Friday, 17 May 2024
รวมไทยสร้างชาติ

‘บุญยอด’ แนะ ‘ก้าวไกล’ พูดถึงใครต้องให้เกียรติกัน ต้องไม่สาดโคลนใคร ไม่ด้อยค่าใคร 

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ตอบโต้พรรคก้าวไกลผ่าน ‘หมออ๋อง’ นสพ.ปดิพัทธ์ สันติภาดา จากพรรคก้าวไกล หลังจากมีการพูดจาดูถูกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในแทบทุกการหาเสียงของพรรคก้าวไกล ในช่วงหนึ่งของเวทีดีเบต BIG DEBATE จังหวัดพิษณุโลก โดยกล่าวว่า…

“นักการเมืองไม่ควรพุ่งเป้าไปสู่คู่แข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม เปรียบเหมือนกันกับไม่มีนักมวยคนใด หรือนักฟุตบอลคนใด ไปด่าว่าปรามาสคู่แข่งขัน เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และสิ่งที่กระทำมา ถ้ามันผิดหรือไม่ถูกต้อง สามารถใช้กระบวนการทางกฎหมายได้

“พรรคก้าวไกลต้องกลับไปทบทวนเหมือนกันว่า เวลาจะพูดถึงใครต้องให้เกียรติกัน คุณดูถูก ดูแคลน ดูหมิ่น ทุกครั้งโดยไม่ให้เกียรติไม่ได้ เนื่องจากในกติกาการหาเสียงเลือกตั้งทุกครั้ง เราต้องไม่สาดโคลนใคร ไม่ด้อยค่าใคร ลองไปทบทวนดูก่อน และควรต้องตอบคำถามด้วยว่า หัวหน้าพรรคของคุณทำไมชอบโกหกประชาชนนักด้วย”

เกี่ยวกับเรื่อง ส.ว. 250 คน นายบุญยอด ก็ได้กล่าวอีกด้วยว่า “กติกาของรัฐธรรมนูญ 60 จะให้สิทธิ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ได้เพียง 5 ปี นั่นคือปีนี้จะเป็นปีสุดท้าย และนั่นคือกติกาที่ร่างไปแล้ว และผ่านประชามติไปแล้ว กติกาได้เกิดขึ้น พวกท่านได้เข้าสู่การแข่งขันเมื่อปี 62 จำนวน 1 ครั้ง และปี 66 อีก 1 ครั้ง

“ตามกติกานั้น ได้เกิดขึ้นในสภาฯ แล้ว และในวันนั้น คนคงพอจำได้มีคนที่เป็นแคนดิเดต 2 คนเท่านั้น คือ…พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ นี่คือข้อเท็จจริง 

‘บิ๊กตู่’ ขอบคุณชาวชลบุรี ที่ยังรักกันอยู่ พร้อมอ้อนอย่าให้ตนสู้โดดเดี่ยว ขอฝากเบอร์ 22 ไว้ในใจ ลั่น!! เราจะต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน

(2 พ.ค.66) พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี​ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวปราศรัยว่า ขอบคุณคนจังหวัดชลบุรี วันนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเรายังรักกันอยู่รักกันจริง รักแล้วรักอยู่และรักต่อ ตนเกิดโคราชย้ายมาอยู่กรุงเทพฯเรียนหนังสือจบโรงเรียนนายร้อย และมาอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ค่ายนวมินทร์ ตั้งแต่ปี 2519 จนถึงปี 2541 ที่นี่คือแหล่งที่พบความแข็งแรงของตน ทำให้ตนมีวันนี้ และวันนี้ได้เห็นพวกเรามีความสุข ไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวอีกแล้ว 

“อย่าปล่อยให้ผมโดดเดี่ยว อย่าให้ใครทำร้ายประเทศที่รักยิ่งของเรา และอย่าให้ใครมาด้อยค่าประเทศของเรา สิ่งที่เราต้องการวันนี้ เวลานี้ บางคนเรียกว่าผมว่า รปภ. เรียกว่ายามผมรับได้ ผมรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องได้รับการดูแลจากตนและรัฐบาลจากพรรครวมไทยสร้างชาติใช่หรือไม่ เราแบ่งแยกกันไม่ได้ เพราะแผ่นดินคืนนี้ เป็นแผ่นดินของคนไทยทั้งหมด เราเกิดที่นี่ เกิดที่อื่นก็มีทำกินที่นี่ หลายคนต้องรักแผ่นดินผืนนี้ของเรา”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แต่แน่นอนมันต้องไม่มีปัญหา ต้องไม่สร้างความขัดแย้งไม่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ทำให้ลูกไม่เคารพพ่อแม่ ไม่เคารพครูอาจารย์ การเปลี่ยนแปลงแบบนี้อันตรายเราต้องสามัคคีกัน ดังนั้นขออย่างเดียวอย่าแตกแยก ความสามัคคี ถ้าไม่สามัคคีมันไปไม่ได้ทั้งหมด ขอฝากบ้านเมืองไว้กับมือพวกเราทุกคน มือที่จะกาบัตรเลือกตั้ง และวันนี้จะเรียกพี่ตู่ ลุงตู่หรือตู่เฉย ๆ ก็ได้เพราะหลายคนเป็นน้องตน หลายคนเป็นพี่ตน คนที่เป็นน้องก็เรียกตนว่าพี่ตู่ ทั้งนี้ วันนี้มาให้กำลังใจทั้ง 10 เขตต้องได้ทั้งจังหวัดและจะต้องได้ทั้งประเทศด้วย เพราะเรามา เหนือเมฆ ลองไปเปิดดูหนังสือ เราไม่ได้เป็นคนเขียนมีคนก็เขียนให้ เพราะเห็นเราทำงาน และเมื่อกี้ก็กลัวว่าฝนจะตกหรือเปล่าจะได้เจอหรือเปล่า ตนก็อธิษฐานว่าฝนอย่าตก ฉะนั้นคำอธิษฐานของตนมีผลเหมือนกัน

กระแส 'ลุงตู่' ช่วยดัน ส.ส.เขต 'รทสช.' โดดเด่น เชื่อ!! 'ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ' ช่วยปักธงได้แน่

ในวันที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางไปช่วยหาเสียงที่จังหวัดตรัง ซึ่งมี 4 เขตเลือกตั้ง

พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงจากเครื่องบินที่สนามบินตรัง นอกจากจะมีผู้สมัครในจังหวัดตรัง เช่น สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล จากเขต 4, อำนวย นวลทอง จากเขต 3 ไปต้อนรับแล้ว ได้มีมวลชนจำนวนมากที่ทราบข่าว เดินทางไปต้อนรับ และให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ถึงสนามบินตรังกันแน่นขนัด

หลังจากนั้นคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีทั้งพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยัง อ.กันตัง เพื่อช่วยหาเสียงให้กับสมบูรณ์ ซึ่งมีมวลชนจำนวนมากแห่ไปต้อนรับให้กำลังใจเช่นกัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้อธิบายถึงแนวทาง 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ให้ประชาชนเข้าใจ

คณะ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางต่อไปในตลาดทับเที่ยง ช่วยถนอมพงศ์ หลีกภัย หาเสียง ซึ่งต้องเสียเวลาไปมาก เนื่องจากมีผู้คนแห่ต้อนรับหน้าแน่นจนไม่มีเวลาทานข้าว เวลาล่วงมาถึงบ่ายสองถึงจะได้ทานข้าว

เสร็จจากทานข้าวเที่ยงเดินทางต่อไปยังอำเภอนาโยง เพื่อช่วย 'อำนวย นวลทอง' หาเสียง โดยก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปถึง 'อำนวย นวลทอง' ได้กล่าวปราศรัยก่อนแล้วถึงความมุ่งมั่น-ตั้งใจในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้

“ผมลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อชัยชนะ และจะสู้ไม่มีถอย โดยตั้งใจจะเข้าไปแก้ไขปัญหา 3 อย่าง อย่างแรกคือปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ บ้านเรามีฝนมาก เพราะอยู่ใกล้ภูเขา จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมบ่อย แต่น้ำท่วมไม่นานก็จะเกิดปัญหาน้ำแล้งตามมา ที่ผ่านมาไม่มีใครคิดวางโครงสร้างใหญ่ในการแก้ไขปัญหาน้ำ”

อำนวย กล่าวอีกว่า อีกปัญหาที่ต้องการเข้าไปแก้คือปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ที่ชาวบ้านถูกครหาว่าบุกรุกอุทยานบ้าง บุกรุกทุ่งเลี้ยงสัตว์บ้าง ทั้งๆ ที่สภาพของที่ดิน ไม่มีต้นไม้ไม่มีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์แล้ว ชาวบ้านเข้าไปอยู่อาศัยมานานแล้ว แต่ไม่มีการยกเลิกความเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ และ/หรือเขตอุทยาน ชาวบ้านจึงโดนขับไล่มาโดยตลอด เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข

‘อดีตผู้สมัครอนาคตใหม่’ เผยเหตุผลไม่ไปต่อก้าวไกล หันมาซบ ‘ลุงตู่’ ลั่น!! รับไม่ได้ นโยบายแรง เสี่ยงหลุดโค้ง เน้นแต่แก้ 112 กระทบสถาบัน

(6 พ.ค. 66) นายถิรกร ชัยมงคล อดีตผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้เผยเหตุผล ซบลุงตู่ ระบุรับไม่ได้ นโยบายก้าวไกลแรง เสี่ยงหลุดโค้ง เน้นแต่แก้ 112 กระทบสถาบัน ซึ่งถิรกรกล่าวว่า ตนที่กำลังอยู่ในวัยอายุ 55 ปี ตนคิดว่าด้วยวัยอายุของตนคงไม่เหมาะกับน้อง ๆ พรรคก้าวไกล เนื่องจากความคิดของน้อง ๆ พรรคก้าวไกล อาจไม่ได้รับฟังคนที่อายุเยอะมากขนาดนั้น อีกประเด็นสำคัญอีกอย่างคือ นโยบายหลายอย่างของพรรคก้าวไกล เร็ว แรง เสี่ยง ที่อาจจะหลุดโค้งได้ตลอดเวลา และคนส่วนใหญ่เขาก็ไม่กล้าที่จะคิด

‘สุชาติ’ ชูนโยบายขั้นสุด!! จัดตั้ง ‘รพ.ประกันสังคม’ 4 ภาค 4 แห่ง พร้อมหนุนลูกผู้ประกันตน สอบชิงทุนเรียนหมอ จบมาพร้อมทำงานที่นี่ได้

เมื่อไม่นานมานี้ จาก TikTok ‘เฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น’ ได้โพสต์วิดีโอ ‘นายสุชาติ ชมกลิ่น’ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะออกรายการ คนชนข่าว โดยช่วงหนึ่งของรายการ นายสุชาติ ได้กล่าวถึงความไม่เป็นธรรมของระบบประกันสังคมในอดีต จนกระทั่งในยุคตนได้เข้ามาปรับปรุง โดยระบุว่า…

“คนที่ส่งเงินประกันสังคมจากฐานเงินเดือน 15,000 ส่งมา 10 กว่าปี 20 กว่าปี อยู่ ๆ พอเขาต้องเปลี่ยนมาส่ง 39 กลับมาตัดเรทเหลือ 4,800 บาท มาลดเงินชราภาพเขาเฉย มันก็ไม่ถูกต้อง และผมจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนประกันสังคม (แต่ปัจจุบันรัฐบาลปรับปรุงแล้วนะ) ถ้าอายุ 55 สมมติได้เงินชราภาพ 5,000 บาทต่อเดือน คิดเป็น 1 ปี ก็คือ 60,000 บาท แต่ถ้าเกิดเสียชีวิตจะได้ 10 เท่าจากเงินที่ได้ต่อเดือน ก็คือได้มา 50,000 รวม ๆ กันก็เป็นแสน แต่เผอิญเงินชราภาพที่เราเคยส่งไว้อยู่มี 2 แสน แบบนี้ผู้ส่งขาดทุนไหม มันตั้งกองทุนประกันสังคมมาเพื่อกินกำไรผู้ประกันตน เราเลยแก้ระเบียบและเราประกาศใช้แล้วนะ คือ ถ้าเสียชีวิต เช่น อายุ 56 เอาเงินอีก 4 ปีจ่ายให้เขาไป”

'เสี่ยเฮ้ง' รับทราบ!! หนุ่มโพสต์อ้างรับเงิน รทสช. ชี้!! ตอนนี้ทีมงานได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

(8 พ.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังได้รับทราบข้อมูล ว่าถูกชายคนหนึ่งโพสต์คลิปอ้างได้รับเงินจาก รทสช. และนำมาโพสต์ประจาน โดยรับเงินมา 1,000 บาท แต่สุดท้ายก็จะกาให้พรรคก้าวไกลแทน โดยระบุว่า...

คลิป Tiktok ว่อน...มีคนส่งข้อมูลมาให้ผมมากมาย เรื่องคลิปในติ๊กตอก ที่มีการพาดพิงถึงผม ซึ่งผมเองก็ลงพื้นที่ทุกวัน ตลอดทั้งวัน เลยอาจจะไม่ได้ตอบกลับ หรือสื่อสารกลับไป และผมจะแจ้งว่า ขณะนี้ ทางทีมงานได้ดำเนินการ เรียบร้อยแล้วครับ

เปิดแผนไม่ลับ หยุดก้าวไกล-เพื่อไทยแลนด์สไลด์!! “ไม่เลือกลุงมันมาแน่” ปะทะ “มีเราไม่มีลุง” มนต์ไหนขลังกว่า

พรรคเพื่อไทยอุตส่าห์ย้ำแคมเปญผ่านป้ายหาเสียงตามถนนรนแคมและเสาไฟฟ้าทั่วประเทศว่า 'เพื่อไทยแลนด์สไลด์' แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไรมาก สู้กระแสไวรัลปากต่อปากตามสภากาแฟและร้านอาหารที่ไม่ทันหย่อนก้นลงนั่งก็มีเสียงตะโกนถามมาแล้วว่า...พรรคก้าวไกลมาแรงจริงหรือเปล่า จะแลนด์สไลด์แทนเพื่อไทยจริงหรือ..??

ก็ต้องบอกว่าของเขาแรงจริง ๆ แต่ 'เล็ก เลียบด่วน' จะขอหมายเหตุเป็นข้อ ๆ เพื่อกระชับพื้นที่ดังนี้...

ข้อที่หนึ่ง) จุดร่วมที่ผู้บริหารพรรคก้าวไกลประกาศตอนนี้คือ ทะลุ 100 ที่นั่ง ส่วน 160 ที่นั่ง เป็นตัวเลขยุทธศาสตร์ตัวเลขเป้าหมายเท่านั้น

เลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่หรือก้าวไกลปัจจุบันได้ ส.ส.รวม 81 ที่นั่ง เป็นส.ส.เขต 30 ปาร์ตี้ลิสต์ 51 ส.ส. เขตส่วนหนึ่งมาจาก 'ส้มหล่น' พรรคไทยรักษาชาติซึ่งเป็นแบงก์ร้อยหรือลูกแบงก์ของพรรคเพื่อไทยถูกยุบก่อนเลือกตั้ง

ข้อที่สอง) กระแสพรรคก้าวไกลมาแรงในขณะนี้มีมาจาก 3 สาเหตุ...1.นโยบายหลายอย่างดี ทันสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางแม้บางประการจะออกอาการสุดโต่ง / 2.ภาพรวมการดีเบตพรรคก้าวไกลดูเด่นกว่าพรรคอื่น ข้อมูลชัดเจน และ 3.จุดยืนเชิงอุดมการณ์มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง เป็นจุดยืนที่ภาษาทหารต้องเรียกว่า 'สูงข่ม' พรรคเพื่อไทย คะแนนจากเพื่อไทยส่วนหนึ่งจึงเทมา

ข้อที่สาม) ก่อนยุบสภาพรรคก้าวไกล มีส.ส.ในพรรค 50 กว่าคน แนวโน้มการเลือกตั้งหนนี้ที่จะได้เป็นกอบเป็นกำคือ คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ถ้าได้คะแนนเพิ่มจากเดิม 6 ล้านเศษเมื่อปี 2562 เป็น 9 ล้านเสียง ซึ่งถ้า 1 ปาร์ตี้ลิสต์ใช้เสียง 3.7 แสน ก็จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 24 คน สมมติได้ ส.ส.เขตอีก 50 คน ทั้งหมดจะอยู่ที่ 74 คนเท่านั้น...แต่ก็มากพอที่จะเกินครึ่งสภาหรือ 250 คน หากไปบวกรวมกับพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเดิม...

'ชัช เตาปูน' ชวนคนไทยปกป้อง ‘ชาติ ศาสน์ กษัตริย์’ 14 พ.ค. เลือก รทสช. ทั้ง 2 ใบ ดัน ‘ลุงตู่’ เป็นนายกฯ

(9 พ.ค. 66) จากรายการ ‘ถลกข่าว ถลกคน’ รายการที่ล้วงลึกทุกฉากการเลือกตั้ง 2566 โดยสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ได้เชิญ ‘นายชัชวาลล์  คงอุดม’ หรือที่รู้จักกันในนาม 'ชัช เตาปูน' ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมถกประเด็นก่อนการเลือกตั้ง โดยช่วงหนึ่งนายชัชวาลล์ได้พูดถึงการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 14 พ.ค. 66 พร้อมชักชวนให้คนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเยอะ ๆ และลงคะแนนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อดัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย 

นายชัชวาลล์กล่าวถึงเหตุผลที่เข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เพราะเชื่อมั่นในตัว ‘บิ๊กตู่’ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา โดยระบุว่า…ลุงตู่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และถือว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังซื่อสัตย์ ไม่มีการโกงกินบ้านเมือง 

เมื่อถามถึงนโยบายของพรรคที่ครองใจมหาชนทั่วประเทศที่รับรู้ได้จากการเดินสายหาเสียงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายชัชวาลล์ระบุว่า ก็เป็นคนละครึ่งนะ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชาวบ้านชอบนะ แล้วนโยบายเรามี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส เพิ่มเงินเป็น 1,000 บาท และสามารถเอาไปกู้เงินมาใช้จ่ายได้อีกนะ ดีกว่าไปกู้เงินนอกระบบ เสียดอกเบี้ยแพง ๆ

เมื่อถามถึงเสียงตอบรับในภาคอีสานมีมากน้อยแค่ไหน นายชัชวาลล์ ระบุว่า ต้องบอกแบบนี้ เวลาเขาสำรวจโพลกัน ก็จะสำรวจในโลกโซเชียล ทำให้คนที่เขาไม่ได้เล่นโซเชียลไม่ได้ตอบ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ จึงไม่มั่นใจว่าในภาคอีสานเราจะชนะขาดหรือไม่ อีกทั้งการสำรวจโพลก็สอบถามเฉพาะกลุ่มที่นิยมชมชอบฝั่งนั้นอย่างเดียว ทำให้ผลโพลที่ออกมาเอนเอียงไป แต่ส่วนมากคนสูงอายุจะคิดถึงเรื่องความเป็นอยู่ เขาก็คิดว่ามีกะปิ พริก น้ำปลาติดตู่กับข้าวได้ก็เพราะลุงตู่ แต่สำหรับเด็ก ๆ ก็จะมองต่างออกไป 

เมื่อถามการที่มาช่วยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะพบเจอกับความผิดหวังเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่? นายชัชวาลล์ระบุว่า เชื่อว่าไม่ผิดหวังนะ เพราะพลเอกประยุทธ์จะอยู่เพียงแค่ 2 ปี โดยมีการพิสูจน์มาแล้วตั้ง 8 ปี ทุกอย่างโอเคหมด ผมฟังท่านพูด ผมคิดว่าท่านรู้ทุกอย่างนะ ท่านเข้าใจปัญหาดี ท่านเก่ง แต่เวลาสัมภาษณ์ถูกนักข่าวจี้จุด ก็เลยมีหงุดหงิดไปบ้าง แต่เวลาเราคุยกันท่านก็เฮฮา มีอารมณ์ขัน ไม่เป็นอย่างที่เห็นตามหน้าสื่อเลย

เมื่อถามว่า เชื่อหรือว่าพลเอกประยุทธ์จะอยู่เพียงแต่ 2 ปี นายชัชวาลล์ ระบุว่า ผมเชื่อแบบนั้น ในความรู้สึกผม ถ้าท่านไปได้ก็คงไปแล้ว ที่ผ่านมาโดยสารพัด เพราะคนไม่เข้าใจ แต่พูดตรง ๆ เลยนะ ฝ่ายนั้นกำลังมา ตอนนี้มีคนจ้องจะแก้ม.112 หากแก้ไปแล้วประเทศชาติจะเป็นอย่างไร คนที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์คงยอมไม่ได้

'รวมไทยสร้างชาติ' แจงแล้ว เลเซอร์สะพานพระราม 8  พบ 'ทิพานัน' ทำโดยไม่ได้หารือ เรียกมาตำหนิแล้ว

(9 พ.ค. 66) จากกรณี ประเด็นการยิงเลเซอร์หาเสียงบนสะพานพระราม 8 ถูกจับตาอย่างหนักภายหลังจสก น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ภาพแสงสีบนสะพานพระราม 8 เป็นข้อความหาเสียง พร้อมระบุแคปชันว่า...

"ชัดเจนเด่นชัด สะพานพระราม 8" โดยภาพแสงสีปรากฏข้อความต่างๆ เช่น "กา 22 มั่นคง มั่งคั่ง" / "ลุงตู่ อยู่ต่อ" และ "รวมไทยสร้างชาติ"

ล่าสุด พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาชี้แจงโดยระบุว่า...

ตามที่ปรากฏข่าวว่ามียิงการเลเซอร์ ข้อความเชิญชวนให้เลือกหมายเลขของพรรครวมไทยสร้างชาติบนเสาสะพานพระราม 8 เมื่อคืนวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น พรรครวมไทยสร้างชาติขอชี้แจงว่า พรรคฯ ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการดังกล่าว และได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน

‘ดร.หิมาลัย’ ย้ำชัด รทสช. ทำการเมืองตามอุดมการณ์  ใช้งบตามกรอบกม. ไร้งบหนุนผู้สมัครฯ ที่จะมาขอเพิ่ม 

‘ดร.หิมาลัย’ ย้ำชัด ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ทำการเมืองตามอุดมการณ์ พร้อมยึดมั่นในหลักการ “ปกป้องสถาบัน รับใช้ชาติและประชาชน” ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และใช้งบประมาณตามกรอบกฎหมาย หลังมีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ออกมาเรียกร้องให้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย

(9 พ.ค. 66) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ภาคอีสาน ออกมาเรียกร้องให้พรรคดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ว่า วันนี้ตนในฐานะผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับมอบหมายให้มารับฟังข้อเรียกร้องของพวกท่าน เพื่อนำไปเรียนผู้ใหญ่ของพรรค ว่าพรรคมีข้อผิดพลาดอย่างไรในการดำเนินงาน ตามอุดมการณ์ของพรรค และมีนโยบายเรื่องใดที่จะต้องนำไปแก้ไข

แต่อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่ได้มีทุนทรัพย์มาก เงินบริจาคที่ได้รับมา จึงต้องใช้ในการทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างประหยัดและระมัดระวัง อีกทั้ง พรรคไม่สนับสนุนการซื้อสิทธิขายเสียง ด้วยเป้าหมายต้องการทำการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม กระทำการหาเสียงด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามกติกาของ กกต. และรัฐธรรมนูญ ซึ่งการดำเนินงานตามนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากแต่อย่างใด

อีกทั้ง พรรคการเมืองเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช้สถาบันทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการลงทุนให้ผู้สมัคร ผู้ที่เสนอตัวเพื่อมารับใช้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่พี่น้อง จึงควรเป็นผู้ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด ส่วนเรื่องงบประมาณ ท่านก็ควรจะทราบว่าท่านมีงบประมาณอยู่เท่าไร ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎกติกาของ กกต. ก็ควรจะบริหารให้อยู่ในกรอบที่ตัวเองรับได้ และไม่เดือดร้อน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top