Thursday, 25 April 2024
POLITICS NEWS

“ทิพานัน”ปลื้ม ส.ส.ฝ่ายค้าน ลดใช้วาทสร้างความเกลียดชัง ชี้ ใช้เอกสารปลอม โทษผิดอาญา ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมวันที่สองของการอภิปรายไม่ไว้ว่า บรรยากาศดีกว่าวันแรก และขอบคุณผู้นำฝ่ายค้านและส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ตรวจสอบโดยไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำหยาบคาย หรือถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง ทำให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาฯ และความศรัทธาของประชาชน แต่ยังเป็นห่วงเรื่องของเอกสารหลักฐานมาประกอบการอภิปราย จะต้องเป็นหลักฐานที่แท้จริง ไม่ใช่เอกสารเท็จที่มีการตกแต่งหรือปลอมแปลงมาเพื่อหวังผลสร้างกระแสดิสเครดิต

ยกตัวอย่าง กรณีที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่แฉกระทรวงกลาโหมสนับสนุนงบฯทำไอโอ ซึ่งต่อมากองทัพภาคที่ 2 และพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ตรวจสอบเอกสารที่นายณัฐชา นำมาใช้อภิปรายแล้วพบว่า ไม่ใช่เอกสารที่แท้จริง มีพิรุธถึง 7 จุด เช่น ลายมือชื่อในเอกสารไม่ตรงกัยลายมือชื่อจริง นอกจากกองทัพภาคที่ 2 จะยืนยันว่าเอกสารเป็นเอกสารเท็จที่ได้มีการปลอมแปลง จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานในเบื้องต้นแล้ว

“สุดท้ายประชาชนจะไม่ไว้วางใจฝ่ายค้าน ฉะนั้นต้องช่วยกันยกระดับมาตรฐานการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ ก่อนจะตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ต้องรู้จักการตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำเสนอเฉพาะข้อเท็จจริง เพราะถึงแม้ส.ส.จะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการอภิปราย แต่ก็ไม่คุ้มครองไปถึงการอภิปรายด้วยข้อมูลเอกสารเท็จที่ปลอมแปลงขึ้นมา”

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า อยากขอให้พรรคต้นสังกัด ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆก่อนที่จะให้ส.ส.มาอภิปราย และถ้าเห็นแล้วปล่อยให้อภิปรายก็เปรียบเหมือนทำการบ้านมาผิด แล้วครูยังปล่อยให้ผ่านไป เด็กจะสอบตก ฉะนั้นหวังว่าการอภิปรายในวันนี้จะไม่พบการปั้นน้ำเป็นตัว นำข้อมูลปลอม เอกสารเท็จมาอภิปรายลดทอนความน่าเชื่อถือของฝ่ายค้านและลดศรัทธาของประชาชนที่อาจตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาใช้เอกสารปลอมมาตลอดหรือไม่

“ประวิตร” ประชุม คกก. เห็นชอบ แนวทางขับเคลื่อนฯ  มุ่งสู่เป้าหมาย "อยู่รอด พอเพียง ยั่งยืน"  เน้นสร้างการรับรู้/มีส่วนร่วม ปชช.น้อมนำ "หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"  เร่งแก้ปัญหาความยากจนทุกกลุ่ม 

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์  ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตร เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (คจพ.) ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ Video Conference  โดยมี  รมว.มท.,รมว.พม. เข้าร่วมการประชุม 

ที่ประชุมได้รับทราบ การจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในระดับจังหวัด และระดับต่างๆ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบ จาก คจพ. เมื่อ 19 มี.ค.64 และดำเนินการจัดตั้งแล้ว ได้แก่ ศูนย์ฯจังหวัด 76 ศูนย์ ,ศูนย์ฯ กทม.1 ศูนย์ และทีมปฏิบัติการระดับตำบล 7,097ทีม ,ทีมระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 166 ทีม เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อน ต่อไป  หลังจากนั้น คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเห็นชอบ แนวทางการขับเคลื่อนการปฏิบัติการขจัดความยากจน และการพัฒนาคนทุกช่วงวัย บนพื้นฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ ในระดับพื้นที่ ให้ครอบคลุมกลุ่มคนเป้าหมาย ของระบบ TPMAP และกลุ่มคนเปราะบางทุกกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือคนยากจนอย่างทั่วถึง จริงจัง บนหลักการวงจรการบริหารงานคุณภาพ (PDCA) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ Plan :แนวทางการขับเคลื่อนการแก้ไขความยากจนฯ, Do :ลงมือดำเนินการ ,Check :ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และ Act :ปรับปรุงการดำเนินการ วิเคราะห์และประมวลข้อมูลจากการติดตาม ตรวจสอบ 

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้น้อมนำ"หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" เพื่อใช้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืน โดยเร่งรัดสำรวจเพิ่มเติม และปรับปรุงข้อมูลบุคคล/ครัวเรือน ปี64 ในระบบ TPMAP และระบบแฟ้มบ้านพัฒนาคนไทย (Logbook) ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค.64 เพื่อให้มีฐานข้อมูลที่สมบูรณ์ เชิงประจักษ์ และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนา คือ"อยู่รอด พอเพียง และยั่งยืน" พร้อมทั้งเน้นให้มีการประชาสัมพันธ์ และสร้างการมีส่วนร่วม ของประชาชน อย่างทั่วถึงด้วย

ทภ.2 จับพิรุธ 7 ข้อ พร้อมแจ้งความ 'ส.ส.ณัฐชา' ใช้เอกสารปลอมแปลงซักฟอกรัฐบาล แจงภาพทหารรับเบี้ยเลี้ยงของเก่า ก่อนโควิดระบาด เพราะไม่ใส่แมสก์

1 ก.ย. 64 พล.ต.สวราชย์ แสงผล โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณี ผู้อภิปราย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยนำเสนอข้อมูลเรื่องปฏิบัติการไอโอ โดยกล่าวอ้างว่าใช้เอกสารของกองทัพภาคที่ 2 เป็นหลักฐานประกอบการอภิปราย กองทัพภาคที่ 2 ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องดังนี้

1.) กรณีนำเอกสารมาประกอบการอภิปรายจากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นพบว่าไม่ใช่เอกสารจริงโดยพบจุดพิรุธดังนี้

(1) หนังสือที่นำมาแสดงเป็นหนังสือที่ทำขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม 2564 ลายมือชื่อของแม่ทัพภาคที่ 2 ท่านปัจจุบันในหนังสือทั้ง 2 ฉบับไม่ตรงกับลายมือจริง

(2) นามสกุลของแม่ทัพภาคที่ 2 ท่านปัจจุบันในหนังสือฉบับหนึ่งพิมพ์ไม่ถูกต้อง

(3) ลายมือชื่อของรองแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ตรงกับลายมือชื่อจริง

(4) มีรายมือชื่อของผู้อำนวยการกองยุทธการกองทัพภาคที่ 2 ที่ลงนามในหนังสือฉบับนั้นซึ่งปัจจุบันท่านดังกล่าวได้ปรับย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่แล้วเป็นเวลากว่า 2 ปีเศษตั้งแต่ตุลาคม 2561 และนามสกุลสะกดไม่ถูกต้อง

(5) กำลังพลที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่เคยมีการจัดทำหนังสือดังกล่าวโดยเมื่อตรวจสอบการออกเลขที่หนังสือแล้วเป็นของกองยุทธการกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเลขหนังสือที่ออกจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 มีเลขหนังสือถึงแค่ลำดับที่ 851 ยังไม่ถึงลำดับที่ 1121 ตามเอกสารที่ผู้อภิปรายนำมาแสดงแต่อย่างใด

(6) ตามเลขที่คำสั่งที่ปรากฏ (เลขที่ 1107/2564) หน่วยมิได้เคยออกคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์แต่อย่างใดอีกทั้งรายชื่อคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศกองทัพภาคที่ 2 (ศปสท.ทภ.2) ชั้นยศไม่ตรงกับความเป็นจริงเช่นระดับผู้อำนวยการกอง ซึ่งต้องมีชั้นยศพันเอกแต่ในเอกสารมีชั้นยศเป็นพันโทในส่วนของแม่ทัพน้อยที่ 2 ต้องมีชั้นยศพลโทไม่ใช่พลตรี

(7) การพิมพ์หนังสือราชการตามระเบียบงานสารบรรณปกติจะมีการตรวจสอบความถูกต้องความเป็นระเบียบรวมถึงการสะกดคําให้ถูกต้องตามหลักแต่หนังสือฉบับดังกล่าวมีคำผิดแม้กระทั่งชื่อนามสกุลของผู้ที่ต้องลงนาม จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวข้างต้นถือเป็นเอกสารอันเป็นเท็จที่ได้มีการปลอมแปลงทางรูปแบบให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ รวมทั้งการลงลายมือชื่อไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง หน่วยจึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาเป็นหลักฐานแล้ว

และ 2.) กรณีมีการอภิปรายว่ามีการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงกำลังพลพร้อมทั้งมีคลิปเสียงและรูปภาพประกอบกองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่าหน่วยไม่เคยได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใดรวมทั้งไม่ทราบที่มาของคลิปเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปภาพการยืนต่อแถวรับเบี้ยเลี้ยงตามที่กล่าวอ้างนั้นเป็นภาพเก่าของการจ่ายเบี้ยเลี้ยงตามปกติของหน่วยก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สังเกตได้จากกำลังพลไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยตามมาตรการที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนด

จึงเรียนมาเพื่อทราบในข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อการดำเนินการของหน่วย


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

‘ธรรมนัส’ เก็บทรงไม่อยู่ เดือดจัด ด่าไอ้ห้อยไอ้โหน ปล่อยข่าวเสี้ยมล้มนายกฯ ขู่สมัยหน้าไม่ส่งลง ส.ส.แน่ ติง รมต.ในพรรค ไร้ผลงานบอกชาวบ้าน ลั่น อย่ากดดันมาก เพราะมาจากปชช. เมินคุย ‘บิ๊กตู่’ ถกแต่กับหัวหน้าพรรค พปชร. เท่านั้น

เมื่อเวลา 14.45 น. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ก่อนจะพูดเรื่องอื่นขอบอกกับสื่อมวลชนว่า ชื่นชมเกือบทุกสำนักที่นำเสนอเรื่องราวด้วยความเป็นกลาง แต่ฝากไปถึงสื่อสำนักหนึ่งให้รู้จักจิตสำนึกและจริยธรรมของความเป็นสื่อในการนำเสนอ เพราะมีสำนักหนึ่งที่แยกตัวมาใหม่ และตนฟ้องอยู่ที่ จ.พะเยา พยายามนำตนไปพูดในทางเสียหาย ไปเขียนเอาเอง โดยไม่ฟังเสียงประชาชนที่เดือดร้อนกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ไปเขียนชื่นชมใครบางคน 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนที่ถามถึงข้อเท็จจริงของกระแสข่าวนั้น ขอยืนยันว่าไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ และพูดมาเสมอว่าจากลูกชาวนา เด็กบ้านนอก คนจน มาถึงทุกวันนี้ และได้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองถือว่าชีวิตสูงสุดแล้ว ส่วนที่เหลือถ้ามีโอกาสทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง รับใช้แผ่นดิน รับใช้ประชาชนก็จะทำให้ดีที่สุด ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาคงไม่ต้องพูดอะไรมากว่าทำอะไรเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนบ้าง ดังนั้น การจะมาแกร่งแย่งชิงดีชิงเด่นในรัฐบาล ในคณะรัฐมนตรีเดียวกัน ไม่ใช่พฤติกรรมของตน หากจำได้การประชุมใหญ่พรรค พปชร.ที่ จ.ขอนแก่น ได้ยืนยันว่าจะนำพรรค พปชร.ให้เป็นสถาบันการเมืองที่มีความเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของประชาชน และจะทำต่อไป

“ข่าวลือที่ออกมาว่าผมจะทำอันนู้นอันนี้ ไม่เป็นความจริง และมีข่าวที่ได้ยินมาจาก ส.ส.ที่โทรศัพท์มาหาว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็กคนหนึ่งเสนอรับเงิน 10 ล้านบาท เพื่อต่างตอบแทน และร้ายไปกว่านั้นมีรัฐมนตรีในพรรค พปชร.รับงานมาล็อบบี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรค พปชร.ในการโหวตสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ต้องถามว่าคนเป็นรัฐมนตรีสมควรทำอย่างนั้นหรือไม่ เพราะควรเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ไม่ต้องใคร 4 ช.ที่ว่ากัน ฝากไปบอกเขาด้วยว่า ทำอะไรเพื่อบ้านเพื่อเมืองบ้าง อย่าเห็นผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือ คำตอบของผม” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการโยงชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เป็นหนึ่งในขบวนการล้มนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุชัดเจนว่า 1 เสียงของ ส.ส.คือ เสียงจากประชาชน ส.ส.รู้จักคิด รู้จักทำว่าควรจะทำอะไร ไม่สามารถไปครอบงำอะไรได้ มติพรรคจะให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ เพราะผิดรัฐธรรมนูญ พรรค พปชร.ไม่มีอย่างนั้น ใครมาถามก็บอกไปว่าดูแล้วกัน และให้ตัดสินใจเอง ตนไม่ได้ถูกใช้ให้มาล็อบบี้ใคร ไม่ว่าจะให้ช่วยรัฐบาลหรือไปรับรองพรรคอื่นให้มาช่วย หรือโหวตคว่ำใครคนใดคนหนึ่ง ตนไม่ทำ และตนเข้ามาสภาก็มีทุกพรรคเข้ามาสวัสดี ถ่ายรูปด้วย นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ดึงแขนมาก็เพื่อจะคุยเรื่อง ส.ป.ก. เป็นเรื่องปกติ ไม่เคยคิดว่าคนต่างพรรคจะต้องเป็นศัตรูกัน แม้แต่ถูกกระทำก็ไม่เคยโทษใคร เขาจะด่าเราอย่างไรก็ควรนำมาปรับปรุงตัวเอง ถามว่าในคณะรัฐมนตรีใครโดนหนักเท่าตนบ้าง มีม็อบบุกไปที่บ้านของตน ใครโดนแบบนี้บ้าง เคยได้ยินบ่นหรือแหกปากสักคำหรือไม่ เพราะไม่ใช่สัตว์ประเภทที่เหยียบหางหน่อยแล้วมาแหกปาก 

เมื่อถามว่า คิดว่าเรื่องดังกล่าวมีขบวนหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ขบวนการมีหรือไม่มีต้องไปถามคนเต้าข่าวว่าต้องการอะไรแน่ คนเต้าข่าวไม่ใช่ฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายรัฐบาล ไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลาย ชอบเลียแข้งเลียขา สำเหนียกซะบ้าง ผมรู้หมดแล้ว บางคนบันทึกเทปไว้หมดแล้ว ระวัง เดี๋ยวเจอกัน”

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์อยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอถามกลับไปหาไอ้ห้อยไอ้โหนว่าเคยทำเหมือนตนหรือไม่ที่นำนโยบายของนายกฯ นำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและชาติบ้านเมือง มัวแต่ห้อยโหนอย่างนี้ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร ตนพูดเสมอว่าไม่โกรธใคร ไม่แค้นใคร แต่จำนาน และพี่น้องร่วมอุดมการณ์เยอะ 

เมื่อถามย้ำว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายกฯ หรือไม่ เพราะอาจจะไม่พอใจกับกระแสข่าวที่ออกมา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมไม่ได้คุยกับนายกฯ ผมคุยกับหัวหน้าพรรคผม และนายกฯ ก็พูดตลอดเวลาว่าจะคุยเฉพาะหัวหน้าพรรค เราเป็นลูกพรรคและเป็นเลขาธิการพรรคก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรค กินข้าวคุยด้วยกันทุกวัน และในการประชุมพรรค พปชร.เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ถามพี่น้องทุกคนเลยว่าผมพูดอะไรเกี่ยวกับการเลื่อยขา มท.1 ได้ยินจากปากผมหรอครับ ผมพูดกับ ส.ส. 50-60 คน บอกว่า ส.ส.ในพรรคอึดอัดหลายเรื่อง และรัฐมนตรีที่นั่งอยู่ตรงนี้มีผลงานไปบอก ส.ส.ให้บอกชาวบ้าน นี่คือ ผลงานของพรรค พปชร. ส.ส.ตอบได้เลยว่าไม่มี มีหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว คนที่เป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าเป็นที่พึ่งไม่ได้ อย่าเป็น ส.ส.เลยดีกว่า แล้วถ้าไม่เคลียร์ตัวผมพร้อมที่จะกลับไปเป็น ส.ส.เหมือนเดิม ไม่ได้สนใจด้วย”

เมื่อถามว่า มีแนวคิดอยากเป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า บอกแล้วว่าไม่เคยใส่ใจตำแหน่งหน้าที่ จะอยู่ในสถานะใด แม้แต่ตอนเป็นนายธรรมนัส เป็นประธานมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ทำอะไรเพื่อคนพะเยา คนภาคเหนือบ้าง ดังนั้น ทุกอย่างไม่จำเป็น ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ใจสั่งสมองให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าทุกอย่างเป็นข่าวลือ และต้องการสกัดดาวรุ่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “อย่ากดดันกันมาก ผมมาจากประชาชน” 

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าเป็นคนจำนาน จะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นคนแบบนี้ จำนาน และจำดี แต่ไม่ใช่การแก้แค้น ถ้าคนเหล่านั้นไม่แก้ไขก็ถูกประชาชนลงโทษเอง และบอกได้เลยว่าถ้ายังเป็นแกนนำพรรค พปชร. ส.ส.ที่เป็นไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลายสมัยหน้าไม่ได้ลงหรอก


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/599102


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

ราเมศ ยัน รบ. ทำตามนโยบายที่แถลงต่อสภา สวน เพื่อไทย ประกันรายได้ ปชป. ไม่มีทุจริต เหมือนจำนำข้าว

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า

ข้อมูลของ ส.ส.เพื่อไทย ที่อภิปราย เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง ไม่มีความรู้จริงในเรื่องที่อภิปราย รัฐบาลโดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาอย่างครบถ้วนคือความรับผิดชอบสำคัญในทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรและรายได้ให้กับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์ม อ้อยและข้าวโพด 

การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เหมาะสมการปรับโครงสร้างต้นทุนการผลิต เล็งเห็นความสำคัญของเมล็ดพันธุ์พืชพื้นที่เพาะปลูกปุ๋ยและอุปกรณ์ทางการเกษตรรวมถึงแหล่งน้ำ การพัฒนาองค์กรเกษตรและเกษตรกรรุ่นใหม่ก็ดำเนินการอย่างครบถ้วน ดูแลเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกิน มีแผนแม่บทชัดเจนในเรื่องการทำเกษตรปลอดภัย เกษตรชีวภาพ เกษตรแปรรูป

เกษตรอัจฉริยะ ระบบนิเวศการเกษตร คือการสนับสนุนให้เกษตรกรบริหารจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่

การพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำและฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพดินการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำและการควบคุมป้องกันปัญหาโรคระบาด ทุกอย่างเป็นนโยบายที่ประสบผลสำเร็จแทบทั้งสิ้น

และกรณีประกันรายได้ชัดเจนว่าเป็นนโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรให้มีหลักประกันในเรื่องราคาพืชผลสินค้าทางการเกษตร เพื่อให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีที่สุดโดยกำหนดรายได้ขั้นต่ำที่พี่น้องเกษตรกรจะได้รับเป็นเพดาน ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้ 2 ทาง ถ้าราคาต่ำกว่ารายได้ที่ประกันจะมีเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรงช่วยให้พี่น้องมีหลักประกัน ยามที่พืชเกษตรราคาตกให้พอยังชีพได้โดยมีเงินส่วนต่างเข้ามาเป็นตัวช่วย ไม่มีเงินรั่วไหล ไม่มีเรื่องทุจริต เช่นโครงการรับจำนำข้าว 

พรรคประชาธิปัตย์ได้หาเสียงไว้เรื่องประกันรายได้แล้วเราทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ผลักดันจนสำเร็จ มีพี่น้องเกษตรกรได้รับประโยชน์แล้วกว่า 7.67 ล้านครัวเรือนได้รับประโยชน์ ฝ่ายค้านควรใช้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา แต่เข้าใจได้ว่าเมื่อมีผลงานที่มีผลสำเร็จ ก็ต้องโจมตีและทำลายเป็นเรื่องธรรมดา

'หมอกล้า' โพสต์ข้อความเปรียบเทียบวัคซีน​ SINOVAC​ กับคุณค่าของคนหนึ่งคน ย้ำ เป็นศัตรูกับวัคซีนเท่ากับเป็นมิตรกับโรคระบาดทางอ้อม

'หมอกล้า' นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข แพทย์ปริญญาโทผิวหนัง โพสต์ข้อความเปรียบเทียบวัคซีน​ SINOVAC​ กับคุณค่าของคนหนึ่งคนไว้อย่างน่าสนใจผ่านเฟซบุ๊ก​ 'ชเนษฎ์ ศรีสุโข'​ ว่า...

หากวัคซีน Sinovac ในไทย เป็นคน พวกเขาคงเหมือนคนยากจนกู้หนี้นอกระบบแพง ๆ​ (ต้นทุนสูง) เลี้ยงลูกหลานถูกบ้างผิดบ้าง​ (ประสิทธิภาพครึ่ง ๆ) ต้องหาคนช่วยบ้าง​ (ไขว้) แต่สามารถส่งเสีย เลี้ยงดู ลูกหลานจนจบปริญญาได้โดยส่วนใหญ่ ไม่ตายไปเสียก่อน (ผ่านวิกฤตในลักษณะ Best Scenario)

แต่พอ วันรับปริญญา คนกลุ่มนี้ใส่เสื้อผ้าเก่ามอมแมม ลูกหลานบางคนเห็น ทำเป็นไม่รู้จัก ไม่อยากถ่ายภาพด้วย เหยียดมาก บอกว่าชีวิตได้ดีเพราะเพื่อนใหม่ มหาวิทยาลัย ที่มาจากยุโรป อเมริกา จำไม่ได้ว่าตนเองมาถึงวันนี้ยังไง

รัฐมนตรี ปลัด หมอในกระทรวง หมอสถาบันหลัก ก็คือ อธิการบดี และอาจารย์ ที่ชอบบอกว่าควรระลึกถึงความดีของผู้ที่อยู่เบื้องหลังผลักดันเรามา เพราะคนแต่ละรุ่นไม่สมบูรณ์

คนรุ่นใหม่ก็ต้องเก่งกว่าดีกว่า เป็นธรรมดา (mRNA, protein subunit, แบบสูด, ฯลฯ) ต่อไปคนรุ่นเก่าก็ค่อย ๆ​ จากไป​ (เลิกใช้ เลิกซื้อ) 

แต่ถ้าไม่มีพวกเขามาก่อน ก็ไม่มีเราวันนี้ และไม่มีการพัฒนาต่อยอดได้

หลายคนจึงระลึกคุณ หรือจดจำพวกเขา...

แต่บางคนนอกจาก ไม่รู้สึกแล้ว ยังต่อว่าด่าทอ ย้อนหลัง ด้อยค่า ประจาน เสียอีก 

อันที่จริงการด่ารัฐบาล ด่านโยบายรัฐบาล คงไม่มีใครห้าม 

แต่ การด่าวัคซีน บางทีก็คล้าย ๆ​ กับการด่าคนยากไร้ที่ส่งเราให้รอดตายมา 

วัคซีนคือ​ นวัตกรรมช่วยคน การเป็นศัตรูกับวัคซีนยี่ห้อไหนก็ตาม ก็คือ​ เป็นเพื่อนกับโรคระบาดทางอ้อมนั่นแหละ 

แต่ บางคน ติดเชื้อทางความคิดนะ มันแย่กว่าโรคระบาด เพราะรักษาไม่หาย

ส่วนถ้าใครไม่ได้ถูกเลี้ยงดูโดยคนยากจน ก็จงอย่าเดือดร้อน คุณอาจโชคดีเกิดเป็นลูกหลานคนรวยหรือมีคนรวยมาอุปถัมภ์ค้ำจุนตลอด วันหนึ่งคุณก็อย่าพลาดตกระกำลำบากในชีวิต ตกเป็นคนยากจน หรือต้องพึ่งพาคนจน บ้างก็แล้วกัน

ผมมองกว้าง ๆ มองด้านดี และสำนึก อีกทั้ง ผมรู้ว่าคนจนกลุ่มนี้ เผอิญเป็นญาติกับอภิมหาอำนาจที่กำลังมีอิทธิพลมาก ๆ​ ในระดับโลกด้วย 

วันหนึ่งถ้าต้องพึ่งพาญาติผู้พี่ ถ้าผมไปด่าญาติเขา แล้วจะทำตัวลั่นล้า ไปมองหน้า มีกิจกรรม ทำงาน หรือ ค้าขายกับเขาได้ยังไง? 


ที่มา : https://www.facebook.com/655195843/posts/10159908816375844/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

กมธ.ปปช.รับเรื่องร้อง กรณี ข้าราชการมท.รีดไถประชาชน เก็บส่วย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปส. ชี้ชัด ต้องเร่งปฏิรูปกระบวนการ ยุติธรรม ตำรวจ ย้ำชัด ไม่ได้มีเเค่เคส ผกก.โจ้ ในวงการสีกากี 

ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันเเละปราบปราม การทุจริตเเละประพฤติมิชอบ ( ปปช.) สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจาก พันจ่าเอก อดิศักดิ์ สมบัติคำ อดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ เขต2 มหาสารคาม  พร้อมด้วย นาย ทศพล วาปิทะ อดีตปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เพื่อขอให้ตรวจสอบชุดปฏิบัติการพิเศษสังกัดกรมการปกครอง อำเภอนาเชือกซึ่งเป็นชุดตรวจจับยาเสพติดในพื้นที่ แต่ภายหลังพบความผิดปกติมีพฤติกรรมรีดไถผู้ต้องหาเพื่อแลกไม่ดำเนินคดีและไม่ลงบันทึกประจำวันหากยอมจ่ายเงินตามที่เจ้าหน้าที่เรียกเก็บ

ธีรัจชัย กล่าวว่า ในนามของคณะกรรมาธิการการป้องกันเเละปราบปราม การทุจริตเเละประพฤติมิชอบ ( ปปช.) สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องที่เกี่ยวกับยาเสพติด เราเคยตรวจสอบในเรื่องคุณสมบัติของการเข้าสู่ตำเเหน่งรัฐมนตรี เเละลักษณะต้องห้ามของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ ที่เป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดก่อนเข้ารับตำเเหน่งรัฐมนตรี โดยเรายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ  ซึ่งสิ่งสำคัญคือการตรวจสอบความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม โดยในฐานะกมธ. การป้องกันเเละปราบปราม การทุจริตเเละประพฤติมิชอบ (ปปช. ) เราต้องตรวจสอบ 2 ส่วน ในการทำความจริงให้ประจักษ์ และสิ่งสำคัญเราต้องตรวจสอบไปยังโครงสร้าง ในการกลั่นกรองตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ  โดยในประเด็นของพันตำรวจตรี ธิติสรรค์ อุทธนผล ( ผกก.โจ้ ) อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวงการตำรวจ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญต่อกระบวนการยุติธรรม ของประเทศ 

ทั้งนี้ ธีรัจชัย กล่าวว่า ตนจะรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา เเละตรวจสอบเเละแก้ไขในเชิงโครงสร้าง ต้องมีการปฏิรูปวงการตำรวจ เเละปฏิรูปองค์กร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปปส. เพื่อสร้างบรรทัดฐานของกระบวนยุติธรรม เเละเป็นการสร้างความจริงให้ปรากฎในระดับพื้นที่ เเละขยายไปยังระดับประเทศ 

ด้านพันจ่าเอก อดิศักดิ์ ระบุว่า พฤติกรรมในลักษณะนี้ไม่ได้มีแต่ในวงการตำรวจตามที่เป็นข่าวกรณี ผู้กำกับจังหวัดนครสวรรค์ ใช้ถุงดำคลุมศรีษะผู้ต้องหายาเสพติดหลังเรียกเงินจำนวน2ล้านบาท เพื่อไม่ให้คดีความนำไปสู่การดำเนินคดี วันนี้สิ่งที่ตนต้องการบอกให้สังคมรับรู้คือ ความเป็นจริงในสังคมไทยขณะนี้คือเจ้าหน้าที่รัฐกำลังเป็นอาชญากรเสียเอง  ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยเพื่อเรียกค่าเสียหายหวังยุติคดีความต่างๆ นี่คือความเสื่อมของระบบราชการไทยที่ผู้ถือกฎหมายเป็นโจรเพื่อปกปิดความถูกต้องเสียเอง 

โดยนาย ทศพล วาปิทะ อดีตปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอนาเชือก ได้รับร้องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของชุดปฏิบัติการพิเศษสังกัดกรมการปกครอง ที่มีนายวชิรชัย โคตรประทุมปลัดอำเภอ เป็นหัวหน้าชุด มีพฤติกรรมมิชอบ จากกรณีที่มีการรีดไถผู้ต้องหาหลังตรวจพบยาเสพติด โดยมีการเรียกเงินโดยอ้างว่าหากต้องการให้คดีนี้จบไปต้องจ่ายเงินมาในจำนวนเท่านี้ เท่านี้ ซึ่งไม่ใช่เป็นการเรียกเก็บแค่ครั้งเดียวแต่มีการข่มขู่เพื่อเรียกเก็บหลายครั้ง การกระทำเช่นนี้เป็นกระบวนการที่มีผู้รู้เห็นหลายระดับ ซึ่งตั้งแต่ตนเข้ามาตรวจสอบการทำงานที่ไม่ชอบมาพากลนี้ ก็ไม่เคยมีความปลอดภัยในชีวิตและหน้าที่การงานอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นการถูกสะกดรอยตาม ข่มขู่กดดันให้ออกจากราชการ และปัจจุบันมีคำสั่งย้ายให้ไปทำหน้าที่ฝ่ายทะเบียนในอำเภอเมือง  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองจึงมั่นใจว่ากระบวนการนี้มีการรู้เห็นหลายระดับอย่างแน่นอน  ซึ่งหากยังปล่อยให้มีโจรในคราบเจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นตั้งแต่หัวถึงหางเช่นนี้ เช่นนี้ต่อไปประชาชนจะอยู่อย่างไร รวมถึงจะเสื่อมศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม 

“ผมขอย้ำว่าการกระทำเช่นนี้ ไม่ได้มีเพียงในวงการตำรวจเท่านั้นเพราะในส่วนของข้าราชการเองก็รีดไถประชาชนไม่ต่างกัน จึงอยากฝากให้กรรมาธิการช่วยตรวจสอบและดำเนินการหยุดยั้ง ศาลเตี้ยในระบอบราชการไทยเสียที ขอให้หน่วยงานปปส. เป็นส่วนร่วมในการตรวจสอบ เเละลงพื้นที่อ.นาเชือก ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบเเละไขข้อเท็จจริงให้ประจักษ์ต่อประชาชน" พันจ่าเอก อดิศักดิ์  กล่าวทิ้งท้าย

'ดร.เสรี' ชี้ฝ่ายค้านเล่นตลกฝืดในสภาฯ แบบนี้นายกฯ อยู่ครบวาระแน่ จะมีคนอกแตกตายไหม

วันที่ 1 กันยายน 2564 ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย บรรณาธิการบริหาร เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค. โพสต์เฟซบุ๊กว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ไม่ได้ยินเรื่องราวที่เป็นความจริงเชิงประจักษ์ สาระที่บอกว่านายกฯ บริหารประเทศแย่อย่างไรไม่มีปรากฏให้เห็นเป็นเรื่องเป็นราว

สิ่งที่ได้ยินคือคำคุณศัพท์เชิงลบที่บรรยายความเป็นตัวตนของพลเอกประยุทธ์ที่ทั้งชั่ว ทั้งโง่ จนอดคิดไม่ได้ว่าคนโง่และชั่วขนาดนี้สามารถทำงานราชการก้าวหน้าถึงตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงานได้อย่างไร

บางคนก็มีลีลาเหมือนกำลังเล่นตลกในค่าเฟ่ แต่ความสามารถไม่ถึง ตลกฝืด ฟังแล้วไม่ได้ชื่นชม ถ้าคิดจะพูดเอาฮา คิดว่าไม่น่าจะได้ นอกจากพวกเดียวกันเอง

สาระไม่มี แต่จะดราม่ากัน 4 วันเชียวหรือ เหมือนได้ดูรายการโทรทัศน์ที่ไม่สนุก แต่นำมา rerun ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะหาสาระเชิงประจักษ์ไม่มีจริง ๆ

ฟังดูก็รู้ว่าแต่ละคนที่พูดนั้นมีความแค้นขนาดหนัก ต้องเอาพลเอกประยุทธ์ออกจากตำแหน่งให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ขอด่าให้ได้ระบายความแค้นที่ทำให้พรรคตัวเองไม่ได้อำนาจที่ต้องการ

แบบนี้นายกฯ คงอยู่ได้จนจบวาระแน่ ๆ เลย จะมีคนอกแตกตายไหมนะ

"นายกฯ สั่งให้ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม" มีหลักฐานการสั่งไหมคะ

ระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมใครใช้กระสุนจริง ใครใช้ความรุนแรง มีคลิปให้ดู เคยดูไหมคะ

บอกว่านายกฯ ให้หมอกดตัวเลขคนติดลดลง เพราะกลัวถูกนำเอาตัวเลขคนติดมาอภิปราย มีหลักฐานคำสั่งนายกฯ ไหมคะ แล้วนายกฯ จะกดดันหมอได้เหรอคะ

บอกว่านายกฯ โกง แต่ตรวจสอบไม่ได้ ตกลงโกงแล้วตรวจสอบไม่ได้หรือไม่มีโกง

บอกว่านายกฯ ค้าความตาย โอโฮสุดยอดวาทกรรมจริง ๆ นายกฯ เลวและอำมหิตขนาดนั้นเลยเหรอคะ หรือว่าคนที่พูดคิดจะทำถ้ามีโอกาสหรือเปล่าคะ

สงสารนะคะ หาสาระมาไล่นายกฯ ไม่ได้ จึงเต็มไปด้วย "วาทกรรมหลอกด่านายกฯ" ระบายความแค้น เพราะน่าจะรู้ว่าการอภิปรายแบบนี้คว่ำนายกฯ ไม่ได้


https://www.naewna.com/politic/598974


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

คกก.กำลังพลสำรอง เคาะสิทธิประโยชน์กำลังพลสำรองและนายจ้าง  หวังเป็นการแก้ปัญหาภัยความมั่นคง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำลังสำรอง ประจำปี 64 ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม มีสรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมรับทราบและพิจารณา ร่างแผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของ กห. ปี 66 - 70 โดยมีสาระสำคัญ มุ่งสู่การพัฒนาและใช้กำลังสำรองสนับสนุนการแก้ปัญหาภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศได้ทุกรูปแบบ โดยมีการบรรจุและใช้กำลังพลสำรองที่เป็นรูปธรรม ทดแทนกำลังประจำการบางตำแหน่งได้ตั้งแต่ยามปกติ  และมีการพัฒนาเสริมสร้างเครือข่ายครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยมีขั้นตอนการดำเนินการตามระยะเวลา 

ด้านสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ ได้ให้สิทธินายจ้างหรือผู้ประกอบการ ที่ให้ความร่วมมือ ในการขอใช้สถานที่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกของเหล่าทัพ  การใช้อาคารสถานที่และสิทธิการลดหย่อน  รวมทั้งให้โอกาสเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆของเหล่าทัพ  

สำหรับกำลังพลสำรองที่ประสงค์สอบเข้ารับราชการทหาร ให้ได้รับสิทธิคะแนนเพิ่มพิเศษไม่เกินร้อยละ 3 ให้สิทธิกรณีที่ได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการเข้ารับราชการ กรณีกำลังพลสำรองเสียชีวิต สามารถขอพระราชทานเพลิงศพในกรณีพิเศษ และสามารถขอกองทหารเกียรติยศได้ในขณะเข้ารับราชการทหาร   นอกจากนั้นยังได้ร่วมพิจารณาหลักเกณฑ์การเลื่อนยศและเลื่อนฐานะกำลังพลสำรอง เพื่อความก้าวหน้าในราชการ  ต่อจากนั้นมีมติร่วมกัน เห็นชอบคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่  4 คน

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำขอให้ คณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนแผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองให้เป็นไปตามเป้าหมายและเกิดประโยชน์กับประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายต่างๆและสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

“ทิพานัน” ย้ำ “บิ๊กตู่” ชี้แจงชัดทุกประเด็น ผิดหวังฝ่ายค้าน มาตรฐานตกใช้ความเชื่ออภิปราย ใส่ร้าย วกวน ข้อมูลตัดแปะพาดหัวข่าวมาอภิปราย พูดหยาบคาย ไม่เหมาะสมสภาผู้ทรงเกียรติ วอนผู้นำฝ่ายค้านปรับปรุงการอภิปรายด่วน ก่อนเป็น "ฝ่ายค้านอันธพาล"

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกของการอภิปรายว่า ภาพรวมการอภิปรายรู้สึกผิดหวังกับฝ่ายค้านที่มาตรฐานต่ำกว่าที่คาดได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านประกาศจะยกระดับการอภิปรายเน้นที่พยานหลักฐานชัดเจนในระดับดำเนินคดีได้ แต่เท่าที่ดูมีแต่งานมโนกล่าวหาและจินตนาการ ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามารถชี้แจงได้ชัดเจนทุกประเด็น โดยเฉพาะการใช้งบประมาณในการแก้ไขสถานการณ์โควิด ทำให้งบกลางเพิ่มสูงขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขสถานการณ์โควิด ดูแลสุขภาพประชาชนและพยุงระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการเพิ่มงบฯ เป็นพิเศษ แต่เป็นการใช้จ่ายตามระเบียบของสำนักงบประมาณ ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริตเหมือนรัฐบาลก่อน ๆ

อย่างเมื่อวานนี้ที่กรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางสิงหาคมนั้น เชื่อว่ามีการปั้นตัวเลข เพราะมีการตรวจน้อยลง ส่งผลให้พบผู้ติดเชื้อน้อยลงไปด้วยนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จะเห็นว่า นพ.ชลน่าน ยอมรับเองว่า การอภิปรายมาจากพื้นฐานของ “ความเชื่อ” โดยไม่ได้มีข้อมูลหลักฐานและเอกสารใดมายืนยันพิสูจน์ความเชื่อ ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงคือการตรวจโควิดไม่ได้ลดน้อยลง เห็นได้ชัดเจนในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังคงเปิดให้บริการตรวจโควิดเชิงรุกประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจากการที่ตนได้ลงพื้นที่มาตลอดและติดตามการตรวจเชิงรุกในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พบว่าสถิติว่าประชาชนเข้ารับบริการช่วงกรกฎาคม 100 คนจะพบผู้ติดเชื้อประมาณ 20-30 คน แต่ระยะหลังมานี้เข้ารับบริการตรวจ 100 คน พบผู้ติดเชื้อเพียง 10-15 คนเท่านั้น และทุกการตรวจหากพบเชื้อศูนย์บริการสาธารณสุขต่าง ๆ จะรายงานยอดผู้ติดเชื้อเท่าจำนวนที่ตรวจเจอ ซึ่งช่วงหลังพบว่ายอดลดลงมาต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ประชาชนติดเชื้อน้อยลง เป็นสัญญาณที่ดีตอบรับมาตราการของศบค. ดังนั้นจึงควรจะดีใจ ไม่ใช่กล่าวหาความเชื่อส่วนตัวว่าเพราะตรวจน้อยลง และที่สำคัญเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงไว้ในการอภิปรายว่า การปกปิดยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยอดผู้เสียชีวิต ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องรายงานองค์กรต่างประเทศด้วย

“เท่าที่ติดตามฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านแล้วไม่พบหลักฐานที่มีน้ำหนัก มีแต่สำนวนโวหารรุนแรงเพื่อความสะใจ และใช้เอกสารจากการพาดหัวข่าวมาเรียงแปะอภิปราย มิได้มีข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากการปรักปรำที่ไร้หลักฐาน ที่สะท้อนให้เห็นความล้มเหลว มีแต่ราคาคุย ที่อาศัยเนื้องานของสื่อมวลชนมาอภิปรายเท่านั้น ในขณะที่ผู้อภิปรายหลายคน ใช้ถ้อยคำหยาบคาย เสียดสีใส่ร้าย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในฐานะผู้ทรงเกียรติอีกด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามหวังว่าผู้นำฝ่ายค้านจะตระหนักในเรื่องนี้ เร่งปรับปรุงแก้ไขให้การอภิปรายในวันนี้ และวันต่อ ๆ ไป ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของของสภาฯ เสื่อมเสีย และกลับมาอยู่ในกรอบของการให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ตรวจสอบได้ของพยานหลักฐานในการอภิปราย อย่าให้ประชาชนคิดว่าพฤติกรรมนี้เป็นการตีหัวเข้าบ้านของ "ฝ่ายค้านอันธพาล" เอาได้


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top