Tuesday, 23 April 2024
LITE

‘Miami Hotel’ โรงแรมสุดวินเทจกลางกรุง อายุเกือบ 60 ปี หมุดหมายถ่ายทำซีรีส์ดัง ‘The Serpent’ จาก Netflix

เมื่อปลายปี 2022 (พ.ศ. 2565) ศาลสูงเนปาลได้ประกาศปล่อยตัว ‘ชาร์ลส์ โสภราช’ ฆาตกรต่อเนื่อง 30 ศพ เจ้าของฉายา ‘นักล่าอสรพิษ’ และ ‘นักฆ่าบิกินี’ ผู้ถูกคุมขังเกือบ 20 ปี ออกจากเรือนจำเนปาลด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ

การประกาศปล่อยตัวครั้งนี้ทำให้ผู้คนนึกย้อนถึงวีรกรรมสุดเหี้ยมโหดของชายที่ชื่อ ‘ชาร์ลส์ โสภราช’ ที่ครั้งหนึ่งเคยเข้ามาในประเทศไทย และก่อเหตุฆาตกรรม มีเหยื่อเคราะห์ร้ายกว่า 14 ราย เท่านั้นยังไม่พอยังได้ลงมือฆาตกรรมเหยื่อในประเทศอื่น ๆ เช่น เนปาล อินเดีย มาเลเซีย ฝรั่งเศส อัฟกานิสถาน ตุรกี และกรีซ คาดว่ามีเหยื่อทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 30 ราย

เรื่องราวของ ‘ชาร์ลส์ โสภราช’ ถูกนำมาทำละคร นวนิยายหลายครั้ง ในปี 2563 ก็ได้ถูกหยิบยกมาทำเป็นซีรีส์ในชื่อ ‘The Serpent’ หรือ ‘นักฆ่าอสรพิษ’ ออกฉายทาง Netflix มีจำนวน 8 ตอน โดยสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ส่วนใหญ่อยู่ใน ‘ประเทศไทย’

วีรกรรมของ ‘ชาร์ลส์ โสภราช’ ในประเทศไทยเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970 ทำให้กองถ่าย The Serpent ต้องคัดเลือกโลเคชันถ่ายทำอย่างพิถีพิถัน เพื่อภาพที่ฉายออกมาจะได้ทำหน้าที่พาผู้ชมย้อนเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หนึ่งในโลเคชันสวย ๆ ในซีรีส์ The Serpent ก็คือโรงแรม ‘Miami Hotel’ โรงแรมยุค Mid Century Vintage ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 13 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ ซึ่งมีหลายฉากหลายซีนที่ถ่ายทำกันที่โรงแรมแห่งนี้ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า แต่ละฉากที่ออกมา สวยงาม และสมจริงสุด ๆ ส่วนจะมีฉากไหนบ้าง ต้องตามไปดูใน Netflix กันนะ

ภาพระหว่างถ่ายทำซีรีส์ในปี 2563

สำหรับ ‘Miami Hotel’ ก่อตั้งโดยคุณบัญชา และคุณมาลี แซ่ตั้ง (ตัณศิริชัยยา) เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ส่วนเหตุผลที่ใช้ชื่อว่า ‘Miami Hotel’ ก็เพราะในช่วงนั้นมีชาวต่างชาติเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งทหารอเมริกันที่เดินทางมาพักผ่อนที่ไทยก่อนจะไปปฏิบัติภารกิจในสงครามเวียดนาม (ยุคสงครามเวียดนาม) เจ้าของกิจการโรงแรมในสมัยนั้นจึงนิยมหยิบชื่อเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐฯ มาตั้งเป็นชื่อโรงแรม จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการต้อนรับลูกค้าต่างชาติ และก็ง่ายต่อการจดจำด้วย

แต่เหตุผลไม่ได้มีเพียงเท่านี้ อีกสาเหตุก็คือ ในปีที่เปิดดำเนินกิจการโรงแรม ได้มีการจัดประกวดนางงามจักรวาลที่หาดไมอามี่ สหรัฐฯ และในปีนั้นนางงามตัวแทนประเทศไทยคือ ‘อภัสรา หงสกุล’ ซึ่งสามารถคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลคนแรกของประเทศไทยด้วย ทำให้ชื่อเสียงประเทศไทย และไมอามี่ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ โลโก้ของโรงแรมยังได้แรงบันดาลใจมาจากมงกุฎนางงามจักรวาลอีกด้วย

แม้ว่า ‘Miami Hotel’ จะเปิดให้บริการมายาวนาน ผ่านยุคสมัยและกาลเวลามาเกือบ 60 ปี แต่ในปัจจุบันก็ยังคงดำเนินกิจการ ต้อนรับลูกค้าอยู่ แต่การตกแต่งภาย วัสดุ สี และบรรยากาศยังใกล้เคียงกับโรงแรมเมื่อแรกสร้าง มีการบำรุงรักษา และต่อเติมอาคาร ให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของอาคารสาธารณะ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนคุณค่าทางสถาปัตยกรรม 

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ ‘Miami Hotel’ ได้รับเลือกเป็น 1 ในงานอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมและชุมชน จาก สมาคมสถาปนิกสยาม ปี 2563 ด้วย

สำหรับใครที่อยากไปตามรอยซีรีส์ The Serpent หรือกำลังมองหาโรงแรมเก๋ๆ พักผ่อนช่วงวันหยุด ก็สามารถโทรสอบถาม-จองห้องได้ที่เบอร์ 02 253 5611 หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/thaimiamihotel

การได้เห็นสถานที่ในประเทศไทย กลายเป็นหมุดหมายถ่ายทำภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่างชาติ ก็รู้สึกภูมิใจไม่น้อย หนึ่งสิ่งที่ชัดเจนคือดีใจที่ประเทศไทยในมุมต่าง ๆ ได้เผยโฉมสู่สายตาชาวโลก แม้จะถูกดัดแปลง ตกแต่ง เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทถ่ายทำก็ตาม แต่เชื่อหาก เมื่อชาวต่างชาติ หรือแม้แต่คนไทยด้วยกันเห็น ก็คงต้องกลับมาเยือนกันสักครั้งเป็นแน่

11 กุมภาพันธ์ ของทุกปี กำหนดเป็น ‘วันเสื้อยืดขาว’ รำลึกการประท้วงจ้างงานไม่เป็นธรรม

รู้หรือไม่ เสื้อยืดขาวมีประวัติความเป็นมาสำคัญอย่างไร…ทุกวันที่ 11 กุมภาพันธ์ จะถือเป็นวันเสื้อยืดขาว (White T-Shirt Day) เพื่อรำลึกถึงจุดสิ้นสุดของการประท้วงของพนักงานของบริษัทเจอเนอรัลมอเตอร์ส (General Motors) เพื่อเรียกร้องสวัสดิการและสภาพการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2480 ด้วยวิธีนั่งลงและหยุดทำงานใดๆ โดยสิ้นเชิงภายในบริเวณโรงงาน โดยคนรุ่นหลังสามารถรำลึกถึงวีรกรรมที่ส่งผลดีด้านสวัสดิภาพแรงงานนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาได้ด้วยการสวมเสื้อยืดสีขาวในวันนี้

10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ครบรอบ 70 ปี วันคล้ายวันสถาปนา ‘กองอาสารักษาดินแดน’

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ของทุกปี กำหนดให้เป็น ‘วันอาสารักษาดินแดน’

ทั้งนี้ ‘กองอาสารักษาดินแดน’ มีฐานะเป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 นับเป็นเวลายาวนานถึง 70 ปี มาแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีกำลังสำรองในการช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ทั้งในยามปกติ และในยามสงคราม โดยการรับสมัครจากราษฎรชายหญิงที่สมัครใจอาสาเข้ามาเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ภายใต้สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยแบ่งส่วนราชการกองอาสารักษาดินแดนออกเป็น 2 ส่วน คือ

1. ส่วนกลาง มีกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน (บก.อส.) รับผิดชอบการบริหารงานในส่วนกลาง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บัญชาการ

2. ส่วนภูมิภาค มีกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด (บก.อส.จ.) รับผิดชอบการบริหารงานในส่วนภูมิภาค โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด และกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ (กองร้อย อส.อ.) โดยนายอำเภอเป็นผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ เป็นผู้ควบคุมบังคับบัญชา  

โดยมีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ กองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 ดังนี้

1.) บรรเทาภัยที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทําของข้าศึก
2.) ทําหน้าที่ตํารวจรักษาความสงบภายในท้องที่ร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ
3.) รักษาสถานที่สําคัญและการคมนาคม
4.) ป้องกันจารกรรม สดับตรับฟังและรายงานข่าว
5.) ทําการช่วยให้ความสะดวกแก่ฝ่ายทหารตามที่ทหารต้องการ และตัดทอนกําลังข้าศึก
6.) เป็นกําลังสํารองส่วนหนึ่งที่พร้อมจะเพิ่มเติมและสนับสนุนกําลังทหารได้เมื่อจําเป็น

นอกจากการทำหน้าที่ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 แล้ว ยังมีหน้าที่ภารกิจตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย โดยทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายปกครองในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย จวบจนวันนี้ 10 กุมภาพันธ์ 2567 นับเป็นเวลา 70 ปี ของเหล่าสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกับการทำหน้าที่ด้วยปณิธานที่แน่วแน่ “ปวงข้าฯ อส. ขอตั้งสัจจา จะปกป้องพารา จนสิ้นใจ” ถือเป็นการทำงานของผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง

‘สมุทรสาคร’ เกาะกระแส!! เปิดตัว ‘กางเกงปูก้ามดาบ’ โชว์อัตลักษณ์ศิลปะ วิถีชีวิต ระบบนิเวศของจังหวัด

(9 ก.พ.67) เปิดตัว 'กางเกงลายปูก้ามดาบ' ผลักดันให้เป็นลวดลายประจำ จ.สมุทรสาคร โดยลวดลายต่าง ๆ บนกางเกงจะมีเรื่องเล่าอันแสดงถึงอัตลักษณ์ทางศิลปะ วิถีชีวิตและระบบนิเวศของสมุทรสาคร ซึ่งประกอบด้วย

>> ลายป่าชายเลน

เป็นลวดลายของต้นโกงกาง สัญลักษณ์แห่งพืชพันธ์ุป่าชายเลน บนเส้นโค้งลงล่างเป็นตัวแทนของพื้นที่น้ำท่วมถึงอย่างชายเลน และหยดน้ำที่แสดงถึงความชุ่มชื่น ประกอบกันเป็นป่าชายเลน แหล่งอาหารสำคัญของท้องสมุทร

>> ลายคลื่นน้ำ 3 ระลอก

เป็นลวดลายของคลื่นน้ำผสานเข้ากับลายเส้นตัดแหลมคล้ายลายกนก จำนวน 3 ระลอก ตลอดแนวชายฝั่ง แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเล ความท้าทายของคลื่นลมที่มีต่อวิถีชีวิตการประมงอันนำมาซึ่งอาหารทะเล และความเป็นพื้นที่ติดทะเล ซึ่งติดกับทะเลตลอดแนวชายฝั่งจากตะวันตกสุดของจังหวัด จนถึงตะวันออกสุดของจังหวัด

เป็นลวดลายแสดงถึงความสำคัญของปูก้ามดาบในระบบนิเวศป่าชายเลน โดยปูก้ามดาบนอกจากจะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนเช่นเดียวกับปลาตีนแล้ว ยังมีหน้าที่เสริมในการเป็น ‘เทศบาล’, ‘ผู้เฝ้ายาม’ และ ‘ผู้ผลิตอาหาร’ แห่งป่าชายเลนด้วย โดยปูก้ามดาบจะกินซากพืช ซากสัตว์เป็นอาหาร และผ่านกระบวนการย่อยสลาย ขับถ่ายออกมาเป็นมูล ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณค่าทางสารอาหารสำหรับสัตว์ทะเลขนาดเล็กๆ และเมื่อถูกน้ำทะเลชะล้างก็จะสลายตัวเป็นอาหารให้แก่เหล่าแพลงตอน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของห่วงโซ่อาหารอีกด้วย อีกทั้งปูก้ามดาบยังเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณพิเศษ แสดงพฤติกรรมปิดปากหลุม กลายเป็นการเตือนภัยก่อนน้ำขึ้นด้วย

>> ลายคลื่นน้ำ 3 เส้น

เป็นลวดลายของคลื่นน้ำ จำนวน 3 เส้น แสดงถึงพื้นที่และสมญานาม ‘เมือง 3 น้ำ’ ประกอบด้วย น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำเกษตรและประมงอันหลากหลายในพื้นที่
ลายปูก้ามดาบใหญ่

>> ลายปูก้ามดาบใหญ่

เห็นเด่นชัด ซึ่งเป็นทำท่าทางคล้ายการแสดงความรักแบบเกาหลี เป็นตัวแทนของการรณรงค์ให้พวกเราช่วยกันบำรุงรักษาและดูแลระบบนิเวศป่าชายเลนให้คงอยู่กับพวกเราตลอดไป

‘บอสณวัฒน์’ ประกาศขึ้นค่าตัว ‘อิงฟ้า’ 1 มี.ค.นี้ หลังเปิดตัวเล่นซีรีส์ กระแสตอบรับล้นหลาม

หลังจากที่ อิงฟ้า วราหะ ได้ร่วมเงินเปิดตัวซีรีส์เรื่องใหม่ของ OneD Original 2024 ในเรื่อง ‘บางกอกคณิกา’ ซึ่ง อิงฟ้า วราหะ ได้รับบทเป็น ‘กุหลาบ’ โสเภณีสาวสวยในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกได้ว่ากระแสการเปิดตัวปังมากและมีเสียงชื่นชมในโลกโซเชียลกันอย่างมากมาย มีแฟนคลับที่ไปซัปพอร์ตอย่างล้นหลาม

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (8 ม.ค. 67) ณวัฒน์ อิสรไกรศีล บอสใหญ่แห่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ก็ได้ประกาศขอปรับค่าตัว อิงฟ้าวราหะ โดยระบุว่า “ปังมาก MGI ขอปรับขึ้นค่าตัว อิงฟ้า สำหรับงานอีเวนต์และพรีเซนเตอร์ของอิงฟ้า เริ่มตั้งแต่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไปครับ ใครได้เรตปัจจุบันต้องคอนเฟิร์มภายในสิ้นเดือนนี้ครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ”

9 กุมภาพันธ์ ของทุกปี กำหนดให้เป็น ‘วันพิซซ่า’  อาหารอิตาลีที่โดนใจคนทั่วโลก

รู้หรือไม่ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถือเป็นวันพิซซ่า (Pizza) วันแห่งการร่วมเฉลิมฉลองพิซซ่า อาหารอิตาลีชื่อดังที่คนทั่วโลกต่างหลงใหล ซึ่งมีลักษณะเป็นแป้งแผ่นกลมแบนราดด้วยซอสมะเขือเทศ แล้วทำให้สุกโดยการอบในเตาอบ

พิซซ่า (Pizza) เป็นอาหารอิตาลีและอาหารจานด่วนประเภทหนึ่งที่ชาวอิตาลีเป็นผู้คิดค้น มีลักษณะเป็นแป้งแผ่นกลมแบนราดด้วยซอสมะเขือเทศ แล้วทำให้สุกโดยการอบในเตาอบ โดยในประเทศอิตาลีจะมีการเสิร์ฟพิซซ่าในโอกาสที่เป็นทางการ เช่น การทานในภัตตาคาร ซึ่งจะเสิร์ฟโดยไม่หั่นและจะรับประทานโดยใช้มีดและส้อม ในขณะที่ชาวอิตาเลียนโดยทั่วไป เมื่อรับประทานพิซซ่าในโอกาสที่ไม่เป็นทางการ เช่น ทานกันเองที่บ้าน พิซซ่าจะถูกหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำและนิยมทานโดยใช้มือ

จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ พบว่า พิซซ่า ได้รับการบันทึกครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 10 ในบันทึกเอกสารภาษาละติน ณ เมืองกาเอตา (Gaeta) ทางตอนใต้ของอิตาลีในแคว้นลัตซีโอ บนพรมแดนติดกับกัมปาเนีย โดยพิซซ่าสมัยใหม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นในเนเปิลส์ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

พิซซ่าได้กลายเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมที่สุดในโลกและเป็นรายการอาหารจานด่วนที่หาทานได้ทั่วไปในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ โดยหาทานได้ง่ายทั้งในร้านที่ขายพิซซ่าโดยเฉพาะ (Pizzerias), ในภัตตาคารอาหารตะวันตกทั่วไป และในรูปแบบของการจัดส่ง (Delivery) ซึ่งหลายบริษัทได้มีการจำหน่ายพิซซ่าในรูปแบบแช่แข็ง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการนำเข้าไมโครเวฟพร้อมทานได้ทันที

ทั้งนี้ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Associazione Verace Pizza Napoletana (True Neapolitan Pizza Association) ซึ่งได้ก่อตั้งในปี ค.ศ.1984 ได้จดทะเบียนกับสหภาพยุโรปเพื่อรับรองให้พิซซ่าเป็นอาหารที่มีความพิเศษและสะท้อนถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมของผู้ผลิต และในปี ค.ศ.2017 ศิลปะการทำพิซซ่าได้ถูกรวมให้อยู่ในรายการมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก

8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ครบรอบ 4 ปี ‘จ่าคลั่ง’ ก่อเหตุกราดยิงที่โคราช หนึ่งในโศกนาฏกรรม ครั้งเลวร้ายที่สุดของไทย

เรียกว่ายังคงจำฝังใจคนไทย สำหรับเหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2563 เป็นเหตุกราดยิงในจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 กรณีจ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ใช้ปืนยิงผู้บังคับบัญชาและญาติถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีเข้ามาในตัวเมือง กราดยิงผู้คนตามรายทาง ก่อนเข้าไปซ่อนตัวหลบอยู่ในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จับบุคคลในห้างเป็นตัวประกัน

สำหรับเหตุการณ์ในวันนั้นเริ่มขึ้น เวลาประมาณ 15.30 น. 8 กุมภาพันธ์ 2563 จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ใช้ปืนยิงผู้บังคับบัญชา คือ พันเอก อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี ผู้บังคับกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ยายของพันเอก อนันต์ฐโรจน์ ถึงแก่ความตายที่บ้านพักในตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ขณะที่นายหน้าวิ่งหนีไป จึงถูกไล่ยิงเข้าข้างหลังแต่ไม่เสียชีวิต

จากนั้น จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ไปชิงอาวุธสงครามออกมาจากคลังอาวุธกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ตำบลไชยมงคล โดยยิงทหารเวรกองรักษาการณ์ และทหารดูแลคลังอาวุธ มีพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิตอีก 1 นาย ต่อมา จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ขับรถฮัมวีหลบหนีออกไปทางด้านหลังค่าย มุ่งไปทางวัดป่าศรัทธารวม ตำบลหัวทะเล เพราะทราบว่าภรรยาของผู้บังคับบัญชาออกไปทำบุญที่วัดป่าศรัทธารวม ได้กราดยิงผู้คนตามรายทางถึงแก่ความตายรวม 9 คน คนร้ายกราดยิงกระสุนนับร้อยนัด โดยยิงคนในรถเสียชีวิตและบาดเจ็บ และยังยิงเด็กนักเรียนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ แถมเดินไปยิงซ้ำอีก จากนั้นมีตำรวจมา 2 นาย ไม่ทันลงจากรถก็ถูกยิงจนพรุนเสียชีวิต แต่ปรากฏว่าได้ทราบว่าภรรยาของผู้บังคับบัญชาไปกินข้าวที่เทอร์มินอล 21 โคราช

จ่าสิบเอก จักรพันธ์ จึงได้ขับรถเข้าไปในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา มุ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา โดยกราดยิงผู้คนตามรายทาง และจับผู้คนในห้างเป็นตัวประกัน ทั้งยิงถังแก๊ส ทำให้เกิดระเบิดและเพลิงลุกไหม้ในห้าง

จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ยังถ่ายทอดสดตนเองขณะก่อเหตุลงเฟซบุ๊กของตัวเองอีกด้วย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมในเช้าวันถัดมา สรุปมีผู้เสียชีวิต 31 คน บาดเจ็บ 58 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 32 คน เหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย…

7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2483 ‘พินอคคิโอ’ ภาพยนตร์แอนิเมชันรางวัลออสการ์ ออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก

พินอคคิโอ (Pinocchio) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดยาวเรื่องที่สองของวอลท์ ดิสนีย์ โดยได้ออกฉายครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2483 โดยฝีมือการกำกับโดย Ben Sharpsteen

ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องพินอคคิโอ เป็นเรื่องราวการผจญภัยของหุ่นไม้ที่มีชีวิต กับพ่อผู้ยากจนของเขา เจปเปตโต ซึ่งเป็นช่างไม้ โดนลักษณะเด่นของหุ่นไม้มีชีวิตพินอคคิโอ มีที่รู้จักกันดี คือ เมื่อใดที่พูดโกหก จมูกของเขาจะยาวขึ้น

โดยเนื้อเรื่องแต่เดิมนั้น กอลโลดี นักประพันธ์ชาวอิตาเลียนนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะเขียนเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องสำหรับเด็กตั้งแต่แรก เพราะในเนื้อเรื่องดั้งเดิม พินนอคคิโอ ปิดฉากลงด้วยการถูกแขวนคอตาย เนื่องจากทำความผิดนับครั้งไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการแก้ไขในฉบับถัดมา ซึ่งตอนจบนั้น ได้แก้ให้หุ่นกระบอกนั้นกลายเป็นเด็กที่มีชีวิตจริงๆ ซึ่งก็เป็นตอนจบที่เรารู้จักกันดี

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้รางวัลชนะเลิศรางวัลออสการ์ ใน 2 สาขา ได้แก่ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์พินอคคิโอ เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในตำนาน ที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็กและได้กลายเป็นภาพยนตร์ในดวงใจของใครหลายๆ คนมาจนถึงทุกวันนี้

'เพจดัง' แชร์ทัศนคติดีๆ จากรายการ 'มาวินฟินเฟ่อร์' ร้านไหนไม่ดัง ต้องผลักดัน ร้านไหนไม่เจ๋งจริง ก็ไม่ต้องซ้ำเติม

(6 ก.พ.67) จากเพจ 'หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ' ได้โพสต์ข้อความจากบทสัมภาษณ์ของ 'วิน-มาวิน ทวีผล' นักแสดงนายแบบและพระเอกตัวจริงของ 'ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์' ผู้จัดคนเก่งแห่งอาณาจักรมาลีนนท์ ซึ่งทั้งคู่ได้มาร่วมทำรายการด้วยกันชื่อ 'มาวินฟินเฟ่อร์' ระบุว่า...

"...ผมคุยกับตู่เสมอว่า ถ้าร้านไหนดัง ๆ เราจะไม่ไปเหยียบถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ อย่างเช่นเค้าเรียนเชิญมา เราถึงจะยอมไป เพราะว่าเค้าดังแล้วเราจะไปทำไม เค้าไม่ต้องมีเรา เค้าก็มีโอกาส...

"แต่คนที่เค้าไม่มีโอกาสคือ คนที่อยู่ข้างทางครับ บางทีเราขับรถผ่าน เห็นรถเข็นตายายขายกันสองคนก็จะแบบลงไปชิมซิว่าอร่อยไหม ถ้าอร่อยเราก็ถ่ายเลย พอถ่ายเสร็จผมก็จะบอกตายายว่า ตายายไม่รู้จักผมไม่เป็นไร แต่ตั้งตัวและเตรียมตัวไว้นะครับ พรุ่งนี้มันจะเกิดบางอย่างเกิดขึ้นกับเค้า...

"และเวลาที่ผมไปร้านไหน ถ้าเค้าไม่มีโอกาส ผมไม่เคยไปครั้งเดียว ผมไปหลายครั้ง เอาจนกว่าเค้าจะมีตัวตนให้ได้ เราต้องสร้างเค้าให้ได้ การสร้างคือสร้างให้เค้ามีอาชีพ ให้เค้ายั่งยืน ถ้าเมื่อไหร่เค้ายั่งยืนได้ ผมจะมีความสุขมาก..."

#หัวใจและทัศนคติดีมาก ♥️

ศาลเจ้ากวนอู หลักสอง!! ศาลเจ้าดังคู่เมืองตรัง  'คนจีน-สิงคโปร์' ต่างนิยมมาทำพิธีแก้ชงประจำปี

'ศาลเจ้ากวนอู หลักสอง' ตั้งอยู่ที่ถนนห้วยยอด ตรงข้ามโชว์รูมโตโยต้าเมืองตรัง จ.ตรัง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 นาที ซึ่งคนตรังจะคุ้นกันในชื่อ 'โรงพระ หลักสอง' เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 2 ก่อนเข้าตัวเมืองตรังพอดิบพอดี

ที่มาของศาลเจ้าแห่งนี้ เริ่มจากชาวจีนกวางตุ้งนามว่า นายจุงหว่าซัน ซึ่งมาอาศัยอยู่ในเมืองตรังเกิดล้มป่วยเรื้อรังอยู่นาน ต่อเมื่อขอพรจากเทพกวนอูก็สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยจนหายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยความศรัทธานับถืออย่างมาก นายจุงหว่าซัน พี่ชายของนายพาก วัฒนะจันทร์ (ตระกูลวัฒนะจันทร์ในปัจจุบัน) จึงบริจาคที่ดินสวนมะพร้าวริมถนนห้วยยอดของตนเอง เพื่อสร้างเป็นศาลเทพเจ้ากวนอู และได้อัญเชิญเทพกวนอูเข้าประทับในปี พ.ศ.2515 จากนั้นมาศาลเจ้าพ่อกวนอูหลักสอง ก็กลายเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวบ้านในท้องถิ่นมาจนถึงทุกวันนี้

ในอดีต ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยและเดินทางมาให้เทพกวนอูได้รักษา จะพำนักค้างแรมที่เรือนคุณธรรม ซึ่งเป็นอาคารอเนกประสงค์ 1 ชั้น ที่ทางศาลเจ้าสร้างไว้บริการประชาชนที่เดินทางมาจากสถานที่ไกลๆ เพื่อมาขอพรและเคารพสักการะ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย  60 ปีผ่านไป ปัจจุบันเรือนคุณธรรมได้ถูกบูรณะปรับปรุงใหม่ด้วยเงินบริจาคของลูกหลานและผู้มีจิตศรัทธา เพื่อรองรับการช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ 

จากประตูทางเข้าศาลเจ้ากวนอูหลักสอง เมื่อเดินเข้ามาจากประตูหน้าทางเข้าศาลเจ้า เราจะเห็นต้นงิ้วสูงใหญ่โดดเด่นเป็นสง่า ซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติเด่นตระหง่านอยู่ทางขวามือทางเข้า และเนื่องจากองค์เทพเจ้ากวนอู หรือ กวน ยฺหวี่ (關羽) ผู้มีใบหน้าสีแดงนั้นเป็นเทพแห่งความซื่อสัตย์ ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าต้นงิ้วใหญ่ต้นนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนมีความซื่อสัตย์สุจริตในการดำรงชีวิต

แม้ในจังหวัดตรังจะมีศาลเทพกวนอูอยู่ด้วยกันหลายแห่ง แต่ศาลเจ้าพ่อกวนอูหลัก 2 ก็ถือเป็นศาลเก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบจีนตอนใต้ ภายในศาลนั้นเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าและพระโพธิสัตว์หลายพระองค์ ซึ่งได้แก่เทพกวนอู ที่อยู่ในปางสำเร็จเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ รายล้อมด้วยบริวาร คือ 'กวนเป๋ง' ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรม (ขวา) และ 'จิวฉอง หรือ จิวชัง' ซึ่งเป็นขุนศึกคู่ใจ (ซ้าย) ประทับอยู่ในศาลองค์ประธาน ตามด้วยศาลรองประธานซึ่งเป็นที่ประทับของเทพไฉ่สิ่งเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ และเทพฮั่วท้อเซียงซือ หรือหมอฮูโต๋ อีกทั้งบริเวณรอบๆ ยังมีจุดไหว้พระและองค์เทพอื่นๆ อีก เช่น พระม้าเช็กเทา ศาลเจ้าแม่กวนอิม และพระสังกัจจายน์ เป็นต้น

ตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวจีน เทพกวนอูได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ ความกตัญญูรู้คุณ ความกล้าหาญ และคุณธรรม โดย กวนอู เป็นหนึ่งในยอดขุนพลในวรรณกรรมเรื่องสามก๊กที่มีชีวิตอยู่เมื่อราว 1,800 ปีก่อน ตามประวัติเล่าว่า องค์กวนอูเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคัมภีร์พิชัยสงคราม ต่อมาได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับเล่าปี่ และร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาจนสร้างวีรกรรมมากมาย 

ภายหลังกวนอูพลาดท่าโดนฝ่ายซุนกวนจับตัวได้ ซุนกวนพยายามหว่านล้อมให้ท่านยอมสวามิภักดิ์ แต่ด้วยความซื่อสัตย์และภักดีต่อเล่าปี่ทำให้ท่านปฏิเสธ ท่านจึงถูกประหารพร้อมกับกวนเป๋งผู้เป็นบุตรบุญธรรม

ด้วยคุณธรรมตามตำนานที่กล่าวมา ชาวจีนจึงยกย่ององค์กวนอูขึ้นเป็นเทพแห่งความซื่อสัตย์และจงรักภักดี โดยมักทำพิธีบูชาก่อนออกทะเลไปค้าขายต่างบ้านต่างเมืองเสมอ เพราะเชื่อกันว่าการยึดถือความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ รักเพื่อนพ้อง และยึดมั่นในคุณความดี จะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยและทำการค้าขายสำเร็จดังหวัง 

นอกจากความศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้ากวนอูอันเป็นที่เลื่องชื่อลือชาให้คนมากราบไหว้แล้ว ศาลเจ้ากวนอูแห่งนี้ ยังโด่งดังในเรื่องการทำพิธีแก้ชง เพื่อสะเดาะเคราะห์ประจำปี ตามแบบฉบับจีนโบราณ ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีนและชาวสิงคโปร์เป็นอย่างมาก ซึ่งชาวสิงคโปร์บางคณะได้เดินทางมาเพื่อสักการะศาลเจ้าแห่งนี้เป็นประจำทุกปีอีกด้วย

ศาลเจ้ากวนอูหลักสองแห่งนี้ จึงถึงเป็นอีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่ลูกหลานชาวตรังได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ปัจจุบัน ได้มีการบูรณะหอเทวดาและการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่หอเทวดา ด้วยศิลปะแบบจีนโบราณ โดยจิตรกรมือหนึ่งของ จ.ตรัง อายุ  80 ปี เพื่อสืบทอดศิลปะและมรดกทางวัฒนธรรมนี้ไว้จนชั่วลูกชั่วหลาน

ท่านใดที่อยากแวะมาไหว้เทพเจ้ากวนอูเพื่อขอพรเพื่อเสริมสิริมงคล หรือสนใจมาเที่ยวชมศิลปะและวัฒนธรรมแบบจีน สามารถมาได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึง 17.00 น. 

6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 ‘โศกนาฏกรรมมิวนิค’ เครื่องบินไถลชนขอบรันเวย์ พรากชีวิตนักเตะปีศาจแดง-เจ้าหน้าที่ รวม 23 ราย

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 นักเตะ 8 คน และเจ้าหน้าที่อีก 3 คน ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ‘ปีศาจแดง’ ต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินระเบิดในมิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวมจากเหตุการณ์นี้ทั้งหมด 23 ราย

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากพวกเขาบินกลับจากการแข่งขันกับเรดสตาร์เบลเกรดในเกมยูโรเปียนคัพ ซึ่งเครื่องบินของพวกเขาได้แวะจอดเติมเชื้อเพลิงในมิวนิค และพยายามขึ้นบินท่ามกลางพายุหิมะ ซึ่งนักบินได้ล้มเลิกการขึ้นบินกลางคันแล้ว 2 ครั้ง และในความพยายามขึ้นบินครั้งที่ 3 นี่เองที่ทำให้เกิดหายนะขึ้น เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ชนรั้วสนามบินจนเกิดการระเบิด

ผู้โดยสาร 21 รายได้เสียชีวิตทันทีหลังเกิดเหตุระเบิด กัปตันผู้บังคับเครื่องบิน เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ส่วนดันแคน เอ็ดเวิร์ด หนึ่งในนักเตะแมนยูฯ เสียชีวิตหลังเกิดเหตุได้ 15 วัน

ขณะที่ แมตต์ บัสบี ผู้จัดการทีม และบ็อบบี ชาร์ลตัน ซึ่งอายุเพียง 20 ปี ในขณะนั้น เอาชีวิตรอดมาได้ และมีส่วนในความสำเร็จครั้งใหญ่ในการสร้างทีมใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง และสามารถคว้าถ้วยยูโรเปียนคัพมาครองได้สำเร็จในอีก 10 ปีต่อมา

ผู้ผลิตกางเกงลายช้างเชียงใหม่ไม่หวั่น ‘จีน’ ผลิตแข่ง ลั่น!! ไม่กระทบ เพราะคุณภาพของไทยดีกว่าชัดเจน

(5 ก.พ. 67) นางกิ่งกาญจน์ สมร เจ้าของ บริษัท ชินรดา การ์เม้นท์ ผู้ผลิตกางเกงผ้าลายช้าง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่จีนผลิตกางเกงลายช้างขายในตลาด ว่า โรงงานไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวที่เกิดขึ้น ถือเป็นข่าวดีมีลูกค้ามาช่วยแนะนำโรงงาน

ทั้งนี้ สินค้าแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด สีอาจจะคล้ายกัน แต่ทุกอย่างต่างกันแน่นอน ของจีนมีตะเข็บเดียวเพราะประหยัดไป ขายถูก 30 บาท ใช้ผ้ายืด ผ้าหนังไก่ ลายไม่ตรง ไซส์เล็ก ไม่มีไซส์ใหญ่ ชาวต่างชาติใส่ไม่ได้ ขาไม่เท่ากัน สังเกตได้ ส่วนของไทยมีการออกแบบแพทเทิร์นของเอง ขึ้นลายเอง พิมพ์ลายเอง มีเกณฑ์คุณภาพและคิวซี หรือตรวจสอบคุณภาพสินค้าทุกชิ้น 

5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404 ‘พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว’ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ‘ถนนเจริญกรุง’ ถนนหลักสายแรกของไทย

‘ถนนเจริญกรุง’ เป็นถนนที่ ‘พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ’ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404 แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2407 มีความยาวจากถนนสนามไชยถึงดาวคะนอง 8,575 เมตร การก่อสร้างถนนเจริญกรุงนั้น เนื่องจากในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวต่างประเทศเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น และมีพวกกงสุลขอให้สร้างถนนสายยาวสำหรับขี่ม้าหรือนั่งรถม้าตากอากาศ

ในปี พ.ศ. 2404 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ต่อมาคือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ที่สมุหพระกลาโหมเป็นแม่กอง พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมืองเป็นนายงาน รับผิดชอบในการก่อสร้างถนนช่วงตั้งแต่คูเมืองชั้นในถึงถนนตกริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลบางคอแหลม เรียกว่าถนนเจริญกรุงตอนใต้ (แต่ชาวบ้านมักเรียกว่าเจริญกรุงตอนล่าง) กว้าง 5 วา 4 ศอก (ประมาณ 10 เมตร หรือเทียบได้กับถนน 4 เลน) โดยมีนายเฮนรี อาลาบาศเตอร์ (ต้นสกุลเศวตศิลา) เป็นผู้สำรวจแนวถนนและเขียนแผนผังถนน

และในปี พ.ศ. 2405 โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ครุฑ) เป็นแม่กอง พระยาบรรหารบริรักษ์ (สุ่น) เป็นนายงาน รับผิดชอบการก่อสร้างถนนเจริญกรุงตอนใน คือช่วงระยะทางตั้งแต่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ถึงสะพานดำรงสถิต (สะพานเหล็กบน) กว้าง 4 วา โดยสร้างเป็นถนนดินอัด เอาอิฐเรียงตะแคงปูให้ชิดกัน ตรงกลางนูนสูง เมื่อถูกฝนไม่กี่ปีก็ชำรุด การก่อสร้างถนนเจริญกรุงตอนในนี้ เดิมกำหนดให้ตัดตรงจากสะพานดำรงสถิต ถึงกำแพงเมืองด้านถนนสนามไชย แต่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทักท้วงว่าการสร้างถนนตรงมาสู่พระบรมมหาราชวังอาจเป็นชัยภูมิให้ข้าศึกใช้ตั้งปืนใหญ่ยิงทำลายกำแพงเมืองได้ จึงต้องเปลี่ยนแนวถนนมาหักมุมเลี้ยวตรงเชิงสะพานดำรงสถิต

เมื่อสร้างถนนเจริญกรุงเสร็จใหม่ๆ นั้น ยังไม่ได้พระราชทานนาม จึงเรียกกันทั่วไปว่า ถนนใหม่ และชาวยุโรปเรียกว่า นิวโรด (New Road) ชาวจีนเรียกตามสำเนียงแต้จิ๋วว่า ซิงพะโล่ว แปลว่าถนนตัดใหม่ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า ‘ถนนเจริญกรุง’ ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง เช่นเดียวกับชื่อถนนบำรุงเมืองและถนนเฟื่องนคร ที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในคราวเดียวกัน

4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ‘WHO’ กำหนดให้เป็น ‘วันมะเร็งโลก’ สร้างความตระหนักรู้ ให้กำลังใจผู้ป่วยโรคมะเร็ง

องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การสหภาพต่อต้านมะเร็งระหว่างประเทศ (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันมะเร็งโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วโลก มีความรู้ มีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับโรคมะเร็ง และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งได้แก่ ‘มะเร็งสามารถป้องกันได้’  

โดยโรคมะเร็งนั้น ถือเป็นวายร้ายคุกคามสุขภาพอันดับต้นๆ ในศตวรรษที่ 21 โดยใกล้จะแซงหน้าโรคระบบหลอดเลือดและหัวใจเต็มที ทุกวันนี้เราแทบทุกคนมีคนใกล้ตัวที่เคยเผชิญหรือเฉียดใกล้กับโรคมะเร็ง การรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจในหมู่ประชาชนทั่วไปจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ เมื่อปี ค.ศ. 2000 ในงานประชุม World Summit Against Cancer ที่ปารีส ตัวแทนจากประเทศต่างๆ ได้ร่วมกันกำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันมะเร็งโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมพลังกันช่วยชีวิตและปกป้องผู้คนหลายล้านคนจากโรคมะเร็ง ด้วยการรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคมะเร็งในทุกๆ ด้าน และร่วมกันผลักดันให้เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของรัฐบาลหรือหน่วยงานในภาครัฐของแต่ละชาติ

จากสถิติพบว่าในช่วงปี 1990 มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 8.1 ล้านคนในแต่ละปี จนเป็น 18.1 ล้านคนต่อปี ในปี 2018 และยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยมะเร็ง 3 อันดับแรก คือ มะเร็งปอด, มะเร็งเต้านมในผู้หญิง และมะเร็งลำไส้ และคาดการณ์ว่าหากทั่วโลกยังไม่ลงมือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ภายในปี 2030 จะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งจะมากกว่า 13.1 คนต่อปี

อย่างไรก็ตาม กว่าร้อยละ 40 ของมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้ป่วยอยู่ในปัจจุบันนั้น มีทางป้องกันและรักษาได้ ทำให้จำนวนผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ผลลัพธ์อันน่าทึ่งจากการทุ่มเทศึกษาวิจัยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นำไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ เรื่องโรคมะเร็งในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น วิธีวินิจฉัยโรค ตัวยาที่ใช้ ขั้นตอนการรักษา และการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการรักษา ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถอุ่นใจได้ว่า ต่อให้พบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็ยังรักษาให้หายได้ถ้าเราตั้งใจจริง

มะเร็งนั้นเป็นภัยร้ายที่คุกคามทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในทวีปใด จะร่ำรวยหรือยากจน จะเป็นข้าราชการระดับสูงหรือผู้อพยพก็ตามที วันมะเร็งโลกจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์เพื่อย้ำเตือนว่า หนทางไปสู่ประกายแสง ณ เส้นขอบฟ้าแห่งการมีสุขภาพที่ดีได้ ก็คือ การร่วมกันรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจในการป้องกัน ตรวจสอบ และรักษาโรคมะเร็งอย่างรวดเร็ว ให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ดังคำขวัญประจำวันมะเร็งโลกที่ว่า ‘I Am and I Will’ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเดินร่วมกันไปสู่วันที่โลกไร้มะเร็งได้

‘วันทหารผ่านศึก’ ร่วมรำลึกวีรกรรมทหารกล้า เชิดชูความเสียสละ ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมือง

‘วันทหารผ่านศึก’ ซึ่งตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยจะได้รำลึกถึงคุณงามความดีและความเสียสละของทหารผ่านศึก การที่ประเทศไทยสามารถดำรงเอกราชจนเป็นปึกแผ่นมาได้ตราบเท่าทุกวันนี้ เป็นเพราะเรามีบรรพบุรุษที่กล้าหาญ มีจิตใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่พร้อมสู้เพื่อบ้านเมืองและส่วนรวม โดยไม่หวาดหวั่นต่อภัยอันตราย ซึ่งต่างเรียกขานเขาเหล่านั้นว่า ‘ทหารผ่านศึก’

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยได้ส่งกำลังทหารเข้าร่วมรบสงครามมหาเอเชียบูรพา แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลงโดยกะทันหัน ส่งผลให้ทหารที่ไปร่วมรบและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนในการครองชีพ รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาให้การช่วยเหลือ โดยจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาหาทางช่วยเหลือทหารกองหนุน ซึ่งต่อมาเมื่อมีการขยายการสงเคราะห์เพิ่มมากขึ้น

กระทรวงกลาโหมจึงได้เสนอเป็นพระราชบัญญัติ จัดตั้ง องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ขึ้น เป็นหน่วยงานถาวร เพื่อทำหน้าที่ในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึกโดยตรง โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น เรียกว่า พระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ. 2491 ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 เหตุนี้เองจึงได้กำหนดให้วันดังกล่าวเป็น ‘วันทหารผ่านศึก’


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top