Friday, 3 May 2024
LITE

27 มกราคม พ.ศ.2501 วันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ศูนย์รวมเบื้องต้นนายทหาร - นายตำรวจ

วันนี้ เมื่อ 65 ปีก่อน ตรงกับวันที่ 27 มกราคม 2601 คือวันสถาปนา โรงเรียนเตรียมทหาร 

โรงเรียนเตรียมทหาร หรือ Armed Forces Academies Preparatory School เป็นสถาบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสถาบันวิชาการป้องกันประเทศกองบัญชาการกองทัพไทย และเป็นสถาบันการศึกษาแห่งเดียวในประเทศไทย ที่เป็นศูนย์รวมเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, โรงเรียนนายเรือ, โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

โดยผู้ที่ศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร เรียกว่านักเรียนเตรียมทหาร (นตท.)

การรับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารนั้น โรงเรียนเตรียมทหารมิได้เป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารด้วยตนเอง หากแต่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, โรงเรียนนายเรือ, โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือก

โดยในแต่ละปีจะมีการกำหนดจำนวนรับนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากนั้นแต่ละเหล่าทัพจะส่งผู้ผ่านการสอบคัดเลือกมาเรียนรวมกันที่โรงเรียนเตรียมทหาร เป็นเวลา 2 ปี

ภายหลังจากที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว นักเรียนเตรียมทหารเหล่านี้จะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเหล่าทัพ (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, โรงเรียนนายเรือ, โรงเรียนนายเรืออากาศและโรงเรียนนายร้อยตำรวจ) ตามที่นักเรียนได้สมัครและผ่านการสอบคัดเลือก

เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเหล่าทัพแล้ว นักเรียนนายร้อยเหล่านี้ จะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหาร และนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร พร้อมทั้งเข้ารับพระราชทานกระบี่จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เสด็จแทนพระองค์

26 มกราคม พ.ศ. 2448 ค้นพบ ‘โคตรเพชรคัลลินัน’ เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในโลกที่แอฟริกาใต้

วันนี้ เมื่อ 118 ปีก่อน มีการขุดพบ เพชรคัลลินัน ( Cullinan diamond ) เพชรดิบเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ประเทศแอฟริกาใต้

เพชรคัลลินัน ( Cullinan diamond ) เป็นเพชรดิบขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบกันมา โดยมีน้ำหนัก 3,106.75 กะรัต หรือ 621.35 กรัม มีความยาวประมาณ 10.5 ซม. ถูกพบเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2448 (ค.ศ.1905) ที่เหมืองพรีเมียร์ หมายเลข 2 ในเมืองคัลลินัน ใกล้กับกรุงพริทอเรีย ของแอฟริกาใต้ โดยโธมัส อีวาน พาวเวลล์ นักขุด ซึ่งนำมันขึ้นมาจากเหมือง และมอบให้กับผู้จัดการเหมืองคือ เฟรเดอริก เวลส์ เพชรถูกตั้งชื่อตามโธมัส คัลลินัน ประธานของเหมือง 

เซอร์วิลเลียม ครุกส์ เป็นผู้วินิจฉัยเพชรดิบ และพบว่าเพชรนี้มีคุณสมบัติพิเศษที่ความสว่างใส แต่พบจุดสีดำอยู่ตรงกลาง สีสันของเพชรบริเวณรอบ ๆ จุดดำนั้นสวยงามและเปลี่ยนไปตามเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ เขาคิดว่ามันเกิดจากความเครียดภายในของอัญมณี ซึ่งพบได้ค่อนข้างยากในเพชร

ในเดือนเมษายน ปีเดียวกัน มันถูกนำออกขายที่กรุงลอนดอน แต่ถึงแม้จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังขายไม่ออกจนผ่านไป 2 ปี ในที่สุดในปี 2450 รัฐบาลอาณานิคมทรานส์วาลในแอฟริกา ได้ซื้อเพชรคัลลิแนน และนายกรัฐมนตรีหลุยส์ โบทา ได้ทูลเกล้าถวายเพชรแก่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 พระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2450 ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ 

หลังจากนั้นเพชรถูกตัดแบ่งและเจียระไนโดยบริษัท Joseph Asscher & Co ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์

เพชรคัลลินัน ถูกตัดแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ และต่อมาก็แบ่งเป็น 9 ชิ้นใหญ่  96 เม็ดย่อย และเศษเพชรน้ำหนักรวม 19.5 กะรัต 

เพชรที่เจียระไนแล้วชิ้นใหญ่ที่สุดนั้นได้ชื่อว่า คัลลินัน 1 หรือดาวที่ยิ่งใหญ่แห่งแอฟริกา มันหนัก 530.4 กะรัต และได้ชื่อว่าเป็นเพชรเจียระไนที่ใหญ่สุดในโลก

ไขปม!! แก่นแท้แห่ง ‘กรุงศรีฯ’ พินาศหนแรก เมื่อสาย ‘อ่อนโอน’ VS ‘คลั่งสงคราม’ วัดพลังกัน

เนื้อหาในรอบนี้น่าจะมีใครหลายคนอยากตามติด เพราะผมจะพาทุกท่านไปติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการเสียกรุงศรีอยุธยาทั้ง 2 ครั้ง ที่เกิดจากการ ‘แสวงหาอำนาจ’ จนลืมนึกถึงคนในชาติ แต่ก่อนที่ผมจะเล่า ผมขอออกตัวก่อนว่านี่คือเรื่องเล่าจาก ‘บริบท’ ของอดีตที่จะนำมาสอนใจทุกท่าน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้แข็งแกร่ง ไม่ใช่การนำเอาอดีตมาตอกย้ำหรือสร้างดรามาให้ใครนะครับ 

สำหรับบทความแรกนี้ ผมจะสรุปถึงการเสียกรุงครั้งที่ 1 ของเรากันก่อน

หากพูดการเสียกรุงครั้งที่ 1 หลายคนคงทราบจากหนังสือประวัติศาสตร์ภาคบังคับแล้วว่ามี ‘ไส้ศึก’ ที่ชื่อ ‘พระยาจักรี’ ขุนนางกรุงศรีอยุธยาที่รู้เห็นเป็นใจกับกับพม่า ทำให้กองทัพพม่าสามารถบุกเข้ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ แต่คุณเคยรู้หรือไม่ว่าก่อนที่จะเสียกรุงในปี พ.ศ.2112  ปัจจัยนอกจาก ‘พระยาจักรี’ มีเรื่องอะไรอีกบ้าง? แล้วพระยาจักรีคือคนขายชาติจริง ๆ หรือ? 

จริง ๆ แล้วการเสียกรุงนั้นเกิดขึ้นจากการสะสมความขัดแย้งของตระกูลราชวงศ์เป็นปฐมเหตุ นับแต่เมื่อคราวที่ ‘สมเด็จพระไชยราชาธิราช’ แห่งราชวงศ์ ‘สุพรรณภูมิ’ สวรรคต ‘พระยอดฟ้าราชโอรส’ ได้ขึ้นครองราชย์ โดยมี ‘แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์’ เป็นผู้สําเร็จราชการ จนเมื่อผ่านไป 1 ปี 2 เดือน พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ จากนั้นก็ได้สถาปนา ‘ขุนวรวงศาธิราช’ ขึ้นครองบัลลังก์ ซึ่งตามรากของตระกูลที่พอสมมติได้ ‘ขุนวรวงศาธิราช’ และ ‘แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์’ นั้นมาจาก ‘ราชวงศ์ละโว้-อโยธยา’ ที่อยากมีอำนาจเหนือราชบัลลังก์กรุงศรีอยุธยาอันนี้เป็นคำรบหนึ่งแห่งความวุ่นวาย

แต่เพียงแค่ 42 วัน ‘ขุนวรวงศาธิราช’ ก็ตกบัลลังก์โดยการจัดหนักของทีมงาน ‘ขุนพิเรนทรเทพ’ ซึ่งสืบเชื้อสายพระร่วงเจ้า มาแต่ราชวงศ์สุโขทัย ซึ่งถือว่าเป็นใหญ่ในหัวเมืองฝ่ายเหนือตามชอบธรรม เมื่อกู้บัลลังก์คืนแล้วจะขึ้นครองเองก็ได้แต่ด้วยความไม่พร้อมบางประการ จึงได้มอบบัลลังก์ให้แก่ ‘พระเทียรราชา’ จากราชวงศ์สุพรรณภูมิ ซึ่งต่อมาขึ้นครองราชย์เป็น ‘สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ’ พระอนุชาต่างมารดากับ ‘สมเด็จพระไชยราชาธิราช’

เมื่อได้เสวยราชสมบัติแล้ว 'สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ' ทรงตอบแทนคุณความดีของคณะผู้ก่อการทั้งหลายอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะ 'ขุนพิเรนทรเทพ' ที่ได้อวยยศเป็นถึง 'พระมหาธรรมราชา' และยังยก 'พระสวัสดิราช' ซึ่งกาลต่อมาคือ 'พระวิสุทธิกษัตรี' ที่ผู้ที่พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเรียกว่า 'สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฝ่ายใน' ให้เป็นพระมเหสีแก่ 'พระมหาธรรมราชา' ก่อนขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก คุมหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด ซึ่งเป็นการตอบแทนที่ใหญ่โตเป็นอย่างยิ่ง และเป็น 'ดาบสองคม' ที่เป็นเหตุทำให้ถึงกับเสียกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว

ซึ่งถ้ามองประวัติศาสตร์ในห้วงเวลานี้อย่างถ่องแท้จะเห็นว่าความผูกพันระหว่างกรุงศรีอยุธยากับเมืองเหนือ เหมือนจะดีแต่เอาเข้าจริง ๆ มันยังคงมีลักษณะของความไม่แน่นอนแฝงอยู่มาก เช่น ตำแหน่งของราชบุตรเขยที่ 'พระมหาธรรมราชา' เปรียบเหมือนรัชทายาท เป็นเจ้าผู้ครองแคว้น เป็นเจ้าฟ้าสองแคว ปกครองหัวเมืองเหนือทั้งหมด ใหญ่กว่า 'พระราเมศวร' รัชทายาทที่มีอำนาจรองจาก 'สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ' ไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอะไร เพราะสิทธิ์ขาดอยู่ที่องค์เหนือหัว อำนาจบารมีก็ไม่ได้ก่อร่างสร้างขึ้น แตกต่างจาก 'พระมหาธรรมราชา' อย่างสิ้นเชิง สรุปคือ 'พระราชบุตรเขย' มีอำนาจมากกว่า 'พระราชโอรส' ของกษัตริย์อยุธยา ดังนั้นเมื่อมีมือที่สามเข้ามาแทรก หรือมีคนมาเสี้ยม ไม่แปลกที่ย่อมทำให้แตกร้าว ออกอาการกันได้ และการศึกพม่าจากหงสาวดีก็เปรียบเสมือนเป็นลิ่มที่ตอกรอยแตกแยกให้ปรากฏชัดเร็วขึ้น 

จากการเรียนประวัติศาสตร์ไทย ก่อนที่เราจะเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2112 นั้น พม่าได้ยกทัพเข้ามาทําศึกกรุงศรีอยุธยาถึง 3 ครั้ง ดังนี้ 

ครั้งแรกเป็นสงครามเสียพระสุริโยทัย พ.ศ. 2091 'พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้' ยกทัพมาทางด่านในเขตจังหวัดกาญจนบุรีเข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ครั้งนี้พระมหาธรรมราชายังร่วมมือกับกรุงศรีอยุธยาแต่เป็นการร่วมมือแบบห่าง ๆ ไม่ได้ลงมาตีกระหนาบ กองทัพเมืองเหนือได้เข้าปะทะกองทัพพม่าก็เมื่อพม่าได้ล่าถอยเข้าสู่เขตแดนเมืองเหนือแล้ว ซึ่งพม่าก็ได้เห็นถึงความเปราะบางของความผูกพันนี้ โดยเฉพาะแม่ทัพที่ชื่อ 'บุเรงนอง' ซึ่งคือตัวละครหลักในการเสียกรุงจากฝั่งพม่า

ครั้งที่สองเป็นสงครามช้างเผือก พ.ศ. 2106 'พระเจ้าบุเรงนอง' ยกกองทัพใหญ่เข้ามาทางด่านแม่สอดจังหวัดตาก มีหน่วยลําเลียงเสบียงอาหารจากล้านนา และยึดเมืองเหนือได้ทั้งหมด เหลือเพียงเมืองพิษณุโลกของ 'พระมหาธรรมราชา' ที่ต่อสู้ป้องกันเมือง แต่กระนั้นก็ไม่มีกำลังเสริมใด ๆ โดยเฉพาะกรุงศรีฯ ที่ส่งสารไปแล้วก็ไม่ตอบสนองการทัพขึ้นไปช่วยแต่อย่างใด สุดท้ายก็ต้องยอม ซึ่งพระเจ้าบุเรงนองคาดการณ์สิ่งนี้ไว้แล้ว 

จากนั้นกองทัพของพระเจ้าบุเรงนองก็ยกเข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา โดยมี 'พระมหาธรรมราชา' คุมกําลังเมืองเหนือร่วมทัพมาด้วย การยกทัพมาประชิดเมืองครั้งนี้ 'พระเจ้าบุเรงนอง' อ้างเหตุมาขอแบ่งช้างเผือกเพื่อประดับบารมี แต่พระมหาจักรพรรดิไม่ยอมถวาย ก็พยายามเข้าราวี ต่อกร แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของทัพพม่าได้ ซึ่งสงครามครั้งนี้มีบันทึกไว้ว่านอกจากจะเสีย 'ช้างเผือก' แล้ว ยังต้องมอบ 'พระราเมศวร' พระราชโอรสองค์โตในฐานะ 'องค์ประกัน' และต้องมอบขุนนางที่อำนวยการสงครามอีกผู้หนึ่ง นั่นก็คือ 'พระยาจักรี' ให้ไปเป็นข้ารับใช้พระเจ้าบุเรงนอง ที่หงสาวดีด้วย 

หลังจากเสร็จสงครามช้างเผือกแล้ว 'สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ' ก็ทรงลาผนวช โดยมี 'สมเด็จพระมหินทราธิราช' ขึ้นครองบัลลังก์อยุธยา แต่แค่เพียงอยุธยาและเมืองที่ขึ้นกับอยุธยาในด้านอื่น ๆ เท่านี้นะครับ ไม่รวมหัวเมืองเหนือและเมืองที่ขึ้นตรงกับหงสาวดี โดยเฉพาะเมืองเหนือนั้น พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาบันทึกไว้ว่า “เมืองเหนือทั้งปวงเป็นสิทธิแก่พระมหาธรรมราชาเจ้า อนึ่งการแผ่นดินในกรุงพระมหานครศรีอยุธยา พระมหาธรรมราชาบังคับบัญชาลงมาประการใด สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินต้องทำตามทุกประการ” สรุปกรุงศรีอยุธยาอยู่ภายใต้อํานาจของพม่าแล้ว โดยมีพระมหาธรรมราชาที่เมืองเหนือกํากับดูแลเป็นหูเป็นตาแทน แต่ยังให้เกียรติแก่กรุงศรีอยุธยาไม่ได้นับเป็นเมืองขึ้น (สวามิภักดิ์ในฐานะเมืองน้อง ห้ามกระด้างกระเดื่อง) และยังให้อำนาจปกครองตนเองอยู่ ก่อนจะเข้าสู่สงครามครั้งที่ 3 

ครั้งที่สาม คือสงครามกรุงศรีอยุธยาแตก พ.ศ. 2112 สงครามครั้งนี้ห่างจากสงครามช้างเผือกประมาณ 6 ปี เป็นช่วงเวลาที่ราชอาณาจักรพม่าหงสาวดีภายใต้การนําของบุเรงนอง มีความเป็นปึกแผ่น และทรงพลานุภาพที่สุด แต่กระนั้นฝั่งกรุงศรีฯ ยังคงมีความคิดแข็งข้อกับพม่า โดยหันไปคบกับพระไชยเชษฐาแห่งราชอาณาจักรลาวล้านช้างด้วยหวังจะให้มาเช็กบิลกับ 'พระมหาธรรมราชา'

3 สถิติส่วนตัว ใต้ปรากฏการณ์ ‘ลิซ่า’ ฟีเว่อร์ ที่ ‘กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด’ ยังต้องรับรอง

ถือเป็นอีก 1 ศิลปินสายเลือดไทย ที่ไปสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังในระดับโลก ในฐานะศิลปินเคป็อป อีกทั้ง ‘ลิซ่า’ ยังสร้างปรากฏการณ์สำคัญหลายเรื่อง เช่น การขึ้นแท่นศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่ได้รับรางวัล MTV Video Music Awards / ศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่ได้รับรางวัล MTV Europe Video Music Awards และศิลปิน K-POP ที่มีผู้ติดตามบน instagram มากที่สุด

จากความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 66 หนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ หรือ ‘กินเนสส์บุ๊ก’ (Guinness Book of World Records) ได้ประกาศว่า ‘ลิซ่า BLACKPINK’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ เมมเบอร์ชาวไทยของศิลปินเค-ป็อป BLACKPINK ที่เดบิวต์ในปี 2016 ได้ทำสถิติส่วนตัวเพิ่มอีก 3 รายการ เพิ่มเติมจากการทำสถิติในฐานะศิลปินหญิงเดี่ยว ยอดวิวยูทูบสูงสุดใน 24 ชม. (73.60 ล้านวิว) จากเพลง LALISA ซิงเกิ้ลเดี่ยวที่ปล่อยออกมาในเดือนกันยายน 2021 คือ…

25 มกราคม พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 9 เสด็จฯ ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์

วันนี้เมื่อ 64 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงและเปิดพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์

พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ประกอบด้วยพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระคชาธารออกศึกและองค์เจดีย์ยุทธหัตถี 

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสร้างเจดีย์ขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี ที่ทรงมีต่อพระมหาอุปราชาแห่งพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2135 กองทัพบกได้บูรณะปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์ขึ้นใหม่ โดยสร้างเป็นเจดีย์แบบลังกาทรงกลมใหญ่ สูง 66 เมตร ฐานกว้างด้านละ 36 เมตร ครอบเจดีย์องค์เดิม ภายในองค์เจดีย์ได้มีการสร้างห้องแสดงประวัติศาสตร์ ทั้งภาพแสงสีเสียง และหุ่นจำลองการยกทัพของพม่าและไทย หลายร้อยตัว เป็นสถานที่ได้ทั้งความรู้และเพลิดเพลิน

อุ๊งอิ๊ง VS คุณหญิงหน่อย อาภรณ์ อุดมการณ์ ความรู้ ความรวย

เริ่มเป็นที่ชัดเจนว่า สนามเลือกตั้งครั้งต่อไปของประเทศเรา จะมีสตรีสองคนลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หนึ่งคือ 'คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์' หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กับสอง 'คุณอุ๊งอิ๊ง - แพทองธาร ชินวัตร' หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นับเป็นสีสันและความหวังของเหล่าสตรีบนฐานะผู้นำพรรคการเมือง แต่สิ่งน่าสนใจกว่า (ตอนนี้) อุดมการณ์สร้างประโยชน์แก่ชาติ ก็ด้วยทั้งสองมีพื้นเพมาจากครอบครัว 'Hight Rich' อาภรณ์ห่อหุ้มกายจึงควรค้นหา จับตา ทุกครั้งที่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน

"...การแต่งกาย คือ 'แบรนด์ดิ้ง' (branding) คนไทยอาจไม่ได้แต่งตัวถูกต้องตามแบบแผนนัก แต่นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับบุคคลสาธารณะ เพราะการแต่งตัวบ่งบอกว่าเราเป็นใคร ถ้าจะดูนักการเมืองสมัยก่อน อย่างจำลอง ศรีเมือง ต้องใส่เสื้อผ้าม่อฮ่อมคอจีน แขนสั้น เนื้อผ้าเก่า ๆ หรือ ป๋าเปรมก็จะต้องชุดพระราชทาน ซึ่งท่านเป็นคนเผยแพร่ชุดพระราชทานในประเทศไทย และใส่ออกมาดูดี ด้วยรูปร่างและบุคลิกที่นิ่ง เป็นคนที่พิถีพิถันมาก"

ประโยคข้างต้น - 'ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์' กูรูด้านแฟชั่นและบุคลิกภาพ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร 'Esquire' ที่ทุกวันนี้คนรู้จักในนาม 'ลุงเฮม่า' เจ้าของคอลัมน์ตอบปัญหาสารพันบนออนไลน์ เคยกล่าวอรรถาธิบายไว้

ยุคต้นของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่เพิ่งร่วมงานทางการเมืองกับพรรคไทยรักไทย เธอย่างก้าวสู่สายตาประชาชนด้วยมาดนักธุรกิจซึ่งประสบความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง เธอเป็นหญิงไม่ห้อยท้ายนามสกุลฝ่ายชาย สวมแว่นสายตาทรงเฉี่ยว โดดเด่น สมัยนั้นมักปรากฏตัวด้วยชุดเดรสส์สีสันสะดุดตา อันหมายถึงความเป็นผู้นำท่ามกลางชายบอดี้การ์ดชุดดำดุจสตรีทรงศักดิ์และอำนาจ

แทบไม่ต่างจากยุคเปิดฤดูกาลเลือกตั้ง 2566 ที่ 'อุ๊งอิ๊ง' ลูกสาวคนสุดท้องของบ้าน 'จันทร์ส่องหล้า' เพราะเพียงแค่เสื้อโค้ทสวมขึ้นเวทียี่ห้อ 'GUCCI' แบรนด์เสื้อผ้าโปรดจากอิตาลีตัวเดียวก็ปาไปเกือบแสน (93,000 บาท) เข้าคู่กับรองเท้า 'Amina Muaddi' ซึ่งกำลังได้รับความนิยม (ผลิตจากประเทศโรมาเนีย) สนนราคา 3,100 เหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 102,412 บาทไทย

จนสื่อมวลชนต่างพากันเน้นที่ราคาเสื้อผ้ามากกว่าถ้อยคำปราศรัย

แต่การเลือกตั้งหนที่จะถึงนี้ 'หญิงหน่อย' ทำการบ้านอย่างดีล่วงหน้า ด้วยการศึกษาการแต่งกายของนักการเมืองระดับตำนานของเกาะอังกฤษ 'มาร์กาเรต แทตเชอร์' นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร จากภาพจำขุดสูทสีน้ำเงินเข้ม (Royal Blue) เข้ารูป กับกระโปรงยาวปิดเข่าสีโทนเดียวกัน ตัดกับเชิ้ตผ้าฝ้ายสีขาวด้านใน ล้วนผ่านการเลือกคัดสรรอย่างดี เพื่อภาพลักษณ์เช่นที่เห็น สมฉายา 'สตรีเหล็ก'

เข้าใจว่าคุณแพทองธารยิ่งต้องปรับตัวมากกว่า เพราะต้องออกหาเสียงด้วยการ 'อุ้มท้อง' จนกว่าจะจบการเลือกตั้ง โดยทุก ๆ ภาพ ต้องดูดี มีอุดมการณ์ สานความฝัน ดันพ่อกลับบ้าน

ลือสะพัด!! ‘ลิซ่า’ ได้รับข้อเสนอย้ายค่าย มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท

ฮือฮาไปบนโลกออนไลน์ กำลังเป็นกระแสติดเทรนด์ ‘LISA LEAVE YG’ และ #GetThatMoneyLISA หลังจากมีรายงานว่า ลิซ่า แห่ง BLACKPINK ซูเปอร์สตาร์ดังชาวไทย ได้รับข้อเสนอ 81 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อออกจากค่าย YG เพราะกำลังจะหมดสัญญาลงในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า

ตัวเลขข้อเสนอถือว่าน่าสนใจและน่าตกใจเป็นอย่างมากนั่นคือ 100,000 ล้านวอน คิดเป็นเงินไทยคือ 2,665,839,713 บาท หรือเกือบ 3 พันล้านบาท

ลิซ่า ลลิษา มโนบาล แห่งค่าย YG ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งแดนกิมจิ ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีพี่น้องร่วมค่ายอย่าง Big Bang และ 2NE1 เธอเป็นเด็กไทยมากความสามารถ ที่ไปแจ้งเกิดโด่งดังเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปที่ประเทศเกาหลีใต้ ทั้งฮอตและมากความสามารถ สมกับเป็นไอดอลรุ่นใหม่ แถมความสวยยังโกอินเตอร์ระดับโลก

24 มกราคม พ.ศ. 2543 กองกำลังก๊อดอาร์มี่ บุกยึด รพ.ราชบุรี จับตัว ‘หมอ - คนไข้’ เป็นตัวประกันนานกว่า 20 ชม.

วันนี้เมื่อ 23 ปีก่อน เกิดเหตุระทึกขวัญ ‘กองกำลังก๊อดอาร์มี่’ บุกยึดโรงพยาบาลราชบุรี จับแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยเป็นตัวประกันนับพันคน เหตุการณ์ตึงเครียดกว่า 20 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยุติเรื่องราวลงได้

วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญ เรียกว่าเป็นข่าวใหญ่ที่ประชาชนคนไทยต่างติดตามกันทั้งประเทศ เมื่อมีรายงานข่าวด่วนว่า มีกองกำลังก๊อดอาร์มี่ จำนวน 10 คน ได้ก่อเหตุบุกยึดโรงพยาบาลที่จังหวัดราชบุรี

สืบย้อนกลับไปก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กองกำลังทหารกะเหรี่ยงกลุ่มนี้ เคยเข้าบุกยึดสถานทูตพม่ามาครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำสอง แต่คราวนี้มีเป้าหมายที่โรงพยาบาล โดยกลุ่มผู้ก่อการทั้งหมดปลอมตัวเป็นผู้โดยสารนั่งรถประจำทางสายสวนผึ้ง-ราชบุรี แล้วใช้ปืนเอ็ม-16 จี้คนขับให้ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ก่อนที่จะทำการบุกยึดโรงพยาบาล จับแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยพับพันชีวิตเป็นตัวประกัน

23 มกราคม พ.ศ. 2424 วันประสูติ ‘กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน’ พระบิดาแห่งกิจการรถไฟสมัยใหม่

23 มกราคม พ.ศ. 2424 วันประสูติ นายพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ‘พระบิดาแห่งกิจการรถไฟสมัยใหม่’

นายพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน หรือ พระนามเดิมว่า 'พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร' เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับเจ้าจอมมารดาวาด ประสูติ วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2424

ใน พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าให้รวมกรมรถไฟสายเหนือกับสายใต้เข้าเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า กรมรถไฟหลวง โดยให้ กรมขุนกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นผู้บัญชาการรถไฟอีกตำแหน่งหนึ่ง

ช่วงแรกที่พระองค์เสด็จมาเป็นผู้บัญชาการรถไฟใหม่ ๆ กิจการรถไฟ มีคนไทยอยู่น้อยมากส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศมีชาวเยอรมัน อังกฤษ อิตาเลียน และชาวเอเชียชาติต่างๆ เช่น ชาวอินเดีย ชาวซีลอน และชาวพม่า พระองค์จึงทรงระดมคนไทยจากทหารช่าง กรมแผนที่และคนไทยที่พูดภาษาอังกฤษได้ จากห้างร้านต่าง ๆ ให้เข้ามาทำงานรถไฟ ทรงฝึกฝนคนไทยให้มีความสามารถในกิจการรถไฟด้วยการแนะนำสั่งสอนด้วย พระองค์เอง

'อั้ม พัชราภา' เปิดใจถึงเรื่องความรักและการมีครอบครัว ลั่น อยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่เคยขอเงินผู้ชาย

หลังข่าวเลิกรากับแฟนหนุ่ม ไฮโซพก-ประธานวงศ์ พรประภา จนเป็นที่จับตาของสังคม ล่าสุด อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกชื่อดัง ได้มาออกงาน 'Siam Paragon Grand Celebration of Golden Prosperity 2023' ณ บริเวณ พาร์ค พารากอน ชั้นเอ็ม สยามพารากอน ก่อนเปิดใจเรื่องดังกล่าว

โดยอั้มกล่าวว่า "คืออั้มเลิกกันมาตั้งแต่ 10 ธันวาคม และก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย เราก็ไม่รับรู้เรื่องอะไร เรื่องหึงหวง บางคนบอกอั้มหึงหวง ไม่มีเลย ไม่เคยโทรเช็ก ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ และอั้มก็ไม่เคยถามเรื่องผู้หญิงด้วย"

เมื่อถามถึงสาเหตุที่เลิกกัน สาวอั้มตอบว่า “เรื่องเดิมเหมือนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไม่มีเรื่องอื่นเลย เป็นเรื่องนิสัยที่เราไม่เหมือนกันจริงๆ พยายามปรับแล้ว ปรับไม่ได้ แล้วก็เกิดขึ้นซ้ำๆ หลายรอบมาก จนคิดว่าพอกันแค่นี้" อั้ม พัชราภากล่าว

22 มกราคม พ.ศ. 2486 ประกาศใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทาย หลังจากมีการคิดค้นคำนี้เมื่อปี 2476

วันนี้ เมื่อ 79 ปีก่อน จอมพล ป. พิบูลสงคราม ประกาศใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการ หลังจากมีการคิดค้นคำนี้เมื่อปี 2476 ในรายการวิทยุกระจายเสียง

การกล่าวคำทักทายของแต่ละประเทศล้วนมีความแตกต่างกัน และถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่บ่งบอกความเป็นมาของประเทศนั้น ๆ ซึ่งประเทศไทยก็มีคำทักทายเช่นกัน นั่นก็คือคำว่า "สวัสดี" เรียกได้ว่าเป็นคำพูดติดปากไม่ว่าจะเป็นการพบกัน หรือลาจากกัน ต่างก็ต้องเอ่ยคำว่า "สวัสดี" และรู้หรือไม่ว่า ประเทศไทยนั้นมีการใช้คำนี้อย่างเป็นทางการนานเกือบ 80 ปีแล้ว

โดยเริ่มแรกนั้น พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) ได้เล่าต้นสายปลายเหตุว่า เมื่อก่อนเจ้าหน้าที่วิทยุกระจายเสียงจะใช้คำว่า "ราตรีสวัสดิ์" เป็นการพูดเมื่อจบรายการ บางครั้งก็มีการอนุโลมให้พูดคำว่า "กู๊ดไนท์" (Goodnight) ของอังกฤษ แต่มีคนไม่เห็นด้วย จึงให้กรรมการชำระปทานุกรมของกระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการ) ในสมัยนั้น ช่วยคิดหาคำใหม่ขึ้นมาแทน จนในที่สุดก็ได้คำว่า "สวัสดี"

21 มกราคม ของทุกปี กำหนดให้เป็น ‘วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน’ รำลึก ‘หมอกระต่าย’ ถูกชนเสียชีวิตบนทางม้าลาย

ครบ 1 ปี การเสียชีวิตของ ‘หมอกระต่าย - พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล’ ที่ถูกบิ๊กไบค์ชนขณะข้ามทางม้าลาย ในวันที่ 21 มกราคม 2566

ครบ 1 ปี การเสียชีวิตของหมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ในวันที่ 21 มกราคม 2566 ทำให้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 21 ม.ค. ของทุกปีเป็น 'วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน' ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เสนอ เพื่อหยุดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และไม่ให้เกิดเหตุการณ์รถชนคนข้ามทางม้าลายเกิดขึ้นซ้ำอีก

ชวนชม!! นิทรรศการ 'แดนสนธยา 3' การคัมแบ็กสุดยิ่งใหญ่ในรอบ 4 ปี

หากใครชื่นชอบงานศิลปะ ห้ามพลาดอย่างยิ่งกับ นิทรรศการ ‘แดนสนธยา ๓’ โดยนิทรรศการนี้เป็นการกลับมาจัดแสดงผลงานอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 4 ปี ของ ‘ช่วง มูลพินิจ’ ศิลปินผู้ได้รับฉายาว่า ‘จิตรกรผู้มองเห็นมดยิ้มสวย’ จากศิลปินแห่งชาติ และนักเขียนผู้มีชื่อเสียงของไทย ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ 

สำหรับประวัติของช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. 2556 เป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียง เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2483 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม จบอนุปริญญาจากคณะ จิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2505

ผลงานที่สร้างชื่อให้กับช่วงมาจากการเขียนภาพปกและภาพประดับในหนังสือและนิตยสารชั้นนำของไทยในยุคสมัยนั้น อาทิ ช่อฟ้า, ชาวกรุง, เฟื่องนคร และสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ จนเริ่มเป็นที่รู้จักด้วยผลงานเขียนลายเส้นแบบฟรีแฮนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงได้เขียนลายเส้นที่หน้าปกหนังสือ เสเพลบอยชาวไร่ ของ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ และหน้าปกหนังสือ กามนิต วาสิฏฐีด้วย จากนั้นได้ลาออกจากกระทรวงอุตสาหกรรมหลังจากทำอยู่ 9 ปี เพื่อเริ่มงานใหม่ ที่บริษัทโฆษณาอีก 3 ปี และหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นศิลปินอิสระแบบเต็มตัว

งานของช่วงในระยะแรกเริ่มจากภาพลายเส้นที่ประยุกต์ความอ่อนช้อยของลายไทย เข้ากับรูปทรงแบบเหมือนจริงได้อย่างกลมกลืน ต่อมาจึงได้พัฒนามาใช้เทคนิคสีน้ำและสีน้ำมัน แต่ยังคงเอกลักษณ์เรื่องลายเส้นผสมผสานเข้ากับศิลปะสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ช่วงได้สร้างสรรค์ผลงานอย่างมากมายทั้งงานออกแบบ จิตรกรรม ประติมากรรมและสถาปัตยกรรม ส่วนใหญ่แสดงถึงเรื่องราวของดอกไม้ แมลง สัตว์ มนุษย์ ทั้งในแง่อีโรติก ไปจนถึงนัยการมองเห็นในวัฏสงสารของชีวิต เป็นการผนึกเรื่องราวทางอุดมคติกับธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม

20 มกราคม พ.ศ. 2539 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นองค์ประธานในพิธีปล่อยเรือหลวงจักรีนฤเบศร

วันนี้ เมื่อ 27 ปีก่อน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นองค์ประธานในพิธีปล่อยเรือหลวงจักรีนฤเบศร ณ อู่เรือบาซาน ประเทศสเปน

เรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้เริ่มสร้างในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 และมีการวางกระดูกงูในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2539 โดย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีปล่อยเรือหลวงจักรีนฤเบศรลงน้ำ ณ อู่เรือบาซาน ประเทศสเปน ก่อนจะขึ้นระหว่างประจำการเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2540

‘ฮาย Paper Planes’ เปิดใจ หลังมีเด็กๆ ติดตามมากขึ้น

ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่ารักมาก ๆ เลยทีเดียว เมื่อเพลง ‘ทรงอย่างแบด’ ของวง Paper Planes กลายเป็นเพลงฮิตในกลุ่มวัยรุ่นฟันน้ำนม ซึ่งเมื่อช่วงวันเด็ก (14 ม.ค.66) ที่ผ่านมา 2 หนุ่ม เซนและฮาย วง Paper Planes ก็ได้จัดแสดงโชว์กันที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ สร้างความประทับใจให้กับสาวกฟันน้ำนมกันถ้วนหน้า

ทั้งนี้ ก่อนหน้าวันเด็กหนึ่งวัน รายการ WOODY FM ได้ปล่อยวิดีโอสัมภาษณ์ หนุ่มฮาย หนึ่งในสมาชิกวง Paper Planes โดยมีช่วงหนึ่งที่หนุ่มฮาย ได้กล่าวถึงหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในฐานที่เด็ก ๆ ติดตามเยอะและยกให้เป็นไอดอล โดยหนุ่มฮายระบุว่า “ปกติเราก็มีความแบดในแบบของเรา แต่พอมีสปอตไลต์ส่องมา ก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ไม่ได้ทำให้ตัวเองดูดี แต่เราทำเพื่อเด็ก ๆ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top