Thursday, 2 May 2024
รวมไทยสร้างชาติ

‘เขตรัฐ’ เซ็ง!! ถูกมือมืดทำลายป้ายหาเสียง วอน ทุกพรรคใช้วิธีหาเสียงอย่างสร้างสรรค์

(24 มี.ค. 66) นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตวัฒนา-คลองเตย พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่า ขณะนี้ป้ายหาเสียงที่ได้นำไปติดตั้งไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อแนะนำตัวก่อนการเลือกตั้ง ถูกทำลายจนได้รับความเสียหายหลายป้าย จึงลงไปตรวจสอบพบว่า ป้ายหาเสียงถูกขีดเขียนข้อความ บางจุดถูกรื้อทำลายจนไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้ ตนจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ และพยายามที่จะขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่กลับได้รับแจ้งว่า กล้องเสีย จึงไม่สามารถที่จะไปย้อนดูภาพได้ ตนและทีมงานจึงได้พยายามติดตามหาหลักฐานด้วยตัวเอง จนกระทั่งได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อนำมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ดำเนินการหาผู้กระทำผิด

จับตา!! แคนดิเดตนายกฯ รทสช. ‘พล.อ.ประยุทธ์’ หรือ ‘พีระพันธุ์’

‘รทสช.’ จัดสัมมนา ชวนผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ ทำความเข้าใจกติกา กกต. ขอระวังถูกกลั่นแกล้ง สั่งจับตาฝ่ายตรงข้ามทำผิดด้วย ‘ไม่สน’ คำปรามาสตั้งพรรค

(25 มี.ค. 66) ที่อาคารเดอะพอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมแพล็กซ์ อิมแพค เมืองทองธานี ในการสัมมนาผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวเปิดสัมนา ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ได้จัดกิจกรรมร่วมกับสมาชิกพรรคที่พร้อมจะลงเลือกตั้ง ซึ่งจะนำชัยชนะมาให้คนไทย ยืนยันว่า ที่ทำพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมาตั้งใจให้เป็นพรรคของคนธรรมดา ไม่ใช่เป็นพรรคของคนยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ช่วยกันทำงานแบบเพื่อนพี่น้อง กฎหมายบอกให้มีตำแหน่งก็มีไป แต่ในการทำงานของพวกเราไม่ได้แบ่งว่าใครเป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้า ทุกคนทำงานเป็นเบ้ของพรรคทั้งหมด เราตั้งใจที่จะให้มีพรรคการเมืองแบบใหม่เป็นพรรคของประชาชนที่สามารถลดความหลื่อมล้ำในสังคมและความเป็นอยู่ต่าง ๆ รวมทั้งมีความรักความสามัคคี ถ้าไม่เริ่มต้นจากพรรคของพวกเราก็จะไปทำให้ประเทศเป็นแบบนี้ไม่ได้ 

“ในพรรคครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ทุกคนเท่ากันช่วยกันทำงาน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานและนำไปสู่ความสำเร็จ เพื่อนำมาช่วยเหลือประเทศไทยให้มีความสุขในการอยู่กับแผ่นดินนี้ ช่วยกันสร้างอนาคตให้กับลูกหลานต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เลขาธิการพรรคกล่าวว่าตนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและอยู่เบื้องหน้าอีกหลายเรื่อง แต่ความสำเร็จที่ตนพยายามผลักดันให้พรรค เติบโตขึ้นมาไม่มีวันจะเป็นไปได้เลยถ้าขาดบุคคลสำคัญอย่าง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ อย่างไรตนก็ต้องขอขอบคุณ พรรครวมไทยสร้างชาติเริ่มต้นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ที่ไม่ใช่เป็นผู้จดทะเบียนตั้งพรรคแต่มีมอตโตขึ้นมาระหว่างที่ประเทศกำลังเผชิญโควิด 19 โดยบอกว่าคนไทยต้องช่วยกันทำงานให้ชาติบ้านเมือง คนไทยต้องร่วมมือกัน รวมไทยสร้างชาติ พอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกปิ๊ง

“ผมเคยคิดว่าจะพักแล้ว แต่พอเห็น พล.อ.ประยุทธ์ทำงานเลยเกิดความคิดว่าแล้วเราจะทิ้งบ้านเมืองไปได้อย่างไร และชอบคำที่ พล.อ.ประยุทธ์พูด คิดว่าเป็นคำทางการเมืองที่ถูกต้อง รวมไทยสร้างชาติ เพราะไม่ว่าจะประเทศไทยเราหยุดคิดและเดินไม่ได้ เราหยุดการพัฒนาประเทศไม่ได้เราจึงต้องร่วมกันสร้าง คนไทยที่อยู่บนแผ่นดินนี้ไม่ร่วมใจ ไม่ร่วมกันสร้างแล้วเราจะเดินกันไปได้อย่างไร แต่นึกได้ไม่นานนายเสกสกล ก็แอบไปจดทะเบียนพรรค ซึ่งผมรู้จักกับคุณแรมโบ้มานาน ตั้งแต่เป็น ส.ส.สมัยแรก ซึ่งท่านบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะไปทำพรรคการเมือง แต่ผมชอบคำว่ารวมไทยสร้างชาติ และเชื่อว่าจะมีคนเอาไปจดทะเบียนพรรคจึงชิงจดไว้ก่อน เวลาผ่านไปจนถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ ที่จะเดินหน้าทางการเมืองที่ฝันไว้ว่าจะมีพรรคที่ไม่ได้คิดแต่เรื่องการเมืองแต่คิดเพื่อประชาชน และสามารถเป็นที่พึ่งได้ จึงได้หารือกับ นายเอกนัฏ จึงลองทำดู ดีกว่าพูดแล้วไม่ทำ เอาแต่พูด จึงตัดสินใจเดินหน้าตั้งแต่มีกันอยู่แค่ 2 คน จนมีมากขึ้น เมื่อเป็นรูปธรรมจึงกลับไปหานายเสกสกลและขอเอาพรรครวมไทยสร้างชาติไปทำได้หรือไม่ ท่านก็บอกว่าถ้าพี่จะทำเอาไปเลยยกให้ ต้องขอบคุณและนี่คือจุดเริ่มต้นของพรรค” นายพีระพันธุ์ กล่าว

‘เอกนัฏ’ ลุยบึงกุ่ม ช่วยผู้สมัครหาเสียง-รับฟังปัญหา ปชช. เผย ‘รทสช.’ กระแสแรง ชาวบ้านพร้อมหนุนลุงตู่แบบใจต่อใจ

(26 มี.ค. 66) ที่สวนเสรีไทยเขตบึงกุ่ม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และนายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้บริหารพรรคลงพื้นที่ช่วย น.ส.กาญจนา ภวัครานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบึงกุ่ม คันนายาว หาเสียงพบปะประชาชน โดยเดินทักทายแนะนำตัวผู้สมัครกับประชาชนที่มาเดินออกกำลังกายภายในสวนสาธารณะเสรีไทย ก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงไปตามเส้นทางหลัก ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่มายืนรอต้อนรับ บางส่วนก็โบกมือให้กำลังใจ และไปเดินหาเสียงที่ตลาดเช้าหมู่บ้านสหกรณ์ รับฟังปัญหาข้อเสนอแนะจากประชาชน เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขหากได้เป็นรัฐบาล ซึ่งในเขตนี้ประชาชนให้การต้อนรับดีมาก หนุนลุงตู่แบบใจต่อใจ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า งานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ มื่อวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความพร้อมเพรียงอย่างเต็ม 100% ของว่าที่ผู้สมัครทุกคนตั้งแต่ตนทำงานด้านการเมืองมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ทุกคนที่มีจิตอาสาจะมาทำงานเพื่อส่วนรวมไม่ว่าจะมาจากที่ไหน ก็ตั้งใจที่จะมารวมกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งทางพรรคเองก็ได้มีการประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โดยเป็นการลงมติเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารพรรคในคืนก่อนมีการจัดเวที โดย พลเอกประยุทธ์ได้กล่าวบนเวทีว่า รู้สึกอบอุ่นเพราะมีผู้ที่อยู่ร่วมบนเวทีที่จะต่อสู้ไปด้วยกันอีก 400 คนรวมทั้งสมาชิกอื่น ๆ อีกทั่วประเทศทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ที่จะขับเคลื่อนภารกิจไปด้วยกัน

ฉงน!! ไร้ชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ลงปาร์ตี้ลิสต์ รวมไทยสร้างชาติ ‘ส.ส.เขต’ เริ่มเขว ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ+’ อาจล่ม

อย่างที่เราๆ รู้กันตามปฏิทินของ กกต.ว่า วันที่ 3 - 7 เม.ย.66 เป็นวันรับสมัคร ส.ส.เขต ส่วน วันที่ 4 - 7 เม.ย.66 เป็นรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) เหตุที่ต้องกำหนดรับสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หลังหนึ่งวันก็เพราะกฎหมายเขียนไว้ พรรคไหนจะส่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะต้องส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตก่อน (อย่างน้อยก็หนึ่งเขต)

ตอนนี้ระหว่างทำไพรมารี่โหวต..โผรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรคก็ว่อนไปทั่วหน้าสื่อทุกสำนัก

พลังประชารัฐ เรียงลำดับ 1-100 ชัดเจน นำโดยลำดับ 1 ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดทนายกฯหนึ่งเดียวของพรรค โดยรอบนี้ไม่มีชื่อ ‘อ.แหม่ม’ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ที่ประกาศสละสิทธิ์หลังจากที่ทราบว่าชื่อตนเองหลุดไปอยู่อันดับ 24 (ด้วยเหตุยุทธการทีฮูทีอิท)

พรรคเพื่อไทย เรียงตามตัวอักษร ตั้ง ก.เกรียง กัลป์ตินันท์ บ้านใหญ่อุบลราชธานี จนถึง อ.อนงค์ ล่อใจ ซึ่งตอนยื่นสมัครพรรคจะต้องจัดอันดับตัวจริงเสียงจริงใหม่…

น่าสังเกตว่าไม่มีชื่อ 2 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคคือแพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน หรือแม้แต่ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ลือกันไม่เสร็จว่าน่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3

พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีชื่อปล่อยออกมา แต่ก็พอจะคาดหมายกันได้ว่ารอบนี้ ‘จุรินทร์-เฉลิมชัย-นิพนธ์’ ชี้เป็นชี้ตาย และไฮไลต์สำคัญก็คือรอบนี้ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ขอบาย…นัยว่าเพื่อความสบายใจของสามผู้ยิ่งใหญ่และความเป็นเอกภาพของพรรค

พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.66 ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เคยหลุดปากออกมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ‘บิ๊กตู่’ จะลงสมัครปาร์ตี้ลิสต์ด้วย ทำเอาหุ้น รทสช. พุ่งกระฉูด แต่ถึงนาทีนี้ รทสช. เปิดไต๋แค่แคนดิเดตนายกฯ 2 คน คือ ‘บิ๊กตู่’ กับ ‘บิ๊กตุ๋ย’ (พีระพันธุ์) ไม่มีการบอกว่าลุงตู่จะลงสมัครหรือไม่...?

‘สมหวัง’ อดีต นปช. จ่อเดินสายหาเสียงภาคอีสาน หวังโน้มน้าวคนเสื้อแดง หนุน ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯ อีกสมัย

(30 มี.ค. 66) นายสมหวัง อัสราษี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)และอดีตแกนนำ นปช. กล่าวว่า ตนมีกำหนดการลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยกับ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ของพรรค รทสช. ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยพรรคโน้มน้าวใจให้คนเสื้อแดงที่เคยอยู่ร่วมกันมา ให้หันมาสนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย รวมถึงจะไปชี้แจงนโยบายของพรรคให้ชาวบ้านได้เข้าใจ และบางเวทีจะไปร่วมกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ

นายสมหวัง กล่าวว่า ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ ตนก็เฝ้าดูมาตลอดว่าทําอะไรบ้าง กระทั่งเข้ามาสู่ระบบการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีบางพรรคพยายามพูดโจมตีเวลาหาเสียง กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเผด็จการ ตนอยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด เวลานี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งในสภาฯ เวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ลงเลือกตั้งในระบบพรรค ทำไมยังมาพูดโจมตีอีกว่าเป็นเผด็จการ ถ้าเป็นเผด็จการจะมีการเลือกตั้งไหม ดังนั้น เลิกพูดได้แล้ว

“ประเทศชาติทุกวันนี้ ความขัดแย้งลดลงไหม ต้องยอมรับ ไอ้ที่จะมาเย้ว ๆ ไม่มีแล้ว เพราะทุกคนเข้าใจ แต่มีพวกบางคนที่เข้าเส้นเลือดไม่เปลี่ยนความคิด คิดด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ผมไม่ใช่อย่างงั้น ที่ผมมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ผมถือสุภาษิตว่า เจ็บแล้วจําคือคน ถ้าเจ็บแล้วทนคือควาย ผมไม่ใช่ควาย ผมไม่ให้ใครเอาเชือกมาร้อยจมูกเอากระดิ่งมาแขวนคอ” นายสมหวัง กล่าว

นายสมหวัง กล่าวว่า สมัยตนอยู่กับ นปช. ตนไม่เคยขอเงินใครแม้แต่บาทเดียว ดังนั้น อย่ามาพูดว่าทรยศหรือเนรคุณ ชีวิตนี้ไม่เคยทรยศใคร ไม่เคยเนรคุณใคร เมื่อไม่เคยมาช่วยเหลือ แล้วเอาบุญคุณมาจากไหน เพราะสิ่งที่ทำทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ตนไม่เคยมาขอเงิน ไม่ใช่สัมภเวสี ไม่ใช่เหลือบไร ไม่ใช่หมัด ที่จะไปขอเงินใคร ตนเป็นคนมีต้นทุน และต้นทุนสูงด้วย ดังนั้น ถ้าเคารพการตัดสินใจแต่ละฝ่าย ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่ แต่ถ้าไม่เคารพการตัดสินใจก็ไม่เป็นไร

‘บิ๊กตู่’ ย้ำ!! ไม่ได้มอง ‘บิ๊กป้อม’ เป็นคู่แข่ง ปัด!! รวมกันวันหน้า วันนี้แยกมาก็คือแยก

‘ประยุทธ์’ แจงปมไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ หวังส่งไม้ต่อให้ "พีระพันธุ์" หลังได้นั่งนายกฯ อีก 2 ปี ปัดมอง ‘บิ๊กป้อม’ เป็นคู่แข่ง แค่แยกมาอยู่คนละพรรค โอดบังคับใครไม่ได้ แค่พรรคตัวเองก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เตือนคนแซะต้นเหตุทำสภาล่ม เป็นผู้ใหญ่แล้วพูดจาให้ระวัง

(3 เม.ย.66) อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพ (ไทย-ญี่ปุ่น) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการลงสนามการเมืองอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ว่า ก็ดี มาครั้งแรกก็เรียบร้อยดี ไม่มีใครทะเลาะกัน ไม่มีใครใช้ความรุนแรงต่อกัน แถมอยู่คนละพรรคก็มาทักทายกัน สวัสดีกัน ทุกคนก็คือคนไทยด้วยกัน บางคนก็คุ้นเคยกัน ก่อนหน้านี้ตนก็รู้จักกับแกนนำพรรคหลายคน คุ้นเคยกัน 

อย่างไรก็ตาม หลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะอยู่กันคนละพรรคแต่ความผูกพันส่วนตัวไม่มีปัญหา ความเป็นเพื่อน ความคุ้นเคย การทำงานร่วมกัน แต่การที่เขาจะเลือกพรรคไหนก็เป็นเรื่องของเขา ก็เพียงแต่ขอว่าให้ทุกคนช่วยกันทำเพื่อบ้านเมือง ถ้าหวังแต่เพียงหาเสียง สมมติว่าได้จากนโยบายที่หาเสียง แล้วทำไม่ได้จะตอบประชาชนว่ายังไง บางอย่างที่ตนกลัวว่ามันอันตรายพอสมควร เช่น การใช้จ่ายงบประมาณ ถ้าทำตรงนี้ต้องบอกว่ารายได้จะเอามาจากไหน บางนโยบายล่อไป 9 แสนล้านบาท จะเอามาจากไหนนี่คือสิ่งที่อันตรายและต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ต้องดูว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร 

เมื่อถามว่า ตอนที่นั่งติดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดคุยกันไป สนุกสนานกันไป เมื่อถามย้ำว่า วันนี้มาในฐานะคู่แข่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นแข่งอะไรกับใครเลย เมื่อกี้นั่งคุยกัน ก็แหย่กันไปแหย่กันมา ท่านก็ทำของท่านตนก็ทำของตน แต่ให้รู้ว่าวันนี้เราอยู่คนละพรรคแล้ว ส่วนจะคิดว่าจะรวมกันวันหน้าหรือเปล่า ตนก็แจ้งแล้วว่าตนแยกมา แยกก็คือแยก ไม่อย่างนั้นตนจะมานั่งสัมภาษณ์ตรงนี้ทำไม ก็ให้ พล.อ.ประวิตรสัมภาษณ์ไปแล้ว พรรคตนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว

นัยแห่งหมายเลข 22 แม้ 'ตู่' ชูนิ้วได้อย่างอารมณ์ดี แต่มีสัญญาณอันตรายสะเทือนพรรค รทสช.

ถึงตอนนี้พรรคการเมืองขนาดกลาง ขนาดใหญ่หลายพรรคที่จับสลากได้เบอร์ตัวเลขสองตัวประเภท เบอร์ 18 พรรคชาติไทยพัฒนา, เบอร์ 26 ประชาธิปัตย์,เบอร์ 29 พรรคเพื่อไทย ที่มึนตึ้บในวันแรกว่าจะชูนิ้วชูมืออย่างไรก็คงหาวิธีการได้แล้ว...

ต่างกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่แม้จะได้เลขสองตัว แต่เป็นเลขเบิ้ลคือ เบอร์ 22 ทำให้ลุงตู่และลุงตุ๋ยชูนิ้วโชว์นักข่าวกันอย่างอารมณ์ดี...

ไม่เพียงเท่านั้นบรรดาแฟนคลับ...พากันกระพือในสื่อโซเชียลอีกต่างหากว่า เลข 22 เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับลุงตู่เป็นที่ยิ่ง จะทำการสิ่งใดก็ประสบผลสำเร็จ ดูอย่างวันแต่งงานก็ 22 มิถุนายน 2527, วันยึดอำนาจยุติการฆ่ากันตายเมื่อปี 2557 ก็วันที่ 22 พฤษภาคม...เป็นต้น

แต่เลข 22 อันเกี่ยวกับการจัดอันดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค รทสช. ที่ 'เล็ก เลียบด่วน' กำลังจะพูดต่อไปนี้ไม่น่าจะเป็นผลบวกหรือผลดีกับลุงตู่สักเท่าใดนัก...

อันว่าผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรครทสช.ลำดับปลอดภัยหรือเซฟโซนที่จะได้เป็นส.ส.แน่นอนอยู่แค่อันดับ 12 หรืออย่างมากก็อาจยืดไปถึงอันดับ 15...

ดังนั้นอันดับ 15. ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อันดับ 16.ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู 'แม่เลี้ยงติ๊ก', อันดับ 17, เกชา ศักดิ์สมบูรณ์, อันดับ 18  คุณอ้น-ทิพานันท์  ศิริชนะ, อันดับ 19 โรจน์พิศาล  อินทรักษ์,อันดับ 20 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง  อันดับ 21 พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา, อันดับ 22 ชุมพล กาญจนะ บ้านใหญ่สุราษฎร์ธานี อดีต ส.ส.หลายสมัย...

เหล่านี้ต้องลุ้นกันเหนื่อย ลุ้นกันหลายรอบ...กว่าจะได้เป็นส.ส.

แต่ที่ต้องหมายเหตุเป็นพิเศษคือ ลำดับที่ 22 ชุมพล กาญจนะ ไม่มีใครคาดคิดว่าลุงตู่ลุงตุ๋ยจะจัดวางมาอยู่ในลำดับต่ำเตี้ยขนาดนี้...ถือว่าพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย

ชุมพล กาญจนะ คือ บุคคลที่ชวน หลีกภัย เคยพูดถึงว่ามีบางพรรค (ไม่ใช่รทสช.) เสนอเงิน 200 ล้าน เพื่อ กวาด ส.ส.สุราษฎร์ฯ ให้ได้ยกจังหวัด แล้วจะให้ตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งนายชุมพลไม่เอา แต่สุดท้ายก็ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์มาอยู่พรรคลุงตู่พร้อมลูกสาวที่เป็น ส.ส.เขต 3 สุราษฎร์ฯ...

ปิดกันไม่มิดว่าตอนนี้...ชุมพลยากที่จะทำใจได้ที่โดนใครต่อใครข้ามหัวยิ่งกว่าการด้อยค่า...จะสบตาคนในพื้นที่ จะนำทัพออกรบก็คงไม่สนุกเสียแล้ว...ลูกสาวลูกสะใภ้ที่ลงสมัครส.ส.เขตด้วยก็คงใจเหี่ยวไปด้วย...

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. กรุงเทพฯ ใครอยู่เขตไหน? ใครได้หมายเลขอะไร? อย่าจำผิด!! มา ‘ซูม’ ดูกันได้เลยจ้า

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. กรุงเทพฯ ใครอยู่เขตไหน? ใครได้หมายเลขอะไร? อย่าจำผิด!! มา ‘ซูม’ ดูกันได้เลยจ้า

เปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในศึกเลือกตั้ง 2566

เปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในศึกเลือกตั้ง 2566

 

พรรครวมไทยสร้างชาติ
1.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
2.พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

พรรคพลังประชารัฐ
1.พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ

พรรคก้าวไกล
1.พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พรรคประชาธิปัตย์
1.จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
.
พรรคภูมิใจไทย
1.อนุทิน ชาญวีรกูล

‘ธนาธร’ ซัด ‘สุชาติ’ หลังเคลมว่างงานลดลงเป็นผลงานรัฐบาล อัดนักการเมือง ถูก ปชช.เลือกมาแท้ๆ แต่ไม่เคารพประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 66 ระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ระหว่างตัวแทนพรรคการเมือง 8 พรรค ในรายการสด ‘DEBATE ประเทศไทย เปิดเวทีภาคตะวันออก’ โดยสำนักข่าว Nation ในช่วงหนึ่ง สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และตัวแทนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวถึงผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่าช่วงที่เกิดโควิด รัฐบาลได้เป็นผู้ประคับประคองอุตสาหกรรมส่งออกและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จนสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในการควบคุม

ทำให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สภายานยนต์แห่งประเทศไทยได้ตกลงโบนัสพนักงานในระดับที่น่าพอใจ เช่น อิซุสุ ให้ 8.5 เท่า บวกเงินอีก 3.5 หมื่นบาท โตโยต้า ให้ 7.5 เท่าบวกเงินอีก 3.8 หมื่นบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดจากโครงการ Factory Sandbox ที่ตรวจโควิดฟรี เช่าโรงแรมให้กักตัว ฉีดวัคซีนให้หมด 100% และห้ามปิดโรงงาน ทำให้บริษัทต่าง ๆ ยังคงผลิตตามออเดอร์ส่งออกได้ตลอดเวลา จนบริษัทในไทยหลายบริษัท ยังคงทำกำไรและรักษาการจ้างงานเอาไว้ได้ และทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราว่างงานต่ำที่สุดในโลก อยู่ที่แค่กว่า 1% เกิดจากรัฐบาลรักษาการจ้างงานเอาไว้ได้

ซึ่งในช่วงต่อมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้ใช้โอกาสแจกแจงข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยระบุว่า ตนไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะบริษัท โตโยต้า และอิซุสุ จ่ายโบนัสระดับ 8 - 10 เดือนให้พนักงานมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว อีกทั้งการว่างงานก็ยืนอยู่ที่ระดับ 0.75 -1.5% เป็นสิบ ๆ ปีมาแล้วเช่นกัน ไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่งแน่ ๆ

ทำให้นายสุชาติ ใช้สิทธิพาดพิงลุกขึ้นตอบโต้ โดยระบุว่า นายธนาธรไม่ได้อยู่แบบตน อาจจะฟังมาผิด เพราะถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาโควิด ไม่รักษาการจ้างงาน ไม่รักษาออเดอร์ส่งออก ก็ไม่มีวันนี้

ขณะที่นายธนาธรเอง ก็ตอบโต้อย่างทันควันเช่นกัน โดยระบุว่า ตนอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 20 ปี นายสุชาติไม่รู้สู้ตนแน่ ๆ ส่วนอัตราการว่างงานของประเทศไทย ต้องย้ำอีกครั้งยืนอยู่ระดับนี้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วที่ 0.75 - 1.5% แม้แต่ช่วงโควิดก็เพิ่มขึ้นไปไม่ถึง 2% แล้ววันนี้ตกมาสู่ระดับเดิมแล้ว ทั้งนี้ไม่ต้องเชื่อตนก็ได้ ทุกคนสามารถไปหาดูเองได้จากเว็บไซต์หน่วยงานรัฐทั่วไป

หลังจากนั้น ในช่วงท้ายของการดีเบต พิธีกรได้ให้ตัวแทนแต่ละพรรคการเมืองได้พูดทิ้งท้ายสั้น ๆ ซึ่งหลายพรรคการเมืองได้เน้นย้ำถึงการไม่ทะเลาะขัดแย้งกัน ทว่าในส่วนของนายธนาธร ได้กล่าวในช่วงของตนว่าอนาคตของประเทศไม่ใช่เรื่องของการที่ใครจะทะเลาะกับใครหรือไม่ แต่คือการยืนยันเรื่องพื้นฐานที่สุด นั่นคือการที่ประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย ให้ไม่มีการรัฐประหารอีกในอนาคต จะทะเลาะกันหรือไม่ต้องยืนยันหลักการพื้นฐานเหล่านี้

“แต่ที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยไม่ได้ มีรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็เพราะมีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งยังฝักใฝ่รับใช้เผด็จการ ถ้าไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เป็นนั่งร้านหรือรับใช้พวกเขาตรงๆ  การมีนักการเมืองอย่างนี้ทำให้เผด็จการไม่สูญหายไปจากประเทศไทยเสียที” นายธนาธร กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top