นายอาคม มกรานนท์ อดีตพิธีรายการโทรทัศน์ชื่อดัง และอดีตผู้ประกาศข่าวและผู้อ่านประกาศแถลงการณ์คณะปฏิวัติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Akhom Makaranond’ โดยมีเนื้อหาระบุว่า…
“ศัตรูของศัตรูคือมิตร แล้วศัตรูของนายพลกับนายร้อย คือ ใคร?”
คำถามนี้ยาวหน่อย ส่วนตอบจะยาวหรือสั้นไม่ทราบ ขอย้อนหลังเล่าเรื่องเก่าให้ฟัง แล้วช่วยกันคิดก็แล้วกันว่า มันพอจะเป็นไปได้ไหม? ถ้าฟังแล้วคิดว่าไม่ใช่ ก็ไม่ผิดกติกาใดๆ
พรรคพลังประชารัฐ มีหลายคนบอกว่าเป็นพรรคการเมืองเฉพาะกิจ ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับอำนาจรัฐของรัฐบาล คสช. จะเดินหน้าต่อไปหรือจะล่มสลาย คำถามนี้ดังขึ้นมาเรื่อยๆ ในสังคมไทย
วันที่พรรคพลังประชารัฐแพ้การเลือกตั้งซ่อมสามจังหวัดติดต่อกันอย่างหมดศักดิ์ศรีของการเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล
หลายคนที่ติดตามสถานการณ์ภายในพรรคนี้ ต่างทราบดีว่ามีความแตกแยกอย่างหนักเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่เหตุที่พรรคยังไม่ถึงกับแตกละเอียด ก็เพราะยังมีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือของนายกรัฐมนตรีและกลุ่ม ๓ ป.
คนที่เขามองพรรคอย่างเข้าใจเนื้อแท้ย่อมทราบดีว่า แม้ ๓ ป.จะประกาศว่ารักใคร่กลมเกลียวกันก็ตาม แต่ ป.ป้อม กับ ป.ประยุทธ์ ก็งัดกันมาในทีเป็นประจำ แต่ก็สู้อุตส่าห์กล้ำกลืนฝืนทนกอดคอกันมาได้ เพราะทุกๆ ป. รู้ซึ้งอยู่แก่ใจว่า หากแตกแยกกันวันใด จะต้องตกบัลลังก์แห่งอำนาจ และเมื่อหล่นแล้ว อำนาจก็จะถูกศัตรูที่ตนเคยรัฐประหารเขามา กลับมาเล่นงานอย่างหนัก
เพราะฉะนั้น ทั้ง ๓ ป. จึงต้องทนอยู่บนหลังเสือต่อไป เพราะไม่ต้องการลงมาแล้ว ต้องกลายเป็นศพไม่สวย
เห็นหรือยังว่า ฉากการเมืองแห่งความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๙ กับนายร้อยนอกประจำการ ผู้เต็มไปด้วยบาดแผลเต็มตัว และข้อรังเกียจจากสังคมที่มีต่อตัวของผู้กองนอกราชการคนนี้ และเป็นอดีตแกนนำคนสำคัญของพรรค
นี่คือฉากการเมืองที่คอการเมืองไทยรู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่า มันคือภาพของความขัดแย้งระหว่างนายพลกับนายพล คนหนึ่งหนุนหลังผู้กองนอกราชการมาตลอด แล้วเมื่อวันที่ผู้กองเดินออกจากพรรคไป พร้อมกับ ส.ส. อีก ๒๐ คน ทำให้ภาพความแตกแยกระหว่างนายพลกับนายพลเด่นชัดขึ้น จนไม่สามารถจะปิดบังได้อีกต่อไป แล้วก็ทำให้ทุกคนรู้ด้วยว่า วันที่ผู้กองคนนี้กล้าต่อกรกับคนเป็นนายกฯ ในวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุดนั้น มีภาพของนายพลอีกคนอยู่เบื้องหลังการแสดงบทกร้าวของผู้กอง
วันนี้ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อย อาจจะยังรักนายกฯ ประยุทธ์ฯ เพราะเห็นว่าเป็นคนซื่อมือสะอาด แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่มองว่า ท่านนายกฯ คนนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้แห่งอำนาจได้ ก็เพราะมีแรงหนุนจากพี่ใหญ่และ ส.ส.ในส่วนของพี่ใหญ่
ทีนี้เมื่อพี่ใหญ่เปิดภาพการเมืองออกมา โดยสั่งให้ผู้กองยอดรักและก๊วนออกไปอยู่พรรคอื่น (หลายคนมองว่าเป็นพรรคของพี่ใหญ่) ก็หมายความว่า นี่คือการเปิดศึกฉากสำคัญ เพื่อโจมตีนายกฯ โดยตรงนั่นเอง