Tuesday, 1 July 2025
POLITICS NEWS

'บิ๊กตู่' ประเดิม ลงพื้นที่ตรวจราชการ  ทริปแรกของปี 65 เช้า-ระยอง บ่าย-สมุทรปราการ

เมื่อวันที่ 26 ก.พ.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการติดตามผลการดำเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามข้อสั่งการ ในวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ จังหวัดระยองและสมุทรปราการ 

โดยช่วงเช้า นายกรัฐมนตรี กำหนดเดินทางไปที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเตรียม โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่งทางน้ำสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม และรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก โดยจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถและเพิ่มความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลว ให้บริการรูปแบบท่าเทียบเรือสาธารณะ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเตรียมเดินทางไปดูงานด้านการทำประมงพื้นบ้าน และการแปรรูปสินค้าประมงกลุ่มประมงพื้นบ้านบ้าน พร้อมลงพื้นที่โครงการป่าชายเลนในเมืองจังหวัดระยอง ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ อัญมณีหนึ่งเดียวในระยอง ซึ่งเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีพืชพันธุ์และสัตว์น้ำนานาชนิด รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ และยังเปรียบเสมือนปอดให้แก่คนระยอง

ในช่วงบ่าย  นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดโครงการบ้านเคหะสุขเกษม (เทพารักษ์)  ถ.เทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมและช่วยเหลือให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มผู้สูงอายุ สร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุราชการ ลูกจ้าง พนักงานของรัฐ และลูกจ้างเกษียณอายุที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในรูปแบบเช่าระยะยาว ที่มุ่งออกแบบภายใต้หลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) คำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก สภาวะแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมส่งเสริมสุขภาพควบคู่กันไป ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งหวังหวังยกระดับคุณภาพชีวิต เน้นย้ำคนไทยต้อง “มีบ้าน มีที่อยู่อาศัย” เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น 

รองโฆษกรัฐบาล แจง ประกันสังคม กำลังดำเนินการ ปรับลดการจ่ายเงินสมทบลง ร้อยละ 40 ตามมติครม.-ขอให้ผู้ประกันตน ม.40 จ่ายเงินสมทบ ก.พ.นี้ ในจำนวนเต็ม 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงร้องเรียนจากประชาชน เรื่องการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตน มาตรา 40 ซึ่งเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่พบว่ายังไม่ปรับลดการจ่ายเงินสมทบลง ร้อยละ40 ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติให้ปรับลด ตั้งแต่เดือนก.พ.- ก.ค.2565  ว่า  ขณะนี้สำนักงานประกันสังคม(สปส.) อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้มีผลตามมติครม.โดยเร็วที่สุด 

“ศรีสะเกษเกมส์” พร้อม เป็นต้นแบบ จัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มงวด 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จังหวัดศรีสะเกษ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ระหว่างวันที่ 5 – 25 มี.ค. 2565 และการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “นครลำดวนเกมส์” ระหว่างวันที่ 30 มี.ค. – 3 เม.ย. 2565 จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมชมร่วมเชียร์นักกีฬาจากทั่วประเทศ เข้าชิงชัยใน “ศรีสะเกษเกมส์” กว่า 55 ชนิดกีฬา และ “นครลำดวนเกมส์” กว่า 21 ชนิดกีฬา 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่างของการจัดมหกรรมกีฬาภายในประเทศ โดยมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด แบ่งรูปแบบจัดการแข่งขันออกเป็น 3 ช่วงตามกลุ่มชนิดกีฬา เพื่อลดความแออัด  จึงทำให้มีระยะเวลาในการจัดการแข่งขันที่ยาวกว่าปกติ  โดยช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 5-11 มี.ค. ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-18 มี.ค. และช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 19 – 25 มี.ค. มีมาตรการเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 ที่รัดกุม โดยคณะกีฬาต้องผ่านการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 2 เข็มขึ้นไป มีผลการตรวจ ATK ก่อนเดินทางเข้าจังหวัด และตรวจ ATK ก่อนการแข่งขัน พร้อมกันนี้ ยังจะมีการตรวจโควิคให้ทุกๆ 3 วันตลอดการแข่งขันด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนการอำนวยความสะดวกแก่คณะนักกีฬา ได้มีการเตรียมความพร้อมแล้ว ทั้งในส่วนของสถานที่พักของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ โดยจัดสถานที่พักตามชนิดกีฬาและใกล้สนามแข่งขันมากที่สุด จัดวางระบบรับ-ส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ จากที่พักถึงสนามแข่งขันทุกวัน ส่วนการรักษาความปลอดภัย ได้วางมาตรการไว้อย่างดี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ

‘บิ๊กตู่’ นำนายกฯ มาเลเซียตรวจแถวทหาร ก่อนหารือ ย้ำความร่วมมือฟื้นฟู ศก.-สังคม หลังโควิด

‘บิ๊กตู่’ นำนายกฯ มาเลเซียตรวจแถวทหารกองเกียรติยศผสม ก่อนหารืออย่างเป็นทางการ ย้ำความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายหลังสถานการณ์โควิด-19

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล มีพิธีต้อนรับ ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ (The Honourable Dato’ Sri Ismail Sabri bin Yaakob) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ประยุทธ์นำตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม

จากนั้น ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ ได้ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ก่อนจะเป็นการหารือข้อราชการระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวร่วมกัน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล

หลังเสร็จการแถลงข่าวร่วมของผู้นำทั้งสองประเทศ นายกรัฐมนตรี ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ เยี่ยมชมนิทรรศการศิลปหัตถกรรม ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ก่อนที่เวลา 18.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ ถือเป็นการเยือนไทยครั้งแรก และยังเป็นผู้นำรัฐบาลต่างประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย

อนึ่ง การเยือนครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดให้กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนการเยือนระดับผู้นำซึ่งจะเป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีได้ทำความรู้จักผู้นำใหม่ของมาเลเซียอย่างเป็นทางการ และเป็นการกระชับความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการในภูมิภาค ผลักดันความร่วมมือด้านต่างๆ ในอนาคต ความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ การส่งเสริมความเชื่อมโยงในพื้นที่ชายแดน ตลอดจนความร่วมมือในกรอบอาเซียนและกรอบพหุภาคีอื่นๆ

เปิดยอดรับบริจาค 33 พรรคการเมืองปี 64 ภูมิใจไทย นำโด่งรับทรัพย์ 45.9 ล้าน ทิ้งห่าง ปชป.ได้ 35.5 ล้าน ก้าวไกล 31.8 ล้าน ขณะที่ พปชร. ครองแชมป์รับเป็นประโยชน์อื่นใดจากบริษัทเอกชน 9.3 ล้าน 

เว็บไซต์สำนักงาน กกต. ได้เผยแพร่ข้อมูลการบริจาคแก่พรรคการเมืองล่าสุดประจำเดือนธันวาคม 2564 พบว่าพรรคที่ได้รับบริจาคสูงสุดในเดือนนี้ คือ พรรคพลังประชารัฐ โดยได้รับบริจาคเป็นประโยชน์อื่นใดจาก บจก.ไทยฮอสพิทาลิตี้แมเนจเม้นท์ จำนวน 9,344,913 บาท ตามมาด้วย พรรคประชาธิปัตย์ 7,568,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นจากสมาชิกโดยในจำนวนนี้มี นายธนพล เจิมประไพ น.ส.ชนนิตย์ วัฒนาดิลกกุล บริจาครายละ 3 ล้านบาท และบริษัท สระหลวงก่อสร้าง 1 ล้านบาท พรรคก้าวไกล 5,639,058 บาท โดยแยกเป็นเงิน 3,771,058 บาท ผู้บริจาคมากสุด คือ นายอนันต์ ชัยสุริยเทพกุล และเป็นประโยชน์อื่นใดจากบริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด 1,868,000 บาท พรรคภูมิใจไทย 2,010,000 บาท พรรคชาติพัฒนา 2,000,000 จาก นายสุรทิน วิลาศชัยยันต์ พรรคไทยภักดี 1,500,000 บาท

พรรคชาติไทยพัฒนา 1,035,000 บาท พรรคเป็นธรรม 827,200 บาท พรรคเส้นทางใหม่ 500,000 บาท พรรคเศรษฐกิจไทย 424,000 บาท พรรคกล้า 250,000 บาท พรรคเสรีรวมไทย และพรรคประชาชาติ พรรคละ 180,000 บาท พรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งรับบริจาคเป็นประโยชน์อื่นใดจาก นายบุญปลูก เอนสาร 180,000 บาท พรรคประชาภิวัฒน์ 100,000 บาท พรรครวมพลังประชาชาติไทย 50,000 บาท พรรคภราดรภาพ พรรคทางเลือกใหม่ พรรคพลังสหกรณ์ พรรคละ 30,000 บาท พรรคพลังปวงชนไทย 30,010 บาท และพรรครักษ์ธรรม 21,000 บาท

'เพื่อไทย' ทวง 'นายกฯ' ตอบปมพลังงานหลังจบอภิปราย พร้อมจี้คืนเงินกว่า 2 หมื่นล. คืนกองทุนอนุรักษ์พลังงาน

เลิศศักดิ์ ส.ส. เพื่อไทย ทวงนายกฯ ตอบคำถามเรื่องพลังงาน จี้ คืนเงินกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 20,087.42 ล้านบาท แนะ รับมือกับปัญหาพลังงานล่วงหน้า

เมื่อวันที่ 25 กพ. 65 นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเลย กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พรรคเพื่อไทยได้ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.152 โดยที่ตนได้อภิปรายสอบถามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องพลังงาน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงอยากขอให้พลเอกประยุทธ์ได้ชี้แจงเรื่องพลังงานให้ครบถ้วนจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ และได้ทะลุ 100$ ต่อบาร์เรล หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนตามที่ได้เตือนแล้ว พลเอกประยุทธ์ได้คิดหรือยังว่าจะช่วยประชาชนอย่างไร เพราะราคาน้ำมันอาจจะพุ่งขึ้นไปอีก และราคาสูงอีกนาน ดังนั้น การลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียง 3 บาทแค่ 3 เดือน ไม่น่าจะรับมือไหว เป็นการดำเนินการที่น้อยเกินไปและช้าเกินไป อีกทั้งเวลายังสั้นเกินไป ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้แล้ว

นอกจากนี้ คณะทำงานเศรษฐกิจได้พยายามทวงเงิน 20,087.42 ล้านบาท จากกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่ถูกโอนไปเป็นรายได้รัฐบาล แต่ไม่เคยได้รับคำชี้แจง และตนก็อภิปรายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.152 ที่ผ่านมาในสภา ดังนั้นถ้าพลเอกประยุทธ์บอกว่าตอบได้ทุกเรื่องก็ให้ตอบเรื่องนี้ด้วย และตอบด้วยว่าจะนำมาคืนประชาชนเมื่อไหร่ เพราะกองทุนเป็นเงินที่เก็บจากประชาชนผู้เติมน้ำมันไป

'โรม’ รุกต่อ!! สอบปมค้ามนุษย์​ ผ่าน​กมธ.กฎหมาย คาดวีกหน้าเรียก 3 ป. แจงข้อเท็จจริง​ เหตุ ‘ปวีณ ลี้ภัย’

25 ก.พ. 65​ รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงต่อสื่อมวลชนว่า จากกรณีที่ได้อภิปรายในประเด็นการค้ามนุษย์และการลี้ภัยของพลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ วันนี้จะนำเรื่องดังกล่าวขอมติต่อคณะกรรมาธิการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมติกรรมาธิการเห็นด้วย จะเสนอต่อที่ประชุมให้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ โดยพุ่งประเด็นไปที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,​ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี,​ พลตำรวจเอก สุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันว่าเรื่องนี้พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญมากจริงๆ และจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

นอกจากนี้ วันเดียวกัน กมธ.กฎหมายฯ ยังได้รับหนังสือร้องเรียนจาก นายธนารัตน์ น้ำคำ ตัวแทนประชาชนที่มาเรียกร้องต่อคณะกรรมาธิการ ขอให้ตรวจสอบมาตรฐานโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี ที่เกิดกรณีคนงานพลัดตกลงไปในเครื่องบีบน้ำตาลจนเสียชีวิตแต่ยังคงดำเนินการผลิตต่อไปโดยไม่มีการยับยั้งชั่วคราวใดๆ จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

ป.ป.ช.เปิดเซฟ “บิ๊กบี้” มีทรัพย์สิน 167 ล้าน สะสมปืน 3 กระบอก “พล.ต.หญิง พิมพ์พิศา” ภรรยา ครองที่ดิน 91 ล้าน ด้าน “ปลัดกลาโหม” มี 44 ล้าน มีบ้านหลังเดียวอยู่ที่ปากช่อง มูลค่า 3.5 ล้านในชื่อ “พ.ต.อ.หญิงอังศุวรรณ” คู่สมรส

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.ณรงค์ศักดิ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.64 โดย พล.อ.ณรงค์ศักดิ์ แจ้งว่า ตนเอง และ พล.ต.หญิง พิมพ์พิศา จิตต์แก้ว คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 167,623,994 บาท ไม่มีหนี้สิน

ทั้งนี้ เป็นทรัพย์สินของผู้ยื่น 19,112,534 บาท ของคู่สมรส 148,511,บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของทั้งคู่ มูลค่ารวมกัน 19,922,119 บาท เป็นเงินลงทุนของ พล.อ.ณรงค์ศักดิ์ 300,000 บาท ที่ดินในชื่อของคู่สมรส 91,386,500 บาท ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี อ.เมือง จ.ลพบุรี อ.หนองโดน จ.สระบุรี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เขตราชเทวี เขตดินแดง กทม. โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างของทั้งคู่ มูลค่ารวมกัน 45,262,447 บาท ยานพาหนะของทั้งคู่ มูลค่ารวมกัน 4,500,000 บาท สิทธิและสัมปทานของทั้งคู่ มูลค่ารวมกัน 2,604,034 บาท 

ขณะที่ทรัพย์สินอื่นของทั้งคู่ แจ้งไว้ 18 รายการ มูลค่ารวมกัน 3,648,892 บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจ อาทิ ปืนพกลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ แม็กกะซีน 1 กระบอก ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ แม็กกะซีน 1 กระบอก แหวนทองคำ 5 วง พระเลี่ยมทอง 9 องค์ สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง 4 ชุด สร้อยข้อมือ 10 เส้น สร้อยเพชร แหวนเพชร สร้อยข้อมือ 3 เส้น 7 วง แหวนทอง ต่างหูทอง ยศทองคำ 12 วง 3 คู่

นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.64 โดย พล.อ.วรเกียรติ แจ้งว่า ตนเอง และ พ.ต.อ.หญิง อังศุวรรณ รัตนานนท์ คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 44,591,412 บาท มีหนี้สิน 303,947 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชีของทั้งคู่รวมกัน ทั้งนี้ เป็นทรัพย์สินของ พล.อ.วรเกียรติ 16,514,082 บาท ของ พ.ต.อ.หญิงอังศุวรรณ 28,077,329 บาท 

"วิษณุ" ระบุ กมธ.แปรญัตติวิธีคำนวณ ส.ส.อย่างไรก็ได้ ขออย่าขัดรธน.-ยึดหลักบัตร 2 ใบ มั่นใจกฎหมายลูกเลือกตั้ง "ผ่าน"

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 4 ฉบับ หากจะแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการวิสามัญให้วิธีนับคะแนนกลับมาเหมือนแบบจัดสรรปันส่วนผสม(MMP) ได้หรือไม่ ว่า ได้ทั้งนั้น อย่าให้ขัดกับหลักการรัฐธรรมนูญ เพราะหลักการของบางร่างที่รับไปเปิดกว้าง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากแก้การคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่คล้ายกับคำนวณบัตรเลือกตั้งใบเดียว ก็ไม่จำเป็นที่ต้องไปแก้รัฐธรรมนูญ กลับมาใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องยืนบนพื้นฐานบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะแก้หัวหกก้นขวิดอย่างไร ต้องอย่าลืมว่ายังมีด่านที่ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เห็นชอบด้วย ถ้ากกต.ไม่เห็นชอบ เขาก็ส่งคืนกลับให้แก้ใหม่ เมื่อถามย้ำว่ากรรมาธิการวิสามัญ ไม่สามารถเขียนอะไรเกินกรอบมากไปได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ใช่ 

เมื่อถามว่าร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งผ่านวาระแรกทั้ง 4 ฉบับ การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 6 ฉบับ ดูทิศทางจะผ่านสภาฯเช่นกัน ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ผ่านหมดหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ต้องมีบางฉบับผ่านเข้าไป เพื่อให้กรรมาธิการวิสามัญ พิจารณา อย่างน้อยฉบับของรัฐบาล คงผ่าน 

“โฆษกรัฐบาล” ย้ำ ป้องกันครอบจักรวาล สกัดโอมิครอน แจง ผู้ป่วยโควิด-19 รักษาฟรีทุกที่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อมูลทางการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอน ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ประชาชนสามารถป้องกันได้ ด้วยการปฏิบัติตนตามหลักครอบจักรวาล อย่างเคร่งครัด และเข้ารับการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ รวมทั้งเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะประชาชนกลุ่ม 608  และเด็กเล็ก 

นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้โควิด-19 ยังเป็นโรคฉุกเฉินและยังสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกที่ สถานพยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้  ส่วนการรักษาทั้งที่บ้าน ชุมชน โรงแรม โรงพยาบาล ระบบจะเข้าไปดูแล  โดยประชาชนทุกคนมีสิทธิเข้าถึงบริการสาธารณสุขโดยต้องไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคน ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 มาตรา 59 ในกรณีที่ผู้รับบริการผู้ใดไม่ได้รับความสะดวกตามสมควรหรือตามสิทธิที่จะได้รับบริการสาธารณสุขที่กําหนดตาม พ.ร.บ. นี้ จากหน่วยบริการ หรือหน่วยบริการเรียกเก็บค่าบริการจากประชาชนโดยไม่มีสิทธิ   สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  สายด่วน 1330 กด 12 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top