Tuesday, 1 July 2025
NEWS

'ไบเดน' รับหวั่น!! Omicron​ แต่ยังไงก็ไม่ล็อกดาวน์ แนะ!! ปชช.สหรัฐฯ​ อย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เผย​ ตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ Omicron​ เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่แนะพลเมืองอเมริกาอย่าได้ตื่นตระหนก และเผยว่าอเมริกากำลังจัดทำแผนฉุกเฉินกับบริษัทยาทั้งหลายหากว่าวัคซีนใหม่มีความจำเป็น

ไบเดนระบุว่าสหรัฐฯ​ จะไม่กลับเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของ​ Omicron​ และจะเปิดตัวกรอบยุทธศาสตร์ในวันพฤหัสบดี​ (2 ธ.ค. 64) สำหรับต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว พร้อมเรียกร้องประชาชนเข้ารับวัคซีน ฉีดเข็มกระตุ้นและสวมหน้ากาก

"ตัวกลายพันธุ์นี้เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่ไม่ได้ก่อความตื่นตระหนก" ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาว หลังประชุมร่วมกับคณะทำงานด้านโควิด-19 ของเขา "เรากำลังจะสู้และเอาชนะตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้" ไบเดนระบุ

ทั้งนี้​ Omicron​ กำลังกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ​ ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ จำกัดการเดินทางจากภูมิภาคทางใต้ของทวีปแอฟริกา หลังจากพบไวรัสตัวดังกล่าว ผนวกกับในวันจันทร์​ (29 พ.ย.) องค์การอนามัยโลกเตือนว่า​ Omicron​ มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อพุ่งพรวดขึ้นในหมู่นานาประเทศ แม้จนถึงตอนนี้จะยังไม่พบผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับตัวกลายพันธุ์ล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดังกล่าวก็ตาม

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน​ ยอมรับว่า​ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เคสผู้ติดเชื้อ​ Omicron​ จะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่ เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่าตัวกลายพันธุ์นี้ไม่ควรเป็นสาเหตุให้ชาวอเมริกันชนเปลี่ยนแผนการเดินทางช่วงวันหยุดยาว ตราบใดที่พวกเขาฉีดวัคซีนแล้วและสวมหน้ากาก

ไบเดนเชื่อว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะยังคงปกป้องการติดเชื้ออาการรุนแรง แต่ระบุรัฐบาลของเขากำลังทำงานร่วมกับบรรดาผู้ผลิตวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์, โมเดอร์นา​ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อร่างแผนฉุกเฉิน

"ในกรณีที่...ซึ่งหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น วัคซีนรุ่นอัปเดตหรือเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นสำหรับตอบโต้ตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้ เราจะเร่งพัฒนามันและใช้งานมันร่วมกับทุกเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถหยิบหาได้" เขากล่าว พร้อมระบุว่าเขาจะสั่งการไปยังสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ​ (เอฟดีเอ) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ​ (ซีดีซี) เพื่อให้วัคซีนเหล่านี้หยิบหาได้โดยเร็วที่สุด

“อลงกรณ์” เสนอยกระดับสถาบันอาหารเป็นองค์การอาหารแห่งชาติ (National Food Organization) ชี้ปี 2565 คือปีแห่งโอกาสของอุตสาหกรรมอาหาร หลังตัวเลขส่งออกสินค้าเกษตรโตต่อเนื่อง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเสวนาภายใน งาน NFI Talk ครั้งที่ 1 “เดินหน้าอุตสาหกรรมอาหารประเทศไทย ปี 2565” ในวาระครบรอบ25ปีของสถาบันอาหาร (National Food Institute)โดยมี ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน  นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติและทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมในงานเสวนาผ่านระบบ ZOOM โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนสถานการณ์ที่มีต่อประเด็นท้าทายใหม่ๆ ในการเดินหน้าอุตสาหกรรมอาหารประเทศไทยปี 2565 และในอนาคต และจุดประกายแนวคิดในดำเนินธุรกิจและปรับกลยุทธ์องค์กรพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจในโลกยุค Next normal

โดยการเสวนามีประเด็นในหัวข้อการดำเนินงานเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา และบทบาทของภาครัฐต่อทิศทางและเป้าหมายในการขับเคลื่อนภาคเกษตรและอาหารของประเทศไทยในปี 2565 และระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของภาคธุรกิจ กลยุทธ์การแข่งขันและการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมอาหารในโลกยุคหลังโควิด-19 และสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารปี 2565 เทรนด์ธุรกิจโลกหลังยุคโควิด-19 และโอกาสผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารไทย ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจากการดำเนินงานของภาครัฐเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา และทิศทางและเป้าหมายในการขับเคลื่อนภาคเกษตรและเกษตรแปรรูปของประเทศไทยปี 2565

นายอลงกรณ์ กล่าวว่าแม้จะเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคจากมาตรการปัองกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของประเทศคู่ค้าแต่ด้วยการขับเคลื่อนปฏิรูปภาคการเกษตรด้วยนโยบายเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาดตามยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์บนความร่วมมือกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สถาบันเกษตรกรและภาควิชาการเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการเกษตรไทยทำให้การส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรมขยายตัวแบบต่อเนื่องและส่งแรงดันต่อไปถึงปีหน้าสะท้อนผลสำเร็จจากตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตร 10 เดือน (ม.ค.-ตุลาคม) มีมูลค่าถึง 677,955 ล้านบาท เติบโต24.5 %และเป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือนเฉพาะเดือนตุลาคมส่งออก66,048 ล้านบาทขยายตัว 22 %

ในขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม 10 เดือนมีมูลค่า494,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3.8 %และขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือนติดต่อกันโดยเฉพาะเดือนตุลาคมส่งออก56,543 ล้านบาทขยายตัว13 % อันเป็นผลมาจากการบริหารจัดการในมิติใหม่ได้แก่

การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการประชาชนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การพัฒนาภาคเกษตรกรรมโดยการใช้เทคโนโลยีตลอดห่วงโซ่อุปทานและมูลค่า(Supply-Value Chain)ตั้งแต่การผลิตจนถึงการตลาด การบริหารเชิงรุกแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนและการส่งเสริมการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร รวมถึงการส่งเสริมการค้าแบบออนไลน์และออฟไลน์ การพัฒนาตลาดกลางสินค้าเกษตร การขับเคลื่อนระบบPre order ระบบประกันสินค้า ระบบตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)และการสร้างแบรนด์สินค้าเกษตร(Branding)ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพและและมาตรฐานสินค้าเกษตร

และการสนับสนุนส่งเสริมสินค้าใหม่ๆและตลาดใหม่ๆที่มีศักยภาพเช่น อาหารแห่งอนาคต(Future food) อาหารฮาลาล(Halal food)และโปรตีนทางเลือกใหม่จากพืชและแมลง ประการสำคัญคือการพัฒนาโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องจนสามารถเปิดด่านการส่งออกผลไม้ระหว่างไทยกับจีนที่ผ่านประเทศที่ 3 ได้สำเร็จเพิ่มเป็น 16 ด่าน และการเตรียมความพร้อมในการใช้เส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทยขนส่งสินค้าไปทุกมณฑลของจีนและเชื่อมโยงไปเอเซียกลาง เอเซียใต้ ตะวันออกกลางและ ยุโรป

 

คนสิทธิฯ ลุยมหาชัย ศึกษาคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติ ด้าน “ผอ.สมพงษ์” วอนคนไทยหยุด!แบ่งแยกเป็นพลเมืองชั้นรอง ให้ดูที่ศักยภาพ

นายณรงค์  รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้การต้อนรับนางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางสาวรตญา กอบศิริกาญจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายณัฐพงศ์ รอดมี ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ สถาบันพระปกเกล้า และนักศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปสม) รุ่นที่ 2 ในการลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ มูลนิธิเครือข่ายคุณภาพชีวิตแรงงาน(LPN) อ.เมือง จังหวัดสมุทรสาคร 

ทั้งนี้ มีเวทีเสวนาหัวข้อ “การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานกับสิทธิมนุษยชนที่จับต้องได้” โดย นายวันชัย สาครมณีรัตน์ จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร นายสมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน(LPN) คุณดาวเรือง เลขวรนันท์ ที่ปรึกษา บริษัท ซีแอลเอ็มวี สมาร์ท เวิร์คเกอร์ จำกัด และคุณ Ko Ko Naing ผู้แทนแรงงานต่างด้าวจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมเสวนา 

นายสมพงษ์ สระแก้ว กล่าวว่า ทางมูลนิธิเครือข่ายคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN ) มีเป้าหมาย คือการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติ ส่งเสริมการรับรู้และเข้าถึงสิทธิ์ที่พึงจะได้รับ แรงงานข้ามชาติและผู้ติดตามมีศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ทัดเทียมคนไทย จึงอยากให้คนไทยเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมอง ที่ว่ากลุ่มแรงงานข้ามชาติเป็นพลเมืองชั้นรองของสังคม

 

‘จีน’ ยัน มาถูกทาง ตั้งการ์ดสูงคุมโควิด ชี้ หากรีบเปิดพรมแดน เสี่ยงติดเชื้อ 6 แสนคน/วัน

คิดถูกแล้วที่ยังไม่เปิดประเทศ จีนยันนโยบาย Zero-Covid มาถูกทางแล้ว หากรีบเปิดพรมแดนมีสิทธิ์เจอการระบาดระลอกใหญ่มากกว่า 6 แสนคนต่อวัน 

นักคณิตศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งเตือนว่า จีนยังไม่พร้อมที่จะเปิดประเทศในเวลานี้ หากฝืนเปิดพรมแดนอาจเสี่ยงที่จะเจอการระบาดระลอกยักษ์ ที่มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 6.3 แสนคนต่อวันได้

ข้อสันนิษฐานนี้ มีการรับรองและตีพิมพ์ในวารสาร China CDC Weekly โดยกรมควบคุมโรคของจีน จากการศึกษาข้อมูลของทีมอาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่ไม่เห็นด้วยกับการเริ่มผ่อนคลายมาตรการสกัดการระบาด Covid-19 ให้เป็นศูนย์ หรือ Zero-Covid Policy และพิจารณาแผนการเปิดเมือง เปิดประเทศตามชาติตะวันตก

หากจีนจะเปิดประเทศได้อีกครั้ง ต้องแน่ใจว่าฉีดวัคซีนครบโดส ครอบคลุมประชากรเป้าหมายเรียบร้อย และมีการเตรียมพร้อมด้านการแพทย์อย่างเหมาะสมแล้วเท่านั้น เพื่อรับมือหากเกิดคลื่นการระบาดระลอกใหม่หลังเปิดประเทศอย่างในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ สเปน หรือฝรั่งเศส

เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ตั้งแต่จีนพบการระบาดของเชื้อ Covid-19 เป็นที่แรกของโลกที่เมืองอู่ฮั่น ก็ได้ใช้นโยบาย Zero-Covid Policy ปิดเมืองเข้มทุกที่ที่พบการระบาดมาตลอด จนสามารถสกัดการระบาดได้สำเร็จภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน ก็กลับมาเปิดเมืองได้อีกครั้ง และเชื่อมั่นว่าเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในการสกัดการระบาดเพิ่มเป็นวงกว้างได้ 

แต่โมเดลการควบคุมโรคของจีน ไม่สามารถใช้ได้กับทุกที่ในโลก อย่างกลุ่มประเทศเสรีนิยมตะวันตก ที่การจำกัดการเดินทาง หรือกักบริเวณถือเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ จึงมักพบข่าวการประท้วงอย่างรุนแรงเมื่อรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์อยู่บ่อย ๆ

Apple ซุ่มเงียบ พัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ตั้งเป้าเปิดตัวเต็มรูปแบบภายในปี 2025

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Apple นั้นกำลังเร่งมือกับโปรเจกต์รถยนต์อย่างเต็มที่ และเล็งไปที่ก้าวต่อไปอย่าง ยานยนต์ไร้คนขับ แบบเต็มรูปแบบ (Fully Autonomous Vehicle) โดยมีแผนจะเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าอัตโนมัติ ภายในปี 2025

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือหนาหูมากว่า Apple ให้ความสนใจที่จะผลิต ยานยนต์ไร้คนขับ แบบจริงจัง โดยมีข้อมูลเป็นจำนวนมากที่ระบุว่า Apple ได้เริ่มเดินหน้าคุยกับทางผู้ผลิตรถยนต์หลายยี่ห้อ เพื่อที่จะนำเทคโนโลยีจากแบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ มาพัฒนาและต่อยอด Project Titan และยานยนต์ของบริษัท

ปัจจุบัน Apple ได้แต่งตั้งและมอบหมายงานด้านยานยนต์และรถยนต์ไร้คนขับให้กับทาง Kevin Lynch ผู้บริหารด้านซอฟต์แวร์ของ Apple Watch เป็นผู้ดูแล โดยวางแผนว่าโปรเจกต์จะสำเร็จภายในเวลา 4 ปี

คอนเซปต์ยานยนต์ไร้คนขับที่ Apple ตั้งใจจะพัฒนานั้น มีประมาณนี้

เป็นรถที่ไม่มีพวงมาลัย

ไม่มีคันเร่ง

ภายในจะถูกออกแบบให้ผู้นั่งได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด คล้ายกับรถของ Canoo Inc.

มาพร้อมแผงหน้าจอสัมผัส คล้ายกับมี iPad ขนาดใหญ่ อยู่ที่แผงคอนโซลของรถ ใช้แทนพวงมาลัยและคันเร่ง

ที่นั่งโค้ง นั่งสบายสไตร์รถลีมูซีน

มาพร้อมกับโหมดฉุกเฉิน ให้ผู้นั่งสามารถดึงการควบคุมคืนจาก AI ได้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น

ไทยรักษา แจงภาพ ‘ร้านราดหน้า’ ไม่รับสลิ่ม ยันภาพหลานเจ้าของร้าน โดนตัดแปะข้อความ

เพจ ‘ไทยรักษา’ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า จากที่มีภาพข้อความ ของร้านราดหน้า ที่ศรีราชา ชลบุรี ประกาศว่าไม่รับลูกค้าสลิ่ม พร้อมกับชู "สามนิ้ว" ด่าสลิ่มอย่างหยาบคาย ที่ถูกแชร์อยู่ตามกลุ่มต่าง ๆ อยู่ในตอนนี้นั้น 

ตอนนี้เราได้ทราบแล้วว่า เป็นภาพของหลานเจ้าของร้านราดหน้านั้นเอง แต่อาศัยอยู่คนละบ้าน ซึ่งเจ้าของร้านเป็นคุณลุง มีอายุมากแล้ว และทางร้านไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อความในภาพ 

โดยทางเจ้าของร้าน ได้แจ้งกับไทยรักษาว่า ภาพที่มีการชู "สามนิ้ว" เป็นภาพของหลานเจ้าของร้านจริง แต่ข้อความที่ประกาศไม่รับลูกค้าสลิ่มนั้น เป็นข้อความตัดแปะ แล้วมีคนนำไปลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ทำให้ตอนนี้ร้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ตอนนี้คุณลุงเครียดมาก เลยได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะในภาพตัดต่อมีข้อความพาดพิงถึงชื่อร้าน และถูกแชร์ให้เข้าใจผิดไปไกลแล้ว แม้แต่ลูกค้าประจำยังเข้าไปทักในเพจว่าจะแบนร้าน 

ขอออกตัวก่อนว่า โพสต์นี้ เราไม่ได้ต้องการมาแก้ตัวให้คนที่ชู "สามนิ้ว" ในภาพ เพราะเราไม่แคร์คนพวกนี้อยู่แล้ว ถึงจะเป็นการตัดต่อข้อความ แต่ภาพชูสามนิ้วก็คือภาพจริง 

Omicron อ่านยังไง?

Omicron อ่านยังไง?

เท่าที่ฟังข่าวต่างประเทศมา สรุปได้ว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron อ่านว่า...

ที่ยุโรป = "อ้อม-มิ-ครอน"
ที่อเมริกา = "อ้อม-เมอะ-ครอน"

ไม่ใช่ โอ-ไม-คร่อน (แต่ตอนแรกนักข่าวต่างประเทศหลายคนก็อ่านแบบนี้)

'สธ.' ยัน!! Omicron ยังไม่หลุดเข้าไทย แต่หาวิธีตรวจจับแบบเร็วที่สุดไว้แล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมีครอน (Omicron) ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีมาตรการป้องกันในระดับแรกแล้ว ส่วนการตรวจจับค้นหาเชื้อโอมีครอนจะเดินทางเข้ามาในประเทศจะต้องทำเต็มที่ รัดกุม และทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ที่มีการปรับแผนอนุญาตให้ตรวจแบบ ATK แล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แทนการตรวจ RT-PCR ในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในไทย ขณะนี้จะต้องมีการทบทวนขยายเวลายังคงใช้ RT-PCR เหมือนเดิม ซึ่งเป็นมาตรการเข้มข้นเพื่อการตรวจจับค้นหาโอมีครอนที่จะมาจากต่างประเทศ

ส่วนที่มีการเสนอในหลาย ๆ รูปแบบจะต้องมีการติดตามข้อมูลให้มีความชัดเจนมากที่สุด ตนได้สั่งการไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทุกศูนย์ของกรมวิทย์ฯ รวมทั้งภาคีเครือข่ายจะต้องมีวิธีตรวจจับหาโอมีครอนให้ได้ดีที่สุด แต่ขณะนี้โดยเทคนิคมีการประเมินว่า ถ้าเชื้อเป็นเดลตาบางส่วนและอัลฟาบางส่วน ให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นโอมีครอน และในสเตปต่อไปจะมีน้ำยาตรวจจับโอมีครอนโดยตรง

‘พระมหาไพรวัลย์’ โพสต์ใกล้หมดเวลาแล้ว ล่าสุดตอบแชต ‘หมอแล็บฯ’ เตรียมสึกเร็วๆ นี้

โซเชียลฯ แห่ให้กำลังใจ หลังพระมหาไพรวัลย์ พระลูกวัดสร้อยทองโพสต์ใกล้หมดเวลา ฉันคงต้องไป พร้อมขอบคุณพระศาสนาที่มอบทุกอย่างให้กับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งคนนี้ ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา

(28 พ.ย.) เพจ "ไพรวัลย์ วรวัณโณ" หรือพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระลูกวัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ขอบคุณพระศาสนาที่มอบทุกอย่างให้กับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งคนนี้ ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณข้าวน้ำจากศรัทธาของญาติโยมทุกคน..."

นอกจากนี้พระมหาไพรวัลย์ ยังได้ระบุข้อความในคอมเมนต์ด้วยว่า "หมดเวลาแล้วว ฉันคงต้องไป"

และช่วงเช้าที่ผ่านมา พระมหาไพรวัลย์ ได้แชร์ข้อความประเด็นเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งในวงการสงฆ์ โดยพระมหาไพรวัลย์ระบุข้อความว่า "ใกล้จะได้สลัดปลอกคอแล้วสินะ"

เจาะโลกอนาคต รถเหาะได้!! “AIR CAR” พร้อมทะยานสู่ท้องฟ้า ปี 2024!! | Knowledge Times EP.40

???? Knowledge Times BizView
???? เจาะโลกอนาคต รถเหาะได้!! “AIR CAR” พร้อมทะยานสู่ท้องฟ้า ปี 2024!! 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เป็นช่วงเวลาที่วงการ ‘รถบินได้’ คึกคักมากเป็นพิเศษ เริ่มต้นจากการที่บริษัททางการเงินและการลงทุนระดับโลกอย่าง Morgan Stanley ออกมาบอกว่าอุตสาหกรรม ‘รถบินได้’ จะทำรายได้มหาศาลและมีเงินสะพัดกว่า 5 หมื่นล้านบาทในปี 2040 หรืออีกแค่ 20 ปีข้างหน้า! ซึ่งจุดชนวนให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาแข่งขันและพัฒนานวัตกรรมนี้ เพื่อเป็นคนแรกในตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง ขณะที่บนท้องฟ้ายังเปิดกว้างและเป็นตลาดใหม่ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ!  

อย่างเช่น เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท Klein Vision ในประเทศสโลวาเกีย ได้ทดลองรถต้นแบบ Air car ที่ใช้เวลาพัฒนายาวนานตั้งแต่ยุค 1980 โดยใช้เวลาทดลองบินบนฟ้าราว 35 นาที รวมระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร 

สำหรับรถต้นแบบ Air car ของ Klein Vision เป็นรถที่มีรูปทรงสปอร์ต สามารถวิ่งบนถนน พับปีกเข้าหาลำตัวได้ ใช้เวลาแปลงร่างจากรถยนต์ธรรมดาให้มีปีกออกมา 2 นาที 15 วินาที 

และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์อย่าง Honda ก็ประกาศแผนพัฒนาและผลิต ‘Honda Jet’ ตัวต้นแบบในอีก 2 ปีข้างหน้า และกำหนดที่จะเข้าสู่วงจรการผลิตแบบเต็มรูปแบบในปี 2030 ซึ่งจะสามารถบินได้ไกลกว่าที่โลกเคยผลิตออกมากว่า 4 เท่า หรือสามารถบินได้ระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร

ดูเหมือนว่าปี 2030 จะเป็นหมุดหมายสำคัญของบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่มหานครลอสแอนเจลิสได้กลายเป็นเมืองอันดับต้น ๆ ของโลกที่จะมีบริการแท็กซี่ Urban Air Mobility หรือ ‘บริการแท็กซี่ทางอากาศส่วนบุคคล’ ซึ่งมีแผนการที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 เช่นกัน ภายใต้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่อย่างฮุนได ซึ่งนอกจากจะเอาจินตนาการมาจากรถบินได้ ที่ถูกปรับให้เป็น Vertical Takeoff and Landing มีลักษณะเป็นเครื่องบินแท็กซี่ขนาดเล็กแล้ว ยังออกแบบ Hub สำหรับการจอดรวมไปถึงรถ Shuttle bus รับส่งผู้คนเรียกได้ว่าครบวงจร ซึ่งตอนนี้อยู่ภายใต้การพูดคุยและทำงานร่วมกันกับสภาเมืองลอสแอนเจลิส 

และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง ‘เอแอลไอ เทคโนโลยี’ (A.L.I Technologies) บริษัทสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโดรน ได้เปิดตัวโฮเวอร์ไบค์ มอเตอร์ไซค์บินได้รุ่นเอ็กซ์ทูริสโม ลิมิเต็ด อิดิชั่น ในราคาคันละ 77.7 ล้านเยน (หรือราว 22.6 ล้านบาท) ที่ติดตั้งเครื่องยนต์แบบดั้งเดิมและมอเตอร์พลังงานแบตเตอรี่ 4 ตัว ซึ่งทำให้บินได้นานถึง 40 นาทีที่ความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

‘ไดสุเกะ คาตาโนะ’ ซีอีโอของ เอแอลไอ เทคโนโลยี เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ‘โฮเวอร์ไบค์’ มีลักษณะเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ที่ตั้งอยู่ด้านบนของใบพัดและมีฐานจอดอยู่ด้านล่าง บริษัทของเขา ซึ่งมีบริษัทมิตซูบิชิ อิเล็กทริคและเคียวเซรา สองบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นเป็นผู้สนับสนุน ได้สาธิตการนำโฮเวอร์ไบค์ขึ้นบินเป็นช่วงระยะทางสั้น ๆ เพียงไม่กี่เมตรที่สนามแข่งรถแห่งหนึ่งใกล้ภูเขาฟูจิ และยังระบุว่า ในช่วงแรก ๆ โฮเวอร์ไบค์จะถูกจำกัดการใช้งานในสถานที่บางแห่งเท่านั้น และจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำไปบินเหนือท้องถนนทั่วไปในญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี คาดว่าโฮเวอร์ไบค์อาจเป็นประโยชน์ต่อทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่เข้าถึงลำบาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย. นี้เอง แบรนด์รถ EV สัญชาติจีน ก็ได้รุกตลาดยุโรป เปิดตัวนวัตกรรมสุดว้าวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ โดย HT Aero บริษัทผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศในเขตเมือง หรือ (UAM : Urban air mobility) บริษัทในเครือ XPENG (เสี่ยวเผิง) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ได้นำโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ไปนำเสนอในงาน EUROPEAN ROTOR 2021 ที่จัดขึ้นในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่แรกที่เปิดตัวรถยนต์ดังกล่าว

โดย HT Aero ได้เริ่มพัฒนา "X2" ยานยนต์ 2 ที่นั่งที่สามารถเดินทางทั้งบนบกและอากาศตั้งแต่ปี 2013 ผ่านการทดสอบมาแล้วมากกว่า 15,000 ครั้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้มีการอัปเกรดคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ รวมถึงระบบควบคุมการบิน ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และระบบร่มชูชีพ ภายนอกมีลักษณะคล้ายรถซูเปอร์คาร์ แต่มีการติดตั้งใบพัดขนาดใหญ่ข้างตัวรถ ซึ่งสามารถพับเก็บได้โดยอัตโนมัติ และมีการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา บริษัทเผยว่ายานยนต์ดังกล่าวมีน้ำหนักอยู่ที่ 560 กิโลกรัม ยาว 4.97 เมตร กว้าง 4.78 เมตร สูง 1.36 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บินได้ในระดับความสูงไม่เกิน 1,000 เมตร

โดยขณะนี้ X2 ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนาและยังไม่วางจำหน่าย แต่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 นับว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของบริษัท XPENG ในยุโรป 

มาถึงวันนี้ รถบินได้ คงไม่ใช่นวัตกรรมที่ไกลเกินเอื้อมของมนุษย์อีกต่อไป เราเดินทางมากับจินตนาการที่จะมี ‘รถเหาะได้’ มานานนับศตวรรษ และคงเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะจินตนาการของมนุษย์นั้น มีพลังมหาศาลที่จะขับเคลื่อนโลกใบนี้เสมอ 

ซึ่งไม่ว่ามันจะล้ำหน้าขนาดไหน แต่หัวใจสำคัญของนวัตกรรมที่ดี คือ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม และทำให้สังคมเติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่เพียงตอบสนองต่อประโยชน์แค่กับคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใด ทรัพยากรที่ใช้ก็คือทรัพยากรที่เราใช้ร่วมกัน

ตามรอยพระบาทยาตรา ‘อีสานม่วนซื่น รื่นเริงลมหนาว’ | MEET THE STATES TIMES EP.42

???? ตามรอยพระบาทยาตรา!! “อีสานม่วนซื่น รื่นเริงลมหนาว เคล้าคลอเสียงแคน”
???? จากฟ้า สู่ดิน!! ถิ่นอีสานมีสุข...ตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 

???? ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

???? ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

‘คุณสมบัติ’ ประธาน กลุ่มอินเตอร์ลิ้งค์ฯ มอบรางวัลชนะเลิศ การแข่งขัน Cabling Contest ปีที่ 5

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน กลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงาน Cabling & Networking Contest #9 (การแข่งขันสุดยอดทักษะสายสัญญาณและเน็ตเวิร์ค ปีที่ 9) ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางมาถึงรอบสุดท้าย มุ่งหน้าสู่เส้นชัย โดยได้ค้นหาตัวแทนจากทั่วทุกภาค เพื่อเป็นการยกระดับและต่อยอดทักษะ เสริมสร้างความรู้ให้ก้าวไปสู่ระดับภูมิภาค

โดยผลการแข่งขัน ผู้ชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท และรองชนะเลิศ ได้รับถ้วยเกียรติยศจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี / รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ / รมว.กระทรวงอุดมศึกษาฯ / รมว.กระทรวงศึกษา และรมว.กระทรวงแรงงาน พร้อมเงินรางวัล 

 

‘แอมเนสตี้’ ชื่อนี้มีอะไร?! | MEET THE STATES TIMES EP.41

????‘แอมเนสตี้’ ชื่อนี้มีอะไร?!
????ล้วงลึก ‘แอมเนสตี้’ องค์กรเพื่อประโยชน์ส่วนรวม หรือ ประโยชน์ส่วนตน?

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

ชมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนใหม่ จ่อประมูลเฟส 2

นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส. ผู้บริหารโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เปิดเผยว่า ธพส. ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟส และได้มีการเตรียมตัวเพื่อเปิดประมูลงานก่อสร้างในเฟสที่ 2 โดยใช้ TOR ฉบับเดียวกันกับเฟสที่ 1 และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลการก่อสร้างจำนวนมากเช่นเดียวกันกับในเฟสที่ 1 


 
สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ 81 ไร่ ประกอบด้วย 4 อาคาร บนฐานรากเดียวกัน มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด 660,000 ตารางเมตร ซึ่งจะมีหน่วยงานราชการจำนวน 12 หน่วยงานย้ายเข้ามาใช้พื้นที่ เช่น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และศาลปกครองสูงสุด เป็นต้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับวัดเทพศิรินทราวาส  จัดโครงการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ  น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศวร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร  รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดโครงการ “ อุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ  เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙  เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาและวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๔  ณ วัดเทพศิรินทราวาส” ระหว่างวันที่ ๒๖ พ.ย.ถึง ๑๕ ธ.ค. ๒๕๖๔  โดยมีข้าราชตำรวจจากทั่วประเทศเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการ ฯ  จำนวน ๙๖ นาย 

ทั้งนี้  ในวันที่ ๑ ธ.ค.๒๕๖๔  ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ ถึง ๑๗.๓๐ น. จะมีการประกอบพิธีถวายราชสักการะและเจริญพระพุทธมนต์สมโภชนาคพิธีมอบบาตรและผ้าไตร ณ มณฑลพิธีลานพระศรีมหาโพธิ์ และพิธีบรรพชาและอุปสมบท  ณ พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส ภายหลังการอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วจะศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม ณ วัดโบสถ์  อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี    

การจัดโครงการอุปสมบทหมู่ ฯ ในครั้งนี้  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  มุ่งหวังเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙  รวมถึงเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้บำเพ็ญคุณงามความดี  ถือเป็นโอกาส ที่จะได้สร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และพัฒนาจิตใจ  อันจะก่อประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว และสังคมต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top