.ย. 64 หรือไม่

28 ก.พ. 64 องค์การเภสัชฯ ได้รับคำตอบกลับมา ว่าซัพพลายมีจำกัดเนื่องจากมีความต้องการสูงมาก ทำให้สามารถส่งได้เร็วสุด คือ ไตรมาสแรกของปีหน้า (มกราคม - มีนาคม 2565)

1 เม.ย. 64 องค์การเภสัชฯ สอบถามเพิ่มเติมว่า Moderna ได้ตั้งบริษัทใดเป็น Authorized dealer เนื่องจากมีผู้แสดงตัวว่า สามารถนำวัคซีนเข้าให้ไทยได้มากกว่า 2 ตัวแทน

2 เม.ย. 64 บ.โมเดอร์นา ได้แจ้งว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับ ‘บริษัทซิลลิค’ (Zuellig Pharma LTD.) แต่เพียงผู้เดียว และหวังว่า จะสรุปสัญญากับ ซิลลิค ให้เร็วที่สุด

15 พ.ค. 64 บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ได้ออกแถลงการณ์ว่า ‘การจัดซื้อวัคซีนของโมเดอร์นา ต้องจัดซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐเท่านั้น ในที่นี้ คือ องค์การเภสัชกรรม’ เนื่องจากเป็นข้อกำหนดของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนฯ เพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลเอกชน จัดส่งความต้องการวัคซีนจริง พร้อม ‘วางเงิน’ เพื่อให้องค์กรเภสัช สั่งวัคซีนจากบริษัท ซิลลิค ตัวแทนจัดหน่ายวัคซีน Moderna ในประเทศไทย

2 ก.ค. 64 องค์การเภสัชฯ ได้รับเอกสารจากฝั่งของซิลลิค เพื่อแนบไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา

ย้ำ เพิ่งได้รับเอกสารวันที่ 2 ก.ค. หลังจากวันที่ นพ.บุญออกมาพูด ไม่ใช่ว่าภาครัฐเพิ่งทำ หลังนพ.บุญโจมตี แต่ภาครัฐดำเนินการมาโดยตลอด เจรจามาโดยตลอดเพื่อขอให้ได้วัคซีนมาเร็วที่สุด แต่ฝ่ายเอกชนเพิ่งส่งเอกสารมาภายหลังเช่นเดียวกับวัคซีนไฟเซอร์ ลงนามใบจองไปแล้ว 20 ล้านโดส เร่งให้ได้ของเร็วที่สุดแล้ว คือ ไตรมาส 4 ปีนี้ ร่างสัญญาจะเข้า ครม.

ถ้าหมอบุญ ใจบุญต่อประเทศชาติและคนไทยจริง ทำไมไม่เร่งให้ผู้ผลิตวัคซีนทั้งโมเดอร์น่า ทั้งไฟเซอร์ รีบดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งขอขึ้นทะเบียน อย. เพิ่งมาขอขึ้นทะเบียนภายหลัง ซึ่งทางการไทยก็ดำเนินการให้อย่างรวดเร็วที่สุด

ถ้าหมอบุญใจบุญจริง เมื่อองค์การเภสัชฯ ประกาศจะขายวัคซีนโมเดอร์นา ให้โรงพยาบาลเอกชน ราคา โดสละ 1,100 บาท (ราคารวมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง ค่าประกันภัยรายบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) โรงพยาบาลเอกชนก็ไม่ควรจะนำไปขายต่อในราคาที่มีส่วนต่างมากเกินไป

อย่างโรงพยาบาลเอกชนของหมอบุญ ก็แจ้งว่าจะคิดบริการรวมค่าฉีดวัคซีน 1,700 บาท ต่อโดส ประกาศรับชำระค่าวัคซีนทางเลือกก่อนแล้วด้วย มีส่วนต่างราคาที่รับมาจากองค์การเภสัชกรรมถึงโดสละ 600 บาท จำนวน 5 ล้านโดส ก็คือส่วนต่าง 3,000 ล้านบาท

ยิ่งพฤติกรรมของหมอบุญที่ออกมากล่าวหา กดดันให้รัฐต้องรีบเซ็นสัญญา ทั้ง ๆ ที่ ภาครัฐก็ต้องเจรจาเพื่อให้เสียเปรียบน้อยที่สุด แต่หมอบุญกลับมีผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ ยิ่งทำให้เห็นธาตุแท้แห่งพฤติกรรมว่า ต้องการทำเพื่อคนไทยจริง ๆ หรือเพื่อหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจจากการค้าวัคซีน

สมแล้วที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ออกมาเตือนว่า โรงพยาบาลเอกชน และผู้ซื้อ ต้องตกลงเงื่อนไขต่าง ๆ กันให้ได้ก่อน เพราะการซื้อวัคซีนดังกล่าว รัฐบาล หรือ องค์การเภสัชจะต้องไม่รับความเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องการเงิน เช่น หากรัฐบาลจ่ายเงินให้ก่อน แล้วเอกชนเปลี่ยนใจไม่เอา ซื้อมาแล้วก็จะส่งผลกระทบกับรัฐบาล กรณี นพ.บุญ วนาสิน จะมาโทษกระทรวงสาธารณสุข หรือรัฐบาลไม่ได้เลย หากอยากซื้อเพื่อเอากำไร ก็ต้องไปเจรจากับบริษัทผู้ผลิตให้เรียบร้อย แล้วก็ค่อยมาแจ้งองค์การเภสัช เพื่อจะเร่งดำเนินการให้ แต่ก็อย่ามามือเปล่า

คราวที่แล้ว หมอบุญออกมาโจมตีองค์การเภสัชฯ แล้วในที่สุดลูกหลานต้องออกมาทำหนังสือขออภัย ครั้งนี้เอาอีกแล้วหรือ

บรรดาคุณหมอที่ไปช่วยงานภาครัฐจัดการวัคซีน ล้วนเป็นนักวิชาการเก่งกล้าด้วยใจบริสุทธิ์ แต่กับนายทุนธุรกิจโรงพยาบาล (ในคราบหมอ) ที่เห็นช่องทางหารายได้เพิ่ม เที่ยวไปสัญญากับประชาชนแล้วมากดดันภาครัฐว่าเป็นจระเข้ขวางคลอง เช่น การอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตบริษัทฯ วัคซีนต่างชาติ ถ้าจริงดังว่า ทำไมไม่ติดต่อจัดหามาให้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ตนจึงอยากเตือนหมอบุญ ว่าพฤติกรรมตอนนี้ทำให้หน้ากากหลุดไปเยอะแล้ว คนเห็นธาตุแท้ล่อนจ้อนแล้ว อย่าให้เด็กรุ่นหลังต้องไปขุดคุ้ยพฤติกรรมเกี่ยวกับธรณีสงฆ์อัลไพน์ขึ้นมาเรียนรู้กันเลยว่าใครเป็นนักบุญ ใครเป็นคนบาป ร่วมด้วยช่วยแนะนำให้แปลงธรณีสงฆ์จนมาเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์และหมู่บ้านจัดสรรในความดูแลของตนเอง

ยิ่งในวงการการเมืองตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเขารู้กันดีว่า หมอที่เป็นนักล็อบบี้ยิสต์เครือข่ายใกล้ชิดนายทักษิณ วิ่งเข้าหาผลประโยชน์เพื่อธุรกิจตัวเองจนร่ำรวยมหาศาลเป็นหมอในคราบนักบุญใจบาปเป็นหมอคนไหน และเป็นหมอที่ชี้นิ้วสั่งนักการเมืองบางกลุ่มได้เพราะมีผลตอบแทนล่อจูงใจ นักการเมืองรุ่นเก่า ๆ ทุกคนรู้จักหมอคนนั้นเป็นอย่างดี

ถึงอย่างไร หากแม้นสูญเสียจิตวิญญาณความเป็นหมอ โดยเป็นนายทุนนักธุรกิจเต็มตัวแล้ว ก็อย่าได้ถึงขนาดเสียหมาไปกับการบิดเบือนข้อมูลการจัดหาวัคซีนเพื่อโจมตี ดิสเครดิตคนทำงานให้เสียกำลังใจเลย จิตแห่งความดีเพื่อประเทศชาติประชาชน ก็ขอให้มีมโนธรรมสูงกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวบ้างสักนิดจะได้ไหม อย่าถึงขั้นตัองหน้ามืดตามัว มองแต่ผลประโยชน์ส่วนต่างจากวัคซีน โดยไม่ห่วงประเทศชาติ ไม่สนใจว่าผลกระทบจากคำพูดและการกระทำของตัวเองเลย ที่จะส่งผลเสียหายให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อนายกฯ และบุคลากรที่ตั้งใจทำงาน เพียงเพื่อหวังให้ประชาชนออกมารุมกระหน่ำซ้ำเติม ตำหนิโจมตีด่าทอนายกฯ และรัฐบาลอย่างหนัก

พฤติกรรมการกระทำของหมอบุญเช่นนี้ ไม่สมควรอย่างยิ่ง การเป็นหมอของหมอบุญอย่านึกถึงแต่ผลประโยชน์ธุรกิจตัวเองมากเกินไป ประเดี๋ยวจะเสียหมอเป็นเสียหมามากกว่า


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พท.จี้รัฐฉีดไฟเซอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์ทันที  ซัด “ประยุทธ์” หยุดรวบอำนาจแก้โควิด 

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงท่าทีของพรรคต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทวีคูณเข้าขั้นวิกฤต สิ่งที่ ศบค.ต้องทำทันที ได้แก่

1.) บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดต้องได้รับวัคซีน mRNA ก่อน วัคซีนไฟเซอร์ที่ระบุว่าจะเข้ามาในไทย 1.5 ล้านโดส มีจำนวนเพียงพอที่จะจัดสรรให้แพทย์พยาบาล ซึ่งเป็นด่านหน้าตรวจรักษา พวกเขาต้องมีเกราะที่แข็งแรงในการป้องกันตนเอง และจะช่วยรักษาระบบสาธารณสุขไม่ให้พังทลายลง

2.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.ต้องหยุดรวบอำนาจ กลับมาใช้กลไกปกติในการบริหารสถานการณ์วิกฤต โดยส่วนกลางมีหน้าที่เสนอนโยบายเท่านั้น เพื่อให้ในแต่ละพื้นที่ซึ่งมีความเข้าใจสถานการณ์การระบาดแตกต่างกัน ได้บริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว

3.) นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงบางคน รวมถึงนักวิชาการผู้ใหญ่ที่คอยปกป้องรัฐ ต้องกลับมาทำหน้าที่ดูแลประชาชน ไม่ใช่แค่เอาใจผู้บังคับบัญชา ทางพรรคเพื่อไทยจะใช้วิธีการทางกฎหมายในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการระบาด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารราชการที่ผิดพลาดดำเนินการทางกฎหมาย 

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า

4.) รัฐต้องร่วมมือกับภาคเอกชนรับมือวิกฤตการระบาดในด้านต่าง ๆ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ เช่น การลำเลียงผู้ป่วย การลำเลียงอาหารให้กับแคมป์คนงาน หรือสถานประกอบการที่ถูกสั่งปิด อาจใช้บริการเดลิเวรีของภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วย

5.) เปิดเสรีในการนำชุดตรวจ Self rapid test มาใช้ในการตรวจหาเชื้อในเบื้องต้นให้กับประชาชน จัดเตรียมหน้ากากอนามัยให้มีความพร้อม และวัคซีนคือเครื่องมือที่สำคัญในขณะนี้

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยปละละเลย จงใจให้เกิดกระบวนการที่ล่าช้าในการแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรค ผู้ป่วยรอเตียงอยู่ที่บ้านจนเสียชีวิตเหมือนใบไม้ร่วง นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงกลัวตัวเองเสียหน้า มากกว่ากลัวประชาชนเสียชีวิต หยุดทำให้สถานการณ์แย่ลงไปมากกว่านี้ ชีวิตประชาชนทุกคนมีค่าไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน

ราเมศ ย้ำ พร้อมรับฟัง เตือน เกรียนคีย์บอร์ด ให้ร้ายพรรค ระวังผิดกฎหมาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีครูสอนภาษาอังกฤษได้ออกมาโจมตีพรรค ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ว่าพรรคไม่เรียกร้อง ไม่ช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า

หลักการสำคัญของพรรคที่สำคัญคือการรับฟังทุกเสียงสะท้อน ที่สื่อสารกันด้วยความตรงไปตรงมา แต่หากมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยข้อความอันเป็นเท็จ พรรคก็จำต้องออกมาชี้แจง กรณีที่มีการใช้โซเชียลมีเดีย ล่าสุดมี ครูลูกกอล์ฟ - คณาธิป สุนทรรักษ์ ที่มีคนติดตามในช่องทางโซเชี่ยลมีเดี่ยเป็นจำนวนมาก ได้ออกมาโจมตีพรรคด้วยข้อความผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงหลายเรื่อง มีความเสียหายมากเพราะมีคนที่อาศัยข้อความที่โพสต์ไปใส่ร้ายต่อ ก็ให้ระวังเพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้

เช่นกล่าวหาว่าพรรคไม่เคยทำงาน ไม่เคยเรียกร้องหรือช่วยเหลือประชาชนเลยในช่วงโควิด อยากให้มองด้วยความเป็นธรรม พรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่ภายใต้หน้าที่ที่ได้รับ ทั้ง รัฐมนตรี ส.ส. อดีต ส.ส. ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ช่วยเหลือทุ่มเทเรียกร้องให้ประชาชนเสมอมา ล่าสุดผู้ประกอบการที่ช่วยเหลือก็พยายามช่วยเรียกร้องช่วยกันทุกวิถีทาง ตั้งแต่เริ่มแรกในช่วงการแพร่ระบาดพรรคตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือในทุกด้าน เป็นพรรคแรกที่ตั้งศูนย์ ช่วยเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจหน้าที่ในรัฐบาลผ่านทุกช่องทาง แม้เป็นพรรคร่วมแต่เราเห็นความทุกข์ของประชาชนเสมอ จึงออกมาทำทุกอย่างช่วยกันคนละไม้ละมือรัฐมนตรีทุกคนที่ทำงานก็พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ทุกคน ที่โพสต์ในลักษณะที่กล่าวหาว่าเหมือนไม่ทำอะไรเลย เป็นความเท็จและบิดเบือนทั้งสิ้น 

ที่กล่าวหาว่า “สนใจแต่การแบ่งเค้ก น่าสะอิดสะเอียน” ต้องถามว่าความหมายคืออะไร ถ้าการทำงานที่แบ่งเค้ก คือการหาประโยชน์ การทุจริต แบ่งผลประโยชน์กัน ก็จะเป็นการพูดที่ไม่ถูกต้อง หากมีการกระทำในลักษณะเช่นนั้น หรือหากพบเห็น ก็แจ้งดำเนินคดีกับคนที่กระทำเลย 

ที่พูดถึง คำว่า ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต นั้นในประเด็นนี้ ประชาชนเป็นใหญ่ ถูกครับ ทุกนโยบายของพรรคคิดและทำเพื่อประชาชนแทบทั้งสิ้น และต้องขอบพระคุณครูลูกกอล์ฟ ที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และไม่อยากให้เข้าใจผิด เราเป็นคนปักษ์ใต้เหมือนกัน หากครูลูกกอล์ฟไปส่งเสียงในสวนยาง ชาวสวนยางจะโกรธครูลูกกอล์ฟและครอบครัวได้ เพราะชาวสวนยางขณะนี้อยู่ได้เพราะมี โครงการประกันรายได้ที่เป็นหลักประกันให้ชีวิตพี่น้องชาวสวนยางมีรายได้ที่อยู่ได้ น้องควรเอาสิ่งที่ดีเหล่านี้ไปส่งเสียงให้ชาวสวนยางทราบและหากมีอะไรที่เขาขาดเหลือก็มาบอกต่อพรรคได้ เช่นนี้จะสร้างสรรค์และเป็นสิ่งที่ดีมาก การสื่อสารที่ดีในประเด็นสังคมก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยสุจริต หากใส่ร้ายบิดเบือนก็ไม่ใช่ และหากพรรคไม่คิดว่าประชาชนเป็นใหญ่ มีหรือที่จะคิดอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต เป็นหลักการขั้นพื้นฐานที่การเมืองต้องเดินตามแนวทางนั้นอย่างมั่นคง และโดยส่วนตัวได้ส่งข้อความไปหาครูลูกกอล์ฟ - คณาธิป สุนทรรักษ์ เพื่อขอพูดคุย พร้อมแลกเปลี่ยนความจริงกันได้ทุกเรื่อง จะได้ชี้ให้เห็นว่ากำลังเข้าใจผิดในความเป็นประชาธิปัตย์ หากมีการสื่อสารในลักษณะนี้ พรรคจะเสียหายได้ จึงส่งเบอร์ไปให้ทางข้อความ

นี่คือความท้าทายที่จะทำให้น้องยังต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากครูลูกกอล์ฟได้รู้ความจริง

“เลขาฯ สมช.” แจง คลาย 4 กิจกรรมก่อสร้าง ไม่ใช่สั่งย้อนหลัง สั่งตร. เอาผิดฝืนเปิดสถานบันเทิง ย้ำ ระบบรักษาตัวที่บ้านต้องรอบคอบ เผย ผู้ว่าฯ กทม. เร่งทำระบบ-เตรียมจุดพักคอย 20 จุดใน 50 เขต รับผู้ป่วยอาการไม่หนัก เล็งแบ่งวัคซีนบริจาคฉีดต่างชาติด้วย 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอนุมัติในหลักการอนุญาตโครงการก่อสร้าง 4 ประเภท ให้ดำเนินการต่อได้ และการเคลื่อนย้ายแรงงานในกรณีที่มีความจำเป็น โดยผ่อนคลายข้อกำหนดฉบับที่ 25 บางข้อ ว่า เป็นไปตามคำขอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านวิศวกรรมเสนอมา โดยศปก.ศบค. หารือแล้วเห็นว่าเหมาะสม และให้ผ่อนคลาย เพราะบางกิจการถ้าปิดไซต์ก่อสร้างไปนาน ๆ อาจจะส่งผลกระทบได้ และได้เรียนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค. ทราบ ก็เห็นชอบตามนั้น ส่วนจะมีการผ่อนคลายหรือเข้มงวดมาตรการใดเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องรอฟังจากกระทรวงสาธารณสุข ที่กำลังพิจารณาอยู่ โดยจะประเมินสถานการณ์ก่อนจะพิจารณามาตรการว่า ถ้าเข้มงวดขึ้นจะทำให้การแพร่เชื้อลดลงหรือไม่ เราต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบ เพราะเป็นห่วงผลกระทบด้านเศรษกิจเช่นกัน เนื่องจากประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการบางส่วนเดือดร้อน แต่ทั้งนี้ หากกระทบด้านเศรษฐกิจ แต่ถ้าทางสาธารณสุขยืนยันก็ต้องว่าตามสาธารณสุข มิเช่นนั้นในระยะยาวอาจจะกระทบกับเศรษฐกิจมากกว่าเดิม

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ส่วนการผ่อนคลายกิจการก่อสร้างให้มีผลย้อนหลัง 28 มิ.ย. นั้น ในข้อเท็จจริง ข้อกำหนดได้ให้อำนาจ ศปก.ศบค. ไว้แล้ว ไม่ใช่
นายกฯ มาอนุมัติให้ย้อนหลัง เพราะในการประชุมเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้แจ้งนายกฯ ด้วยวาจาและนายกฯ ได้เห็นชอบแล้ว แต่ในการเขียนอนุมัติหลักการจะต้องรอบคอบ สำหรับการปรับยุทธศาสตร์ดูแลผู้ติดเชื้อได้หารือกับศูนย์ปฏิบัติการ กระทรวงสาธารณสุข กำลังพิจารณาเรื่องนี้ ปัจจุบันสิงคโปร์ และมาเลเซียก็ปรับแล้ว แต่เราไม่ได้ปรับตาม 2 ประเทศนี้ เพราะจะต้องดูเงื่อนไข และสภาพแวดล้อมของเรา รวมถึงฝ่ายวิชาการสาธารณสุข 

เมื่อถามถึงกรณีที่ นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่าควรจัดยาให้คนไข้โดยเร็ว และให้คำนึงถึงการรักษาคนที่ติดเชื้อก่อนจำนวนผู้ติดเชื้อ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เรารับฟังมา 2 เรื่องคือ

1.) ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่จะแจกจ่ายเร็วขึ้น ขณะที่บางพื้นที่ใช้ยาฟ้าทลายโจรช่วยในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเบาบาง

และ 2.) การรักษาตัวที่บ้านได้เชิญผู้ว่ากทม.มาหารือเพื่อขอให้ กทม. เร่งรัดจัดระบบรักษาตัวที่บ้านให้มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับได้

ส่วนโรงพยาบาลสนามในชุมชน จะให้ผู้ติดเชื้อในเบื้องต้น ได้รับการรักษาก่อนจะไปเข้าโรงพยาบาลสนาม โดยกทม. ต้องพยายามนำผู้ติดเชื้อเข้าระบบให้ได้ และประสาน โรงพยาบาลเอกชนรับตัวไปรักษา เพราะเงื่อนไขเดิมเมื่อตรวจแล้วถ้าพบติดเชื้อต้องรับรักษา เมื่อจำนวนเตียงจำกัด จะทำให้หนักใจที่จะรับตรวจหาเชื้อ ซึ่งประชาชนที่กังวลก็ต้องเปิดช่องทางให้ได้รับการตรวจ ปัจจุบันผู้ติดเชื้อมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ

1.) คนเดินเข้าไปตรวจ

2.) จุดบริหารตรวจหาเชื้อของกทม. 6 จุด ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต

และ 3.) การตรวจเชิงรุก โดยต้องพยายามนำ 3 กลุ่มนี้เข้าระบบให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งระบบการกักตัวที่บ้าน ที่โรงพยาบาลสนามชุมนชน หรือที่ศูนย์พักคอย

ซึ่งผู้ว่ากทม. จะดำเนินการให้ได้ 20 จุด ใน 50 เขต ซึ่งกลุ่มนี้เป็นคนไข้สีเขียวใกล้ระดับเหลือง ที่ต้องคัดกรองไปสถานที่ที่สูงกว่า และที่โรงพยาบาลสนามหลัก ให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หากใครจะเข้ารักษาในระบบใดต้องดูความเหมาะสมทั้งสภาพแวดล้อม บ้านพัก และที่อยู่อาศัย ถ้าไม่รุนแรงโรงพยาบาลเอกชนจะต้องจัดตั้งวอร์รูม ประสานคนที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ยังคงมีการฝ่าฝืนและลักลอบเปิดสถานบันเทิงแบบส่วนตัวในย่านเอกมัย จะเข้าไปควบคุมอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า นายกฯ เน้นย้ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ฝ่ายความมั่นคงให้ช่วยกำกับดูแลในเรื่องดังกล่าว และจะมีบทลงโทษ โดยสัปดาห์ที่แล้ว ได้จับกุมในบางพื้นที่ ส่วนกรณีที่ลักลอบเปิดอาจจะยากในการตรวจพบ ดังนั้นถ้าประชาชนมีเบาะแสให้แจ้งมาที่ศบค. เพื่อดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่โรงพยาบาลเอกชน ระบุว่าที่ได้วัคซีนทางเลือกช้า เป็นเพราะติดขัดขั้นตอนของรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เมื่อวันวันที่ 3 ก.ค.หน่วยงานที่รับผิดชอบได้หารือเรื่องการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ และวัคซีนโมเดอร์นา ให้ศปก.ศบค. รับทราบถึงขั้นตอน ก็เห็นว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบพยายามเร่งดำเนินการ แต่ต้องขออภัยเพราะมาตรการดำเนินการ จะต้องทำอย่างระมัดระวัง และให้ความสำคัญเรื่องกฎหมายด้วย ถ้าทำไปแล้วมีข้อผิดพลาดด้านกฎหมายหน่วยงานก็ต้องรับผิดชอบ กรณีวัคซีนไฟเซอร์ กรมควบคุมโรคได้เร่งรัดจัดหาเป็นวัคซีนหลัก ส่วนโมเดอร์นา ทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้เร่งรัดเป็นวัคซีนทางเลือก คาดว่าวันนี้ (5 กรกฎาคม) ถ้าอัยการสูงสุดตอบกลับมา ในวันที่ 6 ก.ค.จะสามารถนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ เพื่อเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีแพทย์บางส่วนเรียกร้องวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 3 ให้แก่บุคลากรด่านหน้ามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก เพราะข้อคิดเห็นของแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังมีความเห็นที่ต่างกัน 

เมื่อถามถึงที่มีแพทย์ระบุว่า หากฉีดไฟเซอร์เป็นเข็ม 3 ให้บุคลากรด่านหน้า แล้วป้องกันได้ผล จะแก้ตัวว่าวัคซีนซิโนแวคไม่สามารถป้องกันโควิดได้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าว่า ขอให้ถามกระทรวงสาธารณสุข ที่จะแถลงเรื่องสำคัญในช่วงบ่ายโมงวันเดียวกันนี้ จะไปตอบแทนไม่ได้ สำหรับวัคซีนที่ได้รับบริจาคมา เช่น วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐอเมริกานั้น เบื้องต้นอาจจะพิจารณาฉีดให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยบางส่วน หรือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์

“รมว.ทส.” สั่งอธิบดีกรมควบคุมโรค สำรวจสาเหตุโกดังเก็บสารเคมี บางพลี ระเบิด พร้อมเร่งหามาตรการดูแลประชาชนเบื้องต้น หวั่นสารเคมีฟุ้งมีผลกระทบ” แนะ สวมหน้ากากไว้ก่อนป้องกันทั้งควันและโควิด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดที่โกดังเก็บสารเคมีของ บริษัท หมองตี่ เคมีคอล จำกัด เลขที่ 87 หมู่ 15 ตำบลราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยแรงระเบิดสร้างความเสียหายทั้งหมดของตัวพื้นที่โรงงานและขยายวงกว้างรัศมีหลายกิโลเมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนว่า ตนได้รับทราบข่าวจากสื่อ ซึ่งได้ให้กรมควบคุมมลพิษทการสืบสวนข้อเท็จจริงอยู่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งทราบว่ามีความเสียหายมากมาย โดยเฉพาะกับทรัพย์สินที่เกิดกับประชาชนโดยรอบ แต่สิ่งสำคัญคือมลภาวะที่เกิดขึ้นจากการระเบิดมีผลกระทบอย่างไร ตอนนี้กำลังให้อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเร่งประสานงานกับสำนักงานในพื้นที่ ในภูมิภาคว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง จะได้เร่งแก้ปัญหาต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นได้แนะนำให้ประชาชนป้องกันตัวเองอย่างไรก่อนหรือไม่ เพราะมีควันออกมาจำนวนมาก นายวราวุธ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงโควิด คงต้องขอความร่วมมือให้ใส่หน้ากาก อย่างน้อยก็กันฝุ่นละออง เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่าสารเคมีตัวใดบ้างที่มีผลกระทบทางด้านมลภาวะ แต่หากมีสิ่งผิดปกติอะไรก็ขอให้ประชาชนแจ้งมาได้ที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภูมิภาค ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษจะได้เร่งประสานงานและหามาตรการที่จะให้ประชาชนป้องกันตัวเองในระยะแรกก่อน

"วราวุธ" มองความขัดแย้ง ระหว่างพรรคพปชร. - ภท. เป็นเรื่องธรรมดาทุกรัฐบาลหลังทำงานเกินครึ่งทาง ยินดีหักเงินเดือน เปรียบ  "เอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง"  ก็ยอม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ ประธานคณะกรรมการยนโยบายและ ยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ถือเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้านในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเป็นเรื่องปกติของระบอบรัฐสภา เมื่อเปิดสมัยประชุมฝ่ายค้านก็มีเอกสิทธิ์ที่จะยื่นอภิปราย

ทั้งนี้ ก็ต้องมาดูเนื้อหาว่าฝ่ายค้าน มีข้อมูลรายละเอียดอย่างไร อย่างตนทำงานในรัฐบาล ก็เห็นแต่ละฝ่ายทุ่มเททำงาน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อีกทั้งมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง บางท่านไม่ได้อยู่ในวงทำงาน ก็อาจมีความคิดหรือแนวคิดที่แตกต่างกันไป ก็ต้องมีการพูดคุยรับฟังและชี้แจงในสภา 

เมื่อถามว่าความระหองระแหงของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นจุดบอดในฝ่ายค้านโจมตีได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า จุดบอดถือเป็นเรื่องปกติของทุกรัฐบาล เราอยู่กันมาสองปีแล้ว ซึ่งถ้านับกันจริง ๆ เราเลยจุดครึ่งทางของรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น ก็เป็นเมือนการนับถอยหลังสำหรับทุก ๆ รัฐบาล 

"ที่ผมพูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลนี้ เรานับถอยหลังแล้ว แต่เป็นที่ทุกรัฐฐบาล จะเจอเหมือนกัน เมื่อทำงานไปสักพักหนึ่ง ก็ยอมมีเรื่องที่ว่า การทำงานมีความเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ ที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องเหล่านี้ มาแตกให้เป็นรายละเอียดในการอภิปราย เพื่อให้ประชาชนได้เห็น ถือเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่มีฝ่ายตรวจสอบและฝ่ายทำงาน ก็ต้องว่ากันไปตามฝ่ายนิติบัญญัติ" นายวราวุธ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันมองความขัดแย้งกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ ภูมิใจไทย (ภท.) ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ตนเห็นมาทุกยุคทุกสมัย ความขัดแย้งในพรรครัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะในสถานที่เกิดโควิด-19 ที่มีความซับซ้อนและ ละเอียดอ่อนในการแก้ปัญหา หลายประเทศก็มีปัญหาที่แตกต่างกันไป ซึ่งประเทศไทยก็ไม่แตกต่างจากประเทศอื่น และเชื่อว่า เมื่อเทียบกันหลายประเทศแล้ว มาตรการในการแก้ไขของประเทศไทย มีประสิทธิภาพไม่แพ้ในหลายประเทศเลย แต่แน่นอนว่ามีบางประเทศทำได้ดีกว่าเรา แต่ประเทศที่ทำแย่กว่าเราก็มีเช่นกัน ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข พยายามกันอย่างเต็มที่ แน่นอนมีความเห็นที่แตกต่าง ก็เป็นสิทธิ์ที่ฝ่ายค้านจะนำประเด็นมาอภิปราย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นิด้าโพล เสนอ ส.ส. และ รัฐมนตรีบริจาคเงินเดือนในสภาวะวิกฤติแพร่ระบาดโควิด-19 นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าเป็นนโยบายก็ไม่ขัดข้อง ถ้าออกมาเป็นแนวทางเชื่อว่า ส.ส. และรัฐมนตรี ก็พร้อม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส.ส. มีรายจ่ายค่อนข้างมากมาย โดยเฉพาะภาษีสังคมต่าง ๆ  

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยอมเสียสละสักร้อยละ 30 จะยอมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้านับจำนวนส.ส. และครม. ที่มีก็ไม่ได้เยอะอะไร ถ้าตัดออกมาจากเงินเดือนและ เงินที่ได้รับ ก็เหมือนเอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง แต่ก็มีผลกระทบทางด้านจิตใจ ถ้าทุกฝ่ายเห็นตรงกัน ทุกคนก็พร้อมไม่น่ามีปัญหาอะไร พร้อมที่จะหักเงินเดือนตัวเอง 

“ดรุณวรรณ รองโฆษก ปชป.” แจง สิ่งที่เพจครูต้องมีคือความรู้ และการแสวงหาความจริง ย้ำ ปชป. ช่วยประสานหาเตียงมา 3 เดือนกว่า ตั้งใจช่วยกันโดยไม่เคยให้ร้ายใคร

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และโฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์ที่เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณีที่ เพจ LG and Friends โพสต์ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ว่า 

การด่าคนอื่นที่กำลังนั่งทำงานอยู่มันง่ายมาก แค่พิมพ์ไม่กี่ประโยค ก็สร้างความเกลียดชังได้ คนเป็นครูสิ่งแรกที่ต้องมีคือความรู้ และปัญญาในการแสวงหาความจริง หากคนที่ทำหน้าที่สอนคนอื่นทำเยี่ยงนี้ก็น่าห่วงเยาวชนที่กำลังเห็นคนเหล่านี้เป็นต้นแบบ

ปล. 1 ดิฉันและทีมจิตอาสาของพรรค ทำงานช่วยหาเตียงมา 3 เดือนกว่าแล้วค่ะ และส่งเสียงมาตลอด ตั้งใจช่วยกันจริง ๆ โดยไม่เคยให้ร้ายใคร ยกเว้นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ ครูจะลองใช้วิธีนี้บ้างก็ดีนะคะ สร้างสรรค์กว่าเยอะ

ปล. 2 เคยเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมครูแต่วันนี้ ต้องทบทวนใหม่เช่นกัน

ปล. 3 และกล้าพอที่จะเอาสิ่งที่ครูต่อว่าพวกเรารุนแรงแบบไม่รับผิดชอบ มาแชร์หน้า fb ส่วนตัวแบบไม่ตัดต่อ

ปล. 4 หากอยากรู้ว่าพวกเราทำอะไรกันอยู่ มาคุยกันได้ค่ะ จะเล่าให้ฟัง แต่ยาวนิดนะ

“เกศปรียา” ชี้ “รัฐบาล” จงใจพยายามฆ่าประชาชนไทย ในการเลือกวัคซีนด้อยคุณภาพในการป้องกันโรคโควิด-19

เกศปรียา แก้วแสนเมือง รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ตั้งข้อสังเกต ว่า ทำไมรัฐบาลถึงต้องเจาะจงเอางบประมาณหลายหมื่นล้านบาทไปจัดซื้อวัคซีนเพียง 2 ยี่ห้อ มาเพื่อการต่อสู้กับสถานการณ์โรคระบาด รัฐบาลไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนมาก่อนเลยเหรอ หรือว่ารู้ประสิทธิภาพของวัคซีนแต่จงใจจัดซื้อเพียง 2 ยี่ห้อ เพราะวาระซ่อนเร้น

จนมาถึงวันนี้ตนเห็นเอกสารสรุปการประชุมจากสื่อ เลยถึงบางอ้อว่า รัฐบาลรู้ว่าวัคซีนที่สั่งซื้อมาไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน แต่ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เลยไม่ยอมฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันได้ดีให้กับบุคลากรด่านหน้าอย่างกลุ่มในวงการแพทย์ ที่รัฐบาลออกมาหาผลประโยชน์ว่าต้องให้กำลังใจนักรบชุดขาวเป็นระยะเวลาจะสองปีแล้ว 

พฤติกรรมแบบนี้ คือ เหมือนคนปากหวานก้นเปรี้ยว พูดเอาดีแต่แท้จริงไม่เคยปรารถนาดีกับใคร แม้แต่คนที่ช่วยเหลือเสี่ยงตายเพื่อตนเองและประเทศชาติอย่างนักรบชุดขาว แทนที่จะฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพป้องกันเชื้อโรคได้ให้ เพราะเป็นผู้เสียสละอยู่ด่านหน้ามีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคสูง กลับตัดสินใจรักษาอำนาจตนเองต่อไป เพราะไม่รู้จะแก้ตัวให้วัคซีนชิโนแวคที่ตัดสินใจสั่งซื้อมาฉีดจนเป็นวัคซีนหลักที่คนไทยได้รับเวลานี้ 

ถ้าคุณมีวิธีคิดที่เห็นแก่อำนาจและประโยชน์ส่วนตน โดยอำมหิตกับประชาชนทั้งประเทศ เปรียบได้กับการเจตนาพยายามฆ่าประชาชนไทย คุณไม่สมควรเป็นตัวแทนประชาชนไทยแล้ว 

นอกจากจงใจพยายามฆ่าประชาชน รัฐบาลยังบริหารวัคซีนผิดพลาดร้ายแรง กรณีไปซื้อวัคซีนที่ประสิทธิภาพไม่ดีเท่าที่ควรมาฉีดให้ประชาชน ผลที่ตามมามันคือการทิ้งเงินเป็นหลายหมื่นล้านบาท (ที่สำคัญเงินเหล่านั้นเป็นเงินของคนทั้งชาติ) โดยที่เศรษฐกิจก็ยังคงเดินหน้าไม่ได้ ต้องปิดต่อเพราะควบคุมโรคไม่ได้ 

จนปัจจุบันภาคเอกชนทนไม่ไหวต้องลงทุนซื้อวัคซีนคุณภาพทางเลือกที่สามารถป้องกันโรคได้มาฉีดเอง ตีเป็นมูลค่าตามข่าวจากยอดจองวัคซีน ทางเลือก ประมาณ 9 ล้านคน คิดค่าวัคซีนคนละ 3000 บาท ก็คิดเป็นมูลค่าประมาณ 27,000,000,000 บาท ประชาชนต้องลงทุนกันเองขนาดนี้เพื่อต้องการให้เศรษฐกิจกลับมาทำมาหากินได้ แบบนี้เราจะต้องมีรัฐบาลแย่ๆที่บริหารไม่ได้เรื่องคณะนี้ไว้ทำอะไร 

อยากบอกว่าถ้าพวกคุณกระหายอยากมีอำนาจ การตัดสินบริหารจัดการต้องมองภาพรวม จริงอยู่อาจจะมีวาระซ่อนเร้นในการใช้งบประมาณมาโดยตลอด แต่เรื่องที่ควรจะคิดได้ว่า ถ้ายึดเอาความเห็นแก่ตัวสูงสุดของกลุ่มตนเป็นที่ตั้งแล้วประเทศชาติพังเละเทะขนาดนี้ควรตัดสินใจทำมั้ย หรือความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนสูงจนหน้ามืดตามัว

“สิระ”ย้อนถาม "เต้ มงคลกิตติ์” ทำไมอยากเป็นลูกน้องโจร เย้ย "ทักษิณ"กลับมาก็ทประโยชน์อะไรไม่ได้ 

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟตบุ๊คส่วนตัวระบุถึงเวลาที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องกลับประเทศแล้ว พร้อมเสนอตัวเป็นลูกมือทุกหน้าที่ว่า ตนตั้งคำถามว่าวันนี้นายมงคลกิตติ์ เป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ ที่ประชาชนเลือกเข้ามาให้ทำงาน เหตุใดวันนี้จึงเสนอตัวไปเป็นลูกน้องโจร เป็นลูกน้องมิจฉาชีพ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการที่ออกมาเสนอตัวเป็นลูกน้องของผู้ต้องหาหนีคดี ถือเป็นการกระทำที่ขัดจริยธรรม ส.ส.หรือไม่ 

นายสิระ ยังกล่าวว่า ถึงแม้นายทักษิณ จะกลับมา ก็ไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้กับบ้านเมืองได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญปี 2560 นายทักษิณ ถือว่าขาดคุณสมบัติทั้งการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและส.ส เพราะมองว่าปัญหาของโควิด- 19 ไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาลอย่างเดียวที่จะแก้ไขได้ประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือ และเมื่อประชาชนให้ความร่วมมือแล้วภาครัฐต้องเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็วที่สุด 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top