Friday, 10 May 2024
เศรษฐาทวีสิน

'ชลน่าน-เศรษฐา' ตอบปมทักษิณประกาศจะกลับมาติดคุก  ชี้!! เป็นความเห็นส่วนบุคคล เชื่อไม่กระทบแลนด์สไลด์

(25 มี.ค.66) - ที่สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พร้อมที่จะกลับไปรับโทษจำคุกในประเทศไทย หากได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะออกมาเป็นอย่างไร ว่าเท่าที่ตนได้ฟังเป็นการแสดงความคิดเห็นของนายทักษิณ ฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่มีความประสงค์จะกลับบ้านเกิด และนายทักษิณใช้คำว่าติดคุกมา 16 ปี และยินดีที่จะมาติดคุกกลับเมืองไทย เพราะต้องการจะมาอยู่ใกล้ลูก ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นของตัวท่านเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค

เมื่อถามว่า มองการโจมตีของพรรคการเมืองอื่นๆ ในกรณีที่นายทักษิณออกมาพูดในลักษณะนี้อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นช่วงที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคก็พยายามหาจุดเด่นจุดด้อยของตัวเองและคู่แข่ง ฉะนั้นประเด็นอะไรที่เขาคิดว่าเป็นประโยชน์กับเขา เขาก็ย่อมหยิบยกขึ้นมา แต่โดยรวมนายทักษิณเอง เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคนที่รักพรรค พท. ย้ำว่านายทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค พท. เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพรรค พท. ดังนั้นความเชื่อความศรัทธา ของแต่ละคนก็เป็นสิทธิ์ของประชาชน และขณะเดียวกันคนที่ไม่ชอบนายทักษิณ ก็มีเป็นธรรมดา และประเด็นเหล่านี้เราต้องเฝ้ามองว่าจะกระทบต่อพรรคเรา มากน้อยขนาดไหนเท่านั้นเอง

“ในมุมที่เขามาใส่ร้ายที่เกินขอบเขต ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราก็จะดูในมุมนั้น แต่ทั้งนี้มันคือมิติในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง อย่าให้กระทบสิทธิ์ และข้อกฎหมายแต่ละพรรค” นพ.ชลน่าน กล่าว

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ระบุว่า จะไม่ขอนิรโทษกรรมจากรัฐสภา แม้ว่าพรรค พท. จะชนะเลือกตั้งได้ครองเสียงข้างมากในสภาฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นความคิดของตัวนายทักษิณเอง ท่านบอกว่าถ้าท่านจะกลับมา ก็ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งนายทักษิณ ยินดีกลับเข้าสู่กระบวนการ ถ้านายทักษิณพูดแบบนั้น คงมั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นไปตามหลักนิติธรรม และมีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรค พท. ว่าจะต้องทำอะไร

‘เศรษฐา’ โชว์วิสัยทัศน์ ขับเคลื่อน ‘เศรษฐกิจ-เกษตร’ ไทย ชี้!! ต้องยกระดับ ก.ต่างประเทศ เน้นค้าขายกับต่างชาติ

(30 มี.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ‘เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin’ โดยระบุว่า 

ทาง Maybank Kim Eng ได้ให้เกียรติและเปิดโอกาสให้ผมและทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกับนักลงทุน เพื่อสร้างความมั่นใจในนโยบายเศรฐกิจของพรรคครับ

ผมได้พูดถึงนโยบายภาคการเกษตรที่พรรคให้ความสำคัญมาตลอด เพราะหากการเกษตรดีก็จะสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแรง และส่งผลต่อ GDP ของประเทศอย่างมหาศาล

เรื่องการต่างประเทศที่ผมเน้นย้ำอยู่บ่อยครั้ง ที่เราต้องยกระดับกระทรวงการต่างประเทศ และออกไปเจรจาค้าขายกับทั่วโลก เราต้องกล้าที่จะต่อรอง เพราะเรามีศักยภาพ มีคุณภาพ สิ่งเหล่านี้ต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้ครบทุกด้าน 

ปัจจัยที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือการสร้างสังคมที่แข็งแรง มีสิทธิ มีความเท่าเทียม และมีสวัสดิการที่ดี เราต้องแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เราต้องเร่งพัฒนาสังคมพื้นฐาน เพื่อให้ผู้คนสบายใจที่จะอาศัยอยู่ในประเทศ ไม่ย้ายออกไปไหน และอยากมีลูก เพราะเห็นความหวังในการอยู่ในสังคม

ผมมองว่าทุกเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่เราต้องแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน สิ่งใดที่ทำได้ก่อน เราต้องทำ เพื่อพี่น้องประชาชน และด้วยศักยภาพของพรรคเพื่อไทย ผมเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้ เพราะมีผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่พร้อมจะแก้ไขปัญหา พัฒนาประเทศ สร้างความอยู่ดี กินดีให้กับพี่น้องประชาชนชนได้อย่างรวดเร็วที่สุดครับ

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid07jLHNKKeRmu3U6Q7whTBgA7Ji4fCC2q9xdfgCtcekaHDL5MprTSZ823NKrNjSLw8l&id=100090705406699&mibextid=Nif5oz

กาดเมืองใหม่ แห่รับ 'เศรษฐา' หลังลงพื้นที่พบปะปชช. 'ชาวบ้าน' บอก!! “อยากได้นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย”

‘เศรษฐา ทวีสิน’ เดินกาดเมืองใหม่ แวะตักบาตรเช้า ก่อนพบตัวแทนภาคประชาชนและภาคท่องเที่ยวถกปัญหาฝุ่น PM2.5

(10 เม.ย.66) ที่ตลาดเมืองใหม่ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย, จักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 เบอร์ 1 เดินพบปะพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาค้าขาย และเดินตลาดในช่วงเช้า โดยเศรษฐาได้หยุดแวะตักบาตรเช้าระหว่างเดินหาเสียง ก่อนจะทำภารกิจในวันนี้

ทั้งนี้ บรรยากาศช่วงเช้าของตลาดเมืองใหม่เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากมาจับจ่ายซื้อของเนื่องจากตลาดเมืองใหม่เป็นแหล่งขายสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด และเป็นจุดศูนย์กลางในขนส่ง-กระจายสินค้าทางการเกษตรไปยังแหล่งจำหน่ายต่างๆในจังหวัด ซึ่งนายเศรษฐาได้รับการตอบรับจากทั้งพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนเป็นอย่างมากหลายคนโบกมือทักทาย ให้กำลัง ขอถ่ายภาพคู่ บางคนบอกว่า “เบื่อนายกฯ คนเก่า”, “เบื่อลุงที่อยู่มา 8 ปี” และ “อยากได้นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย” ในขณะที่หลายคนสะท้อนปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตร

'เด็กลุงตู่' งง!! 'เศรษฐา' แจก 5 แสนล้านพร่ำเพรื่อ พอมีคนแนะ กลับไม่ฟัง แถมจะ 'ขู่ฟ้อง' ปิดปาก

จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาด้อยค่า นโยบายบัตรสวัสดิการพลัส หรือ 'บัตรลุงตู่' ที่จะเพิ่มเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 1,000 บาท ว่า เป็นลักษณะของการหยอดน้ำข้าวต้ม และจะเติมปลาแห้งเข้าไปอีกนิด คงไม่มีอะไรไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น

ล่าสุด นายอิทธิพัทธ์ เศรษฐยุกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 32 บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี เบอร์ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้ออกมากล่าวตอบโต้ว่า...

ไม่น่าเชื่อว่านักธุรกิจใหญ่อย่างนายเศรษฐา จะไม่เข้าใจเรื่องหลักการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ต้องทำเท่าที่จำเป็นในสถานการณ์ที่ เศรษฐกิจมันเดินไม่ได้อย่าง เช่นตอนโควิด19 อย่างนั้นจึงจะมีความจำเป็นต้องกระตุ้น

แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยเริ่มมีลักษณะของการฟื้นตัวอย่างชัดเจนดูจากตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ก็มีการปรับตัวดีขึ้นกำลังซื้อของคนมีมากขึ้น เงินเฟ้อลดลงการว่างงานลดลง นักท่องเที่ยวมากขึ้น...การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการ 'ใส่เงินจำนวนมากเข้าไปในระบบ' จึงไม่ใช่มาตรการที่จำเป็นในขณะนี้ และในอีกด้านอาจจะส่งผลต่อเรื่องของเงินเฟ้อที่จะพุ่งขึ้นสูง และราคาสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นตามมา เพราะผู้ประกอบการรู้ว่าจะมีการใส่เงินลงไป ราคาสินค้าก็จะขึ้นไปรอก่อนแล้ว ซึ่งคุณเศรษฐาไม่เคยพูดถึงผลกระทบในมุมแบบนี้บ้างเลย

แม้แต่นางธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ยังออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย กับโครงการนี้ โดยมองว่าเป็นนโยบายที่ไร้ความรับผิดชอบ นอกจากการสร้างหนี้โดยไม่จำเป็นแล้ว ยังทำให้ประชาชนขาดวินัยทางการเงินอีก และบอกว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าอีกด้วย

ร้อยเอ็ด…บรรยากาศ คนร้อยเอ็ดแห่ตะโกนเชียร์ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หลังนำทีมเพื่อไทยชุดใหญ่ ลงพื้นที่อีสานปราศรัยวันนี้

วันนี้ (18 เมษายน 2566) เวลา 08.30 น.  ที่อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นำโดย เศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย เสริมศักดิ์พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรค สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาการโฆษกพรรค ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เดินทางพร้อมคณะมาถึง สนามบินร้อยเอ็ด เพื่อเดินทางไปปราศรัยใหญ่ภาคอีสานเป็นวันแรก

โดยทันทีที่คณะของพรรคเพื่อไทยเดินทางมาถึง มีผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ดพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย สถาพร ว่องสัธนพงศ์ เขต1 เบอร์ 3, ฉลาด ขามช่วง เขต 2 เบอร์ 3, จิราพร สินธุไพร เขต 5 เบอร์3, โดยมีFCเสื้อแดงพี่น้องประชาชนชาวร้อยเอ็ด ยืนเข้าแถวรอรับพร้อมมอบพวงมาลัยคล้องคอแคนดิเดตนายกฯ และส่งเสียงตะโกนดึงกึกก้อง ว่า “นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย” ตลอดทางระหว่างที่คณะของเศรษฐา เดินออกจากสนามบิน

‘เศรษฐา’ ร่วมหารือผู้ประกอบการร้อยเอ็ด เรื่องผลผลิตราคาตกต่ำ ชี้ ทุกคนเห็นปัญหา แต่ไร้ผู้นำในการแก้ไข ขอเสนอ ‘พท.’ ช่วยกู้วิกฤต

‘เพื่อไทย’ พบกลุ่มนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และเกษตรกร จังหวัดร้อยเอ็ด สะท้อนราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ข้าว-วัวราคาถูก รวมถึงระบบชลประทานที่ยังขาดแคลน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ชี้ว่าทุกคนเห็นปัญหาร่วมกันแต่ไร้คนขับเคลื่อนแก้ไข เพื่อไทยขอเสนอตัวเข้าไปแก้ไขปัญหาเอง

(18 เม.ย. 66) ที่สาเกต ฮอลล์ ​จังหวัดร้อยเอ็ด แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน ​แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, น.ส.พานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย, นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรค, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ​ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร​ คณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยทั้ง 8 เขต พบปะตัวแทนกลุ่มนักธุรกิจ และผู้ประกอบจังหวัดร้อยเอ็ดกว่า 30 คน

ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร สะท้อนปัญหาข้าวหอมมะลิของทุ่งกุลาร้องไห้ว่า ตอนนี้ราคาข้าวหอมมะลิราคาตกลง ตั้งแต่หลังรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกษตรกรชาวนาไม่ได้รับการดูแลสนับสนุน จึงอยากให้รัฐบาลใหม่ส่งเสริมให้ราคาข้าวหอมมะลิเพิ่มขึ้นและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มเหมือนเช่นอดีต ซึ่งสิ่งที่เกษตรกร ต้องการคือ 

1.) ต้องการขายข้าวและพืชผลการเกษตรได้ราคา หรือในราคาสูง เพราะทุกวันนี้ขาดทุนอยู่ทุกวัน
2.) โค กระบือ ราคาตกลงอย่างมาก คนทำฟาร์มเลี้ยงไปไม่รอด 
3.) ปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งวันนี้ระบบชลประทานยังเข้าไม่ถึงพื้นที่

ขณะที่ ตัวแทนสภาหอการค้า สะท้อนว่าจังหวัดร้อยเอ็ดติดลำดับเมืองที่ยากจน วันนี้เราต้องผลักดันเกษตรแปรรูป สร้างอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป เพราะราคาข้าวตกต่ำ ต้องนำไปแปรรูปเช่น เหล้าสาเก รวมถึงปัญหาราคาต้นทุนพลังงาน ที่ทั้งประชาชนและภาคอุตสาหกรรมต้องแบกภาระ จึงอยากให้ดูแล

นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า รู้สึกว่า 8 ปีที่ผ่านมา เป็นอะไรที่เราอัดอั้นตันใจ ค้าขายก็ไม่ดี อะไรก็ไม่ดี ตนคิดว่าเรื่องของรายได้เกษตรกรถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของพรรคเพื่อไทย ซึ่งนโยบายหลักของเราคือ รายได้ของพี่น้องเกษตรกรต้องโตขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี และต้นทุนซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของพี่น้องต้องต่ำลง โดยเราจะมีการนำนวัตกรรมมาเสริมเพื่อลดต้นทุนตรงนี้

กาฬสินธุ์ เพื่อไทยยกทัพตอกเสาเข็มแลนด์สไลด์กาฬสินธุ์ทั้ง 6 เขต

เพื่อไทยยกทัพนำขุนพลเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย “บอล” พลากร พิมพะนิตย์ ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 ตอกเสาเข็มกาฬสินธุ์ต้องแลนด์สไลด์ทั้ง 6 เขต  ด้าน“อุ๊งอิ๊ง”วีดีโอคอลอ้อนคิดถึงชาวกาฬสินธุ์ขออย่าปันใจ ย้ำพรรคเพื่อไทยไม่มีสาขา  ให้เลือกทั้งคน ทั้งพรรคแลนด์สไลด์ทั่วประเทศ ขณะที่ “เศรษฐา”ประกาศเดินหน้านโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิทัลให้คนละ 10,000 บาท ยืนยันไม่ยกเลิกบัตรคนจน ระบุพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คนจนจะหมดไปเอง


เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 18 เมษายน 2566 ที่สนามกีฬาโรงเรียนวังมนวิทยาคาร ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย  และนายพานทองแท้ ชินวัตร เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยนายพลากร พิมพะนิตย์ ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 โดยมีนายวิรัช พิมพะนิตย์  ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย นางยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 3 นายทินพล ศรีธเรศ ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 และผู้สมัคร ส.ส.จาก จ.ร้อยเอ็ดเข้าร่วมปราศรัย พร้อมประกาศตอกเสาเข็มแลนด์สไลด์กาฬสินธุ์ทั้ง 6 เขต ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังกว่า 20,000 คน หลังจากเมื่อช่วงเวลา 15.00 น.ได้เปิดเวทีปราศรัยจุดแรกที่อำเภอกมลาไสย


โดยเวทีการปราศรัยครั้งนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ยังได้ปราศรัยผ่านระบบออนไลน์ หรือวีดีโอคอลมาถึงพี่น้องประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งนางสาวแพทองธาร บอกว่า คิดถึงพี่น้องชาวกาฬสินธุ์ รอคลอดน้องแล้วจะไปหา พร้อมขอแรงเชียร์ แรงใจ จากพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์ เลือกพรรคเพื่อไทย เราไม่มีพรรคอื่น ขออย่าปันใจ ให้เลือกทั้งคน ทั้งพรรค เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้นให้แลนด์สไลด์ทั้ง 6 เขต และแลนด์สไลด์ทั่วประเทศ เพื่อเข้าไปเป็นรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหายาเสพติด และแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศ


ด้านนายอดิศร เพียงเกษ  กล่าวปราศรัยว่า ผ่านมา 8 ปีแล้ว และหมดเวลาแล้วสำหรับการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาล"ประยุทธ์"  ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมที่สุด พร้อมทั้ง ส.ส.เขต พร้อมทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพร้อมทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะเข้าไปกู้หน้าตาให้ประเทศไทยกลับคืนมา ขอพี่น้องประชาชนเปิดโอกาสให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลและขอพี่น้องชาวกาฬสินธุ์เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้ง 6 เขต

‘เศรษฐา’ ประกาศชัด!! นาทีนี้ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง วอน ปชช.แทงตรง!! เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบเท่านั้น

(18 เม.ย.66) พรรคเพื่อไทย นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย น.ส.พานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ ได้แก่ นายวิรัช พิมพะนิตย์ เขต 1 เบอร์ 9, นายพลากร พิมพะนิตย์ เขต 2 เบอร์ 4, นางยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล เขต 3 เบอร์ 7, นายพีระเพชร ศิริกุล เขต 4 เบอร์ 3, นายทินพล ศรีธเรศ เขต 5 เบอร์ 8, และ นายประเสริฐ บุญเรือง เขต 6 เบอร์ 9 เปิดปราศรัยที่สวนสุขภาพข้างที่ว่าการ อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ท่ามกลางประชาชนผู้ฟังกว่า 5,000 คน

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ชาวนาถือว่าเป็นอาชีพหลักของพี่น้องกาฬสินธุ์ ปัจจุบันค่าปุ๋ยแพง ต้นทุนการผลิตสูง ทำให้รายได้ไม่พอกินพอใช้ ประชาชนอยู่ได้อย่างไม่มีศักดิ์ศรี ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาบริหารจัดการ เราจะใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม มีบุคลากรที่มีคุณภาพ ให้ไปเปิดตลาดใหม่ ๆ ในการค้าขายให้พี่น้องทุกคน ด้านสิทธิที่ดินทำกิน พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะให้ที่ดินทำกิน 50 ล้านไร่ภายใน 4 ปี เพื่อให้พี่น้องมีที่ดินอย่างมีศักดิ์ศรี

“นโยบายดี ๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล วันนี้พรรคเพื่อไทยมาวิงวอนหาเสียงให้พี่น้องคนกาฬสินธุ์ เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เรายอมไม่ได้ให้ใครมาบอกเป็นพรรคพี่พรรคน้อง วันนี้ต้องแทงตรงอย่างเดียวคือ เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าว

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวปราศรัยว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ถ้าคนหนึ่งได้เป็นนายก อีกสองคนก็จะร่วมกันทำงาน ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย คือเพื่อไทย ต้องกาเพื่อไทย ไม่มีพรรคเพื่อน ไม่มีพรรคพี่ พรรคน้อง ขอให้พี่น้องเลือกให้เพื่อไทยชนะขาดลอย และถ้าต้องการให้ประยุทธ์ ประวิตร กลับบ้าน ต้องกาพรรคเพื่อไทย คราวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์ ตนจึงชวนประชาชนล้มอำนาจ 3 ป. และ 250 สว.

“กาฬสินธุ์ เว้นเขตใดเขตหนึ่งไม่ได้ ฟันหลอไม่ได้ เพราะว่าถ้าพลาดแม้แต่แต้มเดียว พวกนั้นทึกทักเอาอีก สิทธิ์ในการตั้งรัฐบาลของพวกเขาคือเสียงข้างน้อย หรือใช้กล้วย มีงูเห่า ฉะนั้น ต้องฆ่างูเห่าล่วงหน้า ด้วยการกาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์” นายณัฐวุฒิ กล่าว


ที่มา : https://www.facebook.com/pheuthaiparty/posts/pfbid0vAFHspD1zYpC9drW88CJQJLMRBURmrFNaDpyvhGRqnG6EmFUYkQ25TusRJ52ickPl

'เพื่อไทย' ผวา 'แลนด์ไถล' หลัง 'คะแนนนิยมนิ่ง-คู่แข่งจ่อ' ต้องออกใบเตือนผู้สมัคร 'เสาไฟฟ้า' ให้ทำงาน-ลงพื้นที่

อาการของพรรคเพื่อไทยยามนี้ไม่สู้ดีนัก..ประมาณว่า 'พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก' ก็มิปาน

วันที่ 5 เม.ย.2566 จัดบิ๊กแคมเปญ เปิด 3 แคนดิเดทฝตนายกฯ ภายใต้ธีม 'ONE TEAM FOR ALL THAIS' และให้หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ 'เศรษฐา ทวีสิน'   ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กะว่าจะเปรี้ยงปร้างระเบิดเถิดเทิงสมราคาคุย...คิดใหญ่ทำเป็น

แต่อนิจจา...ที่ไหนได้ นโยบายนี้กลายเป็นบั้งไฟที่ไปไม่สุด เกิดอาการแป๊ก...เสียฟอร์ม เสียรังวัดไม่น้อย...ว่ากันว่าถ้าเป็นโค้ง 7 วันสุดท้ายคงหวิดตายหมู่...แบบว่าคงแลนด์ไถลเหลืออย่างมากแค่ 170 ที่นั่งเหมือนที่โพลลับฝ่ายความมั่นคงเขาทำไว้เป็นแน่แท้...

ตอนนี้บรรดาเสนาธิการ และนักรบในห้องแอร์ทั้งหลายต้องช่วยกันแก้เกมเรื่องนโยบายหมื่นบาท ทั้งในส่วนคำชี้แจงต่อ กกต.และคำอธิบายต่อสาธารณชน ซึ่งอย่าว่าแต่ชนชั้นกลางเลยที่มีคำถามเลย ระดับรากหญ้าเองก็เริ่มมีคำถาม เพราะผู้บริหารพรรคบางคนพูดชัดเจนว่า...ใครที่มารับบริการเงินดิจิทัลหมื่นบาท ต้องสละสิทธิ์การรับสวัสดิการจากบัตรคนจน...

ร้อนจนวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 'ภูมิธรรม เวชชชัย' รองหัวหน้าพรรค และตัวนายเศรษฐาเอง ต้องรีบออกมาดับไฟเสียแต่ต้นลมว่า...นโยบายนี้จะเดินหน้าโดยไม่ยกเลิกบัตรคนจน...

จะเป็นเพราะนโยบายแจกเงินหมื่นบาทด้วยหรือเปล่าก็มิทราบได้...ผลปรากฏว่าการทำโพลของค่ายต่างๆ ระบุว่า แม้คะแนนของแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง และพรรคเพิ่อไทยจะยังคงนำ แต่เป็นการนำในลักษณะหยุดนิ่ง ในขณะที่คู่แข่งดีวันดีคืน โดยเฉพาะคู่ต่อสู้อย่างพรรคก้าวไกลเริ่มหายใจรดต้นคอ...

ไม่แต่เท่านั้น โพลของค่ายมติชน-เดลินิวส์ ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 8-14 เม.ย.ระบุชัดว่าคะแนนตำแหน่งว่าที่นายกฯ นั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งก้าวไกล แซงอุ๊งอิ๊ง ห่างในระดับ 29 ต่อ 23 เปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว...

ขณะเดียวกันบรรดา FC ของพรรคได้ร้องเรียนไปยังพรรคว่า มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยที่ไม่ลงพื้นที่ หวังโหนกระแสพรรคเป็นหลัก...ทำให้เมื่อวันที่ 16 เม.ย. กองอำนวยการเลือกตั้งต้อง ทำจดหมายน้อยกระตุกเตือนบรรดาผู้สมัคร ทั้งที่เป็นอดีตส.ส.และผู้สมัครหน้าใหม่ที่ทำตัวเป็นพวก 'เสาไฟฟ้า' แบบประชาธิปัตย์ภาคใต้เมื่อหลายปีก่อนโน้น คือไม่หาเสียง โหนกระแสพรรค อาศัยยี่ห้อพรรคเข้าสภา...

“...ถ้าพวกท่านยังขยันไม่พอและไม่เข้าหาประชาชน..เราคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการแลนด์สไลด์ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยวดยิ่ง...” ตอนหนึ่งของจดหมายเตือนระบุ

‘เศรษฐา’ เปิดอกคุย ‘ไก่ย่างเขาสวนกวาง’ ปัญหารอบด้าน ลั่น!! เป็นรัฐบาลแก้ให้ทันที

‘เพื่อไทย’ เปิดอกคุย ‘ไก่ย่างเขาสวนกวาง’ ค่าเช่าที่แพง เข้าไม่ถึงแหล่งทุน จดลิขสิทธิ์ยาก ‘เศรษฐา’ ให้คำมั่น นโยบายเราพร้อม หากเป็นรัฐบาล เดินหน้าแก้ปัญหาทันที 

(19 เม.ย.66) ที่อำเภอเขาสวน จังหวัดขอนแก่น แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น ประกอบด้วย จตุพร เจริญเชื้อ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เขต 3 เบอร์ 5, มุกดา พงษ์สมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เขต 4 เบอร์ 11 พบกลุ่มผู้ประกอบการปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมไก่ย่างเขาสวนกวาง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เพื่อรับฟังปัญหา

ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าไก่ย่างเขาสวนกวาง สะท้อนปัญหาว่า 1.ในกลุ่มสมาชิกกว่า 420 ร้านค้า เป็นแผงลอยชั่วคราวเกือบครึ่งหนึ่ง ไม่มีร้านค้าขายหรือแผงเป็นของตนเอง ค่าเช่าแพงและไม่แน่นอน ค่าน้ำค่าไฟแพงเพราะเป็นร้านเช่า 2. ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ถูกกฎหมาย จึงต้องไปกู้นอกระบบมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้ตั้งกองทุนเช่น กองทุนพัฒนาอาชีพ หรือกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเข้ามาช่วยเหลือ 3. ไม่สามารถจดลิขสิทธิ์เป็นของชุมชน จึงต้องไปซื้อลิขสิทธิ์นายทุนมาขาย และสุดท้าย 4.แม้จะเป็นไก่ย่างเขาสวนกวางแท้ๆ แต่มีปัญหาการควบคุมคุณภาพ รสชาติ เพราะว่าทุกคนเอาชื่อไปใช้ได้หมดโดยที่ควบคุมไม่ได้

ด้านตัวแทนผู้ประกอบการโรงเชือด สะท้อนปัญหาว่า ต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เข้าถึงแหล่งทุนยาก เมื่อเจอโรคระบาดไม่ว่าจะโรคระบาดไก่ หรือโรคระบาดคน ก็ไม่มีเงินพยุงกิจการได้ และสุดท้าย อยากให้สร้าง “เขาสวนกวาง” ให้เป็นแลนด์มาร์ก ส่งเสริมเศรษฐกิจและท่องเที่ยวได้ชัดเจน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top