Sunday, 19 May 2024
Hard News Team

'เยอรมนี' เตรียมออกกฎหมายเกณฑ์ทหารเพิ่ม เพื่อสู้ศึกกับรัสเซีย เล็งคนอายุ 18 ปีทั้งหมด ส่วนจะทั้ง 'ชาย-หญิง' หรือไม่? ต้องรอลุ้น!!

ไม่นานมานี้ เยอรมนีกำลังพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ในการออกกฎหมายเกณฑ์ทหารเพิ่มสามแนวทาง คือ...

ประการแรกการพยายามเพิ่มการสมัคร โดยให้เข้าเป็นทหารแบบสมัครใจ ด้วยการส่งแคมเปญข้อมูลไปยังเด็กอายุ 18 ปี 

ประการที่สอง กฎหมายนี้จะใช้กับผู้ชายอายุ 18 ปีเท่านั้น โดยกฎหมายกำหนดให้พวกเขาต้องลงทะเบียนในแบบฟอร์มออนไลน์ จากนั้นจึงอาจได้รับเลือกเข้าเป็นทหาร

ทางเลือกที่สาม จะต้องรับราชการทหารเป็นเวลาหนึ่งปีสำหรับชายหนุ่มและหญิงสาวทุกคน เมื่ออายุครบ 18 ปี

นายบอริส พิสโตเรียส รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า กองทัพเยอรมันหรือบุนเดสแวร์ จะต้อง ‘พร้อมทำสงคราม’ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากรัสเซีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีกลาโหมของเยอรมนีกล่าวว่าประเทศสามารถเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารได้มากถึง 3.5% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจ

เยอรมนีได้ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มขนาดกองทัพจากประมาณ 180,000 นายในปัจจุบันเป็นมากกว่า 200,000 นาย

‘คู่นักเต้นฮิปฮอปไทย’ ซิวแชมป์โลกแบบงงๆ แต่ยังคงไม่ลืมร้อง ‘เพลงชาติไทย’ แบบสุดเสียง

(16 พ.ค.67) จากเพจเฟซบุ๊ก ‘Jo Montanee’ โดยคุณโจ มณฑานี ตันติสุข ดีเจ พิธีกร นักวิจารณ์ นักเขียนและวิทยากรชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

เอ็นดูไม่ไหวกับคลิปนี้ค่ะ เมื่อคู่นักเต้นฮิปฮอปไทยถูกขานชื่อขึ้นรับเหรียญรางวัลบนเวทีประกวดฮิปฮอปชิงแชมป์โลก ความไม่เก่งปะกิด ทำให้งงแต๊วาว่าตัวเองได้ที่ 2 หรือที่ 3 หรือชนะกันละนั่น! 

พอลุกขึ้นไปจะรับรางวัล ทีมงานยังเถียงกันเองเลยว่าให้นั่งต่ออย่าลุก หรือให้ลุกขึ้นเดินไป หรือจะยังไง ตอนประกาศว่าได้ที่หนึ่งเท่านั้นแหละทีมงานตะโกนขึ้นมาดังก้องว่าตกลงเราชนะเหรอ!! โอ๊ยสุดเอ็นดู

แต่ที่เยี่ยมยอดที่สุดคือตอนที่ผู้ชนะจากไทยรับเหรียญทองแล้วเสียงเพลงชาติไทยกระหึ่มก้องทั่วทั้งฮอลล์ ทีมงานตะโกนร้อง ‘ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย’ แบบสุดเสียง
แม้จะเพี้ยนก็ไม่แคร์!

รายละเอียดการแข่ง Hiphop World Championship 2024 อยู่ในรูปแล้วนะคะ
ขอบคุณเครดิต @KRU BOSS Channel ค่ะ

มส.16 เรียนรู้ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา 8 วิสาหกิจชุมชนเกาะเกร็ด ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สู่ความยั่งยืน

วันที่ 15 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายภิรมย์ ชุมนุม นายอําเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมด้วย พระครูพิพิธเจติยาบาล เจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร ผู้ใหญ่บ้าน อบต.เกาะเกร็ด ผู้อํานวยการโรงเรียน คณะครูโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ให้การต้อนรับ พล.อ.ดร.มารุต ปัชโชตะสิงห์ ผู้อํานวยการหลักสูตร มส. พล.อ.ต.หญิง ผศ.ดร.พัชรี พิพิธสุขสันต์ รองผู้อํานวยการหลักสูตรฯ ดร.วรวุฒิ ไชยศร ผู้ช่วยผู้อํานวยการหลักสูตรฯ พร้อมคณาจารย์ และนักศึกษาหลักสูตร การบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.รุ่นที่16) ในการทำกิจกรรม CSR TO SUSTAIN มส.16 สร้างผู้นำด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่ยั่งยืน  บวร : บ้าน วัด โรงเรียน

สำหรับกิจกรรมต่างๆ ทางหลักสูตร ได้แบ่งนักศึกษาเป็น 10 กลุ่ม เพื่อลงพื้นที่ศึกษาเรียนรู้วิสาหกิจชุมชน 8 วิสาหกิจ คือ วิสาหกิจชุมชนผ้าบาติก วิสาหกิจชุมชนขนมหวาน วิสาหกิจชุมชนนวดแผนไทย วิสาหกิจชุมชนชารางแดง วิสาหกิจชุมชนขนมปังหน่อกะลา วิสาหกิจชุมชนเครื่องจักรสาน วิสาหกิจชุมชนหน่อกะลา วิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดิน และพิพิธภัณฑ์ชุมชนวัดปรมัยยิกาวาส  โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส เพื่อระดมสมอง สร้างสรรค์แนวคิด เพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชน พิพิธภัณฑ์ชุมชน และโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส ด้วยการนำเสนอโมเดลวิสาหกิจชุมชนยั่งยืน ด้วย Sustainable Business Model Canvas

นอกจากนี้ คณะนักศึกษาได้มอบป้ายแนะนำวิสาหกิจชุมชน พิพิธภัณฑ์ชุมชน และโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้เป็นข้อมูลความรู้ มอบและติดตั้งพัดลมให้โรงเรียนจำนวน 15 ชุด มอบตู้เย็นให้ 5 โรงเรียน พร้อมซ่อมแซมบ้านสำหรับผู้สูงอายุ อีก 1 หลัง

พล.อ.ดร.มารุต ปัชโชตะสิงห์ กล่าวว่า วันนี้นักศึกษา มส.รุ่นที่ 16 ภายใต้มูลนิธิการจัดการเพื่อความมั่นคง
ได้มาทำกิจกรรมดีๆเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืน วันนี้คณะนักศึกษาได้ลงพื้นที่เกาะเกร็ด ใน 8 วิสาหกิจชุมชน รวมทั้ง วัด และโรงเรียน โดยได้แบ่งนักศึกษาออกเป็น 10 กลุ่ม ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากนั้นช่วงบ่ายนำผลที่ได้มาเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อเสนอผลงานแต่ละวิสาหกิจชุมชน รวมถึงข้อเสนอแนะ พบว่าทุกกลุ่มได้นำเสนอผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กับผลลัพธ์ที่ได้นำเสนอ คุ้มค่ากับการได้ร่วมกิจกรรมในวันนี้ และผลจากการลงพื้นที่ทางหลักสูตรจะรวบรวมข้อมูลส่งต่อให้นายอำเภอปากเกร็ด และทางพัฒนาการปากเกร็ด ได้นำไปใช้ประโยชน์ในวิสาหกิจชุมชน และวัด โรงเรียนต่อไป รวมทั้งจะนำผลในครั้งนี้ ส่งต่อให้กับหลักสูตรการจัดการความมั่นคงขั้นสูง รุ่นที่ 17 ที่จะเข้าศึกษาในไม่ช้า เพื่อได้รับการสานต่อและต่อไปในอนาคตสู่ความยั่งยืน

ด้าน ดร.วรวุฒิ ไชยศร กล่าวว่า
กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นกิจกรรมที่ทำให้ นักศึกษา มส.16 ได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญเกาะเกร็ดได้หลากหลาย อีกทั้งได้มีโอกาส เรียนรู้ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา วิสาหกิจชุมชนเกาะเกร็ด โรงเรียน และพิพิธภัณฑ์ชุมชน เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์คุณค่าที่ยั่งยืนให้กับชุมชนเกาะเกร็ด รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในการนำทักษะความรู้จากการอบรม และประสบการณ์ทำงาน มาสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Soft Power) ให้ชุมชนเกาะเกร็ด เกิดความยั่งยืน

ทางด้าน นายจิรชาติ บุญสุข นักศึกษาหลักสูตร มส.15 กล่าวว่า จากกิจกรรมที่ดำเนินการได้เกิดการขับเคลื่อน ทั้งเรื่องการเปิดมุมมองโมเดลธุรกิจสมัยใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับวิสาหกิจชุมชนในเกาะเกร็ด เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน อีกทั้งยังสร้างความภูมิใจ และแสดงศักยภาพของนักศึกษา มส.16 ที่ได้ช่วยเหลือ แบ่งปัน สังคม 3 ด้าน ได้แก่ วัด บ้าน และโรงเรียน อีกทั้งเกิดการทำงานร่วมกับหน่ายงานราชการในพื้นที่ ได้รับการยอมรับในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง

‘คุณหญิงต้น’ เผยภาพเข้าเฝ้า ‘สมเด็จพระเทพฯ’ ขณะเสด็จฯ เยือนกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

(16 พ.ค. 67) ‘คุณหญิงต้น-ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี’ เผยภาพเฝ้าทูลละอองพระบาท ‘สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี’ และร่วมรับประทานอาหารกับพระองค์ ระหว่างที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อทรงเยี่ยมชมวิทยาลัยแฮริส แมนเชสเตอร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และจะทรงเข้าร่วมการประชุมเชิงวิชาการ ในหัวข้อ ‘ประวัติและคติของลัทธิปศุปตะ : หลักฐานเดิมและการวิจัยใหม่’ ณ วิทยาลัยออลโซลส์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

พร้อมกันนี้คุณหญิงต้นยังลงแคปชั่น เฝ้าทูลละอองพระบาทสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กราบพระบาทในโอกาสเสด็จฯ เยือนสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 10-14 พฤษภาคม 2567 ตามด้วยแฮชแทก #สิริมงคลชีวิต #รักที่สุด #พระบารมีปกเกล้า #ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

#CelebOnline #สมเด็จพระเทพ #พระเทพ #เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหราชอาณาจักร #ลอนดอนอังกฤษ #คุณหญิงต้น #ปิยาภัสร์ภิรมย์ภักดี #ตระกูลกฤดากร #ข่าวซุบซิบ #ข่าวไฮโซ

'บังโต' ลุยปั้นแบรนด์ 'เนื้อแท้' โกอินเตอร์ ปักธงกำไรร้อยล้าน ปูทางเข้าตลาดหุ้น

(16 พ.ค. 67) นายวีรชน ศรัทธายิ่ง CEO บริษัท คอมพานี บี จำกัด หรือ ‘โต ซิลลี่ฟูล’ อดีตนักร้องชื่อดัง ที่ผันตัวทำธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ ‘เนื้อแท้’ กล่าวว่า ตลาดร้านอาหารในประเทศมีการแข่งขันที่สูง สาเหตุหลัก ๆ มาจากจำนวนผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากร้านอาหารในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนสูง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคมีตัวเลือกหลากหลาย ต้องการความสะดวก รวดเร็ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารจะสูง แต่ทางเรามั่นใจในคุณภาพของร้านเนื้อแท้ ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เช่น เน้นคุณภาพของเนื้อ และสูตรอาหารเฉพาะ เน้นความอร่อยและคงรสชาติของเนื้อแท้

สำหรับปีนี้ คอมพานี บี มีแผนเปลี่ยนเนื้อวัวรูปแบบเดิมให้กลายเป็น ‘เนื้อแองกัส’ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เนื้อแท้, เนื้อแท้ Wok, The Beef Master, เซียนเตี๋ยว และเนื้อแท้บุชเชอรี่ และเนื้อแท้ Wok กะ Steak (เป็นสตรีทฟู้ดโมเดลใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว) ทั้งหมด ภายใน 4-5 เดือนต่อจากนี้ ปัจจุบันบริษัท มีธุรกิจร้านอาหารในเครือ 7 แบรนด์ แบ่งเป็น 21 สาขาใหญ่ 8 สาขาย่อย รวมเป็น 29 สาขา และมีธุรกิจขายเนื้อสดอีก 1 แบรนด์ คือ เนื้อแท้บุชเชอรี่

นาย นภศูล รามบุตร ตำแหน่ง Operating executive บริษัท คอมพานี บี จำกัด กล่าวว่า ปี 2565 มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อวัว 360 ตัน ต่อมา ปี 2566 มีการนำเข้า 400 ตัน และล่าสุดปีนี้คาดว่าจะนำเข้าวัวแองกัส 700 ตัน จากการขยายสาขาอีก 4 สาขาใหญ่ และ 2 สาขาย่อยไปจนถึงสิ้นปีนี้ รวมถึงการเปิดรับกลุ่มลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์ สำหรับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และลูกค้ารายย่อยทั่วไป ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 29 สาขา และจะเปิดให้บริการทั้งสิ้น 35 สาขาในปีนี้

ในอนาคต Wok กะ Steak อาจจะขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศด้วยกลยุทธ์ ‘แฟรนไชส์’ โดยเล็งเป้าไปที่ตลาดที่มีศักยภาพอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ตะวันออกกลาง ซึ่งในตลาดเหล่านี้กระตุ้นให้ Wok กะ Steak มองหาพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา กลยุทธ์นี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ปลดล็อกศักยภาพ ของ Wok กะ Steak ผลักดันธุรกิจอาหารไทยก้าวสู่ แบรนด์ระดับภูมิภาค (Regional Brand)

สำหรับเป้าหมายในปีนี้ทำรายได้แตะ 750-800 ล้านบาท เติบโตจากปี 2566 ที่ทำรายได้ 500 ล้านบาท ส่วนแผนธุรกิจระยะยาวมุ่งสู่การระดมทุนในตลาดหุ้นไทย โดยตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำ 1,500 ล้านบาท และมีกำไร ‘ร้อยล้านบาท’ ส่วนไตรมาส 1 ที่ผ่านมาทำรายได้ 150 ล้านบาทแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากร้านอาหาร 70% และรายได้จากเนื้อสัตว์ 30%

ส่วนแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ มีแผนจะลงทุนก่อสร้างโรงงานเพิ่มเพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เติบโต อีกทั้งขยายสาขาของร้านอาหาร พัฒนาแบรนด์ใหม่ ๆ และเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับธุรกิจ

'เพจดัง' เผย!! เหตุไฉน 'แด๊ดดี้-ตัวตึงก้าวไกล' ไม่ออกมาโหน 'บุ้ง' เพราะ 'รองอ๋อง' ใช้สิทธิ์พาไปทัวร์เยอรมนี แบบไร้ภาพข่าวอัปเดต

(16 พ.ค.67) จากเพจ 'วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง' ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพลพรรคก้าวไกลอีกหลายคนไม่ออกมาโหนกระแสบุ้ง ว่า...

#ทุกคนคะ มีหลายท่านสงสัยว่าพ่อว่าวหายไปไหน ผิดฟอร์ม ทำไมไม่ออกมาโหนบุ้ง มาค่ะหนูจะเล่าให้ฟัง

หมออ๋องใช้สิทธิ์การเป็นรองประธานสภา สส. ก้าวไกลไปดูงานที่เยอรมัน ตั้งแต่วันที่ 13-18 พ.ค. ในคณะมีพ่อว่าวและพี่ลูกเกดรวมอยู่ด้วย

คณะอ้างว่าไปดูงานเรื่องพลังงานสะอาด การรักษาสภาพแวดล้อม และศึกษาด้านความโปร่งใสในการทำงาน

#คำถาม

งบดูงานครั้งนี้ใช้ภาษีประชาชนหรือไม่? ทำไมถึงไม่มีการอัปเดตภาพและกิจกรรมดูงานให้ประชาชนทราบ?

คุณพิธา คุณลูกเกด มีความรู้ ความสามารถ และมีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องพลังงานและสภาพแวดล้อมหรือคะ

หรือจริงแล้วแอบไปทำกิจกรรมอย่างอื่นคะ?
#ภาษีกู

'ผอ.แอมเนสตี้' ชวนก๊วนยืนไว้อาลัย ‘บุ้ง’ 1 นาที ลั่น!! พวกคอมเมนต์เย้ย 'รุนแรง-ลดทอน' ศักดิ์ศรีมนุษย์

(16 พ.ค.67) ที่ โรงแรมสยาม@สยาม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรายงาน ‘BEING OURSELVES IS TOO DANGEROUS: อันตรายเกินกว่าจะเป็นตัวเอง’ สะท้อนสถานการณ์การถูกคุกคามของผู้หญิงและกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่ต่างตกเป็นเป้าหมายของการสอดส่องด้วยเครื่องมือต่าง ๆ

เวลา 9.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของงานเต็มไปด้วย นักวิชาการ นักกิจกรรมทางสังคม และนักขับเคลื่อนประเด็นทางเพศเดินทาง เดินทางมาร่วมงานและเข้าร่วมการเสวนาผ่านระบบการประชุมออนไลน์อย่างคึกคัก อาทิ ไอรีน ข่าน ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ ด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก, เช็ชฐา ดาส นักวิจัยและที่ปรึกษาด้านเพศวิถีศึกษาความยุติธรรมทางเพศ ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น, เอลิน่า คาสติโย นักวิจัยและที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีกับมนุษยชน และชนาธิป ตติยการุณวงศ์ นักวิจัยระดับภูมิภาคประจำประเทศไทย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

พร้อมด้วย ฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นาดา ไชยจิตต์ อาจารย์สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, อังคณา นีละไพจิตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และสมาชิกคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจสหประชาชาติ และ สิรภพ อัตโตหิ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ เป็นต้น

เวลา 9.15 น. เปิดคลิปวิดีโอ ‘อันตรายเกินกว่าเป็นตัวเอง’ สะท้อนสถานการณ์การคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อนักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้หญิงและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศบนสื่อออนไลน์ ผ่านการสปายแวร์เจาะข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียที่มุ่งโจมตีความเป็นส่วนตัวระดับสูง เพื่อบีบให้ยุติบทบาทการเคลื่อนไหว

ต่อมา 9.25 น. นางปิยนุช โครตสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ ประเทศไทย กล่าวเปิดงานว่า จากเหตุการณ์ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ ‘บุ้ง’ ที่อดอาหารประท้วงกว่า 110 วัน ที่ถูกจำคุกตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2667 โดยทางการปฏิเสธที่จะให้การประกันตัวต่อบุ้งรวมทั้งนักกิจกรรมอื่น

“ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมของไทย แสดงให้เห็นถึงการที่คน ๆหนึ่ง ออกมาเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานและการแสดงออก ในความเห็นของเขาไม่ว่าจะความเห็นอะไรก็ตาม สุดท้ายต้องลงเอยด้วยความตาย แทนที่จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงดิฉันขอเชิญทุกท่านที่ร่วมงานวันนี้ร่วมแสดงความเสียใจและรำลึกถึง บุ้ง เนติพร ด้วยการยืนสงบนิ่ง 1 นาที” นางปิยนุชเผย

จากนั้น ได้เชิญผู้เข้าร่วมงานแสดงความไว้อาลัยต่อ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง นักกิจกรรมทางการเมืองที่ประท้วงด้วยการอาหารจนเสียชีวิต ด้วยการยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที

ต่อมา นางปิยนุชกล่าวต่อไปว่า วันที่มีการรายงานข่าวการเสียชีวิตของบุ้ง กลับมีการแสดงความคิดเห็นทางออนไลน์หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นลักษณะของการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้มีการแสดงความเสียใจจากคนกลุ่มหนึ่ง แต่คนอีกกลุ่มพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเย้ยหยัน อันนี้ก็ถือว่าเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโลกดิจิทัลด้วย

“อยากจะให้การเสียชีวิตของเธอเป็นสัญญาณเตือนถึงทางการไทยและพวกเราทุกคน ในการเคารพสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออก แล้วก็สิทธิการได้รับการประกันตัว การรักษาความยุติธรรม และการตระหนักเรื่องสิทธิเสรีภาพที่กำลังเกิดขึ้น” นางปิยนุชระบุ

นางปิยนุชกล่าวว่า วันนี้เราเปิดรายงาน “อันตรายเกินกว่าที่จะเป็นตัวเอง บนโลกออนไลน์และเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มุ่งปิดปากนักกิจกรรมผู้หญิงและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจัดขึ้นโดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘Protect the protest’ ซึ่งเป็นแคมเปญในระดับสากล ที่เรารณรงค์กันมาในระดับสากล

“เราต้องการที่จะนำเสนอเรื่องราว เพื่อปกป้องเรื่องสิทธิมนุษยชนของผู้หญิงและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และส่งเสริมความเคลื่อนไหวท่ามกลางที่ถูกบีบตัว โดยเฉพาะในภาคของประชาสังคม ตั้งแต่การรัฐประหารปี 2557 ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะแสดงตัวเป็นผู้นำในการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ

แต่ความจริงที่ปรากฏในรายงานพบว่า นักกิจกรรมหญิงและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศถูกคุกคามต่าง ๆ นานา ทั้งความรุนแรงผ่านภาษา หรือประเด็นทางเพศ ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นใครเป็นคนรักเพศเดียวกัน คนข้ามเพศ ผู้หญิง คุณเป็นตัวของตัวเองไม่ได้เลย มันเป็นความล้มเหลวของการปกป้องและคุ้มครองจากภาครัฐต่อคนกลุ่มนี้” นางปิยนุชกล่าว

นางปิยนุชกล่าวต่อว่า เราหวังว่ารายงานนี้จะช่วยให้ทุกคนเห็นถึงเนื้อหา ข้อเสนอแนะถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักกิจกรรมผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศถูกสอดส่องโดยไม่ชอบ ถูกสอดส่องโดยด้วยสปายแวร์ หรือคุกคามบนโลกออนไลน์ เหมือนกันเดินบนกับดักระเบิด ที่เดินไปทางไหนก็โดนทั้งนั้น เราอยากจะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของรัฐ ควรจะเป็นผู้กระทำหรือผู้ปกป้องพวกเขากันแน่

“เราอยากให้เรื่องราวของนักปกป้องสิทธิเหล่านี้เป็นที่รับรู้ของสังคม และรัฐก็ได้ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง และส่งเสริมพวกเขา ให้เขาได้ใช้สิทธิกันอย่างเต็มที่ และเราอยากสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมว่า เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น อยากให้เคารพการแสดงออกและการประท้วง ให้พื้นที่ของพวกเขาโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกหวาดกลัว

สุดท้ายที่สำคัญ คือ เราต้องการที่จะยืนหยัดเคียงข้าง ปกป้องสิทธิ เคียงข้างผู้หญิง ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อที่จะได้สื่อสารเรื่องราวของตัวเอง ด้วยความเป็นตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ต้องหวาดกลัวการโจมตี หรือ โดนทำร้ายอีกต่อไป” นางปิยนุชทิ้งท้าย 

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ✨ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

🟢รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท : 205690

🔴รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท : 205689 205691

🔴รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 885 747

🔴รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 137 070

🔴รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท : 60

🟢รางวัลที่ 2 รางวัลละ 200,000 บาท : 753950  862515  418448  589461 051664

🟢รางวัลที่ 3 รางวัลละ 80,000 บาท : 831208  282965  803933  658671  987576  787378  695909  737000  730886  625541 

🟢รางวัลที่ 4 รางวัลละ 40,000 บาท: 746802  009719  081650  320888  402421  787062  339581  651594  187716  095107  703403  644520  376789  907223  261372  850675  722477  544984  756905  590008  088710  259114  733830  593091  391338  224331  988056  853693  622774  250866  414318  902724  996534  310292  991850  950967  577047  338715  439055  176775  174951  256245  352139  965748  798919  602925  836258  137473  266130  645861 

🟢รางวัลที่ 5  รางวัลละ 20,000 บาท: 920214  054967  847156  678348  630257  790707  164089  979193  349215  987029  756238  808246  520219  410038  224623  604243  732202  868087  841034  556693  354437  382067  938091  553872  627605  011016  029171  016141  490116  133180  523312  969515  223879  947791  967438  594780  988300  100486  512815  462525  250968  379072  565794  847506  099921  644545  924253  183636  645113  359888  979559  341093  897365  672330  835807  077139  120743  456676  894478  128048  698695  931182  875647  612991  988503  274866  210371  525350  503663  542797  490133  872762  359444  715647  950316  286023  529977  422625  659221  951224  637975  763554  502464  453204  907595  549150  941650  669611  566794  418285  854947  410722  224606  775921  403777  557784  621413  412923  477860  687477

แฉ!! 'ซ้ายใหม่' บ่มเพาะให้ผู้คนรู้สึกเป็นเหยื่อ เพื่อรื้อระบบเก่าแล้วสร้างใหม่  ภายใต้ยุทธศาสตร์ 'ใส่ไฟ' เหมือนอวยเด็กหัดเดินแล้วล้ม เพราะพื้นมันไม่ดี

(16 พ.ค.67) จากเพจ 'ต.ตุลยากร' ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ 'วัฒนธรรมของการเป็นเหยื่อ' (Victimhood Culture) ระบุว่า...

สังคมไทยปัจจุบันนั้นกำลังถูกหล่อหลอมด้วยแนวคิดของนักวิชาการฝ่ายซ้ายใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ได้รับอิทธิพลทางความคิดจากสำนักแฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมัน: Frankfurter Schule) 

แนวคิดหลักของสำนักนี้ ได้รับอิทธิพลและพัฒนาแนวคิดต่อยอดมาจากมาร์กซิสต์ เช่น วิพากษ์วิจารณ์ระบบทุนนิยม รวมถึงแนวคิดเรื่องการปลดปล่อยมนุษย์จากการกดขี่

ซึ่งผลข้างเคียงของการโหมประโคมเรื่องการกดขี่จากระบบ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า 'วัฒนธรรมของการเป็นเหยื่อ' (Victimhood Culture)

คนที่ถูกบ่มเพาะความคิดจากฝ่ายซ้ายมักจะเกิดอาการที่คิดว่าตนเองเป็นเหยื่อของระบบ ไม่พยายามที่จะพัฒนาตนเองเพื่อมีชีวิตที่ดีกว่า โทษแต่ว่าที่ชีวิตตัวเองยังย่ำแย่อยู่อย่างนี้ก็เพราะระบบ ดังนั้นวิธีแก้ มีอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือ รื้อถอนทำลายระบบปัจจุบัน แล้วสร้างใหม่

ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ เด็กหัดเดินแล้วล้ม พ่อแม่โทษว่าที่ลูกล้มนั้นเพราะพื้นไม่ดี ต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่

แต่ปัญหาคือ ใช่ว่าทุกคนที่คิดเช่นนั้น หลายคนที่เริ่มต้นจากจุดเดียวกัน ในระบบเดียวกัน กลับมีชีวิตที่ดี โดยไม่ต้องโทษคนอื่น

ดังนั้นหากขบวนการฝ่ายซ้ายต้องการให้คนเห็นด้วยว่าระบบที่มีอยู่นี้ไม่ดี ก็จำเป็นที่จะต้องแสดงให้เห็นถึง 'เหยื่อ' ที่ถูกกดขี่จากระบบอย่างชัดเจน

เมื่อหา 'เหยื่อ' ที่ชัดเจนมาแสดงไม่ได้ ก็เกิดกระบวนการสร้าง 'เหยื่อ' ขึ้นมา แล้วนำโหนเพื่อบอกชาวโลกว่าระบบที่มีอยู่นั้นย่ำแย่

'เหยื่อ' ที่ถูกสร้าง จึงเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งบนกระดานของพวกซ้ายใหม่เท่านั้นเอง

ขอประณามทุกผู้คนที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการสร้างเหยื่อเหล่านี้ครับ

ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/sxU25qQCazyCrAxY/?mibextid=oFDknk

'เศรษฐา' ส่งกำลังใจถึง 'นายกฯ สโลวาเกีย-ครอบครัว' ลั่น!! ขอยืนหยัดเคียงข้างประชาคมทั่วโลก

(16 พ.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า...

“พวกเราตกใจเป็นอย่างมาก สำหรับเหตุการณ์โจมตี นายโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย และขอประณามการใช้ความรุนแรงดังกล่าว ตลอดจนขอยืนหยัดเคียงข้างประชาคมทั่วโลก และประชาชนชาวสโลวาเกีย ทั้งนี้ ขอส่งกำลังใจไปยังนายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก และครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top