สุนทรพจน์ของนาย ‘สี จิ้นผิง’ ปธน.จีนในที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ครั้งที่ 29 ในหัวข้อ ‘สามัคคี ร่วมมือ และกล้ารับผิดชอบ เพื่อประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของเอเชียแปซิฟิก’ (ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022)
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมิตรสหายทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่านทั้งหลาย ณ กรุงเทพมหานคร ‘เมืองแห่งสวรรค์’ ที่สวยงาม นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันโดยตรงแบบออฟไลน์ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งไปยังรัฐบาลไทย โดยเฉพาะ ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ที่ตั้งใจและใช้ความพยายามเพื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมในครั้งนี้
ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นซ้ำหลายระลอกและจะยืดเยื้อต่อไป การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ลัทธิฝ่ายเดียวและลัทธิคุ้มครองได้ทวีความรุนแรง ห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานของโลกได้รับผลกระทบ ปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ความปลอดภัยด้านธัญญาหาร ความมั่นคงด้านพลังงาน และปัญหาอื่นๆ มีความซับซ้อนและรุนแรงอย่างหนัก
ภูมิภาค ‘เอเชียแปซิฟิก’ เป็นสถานที่ลงหลักปักฐานของเรา และเป็นแหล่งขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้พัฒนาและเป็นไปอย่างคึกคัก โดยได้สร้าง ‘ปาฏิหาริย์แห่งเอเชียแปซิฟิก’ ดึงดูดความสนใจของทั่วโลก ความร่วมมือส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้หยั่งรากลึกในใจของผู้คนทั้งหลายช้านานมาแล้ว
ขณะนี้โลกได้ยืนอยู่ที่ทางแยกของประวัติศาสตร์อีกครั้ง ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความสำคัญและมีบทบาทโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
คนจีนสมัยโบราณระบุไว้ว่า ‘ผู้รอบรู้จะไม่สับสน ผู้มีคุณธรรมจะไม่กังวล ผู้กล้าหาญจะไม่หวั่นเกรง’ ในสถานการณ์ใหม่เราต้องร่วมมือสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งเอเชียแปซิฟิก เพื่อสร้างความรุ่งโรจน์ใหม่ของความร่วมมือแห่งเอเชียแปซิฟิก ด้วยประการเหล่านี้ ข้าพเจ้ามีข้อเสนอดังต่อไปนี้
ประการแรก ปกป้องความยุติธรรมและความเที่ยงธรรมระหว่างประเทศ สร้างสรรค์เอเชียแปซิฟิกให้มีสันติภาพและความมั่นคง
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและมั่นคง ทำให้เราตระหนักว่าต้องให้เกียรติแก่กัน สามัคคีกัน และร่วมมือกัน เมื่อเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ เราต้องปรึกษาหารือกันเพื่อค้นหาปัจจัยร่วมที่ใหญ่ที่สุด
เราควรยึดมั่นแนวคิดด้านความปลอดภัยที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ครอบคลุม ให้ความร่วมมือ และยั่งยืน เคารพอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนแต่ละประเทศ ไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น เคารพเส้นทางการพัฒนาและระบบสังคมที่ประชาชนของแต่ละประเทศเลือกเอง ให้ความสำคัญต่อความห่วงใยด้านความปลอดภัยที่สมเหตุสมผลของแต่ละประเทศ ขจัดความขัดแย้งและข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยการเจรจาอย่างสันติ
เราต้องมีส่วนร่วมในการสร้างธรรมาภิบาลโลกอย่างแข็งขัน เพื่อผลักดันให้ระเบียบของประชาคมโลกพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ยุติธรรม และสมเหตุสมผล อีกทั้งให้มีหลักประกันทางสันติภาพและความมั่นคงทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก
ประการที่สอง ยึดมั่นในความเปิดกว้าง สร้างสรรค์เอเชียแปซิฟิกให้มีความมั่งคั่งร่วมกัน
ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าการเปิดกว้าง ร่วมมือและได้ชัยชนะร่วมกันถึงเป็นหนทางที่ถูกต้องในโลก เราต้องยืนหยัดลัทธิภูมิภาคแบบเปิดกว้าง เสริมสร้างการประสานนโยบายเศรษฐกิจแบบมหภาค สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน ขับเคลื่อนกระบวนการให้เศรษฐกิจเป็นแบบองค์เดียวกันในระดับภูมิภาคอย่างคงเส้นคงวา และสร้างเขตการค้าเสรีระดับสูงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้สำเร็จโดยเร็ว
เราต้องยืนหยัด ‘การพัฒนาเพื่อประชาชน ด้วยประชาชน และผลลัพธ์สู่ประชาชน’ ส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมั่งคั่งร่วมกัน จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายต่างๆ ปฏิบัติตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้ครอบคลุมและมีคุณภาพ ขับเคลื่อนต่อไปเพื่อเข้าร่วม ‘ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก’ และ ‘ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจดิจิทัล’ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาแบบหลอมรวมระดับภูมิภาค
ในปีหน้าจีนจะพิจารณาการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฟอรัมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ( BRI : Belt and Road Initiative) ครั้งที่ 3 เพื่อเพิ่มพลังขับเคลื่อนใหม่แก่การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก