Saturday, 9 December 2023
LITE

24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ในหลวง ร.9 เสด็จฯ ทางชลมารค เปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์

วันนี้เมื่อ 13 ปีก่อน ถือเป็นวันสำคัญของเมืองไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ รวมถึง สะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 ทั้งหมดเป็นโครงการในพระราชดำริที่ทรงตั้งใจแก้ปัญหาให้กับประชาชน

โดยที่มาของการสร้างประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ เกิดขึ้นจากการทรงเห็นว่า สภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาเดิมมีลักษณะไหลวนคดเคี้ยว โดยเฉพาะบริเวณรอบพื้นที่บางกระเจ้า ที่มีความยาวถึง 18 กิโลเมตร ส่งผลให้การระบายน้ำที่ท่วมพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครเป็นไปได้ช้า ไม่ทันเวลาน้ำทะเลหนุน

จึงมีพระราชดำริให้พัฒนาใช้คลองลัดโพธิ์ ซึ่งเดิมมีความตื้นเขินและมีความยาวราว 600 เมตร ให้เป็นประตูระบายน้ำที่หลากและน้ำที่ท่วมสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ลงสู่ทะเลทันที และจะปิดคลองลัดโพธิ์เมื่อน้ำทะเลหนุน เพื่อหน่วงน้ำทะเลไม่ให้ขึ้นลัดเลาะไปตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาที่คดโค้งถึง 18 กิโลเมตรด้วยกัน

ในส่วนของสะพานภูมิพล 1 และ 2 ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างเพื่อรองรับการขนถ่ายและลำเลียงสินค้าจากท่าเรือกรุงเทพ ไปยังพื้นที่อุตสาหกรรมใน จ.สมุทรปราการ และพื้นที่อื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาการจราจร โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่จากแหล่งอุตสาหกรรม เพื่อให้มีช่องทางเลี่ยงออกจากใจกลาง กทม. สู่ต่างจังหวัดได้ทันที

ทั้งหมดคือพระราชประสงค์เพื่อแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น จากวันนี้และในอนาคตสืบไป...

‘ลิซ่า’ สวมชุด ‘Asava’ แบรนด์ของคนไทย รับเครื่องราชฯ ชั้น MBE จากคิงชาร์ลส์ที่ 3

(23 พ.ย. 66) เรียกว่าเป็นความปลาบปลื้มของ 4 สาววง BLACKPINK (แบล็กพิงก์) ทั้ง เจนนี่, จีซู, ลิซ่า, โรเซ่ ที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ณ พระราชวังบักกิงแฮม ประเทศอังกฤษ โดย สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร และ พระราชินีคามิลลา ทรงเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่ ยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และ คิม กอน-ฮี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เนื่องในโอกาสกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ เมื่อวันอังคารที่ 21 พ.ย.66 ที่ผ่านมา

ต่อมาในวันที่ 22 พ.ย.66 สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเป็นประธานในพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น MBE ให้แก่ เจนนี่ จีซู ลิซ่า และ โรเซ่ และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับทั้ง 4 สาวอย่างเป็นกันเอง โดยตรัสว่า “เราหวังว่าเราจะได้ชมการแสดงสดของพวกคุณบ้างในบางโอกาส”

สำนักพระราชวังบักกิงแฮม เปิดเผยว่า 4 สาว BLACKPINK ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ MBE เพื่อเป็นการแสดงความยอมรับบทบาทของพวกเธอในผู้สนับสนุนการประชุมสุดยอดผู้นำสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องสภาพอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อปี 2564

นอกจากนี้มีการเปิดเผยว่า ชุดที่ ลิซ่า BLACKPINK สวมใส่เข้าพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น MBE เป็นชุดเสื้อผ้าจากแบรนด์ไทยชื่อดังอย่าง Asava เรียกว่านอกจากจะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวงการ K-POP ยังเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

‘BLACKPINK’ รับพระราชทานเครื่องราชฯ จากคิงชาลส์ที่ 3 ในฐานะทูตสิ่งแวดล้อม COP 26 ที่ทำให้เยาวชนตระหนักถึง

(23 พ.ย.66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงเปิดพระราชวังบักกิงแฮม ณ กรุงลอนดอน เพื่อจัดงานเลี้ยงต้อนรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล และภริยา คิม กอน-ฮี พร้อมกับแขกพิเศษอย่างศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังระดับโลกอย่าง 4 สาว วง 'BLACKPINK' เนื่องในโอกาสกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ทั้งนี้ 4 สาว 'BLACKPINK' ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงระดับ State Banquet นี้ ยังได้รับพระราชดำรัสชื่นชมจากคิงส์ชาร์ลส์อีกด้วย

ล่าสุดอินสตาแกรมของสำนักพระราชวังสหราชอาณาจักร เผยแพร่คลิปทั้งสี่สาวได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ MBE-Member of the Most Excellent Order of the British Empire ในฐานะทูตสิ่งแวดล้อม COP 26 จากสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับทั้ง 4 สาวอย่างเป็นกันเอง โดยตรัสว่า “เราหวังว่าเราจะได้ชมการแสดงสดของพวกคุณบ้างในบางโอกาส”

โดยพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ชื่นชมทั้ง 4 สาวเนื่องจากเป็นเหมือนตัวแทนที่จะทำให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และยินดีที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมไปสู่สายตาผู้ฟังทั่วโลก และชื่นชมที่พวกเขาจัดลำดับความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ เช่นเดียวกับการเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

สำนักพระราชวังอังกฤษ ระบุว่า สมาชิกวง 'BLACKPINK' ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติช ในบทบาทของผู้สนับสนุน COP26 สำหรับการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติที่จัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ในปี 2021

23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ‘ทามาก็อตจิ’ สัตว์เลี้ยงดิจิทัล ไอเท็มสุดฮิตยุค 90 วางขายครั้งแรก

วันนี้เมื่อ 27 ปีก่อน ‘ทามาก็อตจิ’ สัตว์เลี้ยงดิจิทัลคลายเหงาสำหรับเด็ก ๆ เพื่อนซี้ 8 บิต หนึ่งในไอเท็มสุดฮิตในยุค 90 ถูกวางจำหน่ายเป็นวันแรก

หากเอ่ยถึงของเล่น วัยเยาว์ยุค 90s เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงเจ้า ‘ทามาก็อตจิ’ (Tamagotchi) สัตว์เลี้ยงดิจิทัลสีขาวดำในก้อนไข่ ของเล่นสุดฮิตที่ใครก็อยากมีติดกระเป๋าเอาไว้เล่นยามว่าง อย่างแน่นอน

ทามาก็อตจิ เป็นของเล่นที่คิดค้นและร่วมมือโดย อากิฮิโระ โยโคอิ (Akihiro Yokoi) ประธานบริษัท Wiz ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบของเล่นให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ กับ อากิ มาอิตะ (Aki Maita) นักการตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Bandai ของญี่ปุ่น

อากิฮิโระ โยโคอิ ได้รับแรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียในการสร้างเจ้าของเล่นขนาดพกพานี้จาก ‘โฆษณาทางโทรทัศน์’ ซึ่งปรากฏเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่ไม่สามารถพา ‘เต่า’ สัตว์สุดที่รักของเขาไปท่องเที่ยวด้วยกันได้ 

เมื่อได้เห็นโฆษณาดังกล่าว บวกกับโยโคอิ เป็นคนที่ชื่นชอบสัตว์เลี้ยง เขาจึงตัดสินใจจะผลิตเกมที่ช่วยเสริมสร้างความรับผิดชอบให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง พวกเขาจะต้องดูแลพวกมันแบบเรียลไทม์ โดยสัตว์ในเกมจะนอนหลับในตอนกลางคืน และจะมีเสียง บี๊บ! ตอนที่พวกมันหิว ทั้งยังมีการสร้างพฤติกรรมและใช้ยารักษาโรคให้กับพวกมันอีกด้วย 

โยโคอิตั้งชื่อของเล่นที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทั่วทุกที่ว่า ‘ทามาก็อตจิ’ หรือภาษาอังกฤษคือ Tamagotchi ซึ่งมาจากคำว่า Tamago แปลว่า ไข่ และ Uotchi แปลว่าดูนาฬิกาหรือนาฬิกาข้อมือในภาษาญี่ปุ่น เหตุที่ตั้งชื่อนี้เพราะในตอนแรกจะออกแบบให้ทามาก็อตจิสวมใส่เป็นนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะกลายมาเป็นพวงกุญแจห้อยไปมาได้

ต่อมา โยโคอิได้นำความคิดนี้ไปขายให้กับบริษัท Bandai และได้มาอิตะมาช่วยเหลือ ดูแล และทำการตลาดให้กับเจ้าทามาก็อตจิตัวนี้ให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด

เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามคาด บริษัท Bandai ก็ตัดสินใจออกขายเจ้าก้อนไข่สุดคาวาอี้ในญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) และอเมริกาในปี 1997 ก่อนที่ทามาก็อตจิจะกลายมาเป็น ‘ของเล่น’ ในวัยเด็กที่หลายคนยังคงนึกถึง

22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 ‘จอห์น เอฟ. เคนเนดี’ ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 35 ถูกลอบสังหาร ขณะเดินทางไปหาเสียงเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตกใจให้กับคนทั้งโลก เมื่อ ‘จอห์น เอฟ. เคนเนดี’ ประธานาธิบดีลำดับที่ 35 แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ถูกลอบสังหารขณะเดินทางไปหาเสียงเลือกตั้ง ปธน. ภายในรถเปิดประทุน โดยมีภรรยานั่งอยู่ด้านข้าง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ เดลลีย์พลาซา เมืองแดลลัส รัฐเท็กซัส

โดยจากการสืบสวนของคณะกรรมการวอร์เรน ซึ่งกินเวลา 10 เดือน ระหว่าง พ.ศ. 2506 - 2507 การสืบสวนของคณะกรรมการสมาชิกผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่าด้วยการลอบสังหารประธานาธิบดี (HSCA) ระหว่าง พ.ศ. 2519 - 2522 และการสืบสวนของรัฐบาล สรุปว่าประธานาธิบดีถูกลอบสังหารโดย 'ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์’

ซึ่งในเวลาต่อมา ออสวอล์ดถูกฆาตกรรมโดย แจ๊ค รูบี้ ก่อนที่เขาจะต้องขึ้นศาล ในช่วงแรกที่มีการเปิดเผยผลการสืบสวน ข้อสรุปนี้ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนอเมริกัน แต่ในภายหลัง ผลสำรวจที่มีการจัดทำขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2509 - 2547 เปิดเผยว่าชาวอเมริกันประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์มีความเชื่อตรงกันข้ามกับข้อสรุปที่ได้จากการสืบสวนดังกล่าว

ดังนั้นการลอบสังหารในครั้งนี้ยังคงเป็นประเด็นการอภิปรายในวงกว้าง และก่อให้เกิดประเด็นเรื่องทฤษฎีสมคบคิดและการจัดฉากอย่างนับไม่ถ้วน จนกระทั่ง พ.ศ. 2522 คณะกรรมการสมาชิกผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่าด้วยการลอบสังหารประธานาธิบดี ค้นพบว่ารายงานการสืบสวนของเอฟบีไอและคณะกรรมการวอร์เรนมีข้อบกพร่องอย่างร้ายแรง 

คณะกรรมการฯ ยังสรุปด้วยว่ามีการยิงปืนใส่ไม่ต่ำกว่า 4 นัด ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าอาจมีฆาตกรสองคน และทฤษฎีสมคบคิดดังกล่าวเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาในภายหลัง ซึ่งรวมถึงผลการศึกษาของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกาได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของหลักฐานที่คณะกรรมการฯ ใช้เพื่อสนับสนุนทฤษฎีกระสุนสี่นัดดังกล่าว

แต่แล้ว ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560 คดีการลอบสังหารในครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะกระจ่างขึ้น เมื่อประธานาธิบดีโดนัลน์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับคดีลอบสังหาร ปธน.จอห์น เอฟ เคนเนดี ที่ยังไม่เคยเปิดเผยกว่า 2,800 ชิ้น ตามที่ได้เคยกล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าจะเปิดเผยข้อมูลในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

แต่ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ ตัดสินใจวินาทีสุดท้าย ไม่เปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอีกกว่า 300 ชิ้น เพราะหน่วยข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ และสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ขอให้มีการเก็บข้อมูลบางส่วนต่อไป เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยการเปิดเผยคาดว่าจะมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไปอีก 6 เดือน หรือประมาณช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2561

เหตุการณ์สะเทือนโลกครั้งนี้จึงนับเป็น เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ชาวโลกยังคงจดจำ ต่อการจากไปของประธานาธิบดีหนุ่ม ‘จอห์น เอฟ. เคนเนดี’ ที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมากมาย อีกทั้งยังเป็นคดีที่ยังคงมีถูกตั้งข้อสงสัยและยังไม่ได้รับความกระจ่างอย่างแท้จริงจากเอกสารบางส่วนที่ยังไม่เปิดเผย มาจนถึงทุกวันนี้

‘โคราช’ ชู ‘กางเกงแมว’ ซอฟต์พาวเวอร์น้องใหม่ หวังช่วยสร้างอาชีพ - ส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น

เมื่อวานนี้ (20 พ.ย. 66) เพจ ‘Korat Next Step’ โพสต์ข้อความในหัวข้อ #กางเกงแมวโคราช โคราชผุดไอเทมใหม่ 'กางเกงแมว' ชูเป็นซอฟต์พาวเวอร์ใหม่ โชว์อัตลักษณ์โคราชเเละส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยระบุว่า…

หลังจากโคราชจัดประกวดออกแบบ KORAT MONOGRAM (โคราช โมโนแกรม) เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้า ‘เซ็นทรัลโคราช’ เพื่อนำผลงานออกแบบที่ชนะเลิศ เพื่อนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ที่มีสัญลักษณ์เมืองโคราช เพื่อสร้างการจดจำให้กับนักท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ล่าสุดในงาน ‘มามูย่าโคราช’ ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จัดระหว่างวันที่ 16-26 พฤศจิกายน 2566 เทศกาลและการท่องเที่ยวสายมู พบกับตลาดวัฒนธรรม สินค้าชุมชนท้องถิ่น อาหารพื้นบ้านจากท้องถิ่น และกิจกรรมการเเสดงศิลปะวัฒนธรรมจากเยาวชนและศิลปินโคราชมากมาย ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าท้องถิ่นโดยใช้ลาย ‘โคราช โมโนแกรม’ ที่ชนะเลิศประกวดมาพิมพ์ลงบนเสื้อ หมวก กระเป๋า ถุง และไฮไลต์ ‘กางเกงแมว’ คล้าย ‘กางเกงช้าง’ ที่กำลังนิยมของไทย

นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “หลังจากทางหอการค้าฯ ร่วมกับจังหวัด ได้จัดกิจกรรมการประกวด KORAT MONOGRAM (โคราช โมโนแกรม) เป้าหมายของกิจกรรมเพื่อต้องการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว และด้านการกีฬา โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และอัตลักษณ์พื้นถิ่นของชาวโคราช สื่อผ่านลวดลายโมโนแกรมที่มีเอกลักษณ์”

“เนื่องจากการสร้างลวดลายโคราช หรือ KORAT Monogram เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของเมืองโคราช และความเป็นโคราชอย่างชัดเจน ให้เป็นที่จดจำว่าลาย Monogram นี้ เป็นรูปแบบลวดลายที่เป็นของคนโคราชอย่างแท้จริง เป็นจังหวัดแรกของประเทศที่ริเริ่มให้มีลายประจำจังหวัด”

นายไพจิตร กล่าวอีกว่า “ซึ่ง ‘กางเกงแมว’ เหมือน ‘กางเกงช้าง’ ถ้านักท่องเที่ยวมาโคราชก็ต้องซื้อ ‘กางเกงแมว’ เป็นซอฟต์พาวเวอร์โคราช โดยจะขอพื้นที่ข้างลานย่าโมกับเทศบาลเพื่อตั้งบูธขายประจำตลอดไปด้วย เพื่อให้คนที่มาไหว้ย่าโมได้มาซื้อของที่ระลึกจากบูธอีกด้วยไม่ใช่มาสักการะย่าโมอย่างเดียว โดยเฉพาะสินค้าทุกชิ้นเราสั่งทำในโคราชทั้งหมด ต่อไปก็จะเอาลายนี้ไปให้ชาวบ้านทอเป็นผ้าลายต่อยอด ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านอีกด้วย ถ้าฮิตชาวบ้านก็ทอขายเองได้เลย ๆ เป็นลิขสิทธิ์ของจังหวัด ซึ่งต้องมาคุยรายละเอียดอีกครั้ง”

“และที่ฮือฮาเมื่อวันที่ 18-19 พ.ย.ที่ผ่านมา ทีมหอการค้าโคราชได้ใส่ ‘กางเกงแมว’ ไปร่วมงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ที่กรุงเทพฯ ถูกชาวหอการค้าที่มาร่วมงานถามถึงที่มา แถมสั่งซื้อ 100 กว่าตัวส่วนที่โคราชไปซื้อได้ในงาน ‘มามูย่า’ ถึงวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ที่ลานย่าโม” นายไพจิตร กล่าวทิ้งท้าย

21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 ‘เขาทราย แกแล็คซี่’ เจ้าของฉายา ‘ซ้ายทะลวงไส้’ คว้าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท WBA มาครอง

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 หรือเมื่อ 39 ปีก่อน ‘สุระ แสนคำ’ หรือ ‘เขาทราย แกแล็คซี่’ ได้คว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครอง ซึ่งได้สร้างความปลื้มปีติให้แก่ชาวไทยทั้งประเทศ เมื่อ ‘เขาทราย แกแล็คซี่’ ยอดนักมวยขวัญใจชาวไทย ชนะน็อก ยูเซปิโอ เอสปินัล นักมวยชาวโดมินิกัน ซึ่งเป็นรองแชมป์โลก WBA อันดับ 2 ในรุ่นซูเปอร์ ฟลายเวท ในขณะนั้นได้สำเร็จ ทำให้ ‘เขาทราย แกแล็คซี่’ คว้าตำแหน่งแชมป์โลก รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท WBA มาครอง โดยเป็นตำแหน่งแชมป์โลกครั้งแรกของเขาทราย และเป็นแชมป์โลกคนที่ 9 ของไทย

หากพูดถึงชื่อ ‘เขาทราย แกแล็คซี่’ ฉายาที่คุ้นหูคนไทยคงไม่พ้น ‘ซ้ายทะลวงไส้’ อันมีที่มาจากการเป็นนักมวยถนัดซ้าย ที่มาพร้อมกับหมัดซ้ายที่หนักหน่วง และการชกตัดลำตัวที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่ฉายาที่สื่อต่างประเทศมอบให้ คือ The Thai Tyson หรือ ไมค์ ไทสัน เมืองไทย

นอกจากนี้การสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการนักมวยไทยของเขานั้น ยังดังไกลในระดับโลก เพราะหลังจากการครอบแชมป์ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เขาก็ได้ป้องกันแชมป์ไปถึง 19 ครั้งด้วยกัน ทุบสถิติแซงหน้านักชกเอเชียคนไหน ๆ และเทียบเท่ากับ เอวเซบิโอ เปรโดซา อดีตแชมป์โลก WBA รุ่นเฟเธอร์เวท

จากการบันทึกข้อมูลสถิติการชกของเขาทรายโดย Boxing Writers Association of America (BWAA) และนักประวัติศาสตร์มวยโลกได้บันทึกข้อมูลว่า เขาทรายทำสถิติการชกไว้ทั้งหมด 50 ครั้ง ชนะ 49 ครั้ง โดยชนะน็อกถึง 43 ครั้ง แพ้คะแนนเพียง 1 ครั้ง และในการป้องกันแชมป์ 19 ครั้ง เป็นการชนะน็อกถึง 16 ครั้ง มีเพียง 3 ครั้งที่ชนะคะแนน

ซึ่งในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เขาทรายได้ประกาศแขวนนวมในฐานะแชมป์โลกผู้ไม่เคยแพ้ใคร ตลอดระยะเวลาที่ครองตำแหน่ง 2,628 วัน หรือ 7 ปี 2 เดือน 30 วัน เหตุนี้เองจึงทำให้เขาทราย ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติเข้าสู่หอเกียรติยศ International Boxing Hall of Fame ประเภท Modern ในปี พ.ศ. 2542 จากการพิจารณาของ Boxing Writers Association of America (BWAA)

อีกทั้งได้รับการบรรจุชื่อในหอเกียรติยศนักมวยโลก ณ เมืองคานาสโตตา รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับว่าเป็นหอเกียรติยศอันทรงเกียรติ ที่จารึกชื่อบุคคลสำคัญในวงการสังเวียนผ้าใบและมีความยิ่งใหญ่ของวงการมวยโลก

‘YG’ ปล่อยโปสเตอร์เปิดตัว ‘แพร ภริตา’ เด็กไทยวัย 18 ปี หนึ่งใน 'BABYMONSTER' อวดความสวยออร่ากระจาย

(20 พ.ย. 66) แฟนคลับฮือฮาอีกรอบเมื่อค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง YG Entertainment ของเกาหลีใต้ เปิดตัวแล้วอีกหนึ่งเมมเบอร์ของ 'BABYMONSTER' อย่าง 'PHARITA' หรือ แพร ภริตา ชายคง เด็กไทยคนที่ 2 ที่เดบิวต์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ YG ได้เปิดตัว 'ชิกิต้า' หรือ แคนนี่ ริรชา โดยทันทีที่ทีเซอร์เปิดตัว 'PHARITA' ออกมานั้นเธอได้รับความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลกถึงออร่าความสวยของเธอ

ซึ่งหลังจากที่ทางค่ายได้เปิดเผยว่า BABYMONSTER เตรียมปล่อยซิงเกิลอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ก็ทำให้พวกเธอได้รับความสนใจจากแฟน เค-ป็อป ทั่วทุกมุมโลก เรียกได้ว่า 'PHARITA' เตรียมแจ้งเกิดตามรุ่นพี่ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน

ย้อนฟังคำตอบในรอบตอบคำถาม 5 คนสุดท้ายของ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ Miss Universe Thailand 2023

(20 พ.ย. 66) ย้อนฟังคำตอบในรอบตอบคำถาม 5 คนสุดท้ายของ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ Miss Universe Thailand 2023 และ รองอันดับ 1 Miss Universe 2023 กับคำถาม ‘ถ้าคุณได้พูดกับนักเรียนเกี่ยวกับการโดนบูลลี่ออนไลน์ จะพูดว่าอย่างไร?’ ซึ่ง แอนโทเนีย ได้ระบุว่า…

“อย่าไปฟังเสียงของคนที่พูดบูลลี่ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะตอบโต้สถานการณ์นั้นอย่างไร สิ่งสำคัญคือการลุกขึ้น…มาจากช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น”

20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482 กำเนิด ‘วงดนตรีสุนทราภรณ์’ ก่อตั้งโดย ‘ครูเอื้อ สุนทรสนาน’

บุคคลสำคัญของโลกที่ได้รับการยกย่อง โดยยูเนสโก และเป็นบุคคลที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นเวลายาวนานตราบจนวาระสุดท้ายของบุคคลผู้นี้ คือ ‘ครูเอื้อ สุนทรสนาน’ หรือที่รู้จักกันในนามของ ‘สุนทราภรณ์’ ผู้ก่อตั้งวงดนตรี ‘สุนทราภรณ์’ อันโด่งดัง ซึ่งทุกวันนี้แม้ตัวคุณครูเองจะจากไปหลายปีแล้ว แต่วงดนตรีของท่านก็ยังคงอยู่ รวมทั้งเพลงต่าง ๆ ที่คุณครูแต่งหรือร่วมแต่งไว้กว่า 2,000 เพลง ก็ยังคงความไพเราะและเป็นอมตะ ได้รับการบรรเลงขับร้องจากนักร้องรุ่นหลัง ๆ เรื่อยมา โดยไม่มีวี่แววว่าประชาชนจะหลงลืมเพลงเหล่านี้แต่อย่างใดเลย

ครูเอื้อเกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2453 ที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2524 และได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในสาขาวัฒนธรรมดนตรีไทยสากล ในวาระครบรอบ 100 ปีชาตกาล เมื่อ พ.ศ. 2552

ท่านก่อตั้งวงดนตรี ‘สุนทราภรณ์’ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482 ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าวงดนตรีกรมโฆษณาการ หรือกรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน ครูเอื้อไม่ประสงค์จะใช้วงดนตรีของทางราชการไปรับงานแสดงส่วนตัว จึงได้ดำริจัดตั้งวงดนตรี ‘สุนทราภรณ์’ ขึ้น เพื่อรับบรรเลงตามสถานที่ต่าง ๆ ในเวลานอกราชการ 

คำว่า ‘สุนทราภรณ์’ ได้มาจากการนำนามสกุลท่อนแรกของท่าน คือ ‘สุนทร’ มาสนธิกับชื่อสุภาพสตรีอันเป็นที่รักของท่าน ได้แก่ ‘อาภรณ์’ (กรรณสูต) กลายเป็น ‘สุนทราภรณ์’ ซึ่งเป็นทั้งชื่อวงดนตรีและนามแฝงในการขับร้องเพลงของท่านควบคู่กันไป เพลงของสุนทราภรณ์มีทุกแนว นับตั้งแต่เพลงปลุกใจ, เพลงสดุดีเทิดพระเกียรติ, เพลงประจำสถาบันต่าง ๆ, เพลงรัก, เพลงคติธรรมชีวิต ไปจนถึงเพลงรำวงและลีลาศอันสนุกสนาน หลาย ๆ เพลงยังคงความอมตะ และได้รับความนิยมสืบเนื่องจนกลายเป็นสมบัติของชาติเคียงคู่สังคมไทยตราบเท่าทุกวันนี้ ได้แก่ เพลงเทศกาลต่าง ๆ เช่น เริงสงกรานต์, รำวงสงกรานต์, รำวงลอยกระทง, สวัสดีปีใหม่, รื่นเริงเถลิงศก, รำวงปีใหม่ ฯลฯ เป็นต้น

ไม่เพียงแต่จะเป็นที่รู้จักในประเทศไทยเท่านั้น เพลง ‘รำวงลอยกระทง’ ของท่านยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในฐานะเพลงสัญลักษณ์เพลงหนึ่งของประเทศไทย และเล่ากันว่าในการเสนอชื่อท่านต่อยูเนสโก เพื่อให้ยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลกนั้น หากผลงานของบุคคลสำคัญเป็นที่รู้จักในต่างประเทศด้วย ก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ทางฝ่ายไทยจึงแนบเทปเพลง ‘รำวงลอยกระทง’ ไปด้วย เมื่อเปิดขึ้นคณะกรรมการพิจารณาก็ยิ้มทันที เพราะรู้จักเพลงนี้กันทุกคน

ครูเอื้อ สุนทรสนาน ได้รับพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ ‘มหามงคล’ จากในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นเพลงเปิดวงในโอกาสฉลองครบรอบปีที่ 20 แห่งการตั้งวง เมื่อพ.ศ. 2502 และทางวงดนตรีสุนทราภรณ์ก็ได้อัญเชิญบรรเลงเป็นเพลงเปิดวงแม้จนทุกวันนี้

เมื่อครั้งวงดนตรีสุนทราภรณ์มีอายุครบ 30 ปี ใน พ.ศ. 2512 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน นำนักร้อง นักดนตรี และนักเรียนจากโรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี เข้าเฝ้า ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม และพระราชทานเหรียญเสมาทองคำ ‘ภปร.’ แก่หัวหน้าวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นแก่ครูเอื้อ

ในงานฉลอง 70 ปี ของการตั้งวงดนตรีสุนทราภรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2552 นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวังใน พ.ศ.ดังกล่าว ได้กล่าวไว้ว่า “วงดนตรีสุนทราภรณ์ถือเป็นวงในพระราชสำนัก เพราะได้บรรเลงดนตรีถวายต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบปี” 

เมื่อครูเอื้อถึงแก่กรรม ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพด้วยพระองค์เอง ณ วัดเทพศิรินทราวาส นับเป็นศิลปินคนที่ 2 และคนสุดท้ายที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์

'แอนโทเนีย’ ขอบคุณทุกแรงหนุนที่ทำให้ยืนอยู่ตรงนี้ พร้อมขอโทษที่ไม่สามารถคว้ามงกุฎกลับมาได้

(19 พ.ย.66) เปิดใจ 'แอนโทเนีย โพซิ้ว' หลังคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 (Miss Universe 2023) ครั้งที่ 72 จากประเทศเอลซัลวาดอร์ ซึ่งปีนี้สาวไทยสวยและเก่งมาก สามารถเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย เข้ารอบตัดสินลึกที่สุดในรอบประวัติศาสตร์ 35 ปี

ล่าสุด 'แอนโทเนีย' ได้อัปเดทความรู้สึกหลังจากจบการประกวด ผ่านอินสตาแกรม โดยระบุว่า…

“ไม่มีคำพูดใดที่สามารถอธิบายความรู้สึกของแอนได้ในตอนนี้ แอนทุ่มสุดตัวบนเวทีคืนนี้เพื่อประเทศไทยเพื่อทุกคนที่เชื่อในตัวแอน และเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของแอน แอนขอโทษที่ไม่สามารถนำมงกุฎกลับบ้านให้เราได้ และแอนก็รู้สึกขอบคุณอย่างมากสำหรับความรักและการสนับสนุนทั้งหมดที่มีให้แอนตลอดการเดินทางครั้งนี้”

“หากปราศจากการสนับสนุนของทุกคน วันนี้แอนคงไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่ อย่างที่แอนเคยบอกไปแล้วก็คือ ไม่ใช่มงกุฎและสายสะพายที่สำคัญที่สุด แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่ทุกๆ คนทำให้แอนทุกช่องทางที่คุณมีนั้นสำคัญที่สุด แอนจะทำงานต่อไปเพื่อความฝันของแอน และหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับแอนในทุกเส้นทางที่แอนจะก้าวไป สำหรับที่นี่ แอนหวังว่าแอนจะเป็นแสงสว่างนำทางให้กับทุกคนที่มีความฝันต่อไป ความฝันที่รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ กล้าที่จะก้าว ครั้งแรกนั้นคุณไม่มีทางรู้ว่าคุณจะไปจบอยู่ที่ไหน แต่เส้นทางนั้นจะพาคุณไปและคุณจะพบกับใครตามทาง แอนอยากจะบอกว่าแอนรักคุณทุกคนจากก้นบึ้งของหัวใจ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ”

'สุวัจน์' ยินดี 'แอนโทเนีย' หลานย่าโม คว้ารอง 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 พร้อมขอบคุณที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีระดับโลก

(19 พ.ย.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงความยินดีกับ น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ตัวแทนประเทศไทย ที่สามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Miss Universe 2023 ในการประกวดนางงามจักรวาล ครั้งที่ 72 รอบตัดสิน (Final Competition) ที่จัดขึ้น ณ ยิมเนเซียมแห่งชาติ ในกรุงซานซัลวาดอร์ ประเทศเอลซัลวาดอร์ เช้าวันนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)

โดยนายสุวัจน์ ได้แสดงความชื่นชมและขอบคุณแอนโทเนีย โพชิ้ว ซึ่งเป็นชาวโคราช หลานย่าโม ที่ได้ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยอย่างดีที่สุด จนสามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1  Miss Universe 2023 มาครอง นอกจากนี้แอนโทเนียยังได้เผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์วัฒนธรรมไทยที่งดงามโดดเด่นแก่สายตาชาวโลก โดยเฉพาะชุดแต่งกายประจำชาติ ‘เทพธิดาอาณาจักรอยุธยา’ ที่ได้รับแรงบันดาลจากรูปปั้นพระแม่ธรณีในช่วงยุคสมัยอยุธยาของอาณาจักรสยามที่มีอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 14 ถึง 18 

“ปีนี้เป็นปีครบ 555 ปี เมืองโคราช การได้ครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ครั้งนี้ของแอนโทเนีย นับเป็นเรื่องที่ชาวโคราชภาคภูมิใจและมีความสุขกับความสำเร็จของหลานย่าโมคนนี้ ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีระดับโลก ได้ใจคนโคราชและคนไทยทั้งประเทศ” นายสุวัจน์ กล่าว

สำหรับ แอนโทเนีย โพซิ้ว เธอเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 1996 (พ.ศ. 2539) ปัจจุบันอายุ 27 ปี เป็นเจ้าของแฮชแท็ก #หลานย่าโมจะGOจักรวาล มารดาของแอนโทเนียเป็นคนไทยและเป็นชาวโคราช บิดาเป็นชาวเดนมาร์ก ก่อนการประกวด เธอได้เข้าสักการะกราบเท้าย่าโม ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และยังเข้ากราบขอพรที่วัดศาลาลอย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้น นอกจากนี้ แอนโทเนีย ยังชอบทำและชอบกินผัดหมี่โคราชด้วย

‘โตโน่’ โพสต์ส่งการบ้าน ชูแอป ‘YoldYeah’ ช่วยสูงวัยเที่ยวไทย ถือเป็น ‘ศิลปินรุ่นใหม่’ ใฝ่เรียนรู้-ตัวอย่างที่ดีของเยาวชนไทย

(19 พ.ย.66) เรียกได้เต็มปากว่าเป็นศิลปินที่รักการเรียนมากที่สุดคนหนึ่งเลย สำหรับหนุ่ม ‘โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์’ นักร้องนักแสดงมากความสามารถ เพราะล่าสุดได้โพสต์ไอจีสตอรี่การบ้านกลุ่มเพื่อส่งอาจารย์ เตรียมจบการศึกษาเร็วๆ นี้ พร้อมเขียนแคปชันสั้น ๆ ว่า…

“มาส่งการบ้านครับอาจารย์ #Yoldyeah #หลักสูตรDad8”

ย้อนไปเมื่อ 2 เดือนก่อน หนุ่มโตโน่ได้ลงเรียนในโครงการ Development Administrator in Digital Era (DAD) ของ Nida (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) รุ่นที่ 8 โดยอยู่ในกลุ่ม DeFi ที่สนับสนุนแอปพลิเคชัน ‘YoldYeah’ แอปที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุจากทั่วโลก มาท่องเที่ยวในเมืองไทยได้ง่ายและสบายที่สุด

นับเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนไทย ผู้ใฝ่รู้ สนใจการเรียนอยู่เสมอ…และสำหรับใครที่อยากชมการบ้านที่หนุ่มโตโน่ส่งอาจารย์ ก็สามารถตามไปส่องกันได้เลยที่ช่องยูทูบ >> https://youtu.be/TV5mHgmUBsI?si=m3ZrAOkupM0wapmq รับชมแล้วก็กดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้หนุ่มโตโน่กันด้วยนะ

‘นายกฯ’ ยินดี!! ‘แอนโทเนีย’ คว้ารอง 1 Miss Universe 2023 ขอบคุณที่เป็นตัวแทนประเทศ เผยแพร่ Soft Power ไทยสู่เวทีโลก

(19 พ.ย.66) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความยินดีกับนางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ตัวแทนประเทศไทย ที่สามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Miss Universe 2023 ในการประกวดนางงามจักรวาล ครั้งที่ 72 รอบตัดสิน (Final Competition) ที่จัดขึ้น ณ ยิมเนเซียมแห่งชาติ ในกรุงซานซัลวาดอร์ ประเทศเอลซัลวาดอร์ เช้าวันนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) 

“นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดี ชื่นชมและขอบคุณแอนโทเนีย โพซิ้ว ที่ทำได้ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยอย่างดีที่สุด จนสามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Miss Universe 2023 ซึ่งในการประกวดครั้งนี้ แอนโทเนียยังได้เผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์วัฒนธรรมไทยที่งดงามโดดเด่นแก่สายตาชาวโลก โดยเฉพาะชุดแต่งกายประจำชาติ ‘เทพธิดาอาณาจักรอยุธยา’ ที่ได้รับแรงบันดาลจากรูปปั้นพระแม่ธรณีในช่วงยุคสมัยอยุธยาของอาณาจักรสยามที่มีอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 14 ถึง 18 ทั้งนี้ ถึงแม้แอนโทเนียจะไม่ได้สวมมงกุฎนางงามจักรวาล แต่การที่แอนโทเนียสามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Miss Universe 2023 ก็เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีระดับโลก ได้ใจคนไทยทั้งประเทศและทำให้คนไทยภาคภูมิใจอย่างมาก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว   

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แสดงความยินดีกับ แอนโทเนีย โพซิ้ว ที่สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Miss Universe 2023  ระบุว่า...

"ขอแสดงความยินดี ชื่นชมและขอบคุณ คุณแอนโทเนีย โพซิ้ว ที่ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยได้เป็นอย่างดีมากครับ จนสามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Miss Universe 2023 

ชุดแต่งกายประจำชาติ ‘เทพธิดาอาณาจักรอยุธยา’ งดงาม โดดเด่นมากจริงๆ ครับ เสริมสร้างความเป็นไทยได้ไม่มีที่ติจริงๆครับ ยินดีด้วยมาก ๆ ครับ"

19 พฤศจิกายน ของทุกปี กำหนดเป็น ‘วันส้วมโลก’ หรือ ‘วันสุขาโลก’ รณรงค์ให้ตระหนักถึงสุขอนามัยการใช้ส้วม

‘วันส้วมโลก’ (World Toilet Day) หรือวันสุขาโลก ได้ถูกตั้งขึ้นโดยองค์การส้วมโลก (World Toilet Organization หรือ WTO) เป็นองค์การไม่แสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 กับประเทศสมาชิก 15 ประเทศ เพื่อดำเนินการปรับปรุงส้วมและสุขอนามัยทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ห้องส้วมมากกว่าด้านประปา ซึ่งต้องการให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาของสุขาภิบาล ความสำคัญของความสะอาดของห้องน้ำห้องส้วม และให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของสาธารณสุขมากขึ้น เนื่องจากยังมีผู้คนทั่วโลกอีกมากมายที่ยังใช้ส้วมที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่ โดยใช้ความพยายามกว่า 12 ปี ในการดำเนินงาน

จนกระทั่งวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ในที่ประชุมของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้มีมติเห็นชอบให้บรรจุวันส้วมโลกอยู่ในวันของสหประชาชาติ และ กำหนดวันที่ 19 พฤศจิกายน ของทุก ๆ ปี เป็นวันสุขาโลก เพื่อเรียกร้องให้สมาชิกช่วยกันส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และออกนโยบายเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ที่สามารถเข้าถึงระบบสุขาภิบาล และหยุดการถ่ายอุจจาระในที่เปิดโล่ง และวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ได้มีมติอย่างเป็นทางการ เพื่อเน้นย้ำแสดงให้เห็นถึงชะตากรรมของผู้คนถึง 2.5 พันล้านคน ที่ยังไม่มีห้องน้ำขั้นพื้นฐาน ตามที่สหประชาชาติเคยกล่าวไว้ว่า ในบรรดาประชาชน 7 พันล้านคนของโลก มีเพียง 4.5 พันล้านคนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงห้องสุขาหรือส้วมได้ และมีอีก 1,100 ล้านคน ที่ยังขับถ่ายในที่สาธารณะ ซึ่งคุกคามต่อการสาธารณสุข

นอกจากนี้ ยังมีรายงานขององค์กรการกุศลวอเตอร์เอด (WaterAid) ที่เผยแพร่ออกมาก่อนวันส้วมโลกประจำปี 2018 ระบุว่า ‘เอธิโอเปีย’ ขึ้นแท่นเป็นประเทศที่ขาดแคลนห้องน้ำมากที่สุดในโลก ปัจจุบันชาวเอธิโอเปียส่วนใหญ่ต้องถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระในพื้นเปิดข้างทาง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นการแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และพยาธิต่าง ๆ ลงสู่แหล่งน้ำ และคุกคามต่อระบบสาธารณสุขท้องถิ่น ทั้ง ๆ ที่การเข้าถึงห้องน้ำเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน 

พร้อมทั้งแสดงให้เห็นด้วยว่า ประชากร 2.3 พันล้านคนทั่วโลกยังคงขาดแคลนห้องน้ำที่บ้าน มากไปกว่านั้น อีกหนึ่งข้อมูลน่าตกใจจากรายงานคือ เกือบ 1 ใน 5 ของโรงเรียนประถม และ 1 ใน 8 ของโรงเรียนมัธยมทั่วโลกก็ปราศจากห้องน้ำเช่นกัน ทำให้เด็กนักเรียนจำนวน 620 ล้านคน ต้องตกอยู่ท่ามกลางอันตราย

ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงให้ความสำคัญกับการสร้างสุขอนามัยของห้องส้วมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของห้องน้ำห้องส้วมภายในบ้าน และในที่สาธารณะ เช่น ปั๊มน้ำมัน วัด โรงเรียน สำนักงาน และสถานที่ราชการ ฯลฯ เพื่อสกัดไม่ให้การขับถ่ายที่ไร้สุขอนามัยส่งผลเสียกับแม่น้ำ ทะเลสาบ และมหาสมุทรโดยตรง เพราะหวั่นกลัวว่าสิ่งเหล่านี้จะหวนกลับเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอีก แต่ในปัจจุบันจากการดำเนินงานพัฒนาส้วมและการจัดการสิ่งปฏิกูลในประเทศไทยของกรมอนามัยตลอดหลายปี ก็เผยให้เห็นว่า ในประเทศไทย ครัวเรือนมีส้วมใช้และถูกสุขลักษณะ จำนวน 20.3 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 99.8% อีก 0.2% หรือ จำนวน 40,729 ครัวเรือน ยังไม่มีส้วม หรือเป็นส้วมที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและยากลำบากในการเข้าถึงเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top