Sunday, 13 October 2024
POLITICS NEWS

"พนิต"ชี้ 4 ข้อ ทำคนกรุงฯ-พรรคการเมืองฝันสลาย อดชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ต้นปีหน้า เหตุพรรคแกนนำรบ. กลัวแพ้หวั่นลามเลือกตั้งสนามใหญ่ เหน็บแรงอย่าหวงก้าง เพราะ "ผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่มรดกคสช."

นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊คสวนตัวเรื่อง"ผู้ว่าฯกทม. ไม่ใช่มรดกคสช. " ว่า ช่วงนี้ หลายท่านคงได้เห็นพรรคการเมืองที่เริ่มโชว์ตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กันบ้างแล้ว มีทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และในนามอิสระ พร้อมความคาดหมายจะเข้าโหมดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในช่วงเดือนมกราคม และวันเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคม 2565 แต่ในความเห็นผม ในฐานะที่เป็นชาวกรุงเทพฯ แต่กำเนิด  และ มีประสบการณ์ ทำงานในกรุงเทพฯ  ไม่ว่าจะเป็น  รองผู้ว่าฯกทม. และ ส.ส. กทม.  เชื่อว่าผู้มีอำนาจจะไม่ยอมจัดเลือกตั้งในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างแน่นอน 

นายพนิต ระบุว่า ด้วยเหตุผลดังนี้ คือ 1.รัฐบาลที่เคยชินกับการสืบทอดอำนาจ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯนั่งเป็นประธานครม. ยังไม่มีท่าทีจะปลดล็อคให้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พร้อมบอกเหตุผลซื้อเวลาต่อไปว่า"รอให้บ้านเมืองสงบก่อนจึง เลือกผู้ว่าฯกทม" ถือว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น  แถมนายกฯ ยังไม่ฟังเสียงความต้องการของคนกรุงฯ ที่ต้องการมีผู้ว่าฯกทม.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงตามวิถีประชาธิปไตย  2.ผู้มีอำนาจกลัวมาก ว่าฝ่ายตัวเองแพ้แบบหลุดลุ่ย หลังโพลทุกสำนักฟันธง ฝ่ายที่ยืนหนึ่งอยู่ตรงข้ามชนะแบบชนิดเรียกว่า ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น แถมฝั่งผู้มีอำนาจนอกจากคะแนนตามหลังแบบสุดกู่แล้ว เชื่อว่าคะแนนยังตัดกันเองอีกใช่หรือไม่ เพราะ สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล  ก็ส่งคนของตัวเองเพื่อรักษาศักดิ์ศรี  ประเมินกระแสคนกรุงฯ

และที่สำคัญสุด ต่างก็ต้องการตำแหน่งผู้ว่ากทม. ด้วยเช่นกัน  3.สมมุติว่าฝ่ายผู้มีอำนาจแพ้แล้ว ความพ่ายแพ้จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ นอกจากเสียฟอร์มทางการเมือง เพราะถืออำนาจไม่ต่ำกว่า 7 ปี  อาจทำให้ส่งผลกระทบในการสนามเลือกตั้งใหญ่ด้วย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ที่จะมีพลังมหาศาล ปลุกคนไทยทั่วทั้งประเทศ ขับไล่ระบอบสืบทอดอำนาจ ที่ยาวนานนี้ออกไป ผ่านการเลือกตั้ง และ 4.ส่วนรายชื่อผู้สมัครของฝ่ายผู้มีอำนาจฝั่งพรรคแกนนำหลักรัฐบาล  ก็เป็นการเลี้ยงกระแสสังคมเท่านั้น อย่างเช่นที่ทำมาตลอดในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมา สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ละสถานการณ์ 

“องอาจ” มั่นใจ กก.บห.เห็นชอบให้ “พี่เอ้” ชิงผู้ว่าฯ กทม. เชื่อทำให้กรุงเทพฯเปลี่ยนได้จริง พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร สก.50เขต 14 ธ.ค.นี้

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลกทม. กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) เพื่อพิจารณาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่า ในวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค.นี้ ตนจะเสนอชื่อ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้ที่ประชุม กก.บห. พิจารณาซึ่งเชื่อมั่นว่า กก.บห.จะให้การสนับสนุน นายสุชัชวีร์ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามประชาธิปัตย์ เพราะ นายสุชัชวีร์ เป็นผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานรับใช้คนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน สะสมความรู้ความสามารถประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่องจนมั่นใจว่าพร้อมที่จะเสนอตัวให้ประชาชนพิจารณา ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของประชาชนจะให้โอกาส นายสุชัชวีร์ หรือไม่

“ในส่วนของพรรค เราพยายามสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดมาให้คนกรุงเทพฯได้พิจารณา เราหวังว่าประชาชนจะสนับสนุนให้ นายสุชัชวีร์ ได้ทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กทม.ในที่สุด”นายองอาจ กล่าว

'ราเมศ' เชื่อรักษาเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อม 'ชุมพร-สงขลา' ได้  ไม่กังวล พปชร. ลงสนามแข่ง ไม่ปฏิเสธข่าว ส่ง “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ในนามปชป. ขอรอชัดเจน 13 ธ.ค.นี้ 

ที่พรรคประชาธิปัตย์นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อมสงขลาเขต 6 และ ชุมพร เขต 1 ว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีการประชุมคณะกรรมการสรรหารับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชํานิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน โดยผู้ที่ประสงค์จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมาสมัครได้ตั้งแต่ 10-11 ธ.ค.นี้

แต่วานนี้(9ธ.ค.64) มีสองบุคคลยื่นเจตจำนงค์แล้ว โดย จ.ชุมพรเขต 1 คือ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ส่วนสงขลา เขต 6 คือนางสาวสุภาพร กำเนิดผล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
ซึ่งคนที่สนใจลงสมัครยังสามารถมาสมัครได้ตามวันเวลาที่ระบุ

นายราเมศ กล่าวอีกว่า ผลงานของ อดีตส.ส.ทั้งสองเขตจะทำให้ประชาชนเลือกพรรคประธิปัตย์ ส่วนคู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรคพลังประชารัฐที่มักจะเอาชนะในการเลือกตั้งซ่อมภาคใต้ จะสร้างความกังวลให้พรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้หรือไม่ นายราเมศ ระบุว่า ไม่กังวลไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ลงแข่งขันได้ 

'โฆษกรัฐบาล' โว 'นายกฯ' พอใจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลจากการเปิดประเทศ ผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ  และมาตรการรัฐ - เอกชนมั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขยายตัวต่อเนื่อง  แม้พบการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังเปิดประเทศดีขึ้นอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากความสำเร็จของรัฐบาลในการผ่อนคลายกิจการทางเศรษฐกิจ โดยที่ยังสามารถควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในไทยต่ำลง ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการ ภาคเอกชน

โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 85.4 จากระดับ 82.1 ในเดือนตุลาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เป็นผลมาจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างค่อยเป็นค่อยไปให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง เช่น การปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยกเลิกมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) รวมถึงการอนุญาตให้สถานที่หรือกิจการบางประเภทสามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้ภายใต้มาตรการ Covid Free Setting

อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานเสริมความงาม สถานที่ออกกำลังกาย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งกำหนดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และภูเก็ต รองรับการเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน  2564  ทำให้ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น อุปสงค์ในประเทศก็ทยอยฟื้นตัวจากคำสั่งซื้อและยอดขายสินค้าอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องจักรกล กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและเครื่องใช้ในบ้าน

รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและยา การส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ จีน อาเซียน และอินเดีย เป็นต้น ทั้งนี้ มุมมองภาคเอกชน โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน  (กกร.) ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย

ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตดีขึ้นในปี 2565 แม้การระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวได้ในกรอบ 3 - 4.5% สอดคล้องกับ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ที่ได้ประเมินสถานการณ์หลังพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน ไม่กระทบต่อบรรยากาศเศรษฐกิจในระยะสั้นและยังมั่นใจ การส่งออกปี 65 คาดว่าขยายตัวได้ถึง 5-8 %

“บิ๊กตู่” ยินดีกรุงเทพฯ ถูกจัดลำดับเป็นเมืองที่เหมาะต่อการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก พร้อมขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันทำให้ประเทศมีชื่อเสียงระดับโลก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบเรื่องน่ายินดีที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก (The Best Cities for a Workation 2021) ตามมาด้วยอันดับ 2 กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย อันดับ 3 กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส อันดับ 4 เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน อันดับ 5 กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ร่วมกับกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา อันดับ 7 เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย อันดับ 8 กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี อันดับ 9 กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย และอันดับร่วมที่ 10 จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ ทั้งนี้ จากการจัดลำดับของ Holidu ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับการค้นหาสถานที่พักผ่อนของเยอรมนี 

“ โดยการจัดอันดับดังกล่าวระบุว่ากรุงเทพมหานครถือเป็นเมืองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเป็นพื้นที่ในการทำงาน และยังเป็นเมืองที่ค่าใช้จ่ายในการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และหากดูในแง่ของการเป็นสถานที่พักผ่อน กรุงเทพฯ เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทุกระดับและทุกไลฟ์สไตล์สามารถสนุกเพลิดเพลินกับกิจกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้ไม่สิ้นสุด ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาทิ วัดและพระราชวัง หรือสถานที่เลือกซื้อสิ่งของในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองไปจนถึงตลาดน้ำในท้องถิ่น”นายธนกรกล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า เหตุผลที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก มาจากการพิจารณาจากหลักเกณฑ์ในการจัดลำดับทั้งเรื่องความเร็วของสัญญาณ WiFi จำนวนพื้นที่สาธารณะในการทำงานหรือ Co-working space ค่าใช้จ่ายรายเดือนของที่พัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมไปถึงค่าเฉลี่ยจำนวนชั่วโมงที่แดดออกต่อวัน นอกจากนี้ Holidu ยังระบุว่า ในกรุงเทพฯ มีคนส่วนใหญ่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นเมืองที่ดึงดูดนักลงทุนและบริษัทต่างชาติจำนวนมาก จึงทำให้เป็นเมืองที่สามารถหาสถานที่พักอาศัยสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการได้อย่างสะดวกสบาย 

ปชป.  เดินหน้าส่งผู้ว่าฯ กทม. แน่นอน ไม่ก้าวล่วงพรรคอื่นจะส่งใครลงสมัคร

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคพลังประชารัฐจะส่งนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ว่า ไม่ขอก้าวล่วงพรรคการเมืองอื่นว่าจะส่งใครลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. เป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะพิจารณาบุคคลที่พรรคการเมืองนั้นๆ เห็นว่าเหมาะสม 

ถ้าผู้ว่าฯ ปทุมธานีตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็เป็นเรื่องดีที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะได้มีทางเลือกให้พิจารณาเพิ่มมากขึ้น 

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้คำนึงถึงว่าพรรคอื่นจะส่งใครลงสมัครหรือไม่ส่งใครลงสมัคร เรายังคงยืนยันเดินหน้าส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างแน่นอนตามแนวทางของพรรคที่มีนโยบายส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้มแข็งเพื่อเป็นฐานรากของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

'บิ๊กตู่' สั่ง คุมเข้ม 10 มาตรการ ขนส่งสาธารณะ รองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา-ท่องเที่ยวปีใหม่ ปลอดภัยโควิด-19

นายธนกร  วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้มีการคุมเข้มการเดินทางของรถขนส่งสาธารณะทุกประเภทให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 และสอดรับกับนโยบายเปิดประเทศ โดยกรมการขนส่งทางบกได้ปรับปรุงมาตรการปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 จำนวน 10 ข้อ 

โดยขอให้ผู้ประกอบการขนส่งปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. คัดกรองผู้โดยสารและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนการให้บริการ ต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส 
2. กำกับ ดูแล ให้พนักงานขับรถหรือผู้ให้บริการ และผู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง 
3. ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสภายในรถด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลังการให้บริการ ทุก 2 ชั่วโมง
4. จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับพนักงานขับรถและผู้โดยสารล้างมือก่อนขึ้นรถ 
5. งดให้บริการอาหารบนรถในระหว่างการเดินทาง (เว้นแต่กรณีที่มีเหตุจำเป็น)
6. จำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้า ผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น เพื่อความสะดวก หรือจัดคิวการเข้าซื้อตั๋วให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
7. จัดเก็บข้อมูลของผู้โดยสาร โดยให้ลงทะเบียน “ไทยชนะ” หรือแพลตฟอร์ม “THAI SAVE THAI (TST)” ก่อนการเดินทาง 
8. หยุดหรือจอดรถให้ผู้โดยสารลงจากรถในสถานที่หยุดหรือจอดตามที่กำหนดไว้ 
9. จัดให้มีการระบายอากาศภายในรถโดยสารปรับอากาศทุก 2 ชม. 
10. สำหรับรถจักรยานยนต์ (จยย.) สาธารณะ ควรทำความสะอาดแฮนด์รถ  เบาะนั่ง และหมวกกันน็อกสำหรับผู้โดยสารด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับประชาชนที่ใช้บริการ และควรงดการพูดคุยในระหว่างใช้บริการเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค 

นายธนกร กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่นี้คาดว่าประชาชนจะมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ขอให้ทุกคนป้องกันตนเองแบบสูงสุดครอบจักรวาล เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ได้ ในส่วนของผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะขอให้ปฏิบัติและควบคุม กำกับ ดูแลการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคตามที่จังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแต่ละจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

‘อลงกรณ์’ โพสต์เฟซบุ๊กถึงชาวปชป. ออกจากพรรค ให้รักษาอุดมการณ์ อย่าถูกกลืน 

“อลงกรณ์” โพสต์เฟซบุ๊กถึงชาวปชป. อ้างคำพูดท่านชวน เตือน ‘ไปแล้วให้รักษาอุดมการณ์ อย่าถูกกลืน’ เผยอดีตเคยลาออกจากพรรคไปทำงานด้านปฏิรูปประเทศ แต่สุดท้ายก็กลับเข้ามาทำงานกับพรรคอีกครั้ง 

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขียนบทความสั้น ๆ ไว้อย่างน่าสนใจในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. โดยระบุว่า

“อย่าถูกกลืน”
รักและห่วงเพื่อนที่จากไปทุกคน
วันวานอ่านข่าวเห็นท่านชวนเตือนว่า “ไปแล้วให้รักษาอุดมการณ์ อย่าถูกกลืน”
ผมคิดว่าเป็นการฝากหลักการหลักคิดในการครองตนของคนประชาธิปัตย์ที่ออกจากพรรคไปอยู่ที่อื่น 
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยออกจากพรรคไปเป็นสมาชิกสภาปฏิรูป 
ตอนนั้นหมกมุ่นคิดฝันแต่เรื่องการปฏิรูปพรรคปฏิรูปประเทศ 
ตั้งใจไปทำแผนปฏิรูปประเทศเหมือนสถาปนิกออกแบบพิมพ์เขียวเสร็จก็จบงาน
2 ปีกว่าที่อยู่ท่ามกลางอำนาจและโอกาส แถมมีตำแหน่งเป็นรองประธานสปท. คนที่ 1

ลาภยศสรรเสริญกองอยู่ตรงหน้า ถ้าเดินต่อบนเส้นทางนั่น
มันน่าถูกกลืนเหลือเกิน ถ้าคิดเห็นแก่ตัวเพื่อประโยชน์และอนาคตของตัวเอง
คำเชิญคำชวนมาทั้งก่อนและหลังพ้นตำแหน่ง
แต่ผมก็ตัดสินใจตอนนั้นว่าจะวางมือทางการเมืองเพื่อไม่ต้องเดินทางบนถนนการเมืองอีก หรือไม่ก็กลับบ้านหลังเก่าคือประชาธิปัตย์

ก็มีคำถามตามมาว่าทำไมถึงกลับประชาธิปัตย์
ผมบอกว่ามี 4 เหตุผลหลัก
1.) ถ้าจะเดินต่อทางการเมืองไปอยู่พรรคใหม่ ก็ต้องสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ 
ผมทำไม่ได้ครับ ที่จะต้องรบราทำศึกกับพี่น้องของผม และประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่ต้องรักษาไว้

2.) เมื่อครั้งเดินทางเข้าพรรค สมัครเป็นสมาชิกลงเลือกตั้งที่เพชรบุรี ปี 2535/1 บนเวทีปราศรัยที่สนามหน้าเขาวัง มีท่านชวนหัวหน้าพรรคในขณะนั้นนั่งอยู่ด้วย ผมประกาศกับประชาชนคนเมืองเพชรว่าผมเกิดที่พรรคประชาธิปัตย์และจะตายที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเดียว 

3.) ผมอยากกลับมาปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ตามฝันที่คิดไว้ตอนเสนอปฏิรูปพรรคเมื่อปี 2556

4.) บ้านเมืองยังวิกฤติ ประชาธิปัตย์คือความหวังเพราะเป็นสถาบันการเมืองหลัก

แล้วผมก็กลับมาของานทำที่พรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม 
เลือกกลับมาทั้งที่ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และจะอยู่อย่างไรในปลายปี 2561 เพราะผมคงเป็นคนเดียวที่ทั้งก่อนจากไป และเมื่อกลับมา โดนดุด่าว่ากล่าวหนักหนาสาหัสมากจากพี่ ๆ น้อง ๆ ในพรรค

ถ้าคิดน้อยใจหรือไม่อดทนก็คงพกความแค้นติดตัวเตลิดไปแล้ว
เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตบนทางแพร่งที่ต้องตัดสินใจของผม
ต้องเลือกระหว่างอนาคตของตัวเองหรืออนาคตของพรรค 
เป็นการเลือกครั้งที่ 2 เหมือนครั้งแรกที่ตัดสินใจมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2534

รัฐวางมาตรการแก้หนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา ปริมาณธุรกิจสหกรณ์ภาคการเกษตรลดลงกว่า 7,555 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตการเกษตรได้เหมือนเช่นสถานการณ์ปกติ รวมถึงผู้ส่งออก ชะลอการรับซื้อสินค้าจากสหกรณ์เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ  ขณะที่สมาชิกสหกรณ์ส่วนหนึ่งต้องกู้เงินจากสหกรณ์ที่ตัวเองสังกัด หรือแหล่งเงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อนำมาลงทุนทำการเกษตร ส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรมีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น 

“ปัจจุบันต้องยอมรับว่า สถานการณ์ของสหกรณ์ภาคการเกษตร หลาย ๆ สหกรณ์มีปัญหาเรื่องของธุรกิจสินเชื่อค่อนข้างมาก หรือแม้แต่ธุรกิจรวบรวมผลผลิตและธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายก็เหมือนกัน ซึ่งก็เป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และส่งผลต่อเนื่องถึงตัวสมาชิกสหกรณ์ รายได้จากการผลิตสินค้ามีปัญหา เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกัน แต่ในวิกฤติก็ย่อมต้องมีโอกาส เพราะว่าจากการที่ได้ลงไปเยี่ยมเยียนในต่างจังหวัดหลาย ๆ แห่ง สหกรณ์ที่เขามีศักยภาพในการส่งเสริมให้สมาชิกประกอบอาชีพและรวบรวมผลผลิตออกจำหน่าย สหกรณ์เหล่านี้ยังมีศักยภาพแล้วสมาชิกก็ทำจริง มีรายได้จริง กรมฯ จึงพร้อมใสนับสนุนให้สมาชิกสหกรณ์พัฒนาอาชีพ และสร้างรายได้ เพื่อจะได้มีเงินเลี้ยงครอบครัวและส่งชำระหนี้คืนสหกรณ์ได้ ทำให้ปัญหาเรื่องหนี้ค้างชำระลดลงในที่สุด”

“วิษณุ” ปัดตอบ “ราษฎร” จ่อยื่นอสส.ฟ้องศาลรธน. ชี้ ต้องดูก่อนยื่นว่าอย่างไร ชี้ ยังไม่ถึงคิว ครม.ถก ลต.ผู้ว่าฯกทม. แจง สนามอบต.ยังไม่สะเด็ด ระบุ หาก”อัศวิน” ลาออก ปลัดกทม. รักษาการได้ ชี้ฝ่ายค้านคาดลต.ส.ส.เดือน มี.ค.-ก.ค.65 แค่คาดการณ์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มวลชนกลุ่มราษฎร จะยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการล้มล้างการปกครอง ว่า ยังนึกไม่ออกว่าทำได้อย่างไร คงใช้มาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญเหมือนกับครั้งที่แล้ว ที่ยื่นมาก็เป็นการยื่นตามมาตรา 49 ก็คงจะอย่างนั้น แต่ไม่ทราบว่ายื่นได้หรือไม่ หรือได้ผลอย่างไร ตอบไม่ถูก เพราะยังไม่รู้ว่าเขาจะยื่นว่าอย่างไร เอาไว้ให้รู้ก่อนอาจจะตอบได้

นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่หลายพรรคการเมือง เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า รับทราบ แต่ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้ และยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดคุยกัน เพราะต้องรอประกาศผลการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ยังไม่หมด  

ผู้สื่อข่าวถามว่านายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอให้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ถ้าลาออกจริง จะต้องจัดการเลือกตั้งภายในกี่วัน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมีกรอบเวลา เนื่องจากปลัดกทม.สามารถทำหน้าที่รักษาการแทนได้ แต่รักษาการนานก็ไม่ค่อยดี ทั้งนี้ตามกฎหมายระบุขั้นตอนว่าการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ขึ้นอยู่กับครม.เห็นสมควรที่จะมีการเลือกตั้งดังกล่าว แล้วต้องแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากนั้นกกต.จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง กรณีนี้เหมือนกับกรณีของอบต.หรือนายกเทศมนตรี ที่จะมีการเลือกตั้งได้ต่อเมื่อครม.เห็นสมควรให้จัดการเลือกตั้ง 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top