Tuesday, 30 April 2024
เลียบการเมือง

จอดป้าย 315 เสียง 10 สส.แลก 1 รมต. รทสช.ยึดพลังงาน/ดีอี ‘ป้อม’ ดัน ‘ป๊อด’

สถานการณ์ทางการเมือง… เดินทางมาถึงหลักกิโลเมตรสุดท้าย ของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 คาดว่าถ้าวันพุธที่ 16 ส.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่รับพิจารณาเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องไป การโหวตนายกรัฐมนตรีอย่างช้าก็จะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 22 ส.ค.นี้

อย่างที่เคยวิเคราะห์ว่า… เวลาที่ทอดยาวออกไป ทำให้พรรคเพื่อไทยได้อย่างเสียอย่าง… ที่ได้คือ การเจรจาฟอร์มรัฐบาลที่รัดกุมรอบคอบมากขึ้น ส่วนที่เสียคือ ฝ่ายต่อต้านจะจัดทัพกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ทั้งม็อบตัวเป็นๆ และไอโอ โรบอต ในโลกไซเบอร์-ออน์ไลน์… ซึ่งกรณีหลังทราบว่าคนแดนไกลสั่งให้พรรคเพื่อไทยเสริมอุปกรณ์เสริมคนสู้กับกองทัพด้อมส้มเต็มคาราเบลแล้ววววว

มาอัปเดทสูตรรัฐบาลกันดีกว่า… สรุปว่าหลังจากร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่า… พรรคเพื่อไทยก็ต้องยอมรับว่าอย่างไรเสียต้องมีพรรคลุงร่วมด้วยอย่างน้อยหนึ่งพรรค เอาไปเอามา… ได้มาทั้งสองพรรค… ถึงวันนี้ดีลลับดีลลึกของพรรคเพื่อไทยก็จบลงที่ 315 เสียง

ถ้าไม่พลิกกันอีก 315 เสียงจะประกอบด้วย

เพื่อไทย 141, ภูมิใจไทย 71, พลังประชารัฐ 40, รวมไทยร้างชาติ 36, ชาติไทยพัฒนา 10,ประชาชาติ 9, ชาติพัฒนากล้า 2, เพื่อไทรวมพลัง 2 และพรรคเล็ก 1 เสียงอีก 4 พรรค คือ เสรีรวมไทย, พลังสังคมใหม่, ท้องที่ไทย, ประชาธิปไตยใหม่...

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า… ที่สุดของที่สุดจะมีประชาธิปัตย์มุ้งใหญ่ของ ‘เฉลิมชัย – เดฃอิศม์’ ประมาณ 20 เสียงเข้าร่วมด้วยหรือไม่...หลังจากที่เดชอิศม์ ขาวทอง หรือ ‘นายกฯ ชาย’ อุตส่าห์ดั้นด้นไปพบทักษิณ ชินวัตร ถึงฮ่องกงเมื่อ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา… ถ้าให้ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ฟันธง ก็คงต้องบอกว่าต่อให้ไม่มีมติพรรค ก็น่าจะมี สส.จำนวนหนึ่งยกมือหนุนนายกฯ พรรคเพื่อไทย ให้สัญญาณขอเกาะโบกี้รถไฟไปด้วยคน

สำหรับตัวเต็งนายกฯ คนที่ 30 นาทีนี้ แม้ว่าจะมีแรงต้านพอประมาณจากแนวรบ สว. แต่โอกาสที่เศรษฐา ทวีสิน...จะฝ่าด่านมาได้ก็มีสูงขึ้น ตราบใดที่โครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาลยังมีพรรคสองลุง… คือพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติรวมอยู่ด้วย… ขอเพียงอย่างเดียวให้เศรษฐาพูดจาให้ไพเราะขึ้น จริงใจต่อคำพูดใหม่ จุดยืนใหม่มากขึ้น และพรรคเพื่อไทยเองก็ต้องแสดงความชัดเจนว่าไม่แอบจับมือกับพรรคก้าวไกล… แต่ถ้าวันโหวตมีพรรคก้าวไกลโผล่มาโหวตเห็นชอบด้วย โอกาสที่เศรษฐาจะร่วงกลางงาน ก็มีสูง

และมากไปกว่านั้นที่พรรคเพื่อไทย ต้องเปล่งประกายความทุ่มเทที่จะแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ความจริงใจและคำมั่นสัญญาที่นำพาบ้านเมืองออกจากความขัดแย้ง แบ่งฝ่ายแบ่งสี ดังที่ประกาศไว้… จะต้องเข้มข้นมากกว่าการหมกมุ่นหมุนวนอยู่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สำหรับโผ ครม.งวดนี้… คาดว่าจะใช้สูตรคำนวณ 10 เสียงต่อ 1 เก้าอี้รัฐมนตรีเท่าที่ทราบพรรคเพื่อไทยพยายามไม่ให้รัฐมนตรีในรัฐบาลลุงตู่นั่งอยู่ที่เดิม  แต่อาจจะมีข้อยกเว้นสำหรับเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน… โควตาน่าจะตกเป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่รัฐมนตรีอาจจะเปลี่ยนจาก ‘รองพงษ์’ เป็น อดีตปลัดพลังงานที่ชื่อ ‘ณอคุณ’ ขณะที่กระทรวงดีอี… ก็จะตกเป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติ เช่นเดียวกัน

ถามว่าทำไมสองกระทรวงนี้เป็นของพรรคนี้… ตอบสั้นๆ ว่า น่าจะเพราะบารมีเจ้าสัวหนุ่มหล่อ คนนั้น!!

ส่วน ‘ลุงป้อม’ ที่เพิ่งฉลองวันเกิด 78 เมื่อวาน ย่าง 79 ในวันนี้… มีแนวโน้มว่าจะถูกสถานการณ์บีบรัดให้ปล่อยวางเก้าอี้เสนาบดี… วาระนี้จึงน่าจับตาไปที่น้องชายลุงป้อมคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ หรือ ‘บื๊กป๊อด’ ว่าจะนั่งกระทรวงไหน เช่นเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, สันติ  พร้อมพัฒน์, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ...

ครับ!! ก็สรุปสั้นๆ ได้ประมาณนี้ก่อน… ขออนุญาตไปตรวจโผแต่งตั้งทหาร-ตำรวจ เพื่อมาเล่าสู่กันฟังกลางสัปดาห์ครับ!!

ดับฝัน ‘พิธา’ ฮึดสู้ ระทึก…มีลุง มีเรา…เดินหน้า ‘เศรษฐา’ อาการหนัก…‘ชัยเกษม’ มีลุ้น

กำลังจะปั่นต้นฉบับ ก็ได้รับทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ทำให้สถานการณ์ไทม์ไลน์การเลือกนายกรัฐมนตรีชัดเจนขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญชี้เปรี้ยงมาแล้วว่าไม่รับเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นไว้ กรณีข้อบังคับการประชุมรัฐสภากับการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์… เมื่อศาลไม่รับพิจารณาทุกอย่างก็ตกไป ผลพวงสำคัญก็คือ โอกาสการเสนอชื่อนายพิธาได้ถูกปิดฉากลงในชั้นนี้ แต่คำถามสำคัญคือถ้าพิธาจะไปยื่นเองเพราะมีส่วนได้เสีย จะเกิดอะไรขึ้น…

วางเรื่องนี้ไว้ก่อน…

คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแถลงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ว่าน่าจะได้โหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 18 หรือ 21 ส.ค. และพรรคเพื่อไทยยืนยันเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ขณะที่ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคมั่นใจว่า… ม้วนเดียวจบ

ม้วนเดียวจบหรือม้วนเดียวจอดก็ไม่รู้… รู้แต่ว่าแต่สายข่าวของ ‘เล็ก เลียบด่วน’ 5 สายลงมติ 3 ต่อ 2 สายว่า… เศรษฐาจะสอบไม่ผ่านคะแนน 375 เสียง… เหตุผลก็เรื่องเดิมๆ ที่รู้ๆ กันคือ กรณีการซื้อขายที่ดิน กรณีการเสียภาษีของบริษัทแสนสิริ ที่คุณเศรษฐาเคยบริหารนั่นแหละ… อ๋อ เรื่องสะพานข้ามคลอง ตั้งด่านเก็บค่าตั๋วอะไรนั่นด้วย… รวมทั้งกรณีแนวคิดการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เคยพูดเอาไว้ด้วย… 

จะว่าไปแม้จะกระบวนท่าลีลาเยอะจนถูกเหน็บแนมว่าเป็น ‘เพื่อไทยการแสดง’ ก็ตาม แต่มองอีกมุมก็น่าเห็นใจพรรคเพื่อไทยอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะอ้าปากพูดอะไร ขยับตัวอธิบายเรื่องอะไรก็ถูกกองทัพด้อมส้มของจริง และด้อมส้มใส่เสื้อแดงดักคอดักทางถล่มซ้ายถล่มขวาแทบโงหัวไม่ขึ้น…

ขนาด ‘สหายใหญ่’ ภูมิธรรม เวชยชัย แม่ทัพใหญ่ที่มีทั้งสายบุ๋นสายบู๊อยู่ในตัวก็งัดวิชาออกมารับมือแทบไม่ทัน… นอกจากสารภาพว่าการจัดตั้งรัฐบาลสูตรสลายขั้วหนนี้ พรรคเพื่อไทยยอมเสียต้นทุนทางการเมืองมากมายมหาศาล เพื่ออนาคตที่ดีของบ้านเมืองจะเกิดสมัครสมานสามัคคีเลิกแบ่งสีแบ่งฝ่าย…

อยากจะเรียน ‘บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม’ ว่าเดินหน้าทำไปเถอะ ขอให้มีศรัทธาที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสมานฉันท์จริงๆ อย่ามีวาระซ่อนเร้นทำให้เป็นรูปธรรม  อย่าเอาเรื่องนายห้างดูไบมาเกี่ยวข้อง รับรองคนเชียร์อื้อ!!

วันนี้… รู้สึก ‘เล็ก เลียบด่วน’ ออกความเห็นมากไปนิด… กลับมาที่ทิศทางข่าวจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งก็ยังสรุปว่า โอกาสของเสี่ยนิด เศรษฐา มีน้อย… โอกาสที่จะตกเป็นของชัยเกษม นิติสิริ มีสูงหากสุขภาพสู้ไหว หาไม่แล้วเกมมันจะไหลไปที่พรรคอันดับ 3 เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีระกูล นาทีนี้พร้อมแล้วที่จะรับส้มหล่น…

อย่างไรก็ตาม… เชื่อกันว่าระดับเพื่อไทยคงไม่ปล่อยให้โอกาสทองผ่านเลยไปอย่างแน่นอน… หน้าฉากก็ทำวับๆ แวมๆ โหวตก่อนแบ่ง หรือแบ่งก่อนโหวต แต่นาทีนี้ก็คงส่งสัญญาณทางลึกกันแล้วว่าพรรคไหนได้กี่เก้าอี้ กระทรวงไหนที่เพื่อไทยขอสงวนสิทธิ์ ส่วนหลักการที่ปล่อยออกมาว่าไม่ให้พรรคการเมืองในรัฐบาลชุดนี้อยู่ที่กระทรวงเดิมนั้น ล่าสุดทราบว่าไม่ติดยึดแแล้ว… ทำให้พรรคภูมิใจไทยที่ยังตั้งมั่นที่จะคุมกระทรวงสาธารณสุข การท่องเที่ยวและการกีฬา คลายเครียดขึ้นมาบ้าง… ส่วนกระทรวงคมนาคมนั้นดูเหมือนจะทำใจแล้วว่า พรรคเพื่อไทยไม่ยอมปล่อยแน่…

อ๋อ สำหรับกระทรวงพลังงานที่โผเดิมจะยกให้พรรครวมไทยสร้างชาติกำกับดูแลนั้น… ล่าสุดทราบว่าพรรคเพื่อไทยโยกมาเป็นของตัวเอง แต่คนแดนไกลไม่ขัดข้องที่จะให้เจ้าสัวพลังงาน… ส่งคนมานั่งว่าการ… 

มีลุง… มีเรา… มีเจ้าสัว… มีเจ้ามือ…

ทราบแล้วเปลี่ยน!!

‘ทักษิณ’ กลับบ้าน ขออภัยโทษ แจกกล้วยสภาสูง ดัน ‘เศรษฐา’ มีลุ้น

ไม่น่าจะเลื่อนหรือล้มเลิกอะไรอีก… วันที่ 22 ส.ค.นี้ รัฐสภาก็จะได้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 กันเป็นครั้งที่ 3 และในวันเดียวกัน ตอน 9.00 น. ‘คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร’ จะยกทีมไปต้อนรับการกลับบ้านของคุณพ่อ ‘นายทักษิณ ชินวัตร’

สองเหตุการณ์มาบรรจบกัน ในวันเดียวกัน… แบบนี้ต้องร้องอั๊ยหยา!!... เกือบๆ ฟ้าสะท้าน แผ่นดินสะเทือนทีเดียวเชียวแหละ!!

ว่ากันกรณีโหวตเลือกนายกฯ ก่อน พรรคเพื่อไทยดีลจบแล้ว ได้รัฐบาล 314 เสียง สูตร ‘มีลุง มีเรา สลายขั้ว สลายสี’ อาจจะคลุมๆ เครือๆ อยู่นิดหน่อย กรณีพรรคพลังประชารัฐของ ‘บิ๊กป้อม’ ยังไม่ปรากฏว่าผู้บริหารพรรคของฝั่งเพื่อไทยและพลังประชารัฐ ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ… แต่คาดว่า ในอีกวันสองวันนี้ก็คงแสดงความชัดเจนออกมา

วิเคราะห์ ตรวจสอบแล้ว แม้ว่าขณะนี้ ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ จะถูก ‘นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์’ จอมแฉจ้วงแทงเอาหลายแผล อาการไม่สู้ดีนัก และเชื่อขนมกินเถอะ ว่าวันที่ 22 ส.ค.ที่จะถึงนี้ จะถูก สว.ตัวตึง 3-4 คน ขยี้แผลซ้ำก็ตาม… แต่ความที่พรรคสองลุงร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไข ‘เพื่อไทยไม่ยุ่ง-ไม่แก้มาตรา 112 และไม่เบี้ยวไปเอาพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลในภายหลัง’ ก็ทำให้ สว.สายลุงที่เคยค้านสุดตัวหรือเตรียมงดออกเสียง เปลี่ยนใจมายกมือ ‘เห็นชอบ’ ด้วยเห็นแก่ประเทศที่จะต้องเดินหน้ากันมากขึ้น…

และไม่แค่นั่น… สายข่าวยืนยัน นั่งยัน ว่าขณะนี้ปฏิบัติการแจกกล้วยให้ สว.ผู้หิวโหยได้ดำเนินไปอย่างเอาการเอางาน และได้ผลค่อนข้างดี…

อย่างไรก็ตาม คะแนนของนายเศรษฐาก็ยังไม่ปลอดภัย… ได้เสียงสนับสนุนจาก 11 พรรค รวม 314 ต้องหาเพิ่มอีก 61 จึงจะครบ 375 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา… ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย…
ถ้านาทีสุดท้ายเกิด สว.ส่วนใหญ่ ‘งดออกเสียง’ ขึ้นมาล่ะก็นายเศรษฐาอาจชีช้ำไปตลอดชีวิต พรรคเพื่อไทยอาจเข็นคนป่วย ‘นายชัยเกษม นิติสิริ’ หรือทิ้งไพ่ตายให้ลูกสาวนายห้าง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ก็ได้…

ดูเกมทั้งกระดานแล้ว… พรรคเพื่อไทยไม่ยอมสูญเสียเก้าอี้นายกฯ อย่างแน่นอน ยิ่ง ‘นายใหญ่’ เดินทางกลับบ้านในยามนี้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องคว้าเก้าอี้นายกฯ ให้ได้…

สำหรับกรณีที่นายทักษิณ ซึ่งมีโทษจำคุกจากคดีทุจริตที่ถึงที่สุดแล้วรวม 10 ปี สายข่าวระบุว่า ได้ทำการบ้านในเชิงข้อกฎหมายมาเป็นอย่างดี ทั้งประเด็นระยะเวลาจำคุกที่ทับซ้อนโทษจำคุกจริงน่าจะเหลือน้อย และคงใช้ช่องทางขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะตัวด้วย… ส่วนกรณีที่จะใช้ช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอาจไม่จำเป็น อาจจะแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) เพียง 2 ฉบับ คือ ‘พ.ร.ป.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง’ และ ‘พ.ร.ป.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’ เพื่อให้คดีเปลี่ยนจากไม่มีอายุความเป็น ‘มีอายุความ’ เพื่อที่นายทักษิณจะได้ใช้ระยะเวลาที่หลบหนีคดีลบล้างโทษได้…

ไม่ว่าจะอย่างไร ทั้งหลายทั้งปวง… ‘เล็ก เลียบด่วน’ ขออนุญาตโลกสวยสักวัน ขอภาวนาให้รัฐบาลสลายขั้ว สลายสี เดินหน้าประเทศไทยไปให้ได้ ออกจากหล่ม 2 ทศวรรษแห่งความขัดแย้งให้ได้สักครึ่งหนึ่ง ก็ยังดี… สาธุ!!

‘ตู่-ป้อม’ ดาวคนละดวง ปชป.แหกโค้ง หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี…

บันทึกเอาไว้ว่า วันที่ 22 ส.ค.2566 เหตุการณ์ใหญ่ทางการเมืองสองเหตุการณ์ผ่านพ้นไปด้วยดี  มีความน่าระทึกใจอยู่บ้าง แต่มันก็ผ่านไปแล้ว… ตถตา… มันเป็นเช่นนั้นเอง…

เรื่องแรก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ของประเทศไทย หลังบำเพ็ญเพียรเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ 15 ปีเศษ ได้เดินทางกลับบ้าน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เข้าไปอยู่ในเรือนจำรับโทษ 3 คดีที่ถึงที่สุดแล้วจำนวน 8 ปี อนาคตจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ หรือลดโทษอย่างไรหรือไม่ ค่อยว่ากันอีกที ส่วนจะอยู่กินอย่างไรในคุกนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง มาวันแรกก็ได้ใช้สิทธิ์กลุ่มเปราะบางวัย 74 ปี นอนเตียงเดี่ยวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว แต่ไม่ทันย่ำรุ่งก็ย้ายไปนอนเกาสะดืออยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เรียบร้อยโรงเรียนชินวัตรไปแล้ว

กรณีทักษิณกลับบ้าน… ถ้าไม่คิดอะไรให้มากความ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยยุทธการป่วนไทยอยู่ในต่างแดนก็หายไป… ยิ่งวันนี้พรรคเพื่อไทยที่ตัวเองสร้างมากับมือได้หวนคืนมาเป็นรัฐบาล ก็คงไม่กล้าด่าหรือทำมิดีมิร้ายกับประเทศ… ความสงบเรียบร้อยก็เกิดขึ้น และอาจจะตามมาด้วยการปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติครั้งใหญ่ หากรัฐบาลชุดใหม่คิดใหญ่-ทำเป็น… นิรโทษกรรมคดีการเมืองที่ไม่เกี่ยวคดีทุจริตและอาญาฆ่าคนให้เป็นเรื่องเป็นราว

เรื่องที่สอง การโหวตนายกรัฐมนตรีประเภทม้วนเดียวจบ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับคะแนนสนับสนุนหรือเห็นชอบท่วมท้น 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 งดออกเสียง 81 โดยในส่วนคะแนนที่เห็นชอบนั้น เป็นคะแนนของสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ถึง 152 เสียง ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลที่กำลังรวมตัวกันอยู่มีเสียงสนับสนุน 314 เสียง แต่ปรากฏว่ามีเสียงสนับสนุนจาก สส.สูงถึง 330 เสียง ตรวจสอบพบว่าเป็นเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ 16 เสียง…

กรณีพรรคประชาธิปัตย์นั้นอ่านไม่ยาก… สาระสำคัญก็คือที่ประชุม สส.มีมติให้งดออกเสียง แต่นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ได้ขออนุญาตที่ประชุมว่าจะลงมติ ‘ไม่เห็นชอบ’ ไว้แล้ว แต่กลุ่ม สส.ภายใต้ร่วมธงของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และนายเดชอิศม์ ขาวทอง โหวตเห็นชอบแบบเย้ยฟ้าท้าดินนั้น เจตนาก็ชัดเจนเป็นการตีตั๋วเข้าร่วมรัฐบาล ยอมเป็นยางอะไหล่ไปพลางก่อน… ทำให้สถานภาพพรรคประชาธิปัตย์นาทีนี้ดิ่งเหว… หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี… มันจบแล้วครับนาย!!

สำหรับกรณีที่เสียง สว.โหวต ‘เห็นชอบ’ ท่วมท้นนั้น พบว่า สว.สายบิ๊กตู่ ‘พรึ่บ’ หนุนเศรษฐา ทวีสิน ทำให้ สว.บางส่วนที่ทำการบ้านเพื่อคว่ำเศรษฐา รู้สึกว่าตัวเองโดน ‘เท’ เกิดอาการน้อยอกน้อยใจกันพอประมาณ บางกลุ่มก็ตั้งคำถามในเชิงไม่เข้าใจว่า ‘บิ๊กตู่’ เล่นเกมอะไร… โดยเฉพาะกลุ่ม สว.ที่ทำการบ้านรุกฆาตให้พรรคเพื่อไทยรับปากไม่รื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้น ค่อนข้างผิดหวังกับบิ๊ก สว.สายบิ๊กตู่… ดังกรณี สว.สมชาย แสวงการ โพสต์ในเฟซบุ๊กตัวเองตั้งแต่ผลโหวตยังไม่จบว่า…

“#สงสารประเทศไทย” และต่อมาโพสต์อีกว่า “#เสียของ” เป็นต้น…

ทราบว่าขณะนี้กำลังเคลียร์ใจล้างใจกันยังไม่จบ..!!

ส่วน สว.สายบิ๊กป้อม… ซึ่งมีอยู่ประมาณ 40-50 คนนั้น ปรากฏว่าส่วนใหญ่จะงดออกเสียง แม้แต่ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ‘บิ๊กปุ้ม’ น้องชายแท้ๆ บิ๊กป้อมก็ไม่ไปร่วมประชุม… วิเคราะห์กันว่า สว.สายบิ๊กป้อมพยายามลากเกมให้ไหลไปถึงคิว ‘บิ๊กป้อม’ แต่ สว.สายบิ๊กตู่ไม่เล่นด้วย ก็เลยปิดเกมโหวตให้เศรษฐา ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องหมายเหตุเอาไว้ว่า กลุ่มทุนพลังงานและรถไฟฟ้ามีบทบาทไม่น้อย ที่ทำให้พรรคการเมือง 3-4 พรรคประสานผลประโยชน์กันแบบ ‘มองตาก็รู้ใจ’

สวัสดี

ไม่พลิก!! 'อนุทิน' คุม 'มท.1' ฟาก 'ป๊อด' ผงาด!! อาจมีขบถ ปชป.ซบบ้านป่า ส่วน พท.พร้อมเดินหน้า แต่แอบผวา 'ทักษิณ' ทำความดีละลายหาย

'เลียบการเมือง' สุดสัปดาห์ กับ 'เล็ก เลียบด่วน' สัปดาห์นี้ ขอวิเคราะห์การเมืองกันแบบซุบซิบ...เมาท์มอยดีกว่านะครับ ก่อนจะได้ดูโผ ครม.จริงๆ กันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้...

'เล็ก เลียบด่วน' สรุปอีกครั้งว่า... 'เพื่อไทย' ได้เป็นรัฐบาลรอบนี้เพราะมีลุง...มีลุงจึงมีเรา...152 เสียงของสมาชิกวุฒิสภาหรือ สว.ที่ขานชื่อ "เห็นชอบ" ให้เศรษฐา ทวีสิน นั้น เป็น สว.สายบิ๊กตู่ร่วมๆ 145 คน ดังนั้นจึงชอบแล้วที่ 'เสี่ยนิด เศรษฐา' ไปขอบคุณลุงตู่ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เป็นวัฒนธรรมใหม่ทางการเมือง...

เอาไปเอามา...ดูเหมือนว่าไฮไลต์การจัดโผ ครม. อยู่ที่เก้าอี้กระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม...เมื่อพรรคเพื่อไทยยื่นคำขาดขอคุม 'คมนาคม' พรรคน้องหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ก็โค้งคำนับทุบโต๊ะบอกว่า "ได้ครับ" แต่ขอแลกกับมหาดไทย...นั่นเป็นที่มาของอนุทินรอบนี้จะนั่งรองนายกฯ ควบ มท.1  

ส่วน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อเจาะกระทรวงพลังงานไม่ได้ ก็มาดูเมกะโปรเจกต์ที่กระทรวงหูกวาง...

กระทรวงหูกวาง หรือ คมนาคมรอบนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' ให้จับตามองตำแหน่ง รมช.โควตาพรรคเพื่อไทยให้ดีๆ เขาคือ 'หมอหนุ่ย' นพ.สุรพงษ์ ปิยะโชติ นายก อบจ.กาญจนบุรี สายตรงของเจ้าสัวด้านขนส่งคมนาคม...คนนั้น  

เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 'หมอหนุ่ย' คนเชียงใหม่ แต่เคยเป็น สส.เมืองกาญจน์เมื่อปี 2554 เป็นแม่ทัพบัญชาการการรบ โดยมีเจ้าสัวสนับสนุนยุทธปัจจัยไม่อั้น ทำให้เพื่อไทยกวาด สส.เมืองกาญจน์ได้ 4 เขตจาก 5 เขต...วันนี้เลยได้รับบำเหน็จขึ้นแท่น รมช.แฮปปี้ทั้งเจ้าสัวและหมอหนุ่ยรวมทั้งคนเมืองกาญจน์ฯ...

รายนี้ก็เป็นการตบรางวัล จัดให้ตามที่คุณขอมา...ว่าที่รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา คนใหม่ ตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้ม ออกอาการเคอะเขินระหว่างเดินทางร่วมทริปดูงานด้านการท่องเที่ยวที่ภูเก็ต-พังงากับ ท่านนายกฯ เศรษฐา...ไม่ใช่ใครอื่น 'สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล' ลูกสาวคนโตของ 'กำนันป้อ' วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เสี่ยแป้งมันคนโตแห่งโคราชนั่นเอง...

เลือกตั้งรอบนี้ กำนันป้อ จับมือ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กวาดสส.โคราชเกือบเกลี้ยง...เพื่อไทยเลยจัดให้สองเก้าอี้...ประเสริฐว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม...กำนันป้อส่งคุณหนูสุดาวรรณคุมท่องเที่ยวฯ ยินดีด้วยนะครับ

สื่อมวลชนบางสำนักเขียนถึง 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า...อกหักพักบ้านป่า...ซึ่ง 'เล็ก เลียบด่วน' ก็ขอบอกว่าไม่มีอะไรผิดหรอกที่เขียนน่ะ แต่อย่าซ้ำเติมท่านนักเลย แค่เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 6 จปร.17 หลายคนแหกโผไปยกมือโหวตให้ 'เศรษฐา' ทั้งๆ ที่ตกลงกันว่าจะงดออกเสียงก็ชีช้ำพอแล้ว...โดยเฉพาะรายของ 'บิ๊กกี่' พล.อ.นพดล อินทปัญญา...เพื่อนเลิฟลุงป้อม งานนี้สนับสนุนนายกฯ เพื่อไทยเต็มลำ ทำไงได้ล่ะ...ก็สุดที่เลิฟของ 'บิ๊กกี่' เป็น สส.อยู่ที่พรรคเพื่อไทยนี่นา…

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ จากนี้ไปก็คงอยู่ภายใต้การคอนโทรลของน้องชายบิ๊กป้อม คือ 'บิ๊กป๊อด' พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ว่าที่รองนายกฯ / รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...อนาคตพรรค พปชร.แม้จะดูเทาๆ มัวๆ แต่อาจจะอยู่ยืนยาวกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ...ดีไม่ดีว่ากันว่าหากในอนาคตกลุ่ม 16 แห่งพรรคประชาธิปัตย์ถูกขับหรือขับตัวเอง อาจจะมาซุกกายอยู่บ้านป่ารอยต่อใน พ.ศ.ใหม่ก็เป็นไปได้...ไม่เชื่อลองไปถามเดชอิศม์ ขาวทอง

และสุดท้าย...ท้ายสุด เหนือการควบคุมของ นายกฯ เศรษฐา...แต่จะส่งผลกระทบกับรัฐบาลเศรษฐา...แฟนคลับพรรคเพื่อไทยฝาก 'เล็ก เลียบด่วน' กระซิบกรณี นช.ทักษิณ ชินวัตร ว่า หากพรรคเพื่อไทยและครอบครัวชินวัตรไม่บริหารให้อยู่ในความพอดีของความเป็นนักโทษ...ต่อให้รัฐบาลสร้างผลงานดีแค่ไหนก็จะละลายหายไปกับความเสื่อมศรัทธาที่จะเกิดขึ้น...

ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดีในระดับพอสมควรแล้ว คนไทยให้อภัยและชื่นชมที่ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าจะทำลายโอกาสดีๆ ที่พรรคเพื่อไทยจะได้ฟื้นตัว มีพลังสู้กับพรรคก้าวไกลและปัญหาของชาติ 

ก็ช่วยไม่ได้...เอวัง!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

'เศรษฐา 1' พอใช้ได้ 'ไม่โกง-ไม่รื้อรธน.' อยู่ยาว 3 ปี ติด!! บางกระทรวงแม้ลงตัว แต่ยังแอบขัดใจในดีกรี

มาถึงนาทีนี้ก็ใกล้จะประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1 กันแล้ว...รออีกแป๊บบบ...โปรดเกล้าฯ เมื่อไหร่จะได้วิพากษ์วิจารณ์กันเต็มที่ 

ในชั้นนี้ประสา 'เล็ก เลียบด่วน' ขอแสดงความเห็นส่วนตัวถึงโครงสร้างและรูปลักษณ์ของรัฐบาลเศรษฐาสั้น ๆ 3 ประการ

ประการแรก - เป็นรัฐบาลที่เป็นผลิตผลของรัฐบาลผสมระหว่างฝ่ายที่อ้างว่าเป็นฝ่ายเสรีนิยมกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมซึ่งนำโดยพรรคสองลุง...ผลลัพธ์ที่ออกมาก็อย่างที่เห็น ๆ มันก็คือ เผ่าพันธุ์นักการเมืองทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น โดยมีนายทุนพรรคเข้ามาหยิบชิ้นปลามันอย่างสมน้ำสมเนื้อที่ได้ลงทุน เช่นกรณีกระทรวงคมนาคม, กระทรวงพลังงาน หรือแม้แต่กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น

ประการที่สอง - แม้หลายตำแหน่งจะลงตัว เหมาะสม แต่เหตุเพราะการแบ่งกระทรวงอาจจะไม่ถูกที่ถูกพรรค ทำให้การวางตัวคนบางตำแหน่งอาจจะดูขัด ๆ เขิน ๆ ไม่ ‘พุท เดอะไร้ท์ แมน ออน เดอะ ไร้ท์ จ๊อบ’ ...เช่น ภูมิธรรม เวชยชัย ควรนั่งมหาดไทยหรือรองนายกฯ ควบกระทรวงเชิงสังคม แต่กลับต้องไปนั่งว่าการพาณิชย์ หรือแม้แต่กรณี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ต้องไปนั่งว่าการศึกษาธิการ และกรณีสุทิน คลังแสง ที่หากไม่พลิกก็จะไปคุมกองทัพในตำแหน่งว่าการกลาโหม เป็นต้น

ประการที่สาม - แม้ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ แต่ก็พอจะคาดหมายได้ว่า...เคาะสุดท้าย...คำสั่งสุดท้าย...โผสุดท้ายที่ออกมาจากห้องสูท ชั้น 14 ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง...ซึ่งนายกฯ ที่ชื่อเศรษฐา ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้...ดังกรณีตำแหน่งรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการปูนบำเหน็จให้คนชื่อพิชิต ชื่นบาน 'ทนายถุงขนม'

กรณีพิชิต ชื่นบาน นี่ต้องขอเสริมสักนิดว่า เมื่อตรวจสอบในเชิงตัวบทกฎหมายแล้ว ไม่สามารถไปห้ามเขาได้ครับ ที่พิชิตต้องไปนอนคุก 6 เดือนเมื่อปี 2551 กรณีพยายามติดสินบนบนศาลนั้นก็เป็นคำสั่งศาล ยังไม่ใช่ คำพิพากษา' ของศาลจากคดีอาญาแต่ประการใด...แต่ที่ 'เล็ก เลียบด่วน' ติดใจและสังคมก็น่าจะคาใจกันทั้งประเทศก็คือ ประเด็นจริยธรรม ที่เขาเป็นสินค้ามีตำหนิชัดเจน...

มาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญ สองวงเล็บ บัญญัติชัดเจนว่า...รัฐมนตรีต้อง (4) มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ (5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ส่วนกรณีของ 'บิ๊กทิน' สุทิน คลังแสง นั้นเป็นคนมีความรู้รอบตัว ถ้าให้เหมาะสมกับสเปกของเจ้าตัวน่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ หรือวัฒนธรรม หรือเกษตรและสหกรณ์ แต่ด้วยเหตุที่เก้าอี้รัฐมนตรีจำกัดและไม่สามารถนายทหารในสเปกเพื่อไทยได้ รวมทั้งลึกๆ อยากสร้างมิติใหม่ทางการเมืองให้พลเรือนที่ไม่ใช่นายกฯ คุมกลาโหม จึงส่งพ่อใหญ่หมอลำอย่างสุทินไปว่าการ...ซะเลย

ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงนายทหาร เตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับทักษิณ ชินวัตร ปรากฏชื่อ พล.อ.พิศาล  วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 สส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 27 ของพรรคเพื่อไทย แต่ พล.อ.พิศาล มีบาดแผลใหญ่กรณีสลายม็อบตากใบ 85 ศพ เมื่อปี 2547 เลยไม่ผ่าน...ต่อมาจึงมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ 'บิ๊กเล็ก' อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายทหารสายบุ๋น สายตรงลุงตู่...แต่สุดท้ายก็เงียบไป...

ฉะนั้นถึงนาทีนี้ ชื่อ 'บิ๊กทิน' จึงยังเต็งจ๋า...แต่นาทีสุดท้ายเมื่อต้องเผชิญแรงต้านจากกองทัพในระดับพอสมควร ก็ต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร...

ส่งท้ายวันนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' สวมวิญญาณโหร นั่งเทียนพยากรณ์ว่ารัฐบาลเศรษฐาจะไปได้ยาวกว่าที่หลายคนกำลังแช่ง เพราะทุกพรรคจะถ้อยทีถ้อยอาศัยประสานผลประโยชน์กัน

วันนี้จึงขอบอกเพียงว่า...ครึ่งเทอมหรือสองปีจะผ่านไปได้ชิวๆ และถ้าไม่โกงและไม่ติดหล่มแก้รัฐธรรมนูญตามเกมพรรคก้าวไกลมากเกินไป..เอาไปเลยสามปี..!!

วันของ ‘ทักษิณ-เศรษฐา’ ส่วน ‘ไผ่ ลิกค์’ วืด!! ฟาก ‘พท.’ ดึง ‘บิ๊กแป๊ะ’ ช่วย ‘บิ๊กทิน’ งานไหลลื่น

รายชื่อคณะรัฐมนตรี หรือ ‘ครม.เศรษฐา 1’ โปรดเกล้าฯ แล้ว เดี๋ยวมาว่ากัน… แต่ก่อนอื่น ‘เล็ก เลียบด่วน’ ต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตรด้วยคน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษชายเด็ดขาด ‘นายทักษิณ ชินวัตร’ เหลือโทษจำคุก 1 ปี จากทั้งหมด 8 ปี… 

ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ก็ไม่ต้องอธิบายซ้ำตรงนี้… 

แต่จากนี้ไปก็พอจะคาดหมายได้ว่าโทษจำคุก 1 ปีที่เหลือ คุณทักษิณก็คงจะใช้ช่องทางตามกฎกติการาชทัณฑ์พบกับอิสรภาพได้ในไม่นาน เช่น การพักโทษหรือถ้ามีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในวันสำคัญก็สามารถพ้นโทษได้เลย เพราะโทษเหลือไม่ถึงปี หรือที่เรียกว่า ‘ต่ำปี’... ก็ว่ากันไป

แต่ที่อยากบอกทักษิณและครอบครัวชินวัตรตรงไปตรงมาด้วยปรารถนาดีตรงนี้ก็คือ หากไม่นอนอยู่ห้องไอซียู รพ.ตำรวจ พรุ่งนี้มะรืนนี้กรุณากลับไปรับโทษนอนรักษาตัวที่แดน 7 รพ.ราชทัณฑ์ได้แล้ว… จะเป็นภาพที่งดงามดูสอดประสานกับพระมหากรุณาธิคุณ… ตระกูลชินวัตรจะได้ไม่เป็นที่ถูกเกลียดชังเพิ่มขึ้นไปกว่าเดิม… 

กลับมาที่ โฉมหน้า ‘ครม.เศรษฐา 1’... เมื่อพิชิต ชื่นบาน ‘ทนายถุงขนม’ ประกาศถอนตัวออกไปเพราะแรงต้านจากสังคม พร้อมกับตัดชื่อ ‘ไผ่ ลิกค์’ หรือ ‘ไผ่ วันพอยท์’ ออกจาก ‘รมช.พาณิชย์’ โดยไม่มีใครรู้ล่วงหน้าแต่สันนิษฐานได้ว่าคงเนื่องจากเหตุปมคดีเก่าๆ ก็ทำให้ ‘ครม.เศรษฐา’ ดูดีขึ้นนิดหน่อย… แม้ว่าจะยังมีเสนาบดีอีก 2-3 คนที่ปูมประวัติไม่ค่อยโสภาสถาพรอยู่บ้าง แต่ก็พอจะหยวนๆ ให้โอกาสได้พิสูจน์คุณธรรมและน้ำยากันอีกสักรอบ… 

สำหรับคนที่จะมาแทนโควตา พิชิต ชื่นบาน จะเป็น ‘ชูศักดิ์ ศิรินิล’ หรือไม่นั้น ก็รอดูกันต่อไป… ขณะที่กรณีไผ่ ลิกค์ เป็นสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งหากสังเกตให้ดีเมื่อ 4-5 วันก่อน มีการปล่อยชื่อของ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หรือ ‘อาจารย์แหม่ม’ ออกมาให้สื่อพูดถึง… อย่างไรก็ตาม ถ้าอาจารย์แหม่มอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรี ก็ต้องได้รับความยินยอมจากบ้านใหญ่กำแพงเพชร ภายใต้การนำของ วราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค… และ ไผ่ ลิกค์ ก็อยู่ในกลุ่มนี้

งานนี้… คงหนีไม่พ้น ‘ลุงป้อม’ หัวหน้าพรรคที่จะต้องทุบโต๊ะแบบเซ็งๆ อีกครั้ง… 

ในจำนวนรัฐมนตรี 33 คนของ ‘ครม.เศรษฐา 1’ สุทิน คลังแสง นับเป็นบุคคลที่น่าสนใจมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะนี่คือพลเรือนที่ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ถูกวางตัวเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม… ซึ่งจริงๆ แล้วแรกเริ่มเดิมทีกระทรวงนี้ทาง ‘บิ๊กป้อม’ จองให้พรรคพลังประชารัฐ ตอนแรกนัยว่าถ้าตัวเองได้เป็นนายกฯก็จะควบเอง ต่อมามีข่าวลือว่าจะให้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (บิ๊กน้อย) ต่อมามีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป๊อด) อดีตผบ.ตร.น้องชายบิ๊กป้อม… 

ก่อนที่ในช่วงท้ายๆ จะมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ (บิ๊กเล็ก) อดีตเลขาธิการ สมช.สายตรงบิ๊กตู่ แต่ก็มีแรงต้านเล็กๆ จากคนเสื้อแดงเพื่อไทย ประกอบกับพรรคเพื่อไทยไม่อยากสูญเสียโควตาให้บุคคลภายนอก… หวยจึงมาออกที่ สส.นักการศึกษาอย่าง ‘สุทิน คลังแสง’

ผู้สันทัดกรณีบางรายวิเคราะห์ว่า… การวางตัวสุทินคุมกลาโหม… จะใช่หรือไม่ว่า… เป็นการโชว์พาวของคนแดนไกลที่เป็นคนแดนใกล้แล้วในวันนี้… ประมาณว่าเขาจะจัดวางใครไว้ตรงไหนก็ทำได้!?

ก็คงต้องตามไปดูว่า สุทิน คลังแสง ผู้มีวาทศิลป์ มีอีคิวสูงจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่ยังไงๆ ก็เชื่อว่าอย่างน้อยคงดีกว่า อดีตนายกฯ หญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ควบกลาโหมช่วงปี 2556-2557 ซึ่งโชคดีที่ช่วงนั้นนายกฯ ปูมี ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เป็นปลัดกลาโหม คอยช่วยดูงานอีกแรงหนึ่ง… 

โดยวันนี้ นอกเหนือจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จะถูกเทียบเชิญไปเป็นที่ปรึกษาแล้ว แว่วว่าพรรคเพื่อไทยจะส่ง ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.อ.นิพัทธ์ไปเป็นแม่บ้าน นั่งตำแหน่งเลขานุการ รมว.กลาโหม ให้เจ้ากระทรวงทำงานได้อย่างราบรื่น… 

ถ้าจริงก็น่าจะเป็นโชคดีของ… บิ๊กทิน!?

โยก ‘รอย’ ไป สมช. ลดแรงเสียดทาน ‘บิ๊กต่อ’ ขึ้นแท่น!! เชื่อ!! เต็งจ๋าไม่พลิก แม้มีมือดีหาเรื่องดิสเครดิตกันระวิง

ถ้าจำกันได้ เมื่อเดือน ก.ย.เมื่อปี 2554 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ขณะนั้น ก็เคยถูกคำสั่งของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ไปนั่งตำแหน่งใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาล คือ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยโยกนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.ไปนั่งตบยุ่งในตำแหน่งที่ปรึกษา

ทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อเปิดทางให้ พี่สาวของคุณหญิงอ้อ ‘พจมาน ดามาพงศ์’ อย่าง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผงาดขึ้นตำแหน่ง ผบ.ตร.เพราะเหลือเวลาปีเดียว

ไม่น่าเชื่อ… กรณีย้ายนายถวิลโดยมิชอบดังกล่าว ทำให้ เดือน พ.ค. 2557 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ พ้นจากตำแหน่งนายกฯ และถูกดำเนินคดี… หนีหมายศาลอยู่จนทุกวันนี้ นอกเหนือจากคดีจำนำข้าว

ร่ายมาซะยาว… เพียงเพื่อจะโยงเข้าเรื่องว่า โยกย้ายตำรวจปีนี้ ‘บิ๊กตู่’ อดีตประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.คนเก่า (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ไม่กล้าทุบโต๊ะเหมือนย้ายทหาร ส่งมอบให้นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธาน ก.ตร.คนใหม่ บริหารจัดการเอง… ว่า 4 แคนดิเดต ผบ.ตร.จะให้ที่ประชุมเลือกใคร… 

มีรายงานข่าวน่าเชื่อถือว่า… รัฐบาลเสี่ยนิดจะโยก พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง ที่อาวุโสสูงสุด แต่จะเกษียณปี 2567 ไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการ สมช.แทน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ที่จะเกษียณปีนี้… ทำให้แคนดิเดต ผบ.ตร.เหลือ 3 คน มีอาวุโสตามลำดับคือ… 

- พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ‘บิ๊กต่าย’ เกษียณปี 2569
- พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ‘บิ๊กโจ๊ก’ เกษียณปี 2574 
- พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ‘บื๊กต่อ’ เกษียณปี 2567

ชื่อ ‘บิ๊กต่อ’ นั้นเป็นเต็งหนึ่งมาโดยตลอด… ถ้า พล.ต.อ.รอย นั่งอยู่ที่เดิมแปลว่าต้องข้ามอาวุโสถึงสามคน แต่พอท่านรองรอยลุกไป ก็จะข้ามแค่สองคน อยู่ปีเดียวแล้วลุกจากไป… ปีหน้าเปิดทางให้ บิ๊กต่าย กับ บิ๊กโจ๊ก และรอง ผบ.ตร.คนใหม่อีกคนไปลุ้นกัน… 

เรื่องอาวุโสก็เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่เป็นปัจจัยชี้ขาด ยังมีปัจจัยความรู้ความสามารถความเหมาะสมด้วย… เพียงแต่ระบบราชการไทยโดยเฉพาะแวดวงสีกากี ไม่มีใครไว้ใจใครได้ ถ้ามีโอกาสก็จะต้องคว้าเอาไว้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน… เพราะปล่อยไปวันหน้าการเมืองเปลี่ยน… ไม่มีอะไรที่แน่นอน… 

แม้แต่กรณีบิ๊กโจ๊กที่จะเกษียณอีก 8-9 ปีข้างหน้า ดูแล้วก็คงไม่พลาด เก้าอี้ ผบ.ตร.ไม่มีไปไหนแน่… 

แต่เอาเข้าจริง… ไม่มีอะไรแน่นอน

ดังนั้น สรุปรวมความนาทีนี้… เต็งจ๋าไม่น่าจะแปรเป็นอื่นก็คือ ‘บิ๊กต่อ’ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายปราบปราม ที่เพิ่งไปดูการวิสามัญ ‘หน่อง ท่าผา’ มือปืนที่ฆ่าสารวัตรทางหลวงอย่างอุกอาจเมื่อไม่กี่วันก่อน…

แต่ล่าสุดสายข่าวตะแล็บแก๊บรายงาน ‘เล็ก เลียบด่วน’ มาว่า ขณะที่เดินหน้าลุยงานโน่น นี่ นั่น ปรากฏว่ามีมือดีพยายามปฏิบัติการเผยแพร่เอกสารโจมตี ‘บิ๊กต่อ’ ข้อหาต่างๆ… โยงใยเรื่องแรงงานต่างด้าว เรื่องชายแดน...เป็นเรื่องเสียๆ หายๆ ในทางลบ...

พร้อมๆ กับจุดกระแสว่า… อาจจะมีการพลิกโผ ผบ.ตร.

เรื่องของเรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับท่านสารวัตร...แต่ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ไม่เชื่อหรอกว่าจะพลิก...

คนที่มาพลิกนั่นแหละ… จะพลิกแทน!!

สวัสดี

‘เศรษฐา’ พา ครม. ผ่านศึกแถลงนโยบายลื่นไหล คลอดนโยบาย ‘ลดราคาพลังงาน-พักหนี้’ ตามนัด

และแล้วรัฐบาลสูงยาวเข่าดี ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ก็ได้ประเดิม ครม.นัดแรก วันที่ 13 ก.ย. เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว หลังจากที่ผ่านศึกแถลงนโยบาย 2 วันมาได้

ดังที่ ‘เล็ก เลียบด่วน’ เคยเกริ่น ๆ มาบ้างแล้วว่า พรรคเพื่อไทยนั้นเป็นมวยเรื้อเวทีมา 9 ปีเต็ม ดังนั้นการกลับมาตึกไทยคู่ฟ้าอีกรอบในวันนี้จึงออกอาการเก้ ๆ กัง ๆ ไปบ้าง บวกกับนโยบายที่ต้องลดโทนมาผสมผสานกันหลายพรรค กลายเป็นนโยบายไม่ตรงปก สองวันที่แถลงแทนที่จะเป็นฝ่ายขยี้ประเด็นนโยบายให้ได้ใจประชาชน สุดท้ายกลายเป็นเวทีที่เด็ก ๆ พรรคก้าวไกลเอาไปแจ้งเกิดแจ้งตายบนเวทีสภากันสลอน...

ดีที่เศรษฐาเป็นนายกฯ ชี้แจงพอจะรู้เรื่อง เป็นนายกฯ ที่อ่อนน้อมและไหว้สวย ช่วยทำให้ทุกอย่างมันพอลื่นไหลไปได้...

ไม่เท่านั้น ครม.นัดแรกมติต่าง ๆ ก็มาตามนัด ตั้งแต่เรื่องพักหนี้เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก 3 ปี ลดค่าไฟ-น้ำมัน พลังงาน และตั้งคณะกรรมการศึกษาประชามติตามรัฐธรรมนูญ โดยมอบให้ ‘บิ๊กอ้วน’ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ก็พอจะเป็นโมเมนต์ที่ดี ๆ อยู่พอประมาณ

ในส่วนของทีมงาน รัฐบาลเศรษฐาทยอยเปิดตัว โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม เลขานุการรัฐมนตรี เป็นไปตามโผที่ ‘เล็ก เลียบด่วน’ เคยขานชื่อไว้คือ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สายตรงลุงตู่ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ ‘บิ๊กเล็ก’ เตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 20 รุ่นเดียวกับบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ส่วนที่ปรึกษารัฐมนตรีคือ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ‘บิ๊กอั๋น’ เตรียมทหารรุ่น 19 ก็เป็นอดีตเลขาธิการสมช. เหมือนกัน

งานนี้ต้องบอกว่า ท่านสุทิน คลังแสง สมุหกลาโหมโดนขนาบข้างด้วยอดีตเลขาธิการสมช. รับประกันซ่อมฟรีว่า งานการด้านความมั่นคงจะกล้าแกร่งอย่างแน่นอน ที่ลือ ๆ กันว่าจะให้นั่งขดังตาทัพแค่ 8-9 เดือนหรือไม่เกินปี ‘เล็ก เลียบด่วน’ ดูท่าว่าไม่น่าจะจริง น่าจะยาวโลดกว่านั้นแน่นอน

อ้อ ต้องขอกระซิบบอกท่าน ‘บิ๊กทิน’ ว่าดีแล้ว เป็นข่าวดีที่ ฯพณฯ ยืนยันว่า..สองพ่อลูกชินวัตรคือคุณพายัพ และนายพอพงษ์ ชินวัตร ไม่มีชื่ออยู่ในทีมที่ปรึกษา เพราะเมื่อ 3-4 วันก่อน มีชื่อหราอยู่ในคำสั่งไม่เป็นทางการว่า คุณพ่อจะเป็นประธานที่ปรึกษา คุณลูกจะเป็นเลขานุการประจำตัว ใครต่อใครออกมาต้านกันเจี๊ยวจ๊าว!!

ส่วนที่ท่านถือฤกษ์ 13.13.13 เข้าทำงานที่กระทรวง คือวันที่ 13 เวลา 13 นาฬิกา 13 นาที และเตรียมรายชื่อทีมที่ปรึกษาเบื้องต้นไว้ 13 คนนั้นก็ว่ากันไป คนไทยไม่ถือฝรั่งไม่เกี่ยว ขออย่างเดียว เราต้องเอี่ยวทั้งสหรัฐฯ และจีนให้เป็น และพัฒนากองทัพให้ทันสมัย ไม่ต้องไปติดกับดักคำว่าปฏิรูปของน้อง ๆ ก้าวไกลบางคนที่งัดตำราขึ้นมาท่องแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้…

อ้อ ปิดท้ายวันนี้ ถึงแม้ ‘เล็ก เลียบด่วน’ จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดที่ท่านชูรักแร้เชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูว่าโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ดีเลิศประเสริฐศรีก็ตาม แต่บรรทัดนี้ขอแสดงความยินดีกับ สัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ หรือ ‘หมอชัย’ ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 91 ของพรรคเพื่อไทยมา ณ ที่นี้ด้วย

‘หมอชัย’ ใช่ใครอื่น คือนักธุรกิจขายอาหารสัตว์ เป็นนายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย    ทั่วไปจะรู้จักในนาม ‘หมอชัย ไก่ชน’ แห่งสมาคมส่งเสริมไก่ชนไทย ที่มีทั้งแอ๊ด คาราบาว และเจ้าสัวซีพี  สิงสถิตอยู่นั่นแล…สวัสดี!!

'อุ๊งอิ๊ง' ยังสู้!! จับซอฟต์พาวเวอร์ สร้างบารมี ต่อคิวนายกฯ ก้าวไกลว้าวุ่น 'ขุนพลฝ่ายค้าน' แต่มีคนหวงแท่น ประธานสภา 1

เลียบการเมือง...ช่วงสุดสัปดาห์นี้...ไม่มีอะไรดีไปกว่าขอสรุปหมายเหตุประเทศไทยว่าด้วยการเมืองแบบเนื้อๆ สัก 3-4 เรื่อง...ตามสไตล์ของ 'เล็ก เลียบด่วน'

เรื่องแรก - การแบ่งงานให้รองนายกฯ ทั้ง 6 คน ของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ต้องบอกว่า 'รองอ้วน' ภูมิธรรม เวชยชัย นอกจากเป็น สร.2 รองจาก สร.1 เศรษฐาแล้ว งานกำกับดูแลก็ล้นหน้าตัก นอกจากคุมกระทรวงพาณิชย์ที่ตัวเองนั่งว่าการแล้ว ยังคุมกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ที่ต้องขีดเส้นใต้ 5 เส้น คือ ข้ามฟากไปคุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของพรรคพลังประชารัฐ ด้วย...

วิเคราะห์เจาะลึกสั้นๆ งานนี้...เป็นที่ยินยอมพร้อมใจของ เจ้ากระทรวงฯ คือ ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า ที่รู้อยู่แก่ใจว่า...ได้เก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ มานั้น เพราะใคร...จากนี้ไปชวนให้จับตามองว่าสมัยหน้าคุณผู้กองน่าจะถึงเวลากลับบ้านเพื่อไทย ช่วยเป็นขุนพลคนสำคัญดูภาคเหนือ และอีสานบางส่วน...อ้าว!! ตามไปดู

เรื่องที่สอง - คำสั่งที่น่าสนใจที่สุดคำสั่งหนึ่งคือ คำสั่งที่ 230/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการ 29 คน มีนายกฯ เป็นประธาน 'อุ๊งอิ๊ง' แพทอง ธารชินวัตร เป็นรองประธาน 'หมอเลี้ยบ' สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี เป็นกรรมการและเลขานุการ...

อืมม...กรณีนี้วิเคราะห์เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากว่า...หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเธอกัดไม่ปล่อย ตอนเปิดตัวเข้าร่วมเวทีเลือกตั้งเพื่อไทยชูธงนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์...พอตั้งรัฐบาลนี้ก็กระโดดมาจับงานนี้หวังให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเพื่อไทย...

ที่สำคัญที่สุด...นี่คือใบเสร็จยืนยันว่า 'อุ๊งอิ๊ง' จะเดินต่อไปบนเส้นทางการเมือง ด้วยความอดทน พิสูจน์ตัวตน โชว์ผลงาน...เป้าหมายคือนายกฯ คนต่อไปต่อจากเศรษฐา...

เรื่องที่สาม - เล็ก เลียบด่วน เขียนถึงบ่อยกรณี...บรรดาอดีตบิ๊กทหารที่จะมาช่วยหัวหน้าคณะรำวงย้อนยุค...สุทิน คลังแสง ที่ย่างสามขุมไปคุมกระทรวงกลาโหม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามโผ...ดังจะสรุปตำแหน่งทางการเมืองที่ ครม. ต้องประทับตราแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ 'บิ๊กทิน' ดังนี้

- ที่ปรึกษา พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 19 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
- เลขานุการรัฐมนตรี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ ตท.20 อดีตเลขาธิการสมช.
- ผู้ช่วยรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ ตท.20 อดีตรองผบ.ทอ.
- หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี พล.อ.มล.สุปรีดี ประวิตร หรือ 'หม่อมเป๊ป' อดีตอาจารย์ รร.นายร้อยจปร. และศึกษาอบรมบางช่วงกับตท.20

ใครจะตีความว่า...ที่จะรายล้อมช่วยงานท่าน 'บิ๊กทิน' คือ ตท.20 และแก่นแกนของรุ่นนี้เป็นสายตรงของ 'ลุงตู่' ก็ไม่ผิด...ก็รู้อยู่แล้วนี่นา...ว่า รัฐบาลเศรษฐาเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้ ก็เพราะ สว.สายลุงตู่...ไม่ต้อง งง…

เรื่องที่สี่ - แถมท้าย เล็ก เลียบด่วน ทำโพลส่วนตัวมาแล้วว่าโอกาสที่รัฐบาลเศรษฐาจะตีตั๋วยาวอย่างน้อยครึ่งเทอมหรือสองปีนั้น ชิลๆ...บีบบังคับให้พรรคก้าวไกลต้องปรับกระบวนท่า ยอมรับตำแหน่ง 'ผู้นำฝ่ายค้าน' พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงต้องช่วยปลดล็อกลาออกจากหัวหน้าพรรค...รอก็แต่กรณี 'หมออ๋อง หมูกระทะ' ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ยังอิดออดหวงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไม่ยอมลาออกปลดล็อกข้อกฎหมาย แต่อยากให้พรรคขับออกไปอยู่กับพรรคเป็นธรรม กอดตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เอาไว้...

ซึ่งถ้าก้าวไกลใช้แม่ไม้ ฉลาดเเกมโกงอย่างที่ว่าจริง…ต้องฟันธงว่าหมดหล่อ จะเสียหายหลายล้าน...อย่าหาทำ...ขอบอก!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top