Tuesday, 23 April 2024
LITE

เปิดประวัติ ‘หลิน มาลิน’ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 แซ่บไม่ธรรมดา ดีกรี CEO โปรไฟล์ อินฟลูเอนเซอร์ ด้านความงาม-แฟชั่น

(7 เม.ย.67) สิ้นสุดการรอคอยสำหรับค่ำคืนรอบไฟนอล เวทีการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 (Miss Grand Thailand 2024) พร้อมกับสาวงามผู้ครองมงกุฏคนใหม่ มิสแกรนด์ภูเก็ต “หลิน มาลิน ชระอนันต์” เจ้าของตำนาน สวย เผ็ด แซ่บ สยบครหานางงามตัวเล็ก ก็มงได้!

วันนี้ THE STATES TIMES จะขอพาทุกท่านไปรู้จัก ‘หลิน มาลิน’ นางงามครบเครื่อง สวยเก่งรอบด้าน โปรไฟล์ไม่ธรรมดา ระดับ CEO สาว

ชื่อ-นามสกุล : มาลิน ชระอนันต์
ชื่อเล่น : หลิน
วันเกิด : 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2539

เชื้อชาติ : ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์
อายุ : 27 ปี
ส่วนสูง : 165 ซม.
สัดส่วน : 32-24-35
การศึกษา : ปริญญาตรี การสื่อสารและสื่อมวลชน ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

IG : malinmln

ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการนางงาม ‘หลิน มาลิน’ เป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลอยู่บ้างแล้ว เนื่องจากเธอเป็น อินฟลูเอนเซอร์ เกี่ยวกับความงามและแฟชั่น มักจะรีวิวเครื่องสำอาง เสื้อผ้าอยู่บ่อย ๆ ที่สำคัญยังมีธุรกิจส่วนตัว มีดีกรีเป็นถึง CEO ของแบรนด์ Skinboss Thailand

กระทั่งเริ่มต้นประกวดนางงามบนเวทีมิสแกรนด์ภูเก็ต 2024 เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งเธอยังครองตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนบนเวทีนี้อีกด้วยนับว่าเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดที่น่าจับตามองบนเวที มิสแกรนด์ 2024 เลยทีเดียว

ทั้งนี้เมื่อลงสนามใหญ่ สาวหลิน มาลิน ก็ไม่เคยกลัวใคร ไม่สนดราม่า จัดเต็มความแซ่บ สร้างความฮือฮาตั้งแต่เข้ากองวันแรก ในชุดบาบ๋าย่าหยา ชูป้ายทวงคืนความยุติธรรมให้หมอภูเก็ตถูกฝรั่งสวิสฯทำร้ายร่างกาย

และอีกชุดที่เป็นกระแสวิจารณ์สนั่นในโลกโซเชียล คือ ชุดเว้าสูงระดับตำนาน ซึ่งเธอก็สามารถฝ่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโลกโซเชียล และพิสูจน์ตัวเองด้วยความสามารถ และศักยภาพที่มี จนได้เป็นสาวงามที่เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายด้วย Boss’s Choice

ทั้งนี้ หลิน มาลิน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 จะเป็นตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยเข้าร่วมประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 ณ ประเทศเมียนมาร์ ในเดือนตุลาคมนี้

7 เมษายน พ.ศ. 2562 ‘ในหลวง ร.10’ ทรงพระบรมราโชวาทแก่บัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์ “ขอให้นำความรู้ที่เรียนมา ใช้เป็นพื้นฐานในการปฏิบัติงานเพื่อตนเอง-ส่วนรวม”

เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2560 ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขตพระนคร  กรุงเทพมหานคร เป็นวันที่ 1

ทั้งนี้ ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระบรมราโชวาท โดยมีความว่า “ขอให้บัณฑิต นำวิชาความรู้ที่เรียนมานั้น นำไปใช้เป็นพื้นฐานในการปฏิบัติงานเพื่อตนเองและส่วนรวม โดยใช้สติปัญญา ตลอดจนเมตตาธรรม และความตั้งใจที่ดี เพื่อนำไปสู่ความเจริญของประเทศชาติและประชาชน ตลอดจนตนเองได้ต่อไป”

ขับ ‘Mitsubishi Xpander Cross HEV’ ลุย ‘บางแสนโทชิน’ สัมผัสบรรยากาศ ‘แดนอาทิตย์อุทัย’ ที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

(6 เม.ย.67) วันหยุดสุดสัปดาห์ ในบรรยากาศ ที่แสนจะร้อนระอุแบบนี้ หลาย ๆ ท่านก็คงจะนึกถึง การไปพักผ่อนท่องเที่ยวที่ต่างจังหวัด และหน้าร้อนเดือนเมษายน แบบนี้ สถานที่สุดฮิตก็คงจะหนีไม่พ้น การไปเล่นน้ำที่ทะเล

ทรายสวย น้ำทะเลใส อยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพฯ ‘หาดบางแสน’ ก็คงจะตอบโจทย์นี้ได้ดี!!

วันนี้ THE STATES TIMES จะขอพาทุกท่าน ขับรถ  Mitsubishi Xpander Cross HEV รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ MPVรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย มิตซูบิชิ ไปเที่ยวที่บางแสน โดยจะขอนำเสนอ ไอเทมลับ กับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในบางแสน ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

‘บางแสนโทชิน’ ที่นี่เป็นแหล่งร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่งจะเปิดใหม่ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วนี่เอง ภายในเต็มไปด้วยร้านอาหารทั้งคาว-หวาน คาเฟ่ ขนม และเครื่องดื่มให้เลือกเพียบ และที่สำคัญ มีมุมสวย ๆ เอาไว้ถ่ายรูปเล่นอีกเพียบ ยิ่งถ้าแต่งตัวมาให้เข้ากับธีมสถานที่ด้วยแล้ว รูปที่ได้ขอบอกเลยว่า สวยมาก ๆ

อีกหนึ่งเมนูเด็ด ดับร้อน ที่ตอนนี้มีจำหน่ายที่นี่ นั่นก็คือ ‘น้ำมะยงชิดปั่น’ ซึ่งจะมีขายในเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เพราะมะยงชิดนั้น เป็นผลไม้หายาก ซึ่งจะออกลูกออกผลตามฤดูกาลเท่านั้น และมันก็ออกมาได้จังหวะพอดี ตรงกับช่วงนี้ ที่ประเทศไทยร้อนถึงร้อนมาก การมาที่นี่แล้วได้ ดูดน้ำมะยงชิดปั่น เรียกได้ว่า คุ้มค่าการมาเที่ยวจริง ๆ ท่านใดที่อยากจะมาลองชิม สามารถมาได้ทุกวัน  ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.

จากการที่ได้ มาเที่ยวที่นี่ บอกได้เลยว่าใกล้มาก ระยะทางจากกรุงเทพฯ ก็ประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาก็ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ขับรถในระยะทางที่ใกล้ แต่ได้สัมผัสกับบรรยากาศกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น คือถ้าเผลองีบหลับไปในรถ ตื่นมาอีกที อาจจะคิดว่า นั่งรถมาถึงประเทศญี่ปุ่นเลยก็ได้

และด้วยฟีลลิ่งในการขับรถ Mitsubishi Xpander Cross HEV ที่มีสมรรถนะดี ทำให้ขับได้อย่างสบายไม่เหนื่อย ไม่เมื่อยล้า ภายในห้องโดยสารนั้น ก็มีการเก็บเสียงที่ดีมาก ทำให้ได้สัมผัสกับความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว ในขณะที่ขับรถอยู่บนท้องถนน และรถคันนี้ ก็มีโหมดการขับขี่มาให้ทั้งหมด 7 รูปแบบ ซึ่งทั้ง 7 โหมดนี้ ผ่านการออกแบบ และทดสอบมากมาย หลายขั้นตอน เพื่อจะปรับจูนให้เหมาะสมกับถนนในประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งการเปลี่ยนโหมดนั้น ก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องจอดรถเพื่อเปลี่ยนโหมด ไม่มีความยุ่งยากใด ๆ ทั้งสิ้น แต่โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว คิดว่าโหมด normal ซึ่งจะขึ้นมาให้อัตโนมัติในทุกครั้งที่สตาร์ตเครื่อง ก็เป็นโหมดที่ดีที่สุดอยู่แล้ว โดยที่เราไม่ต้องปรับเปลี่ยนใด ๆ เลย เจ้ารถคันนี้มันฉลาดมาก เรามีหน้าที่แค่เพียงขับให้ปลอดภัยเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ระบบคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าของรถ มันจะคิดให้เราเอง ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการขับรถได้อย่างสบายใจ และถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย

6 เมษายน พ.ศ. 2325 ‘ในหลวง ร.1’ เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พร้อมก่อสร้างพระนครแห่งใหม่ในนาม ‘กรุงเทพมหานคร’ เมืองหลวงปัจจุบัน

วันจักรี (Chakri Memorial Day) ตรงกับวันที่ 6 เมษายนของทุกปี อันเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และเป็นวันครบรอบการก่อตั้งราชวงศ์จักรี ในวันนี้จึงถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่พวกเราชาวไทยควรให้ความระลึกถึง กว่าจะมาเป็นสยามได้ในทุกวันนี้

ทั้งนี้ วันจักรี (Chakri Memorial Day) คือ วันที่ระลึกถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ เป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี อีกทั้งยังเริ่มก่อสร้างพระนครแห่งใหม่ในนาม ‘กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์’ ที่นับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ถัดจากกรุงธนบุรี ซึ่งเมื่อครั้งที่กรุงธนบุรีเป็นราชธานีนั้น มีอาณาบริเวณรวมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เป็นเมืองหลวงที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเปลี่ยนนามใหม่ จาก ‘กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์’ เป็น ‘กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์’ ซึ่งช่วงเวลาตั้งแต่ก่อตั้งกรุงเทพมหานครฯ เมื่อปี พ.ศ. 2325 มักเรียกกันว่า สมัยรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกันกับที่เคยเรียกยุคสมัยที่ผ่านมาในสยาม โดยพระเจ้าแผ่นดินในสมัยรัตนโกสินทร์นี้ได้สืบสันตติวงศ์ต่อเนื่องกันมาในราชวงศ์เดียวกันจนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 10 รัชกาล

จากบันทึกตามประวัติศาสตร์ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปของบูรพมหากษัตริย์ 4 พระองค์ (รัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 4) ขึ้นประดิษฐานเอาไว้สำหรับให้พระมหากษัตริย์พระองค์ต่อ ๆ ไป ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปได้ถวายความเคารพสักการะ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละหนึ่งครั้ง และได้โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนสถานที่ประดิษฐานหลายต่อหลายครั้ง
จนมาถึงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระองค์ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนย้ายพระบรมรูปของบูรพมหากษัตริย์ 4 พระองค์มาไว้ ณ ปราสาทเทพบิดร ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 พระชนกชาถ ซึ่งพระที่นั่งสำหรับประดิษฐานพระบรมรูปองค์นี้ รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้ซ่อมแซมจากพุทธปรางค์ปราสาทเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และได้พระราชทานพระนามว่า ปราสาทเทพบิดร โดยได้มีการซ่อมแซมและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง 5 รัชกาลแล้วเสร็จในเดือนเมษายน พ.ศ. 2461 จากนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูปขึ้นในวันที่ 6 เมษายนปีเดียวกัน อีกทั้งยังโปรดให้เรียกวันที่ 6 เมษายนนี้ว่า วันจักรี

นอกจากนั้น ในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งเป็นวันจักรีของทุกปี รัฐบาลยังได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ แต่หากในปีใดที่วันจักรีตรงกับวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ก็ให้หยุดชดเชยได้ในวันทำการวันต่อไป

‘เจ้านาย-เจ้าขุน’ ยื่นเอกสารผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เหตุเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน ขอเลื่อนไปปีหน้า

(5 เม.ย.67) ที่วัดพระยาสุเรนท์ ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2567 ได้มีชายไทยที่รายชื่อและอายุครบเกณฑ์ เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการเป็นจำนวนมาก และมีรายชื่อบุคคลบันเทิงคือ เจ้านาย จินเจษฎ์ อายุ 22 ปี และ เจ้าขุน จักรภัทร อายุ 20 ปี ลูกชายคนโตและคนรองของ นักร้องตัวพ่อ เจ เจตริน และนักแสดงมากมือ ปิ่น เก็จมณี โดยปีนี้ เจ้าขุน ที่ต้องเข้ารับตรวจเลือกทหารกองเกินในปีนี้เป็นปีแรก เดินทางมาถึงหน่วยคัดเลือกในเวลา 07:30 น. พร้อมยื่นเอกสารผ่อนผันต่อเจ้าหน้าที่ เป็นเอกสารทางการแพทย์ที่ระบุว่าเจ้าตัวเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนที่ต้องกายภาพบำบัดในอีก 3 เดือน

ต่อมา นพ.ศรุต พึ่งปรีดา แพทย์ประจำจุดตรวจเลือก เผยกับทีมข่าวว่า เจ้าขุนได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ โดยระบุว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนที่ต้องกายภาพบำบัดในอีก 3 เดือน เข้าข่ายเป็นคนจำพวกที่ 3 คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้เพราะป่วยซึ่งจะบำบัดให้หายภายในกำหนด 30 วันไม่ได้ ดังนั้นต้องเข้ากระบวนการตรวจเลือกทหารอีกครั้งในปีถัดไป ขณะที่ เจ้าขุน เปิดใจว่า “เข้ามาเกณฑ์ทหารครั้งแรก ไม่ได้ตื่นเต้นแต่เป็นตื่นเช้า ทำใจสบาย ๆ ไม่ได้กังวลอะไร ครั้งนี้มายื่นเอกสารทางการแพทย์เพราะป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูก รักษาไม่ทันภายใน 1 เดือน จึงจำเป็นได้มาอีกทีในปีหน้า มองว่าการเกณฑ์ทหารมันคือหน้าที่ของผู้ชายทุกคน”

ต่อมาเวลา 08.15 เจ้านาย ที่ต้องเข้ารับตรวจเลือกทหารกองเกินเป็นครั้งที่ 3 หลังจากผ่อนผันเนื่องจากติดเรียนไปแล้ว 2 ครั้ง เดินทางมายื่นเอกสารผ่อนผันต่อเจ้าหน้าที่ ด้วยเอกสารทางการแพทย์ระบุว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน เช่นเดียวกันกับ ‘เจ้าขุน’ ที่ต้องกายภาพบำบัดมากกว่า 1 เดือน เช่นเดียวกับน้องชาย ซึ่งเป็นการยื่นเอกสารทางการแพทย์เป็นครั้งแรกของ เจ้านาย หลังเสร็จสิ้นการยื่นเอกสาร เจ้าตัวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ใด ๆ บอกกับทีมข่าวเพียงสั้น ๆ ว่าเดี๋ยวปีหน้ามาใหม่

ขณะที่ นพ.ศรุต พึ่งปรีดา แพทย์ประจำจุดตรวจ เผยกับทีมข่าวว่า เจ้านายได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ซึ่งคาดว่าจะยื่นเป็นครั้งแรก โดยระบุว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน เช่นเดียวกันกับ ‘เจ้าขุน’ ที่ต้องกายภาพบำบัดมากกว่า 1 เดือน เข้าข่ายเป็นคนจำพวกที่ 3 คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้เพราะป่วยซึ่งจะบำบัดให้หายภายในกำหนด 30 วันไม่ได้ ดังนั้นต้องเข้ากระบวนการตรวจเลือกทหารอีกครั้งในปีถัดไป ก่อนจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหากมีอาการป่วยเช่นนี้ และผ่อนผันด้วยปัญหาสุขภาพต่อเนื่องกัน 3 ปี บุคคลนั้นจะเข้าข่าย คนจำพวกที่ 4 ผู้ซึ่งเป็นคนพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคซึ่งไม่สามารถจะรับราชการได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 74 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497

‘โดนัท’ นักแสดงวัยรุ่น ขอทำหน้าที่ลูกผู้ชายรับใช้ชาติ ยืดอก!! ‘สมัครทหาร’ พร้อมลั่น!! รู้สึกภูมิใจมาก

(5 เม.ย.67) ที่หอประชุมอำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ นายภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์ หรือ โดนัท อายุ 25 ปี นักแสดงช่อง 7 สมัครเข้ารับราชการทหาร โดยติดหมายเลขที่ข้อมือซ้าย 286 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติ สภาพร่างกาย วัดความสูง และหน้าอก ก่อนผ่านการคัดเลือก ซึ่งมี นางวาสนา เดชพงษ์วรานนท์ มารดา มาให้กำลังใจ

ทั้งนี้ นายภัทรพลฒ์ จะเข้ารับราชการทหาร ผลัดที่ 1 ปี 2567 ณ มณฑลทหารบกที่ 33 วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 โดยใช้เวลาสมัครทหารกว่า 1 ชั่วโมง

โดย โดนัท ภัทรพลฒ์ เผยหลังสมัครเข้ารับราชการทหาร ว่า ขอทำหน้าที่ลูกผู้ชาย เพราะทำภารกิจครบทุกอย่างแล้ว ทั้งบวช และรับใช้ชาติ ซึ่งเข้าประจำการผลัดที่ 1/2567 มณฑลทหารบกที่ 33 วันที่ 1 พฤษภาคมนี้

แต่ยังไม่รู้ว่าอยู่ค่ายไหน ต้องรอคำสั่งก่อน ส่วนตัวไม่รู้สึกกังวลอะไร เพราะเป็นคนปรับตัวง่าย ทำงานตั้งแต่เด็กและทำหลายที่มาก ดังนั้นการเป็นทหาร ถือเป็นการรับใช้ชาติ รู้สึกภาคภูมิใจมาก

ก่อนสมัครทหาร ได้เคลียร์งานหมดแล้ว ส่วนงานละครได้ปิดกล้องถ่ายทำ 2 เรื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จึงไม่ห่วงอะไร การเป็นทหารคาดหวังได้ระเบียบวินัยและความรับผิดชอบมากขึ้น ส่วนแฟนละครหรือแฟนคลับฝากผลงานแสดงที่จะออกอากาศหรือออนแอร์ในเร็ว ๆ นี้ ไม่ได้หายจากหน้าจอไปไหน แป๊บเดียวก็ออกมาแล้ว

ด้าน นางวาสนา กล่าวว่า ลูกได้เป็นทหารสมความตั้งใจ อยากให้เป็นทหารอยู่แล้ว ตอนนั้นลูกขอเรียน ร.ด. แต่บอกลูกไม่ต้องเรียน เพราะกระทบอาชีพนักแสดง มาเป็นทหารทีเดียวเลย ส่วนตัวไม่ห่วงกังวลอะไรและมั่นใจในตัวลูก เลี้ยงลูกไม่ได้ประคบประหงม รู้จักปรับตัว อ่อนน้อมถ่อมตน อยู่ที่ไหนก็ได้ ลูกเป็นทหาร คาดหวังเรื่องความเป็นระเบียบวินัย และการรับใช้ชาติมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเกณฑ์ทหารที่อำเภอหางดง ประกอบด้วย 109 หมู่บ้าน 11 ตำบล คือ ต.หางดง ต.หนองแก๋ว ต.หารแก้ว ต.ขุนคง ต.หนองตอง ต.สบแม่ข่า ต.บ้านแหวนต.สันผักหวาน ต.หนองควาย ต.บ้านปง และ ต.น้ำแพร่ ตามลำดับ

เบื้องต้นมีผู้เข้ารับเกณฑ์ทหารกว่า 200 คน โดยคัดเลือกเป็นทหาร 56 คนและมีผู้สมัครใจเป็นทหารกว่า 20 คนแล้ว ที่เหลือต้องจับใบดำใบแดงต่อไป 

5 เมษายน วันคล้ายวันประสูติ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประสูติแต่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2494 เวลา 23.28 น. ณ โรงพยาบาลมองชัวซีส์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้เสด็จนิวัตพระนคร แล้วประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และเมื่อถึงงานพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่แล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอิสริยยศเมื่อประสูติว่า ‘สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ โดยพระนามของพระองค์มาจากพระนามและนามของพระประยูรญาติหลายพระองค์ อันได้แก่

- สร้อยพระนาม ‘สิริ’ มาจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
- สร้อยพระนาม ‘วัฒนา’ มาจากพระนามาภิไธยเดิมของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า คือ สว่างวัฒนา
- พระนาม ‘อุบลรัตน’ มีความหมายว่า บัวแก้ว มาจากนามของหม่อมหลวงบัว กิติยากร

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตรัสเรียกว่า ‘เป้’ อันเป็นคำลดรูปของคำว่า ลาปูเป (ฝรั่งเศส: La Poupée ตุ๊กตา) ส่วนพระราชวงศ์และบุคคลอื่น ๆ จะเรียกพระองค์ว่า ‘ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงใหญ่’ ส่วนพระอนุชาและพระขนิษฐาจะเรียกพระองค์ว่า ‘พี่หญิง’

พระองค์ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการในด้านการรณรงค์ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดจนเป็นที่ประจักษ์ ทรงให้การช่วยเหลือราษฎร และให้โอกาสผู้พิการ เยาวชน ตลอดจนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่า งๆ อีกทั้งยังทรงแสดงภาพยนตร์ตามบทพระนิพนธ์หลายเรื่อง รวมทั้งทรงเป็นผู้ดำเนินรายการที่เป็นประโยชน์แก่สังคมด้วย

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้น ในวาระวันคล้ายวันประสูติ ประชาชนชาวไทยจึงขอน้อมถวายพระพร ขอทรงมีพลานามัยแข็งแรงยิ่งยืนนาน ทรงพระเจริญ

‘หงา คาราวาน’ ชี้!! ‘แกงไตปลา’ มีลักษณะพิเศษทางวัฒนธรรม ลั่น!! กรรมการคงไม่เข้าใจ หลังถูกจัดให้อยู่อันดับ 1 เมนูยอดแย่

(4 เม.ย. 67) จากกรณีที่เว็บไซต์ TasteAtlas ออกมาเปิดเผยการจัดอันดับ 100 เมนูยอดแย่ของโลก งานนี้ทำอึ้ง เมนู ‘แกงไตปลา’ ของประเทศไทย ได้อันดับ 1 เมนูยอดแย่จากทั่วโลก

ทำเอาชาวไทยออกมาเคลื่อนไหว วิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีดังกล่าว ทั้งแซวขบขัน ไปจนถึงการยกมาตรฐานการจัดอันดับมาถกกันเลยทีเดียว

งานนี้ ศิลปินแห่งชาติ สุรชัย จันทิมาธร หรือ ‘น้าหงา คาราวาน’ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘สุรชัย จันทิมาธร’ ระบุว่า

“แกงไตปลา มีลักษณะพิเศษทางวัฒนธรรม รสชาติปรุงแต่งที่มีเสน่ห์ล้ำลึก และวิธีการกินที่ต้องสอดคล้อง ผมคิดว่ากรรมการคงไม่มีความเข้าใจเรื่องนี้ ใครวะส่งประกวด”

เมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลทันที มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ

- ตัดสินกันแบบนี้ ปลาร้าก็คงไม่รอด
- ได้ทั้งข้าว ทั้งขนมจีน
- อาหารใต้ อร่อยจริง ๆ
- ที่สุดของอาหารใต้ครับน้า
- ฝรั่งไม่ชอบเผ็ดมั้ง
- ความแปลกแยก
- เห็นด้วยครับ

‘พี่จอง-คัลแลน’ ยกให้ ‘แกงไตปลา’ เป็นเมนูยอดเยี่ยม พร้อมบอกรสชาติ!! ต้อง ‘เผ็ดๆ - เค็มๆ’ ถึงจะอร่อย

(4 เม.ย. 67) หลังจากที่เมนู ‘แกงไตปลา’ ถูกจัดให้เป็นเมนูอาหารยอดแย่อันดับ 1 ของโลก โดย TaseAtlas ทำให้มีชาวเน็ตหลายเสียงออกมาโต้กลับในทันที รวมถึงคลิปล่าสุดของ ‘คัลแลน-พี่จอง’ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ก็ได้พูดเกี่ยวกับเมนูนี้ว่า เป็นเมนูที่ทั้งคู่ชอบมาก ๆ ด้วย

โดยคลิปล่าสุดของช่อง ‘คัลแลน-พี่จอง’ สองยูทูบเบอร์เกาหลีชื่อดังที่เพิ่งลงไปเมื่อช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในตอนที่ชื่อว่า ‘เรามาถึงเกาะเต่าแล้วครับ... | ชุมพร Day 2’ ที่เป็นการพามาเที่ยวพักโฮมสเตย์กับชาวบ้านในพื้นที่ และทำได้กิจกรรมตกหมึก ตกปลา

และพอถึงช่วงเวลากินอาหารเย็นทั้งคัลแลนและพี่จองได้มีการเอ่ยปากถามถึงเมนู ‘แกงไตปลา’ พร้อมบอกว่าเป็นเมนูที่ชอบกิน และต้องกินแบบเผ็ด ๆ เค็ม ๆ ถึงจะอร่อยด้วย

พอทางโฮมสเตย์บอกจะทำให้กินพรุ่งนี้ ทั้งคู่ต่างดีใจกันใหญ่ พอถึงช่วงอาหารของวันรุ่งขึ้น คัลแลนก็รีบมารอกินแกงไตปลา พร้อมบอกว่าจะได้กินแล้ว และพอแกงไตปลามาวางเสิร์ฟที่โต๊ะ คัลแลนก็อดใจไม่ไหวรีบตักกินก่อนโดยที่ไม่รอเพื่อน ๆ เลย!

งานนี้ทำเอาเหล่า FC ของสองหนุ่มและชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วยกับผลการจัดอันดับของ TasteAtlas ใจฟูไปตาม ๆ กัน พร้อมบอกว่า TasteAtlas จัดอันดับให้ ‘แกงไตปลา’ ยอดแย่ที่สุดในโลกก็ไม่เป็นไร แค่สองหนุ่มถูกใจก็พอแล้ว!

4 เมษายน ของทุกปี ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ พระราชทานให้วันนี้เป็น ’วันภาพยนตร์แห่งชาติ‘ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยร่วมตระหนักถึงคุณค่าของ 'ภาพยนตร์ไทย'

วันภาพยนตร์แห่งชาติตรงกับวันที่ 4 เมษายนของทุกปี เป็นวันที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานขึ้น เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญ และคุณค่าของภาพยนตร์ไทย เพราะภาพยนตร์ถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมบ้านเราได้ดีที่สุด

สำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกคือเรื่อง 'นางสาวสุวรรณ' เข้าฉายเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 จากนั้นก็ได้มีการพัฒนาภาพยนตร์ออกมาเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งก็ได้มีงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ไทย ที่ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน จัดขึ้นมา เพื่อมอบรางวัลให้แก่ภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพ และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ผลิต เช่น รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ รางวัลพระสุรัสวดี รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง และอื่น ๆ อีกหลายรางวัล

‘อาร์ต พศุตม์’ ชวน ‘ป้าปูนา’ มาขายของ พร้อมแบ่งพื้นให้ฟรี แถมจ่อยกรายได้ทั้งหมดให้ ลั่น!! เข้าใจหัวอกพ่อค้าแม่ค้า 

(3 เม.ย.67) หลัง ‘คุณป้าปูนา’ เจ้าของร้านอ่องปูนา ‘ปูนาฟ้าใส พระรามสอง’ เจ้าหนี้ที่ทวงเงินตลกดัง ‘จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม’ กลางห้างดังย่านบางใหญ่ ไปออกรายการโหนกระแสเผชิญหน้ากับ จั๊กกะบุ๋ม เมื่อวานนี้ ซึ่งทุกคนที่ได้ชมได้ฟังการตอบทั้งสองฝั่ง และคิดเห็นไปทางเดียวกัน คือ ถล่มด่าจั๊กกะบุ๋ม รัว ๆ ที่เป็นหนี้แล้วไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย รวมทั้งรู้สึกเห็นใจป้าปูนามาก ๆ ที่แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว จากลูกหนี้แบบนี้ สิ่งดีงามที่ตามมาจากเรื่องนี้ คือคนพร้อมใจกับยื่นมือให้ความช่วยเหลือป้ากันล้นหลาม หนึ่งในนั้นมีพระเอกกล้ามโตอย่าง ‘อาร์ต พศุตม์’ ได้โพสต์ข้อความชวนป้าปูนา มาขายของด้วยกัน ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @art_phasut98 โดยระบุว่า…

“คุณชายหมูกรอบทานคู่กับอ่องปูนา น่าจะอร่อยแน่ ๆ อยากชวนปูนาฟ้าใส มา X กับ คุณชายหมูกรอบ มาออกบูธด้วยกัน สนใจติดต่อมานะครับ พร้อมสนับสนุน” พร้อมใส่แคปชันใต้โพสต์ดังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เข้าใจหัวอกพ่อค้าแม่ค้าคับ อยากสนับสนุนคุณป้าปูนาคับ น่าจะอร่อย (ผมชอบกินอ่องปูอยู่แล้วด้วย) โทรไปหาป้าแล้ว คงกำลังยุ่งกับออเดอร์แน่ ๆ” ซึ่งก็มีเพื่อนดารานักแสดงและแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์สนับสนุนไอเดียของเจ้าตัวกันอย่างเนืองแน่น

ทั้งนี้ ทีมนักข่าว ได้ต่อสายตรงหา ‘อาร์ต พศุตม์’ เพื่อสอบถามเรื่องนี้ โดย ‘อาร์ต พศุตม์’ เผยว่า “ตอนนี้ผมติดต่อป้าได้แล้ว ป้าบอกพรุ่งนี้จะมาที่บูธของผม เวลาราว ๆ ประมาณ 4 โมงเย็น ปกติเวลาไปออกบูธขายของด้วยความที่เขาไม่ได้มีชื่อเสียง คนอาจจะสนใจเขาน้อย แต่ผมมีชื่อเสียงและมาขายของที่บูธทุกวัน ผมจะแบ่งพื้นที่ในบูธของผมให้ป้าส่วนหนึ่ง ให้ป้าขายข้าง ๆ กัน ผมก็จะช่วยยืนขายอยู่ข้าง ๆ แล้วเอารายได้ให้ป้าทั้งหมด ผมไม่เอาสักบาท เขาเจอเรื่องร้าย ๆ มา แต่พอเขาไปออกรายการมา เหมือนเขาได้เงินมากู้ทุกอย่างที่เขาเป็นหนี้แล้ว เชื่อว่าเขาน่าจะดีขึ้นแล้ว ใครจะให้ตังค์เขา เขาไม่เอา ถ้าเอาตังค์ เขาต้องผลิตของให้ ไม่เอาเงินเฉย ๆ ถ้าใครไม่เอาของ ป้าก็จะเอาไปบริจาคหรือให้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ เขาทัชใจผมตรงนี้ สมัยนี้การขายของอาศัยดารามาเก็ตติ้ง ป้าเขาอาจจะอยากใช้ตรงนี้เพื่อเพิ่มรายได้ของให้สินค้า ผมขอพูดกลาง ๆ ในเรื่องนี้ในฐานะที่เป็นดารามาออกบูธขายของว่าก่อนจะตกลงทำธุรกิจกับใคร ให้ดูประวัติเบื้องลึกของเขาก่อน และตกลงรายละเอียดกันให้ดี ผมเองก็ใจดีและพลาดโดนเอาเปรียบไปเยอะ เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นยังไง และสำคัญเลยคืออย่าโลภ ถ้าใครที่หาผลประโยชน์ เขาจะเอาผลประโยชน์เขามาคุยกับเรา คนเรามันค่อนข้างดูกันยาก ให้ใช้เซนต์คุยกันเอา ดูในกูเกิ้ลแบล็กลิสต์ด้วยก็ได้ เดี๋ยวนี้มันมีขึ้นหมดแล้ว ส่วนคิวออกบูธร้านคุณชายหมูกรอบยาวถึง ธ.ค. แล้ว ส่วนหน้าร้านให้ติดตามเพจ ขายตรงนั้นกำไรไม่เยอะ แต่น้อง ๆ ที่มาขายช่วย เขามีรายได้ ก็ขายเพื่อช่วยเหลือเขาครับ”

‘ชลบุรี’ เข้าตา!! จ่อถูกเปิดตัวเมืองใหม่ใน ‘มิชลิน ไกด์ไทย 2568’ ขยายฐานความอร่อย เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งภาคตะวันออก

(3 เม.ย. 67) มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ประกาศขยายขอบเขตการจัดทำคู่มือฉบับประจำปี 2568 เข้าสู่ ‘ชลบุรี’ เมืองตากอากาศชายทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ส่งผลให้ ‘ชลบุรี’ เป็นจุดหมายล่าสุดในการเข้าดำเนินการคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักชิมและนักท่องเที่ยวออกค้นหาประสบการณ์ด้านอาหารที่แปลกใหม่และแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งนี้ คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2568 มีกำหนดเผยแพร่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ด้าน เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “ชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพซึ่งมีทั้งชายหาดที่งดงาม วัดที่เงียบสงบ ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น กิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ ไปจนถึงร้านอาหารและรถเข็นขายอาหารริมทาง และสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งยังโดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ อาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงบรรยากาศการทานอาหารริมชายหาด องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวา ทีมผู้ตรวจสอบของ 'มิชลิน ไกด์' รู้สึกตื่นเต้นและแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะออกสำรวจและคัดสรรร้านอาหารในพื้นที่นี้”

ชลบุรีเป็นจังหวัดริมฝั่งทะเลซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 80 กิโลเมตร จึงเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมที่ใกล้ที่สุดสำหรับคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายจากงานที่เคร่งเครียด รวมทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาไกลจากหลากหลายพื้นที่ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรีสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม นอกจากประเพณีท้องถิ่น อาหารประจำภูมิภาค และอาหารทะเลสดใหม่แล้ว ชลบุรียังเป็นสวรรค์ของคนรักชายหาดโดยมีจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่างบางแสน พัทยา และเกาะล้าน

ด้าน ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทยว่า มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่อาหารไทยบนเวทีโลกและทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารชั้นนำระดับโลก จึงเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติของภาครัฐซึ่งมุ่งเน้น 5 ด้าน (5Fs) ได้แก่ อาหาร (Food), แฟชั่น (Fashion), ภาพยนตร์ (Film), มวยไทย (Fight) และเทศกาล (Festival) เพื่อยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในตลาดโลก

“ศาสตร์และศิลป์ด้านอาหารที่โดดเด่นและหลากหลายเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์หรืออิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนประเทศไทย การที่ ‘มิชลิน ไกด์’ ในฐานะคู่มืออ้างอิงด้านอาหารที่ทรงอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลก เผยแพร่ความหลากหลายและความน่าสนใจของอาหารและบรรยากาศแวดล้อมด้านอาหารในประเทศไทย ถือเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยให้มีความหมายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าการขยายขอบเขตจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ไปยังจังหวัดชลบุรี จะส่งผลดีหลายด้าน...ทั้งต่อตัวจังหวัดเองและต่อประเทศ อาทิ เพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับธุรกิจร้านอาหาร, ส่งเสริมวัตถุดิบในท้องถิ่น, สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน, กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาความเป็นเลิศทั้งด้านคุณภาพอาหารและการบริการ โดยชูแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม” คุณฐาปนีย์ สรุปปิดท้าย

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ที่: guide.michelin.com/th/th หรือติดตามข่าวสารล่าสุดของ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา 2565’ ได้ทางเฟซบุ๊ค: facebook.com/MichelinGuideThailand และ facebook.com/MichelinGuideAsia

3 เมษายน พ.ศ. 2565 ‘ในหลวง ร.10’ เสด็จฯ เปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ฯ จ.กาญจนบุรี บรรเทาความเดือดร้อนคนไทยที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ตามพระราชดำริ ‘ในหลวง ร.9’

จากการที่ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งเป็นระยะเวลายาวนานต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ประกอบกับมีการขยายตัวของชุมชน ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำอุปโภคบริโภคมากขึ้น ระบบประปาที่มีอยู่เดิมไม่สามารถจ่ายน้ำได้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ รวมถึงแหล่งน้ำจากผิวดินซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลทำให้ราษฎรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ รับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง ระยะแรก 15 โครงการ ครอบคลุม 11 จังหวัด ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี โดยมีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ พิจารณาพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ ไม่มีศักยภาพในการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำเป็นต้องทำการเจาะบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ พร้อมกับก่อสร้างระบบประปาบาดาลในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อน โดยจัดทำโครงการต้นแบบ จำนวน 2 พื้นที่ คือ โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลดงเค็ง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น และโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จ ฯ ไปทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ รับ ‘โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง’ เพิ่มเติม ระยะที่ 2 จำนวน 18 โครงการ ครอบคลุม 10 จังหวัด และระยะที่ 3 จำนวน 14 โครงการ ครอบคลุม 14 จังหวัด รวมจำนวนทั้งสิ้น 47 โครงการ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้น้อมนำพระบรมราโชบายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร ไปดำเนินโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

‘ชาวต่างชาติ’ ติดใจ!! ‘สายฉีดก้น’ ของไทย พร้อมยกให้เป็นที่หนึ่ง แถมกลับประเทศปุ๊บ รีบติดตั้งทันที ท่ามกลางชาวเน็ตแห่แนะนำวิธีใช้

(2 เม.ย.67) เรียกได้ว่าเป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมห้องน้ำ สำหรับ ‘สายฉีดชำระ’ ที่คนไทยนิยมใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งสำหรับชาวไทยแล้วอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับชาวต่างชาตินั้นอาจจะไม่ใช่ เพราะคุ้นชินกับการใช้ทิชชูมากกว่า

ยกตัวอย่างจากผู้ใช้เรดดิทคนนี้ ที่ได้รีวิวสายฉีดชำระของไทย บอกเลยว่าเขาติดใจมาก ถึงขั้นกลับประเทศปุ๊บ ก็ติดตั้งสายฉีดชำระทันที นอกจากนี้ ยังเอ่ยชมไม่หยุดว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยสัมผัสในไทย

“พอกลับจากเมืองไทย ทิชชูมันก็เหมือนกับกระดาษทรายเลย มาอยู่ที่นี่ ฉันให้ความสำคัญกับการติดตั้งสายฉีด เพราะมันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันเคยสัมผัสตอนอยู่ไทย ฉันคิดถึงมันจริง ๆ ห้องน้ำ (ไทย) เกือบทุกที่มีสายฉีดนี้ พอเทียบกับที่นี่แล้วมันไม่มีเลย”

เรียกได้ว่ากระทู้เรดดิทครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก ชาวต่างชาติหลายคนต่างเห็นด้วยกับสิ่งนี้ พร้อมยกว่าสายฉีดชำระนั้นดีกว่ากระดาษทิชชูเป็นไหน ๆ

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางส่วนได้แนะว่า การใช้สายฉีดชำระต้องระวังให้ดี เพราะบางครั้งน้ำก็พุ่งแรงเกินไป ยิ่งใช้ในหน้าร้อนแล้วนั้น จากประสบการณ์สุดฟิน อาจกลายเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดได้เช่นกัน

๒ เมษายน วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ทรงเริ่มการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา ก่อนจะทรงเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาทรงสำเร็จการศึกษาและได้รับปริญญามหาบัณฑิตจากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2529

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระปรีชาสามารถในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านอักษรศาสตร์และดนตรีไทย พระองค์ทรงอนุรักษ์ ส่งเสริม และให้การอุปถัมภ์ในด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ จนได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายพระสมัญญาว่า ‘เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย’ และ ‘วิศิษฏศิลปิน’ ซึ่งต่อมา คณะรัฐมนตรียังมีมติให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี เป็น ‘วันอนุรักษ์มรดกของชาติ’ เพื่อเทิดพระเกียรติที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติในสาขาต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม โดยทรงมีโครงการในพระราชดำริส่วนพระองค์หลายหลากโครงการ อาทิ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2523 ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะขยายออกไปยัง 44 จังหวัดในพื้นที่ทุรกันดาร

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้น ในวาระวันคล้ายวันพระราชสมภพ ประชาชนชาวไทยจึงขอน้อมถวายพระพร ขอทรงมีพลานามัยแข็งแรงยิ่งยืนนาน ทรงพระเจริญ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top