Friday, 6 June 2025
Hard News Team

‘ยูเครน’ เจอขีปนาวุธ โดรนถล่ม ดับ-เจ็บเพียบ หลังโจมตีฐานทัพ และสนามบินของ ‘รัสเซีย’

(6 มิ.ย. 68) รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนระลอกใหญ่ในช่วงเช้ามืดวันศุกร์ โดยใช้ทั้งโดรนและขีปนาวุธพิสัยไกลพุ่งเป้าหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเคียฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และบาดเจ็บราว 40 คนทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ยูเครนระบุว่าเป็นการตอบโต้หลังจากที่เคียฟโจมตีฐานทัพทิ้งระเบิดของรัสเซียลึกเข้าไปในแดนศัตรูเมื่อต้นสัปดาห์

การโจมตีสร้างความเสียหายในกรุงเคียฟ โดยมีอาคารที่พักอาศัยหลายหลังถูกไฟไหม้และผนังถล่ม ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตท่ามกลางซากปรักหักพัง รายงานระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิต 3 นาย ส่วนเมืองเชอร์นีฮิฟใกล้ชายแดนเบลารุสถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธรวม 14 ลูก และเมืองลุตสค์ทางตะวันตกเฉียงเหนือใกล้โปแลนด์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย

กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธครูซอย่างน้อย 38 ลูก ขีปนาวุธพิสัยใกล้ 6 ลูก และโดรนอีกกว่า 400 ลำ ขณะที่ในวันเดียวกัน ยูเครนใช้โดรนโจมตีโรงงานอุตสาหกรรมในเมืองเอนเกลส์ของรัสเซีย สร้างความเสียหายบริเวณฐานทัพทางใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนยูเครนถึง 460 กิโลเมตร

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากยูเครนโจมตีสะพานเคิร์ช จุดเชื่อมหลักระหว่างรัสเซียกับแหลมไครเมีย ด้วยวัตถุระเบิดน้ำหนักกว่า 1 ตันที่ซุกไว้ใต้น้ำ ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ และย้ำจุดยืนในสายตรงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งไม่ได้แสดงท่าทีห้ามปรามผู้นำรัสเซีย

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เตือนว่ารัสเซียอาจใช้ขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่มีหัวรบหลายลูกโจมตียูเครนอีกในอนาคต โดยที่ผ่านมาเคยใช้อาวุธชนิดนี้ถล่มเมืองดนิโปรมาแล้ว การขยายการผลิตโดรนและขีปนาวุธในรอบปีของรัสเซีย ทำให้สามารถเปิดฉากโจมตีขนาดใหญ่พร้อมกันหลายแนวรบ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ใหม่เพื่อเจาะระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนที่ยังพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐฯ เป็นหลัก

‘ทรัมป์’ ตอบตกลงเยือนจีน ตามคำเชิญ ‘สี จิ้นผิง’ ถกการค้า-ลดภาษี หลังโทรคุยกันในรอบหลายเดือน

(6 มิ.ย. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันเตรียมเยือนประเทศจีน หลังได้รับคำเชิญจาก สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ที่เน้นเรื่องการค้าเป็นหลัก ทั้งสองฝ่ายยังเชิญกันไปเยือนประเทศของอีกฝ่ายด้วย

การสนทนาในวันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน 2568 ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทั้งสองประเทศพูดคุยโดยตรง นับตั้งแต่เริ่มสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยสำนักข่าวซินหัวของจีนระบุว่า การพูดคุยนี้เกิดขึ้นตามคำขอของฝ่ายสหรัฐฯ

ทรัมป์โพสต์บน Truth Social ว่าการพูดคุยเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งเน้นเรื่องการค้าและมีผลลัพธ์เชิงบวกสำหรับทั้งสองประเทศ พร้อมระบุว่าเขาจะเดินทางไปจีนพร้อมสุภาพสตรีหมายเลข 1 และเชิญสี จิ้นผิง เยือนทำเนียบขาวเช่นกัน

ซินหัวรายงานว่า สี จิ้นผิง เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการด้านลบที่กระทำต่อจีน และเน้นย้ำว่าจีนจะรักษาข้อตกลงลดกำแพงภาษีซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ กับจีนจะลดภาษีสินค้านำเข้าลง 15% เป็นเวลา 90 วัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยกล่าวหาจีนละเมิดข้อตกลงลดภาษีและหยุดส่งแร่ธาตุหายาก ขณะที่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา และในวันเดียวกัน ทรัมป์ยืนยันว่านักศึกษาจีนสามารถเดินทางมาเรียนในสหรัฐฯ ได้ แต่จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ขณะที่สี จิ้นผิง เตือนให้สหรัฐฯ ระมัดระวังเรื่องไต้หวันอย่างรอบคอบในบริบทความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้

สมุทรปราการ-จนท. ร่วมกตัญญู พระสงฆ์ ช่วยกันเคลื่อนย้ายร่างอาจารย์ใหญ่ มาประกอบพิธี ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง

เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.68) ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยกันเคลื่อนย้ายร่างอาจารย์ใหญ่ จากห้องปฏิบัติการสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ ไปยังวัดต่างๆ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา จำนวน 67 ร่างด้วยกัน

นอกจากนี้ ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูยังได้ให้การสนับสนุนหีบบรรจุร่างอาจารย์ใหญ่ พร้อมทั้งช่วยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตที่ได้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2568 มาประกอบพิธีทางศาสนายังวัดต่างๆ

โดยมี วัดบางพลีใหญ่ใน (วัดหลวงพ่อโต) จำนวน 1 ร่าง วัดมงคลโคธาวาส จำนวน 9 ร่าง วัดราษฎร์บูรณะ จำนวน 10 ร่าง วัดลาดหวาย จำนวน 15 ร่าง และวัดบางพลีใหญ่กลาง จำนวน 32 ร่าง โดยทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ภายใต้ความเมตตากรุณาจาก "พระวชิรคณาทร" (ท่านเจ้าคุณแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีประชุมเพลิงร่างผู้เสียชีวิตที่อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา 

จำนวน 1 ร่าง โดยมีอาจารย์อธินันท์ พรมมาโฮม อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และเจ้าหน้าที ตัวแทนนักศึกษา คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ 

ทั้งนี้ นายฉะโอด รุ่งเรือง ที่ปรึกษา นายก อบจ. สมุทรปราการ คณะไวยาวัจกร วัดบางพลีใหญ่กลาง ข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี พ่อค้าประชาชน เจ้าหน้าที่ รถ น.เขต มูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าร่วมพิธีประชุมเพลิงเผาสรีระสังขารร่างผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา 

นอกจากนี้ ร่างของอาจารย์ใหญ่ในส่วนที่ยังไม่ได้ประกอบพิธีทางศาสนา ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจะดำเนินการทำพิธีประชุมเพลิง ในวันเสาร์ ที่ 7 มิถุนายน 2568 ต่อไป

รทสช. ชวนติดแฮชแท็ก “ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” สร้างขวัญกำลังใจทหารกล้าผู้อาสาปกป้องอธิปไตยชาติ

(6 มิ.ย.68) เพจเฟซบุ๊ก 'พรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party' โพสต์ข้อความระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย ร่วมกันแสดงออกด้วยการติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่พี่น้องทหารของเรา ในภารกิจปกป้องเอกราช และอธิปไตยของชาติ

ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ภาพตนเองกับธงชาติไทย ข้อความระบุว่า "#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด" ด้วยเช่นเดียวกัน

ผบ.กองเรือยุทธการ มอบนโยบาย การเตรียมความพร้อมกำลังรบทางเรืออากาศยานหน่วยซี

เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.68) พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการมอบนโยบายการเตรียมความพร้อมกำลัง ระดับ พ.2 ของกองเรือยุทธการ ณ ดาดฟ้าบิน เรือหลวง ร.ล.จักรีนฤเบศร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ใจความว่า กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยกำลังรบหลักของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมทั้งด้านกำลังพล เรือ อากาศนาวี และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ สามารถประกอบกำลังเป็น กองเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการระยะไกลป้องกันเชิงรุกตามแนวทางการใช้กำลังโดยรุกออกนอกประเทศ เป็นเครื่องมือทางทหารของรัฐบาล ที่จะก่อให้ให้เกิดการเจรจาโดยสันติ บนพื้นฐานของกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ 

กำลังทางเรือ ของกองเรือยุทธการ ได้ผ่านการฝึกภายในประเทศและฝึกร่วมกับมิตรประเทศ มีขีดความสามารถในการคุ้มครองเส้นทางคมนาคมทางทะเล เรือในทะเล สามารถโจมตี ไล่ล่า ทำลายกำลังฝ่ายตรงข้ามและส่งกำลังรบยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธิน ทำการยุทธบรรจบกับกำลังทางบก

หน่วยกำลังรบทางเรือของกองทัพเรือ มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

‘บิ๊กป้อม’ ลั่น อย่าอ่อนข้อบนเวทีอธิปไตย เกมการเมืองต้องเดินอย่างรู้ทัน พร้อมย้ำ แผ่นดินไทยต้องเป็นของคนไทยเท่านั้น

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา พร้อมสะท้อนประสบการณ์ตลอดหลายทศวรรษที่เคยปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน โดยย้ำว่าความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในเชิงยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง

พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเด็ดขาด ไม่ยอมให้การรุกล้ำอธิปไตยถูกมองข้าม และให้ความสำคัญกับมาตรการตอบโต้ที่สมเหตุสมผล ทั้งด้านการทูต เศรษฐกิจ กฎหมาย และศักยภาพทางทหาร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย

พล.อ.ประวิตรกล่าวอย่างชัดเจนว่า ไทยยึดหลักสันติวิธี ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่หากอีกฝ่ายไม่มีความจริงใจ ไม่ยอมใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ กลับปลุกปั่น ป้ายสี และยกระดับปัญหาไปสู่เวทีโลก ไทยก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือในทุกมิติ เพราะการประนีประนอมแบบไม่ลึกซึ้งจะยิ่งทำให้คู่เจรจาไม่เกรงใจและไม่เกรงกลัว

ทั้งนี้ กติกาสากลมีไว้ใช้กับ 'สุภาพบุรุษ' และเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเจรจาด้วยความจริงใจ ก็ต้องเตรียมมาตรการเชิงรุกที่สร้างแต้มต่อให้ฝ่ายไทยได้เปรียบ ไม่หลงกล ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ พร้อมเรียกร้องให้มีการสื่อสารกับประชาชนและมิตรประเทศอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในเวทีระหว่างประเทศ

พล.อ.ประวิตรฯ ขอส่งสารไปถึงกำลังพลในพื้นที่ชายแดน โดยขอชื่นชมกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 2 และกำลังพลทุกนายที่เสียสละเฝ้าระวังภัยคุกคามต่อผืนแผ่นดิน ด้วยความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว พร้อมให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

ท้ายที่สุด พล.อ.ประวิตรเน้นย้ำว่า ประเทศไทยยึดมั่นในสันติภาพ แต่หากมีการรุกล้ำอธิปไตยแม้แต่น้อย ต้องพร้อมปกป้องด้วยชีวิต เพราะแผ่นดินไทยต้องเป็นของคนไทยเท่านั้นพร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่นโยบายระดับสูงจนถึงทหารด่านหน้า เพื่อปกป้องแผ่นดินด้วยหัวใจแห่งความรักชาติ

จเรตำรวจแห่งชาติได้รับรางวัล บุคคลต้นแบบ ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในงาน 'วันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2568'

เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.68) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมงาน 'วันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2568' ภายใต้แนวคิด 'Together We Can Stop Human Trafficking' จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ เมืองทองธานี โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน

สำหรับการจัดงาน 'วันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2568' มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้ประชาชนตระหนักว่า การค้ามนุษย์เป็นภัยใกล้ตัว คนทุกช่วงวัยอาจตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งแสดงถึงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการต่อต้านการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป 

ภายในงานมีการมอบรางวัลดีเด่นด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จำนวน 4 ประเภท รวมทั้งสิ้น 31 รางวัล ประกอบด้วย บุคคลต้นแบบ จำนวน 3 รางวัล , บุคคลดีเด่น จำนวน 16 รางวัล , หน่วยงานดีเด่น จำนวน 6 รางวัล และจังหวัดต้นแบบขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จำนวน 6 รางวัล 

โดย พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้รับรางวัล “บุคคลต้นแบบ ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์” ซึ่งมีผลงานสำคัญ ได้แก่
- ออกมาตรการป้องกันการหลอกลวงนำคนไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน 
- จัดการประชุมร่วมกับผู้แทนสถานทูตจากประเทศต่างๆ และการประชุมหน่วยเฉพาะกิจ UNODC ต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ 
- จับกุมหัวหน้าองค์กรอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติญี่ปุ่น และช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ชาวญี่ปุ่น

โอกาสนี้ ยังมีข้าราชการตำรวจที่ได้รับรางวัล ได้แก่ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับรางวัล “บุคคลต้นแบบ ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์” 

รางวัล “บุคคลดีเด่น ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์” จำนวน 6 คน ได้แก่ 
- พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ 
- พ.ต.อ.กวินศักดิ์ พีรยศธนนนท์ รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 
- พ.ต.อ.ศิริพงศ์ ศรีทันฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก 
- พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ 
- พ.ต.ท.หญิง กัลย์สุดา จุลประเสริฐ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบุรี 
- ร.ต.อ.ณัฏฐพร ไผ่ประดิษฐ์ รองสารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ 

นอกจากนี้ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ยังได้รับรางวัล “หน่วยงานดีเด่น ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์” อีกด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญในภารกิจการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวลดลงและหมดไปจากสังคมไทย

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่สุไหงโก-ลก ย้ำทุกหน่วยเฝ้าระวังเข้มช่วงใกล้วันฮารีรายอ

 

พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และผู้บังคับบัญชาหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจความมั่นคงในพื้นที่ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส การลงพื้นที่ครั้งนี้ ครอบคลุมการตรวจเยี่ยม 3 จุดตรวจหลัก ได้แก่ ด่านตรวจบ้านน้ำตก จุดตรวจสุไหงวัสดุ (จุดตรวจที่สร้างใหม่หลังเหตุการณ์ยิงหน้าอำเภอ) และด่านตรวจบุญยลาภ พร้อมทั้งตรวจติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่มีประชาชนจำนวนมากจากประเทศมาเลเซียเดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยบรรยากาศบริเวณด่านศุลกากรเป็นไปอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยพี่น้องประชาชนจากฝั่งมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและเยี่ยมญาติ เนื่องในโอกาสใกล้เทศกาลฮารีรายออีฎิ้ลอัฎฮา เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ตรวจสอบเอกสารการเข้าออกอย่างเข้มงวด และเน้นย้ำการปฏิบัติงานร่วมกันของทุกหน่วยในพื้นที่

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสำคัญเช่นนี้ ประชาชนจะมีการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในและระหว่างประเทศ จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการป้องกันและดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเคร่งครัด โดยได้สั่งการให้ทุกจุดตรวจใช้ความระมัดระวัง สังเกตสิ่งผิดปกติ รวมถึงเฝ้าระวังยานพาหนะและบุคคลต้องสงสัยที่อาจฉวยโอกาสกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ยังมีการเสริมมาตรการด้านเทคโนโลยี ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ตามเส้นทางหลัก เส้นทางรอง และด่านพรมแดน เพื่อช่วยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และใช้เป็นหลักฐานหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชน คือหัวใจสำคัญในการสร้างพื้นที่ปลอดภัย ความสงบจะเกิดขึ้นได้จากการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง

AIS-GULF-JAS คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายไทยลีก 4 ปี มูลค่า 2 พันล้าน ‘มาดามแป้ง’ คอนเฟิร์ม!!…เพิ่มเงินสนับสนุนสโมสรครบทุกลีก

(6 มิ.ย. 68) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงยืนยันว่า กลุ่มบริษัท AIS, GULF และ JAS เป็นผู้คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกทุกระดับแบบ Exclusive ในประเทศ ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26-2028/29 พร้อมเงื่อนไขขยายต่ออีก 2 ปี 

ลิขสิทธิ์ครอบคลุมทั้ง ไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3, ฟุตบอลถ้วย (เอฟเอ คัพ, รีโว่ คัพ), ลีกเยาวชน U21 และฟุตบอลหญิงลีก โดยมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ตลอด 4 ฤดูกาล แบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฤดูกาลละ 350 ล้านบาท และค่าผลิตสัญญาณอีกไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาทต่อฤดูกาล

ขณะเดียวกัน มาดามแป้งยังเสนอเพิ่มเงินสนับสนุนแบบให้เปล่าแก่สโมสรสมาชิกในทั้ง 3 ลีก เริ่มฤดูกาล 2025/26 ได้แก่ ไทยลีก 1 ทีมละ 15 ล้านบาท, ไทยลีก 2 ทีมละ 4 ล้านบาท และไทยลีก 3 ทีมละ 1.25 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 398.5 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมพัฒนามาตรฐานและความมั่นคงของวงการฟุตบอลไทยในระยะยาว

ผบ.ตร. ย้ำแสดงจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของชาติ จากกรณีที่ช่องบก

เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ในการอ้างสิทธิเกี่ยวกับพื้นที่ และเกิดการปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทีีผ่านมา อันอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดในการพิทักษ์ปกป้องรักษาชาติ และคุ้มครองอธิปไตยของดินแดนไทย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ ตำรวจตระเวนชายแดนเตรียมความพร้อมกำลัง และนำเครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมในการปฏิบัติและสนับสนุนอย่างเต็มที่ กรณีการปฏิบัติการ หากกำลังพลและเครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยปฏิบัติการไม่เพียงพอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยไม่ให้ผู้ใดล่วงล้ำอธิปไตยของชาติไทยอย่างเด็ดขาด

พร้อมได้สั่งการให้ตำรวจพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ จัดเตรียมความพร้อมแผนปฏิบัติการ แผนเผชิญเหตุ สนับสนุนการปฏิบัติเมื่อได้รับการสั่งการ และให้กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีติดตามเฝ้าระวัง การโจมตีทางไซเบอร์ การปล่อยข่าวปลอมทางสื่อโซเชียล ให้บังคับใช้กฎหมาย ปิดกั้นกรณีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้มีการแพร่กระจายข่าวหรือปล่อยข่าวปลอมที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย อีกทั้งได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มในการคัดกรองคนต่างด้าวเข้าประเทศไทยตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวด โดยได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมทั้งด้านแผนการปฏิบัติ แผนเผชิญเหตุ กำลังพล เครื่องมือ อาวุธยุทโธปกรณ์ ให้พร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติกับฝ่ายทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำจุดยืนในการปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ จะไม่ให้ผู้ใดล่วงล้ำอธิปไตยของชาติไทยอย่างเด็ดขาด พร้อมบังคับใช้กฎหมายและสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดนและพื้นที่ส่วนหลังอย่างเต็มกำลังความสามารถ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top