‘ธนาธร’ ซัด ‘สุชาติ’ หลังเคลมว่างงานลดลงเป็นผลงานรัฐบาล อัดนักการเมือง ถูก ปชช.เลือกมาแท้ๆ แต่ไม่เคารพประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 66 ระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ระหว่างตัวแทนพรรคการเมือง 8 พรรค ในรายการสด ‘DEBATE ประเทศไทย เปิดเวทีภาคตะวันออก’ โดยสำนักข่าว Nation ในช่วงหนึ่ง สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และตัวแทนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวถึงผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่าช่วงที่เกิดโควิด รัฐบาลได้เป็นผู้ประคับประคองอุตสาหกรรมส่งออกและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จนสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในการควบคุม

ทำให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สภายานยนต์แห่งประเทศไทยได้ตกลงโบนัสพนักงานในระดับที่น่าพอใจ เช่น อิซุสุ ให้ 8.5 เท่า บวกเงินอีก 3.5 หมื่นบาท โตโยต้า ให้ 7.5 เท่าบวกเงินอีก 3.8 หมื่นบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดจากโครงการ Factory Sandbox ที่ตรวจโควิดฟรี เช่าโรงแรมให้กักตัว ฉีดวัคซีนให้หมด 100% และห้ามปิดโรงงาน ทำให้บริษัทต่าง ๆ ยังคงผลิตตามออเดอร์ส่งออกได้ตลอดเวลา จนบริษัทในไทยหลายบริษัท ยังคงทำกำไรและรักษาการจ้างงานเอาไว้ได้ และทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราว่างงานต่ำที่สุดในโลก อยู่ที่แค่กว่า 1% เกิดจากรัฐบาลรักษาการจ้างงานเอาไว้ได้

ซึ่งในช่วงต่อมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้ใช้โอกาสแจกแจงข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยระบุว่า ตนไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะบริษัท โตโยต้า และอิซุสุ จ่ายโบนัสระดับ 8 - 10 เดือนให้พนักงานมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว อีกทั้งการว่างงานก็ยืนอยู่ที่ระดับ 0.75 -1.5% เป็นสิบ ๆ ปีมาแล้วเช่นกัน ไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่งแน่ ๆ

ทำให้นายสุชาติ ใช้สิทธิพาดพิงลุกขึ้นตอบโต้ โดยระบุว่า นายธนาธรไม่ได้อยู่แบบตน อาจจะฟังมาผิด เพราะถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาโควิด ไม่รักษาการจ้างงาน ไม่รักษาออเดอร์ส่งออก ก็ไม่มีวันนี้

ขณะที่นายธนาธรเอง ก็ตอบโต้อย่างทันควันเช่นกัน โดยระบุว่า ตนอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 20 ปี นายสุชาติไม่รู้สู้ตนแน่ ๆ ส่วนอัตราการว่างงานของประเทศไทย ต้องย้ำอีกครั้งยืนอยู่ระดับนี้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วที่ 0.75 - 1.5% แม้แต่ช่วงโควิดก็เพิ่มขึ้นไปไม่ถึง 2% แล้ววันนี้ตกมาสู่ระดับเดิมแล้ว ทั้งนี้ไม่ต้องเชื่อตนก็ได้ ทุกคนสามารถไปหาดูเองได้จากเว็บไซต์หน่วยงานรัฐทั่วไป

หลังจากนั้น ในช่วงท้ายของการดีเบต พิธีกรได้ให้ตัวแทนแต่ละพรรคการเมืองได้พูดทิ้งท้ายสั้น ๆ ซึ่งหลายพรรคการเมืองได้เน้นย้ำถึงการไม่ทะเลาะขัดแย้งกัน ทว่าในส่วนของนายธนาธร ได้กล่าวในช่วงของตนว่าอนาคตของประเทศไม่ใช่เรื่องของการที่ใครจะทะเลาะกับใครหรือไม่ แต่คือการยืนยันเรื่องพื้นฐานที่สุด นั่นคือการที่ประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย ให้ไม่มีการรัฐประหารอีกในอนาคต จะทะเลาะกันหรือไม่ต้องยืนยันหลักการพื้นฐานเหล่านี้

“แต่ที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยไม่ได้ มีรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็เพราะมีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งยังฝักใฝ่รับใช้เผด็จการ ถ้าไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เป็นนั่งร้านหรือรับใช้พวกเขาตรงๆ  การมีนักการเมืองอย่างนี้ทำให้เผด็จการไม่สูญหายไปจากประเทศไทยเสียที” นายธนาธร กล่าว

หลังจากนั้น นายสุชาติ ได้ลุกขึ้นตอบโต้ในทันทีด้วยอารมณ์โมโห พร้อมระบุว่า นายธนาธรกำลังพาดพิงนักการเมืองทั้งประเทศ ถ้าไม่ชอบนักการเมืองก็อย่ามาเป็นนักการเมือง ซึ่งนายธนาธรก็ได้ตอบโต้ทันทีเช่นกัน โดยระบุว่า นักการเมืองเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เพราะเป็นอาชีพเดียวในประเทศนี้ที่ประชาชนแต่งตั้งมาโดยตรง และเพราะประชาธิปไตยที่ทำให้มีนักการเมือง ดังนั้น นักการเมืองที่ไม่เคารพประชาธิปไตย ก็คือนักการเมืองที่ไม่เคารพจริยธรรมวิชาชีพของตัวเอง

หลังจากนั้น นายสุชาติ ยังคงแสดงอาการหัวเสียอย่างเห็นได้ชัด พร้อมจี้ถามนายธนาธรว่าประเทศไทยทุกวันนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างไร ซึ่งนายธนาธร ก็ได้ยกตัวอย่างถามกลับนายสุชาติ ว่าการมี ส.ว. แต่งตั้ง 250 คน เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ การมี กกต. เปลี่ยนสูตรปาร์ตี้ลิสต์ตามใจชอบเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และ กกต.พวกนี้แต่งตั้งโดยใคร

อย่างไรก็ตาม พิธีกรเวทีได้ตัดสินใจตัดบทการโต้เถียงระหว่างทั้งสอง และดำเนินเวทีในช่วงท้ายก่อนปิดการดีเบตต่อไป