Tuesday, 30 April 2024
เลียบการเมือง

สรุป 4 สถานการณ์เด่นการเมืองไทยฉบับ 'เล็ก เลียบด่วน' 'บิ๊กโจ๊กลุ้นเละ-บิ๊กแดงโรครุม-เศรษฐาใจชื้น-คปท.ฝืนต่อไม่ไหว'

นาทีนี้สถานการณ์เหตุบ้านการเมือง...ชี้เป็นชี้ตายมากมายหลายเรื่อง จนไม่รู้ว่าจะนำเสนออย่างไรในพื้นที่จำกัด...เพราะอยากให้มิตรรักแฟนข่าวได้...ทะลุคนทะลุข่าวกันในหลาย ๆ กรณี

วันนี้เลยขอเด็ดยอดข่าวมานำเสนอสัก 4 ประเด็น...

>> กรณีบิ๊กโจ๊ก - ขณะเขียน (สาย 27 ก.พ.) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ตั้งวงประชุมพิจารณากรณีพนักงานสอบสวน กล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล 'บิ๊กโจ๊ก' รองผบ.ตร.กับพวกรวม 5 คน พัวพันเว็บพนันมินนี่...ราคาต่อรองก่อนประชุมแนวโน้มสูงที่ ป.ป.ช.จะขอดำเนินการเอง ไม่ส่งคืนให้พนักงานสอบสวน...ถ้าหวยออกอย่างนี้ 'บิ๊กโจ๊ก' โล่ง...กว่าคดีจะจบอีกนานแสนนาน...แต่ถ้าหวยพลิกส่งให้พนักงานสอบสวนที่ พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์, พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว 'บิ๊กเต่า' เป็นเจ้าภาพ...รับรองโจ๊กเละในเวลาไม่นานนัก...

>> ข่าวร้อน ๆ กรณี 'บิ๊กแดง' พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ที่บางรายการทางช่อง 9 อสมท. ระบุว่า...จะกราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพระราชวัง และรองผอ.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพราะมีปัญหาสุขภาพ เกรงจะถวายงานได้ไม่สมบูรณ์ นั้น...'เล็ก' วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารที่ใกล้ชิด 'บิ๊กแดง' ยืนยันผ่านรายการวิทยุ อสมท. และยูทูบว่า...บิ๊กแดงป่วยจริง ป่วยหลายโรคแต่ที่หนักคือ เส้นเลือดตีบ 2 เส้น จัดว่าอันตราย...

ทั้งหลายทั้งปวงข่าวนี้ต้องรอ ถ้ามีการทำหนังสือกราบบังคมทูลลาออกแล้วจริง ก็อยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย...

>> ที่ยังร้อนเป็นผัดฉ่าปลาหมึก...ก็เรื่อง 'ดีลลับ' ชุดข้อมูลความเชื่อของ 'ตู่' จตุพร พรหมพันธุ์ นาทีนี้เจ้าตัวยังยืนยันนั่งยันว่า...ถ้าไม่เบี้ยวดีลลับทักษิณกลับบ้าน...ภายใน เม.ย.นี้ นายกฯ ต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนใดคนหนึ่งใน 3 แคนดิเดต... อนุทิน ชาญวีรกูล, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค...  

ดีลลับดีลลึก อาจจะมีอยู่พอประมาณ...แต่ข่าวของ 'เล็ก เลียบด่วน' ยังเชื่อว่าจะไม่ไปถึงขนาดนั้น...เม.ย.นี้ นายกฯ สูงยาวเข่าดี 'เศรษฐา ทวีสิน' จะลากยาวประเทศไทยต่อไป เพราะภารกิจตรวจแฟลตตรวจที่พักทหาร-ตำรวจ ข้าราชการพลเรือนอีกหลายกระทรวงยังไม่แล้วเสร็จ...มีอีกหลายประเทศที่ยังจะต้องเดินทางไปขายของ อีกทั้งปัญหาหลักคือคุณหนู 'อุ๊งอิ๊ง' แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังไม่พร้อมที่จะรับช่วง...เธอยังอยู่ในโหมดครอบครัวอบอุ่น...วันก่อนยังโพสต์ดัง ๆ ว่าอยากจะมีน้องอีกสักคน...

>> ม็อบของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และกองทัพธรรม...ที่ปักหลัก SAVE กระบวนการยุติธรรม กรณีนักโทษเทวดามาตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. แม้จิตใจยังเปี่ยมสู้ แต่ก็มีล้า...ถึงที่สุดบวกลบคูณหาร ก็คงต้องพักรบ เดินหน้าต่อโดยไม่ต้องตั้งเวที สายข่าวแจ้งว่าไม่น่าเกินกลางเดือน มี.ค. ถ้าไม่มีอะไรร้อนแรง เลวร้ายไปมากกว่านี้ก็คงปิดเวที...

สถานการณ์ตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.ก็จะย้ายไปร้อนฉ่าที่เวทีรัฐสภาเป็นหลัก...25 มี.ค.สมาชิกวุฒิสภาจะอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ขณะที่ฝ่ายค้านนำโดยก้าวไกล ก็คงจะจอดป้ายที่อภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ (ตามรธน.มาตรา 152) เหมือนกัน...แบบว่าหาแสงหาเสียงตุนคะแนนกันไป...

ส่วนทำเนียบบ้านจันทร์ส่องหล้า ก็คงสำแดงความเป็นศูนย์กลางจักรวาลการเมืองไทยให้เห็นโดยชัดเจน และชัดเจนขึ้น...ก็ได้แต่หวังว่าภายใต้ความชัดเจนดังว่า...จะได้มีปฏิบัติการไถ่บาป ไม่เผลอไปทำบาปใหม่...สาธุ!!

ลับลวงลึก ‘ก้าวไกล’ ไม่ใช้บริการ ม.151 เบนเข็มกวาดเก้าอี้ สว.- เลือกตั้งนายกฯ อบจ.

ถูกต้อง…ตรงเผงอย่างที่เพื่อนสื่อมวลชนบางสำนัก ผู้สันทัดกรณีหลายคนสรุปว่า…ในที่สุดพรรคก้าวไกลก็ ‘ก้าวไม่ไกล’ เท่าไหร่..ไปได้แค่มาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ

“มาตรา 152 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติก็ได้”

พรรคก้าวไกลไม่ใช้บริการ มาตรา 151 อภิปรายแบบลงมติ รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายคะแนนไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่ง พ้นจากตำแหน่งทันที...จะว่าไปก็พอเข้าใจได้ระดับหนึ่งว่า รัฐบาลเพิ่งทำงานได้ครึ่งปี จะขยี้จับขึ้นเขียงเชือดเลยก็อาจจะเร็วไป...แต่มองในอีกมุม มาตรฐานและฝีมือตามราคาคุยของพรรคก้าวไกล มันน่าจะทำได้...

เรื่องหมูเถื่อน ตีนไก่เถื่อน ส.ป.ก.โคราช /-ส.ป.ก.โฉนดทองคำสุดซอย กรณีนักโทษเทวดา ฯลฯ อย่างน้อยก็มี รมต. 2-3 คนให้อภิปรายไม่วางใจแบบลงมติได้...แต่ก้าวไกลไปไม่ถึง…

เป็นธรรมดาอยู่เองที่งานนี้...พรรคก้าวไกลของคุณพี่ชัยธวัช ตุลาธน เพื่อนเลิฟผู้นำจิตวิญญาณพรรคก้าวไกล ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะถูกตั้งคำถามว่า...ใช่หรือไม่เบื้องลึกจริงแกนนำพรรคก้าวไกลตัวจริงเสียงจริงยังเกรงอกเกรงใจ…แพ้ทางทักษิณ ชินวัตร เลยต้องใช้ยุทธวิธี ‘แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง’

ถ้าฝ่ายค้านไม่เปลี่ยนใจ...ก็คงจะได้อภิปรายทั่วไปต้นเดือนเม.ย. ต่อคิวหรือตามหลังสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่จะอภิปรายจัดหนักจัดเต็มในวันที่ 25 มี.ค. งานนี้ถ้า สว. โชว์ฟอร์มดี ๆ ก้าวไกล-ประชาธิปัตย์ ก็อาจจะเป็นได้แค่เดินตามรอยโปรในเกมกอล์ฟเท่านั้น...

อย่างไรก็ตาม ก็จะเป็นอีกเวทีใหญ่ที่พรรคก้าวไกลได้ปล่อย สส.หน้าใหม่ แถวสี่ แถวห้าออกมาโชว์ฟอร์ม ให้สปอตไลต์ฉายจับ เพราะงานใหญ่ของพรรคก้าวไกลตอนนี้คือ การเดินเกมลึกยึดเวทีเลือกตั้ง สว.ชุดใหม่ 200 คน ซึ่งจะมาจากการเลือก (ไขว้) กันเองใน 20 กลุ่มวิชาชีพ ในราวเดือนก.ค.

เมื่อ 14 พ.ค. 2566 ก้าวไกลเป็นแชมป์เลือกตั้งคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ใน 44 จังหวัด ถ้าบริหารจัดการดี ๆ น่าจะยึดเก้าอี้ สว. ได้หลายสิบเก้าอี้…

แล้วหลังจากนั้น…ราวเดือนก.พ. 2568 ก็ถึงวาระการเลือกตั้งสจ. - นายกอบจ. พร้อมกันทั่วประเทศ คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ว่าก็น่าจะออกฤทธิ์ออกเดชในเชิงบวกให้กับพรรคส้ม...ต้องรอดูว่า 76 นายกอบจ. จะแหวกม่านบ้านใหญ่มาได้กี่จังหวัด…

วันก่อนคุณลุงพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ของตะวัน ไปประกาศที่ภูเก็ตว่าไม่เอาแลนด์บริดจ์ แต่จะเอาแลนด์สไลด์…จังหวัดภูเก็ตต้องเด็ดทั้งเกาะ...ได้ 3 สส. แล้วต้องเอานายกอบจ. ด้วย

พร้อม ๆ กับที่อุดรธานีก็เดินงานกันอย่างขันแข็ง ส่ง ‘คณิศร ขุริรัง’ ตั้งเป้าล้ม ‘วิเชียร ขาวขำ’ หวังจะเปลี่ยนอุดรธานีจากเมืองหลวงคนเสื้อแดง เป็นเมืองหลวงสีส้ม กันเลยทีเดียว…

สรุปความตามท้องเรื่อง...ก้าวไกลอภิปรายทั่วไป ไปงั้น ๆ…ความมุ่งมั่นอยู่ที่งานใหญ่เลือกตั้ง สว.ชุดใหม่ และยุทธการยึด อบจ.โน่น

สวัสดี!!

3 ภารกิจลึก แต่ไม่ลับของ 'นายใหญ่' 'ปิ๊กบ้าน' วางเกมยึดเมืองหลวงชินวัตรกลับคืน

การเมืองไทยสัปดาห์นี้ โฟกัสอยู่ที่ 2 นายกรัฐมนตรี...คนแรก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯคนที่ 23 คนหลัง เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คนที่ 30 คนปัจจุบัน...

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด 15 หรือ 16 มี.ค.นี้ สองท่านจะป๊ะกันที่มุมใดมุมหนึ่งของเชียงใหม่ หลังจากที่พบกันไปแล้วที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.67

ว่ากันว่า การพบกันรอบสองนี้จะล้างข่าวที่ว่า 'วีซ่าตำแหน่งนายกฯ' ของเศรษฐาจะหมดลงในวันที่ 10 เม.ย.ตามข้อตกลงดีลลับ ที่ จตุพร พรหมพันธ์ เชื่อเป็นตุเป็นตะ...

อันนั้นก็ว่ากันไป...

แต่วาระไม่ลับแต่ลึกของ 'นายใหญ่' ทักษิณ ชินวัตร ในการปิ๊กบ้านหนนี้มีอยู่ 3 ประการสำคัญ...

1) ไหว้บรรพบุรุษ ในวาระใกล้เทศกาลเชงเม้ง...โดยเฉพาะอย่างยิ่งไหว้วิญญาณพี่สาวหัวปี 'เยาวลักษณ์ ชินวัตร' ที่ล่วงลับเมื่อปี 2552 ระหว่างทักษิณตะลอนทัวร์หนีคดี...

2) ส่งสัญญาณทางการเมืองทั้งโดยตรงและโดยอ้อม...ถึงมวลชนมิตรรักแฟนเพลงคนเสื้อแดง ซึ่งข่าวเบื้องต้นแว่วว่าจะบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้เอิกเกริกจนเกินไป ถึงแม้ว่านาทีนี้จะประเมินกันว่า...คนเสื้อแดงเชียงใหม่ไปใส่เสื้อส้มกันไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้วก็ตาม

3) เปิดเจรจา ปรับความเข้าใจในทางลึกกับตระกูล 'บูรณุปกรณ์' ที่เคยกอดคอกันมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย แต่มาแตกคอแยกวงกันเมื่อปี 2562 และเรื่อยมา...ซึ่งตราบใดยังเป็นอย่างนี้ ทั้ง 'ชินวัตร' และ 'บูรณุปกรณ์' อาจโดนพรรคส้มกลืนกินทั้งคู่...

ย้อนอดีตสั้นๆ ปี 2563 ศึกชิงนายกฯ อบจ. 'เจ๊แดง' เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายใหญ่ ส่ง 'สว.ก๊อง' พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ลงนายกฯ อบจ.เอาชนะ 'เสี่ยโต๊ะ' บุญเลิศ บูรณุปกรณ์...

ต่อมาเลือกตั้ง สส.14 พ.ค.66 พรรคเพื่อไทยเกือบสูญพันธุ์ที่เชียงใหม่ ได้มา 2 เก้าอี้จาก 10 เก้าอี้ ส่วนก้าวไกลกวาดไป 7 ที่นั่ง...พลังประชารัฐ คนของ 'เสี่ยโต๊ะ' เอาไป 1

เชียงใหม่...ไม่ใช่เมืองหลวงของชินวัตรอีกต่อไปอย่างแน่นอน หากเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ต้นปี 2568 และเลือกตั้ง สส.รอบหน้า พรรคส้มยังยึดพื้นที่ จนกลายเป็นเมืองหลวงสีส้ม...

ทักษิณพบกับเศรษฐาก็น่าสนใจ...แต่ที่น่าสนใจกว่าในชีวิตจริง คือ 'เสี่ยโต๊ะ' บุญเลิศได้พบกับทักษิณหรือไม่?...

คืนวันที่ 14 มี.ค.ชายวัย 75 ที่ยังป่วยหนัก? จะนอนพักรีสอร์ทหรูในสนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ อ.แม่ริม ของครอบครัวจุฬางกูร คนแซ่เดียวกับสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ...

สนามนี้มีไนท์กอล์ฟด้วย แต่คนป่วยอย่างทักษิณคงไม่มีแรงไปออกรอบตีกอล์ฟ...

หากแต่คุยกับเสี่ยโต๊ะและใครต่อใคร เพื่อยึดเมืองหลวงเชียงใหม่คืนมา ดูจะเข้าท่ากว่าแน่นอน!!

นับถอยหลัง ‘ยุบพรรคก้าวไกล’ กระบวนทัพใหม่ ‘ไอติม’ มีแววคุมพรรค

สองเรื่องการเมืองร้อนฉ่ามาในสัปดาห์เดียวกัน ‘เล็ก เลียบด่วน’ ขอมัดรวมมากรองแก่นแกนสถานการณ์ให้เห็นภาพ...โดยเฉพาะกรณี ‘พรรคก้าวไกล’

กกต. มีมติเอกฉันท์ให้นายทะเบียนพรรคการเมือง (เลขาธิการ กกต.) ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ข้อหาความผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 (1) และ (2) พูดสั้น ๆ (1) นั้นข้อหาล้มล้างการปกครองฯ ส่วน (2) นั้นกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ

ในอดีตปี 2562 กกต. เคยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ความผิดมาตรา 92 นี่แหละ แต่ (2) อย่างเดียว…กรรมการบริหารพรรคโดนตัดสิทธิ์ไปคนละสิบปี แต่กรณีพรรคก้าวไกลโดนทั้ง (1) และ (2) เลยมีคำถามว่า...ถ้าโดนตัดสิทธิ์จะสิบปีหรือตลอดชีวิต..

สองวงเล็บ..สยองกันทั้งพรรค

กรณีที่ศาลสั่งยุบ กรรมการบริหารโดนตัดสิทธิ์ 10 คน…ในจำนวน 10 คนนี้ จะมี สส. 5 คน คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ชัยธวัช ตุลาธน, ประดิพัทธ์ สันติภาดา, เบญจา แสงจันทร์ และสุเทพ อู่อ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวจี๊ดตัวตึง และคนสำคัญ โดยเฉพาะ ‘พิธา-ชัยธวัช’

วันนี้…ในพรรคก้าวไกลมองไปถึงแถวสองบวกแถวสาม ที่คาดหมายว่าเมื่อถึงเวลาอาจจะเป็นตัวเลือก หัวหน้าพรรคคนใหม่ เช่น ศิริกัญญา ตันสกุล, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, หรือแถวสามที่โดดเด่นอย่าง ‘ไอติม’ พริษฐ์ วัชรสินธุ์, ‘เท้ง’ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

‘ไหม ศิริกัญญา’ กับ ‘ไอติม พริษฐ์’ ดูเหมือนจะโดดเด่น...ส่วน ‘เท้ง ณัฐพงษ์’ ลูกเจ้าสัวฝั่งธนที่เก่งกาจเรื่องไฮเทคและ ‘ธนาธร’ ชื่นชอบ จะวางตัวให้เป็นเลขาธิการพรรคก็ย่อมได้…

อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่า...วิบากกรรมพรรคก้าวไกลอันเนื่องจากเหาะเหินเกินลงกา อ้างว่าแก้มาตรา 112 แต่จริง ๆ ขอให้ยกเลิกนั้น...มีผู้ไปร้องต่อ ป.ป.ช. ว่า 44 สส. ที่ลงชื่อขอแก้ไข (ยกเลิก) มาตรา 112 ดังกล่าวผิด-ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงขอให้เพิกถอนสิทธิ์ฯ เหมือนที่ปารีณา ไกรคุปต์, ช่อ พรรณิการ์ เคยโดนมาแล้ว

ดังนั้นหากสมมุติ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องศาลฎีกาฯ และศาลตัดสินเพิกถอนสิทธิ์คนละสิบปี มันก็จะเกิดปรากฏการณ์.. ‘ไม่มีพวกคุณ ไม่มีพวกเรา’ ที่คุณพิธาโพสต์ไว้ในไอจีเมื่อไม่กี่วันก่อน…

ตรวจดูรายชื่อ 44 คนแล้ว มีทั้งชื่อ ไหม ศิริกัญญา, เท้ง ณัฐพงษ์ รวมอยู่ด้วย...นี่เป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า พรรคก้าวไกลต้องรีบคัดกรองเตรียมตัวสำรองแถว 4 ที่เจ๋ง ๆ เอาไว้เนิ่น ๆ...เพราะกว่าแถว 1 อย่างธนาธร, ปิยบุตร...จะกลับมาผุดมาเกิดทางการเมืองก็อีก 6 ปีกว่า...

และแน่นอนว่า…น่าจะช้ากว่าแผนการลับของเจ้าชายมูลเมือง ที่อาการดีวันดีคืน เพิ่งปักหมุดเชียงใหม่ถอดปลอกคอซดไวน์ได้แล้ว...รายนั้นปีหน้าเขาจะเดินแผนขอล้างมลทินโทษ หวนคืนเก้าอี้นายกฯ อีกครั้ง…

แล้ว ‘ไอติม’ จะเอาอะไรไปสู้!!??

ถอดรหัส ‘ทักษิณ’ กินรวบ!! กับดักอันตราย ‘ฝ่ายอนุรักษ์นิยม’ ในวันที่ขั้วอำนาจเดิมต้องอาศัยเสียง 'เพื่อไทย' สยบ 'ก้าวไกล'

บทสรุปของทักษิณ ชินวัตร ในการเดินทางไปปิ๊กบ้าน กราบไหว้อัฐิบรรพบุรุษที่เชียงใหม่ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค. 67 สมควรจะถูกบันทึกไว้สั้น ๆ อีกครั้ง หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ‘เล็ก เลียบด่วน’ ได้กล่าวถึงภารกิจสำคัญของทักษิณไปบ้างแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามนั้น…

มองย้อนปรากฏการณ์ทักษิณปิ๊กบ้านหนนี้ แล้วสรุปเป็นข้อ ๆ ในเชิงวิเคราะห์ข่าวได้ดังนี้…

1. ทักษิณใช้ต้นทุนสูงมากในภารกิจครั้งนี้...ต้นทุนสูงที่สุดก็คือการเปลือยให้คนทั้งประเทศมีความรู้สึกอย่างเดียวกันว่า...ที่ผ่านมาทักษิณไม่ได้ป่วยหนักหรือป่วยวิกฤตจริง ๆ

จากนี้ไปการตรวจสอบข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ หน่วยงานที่รู้เห็นเป็นใจในการช่วยทักษิณแม้แทบจะมองไม่เห็นหนทางชนะในตอนนี้ แต่อนาคตอะไรก็อาจเกิดขึ้นได้...

2.การไปเชียงใหม่ทักษิณได้รับการต้อนรับ ดูแล เอออวยจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายประจำยิ่งกว่าเป็นนายกรัฐมนตรี และพี่น้องคนเสื้อแดงที่บริหารจัดการกันมาจำนวนหนึ่ง...มองให้ลึกลงไปค่อนข้างจะขาดความมีชีวิต แม้ว่าในทางการเมืองการปิ๊กบ้านของทักษิณหนนี้จะเป็นการส่งสัญญาณให้คนเชียงใหม่รู้ว่าทักษิณกลับมาแล้วก็ตาม…

3.สมการการเมืองเชียงใหม่ในปัจจุบัน สส. 10 คน เป็นพรรคก้าวไกล 7 คน เพื่อไทย 2 คน พลังประชารัฐ 1 คน ส่วนนายก อบจ. คือ ‘สว.ก๊อง’ หรือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร คนของพรรคเพื่อไทย...ตอนแรกคาดกันว่าตระกูล ‘บูรณุปกรณ์’ บ้านใหญ่ที่เคยล่มหัวจมท้ายกับเพื่อไทยจะหวนคืนมาจับมือกับทักษิณ-เพื่อไทยในทันที แต่ยังไม่เห็นภาพนั้น ดูแล้วแต่ละฝ่ายยังตรึงกำลังกันอยู่…

3.1 ศึกชิงนายกอบจ. ต้นปี 2568 เพื่อไทย-เจ๊แดง หรือเยาวภา วงษ์สวัสดิ์ คงจะหนุน สว.ก๊อง ลงนายกอบจ.ต่อ ขณะที่พรรคก้าวไกล จะส่ง ‘ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์’ อดีตผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งประเทศ (NIA) คนหนุ่มคนเชียงใหม่ลงสมัคร ทำให้ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตสส.เพื่อไทย ที่ไปลุ้นอยู่ด้วยอกหัก…

3.2 การเลือก สส. บารมีทักษิณน่าจะช่วยให้พรรคเพื่อไทยทวงคืนเก้าอี้ในบางเขตกลับคืนมาได้บ้าง...แต่หนทางที่จะกวาดยกจังหวัดแบบเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ยากที่จะเกิดขึ้นได้อีก...ด้วยหลายเหตุผล

4. อย่างไรก็ตาม…สำหรับการเมืองระดับชาติในขณะนี้ ‘เล็ก เลียบด่วน’ พูดคุยเสวนากับนักวิชาการมาหลายสำนัก มีความเห็นตรงกันประการหนึ่งว่า… ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ ถือไพ่ดุลอำนาจเหนือกว่าทุกฝ่าย จนพูดกันว่า ‘ทักษิณกินรวบ’ เหตุเพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมหรือขั้วอำนาจเดิมยังต้องอาศัยเสียงของพรรคเพื่อไทย สยบหรือตรึงพรรคก้าวไกลที่ถูกขีดเส้นใต้ว่าเนื้อแท้แล้วยังเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันฯ…

ดังนั้นการล้ำเส้นความเป็นอภิสิทธิ์ชนของทักษิณในเวลานี้ยังไม่ใช่ปัญหาหลักในสายตาของผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งที่เป็นจุดแห่งความเสื่อม...

ฝ่ายอนุรักษ์นิยมระแวงเหมือนกันว่าพรรคเพื่อไทยว่าจะเบี้ยวข้อตกลง...โดยเฉพาะหลังวันที่ 10 พ.ค. 67 วันที่สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันหมดวาระและสิ้นอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ...พรรคเพื่อไทยอาจไปจับมือกับพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลได้…เพียงแต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมประเมินว่าทักษิณใจไม่กล้าพอที่จะเลือกหนทางนั้น…

เพราะสุ่มเสี่ยงที่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย...!!

‘บิ๊กต่อ’ ขาดทุนยับ แต่ยูเทิร์นกลับไม่ยาก ฟาก ‘บิ๊กโจ๊ก’ โกยกำไร หลุดบ่วงผู้ต้องหา

บันทึกเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์...วันเดียว 3 คำสั่ง...จากปลายปากกาของนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย…นายเศรษฐา ทวีสิน ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องเห็นด้วยจำนวนมาก แต่ก็มีบางส่วนตะโกนสวนว่า…ตลก ทำไปได้ไง...

เป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มี.ค. 2567

คำสั่งแรก ที่ 106 /2567 ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ‘บิ๊กต่อ’ ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ‘บิ๊กโจ๊ก’ รองผบ.ตร. ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี

คำสั่งที่สอง ที่ 108/ 2567 ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ‘บิ๊กต่าย’ รองผบ.ตร. รักษาราชการ ผบ.ตร.

คำสั่งที่สาม ที่ 109/2567 ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ โดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดมหาดไทย เป็นประธาน

การเด้ง ผบ.ตร. เข้ากรุในอดีตมีมากมายหลายคน...แต่หนนี้เป็นประวัติศาสตร์ก็ตรงที่เป็นการ ‘เด้งคู่’ หรือ ‘แพ็คคู่’ ซึ่งเมื่ออ่านระหว่างบรรทัดของคำสั่งดูแล้ว วิญญูชนย่อมสดับตรับฟังได้ข้อสรุปเหมือนกันว่า…

‘บิ๊กต่อ’ เละเป็นโจ๊ก ขาดทุนย่อยยับ ขาเชียร์ออกอาการหงุดหงิดในลีลาภาวะผู้นำที่เนิบนาบของท่านไปตาม ๆ กัน

ส่วน ‘บิ๊กโจ๊ก’ ที่เป็นผู้ต้องหาโดยแท้โกยกำไรอื้อซ่า...จากผู้ต้องหายกชั้นเป็น ‘คู่ขัดแย้ง’ ถึงขั้นประกาศสละอดีตลืมความขัดแย้ง…เซทซีโร่...

งานนี้กรรมการนอกสนามบอกว่า...บิ๊กโจ๊กชนะ

แต่ก็นั่นแหละ ศึกครั้งนี้ต้องดูกันยาว ๆ อย่างน้อยก็อีก 3-4 เดือน ว่าใครจะเด๊ดสะมอเร่ย์…บิ๊กโจ๊กเองก็ยังถูกหมายเรียกคดีสมคบฟอกเงินไล่ล่า… วันนี้ (22 มี.ค.) เป็นหมายใบที่สอง บอกให้ไปรายงานตัววันที่ 26 มี.ค. แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าช่วงนั้นบิ๊กโจ๊กอยู่ระหว่างลาไปอังกฤษ

ส่วน ‘บิ๊กต่อ’ มองมุมไหนก็พูดได้ว่าไม่เกิน 3 เดือนได้กลับปทุมวัน ทำหน้าที่ ผบ.ตร. จนเกษียณ 30 ก.ย. 2567

แต่สายข่าวที่น่าเชื่อระบุว่า...คนที่ชนะที่แท้จริงคือคนที่ชี้แนะชี้นำนายกฯ ให้ตัดสินใจ ซึ่งสายข่าวไม่ลังเลที่จะระบุว่าเขาคือคน…จันทร์ส่องหล้า..คนนั้น ซึ่งบัดนี้น่าจะมีโผอยู่ในใจแล้วว่า ต.ค. ปีนี้จะให้ใครขึ้น ผบ.ตร.

ในมุมวิเคราะห์...เต็งจ๋า ผบ.ตร. ตามหน้าไพ่ต้องบอกว่า…

ปีนี้ตัดบิ๊กโจ๊กออกจากคู่ชิงไปได้ เหลืออีก 3 บิ๊ก บิ๊กต่ายเต็งหาม ถ้าสองเดือนที่รักษาการโชว์ฟอร์มเข้าตากรรมการ จันทร์ส่องหล้าก็ต้องส่องต่ายให้ได้ดี

มีประเด็นที่ยังกระพริบตาไม่ได้อยู่นิดเดียวก็ตรงที่ เดือน เม.ย.นี้ สีกากีที่ชื่อ พล.ต.ท.ประจวบ วงษ์สุข ผช.ผบ.ตร. คนเมืองเหนือที่มีกระแสข่าวว่า ‘เจ๊แดง’ คนเดิมสนับสนุนอยู่นั้น จะได้ขึ้นรองผบ.ตร. หรือไม่...ถ้าได้ขึ้นก็แทบจะฟันธงได้ว่างานนี้โผพลิก…บิ๊กจวบมาแน่...

แต่ถ้า เม.ย. ไม่มีอะไร...บิ๊กต่ายก็คงเข้าป้าย แต่มีข้อแม้ว่าสองเดือนนี้ห้ามเหยียบเปลือกกล้วยลื่นล้มเด็ดขาด…!!

‘บิ๊กโจ๊ก’ ฮึดสู้ครั้งใหญ่!! หลังถูกเด้งแพ็กคู่เข้ากรุ ‘บิ๊กต่อ’ เละเทะ ส่วน ‘บิ๊กต่าย’ ย่องจันทร์ส่องหล้า

ต้องเรียกว่า เปิดสัปดาห์ใหม่สัปดาห์นี้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ที่ถูกเด้งคู่ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ฮึดสู้ จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ

1) ยกเลิกการเดินทางไปอังกฤษระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-1 เม.ย. 67 พร้อมอ้างว่านายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ (ภูมิธรรม เวชยชัย) มอบหมายภารกิจพิเศษให้ทำด่วน

2) ให้ทนายความไปยื่นฟ้องผู้มีคำสั่งแต่งตั้งและพนักงานสอบสวน สน.เตาปูนในคดีเว็บพนัน BNK Master รวม 30 นาย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

3) ให้ทนายยื่นหนังสือต่อรักษาการ ผบ.ตร.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ขอให้ดำเนินการตามคำสั่งของ ผบ.ตร. (พล.ต.อ.ต่อศักดิ์) ที่เคยแถลงร่วมกับบิ๊กโจ๊กเมื่อ 20 มี.ค. โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมสำนวนทั้งหมดส่งให้ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณา  

4) นายษิธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายคนดังและเป็นที่รู้กันว่าสนิทสนมกับบิ๊กโจ๊กได้ออกมาแถลงถึงเส้นเงินจากเว็บพนัน ซึ่งเป็นการขยายผลเพิ่มเติมจากที่ทีมทนายเคยแถลงมาครั้งหนึ่งแล้ว

ต้องยอมรับการว่าการแถลงของทนายตั้ม แม้จะเป็นบริบทเดียวกับที่ ‘ผู้การนำเกียรติ’ ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก 1 ใน 8 ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ แต่ทนายตั้มก็มีตัวละครใหม่ ๆ อย่าง ‘ดาบยาว’ ,'รองฟาง' นายตำรวจคนของบิ๊กต่อ มาขับเน้นสีสัน และกล่าวหาว่าเส้นเงิน ‘พิมพ์วิไล’ แห่งเว็บ BNK Master นั้น มุ่งตรงไปที่ภรรยา พี่ชายของบิ๊กต่อ แบบเต็ม ๆ

ในมุมวิเคราะห์ก็ต้องบอกว่างานนี้…จริง ๆ ทั้งต่อ ทั้งโจ๊ก ก็เสียหายหลายแสน เสียชื่อเสียงอยู่แล้ว จากกรณีถูกเด้งเข้ากรุ แต่ปฏิบัติการของบิ๊กโจ๊กล่าสุดนี้ ยิ่งทำให้ทั้งคู่กอดคอกันจมน้ำนานขึ้น บิ๊กโจ๊กหวานเจี๊ยบนั้นไม่เท่าไหร่ เพราะเป็นแมวสิบชีวิต ต้นทุนไม่สูงมาก แต่บิ๊กต่อหวานแหวว คำก็น้อง สองคำก็พี่นี่สิ…งานนี้ขาดทุนย่อยยับ…

เชื่อกันว่าด้วยชื่อชั้น 2-3 เดือนบิ๊กต่อก็คงได้กลับ สตช. เกษียณที่ตำแหน่ง ผบ.ตร. แต่ก็จะเป็นการเกษียณภายใต้สภาพของ ผบ.ตร. ที่บาดเจ็บ บาดแผลพุพอง

ส่วนตำแหน่ง ผบ.ตร. หากวันนี้ (26 มี.ค.) การประชุม ก.ตร. ไม่มีการพิจารณาอนุมัติให้ใช้ข้อกำหนดการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2566 โดยอนุโลม ก็แปลว่า...จะไม่มีการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง รองผบ.ตร. แทน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ไปเป็นเลขาธิการสมช. โอกาสที่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร.คนเมืองแพร่ จะขยับเป็น รองผบ.ตร. ในเดือนเม.ย. แล้วผงาดขึ้น ผบ.ตร. เดือนต.ค.2567 ก็ปิดฉาก…

ผบ.ตร.ที่ 15 ‘บิ๊กต่าย’ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ก็แบเบอร์ ข่าวว่าก่อน 20 มี.ค. บิ๊กต่ายได้ไปจันทร์ (ส่องหล้า) มาแล้ว..!!

แต่ตรงข้าม…ถ้าหากมีการอนุโลมข้อกำหนดฯ ก็แปลว่าบิ๊กจวบจะบินเร็วเหนือเสียงเข้าป้าย…

ป่านนี้ก็รู้กันแล้ว หวยออกทางไหน!! ‘เล็ก เลียบด่วน’ นำเสนอเป็นข้อมูลเบื้องต้นเอาไว้แต่เพียงเท่านี้

สัญญาณจาก ‘จ.จักรภพ’ ถึง ‘จ.จารุพงศ์’ ได้เวลากลับบ้าน เติมสีสัน ‘จันทร์ส่องหล้า’

“ผมได้คิดหลังจากเวลาผ่านไป ได้คิดว่าคนไทยจะมัวขัดแย้งกันอีกทำไม โลกมันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว...”

“ผมอยู่ข้างนอกนานพอแล้ว ครับ ขออนุญาตกลับบ้าน...” 

จักรภพ เพ็ญแข กล่าวผ่านติ๊กต็อก ขณะนั่งรถไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน เดินทางกลับจากดูไบสู่มาตุภูมิที่จากไปนาน 15 ปี

วันพฤหัสบดีที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ไปรายงานตัวที่กองปราบปรามในฐานะผู้ต้องหาคดีข้อหาอั้งยี่ อาวุธปืน อะไรประมาณนั้น ภาพประทับใจของใครหลายคนก็คือ ภาพที่จักรภพก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 10…

ขณะนี้จักรภพมีคดีติดตัวแค่ 2 คดีคือ ไม่ไปรายงานตัวกับ คสช. และ อั้งยี่/อาวุธปืน ส่วนคดีมาตรา 112 นั้นยกฟ้องไปนานแล้ว

จักรภพมั่นใจ เขาน่าจะต่อสู้คดีความ กลับมาเป็นอิสระและทำงานการเมืองและรับใช้ชาติได้ แต่จะไม่ให้กระทบกับพรรค (เพื่อไทย) และรัฐบาล หากกระทบก็จะอยู่เบื้องหลัง…

นับเป็นท่าทีท่วงทำนองที่ต้องยอมรับว่า...รู้ตัวตน รู้ประมาณ ลดอีโก้ที่ในอดีตเราเคยพบว่าจักรภพมีอยู่พอประมาณ และแน่นอนว่าถ้ามีโอกาสจักรภพก็น่าจะเป็นทรัพยากรคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยหรือบ้านจันทร์ส่องหล้าได้…

จักรภพยังประกาศที่จะเป็นผู้ประสานให้เพื่อนพ้องน้องพี่ (คนเสื้อแดง) ที่มีคดีความอยู่ต่างประเทศเดินทางกลับบ้าน…ซึ่งตนเปรียบเสมือน ‘หนูลองยา’ ที่อาจทำให้หลายคนมีความมั่นใจที่จะกลับมา…

ก็นับว่าเป็นเจตนาดีของจักรภพ…แต่ก็ต้องกล่าวให้สิ้นกระแสความว่า จักรภพซึ่งมี ‘นายใหญ่’ จันทร์ส่องหล้าอุปการะอยู่นั้น คดีความไม่ได้หนักหนาสาหัสเหมือนอีกหลายคนที่ติดบ่วงคดีมาตรา 112 รวมอยู่ด้วย..ซึ่งนั่นดูเหมือนประตูโอกาสจะปิดเพราะยากที่จะชนะ…

ดังนั้นคนที่จะกลับบ้านได้แบบมีโอกาสหลุดรอดคดีได้ ต้องไม่มีคดี 112 เช่น จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และจารุวงศ์ ผู้เป็นลูกชาย 

โดยจารุพงศ์นั้นเคยเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรมว.มหาดไทย...ที่เคยตั้งขบวนการเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย รับบทเลขาธิการ จักรภพรับบทผู้ประสานงาน ต่อสู้กับรัฐบาล คสช.

‘เล็ก เลียบด่วน’ ไล่เลียงดูแล้ว คนที่จะกลับมายกเว้นสองพ่อลูกเรืองสุวรรณแล้ว คนอื่น ๆ ที่อยู่ในสหรัฐฯ-ยุโรป ส่วนใหญ่ก็คงไม่กลับและกลับไม่ได้…เพราะส่วนใหญ่หนีคดีมาตรา 112

ขณะเดียวกันอย่างรายของ ‘จอม เพ็ชรประดับ’ อดีตสื่อมวลชนคนดัง แม้มีเพียงคดีเดียวคือไม่รายงานตัวต่อ คสช. แต่ก็เป็นผู้ลี้ภัยไปแล้ว และไม่เอาทักษิณ ก็คงไม่กลับมา…รวมทั้ง ‘สุนัย จุลพงศธร’ ก็เป็นผู้ลี้ภัยไปแล้วและหลายปีมานี้หาเลี้ยงชีพด้วยการ ‘ด่าเจ้า’ ก็คงไม่กลับมา…

หันมามองคนใกล้ตัวเพื่อไทยและทำมาหากินอยู่ใกล้ไทยคือ…กัมพูชา อย่าง กี้ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง, วันชนะ เกิดดี และนิสิต สินธุไพร ที่โดนคดีจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา คดีล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552 ก็คงไม่กลับมาเช่นเดียวกัน...ยกเว้นมีการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมและกฎหมายครอบคลุมถึง…

ก็เอาเหอะ...ถึงอย่างไรก็ต้องยอมรับว่า ‘หนูลองยา’ อย่างจักรภพ ก็หวังดีต่อเพื่อนพ้องน้องพี่ ซึ่งวันนี้หลายคนได้ก้าวไกลไปไกลจนยากจะก้าวใหม่แล้ว เพราะ กู่ไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี...เอวัง!!

ผลพวงศึกอภิปรายม.152 เสริมแกร่ง 'เศรษฐา-รัฐบาลตีตั๋วยาว' หลังลีลาเชิงชั้นทางการเมืองกล้าแกร่งกว่าเก่าก่อนหลายเท่าตัว

ก็ต้องยอมรับว่าแม้ศึกอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตาม รธน.มาตรา 152 จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวาทกรรม และสำนวนโวหาร...แต่ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็ห้ำหั่นกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง...กันไม่น้อย

เกือบ ๆ 20 ชั่วโมงของการพ่นน้ำลายพ่นไฟใส่กัน...ชาวบ้านไม่เสียเวลาเปล่า ได้รู้เช่นเห็นชาตินักการเมืองแต่ละคนว่า ใครทำการบ้าน-ไม่ทำการบ้าน ใครแผ่นเสียงตกร่อง ใครเป็นนักฉวยโอกาส

ขออนุญาตให้คะแนนส่วนตัว บวกลบคูณหารแล้ว ฝ่ายค้านชนะเฉียดฉิว 51 ต่อ 49 นี่ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ป๊อดเรื่องประเด็นนักโทษเทวดา คะแนนอาจไหลไปที่ 55 ต่อ 45 ทีเดียว...น่าเสียดาย ปล่อยให้หมอวาโย อัศวรุ่งเรือง อธิบายเรื่องโรคกระดูกคอเสื่อม เส้นเอ็นแขนเปื่อยยุ่ย ฯลฯ อยู่นานสองนาน...แม้จะพูดดี แต่มันยังไม่ Hit the Point...

กล่าวสำหรับพรรคก้าวไกล...ก็ต้องยอมรับว่าสส.หน้าใหม่แถวสามหลายคน ทั้งหญิงชายได้แจ้งเกิดอย่างสมบูรณ์บนวิถีวิธีคิดแบบก้าวไกล...ส่วนเป็นใครบ้าง 'เล็ก เลียบด่วน' จะยังไม่ขอเอ่ยนาม...

สำหรับพรรคฝ่ายค้านเก่าแก่อย่าง 'ประชาธิปัตย์'...งานนี้พระแม่ธรณีบีบน้ำตาฝากขอบคุณรุ่นเก๋าอย่าง 'ชวน หลีกภัย' ที่อุตส่าห์เปลืองเนื้อเปลืองตัว โดดมาเคียงข้าง 'อู๊ดด้า' จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค ที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน และเหนือชั้นในลีลาอภิปราย...

ไม่มี 'ชวน-จุรินทร์' งานนี้ประชาธิปัตย์ตายสนิทศิษย์ส่ายหน้าแน่นอน...

สรุปชัดเจน...ปชป.สายผู้อาวุโส 4 คน นำโดย 'ชวน-จุรินทร์' ยังไงก็ไม่ร่วมรัฐบาล ที่เหลือนำโดย 'เฉลิมชัย-เดชอิศม์-ชัยชนะ' ชัดเจนว่าได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นพรรครอร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว...ฟันธง !!

สำหรับพรรคเพื่อไทย...รายการนี้ก็ต้องยกให้ 'เศรษฐา ทวีสิน' ที่แม้ว่าผลงานยังไม่ค่อยเข้าตานัก แต่ลีลาเชิงชั้นทางการเมืองกล้าแกร่งกว่าเก่าก่อนหลายเท่าตัว...

กล้าสวนหมัดจุรินทร์เรื่องแมลงวันแมลงหวี่ และย้อนเกล็ดฝ่ายค้านที่โลกงง...รวมทั้งกล่าวหาท่านชวน  หลีกภัย ว่าหากินกับมุกเดิมนั้น ข่าวแจ้งว่าทำเอากรี๊ดกันทั้งพรรคและบ้านจันทร์ส่องหล้า...

พูดไปทำไมมี...หลังศึกอภิปรายทั่วไปหนนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยกระซิบกระซาบมาว่า...นายใหญ่ต่อวีซ่าให้เศรษฐา...ยาวไป...อยู่ให้ครบเทอม...แต่รอบหน้าขอให้ลูกสาวนายใหญ่ 'อุ๊งอิ๊ง'

นายใหญ่ประเมินแล้ว...ยังไง ๆ ก้าวไกลก็ไม่แลนด์สไลด์ ตอนนี้สั่งปิดประตูรูรั่วสนามอีสาน รอบหน้าต้องอย่างน้อย 110 เสียง จากทั้งหมด 133 ซึ่งปี 2566 ได้มาแค่ 73 เท่านั้น

กระแสร้อนแรงเป็นแกงไตปลา เบียด 'แพทองธาร' ตกขอบ คะแนนพุ่ง!! ต่อวีซ่ายาว สวนดีลลับจบแค่ 10 เม.ย.นี้

แม้จะยังหลวม ๆ ไปบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าการเดินทางไปตรวจงานมอบนโยบายของนายกฯ เศรษฐา   ทวีสิน ที่สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย.ที่ผ่านมา...ทำให้เรตติงคะแนนนิยมของ นายกฯ ถุงเท้าหลากสีร้อนแรงขึ้นมาไม่น้อย...น้อง ๆ แกงไตปลาเมืองคอนกันเลยทีเดียว

พูดกันแบบไม่ต้องเกรงใจและไม่ได้แซะเสี้ยม...นาทีนี้ 'นายกฯ นิด' เบียด 'หนูอิ๊ง' ตกขอบไปแล้ว...

ที่เกาะสมุยนายกฯ พัก 2 คืน...ทำการบ้านหลายอย่าง 6 สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากสองค่ายบ้านใหญ่ 'ชุมพล กาญจนะ' และ 'พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว' (นายกอบจ.คนปัจจุบัน) คอยเป็นกำลังหลักเสริมให้ฝ่ายราชการ...งานนี้ลงตัวเป๊ะ...

แต่ที่ไม่ลงตัว...นับถอยหลังจะต้องพังกันไปข้างคือศึกบ้านใหญ่ 'กาญจนะ' กับ 'จ่าแก้ว' ต้นปีหน้าจะต้องสัประยุทธ์ห้ำหั่นประดาบกันในศึกชิง นายกอบจ. ซึ่งชัดเจนแล้วว่า คุณป้าโสภา กาญจนะ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ ภรรยาชุมพลจะลงชนพงษ์ศักดิ์...

กลับไปที่นครศรีฯ แม้นายกฯ จะมีเวลาไม่มาก ก็ทำภารกิจครบ ทั้งสักการะและห่มผ้าพระบรมธาตุ กินแกงไตปลา-ขนมจีน และเปิดงานสัมมนาที่ อ.สิชล และแวะวัดเจดีย์ ปิดทองไอ้ไข่...โปรโมตการท่องเที่ยวสายมู...

ที่นครศรีฯ มีรองหัวหน้าพรรค รทสช. 'วิทยา แก้วภราดัย' และ รมว.อุตสาหกรรม พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล  สส.เขตสิชล ให้การต้อนรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐมนตรีปุ้ย พิมพ์ภัทรานั้นแข็งขัน เอาการเอางาน นาทีนี้คนเมืองคอนยกให้เธอเป็นหญิงเหล็กหญิงเก่งหญิงกล้า...ปรับครม.เมื่อไหร่ถ้าชื่อเธอหลุดคนเมืองคอนมีเคืองแน่นอน...

อย่างไรก็ตามขณะคะแนนเศรษฐาดูร้อนแรงเป็นแกงไตปลาที่สุราษฎร์-นครศรีฯ แต่ที่กรุงเทพฯ-ทำเนียบ ต้องดูย่างก้าวสำคัญกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งขณะเขียนต้นฉบับ 'เล็ก เลียบด่วน' ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลเศรษฐาผ่าทางตันนโยบาย 5 แสนล้านบาทด้วยสูตรไหน วิธีการใด...

ไม่ว่าจะอย่างไร ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ปรับแผนเรื่องงบประมาณประจำ 2568 โดยขอปรับเพิ่มงบขาดดุลอีก 157,200 ล้านบาท นั้น ทำให้งบ 2568 ขาดดุลรวม 870,000 ล้านบาท ก็ย่อมชัดเจนว่า...งบก้อนใหญ่ของดิจิทัล วอลเล็ตจะมาจากงบปี 2568...นั่นแล

ในขณะที่แนวโน้มการลดดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ ก็น่าจะเกิดขึ้นตามที่นายกฯ เศรษฐา ตามจี้ตามไชท่านผู้ว่าฯ ธปท.แบบน่ารำคาญในช่วงก่อนหน้านี้ วันสองวันนี้หรืออีกไม่กี่เพลา การลดดอกเบี้ยก็คงจะช่วยผ่อนคลายให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้บ้างส่วนหนึ่ง...

กล่าวโดยสรุปสถานการณ์ในห้วงเวลานี้...เศรษฐาอยู่ในช่วงขาขึ้น...แบบว่าสวนทางดีลลึกดีลลับที่ 'ตู่' จตุพร พรหมพันธุ์ ได้ดักคอพยากรณ์เอาไว้ ว่าเศรษฐาหมดดีลแค่ 10 เม.ย.เท่านั้น

'เล็ก เลียบด่วน' ขออนุญาตคุณพี่ตู่ จตุพรต่อวีซ่าดีลให้อย่างน้อยถึง 10 เม.ย.ปีหน้าก็ล่ะกัน !!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top