Thursday, 8 June 2023
LITE

‘ดีเจมดดำ’ โพสต์รูปคู่ ‘โอ๊ค พานทองแท้’ ย้อนวันวานยุค Y2K เผย เป็นรูปถ่ายจากเที่ยวทริปตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้ พิธีกรมากฝีมืออย่าง นายคชาภา ตันเจริญ หรือ ‘ดีเจมดดำ’ ได้ทำการโพสต์รูปถ่ายย้อนวัย ยุค Y2K ที่กำลังเป็นกระแสสุดฮิตในตอนนี้ ที่ถ่ายคู่กับ นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ ‘โอ๊ค’ ลูกชายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านโซเชียลเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม โดยระบุว่า…

‘สมัย y2k เนอะ รูปนี้ต้องลง @oak_ptt ได้ไปญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต’

หลังจากนั้น ได้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก และได้มีคนในครอบครัวชินวัตรอย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ ‘อุ๊งอิ๊ง’ น้องสาวคนสุดท้องของบ้านชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัว และหนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คอมเมนต์ในอินสตาแกรม ว่า ‘น่ารักอ่ะ❤️’

15 เมษายน พ.ศ. 2457 พิธีปล่อยเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช (ลำปัจจุบัน) ลงน้ำ ลำสร้างใหม่ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันกระทำพิธีปล่อยเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช (ลำปัจจุบัน) ลงน้ำ เป็นเรือพระที่นั่งสร้างใหม่ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เป็นเรือพระที่นั่งบัลลังก์ในขบวนพยุหยาตราชลมารค เป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง มีโขนเรือเป็นรูปพญานาค 7 เศียร ลงรักปิดทองทั้งลำ และประดับด้วยกระจก 

ลำปัจจุบันนี้มีการสร้างขึ้นใหม่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) แทนลำเดิม ซึ่งสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว (รัชกาลที่ 4)

ลำเรือภายนอกทาสีเขียว ลวดลายไม้จำหลักของเรือเป็นลายก้านขดปิดทองประดับกระจกสีเขียว ตลอดทั้งลำเรือยังประดับลวดลายพญานาคเคลื่อนไหวอย่างพลิ้วไหวและทรงพลังหันเศียรไปยังโขนเรือ สีพื้นภายนอกของเรือประดับกระจกสีน้ำเงินสื่อความหมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

14 เมษายน พ.ศ. 2418 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตราพระราชบัญญัติกรมพระคลังมหาสมบัติ

วันนี้ นอกจากจะเป็นวันครอบครัวแล้ว ในทางราชการ ยังเป็นวันครบรอบ 148 ปี การสถาปนา ‘กระทรวงการคลัง’ อีกด้วย โดยเริ่มต้นเมื่อในรัชสมัยรัชกาลที่ 5

ภายหลังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงขึ้นครองราชย์ ได้ทรงวางระเบียบและปรับปรุงแก้ไขการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2416 ทรงเริ่มทำการปฏิรูปการคลัง โดยโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์ เป็นที่ทำการของเจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติ สำหรับรวบรวมบัญชีเงินผลประโยชน์แผ่นดิน และตรวจตราการเก็บภาษีอากร

วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็น 'วันผู้สูงอายุแห่งชาติ' ร่วมแสดงความกตัญญูต่อญาติผู้ใหญ่

คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2525 อนุมัติให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปีให้เป็น 'วันผู้สูงอายุแห่งชาติ' เป็นวันที่ถูกผูกรวมไว้กับวันขึ้นปีใหม่ไทยหรือก็คือ 'วันสงกรานต์' เพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนทุกกลุ่มให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ และญาติผู้ใหญ่

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ตามศักยภาพของตนเองอย่างมีคุณค่าและมีศักดิ์ศรี ส่งเสริมการเรียนรู้และการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้สูงอายุ เพื่อให้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นหลักชัยของสังคมต่อไป

ชีวิตยังมีพรุ่งนี้... สำรวจการเงินเด็กยุคใหม่ หลังพบรายจ่ายสุดแสน 'น่าห่วง' สวนทาง!! 'เงินออม' ใต้ค่านิยม 'เน้นใช้-ไม่เน้นเก็บ-อยู่ไปวันๆ'

(13 เม.ย.66) เฟซบุ๊ก ‘GUNRATA’ ได้นำเสนอคอนเทนต์ในหัวข้อ 'การใช้เงินของเด็กในยุคนี้' โดยมี ‘กันต์ รตนาภรณ์’ เจ้าของธุรกิจ นักลงทุนในหุ้น-อสังหาริมทรัพยฺ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้ออกสัมภาษณ์เด็กหลายๆ คน ซึ่งเขาได้ตั้งคำถามกับเด็กกลุ่มหนึ่งว่า “อะไรที่เคยซื้อและมีมูลค่าแพงที่สุดในชีวิต?”
.
ในจำนวนเด็กๆ ที่ถูกสัมภาษณ์ได้ให้คำตอบที่แตกต่างกันไป เช่น IPhone 14 Promax ราคา 48,000 บาท,  บัตรคอนเสิร์ต ราคา 15,000 บาท และ IPad ราคา 30,000 บาท
 

‘พลอย เฌอมาลย์’ อวดลุค ‘อีกี้’ ผมรากไทร ชาวเน็ต-คนดัง ยกให้เป็น ‘ต้นแบบ-ผู้มาก่อนกาล’

เรียกได้ว่าทรงผม ‘อีกี้’ สก๊อยสาวจากมิวสิกวิดีโอ ‘ธาตุทองซาวด์’ ยังคงทำเอาบรรดาคนดังออกมาขุดรูปตนเองสมัยวัยรุ่น Y2K โพสต์ลงโซเชียลกันไม่หยุด

ล่าสุด ‘พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์’ ขอประกาศความเป็นตัวแม่ ตัวมัม ตัวมารดา ในฐานะ สารตั้งต้นผมทรงอีกี้ ที่มาก่อนกาล เพราะเรียกได้ว่าเจ้าตัวแทบจะเป็นคนแรกๆ ที่ตัดผมทรงดังกล่าว จนทำให้มีวัยรุ่นยุค Y2K แห่ตัดตามกันเพียบ จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตทรงผมรากไทรให้สาวๆ สมัยที่เซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ เคยรุ่งเรืองได้ตัดตาม

โดยเจ้าตัวได้เขียนแคปชันบ่งบอกความเป็นตัวมัมว่า “ตัวมัม ต้นแบบทรงผม อีกี้ 😎 สก๊อยเกิล ผู้มาก่อนกาล ในยุค Hi5 พิกัดเดินถือหวีอยู่ลานน้ำพุ Center point สยามแสควร์ #y2k #อดีตเคยแรง”

12 เมษายน พ.ศ. 1839 'พญามังราย' พระมหากษัตริย์แห่งล้านนา ทรงสถาปนากรุงเวียงเชียงใหม่

วันนี้ เมื่อ 727 ปีก่อน ‘พญามังราย’ พระมหากษัตริย์แห่งล้านนา ทรงสถาปนากรุงเวียงเชียงใหม่ (เชียงใหม่ในปัจจุบัน) เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา

‘พญามังราย’ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ทรงเริ่มต้นรวบรวมเมืองหรือแคว้นขนาดเล็กที่กระจัดกระจายและเป็นอิสระต่อกัน ให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนพัฒนาเป็นรัฐขนาดใหญ่ขึ้น โดยในระยะแรกพญามังรายทรงรวมแคว้นโยนกก่อน แล้วพยายามขยายอำนาจสู่หัวเมืองขนาดเล็กอื่น ๆ เป็นบริเวณกว้าง จากนั้นเริ่มขยายอำนาจสู่แคว้นหริภุญไชยที่มีความเจริญรุ่งเรืองในดินแดนแถบนี้

11 เมษายน พ.ศ. 2539 ‘นายแสงชัย สุนทรวัฒน์’ ถูกลอบสังหาร ปมขัดผลประโยชน์กลุ่มธุรกิจวิทยุ

วันนี้ เมื่อ 27 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่อ ‘แสงชัย สุนทรวัฒน์’ ผู้อำนวยการ อ.ส.ม.ท. ในขณะนั้น ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต ขณะขับรถกลับบ้าน

11 เมษายน พ.ศ. 2539 นายแสงชัย สุนทรวัฒน์ ผู้อำนวยการ องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) ถูกลอบสังหาร เพราะไปขัดผลประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจวิทยุ นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการในเวลานั้น จากผลการสอบสวนของตำรวจ ระบุว่า นางอุบล บุญญชโลธร เป็นผู้จ้างวานให้ นายทวี พุทธจันทร์ บุตรเขย ส่งมือปืนไปลอบสังหารนายแสงชัย ต่อมานางอุบลได้ถูกลอบสังหารเสียชีวิต คดีจึงยังคงเป็นปริศนาจนทุกวันนี้ ทั้งนี้ แสงชัยเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ อ.ส.ม.ท. เมื่อปี 2535 ในยุคที่ อ.ส.ม.ท. ยังมีลุ่มอิทธิพลมืดแฝงตัวอยู่ในองค์กร แต่เขาก็สามารถขจัดอิทธิพลเหล่านั้นได้สำเร็จ อีกทั้งยังบริหาร อ.ส.ม.ท. จนประสบความสำเร็จ 

10 เมษายน พ.ศ. 2455 ‘เรือไททานิค’ ออกเดินทางเที่ยวปฐมฤกษ์ ก่อนชนภูเขาน้ำแข็งอับปางในอีก 5 วันต่อมา

ในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) ไททานิค (RMS Titanic) เรือยักษ์ใหญ่ที่มีความหรูหรา ใหญ่โต และแข็งแรงที่สุดในต้นศตวรรษที่ 20 ขนาดที่คนเชื่อกันว่าเรือลำนี้ ‘ไม่มีวันอับปาง’ ได้ออกเดินทางเที่ยวปฐมฤกษ์จากท่าเรือเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ มุ่งหน้าสู่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 

หลังเดินทางออกจากเซาแธมป์ตันในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1912 ไททานิค แวะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่เมืองเชอร์บูร์ก ที่เชอร์บูร์ก (Cherbourg) ในฝรั่งเศส และควีนส์ทาวน์ (ปัจจุบันคือ โคฟ, Cobh) ในไอร์แลนด์ ก่อนมุ่งหน้าไปทางตะวันตกมุ่งสู่นิวยอร์ก วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 ห่างจากเซาแธมป์ตันไปทางใต้ราว 600 กิโลเมตร ไททานิค ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง การชนแฉลบทำให้แผ่นลำเรือไททานิค เกิดความเสียหาย น้ำได้ทะลักเข้าไปในเรือ แล้วได้เปิดห้องกั้นน้ำทั้งหมด แต่ทว่า ผนังกั้นน้ำชั้นที่ 4 ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้จากห้องเก็บถ่านหิน ทำให้ผนังกั้นน้ำชั้นที่ 4 ไม่สามารถทนทานแรงดันน้ำได้ จึงส่งผลให้น้ำทะลักเข้ามาภายในตัวเรือ

โดยน้ำค่อย ๆ ไหลเข้ามาในเรือและจมลง ผู้โดยสารและสมาชิกลูกเรือบางส่วนถูกอพยพในเรือชูชีพ โดยมีเรือชูชีพจำนวนมากถูกปล่อยลงน้ำไปทั้งที่ยังบรรทุกไม่เต็ม ผู้ชายจำนวนมาก กว่า 90% ในที่นั่งชั้นสอง ถูกทิ้งอยู่บนเรือ เพราะระเบียบ “ผู้หญิงและเด็กก่อน” ตามด้วยเจ้าหน้าที่ซึ่งบรรทุกเรือชูชีพนั้น ก่อน 2.20 น. เล็กน้อย ไททานิคแตกและจมลงโดยยังมีอีกกว่าพันคนอยู่บนเรือ คนที่อยู่ในน้ำเสียชีวิตภายในไม่กี่นาทีจากภาวะตัวเย็นเกิน (hypothermia) อันเกิดจากการแช่อยู่ในมหาสมุทรที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คน จากผู้โดยสารราว 2,300 คน เนื่องจากเรือมีเสื้อชูชีพไม่พอและมีเรือกู้ภัยเพียง 20 ลำ นับเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุทางเรือที่ร้ายแรงที่สุดของโลก

‘เฟอร์รารี่’ เปิดตัว ‘Ferrari Purosangue’ SUV 4 ประตู 4 ที่นั่ง ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 75 ปี เคาะราคาขายที่ 40.5 ล้านบาท

Ferrari Purosangue (พูโรซังกเว้) เป็นรถสปอร์ตแบบ 4 ประตูขนานแท้จากเฟอร์รารี่ โดยถือเป็นรถ 4 ประตู 4 ที่นั่งรุ่นแรกของประวัติศาสตร์ 75 ปี ของม้าลำพอง มาพร้อมเครื่องยนต์แบบวางกลางลำด้านหน้า และติดตั้งชุดเกียร์ไว้ด้านหลัง เพื่อให้ได้มาซึ่งเลย์เอาต์แบบรถสปอร์ต แตกต่างจากรถครอสโอเวอร์และเอสยูวีทั่วไปที่มักติดตั้งเครื่องยนต์เยื้องไปทางด้านหน้าจนเกือบคร่อมเพลาหน้า ส่งผลให้มีการกระจายน้ำหนักไม่เหมาะสม ขณะที่พูโรซังกเว้มีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังอยู่ที่ 49:51 ซึ่งวิศวกรแห่งมาราเนลโลเห็นพ้องว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำด้านหน้า

ชื่อ Purasangue ในภาษาอิตาลีแปลว่า ‘พันธุ์แท้’ มาพร้อมแชสซีซ์ที่ถูกออกแบบใหม่หมดจด ติดตั้งหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงของรถ และการออกแบบตัวถังใหม่ส่งผลให้สามารถติดตั้งประตูแบบบานพับอยู่ด้านหลัง (Welcome Doors) ทำให้สามารถเข้า-ออกรถได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ตัวรถยังมีขนาดกะทัดรัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ตัวถังภายนอกได้รับการออกแบบและขัดเกลาอย่างประณีตโดย Ferrari Styling Centre เพื่อให้เกิดรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ประกอบด้วยสองส่วนที่แยกออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนล่างของตัวรถเน้นไปทางเทคนิคบริเวณใต้ท้องรถ ขณะที่ตัวถังส่วนบนมีความน่าเกรงขามและสง่างาม โดยจุดนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงส่วนเว้าโค้งที่ดูรายกับลอยตัวอยู่เหนือซุ้มล้อทั้งสี่

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะไฟฟ้าแบบทำความร้อนได้ทั้ง 4 ที่นั่ง สามารถรองรับผู้ใหญ่ 4 คน ได้อย่างสะดวกสบาย ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟอร์รารี่เคยมีมา และเบาะหลังยังสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่ใส่สัมภาระได้ จากรูปแบบตัวตัวรถส่งผลให้ตำแหน่งการขับขี่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถได้เหนือกว่าเฟอร์รารี่รุ่นอื่นๆ แต่การจัดวางยังคงเป็นแบบเดียวกับเฟอร์รารี่ทุกคัน นั่นคือตำแหน่งการขับขี่ที่กระชับและใกล้กับพื้น เพื่อมอบความรู้สึกเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนไหวของรถ อีกทั้งยังสามารถเลือกออปชันเสริม เช่น เครื่องเสียง Burmester และหนัง Alcantara แบบใหม่ที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล เป็นต้น

Ferrari Purosangue ติดตั้งเครื่องยนต์ 12 สูบ ความจุ 6.5 ลิตร ไร้ระบบช่วยอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 725 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 716 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที โดยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของแรงบิดมีให้ใช้ที่รอบต่ำเพียง 2,100 รอบต่อนาที อีกทั้งบุคลิกการตอบสนองคันเร่งเป็นแบบเดียวกับรถสปอร์ตขนานแท้ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.3 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ในเวลา 10.6 วินาที

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ 8 จังหวะ F1-DCT คลัตช์น้ำมันคู่ ถูกปรับให้เหมาะสมผ่านการใช้ดรายซัมพ์และชุดคลัตช์ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าเดิม ช่วยลดความสูงได้ 15 มม. ขณะที่ประสิทธิภาพของชุดคลัตช์ใหม่เพิ่มสูงขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ รองรับแรงบิดขณะเปลี่ยนเกียร์ได้สูงถึง 1,200 นิวตัน-เมตร พร้อมชุดควบคุมแรงดันไฮดรอลิกเจเนอเรชันใหม่ช่วยให้เวลาในการปลดและจับคลัตช์เร็วกว่าเดิม ทำให้เวลารวมในการเปลี่ยนเกียร์ลดลงเมื่อเทียบกับเกียร์ DCT 7 จังหวะรุ่นก่อนหน้านี้

‘Soompi’ เผย เพลง LALISA ของ ‘ลิซ่า’ สร้างสถิติใหม่ ทะยานสู่ 600 ล้านวิว!! เร็วที่สุดในศิลปินหญิง K-POP

(9 เม.ย. 66) เรียกว่าฮอตเกินต้านสำหรับ ‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ศิลปินหญิงไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย เมื่อล่าสุดเว็บไซต์ Soompi ซึ่งเป็นสื่อเกาหลีใต้ได้รายงานข่าว ช่วง 01.30 น. ตามเวลาประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ว่า ‘LALISA’ เพลงโซโล่ของลิซ่าเป็นซิงเกิล มียอดวิวทะลุ 600 ล้านวิวได้เร็วที่สุดในศิลปินหญิง K-POP โดยมิวสิกวิดีโอเพลง ‘LALISA’ เปิดตัววันแรกเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 13.00 น. (ตามเวลาประเทศเกาหลีใต้)

9 เมษายน ของทุกปี เป็นวัน ‘กองทัพอากาศ’ ยกฐานะกรมทหารอากาศขึ้นเป็นกองทัพอากาศ

วันนี้ เมื่อ 102 ปีก่อน กระทรวงกลาโหม ได้ยกฐานะ ‘กรมทหารอากาศ’ ขึ้นเป็น ‘กองทัพอากาศ’ จึงถือเอาวันที่ 9 เมษายน ของทุกปี เป็นวันกองทัพอากาศ

ในปี พ.ศ.2464 กระทรวงกลาโหม ได้พิจารณาเห็นว่า กำลังทางอากาศ มิได้เป็นกำลังเฉพาะในด้าน ยุทธศาสตร์ทางทหารเท่านั้น แต่มีประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อกิจการด้านอื่น ๆ อีกด้วย จึงได้แก้ไขการเรียกชื่อจาก กรมอากาศยานทหารบกเป็น 'กรมอากาศยาน' และเป็น 'กรมทหารอากาศ' ในเวลาต่อมา โดยให้อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยตรง พร้อมทั้งได้มีการกำหนดยศทหาร และการเปลี่ยนแปลง เครื่องแบบจากสีเขียว มาเป็นสีเทา ดังเช่นในปัจจุบัน

ย้อนมอง ‘หาเสียง-สื่อประชาสัมพันธ์’ สมัยแรกของสยาม ท่ามกลางกุศโลบายสร้างสรรค์ ไม่ฟาดฟันกันด้วยอวิชชา

ในตอนที่ผมกำลังพิมพ์เรื่องราวนี้อยู่นั้น การรับสมัครผู้ที่ต้องการเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อนั้นก็คงได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกพรรคคงเดินหน้าในการหาเสียงกันเต็มรูปแบบ ผมก็เลยอยากมาเท้าความถึงเรื่องราวการหาเสียงเลือกตั้งในอดีตให้ทุกท่านได้นึกจินตนาการสักหน่อย 

ผมจะเล่าถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสยามเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2480 ในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 เพื่อเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 91 ที่นั่ง จาก 182 ส่วนอีกครึ่งนั้นมาจากการแต่งตั้งโดยคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบทางตรง คือผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกบุคคลหรือพรรคการเมืองได้โดยตรง 

แต่เวลานั้นยังไม่มีพรรคการเมืองครับ ผู้สมัครที่ลงรับเลือกตั้งจึงเป็นผู้สมัครอิสระ สำหรับ ส.ส. ก่อนหน้าการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2480 นั้น มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม ซึ่งผู้มีสิทธิลงคะแนนจะเลือกผู้แทนตำบลเพื่อให้ไปเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อหนึ่ง เพราะประชาชนยังอ่านออกเขียนได้มีจำนวนไม่มากนัก และ ส.ส. ชุดเลือกทางอ้อมนั้นได้พ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาเป็นผู้แทนประเภทที่ 2 ด้วยการแต่งตั้ง เอาน่ะ ยุคนั้นราษฎรยังไม่เยอะ พวกผู้แทนที่กลับมาเป็นอีกมีความจำเป็น (หลัก ๆ ก็ก๊วนคณะราษฎรนั่นแหละ) 

แต่วัฒนธรรมหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในยุคแรกเริ่มเลือกตั้งแห่งสยามนี้คือการหาเสียงแบบ ‘เคาะประตูบ้าน’ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ผมว่าเป็นการหาเสียงสุดคลาสสิกที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เพราะการเลือกตั้งในยุคนั้นต้องอาศัยการรู้จักหน้าตาของผู้สมัคร ยิ่งถ้าผู้สมัครรู้จักเข้าหาผู้นำหรือผู้ที่ได้รับความนับถือในสังคม ที่ปัจจุบันก็คือ ‘หัวคะแนน’ (มีมาตั้งแต่สมัยนั้น) อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครูจากเมืองหลวง ตลอดจนพระสงฆ์ ก็ย่อมมีสิทธิ์ได้รับเลือก อันนี้คือการหาเสียงทางตรงซึ่งมักถูกนักเลือกตั้งรุ่นใหม่ดูถูกเหยียดหยาม ว่าช่างโบราณได้รับเลือกมาก็เป็นแค่ ‘ผู้แทนตลาดล่าง’ แต่ผมว่าเอาเข้าจริงการหาเสียงในรูปแบบนี้ยังใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย ขนาดที่พรรคการเมืองที่ว่ารุ่นใหม่บางพรรคยังต้องยอมศิโรราบ ‘การเคาะประตูและการใช้หัวคะแนน’ กลืนน้ำลายตัวเองตั้งแต่ยังไม่ได้รับเลือกตั้ง อันนี้ก็งง งงดี 

ส่วนอีกเรื่องที่น่าสนใจในยุคการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2480 ก็คือการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ที่เรียกว่า ‘โปสเตอร์’ ผมว่าอันนี้น่าสนใจเพราะเขาใช้สื่อชนิดนี้ด้วยความสร้างสรรค์ สร้างคอนเทนต์กันสุดฤทธิ์ โดยเน้นการโฆษณาว่าตนเป็นใคร เก่งแบบไหน ใส่นโยบายกันสุดลิ่มทิ่มประตู ยกตัวอย่างให้อ่านดังนี้...

เลือกให้ นายชอ้อน อำพล เป็นผู้แทนดีกว่า นายชอ้อน อำพล บรรณาธิการ ‘สยามรีวิว’ เมื่อได้เป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการแล้ว จะฟันฝ่าชาวสมุทรปราการเป็นลูกเมียหลวงให้ได้ จะไม่ต้องได้รับความลำบากอย่างที่ท่านเห็นอยู่เดี๋ยวนี้ ถ้าเขาได้เป็นผู้แทนมาแต่แรกแล้ว สมุทรปราการและพระประแดงจะไม่เป็นเช่นนี้เลย....ปิดท้ายด้วย....ท่านจะเห็นว่า นายชอ้อน อำพล ช่วยท่านจริงก็ต่อเมื่อท่านได้ ให้เขาเป็นผู้แทนในวันเลือก...

...เอากับเขาสิ อยากใช้ผมก็เลือกผม อะไรประมาณนั้น

หรืออย่างเช่น...ทองหล่อ บุณยนิตย์ เนติบัณฑิต ทนายความ พูดจริง ทำจริง มนตรีนครธนบุรี...ศรีกรุง ฉบับวันที่ 1 เมษายน พุทธศักราช 2480 ว่า นายทองหล่อ บุณยนิตย์ เนติบัณฑิตอัยการผู้นี้นับว่าเป็นผู้มีความรู้ในทางกฎหมายและการเมืองทั้งเป็นผู้ที่มีใจเป็นกุศล.... 

หรือจะเป็นอย่าง...โปสเตอร์ของขุนพิเคราะห์คดี....รักชาติ, ถิ่น, ฐาน, รักบ้าน, รักเรือน ก็อย่าให้ได้ชื่อว่าขายชาติ อย่าเชื่อคำยุยงส่งเสริมฯ ของเขาเราจะเสียแนวไก่ต่อ (ไก่ต่อไปซะอย่างนั้น)...

บ้างก็วางนโนบายเป็นข้อ ๆ แบบของ นายพันตรีหลวงขจรกลางสนาม ที่ระบุนโยบายเป็นคำคล้องกันดังนี้...ข่าวสาส์นการเดิน...เหินห่างโจรภัย...ไม่เสียเวลาไปศาล...สมานสามัคคี...มีที่พึ่ง...ปิดท้ายอีก 3 เรื่องจากหลวงขจรฯ คือ... พ้นความยากจน...มีคนรักษา...วิชาความรู้....หลัก ๆ พออ่านจบผมก็อดอมยิ้มไม่ได้ เพราะมันช่างสนุกสนานจริง ๆ ‘โปสเตอร์’ หาเสียงยุค พ.ศ. 2480

แต่ถึงกระนั้นแผ่นปิดเหล่านี้ก็ไม่ได้โจมตีใครอย่างเอิกเกริก และไม่มีการกลั่นแกล้งกันอย่างจริงจัง เป็นสีสันแห่งการเลือกตั้งอย่างแท้จริง ผิดกับยุคนี้ที่การทำสื่อเลือกตั้ง เน้นให้มีจำนวนมาก เน้นให้ได้เปรียบคนอื่น เน้นบังป้ายคนอื่นจนกระทั่งไม่สนใจว่าจะบดบังทัศนวิสัยหรือไม่ รวมไปถึงบางป้ายที่ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ออกมาตั้งกันอย่างน่าประหลาด อย่างป้ายสีแดงของโครงการหมู่บ้านแคนดิเดตผู้นำก็ตั้งบังชาวบ้าน เยอะยิ่งกว่าป้ายหาเสียงเสียอีก อันนี้หยอกนะครับ เพราะน่าจะไปแก้ไขกันแล้ว มั้งนะ !!! 

8 เมษายน พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงร่วมพิธีเปิด ‘สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1’

วันนี้ เมื่อ 29 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงร่วมพิธีเปิด ‘สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1’   สะพานข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่แห่งแรก ที่เชื่อมต่ออำเภอเมืองหนองคายกับบ้านท่านาแล้ง สปป.ลาว

สะพานแห่งนี้ถือได้ว่า เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย - ออสเตรเลีย - ลาว  แนวคิดในการสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศมีมาตั้งแต่ปี 2499  จนกระทั่ง พ.ศ. 2531  พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้นได้เดินทางไปเยือน สปป. ลาว ผู้นำคณะรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมตกลงในหลักการให้มีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเพื่อเชื่อมหนองคาย-เวียงจันทน์ ต่อมา พ.ศ. 2532 นายโรเบิร์ต ฮอว์ค นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในขณะนั้น เดินทางมาเยือนประเทศไทย และออกแถลงการณ์ในนามรัฐบาลออสเตรเลียที่จะสนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าก่อสร้างสะพานผ่านความร่วมมือระหว่างผู้แทนจากไทยและลาว

7 เมษายน พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก โดยเรือพระที่นั่งมหาจักรี

วันนี้ เมื่อ 126 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปเป็นครั้งแรก โดยเรือพระที่นั่งมหาจักรี เพื่อทอดพระเนตรการปกครองของอารยประเทศ รวมเวลา 7 เดือน

การเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 1 การเสด็จประพาสแบบส่วนพระองค์ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นการแสดงให้บรรดาประเทศมหาอำนาจในยุโรปเห็นว่าสยามมิได้ล้าหลังและป่าเถื่อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top