Friday, 10 May 2024
เศรษฐาทวีสิน

‘พิธา’ เผย โทรยินดี ‘เศรษฐา’ นั่งนายกฯ แล้ว ฝากกู้วิกฤตศรัทธา เป็นนายกฯ ของทุกคน

(25 ส.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือ โย ผู้สมัคร สส. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล เลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.ระยอง พร้อมทีมงาน ได้เดินทางโดยรถแห่หาเสียง ลงพื้นที่ ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ ‘โย พงศธร’ ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลงมา โดยมีชาวบ้านในพื้นที่แห่ต้อนรับ และ ขอถ่ายเซลฟี่ และ ขอลายเซ็น กับนายพิธา จำนวนมาก โดยไม่กลัวเปียกฝน

นายพิธา กล่าวว่า มาวันนี้ เพื่อมาพบปะกับพี่น้องประชาชน ขอคะแนนให้กับ ‘โย พงศธ’  รับรองจะไม่ผิดหวัง ส่วนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้โทรศัพท์แสดงความยินดี และ ยืนยัน คือ ยินดีกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ ก็ต้องยืนยันว่า วิกฤติของบ้านเมืองครั้งนี้ อาจไม่ใช้วิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ใช่วิกฤตเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและวิกฤตการศึกษา แต่เป็นวิกฤตศรัทธาของประชาชนในชาติ ในฐานะผู้นำจึงต้องรวมความคิดของคนในชาติให้เป็นปึกแผ่นเดียวกัน โดยได้ยินว่า นายเศรษฐา เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะเป็นนายกฯ ของประชาชน ก็ขออวยพรให้ทำได้ และทำได้จริงๆ

ส่วนเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล นายพิธา กล่าวว่า จากการจับขั้วหลายขั้วของพรรคการเมือง คิดว่าการทำงานน่าจะยากเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่ได้เคยพูดคุยกับคุณเศรษฐา ทวีสิน ในเวทีดีเบต พูดถึงการสมรสเท่าเทียม และสุราก้าวหน้า โดยหวังว่าจะผลักดันได้จริง ๆ หรือไม่ ยังหวังว่า วิกฤตที่ประเทศ ได้รับผลกระทบจะได้รับการแก้ไข และก็จะได้กู้วิกฤตศรัทธากลับมาสู่การเมืองไทย

นายพิธา กล่าวต่ออีกว่า ถึงจะเป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่ยังมีหลายนโยบายที่สามารถผลักดันได้เพื่อให้ผลประโยชน์อยู่กับประชาชน ยืนยันว่าการทำงานเป็นฝ่ายค้าน คอยตรวจสอบเพื่อให้รัฐบาลทำงานเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และปราบการคอร์รัปชันให้ได้มากที่สุด กรณีที่มีการจดพรรคการเมืองในชื่อ พรรคอนาคตไกล ไม่รู้จัก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล เพิ่งได้ยินจากสื่อเช่นกัน

‘เศรษฐา’ แนะ!! ‘คนรุ่นใหม่’ ก่อนจะเป็นนายตัวเอง ควรไปเป็น ‘ขี้ข้า’ เขาก่อน จะได้รู้ซึ้งถึง ‘การถูกกระทํา’

เมื่อไม่นานนี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @zadlifez แชร์คลิปวิดีโอของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แนะนำแนวทางสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ว่าก่อนจะไปเป็นนายตัวเอง ควรต้องไปเป็น ‘ขี้ข้า’ เขาก่อน โดยระบุว่า…

“อย่างไรการศึกษาก็เป็นเรื่องที่สําคัญที่สุด ผมมาจากโอลด์สคูล ยังไงคุณต้องเรียนหนังสือ และหน้าที่ของพ่อแม่คือส่งลูกให้เรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะสามารถเรียนได้ และต้องไปโรงเรียนที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถไปได้ และในกําลังทรัพย์ที่เขาสามารถจะกู้เองหรือว่าพ่อแม่สามารถซัพพอร์ตได้”

“เรื่องของการทํางานมีหลายทฤษฎี ผมขออย่างเดียว คือ จบมาแล้ว อย่าไปทําสตาร์ตอัป อย่าเพิ่งไปเป็นเจ้าของกิจการ ขอใช้คําหยาบ ๆ แล้วกันนะ เพื่อที่จะได้เข้าใจ… คือ คุณต้องไปเป็น ‘ขี้ข้า’ เขาก่อน คุณต้องเป็นลูกน้องเขาก่อน คุณต้องเข้าใจถึงความรู้สึกของการเป็นลูกน้องเขาก่อน นี่คือสิ่งที่ผมขอลูกผมทั้ง 3 คน ว่าต้องทํา คุณต้องไปเป็นลูกน้องเขาก่อน คุณต้องถูกใช้ก่อน คุณต้องเข้าใจความรู้สึกของการถูกใช้ก่อน เพราะในวันข้างหน้า เมื่อคุณจะเป็นเจ้าคนนายคน หรือคุณจะเป็นใหญ่เป็นโต เป็นเจ้าของกิจการบริษัท คุณจะได้รู้ซึ้งถึงการที่คุณ ‘ถูกกระทํา’”

“ผมว่าผมเป็นคนหัวโบราณนะ ผมไม่คิดว่ามีกี่คนที่เป็นแบบ ‘สตีฟ จ็อบส์’ หรือว่าเป็นแบบ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ได้ คนอีก 500-600 คนที่จบมาทําสตาร์ตอัป แล้วประสบความสำเร็จมากพอที่จะสู้ได้ เป็นมหาเศรษฐีได้ มีเยอะขนาดนั้นเชียวหรือ…”

ไม่พลิก!! 'อนุทิน' คุม 'มท.1' ฟาก 'ป๊อด' ผงาด!! อาจมีขบถ ปชป.ซบบ้านป่า ส่วน พท.พร้อมเดินหน้า แต่แอบผวา 'ทักษิณ' ทำความดีละลายหาย

'เลียบการเมือง' สุดสัปดาห์ กับ 'เล็ก เลียบด่วน' สัปดาห์นี้ ขอวิเคราะห์การเมืองกันแบบซุบซิบ...เมาท์มอยดีกว่านะครับ ก่อนจะได้ดูโผ ครม.จริงๆ กันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้...

'เล็ก เลียบด่วน' สรุปอีกครั้งว่า... 'เพื่อไทย' ได้เป็นรัฐบาลรอบนี้เพราะมีลุง...มีลุงจึงมีเรา...152 เสียงของสมาชิกวุฒิสภาหรือ สว.ที่ขานชื่อ "เห็นชอบ" ให้เศรษฐา ทวีสิน นั้น เป็น สว.สายบิ๊กตู่ร่วมๆ 145 คน ดังนั้นจึงชอบแล้วที่ 'เสี่ยนิด เศรษฐา' ไปขอบคุณลุงตู่ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เป็นวัฒนธรรมใหม่ทางการเมือง...

เอาไปเอามา...ดูเหมือนว่าไฮไลต์การจัดโผ ครม. อยู่ที่เก้าอี้กระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม...เมื่อพรรคเพื่อไทยยื่นคำขาดขอคุม 'คมนาคม' พรรคน้องหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ก็โค้งคำนับทุบโต๊ะบอกว่า "ได้ครับ" แต่ขอแลกกับมหาดไทย...นั่นเป็นที่มาของอนุทินรอบนี้จะนั่งรองนายกฯ ควบ มท.1  

ส่วน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อเจาะกระทรวงพลังงานไม่ได้ ก็มาดูเมกะโปรเจกต์ที่กระทรวงหูกวาง...

กระทรวงหูกวาง หรือ คมนาคมรอบนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' ให้จับตามองตำแหน่ง รมช.โควตาพรรคเพื่อไทยให้ดีๆ เขาคือ 'หมอหนุ่ย' นพ.สุรพงษ์ ปิยะโชติ นายก อบจ.กาญจนบุรี สายตรงของเจ้าสัวด้านขนส่งคมนาคม...คนนั้น  

เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 'หมอหนุ่ย' คนเชียงใหม่ แต่เคยเป็น สส.เมืองกาญจน์เมื่อปี 2554 เป็นแม่ทัพบัญชาการการรบ โดยมีเจ้าสัวสนับสนุนยุทธปัจจัยไม่อั้น ทำให้เพื่อไทยกวาด สส.เมืองกาญจน์ได้ 4 เขตจาก 5 เขต...วันนี้เลยได้รับบำเหน็จขึ้นแท่น รมช.แฮปปี้ทั้งเจ้าสัวและหมอหนุ่ยรวมทั้งคนเมืองกาญจน์ฯ...

รายนี้ก็เป็นการตบรางวัล จัดให้ตามที่คุณขอมา...ว่าที่รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา คนใหม่ ตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้ม ออกอาการเคอะเขินระหว่างเดินทางร่วมทริปดูงานด้านการท่องเที่ยวที่ภูเก็ต-พังงากับ ท่านนายกฯ เศรษฐา...ไม่ใช่ใครอื่น 'สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล' ลูกสาวคนโตของ 'กำนันป้อ' วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เสี่ยแป้งมันคนโตแห่งโคราชนั่นเอง...

เลือกตั้งรอบนี้ กำนันป้อ จับมือ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กวาดสส.โคราชเกือบเกลี้ยง...เพื่อไทยเลยจัดให้สองเก้าอี้...ประเสริฐว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม...กำนันป้อส่งคุณหนูสุดาวรรณคุมท่องเที่ยวฯ ยินดีด้วยนะครับ

สื่อมวลชนบางสำนักเขียนถึง 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า...อกหักพักบ้านป่า...ซึ่ง 'เล็ก เลียบด่วน' ก็ขอบอกว่าไม่มีอะไรผิดหรอกที่เขียนน่ะ แต่อย่าซ้ำเติมท่านนักเลย แค่เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 6 จปร.17 หลายคนแหกโผไปยกมือโหวตให้ 'เศรษฐา' ทั้งๆ ที่ตกลงกันว่าจะงดออกเสียงก็ชีช้ำพอแล้ว...โดยเฉพาะรายของ 'บิ๊กกี่' พล.อ.นพดล อินทปัญญา...เพื่อนเลิฟลุงป้อม งานนี้สนับสนุนนายกฯ เพื่อไทยเต็มลำ ทำไงได้ล่ะ...ก็สุดที่เลิฟของ 'บิ๊กกี่' เป็น สส.อยู่ที่พรรคเพื่อไทยนี่นา…

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ จากนี้ไปก็คงอยู่ภายใต้การคอนโทรลของน้องชายบิ๊กป้อม คือ 'บิ๊กป๊อด' พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ว่าที่รองนายกฯ / รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...อนาคตพรรค พปชร.แม้จะดูเทาๆ มัวๆ แต่อาจจะอยู่ยืนยาวกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ...ดีไม่ดีว่ากันว่าหากในอนาคตกลุ่ม 16 แห่งพรรคประชาธิปัตย์ถูกขับหรือขับตัวเอง อาจจะมาซุกกายอยู่บ้านป่ารอยต่อใน พ.ศ.ใหม่ก็เป็นไปได้...ไม่เชื่อลองไปถามเดชอิศม์ ขาวทอง

และสุดท้าย...ท้ายสุด เหนือการควบคุมของ นายกฯ เศรษฐา...แต่จะส่งผลกระทบกับรัฐบาลเศรษฐา...แฟนคลับพรรคเพื่อไทยฝาก 'เล็ก เลียบด่วน' กระซิบกรณี นช.ทักษิณ ชินวัตร ว่า หากพรรคเพื่อไทยและครอบครัวชินวัตรไม่บริหารให้อยู่ในความพอดีของความเป็นนักโทษ...ต่อให้รัฐบาลสร้างผลงานดีแค่ไหนก็จะละลายหายไปกับความเสื่อมศรัทธาที่จะเกิดขึ้น...

ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดีในระดับพอสมควรแล้ว คนไทยให้อภัยและชื่นชมที่ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าจะทำลายโอกาสดีๆ ที่พรรคเพื่อไทยจะได้ฟื้นตัว มีพลังสู้กับพรรคก้าวไกลและปัญหาของชาติ 

ก็ช่วยไม่ได้...เอวัง!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

‘เศรษฐา’ เผย จัดคณะรัฐมนตรีใกล้สำเร็จ หวังแถลงกรอบนโยบาย 8 ก.ย.นี้

(29 ส.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อนายพิชิต ชื่นบาน จะมานั่งตำแหน่งรมต.ประจำสำนักนายกฯ และก่อนหน้านี้มีการตั้งข้อสงสัยว่าจะมีชื่อนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นั่งตำแหน่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายว่า ตนเข้าใจว่าคงได้รับมอบหมายให้ไปทำอย่างอื่น สำหรับนายพิชิตก็อยู่มานานแล้ว และเข้าใจว่าเสร็จ 100% แล้ว จริง ๆ ไม่อยากเปิดเผยชื่อเท่าไหร่ เพราะขณะนี้ตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติ 2 วัน

เมื่อถามว่าจะสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อาจไปก้าวล่วง

เมื่อถามว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา วางกรอบแถลงนโยบายไว้ประมาณวันที่ 8 ก.ย.นี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าได้ก็ดี ซึ่งมีการนัดคุยเรื่องนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาลตลอด โดยในวันที่ 30 ส.ค. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเข้ามา วันนี้จะมีการคุยนโยบายกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ด้วย และเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาคุยนโยบายบางส่วนกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีประเด็นอะไร อย่างไรก็ตาม เราได้ร่างนโยบายไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีการนำของพรรคร่วมรัฐบาลมาเสริม หรือใครก็ตามที่มีนโยบายของพรรคก็สามารถนำมาหล่อหลอมเป็นนโยบายได้

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยังหวังว่าพรรคเพื่อไทย จะนำบางนโยบายของพรรคก้าวไกลมาใช้บ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า อะไรเป็นประโยชน์กับประเทศชาติเราก็จะพิจารณาหมด

เมื่อถามว่ามีเสียงสะท้อนจาก สส.ในพรรคเพื่อไทย ถึงความไม่พอใจเรื่องการแบ่งกระทรวงนายเศรษฐา กล่าวว่า ใจเย็น ๆ นิดหนึ่ง อาจจะมีเซอร์ไพรส์อะไรบ้างนิดหน่อย อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ขอให้ดูรายชื่อทั้งหมดและโครงสร้างในการแบ่งงานก่อน พยายามเต็มที่ให้ทุกคนไม่ผิดหวัง

เมื่อถามว่าการประชุม สส.พรรคช่วงเย็นวันนี้ต้องทำความเข้าใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ตนจะเข้าประชุมด้วย และถ้ามีโอกาสต้องชี้แจง หากมีปัญหาหรือความไม่เข้าใจภายในพรรคกันเอง เราคุยกันในบ้าน ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในพรรคต้องชี้แจง ประนีประนอมกัน

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าโผ ครม.ชุดนี้เทียบไม่ได้กับครม.ชุดเก่า นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง และต้องให้เกียรติว่าที่รัฐมนตรีทุกท่านด้วย ขอโอกาสและขอให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก

‘เศรษฐา’ ลั่น!! วิจารณ์ว่าที่ รมต. ได้ในกรอบที่เหมาะสม มั่นใจ!! ทุกคนมีคุณสมบัติเหมาะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรี

(30 พ.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บางคนอาจไม่เหมาะกับบางตำแหน่งว่า ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลและผู้ที่ประสานงานจัดตั้ง ครม.ด้วย ตนคิดว่าหน้าตาหรืออะไร ก็มีสิทธิ์ที่คนจะคิดกันได้ แต่ต้องให้เกียรติกับรัฐมนตรี และมั่นใจว่ารัฐบาลของเรามีภารกิจมาก มีเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน เราคงวัดกันที่ตรงนี้ เพราะวันนี้ทุกคนคงต้องเริ่มทำงานแล้ว


เมื่อถามว่ามีเสียงสะท้อนว่าหากพลเรือนมาคุมกองทัพ อาจจะเป็นการถูกด้อยค่า นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่านายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีผู้รายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อาวุโส เป็น สส. หลายสมัย เท่าที่ตนรู้จักนายสุทิน ท่านเป็นคนที่ให้เกียรติคน เชื่อว่าการประสานงานกับกองทัพจะเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งส่วนตัวตนจะเข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย ก็ต้องให้แน่ใจว่าทุกสถาบันได้รับการดูแลเอาใจใส่ และได้รับการพูดคุยอย่างเหมาะสม สมฐานะ

เมื่อถามว่าว่าที่รัฐมนตรีทยอยเข้าไปกรอกประวัติที่ทำเนียบรัฐบาล ทางสำนักเลขาธิการ ครม. ได้แจ้งหรือไม่ว่าจะใช้เวลากี่วันและขั้นตอนต่อไปจะเริ่มได้เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามที่ได้พูดคุยกับเลขาธิการ ครม. ระยะเวลาในการตรวจสอบน่าจะอยู่ที่ 2 วัน หลังจากนั้นก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เลย

เมื่อถามว่าทางเลขาธิการ ครม.ได้แจ้งเรื่องคุณสมบัติมาบ้างหรือไม่ เพราะมีรายงานว่ารัฐมนตรีบางคนคุณสมบัติไม่ผ่าน นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องยังไม่ถึงตน ตนยังไม่ทราบ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายณฐพร โตประยูร จะทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ว่ามีว่าที่รัฐมนตรี 4 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คุณสมบัติไม่ผ่าน โดยอ้างอิงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูล แต่ตนเชื่อว่าทั้ง 4 คนเป็นบุคคลที่เหมาะสมในการเข้าดำรงตำแหน่ง เหลือแค่เช็กคุณสมบัติจากเลขาธิการ ครม. อีกครั้ง

เมื่อถามถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนทราบเรื่องแล้ว วันนี้ นพ.ชลน่านคงประกาศเรื่องนี้เอง ต้องให้เกียรติท่าน ซึ่งท่านก็เป็น สส. หลายสมัย ทำประโยชน์ให้กับพรรคเพื่อไทยมานาน และเป็นที่รักของ สส. ทุกคน ตนเพิ่งเข้ามาใหม่ ท่านก็ให้การดูแลที่ดี เชื่อว่าไม่ว่าท่านจะตัดสินใจเช่นไร ในอนาคตท่านก็จะยังอยู่ในพรรค เพื่อไทยต่อไป ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ในพรรคมีการคุยกัน แต่ต้องให้เกียรติ นพ.ชลน่านในการแถลง

เมื่อถามย้ำว่าเรื่องเซอร์ไพรส์ที่นายเศรษฐาเคยบอกคือเรื่องที่ นพ.ชลน่านจะลาออกใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ นพ.ชลน่านประกาศไว้นาน หากมีการเลือกนายกฯ เสร็จเรียบร้อย และหากเสร็จภารกิจ นพ.ชลน่านก็จะมีการประกาศของท่านออกไป”

เมื่อถามต่อว่าถ้า นพ.ชลน่านลาออกใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคต่อ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องมีการประชุมพรรค เพราะเราเป็นพรรคที่มีสมาชิกเยอะ คงต้องว่าไปตามกฎพรรคการเมือง และคงต้องมีการรักษาการไปก่อน ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคใหม่ภายใน 60 วัน ทั้งนี้ ขอฟัง นพ.ชลน่านแถลงก่อน

เมื่อถามว่ามองคุณสมบัติของคนที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนต่อไปอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนในฐานะหนึ่งในสมาชิกพรรค คิดว่าต้องเป็นคนที่อยู่ในพรรคมานาน มีความรู้ความสามารถ รอบรู้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง ความมั่นคงเศรษฐกิจและสังคม

เมื่อถามว่ามองว่านพ.ชลน่านจะมีโอกาสกลับมานั่งหัวหน้าพรรคอีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไปก้าวล่วงสิทธิของสมาชิกพรรคทุกท่านไม่ได้ ต้องให้เกียรติสมาชิก เราหนึ่งคนหนึ่งเสียง เราเคารพระบบพรรคการเมือง

เมื่อถามว่าส่วนตัวจะเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับการเลือกกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา นายเศรษฐา กล่าวว่า มีความคืบหน้าตลอด เมื่อวานนี้มีการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้ว ซึ่งนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ว่าที่เลขาธิการนายกฯ เป็นคนเจรจาและรวบรวมข้อมูล แล้ววันนี้เวลา 11.00 น. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเข้ามาพบตนที่พรรคเพื่อไทย เพื่อพูดคุยเรื่องนโยบาย ซึ่งเราก็เร่งด่วนในเรื่องนี้ เพราะอยากแถลงนโยบายโดยเร็วหลังเข้าถวายสัตย์ฯ เพื่อที่ประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องทำ

เมื่อถามว่าหลังจากนำ ครม. ถวายสัตย์ฯ แล้ว คาดว่าจะใช้เวลากี่วันในการแถลงนโยบายต่อสภาฯ ได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอไปดูนิดหนึ่งก่อน ขึ้นอยู่กับถวายสัตย์ฯ เมื่อไหร่ แต่คาดว่าจะไม่เกิน 1 สัปดาห์

เมื่อถามว่าภารกิจที่ว่าเน้นไปที่การท่องเที่ยว ช่วงไฮซีซันตั้งตัวเลขไว้อย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า กำลังทำการศึกษาอยู่ ซึ่งในทุกเวทีที่เราพูดคุย การท่องเที่ยวที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุด รวมถึงเดือน ต.ค. ซึ่งใกล้ถึงช่วงไฮซีซันแล้ว ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ที่ จ.ภูเก็ตและพังงา ได้คุยกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการท่าอากาศยาน การบินไทย กระทรวงคมนาคมเรื่องแผนการพัฒนาและสนับสนุน และมีการคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในเรื่องของการดูแลด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ซึ่งท่านก็สนับสนุนและเห็นชอบในเรื่องนี้ ฉะนั้นเรื่องนักท่องเที่ยวจีน ที่เรามีดำริว่าเราจะยกเลิกขอวีซ่าก็หวังว่าจะได้รับการตอบสนองที่ดีจากทุกภาคส่วน ส่วนตัวเลขวันประกาศคงจะมีการอธิบายให้ฟังว่าจะดีขึ้นอย่างไร แล้วจะเห็นผลเมื่อไหร่

'เศรษฐา 1' พอใช้ได้ 'ไม่โกง-ไม่รื้อรธน.' อยู่ยาว 3 ปี ติด!! บางกระทรวงแม้ลงตัว แต่ยังแอบขัดใจในดีกรี

มาถึงนาทีนี้ก็ใกล้จะประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1 กันแล้ว...รออีกแป๊บบบ...โปรดเกล้าฯ เมื่อไหร่จะได้วิพากษ์วิจารณ์กันเต็มที่ 

ในชั้นนี้ประสา 'เล็ก เลียบด่วน' ขอแสดงความเห็นส่วนตัวถึงโครงสร้างและรูปลักษณ์ของรัฐบาลเศรษฐาสั้น ๆ 3 ประการ

ประการแรก - เป็นรัฐบาลที่เป็นผลิตผลของรัฐบาลผสมระหว่างฝ่ายที่อ้างว่าเป็นฝ่ายเสรีนิยมกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมซึ่งนำโดยพรรคสองลุง...ผลลัพธ์ที่ออกมาก็อย่างที่เห็น ๆ มันก็คือ เผ่าพันธุ์นักการเมืองทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น โดยมีนายทุนพรรคเข้ามาหยิบชิ้นปลามันอย่างสมน้ำสมเนื้อที่ได้ลงทุน เช่นกรณีกระทรวงคมนาคม, กระทรวงพลังงาน หรือแม้แต่กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น

ประการที่สอง - แม้หลายตำแหน่งจะลงตัว เหมาะสม แต่เหตุเพราะการแบ่งกระทรวงอาจจะไม่ถูกที่ถูกพรรค ทำให้การวางตัวคนบางตำแหน่งอาจจะดูขัด ๆ เขิน ๆ ไม่ ‘พุท เดอะไร้ท์ แมน ออน เดอะ ไร้ท์ จ๊อบ’ ...เช่น ภูมิธรรม เวชยชัย ควรนั่งมหาดไทยหรือรองนายกฯ ควบกระทรวงเชิงสังคม แต่กลับต้องไปนั่งว่าการพาณิชย์ หรือแม้แต่กรณี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ต้องไปนั่งว่าการศึกษาธิการ และกรณีสุทิน คลังแสง ที่หากไม่พลิกก็จะไปคุมกองทัพในตำแหน่งว่าการกลาโหม เป็นต้น

ประการที่สาม - แม้ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ แต่ก็พอจะคาดหมายได้ว่า...เคาะสุดท้าย...คำสั่งสุดท้าย...โผสุดท้ายที่ออกมาจากห้องสูท ชั้น 14 ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง...ซึ่งนายกฯ ที่ชื่อเศรษฐา ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้...ดังกรณีตำแหน่งรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการปูนบำเหน็จให้คนชื่อพิชิต ชื่นบาน 'ทนายถุงขนม'

กรณีพิชิต ชื่นบาน นี่ต้องขอเสริมสักนิดว่า เมื่อตรวจสอบในเชิงตัวบทกฎหมายแล้ว ไม่สามารถไปห้ามเขาได้ครับ ที่พิชิตต้องไปนอนคุก 6 เดือนเมื่อปี 2551 กรณีพยายามติดสินบนบนศาลนั้นก็เป็นคำสั่งศาล ยังไม่ใช่ คำพิพากษา' ของศาลจากคดีอาญาแต่ประการใด...แต่ที่ 'เล็ก เลียบด่วน' ติดใจและสังคมก็น่าจะคาใจกันทั้งประเทศก็คือ ประเด็นจริยธรรม ที่เขาเป็นสินค้ามีตำหนิชัดเจน...

มาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญ สองวงเล็บ บัญญัติชัดเจนว่า...รัฐมนตรีต้อง (4) มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ (5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ส่วนกรณีของ 'บิ๊กทิน' สุทิน คลังแสง นั้นเป็นคนมีความรู้รอบตัว ถ้าให้เหมาะสมกับสเปกของเจ้าตัวน่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ หรือวัฒนธรรม หรือเกษตรและสหกรณ์ แต่ด้วยเหตุที่เก้าอี้รัฐมนตรีจำกัดและไม่สามารถนายทหารในสเปกเพื่อไทยได้ รวมทั้งลึกๆ อยากสร้างมิติใหม่ทางการเมืองให้พลเรือนที่ไม่ใช่นายกฯ คุมกลาโหม จึงส่งพ่อใหญ่หมอลำอย่างสุทินไปว่าการ...ซะเลย

ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงนายทหาร เตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับทักษิณ ชินวัตร ปรากฏชื่อ พล.อ.พิศาล  วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 สส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 27 ของพรรคเพื่อไทย แต่ พล.อ.พิศาล มีบาดแผลใหญ่กรณีสลายม็อบตากใบ 85 ศพ เมื่อปี 2547 เลยไม่ผ่าน...ต่อมาจึงมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ 'บิ๊กเล็ก' อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายทหารสายบุ๋น สายตรงลุงตู่...แต่สุดท้ายก็เงียบไป...

ฉะนั้นถึงนาทีนี้ ชื่อ 'บิ๊กทิน' จึงยังเต็งจ๋า...แต่นาทีสุดท้ายเมื่อต้องเผชิญแรงต้านจากกองทัพในระดับพอสมควร ก็ต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร...

ส่งท้ายวันนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' สวมวิญญาณโหร นั่งเทียนพยากรณ์ว่ารัฐบาลเศรษฐาจะไปได้ยาวกว่าที่หลายคนกำลังแช่ง เพราะทุกพรรคจะถ้อยทีถ้อยอาศัยประสานผลประโยชน์กัน

วันนี้จึงขอบอกเพียงว่า...ครึ่งเทอมหรือสองปีจะผ่านไปได้ชิวๆ และถ้าไม่โกงและไม่ติดหล่มแก้รัฐธรรมนูญตามเกมพรรคก้าวไกลมากเกินไป..เอาไปเลยสามปี..!!

‘เศรษฐา’ ชี้!! โครงการพักหนี้เกษตรกรเริ่ม ต.ค.66 ได้ทันที เล็งขยายกรอบดูแลหนี้สินข้าราชการ-ผู้ประสบวิกฤตโควิด

(1 ก.ย. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าถึงการลดค่าไฟว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ตนได้โทรไปหาว่าที่ รมว.พลังงาน วันนี้ก็จะหารือกันอีกครั้ง โดยนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานนโยบายพรรคเพื่อไทยและว่าที่เลขาธิการนายกฯ จะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ขอให้รออีกนิด เข้าใจว่าอยากรู้ว่าจำนวนเงินเท่าไหร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการการพูดคุย ถึงเรื่องงบประมาณ อย่างไรก็ตามวานนี้ ( 31 ส.ค.) ทางประธานสภาอุตสาหกรรม ก็ได้แสดงความกังวลเรื่องลดค่าใช้จ่ายผู้
ประกอบกาาร ทั้งค่าไฟค่าพลังงาน แน่นอนว่าเราให้ความสำคัญสูงสุด และชี้แจงแล้วว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด 

เมื่อถามถึงเรื่องความคืบหน้าการพักหนี้เกษตรกร หลังจากที่ได้คุยกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นนโยบายเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย แต่เราต้องดูรายละเอียดว่าจะใช้จำนวนเงินเท่าไหร่ และจะเป็นการพักทั้งต้นและดอก หลักการเพื่อให้เกษตรกรมีเวลาไปฟื้นฟู ไปทำมาหากิน ไม่ใช่ต้องมาพะวงหน้าพะวงหลังเรื่องหนี้สิน ซึ่งเบื้องต้นประมาณเดือน ต.ค.สามารถทำได้ โดยตอนนี้ได้ให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารธกส. ไปดูเรื่องการอนุมัติ และประสานกับกระทรวงการคลังด้วย 

ทั้งนี้ เราจะไม่ดูเรื่องหนี้สินแค่เกษตรกร แต่เราจะดูแลเรื่องหนี้สินของประชาชน รวมถึงตำรวจ และหนี้สินในช่วงที่ประสบกับภัยพิบัติโควิด เราจะดูแลให้ครบทุกภาคส่วน ซึ่งการพักหนี้ชั่วคราวเป็นแค่การแบ่งเบาความทุกข์ ฟื้นฟูจิตใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การเพิ่มรายได้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้น นโยบายของพรรคเพื่อไทยได้มีการคุยกันถึงการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำ 

เมื่อถามว่าสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ออกมาตั้งคำถามว่าการฟรีวีซ่าที่นายกฯ พูดหมายถึงอะไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องขอประทานโทษด้วยที่ตนพูดไม่ชัดเจน การฟรีวีซ่าไม่ได้หมายถึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่วีซ่าฟรีหมายถึงไม่ต้องขอวีซ่า หากไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศก็จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า โดยจะเป็นการยกเว้นขอวีซ่าชั่วคราวในช่วงที่เป็นไฮซีซัน ซึ่งไม่ใช่แค่กระทรวงการต่างประเทศที่ดูแลเรื่องนี้ แต่ตนได้ดูเรื่องของความมั่นคง และได้มีการคุยกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงการท่าอากาศยานด้วย ซึ่งเราต้องดูทั้งหมดในการที่จะเข้ามาในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการคุยกันหลายเรื่อง และมีการเห็นชอบในหลักการ ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกับว่าที่ รมว.มหาดไทยด้วย ซึ่งท่านก็บอกว่าเห็นด้วยที่จะช่วยกันผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หวังว่าจะสามารถทำได้ภายใน 1 ต.ค. นี้

เมื่อถามถึงเรื่องการพัฒนากีฬาในประเทศ รัฐบาลจะเดินหน้าอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยู่ในการกำกับการดูแลของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาหลายท่านเพื่อมาพบปะพูดคุยกัน การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังมีเรื่องของกองทุนพัฒนากีฬา เข้าใจว่าอีกไม่กี่เดือนจะเข้าสู่ช่วงเอเชียนเกมส์แล้ว หลายสมาคมยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนค้างกันมาเป็นหลายล้าน ตรงนี้ก็ฝากผู้ที่ดูแลด้านกองทุนพัฒนากีฬาด้วย ว่าหากสามารถจ่ายเงินออกมาได้ก็เป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬา ที่จะไปแข่งขันในเอเชียนเกมส์ที่ใกล้เข้ามา เพื่อเป็นเกียรติประวัติให้กับประเทศชาติ ซึ่งเท่าที่ฟังมาก็มีหลายสมาคมที่เดือดร้อน เมื่อถามว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถูกตัดงบ 150 ล้านบาทจะกระทบการจัดงานโมโตจีพีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้น่าเป็นห่วง แต่ต้องมาดูก่อนว่า 150 ล้านบาทที่ตัดไป เอาไปทำอะไร มีทางไหนหรือไม่ที่จะคงไว้ซึ่งกิจกรรมต่างๆ

วันของ ‘ทักษิณ-เศรษฐา’ ส่วน ‘ไผ่ ลิกค์’ วืด!! ฟาก ‘พท.’ ดึง ‘บิ๊กแป๊ะ’ ช่วย ‘บิ๊กทิน’ งานไหลลื่น

รายชื่อคณะรัฐมนตรี หรือ ‘ครม.เศรษฐา 1’ โปรดเกล้าฯ แล้ว เดี๋ยวมาว่ากัน… แต่ก่อนอื่น ‘เล็ก เลียบด่วน’ ต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตรด้วยคน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษชายเด็ดขาด ‘นายทักษิณ ชินวัตร’ เหลือโทษจำคุก 1 ปี จากทั้งหมด 8 ปี… 

ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ก็ไม่ต้องอธิบายซ้ำตรงนี้… 

แต่จากนี้ไปก็พอจะคาดหมายได้ว่าโทษจำคุก 1 ปีที่เหลือ คุณทักษิณก็คงจะใช้ช่องทางตามกฎกติการาชทัณฑ์พบกับอิสรภาพได้ในไม่นาน เช่น การพักโทษหรือถ้ามีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในวันสำคัญก็สามารถพ้นโทษได้เลย เพราะโทษเหลือไม่ถึงปี หรือที่เรียกว่า ‘ต่ำปี’... ก็ว่ากันไป

แต่ที่อยากบอกทักษิณและครอบครัวชินวัตรตรงไปตรงมาด้วยปรารถนาดีตรงนี้ก็คือ หากไม่นอนอยู่ห้องไอซียู รพ.ตำรวจ พรุ่งนี้มะรืนนี้กรุณากลับไปรับโทษนอนรักษาตัวที่แดน 7 รพ.ราชทัณฑ์ได้แล้ว… จะเป็นภาพที่งดงามดูสอดประสานกับพระมหากรุณาธิคุณ… ตระกูลชินวัตรจะได้ไม่เป็นที่ถูกเกลียดชังเพิ่มขึ้นไปกว่าเดิม… 

กลับมาที่ โฉมหน้า ‘ครม.เศรษฐา 1’... เมื่อพิชิต ชื่นบาน ‘ทนายถุงขนม’ ประกาศถอนตัวออกไปเพราะแรงต้านจากสังคม พร้อมกับตัดชื่อ ‘ไผ่ ลิกค์’ หรือ ‘ไผ่ วันพอยท์’ ออกจาก ‘รมช.พาณิชย์’ โดยไม่มีใครรู้ล่วงหน้าแต่สันนิษฐานได้ว่าคงเนื่องจากเหตุปมคดีเก่าๆ ก็ทำให้ ‘ครม.เศรษฐา’ ดูดีขึ้นนิดหน่อย… แม้ว่าจะยังมีเสนาบดีอีก 2-3 คนที่ปูมประวัติไม่ค่อยโสภาสถาพรอยู่บ้าง แต่ก็พอจะหยวนๆ ให้โอกาสได้พิสูจน์คุณธรรมและน้ำยากันอีกสักรอบ… 

สำหรับคนที่จะมาแทนโควตา พิชิต ชื่นบาน จะเป็น ‘ชูศักดิ์ ศิรินิล’ หรือไม่นั้น ก็รอดูกันต่อไป… ขณะที่กรณีไผ่ ลิกค์ เป็นสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งหากสังเกตให้ดีเมื่อ 4-5 วันก่อน มีการปล่อยชื่อของ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หรือ ‘อาจารย์แหม่ม’ ออกมาให้สื่อพูดถึง… อย่างไรก็ตาม ถ้าอาจารย์แหม่มอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรี ก็ต้องได้รับความยินยอมจากบ้านใหญ่กำแพงเพชร ภายใต้การนำของ วราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค… และ ไผ่ ลิกค์ ก็อยู่ในกลุ่มนี้

งานนี้… คงหนีไม่พ้น ‘ลุงป้อม’ หัวหน้าพรรคที่จะต้องทุบโต๊ะแบบเซ็งๆ อีกครั้ง… 

ในจำนวนรัฐมนตรี 33 คนของ ‘ครม.เศรษฐา 1’ สุทิน คลังแสง นับเป็นบุคคลที่น่าสนใจมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะนี่คือพลเรือนที่ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ถูกวางตัวเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม… ซึ่งจริงๆ แล้วแรกเริ่มเดิมทีกระทรวงนี้ทาง ‘บิ๊กป้อม’ จองให้พรรคพลังประชารัฐ ตอนแรกนัยว่าถ้าตัวเองได้เป็นนายกฯก็จะควบเอง ต่อมามีข่าวลือว่าจะให้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (บิ๊กน้อย) ต่อมามีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป๊อด) อดีตผบ.ตร.น้องชายบิ๊กป้อม… 

ก่อนที่ในช่วงท้ายๆ จะมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ (บิ๊กเล็ก) อดีตเลขาธิการ สมช.สายตรงบิ๊กตู่ แต่ก็มีแรงต้านเล็กๆ จากคนเสื้อแดงเพื่อไทย ประกอบกับพรรคเพื่อไทยไม่อยากสูญเสียโควตาให้บุคคลภายนอก… หวยจึงมาออกที่ สส.นักการศึกษาอย่าง ‘สุทิน คลังแสง’

ผู้สันทัดกรณีบางรายวิเคราะห์ว่า… การวางตัวสุทินคุมกลาโหม… จะใช่หรือไม่ว่า… เป็นการโชว์พาวของคนแดนไกลที่เป็นคนแดนใกล้แล้วในวันนี้… ประมาณว่าเขาจะจัดวางใครไว้ตรงไหนก็ทำได้!?

ก็คงต้องตามไปดูว่า สุทิน คลังแสง ผู้มีวาทศิลป์ มีอีคิวสูงจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่ยังไงๆ ก็เชื่อว่าอย่างน้อยคงดีกว่า อดีตนายกฯ หญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ควบกลาโหมช่วงปี 2556-2557 ซึ่งโชคดีที่ช่วงนั้นนายกฯ ปูมี ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เป็นปลัดกลาโหม คอยช่วยดูงานอีกแรงหนึ่ง… 

โดยวันนี้ นอกเหนือจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จะถูกเทียบเชิญไปเป็นที่ปรึกษาแล้ว แว่วว่าพรรคเพื่อไทยจะส่ง ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.อ.นิพัทธ์ไปเป็นแม่บ้าน นั่งตำแหน่งเลขานุการ รมว.กลาโหม ให้เจ้ากระทรวงทำงานได้อย่างราบรื่น… 

ถ้าจริงก็น่าจะเป็นโชคดีของ… บิ๊กทิน!?

เคาะแล้ว!! เปิดโผรายชื่อ ‘คณะรัฐมนตรีเศรษฐา ​1’ อย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 66 เว็บไซต์ราชกิจจา​นุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี​ ลงวันที่​ 2 กันยายน​ 2566​ ความว่า…

“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง​ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 แล้ว นั้น

บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้”

- นายภูมิธรรม เวชยชัย​ พรรคเพื่อไทย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

- นายสมศักดิ์ เทพสุทิน​ พรรคเพื่อไทย เป็นรองนายกรัฐมนตรี 

- นายปานปรีย์ พหิทธานุกร​ พรรคเพื่อไทย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 

- นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ พรรคภูมิใจไทย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 

- พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ​ พรรคพลังประชารัฐ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 

- นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค​ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 

- นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ​พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

- นายสุทิน คลังแสง​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

- นายเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกตำแหน่งหนึ่ง 

- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็น​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 

- นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 

- นายจักรพงษ์ แสงมณี​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 

- นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

- นายวราวุธ​ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 

- นางสาวศุภมาส อิศรภักดี พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 

- ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า​ พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร​และสหกรณ์

- นายไชยา พรหมา ​พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

- นายอนุชา นาคาศัย​ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 

- นางมนพร เจริญศรี​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 

- นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 

- นายประเสริฐ จันทรรวงทอง​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

- นายนภินทร ศรีสรรพางค์ พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  

- นายเกรียง กัลป์ตินันท์ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 

- นายทรงศักดิ์ ทองศรี​ พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  

- นายชาดา ไทยเศรษฐ์​ พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 

- พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง​ พรรคประชาชาติ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 

- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ พรรคภูมิใจไทย​ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

- นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช​ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม 

- พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ​ พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 

- นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล​ พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 

- นายชลน่าน ศรีแก้ว ​พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 

- นายสันติ พร้อมพัฒน์​ พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 

- นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 1 กันยายน พุทธศักราช 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในราชกิจจานุเบกษา​ไม่มีรายชื่อ​ ของนายไผ่​ ลิกค์​ แต่อย่างใด​ แม้ว่าวานนี้ (1 ก.ย.) จะมีการลงพื้นที่ร่วมกับนายเศรษฐา​ ที่จังหวัดสมุทรคราม​ เพื่อรับฟังปัญหาการประมงผิดกฎหมาย​ อีกทั้งไม่มีชื่อนายพิชิต ชื่นบาน หลังจากที่เจ้าตัวประกาศไม่ขอรับตำแหน่งตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 1 ก.ย. เช่นกัน

‘วันชัย’ ทวนคำทำนาย!! ตอกย้ำ ‘เศรษฐา’ มา ‘ราหู’ ไป ความขัดแย้งจะไม่มีอีก ไพร่ฟ้าหน้าใสคนไทยเป็นสุข

(2 ก.ย. 66) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ทนายวันชัย สอนศิริ” ระบุว่า…

“ผมเคยบอกไว้เมื่อ 27 ส.ค. 66 ว่า เศรษฐามา… ราหูไป ความศิวิไลซ์แห่งประเทศจะบังเกิด ที่ไม่เคยเห็นจะได้เห็น... ที่ไม่เคยเป็นจะได้เป็น... ที่ไม่เคยมีจะได้มี... ความสามัคคีปรองดองจะเกิดขึ้น ความขัดแย้งจะไม่มีอีกต่อไป ไพร่ฟ้าหน้าใสคนไทยเป็นสุข... เป็นความมหัศจรรย์พันลึก บรรจงลงตัวพอดี เห็นมั้ยล่ะ... พระสยามเทวาธิราชมีอยู่จริง มีอิทธิฤทธิ์จริงๆ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top