Thursday, 2 May 2024
มิจฉาชีพ

รวบพนักงานสาวอ้างตกงาน รับจ้างเปิดบัญชีม้า เพียงแค่ 4 เดือน พบเงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น ให้เร่งปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ อันส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง

ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนนครบาล IDMB โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมากว่า ถูกกลุ่มแก็งค์ CALL CENTER กลุ่มนี้ หลอกลวงให้ร่วมลงทุนง่ายๆ แต่ได้รับค่าตอบแทนสูง โดยเพียงแค่ลูกค้าโอนเงิน แล้วรอรับเงินปันผลตามอัตราและระยะเวลาที่แจ้งไว้  โดยพบว่ามีเหล่าผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก จึงลงพื้นที่สืบสวน ติดตามเส้นทางจากเหล่าบัญชีม้าที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ จนกระทั่งสืบทราบว่าพบเส้นทางบัญชีต้องสงสัยโดยเพิ่งเปิดบัญชีได้เพียงแค่ 4 เดือน แต่ปรากฏว่ามีเงินเข้าออกหมุนเวียนเพียงบัญชีเดียวกว่า 5 ล้านบาท โดยมีลักษณะหากมีเงินเข้าบัญชี เงินในบัญชีจะถูกถอนออกจากบัญชีทั้งหมดเพียงไม่เกิน 5 นาที เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เกาะติด สืบสวนเส้นทางการเงินของบัญชีดังกล่าว จนแน่ชัดว่าบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีที่เหล่าแก็งค์ CALL CENTER ใช้เป็นบัญชีม้า

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.65 เวลาประมาณ 13.45 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.อำนวย เงินนา สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.สส.1 บก.สส.บช.น.เข้าจับกุมตัว 

นางสาวณัฐชา ดาแอร์ อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 689/2565 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 

'ตำรวจ' รวบ นักลวงผ่านแอปฯ ไลน์ พบประวัติหลอกเหยื่อออนไลน์โชกโชน

วันที่ 12 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. จับกุมนายเอกชัย คนึงคิด อายุ 26 ปี ชาวจ.พะเยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 271/2564 ลงวันที่ 5 ต.ค. พ.ศ.2564 ข้อหา 'ฉ้อโกง' จับกุมตัว บริเวณลานจอดรถ ภูผาทองอพาตเม้นท์ หมู่ 6 ทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน ต. เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 เวลา 18.30 น. ที่ผ่านมา      

สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายที่เป็นตัวการในการก่อเหตุใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อบัญชี 'รับจำนำรถยนต์' ทักไปลวงผู้เสียหายซึ่งได้มีการไปโพสต์ประกาศตามหารถยนต์ส่วนตัวซึ่งหายไปเมื่อประมาณปี 2562 ในเพจซื้อขายรถยนต์มือสองต่างๆ พร้อมกับให้ข้อมูลติดต่อกลับไว้ 

เมื่อผู้ต้องหาเห็นโพสต์ประกาศตามหารถยนต์ของผู้เสียหาย จึงได้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อบัญชี 'รับจำนำรถยนต์' ทักไปแจ้งกับผู้เสียหายว่ารถยนต์คันที่ผู้เสียหายตามหานั้น ณ เวลานั้นอยู่กับตนโดยเป็นรถที่มีคนนำมาจำนำและหลุดจำนำแล้ว ถ้าผู้เสียหายอยากได้รถคือให้ผู้เสียหายมาติดต่อรับด่วน โดยได้ให้ผู้เสียหายส่งเอกสารเกี่ยวกับรถคันดังกล่าวให้ แต่ต้องโอนเงิน จำนวน 75,000 บาท (โดยแบ่งเป็นเงินต้น 70,000 บาท และดอก 5,000 บาท) มาให้เพื่อรับรถคืน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินจำนวน 75,000 บาท ให้คนร้ายครบ คนร้ายจึงได้ทำการปิดกั้นการติดต่อกับผู้เสียหาย 

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตลอดจนการซักปากคำรับสารภาพของผู้ต้องหายังพบข้อมูลว่า ณ ปัจจุบัน คนร้ายที่ถูกจับกุมยังมีพฤติกรรมสร้างบัญชีเฟซบุ๊กเข้าไปหลอกขายอาวุธปืนผิดกฎหมายในกลุ่มคนเล่นปืนกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มสมาคมคนรักปืน, กลุ่มสมาคมคนรักอาวุธปืน V.1, กลุ่มสหายคนรักปืน, กลุ่มชมรมคนรักลูกโม่, กลุ่มสมาคมคนรักGUN 

‘ตำรวจ’ แนะ 5 ทริก จับโป๊ะสลิปโอนเงินปลอม หลังระบาดหนัก ทำพ่อค้าแม่ขายหวาดผวา

(15 พ.ย. 65) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.ธเทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณี ชายหญิงตระเวนใช้สลิปปลอมหลอกซื้อของไปทั่วตลาด ที่ จ.อ่างทอง ​พ.ต.ท.ธเทพ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดต่างหวาดผวากันอย่างหนัก หลังมีหญิงสาวอายุราว 30 ปี กับชายวัยกลางคน ตระเวนซื้อของทั้งเสื้อผ้า ของใช้ภายในตลาดนัดในพื้นที่ จ.อ่างทอง โดยใช้วิธีชำระเงินโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร และแสดงสลิปการโอนเงินให้ตรวจสอบให้กับแม่ค้าดู แต่ปรากฏว่าหลังตรวจสอบยอดเงินปรากฏว่า ไม่มีเงินเข้ามาทั้งที่ตอนที่แสดงให้ดูก็มีการโอนเงินสำเร็จแล้ว ในกรณีดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนพ่อค้าแม่ค้าระมัดระวัง หากมีการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันก็ให้ตรวจสอบยอดเงินทันทีจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้

สำหรับวิธีการตรวจสอบสลิปปลอมมีดังนี้

1.) สังเกตความละเอียดของ ตัวเลข หรือ ตัวหนังสือ หากเป็นสลิปปลอม แบบของตัวหนังสือบนสลิป ในส่วนของ ชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันที่ เวลา อาจจะเป็นตัวหนังสือคนละแบบ หรือความหนา บางของตัวอักษรจะไม่เท่ากัน หากเป็นเช่นนี้ อาจตั้งข้อสงสัยได้ว่าเป็นสลิปปลอม
2.) สแกน QR Code บนสลิปโอนเงินแบบ E-Slip สามารถตรวจสอบ ชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันและเวลาที่โอนเงินได้ หากยอดเงินไม่ตรง หรือไม่สามารถตรวจสอบได้ ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นสลิปปลอม

3.) ใช้บริการแจ้งเตือนของธนาคาร ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อมียอดเงินเข้าบัญชี สามารถนำไปเทียบยอดเงินกับสลิปได้

4.) ใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีฟังก์ชันตรวจสอบสลิปการโอนเงินอัตโนมัติกรณีที่ร้านค้าออนไลน์มียอดการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และมีการโอนเงินเข้าหลายรายการ สามารถเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีระบบตรวจสอบสลิป และยอดเงินเข้าอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ร้านค้าประหยัดเวลา และลดขั้นตอนการตรวจสอบ สลิปปลอม

‘ตำรวจ’ รวบ หนุ่ม-สาวปลอมเป็นพนักงานแกรมมี่ ตระเวนฉกสินค้าลิขสิทธิ์ เสียหายกว่า 50 ล้านบาท

กองปราบฯ จับ หนุ่ม-สาวแสบปลอมตัวเป็นพนักงานแกรมมี่  GMM ตามมินิบิ๊กซี กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ.8), พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง.ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศชัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.สุเทพ โตยิ้ม รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ปทส. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.2 บก.ป. นำโดย พ.ต.ท.พิเชษ ชมมณฑา สว.กก.2 บก.ป., พ.ต.ต.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.2 บก.ป., และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว

1.) นายพีรพล แพงศรี อายุ 20 ปี หมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.595/2565 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้า หรือด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม

2.) น.ส.สุนิภา สุขโต อายุ 35 ปี หมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.594/2565 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้า หรือด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลาง แผ่น CD MP3 USB ค่ายเพลงลิขสิทธิ์แกรมมี่ กว่า 700 รายการ  

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 65 บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) มาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ได้เข้าไปแสดงตนกับพนักงานของร้านบิ๊กซีมินิ ว่าเป็นพนักงานบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เข้ามาตรวจสอบสินค้าที่วางขายในร้านบิ๊กซีมินิ โดยอ้างเอกสารใบรับคืนสินที่ทำปลอมลักษณะคล้ายกับใบรับคืนสินค้าของบริษัทแกรมมี่ เพื่อใช้มาเรียกเก็บสินค้าของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ที่วางขายภายในร้านที่เกิดเหตุ ทำให้พนักงานของบริษัท บิ๊กซี หลงเชื่อและส่งมอบแผ่นซีดี ให้กับคนร้ายไป

DES เตือนภัย!! ระวัง!! มิจฉาชีพหลอกให้โหลดสติกเกอร์ไลน์ฟรี เสี่ยงถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว - สวมสิทธิ์ทำธุรกรรมต่างๆ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แจ้งเตือนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ระวังการโหลดสติกเกอร์ไลน์จากมิจฉาชีพ อาจโดนสวมสิทธ์ จากภัยไซเบอร์

(3 ธ.ค. 65) น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีการชักชวนสมาชิกผู้ใช้แอปพลิเคชันสื่อสารและส่งข้อความไลน์ ให้โหลดสติกเกอร์จำนวนมาก อาทิ สติกเกอร์ปีใหม่ สติกเกอร์การ์ตูน 

ดีอีเอส ได้มีการติดตามผู้กระทำความผิดผ่านไลน์และได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ในฐานะผู้กำกับดูแลและรับผิดชอบความมั่นคงปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตให้กับประชาชน ขอแนะนำผู้ใช้ไลน์ทุกท่านตรวจสอบและระวังการโหลดสติกเกอร์ที่ไม่ได้มาจากผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์โดยตรง โดยมีข้อความที่ไม่น่าไว้วางใจ เช่น โหลดสติกเกอร์ฟรี หากท่านส่งข้อมูลให้กับเพื่อนครบจำนวน 10 คน เป็นต้น

ทั้งนี้การเชิญชวนการโหลดสติกเกอร์ดังกล่าว อาจมีการหลอกลวงให้ผู้ใช้ไลน์ใส่ชื่อ และรหัสการเข้าใช้ไลน์ รวมถึงข้อมูลส่วนตัว ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพ นำชื่อและรหัสการใช้งานของท่านไปทำธุรกรรมต่าง ๆ หรืออาจมีการสวมสิทธิ์เป็นท่านเพื่อกระทำผิดได้

‘สืบนครบาล’ รวบ ‘แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์’ หลอกขายแบรนด์เนมราคาถูก ผ่านออนไลน์

วันที่ 4 ธ.ค. 65 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT ที่ 5, พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่, พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี, พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม, พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ, พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์, พ.ต.ท.ชานนท์ บรรพกาล, พ.ต.ต.ธนากร จอมเกาะ, ร.ต.อ.ธีรเดช พรมลาย, ร.ต.อ.สตางค์ พิศุทธ์พัลลภ, ร.ต.ท.นันทัพพ์ แก่นจันทร์, ร.ต.ท.หญิง มุกนภา เอมรื่น และเจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวน.ส.อรอุมา เกิดจันทึก หรือ ‘แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์’ อายุ 29 ปี และนายภิญญาพัชร์ หรือ ธันยกานต์ เอี่ยมท่า อายุ 30 ปี ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตามหมายจับของ ‘แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์’ จำนวน 3 หมาย 

ประกอบด้วย หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.552/2565 ลงวันที่ 3 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกงประชาชน’ ท้องที่ สน.ธรรมศาลา, หมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ จ.545/2565 ลงวันที่ 17 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกงประชาชน’ ท้องที่ สภ.เมืองยะลา และหมายจับศาลแขงธนบุรี ที่ 360/2565 ลงวันที่ 28 พ.ย. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกง’ ท้องที่ สน.บุปผาราม ส่วนหมายจับของ 

นายภิญญาพัชร์ จำนวน 1 หมาย คือ หมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ จ.545/2565 ลงวันที่ 17 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกงประชาชน’ ท้องที่ สภ.เมืองยะลา จับกุมได้ที่บริเวณ คอนโด เดอะโพลิแทน รีฟ ซ.นนทบุรี 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 06.00 น. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากผู้เสียหายขอความช่วยเหลือทางเพจ ‘สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.อรอุมา เกิดจันทึก หรือแซนดี้ กระเป๋าหลุยส์ โดยใช้ชื่อกลุ่มไลน์โอเพ่นแชทว่า ‘เดอะแซนดี้แบรนด์’ แอบอ้างขายกระเป๋าแบรนด์เนมนำเข้าจากต่างประเทศราคาถูก โดย แซนดี้ จะสรรหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือ ทั้งการโพสต์รูปภาพ การรีวิวกระเป๋า จนกระทั่งมีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก และตรวจสอบประวัติการกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ปรากฎว่า น.ส.อรอุมา เคยก่อคดีมากว่า 26 คดี รวมมูลค่าความเสียหายประมาณล้านกว่าบาท 

โดยออกเช็คเด้งปี 64 จำนวน 1 คดี สภ.เมืองยะลา ปี 65 ก่อเหตุ 25 คดี ความผิดตามพ.ร.บ.คอมฯ สภ.กุมภวาปี, สภ.บางละมุง, ความรวมคดีฉ้อโกง สภ.สำโรงเหนือ, สน.หลักสอง, รวมความผิดรวมคดีฉ้อโกง สน.สำเหร่, รวมความผิดฉ้อโกง สน.ธรรมศาลา, รวมความผิดร่วมกันฉ้อโกง บก.ปอท. 2 คดี, รวมความผิดฉ้อโกง สน.ธรรมศาลา, สภ.หมวกเหล็ก, สภ.เมืองขอนแก่น, รวมความผิดฉ้อโกงประชาชน สภ.กันทรวิชัย, รวมความผิดฉ้อโกง สภ.ดอนหัวฟ้อ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, สน.บวรมงคล, สภ.วารินชำราบ, สภ.เมืองมหาสารคาม, สภ.โป่งน้ำร้อน, สน.พญาไท และสภ.วังสะพุง 

บก.สส.สตม. ร่วมกับชุด PCT ชุดที่ 1 ปฏิบัติการทลาย 4 จุด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สัญชาติเกาหลี เงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท

บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 1 เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นบ้านและคอนโดหรู โดยใช้หมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าค้นในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอหางดง และ อำเภอสันกำแพง รวมจำนวน 4 จุด โดยเป็นบ้านหรูจำนวน 2 หลัง และคอนโด จำนวน 2 ห้อง ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าเป็นสถานที่ตั้งของกลุ่มคนเกาหลี ที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผลการตรวจค้นได้ทำการจับกุมชาวเกาหลีใต้ จำนวน 5 ราย ดังนี้   
1.MR.LEE JONG หรือ นาย ลี จอง อายุ 21 ปี  สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง) 
2. MR.LEE หรือ นาย ลี อายุ 44 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)  
3. MR.JONG หรือ นาย จอง อายุ 27 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)  
4. MR.NOH หรือ นาย โน อายุ 31 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)  
5. MR.SUNG หรือ นาย ซัง อายุ 30 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง) 
พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์จำนวน 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 11 เครื่อง,แทปเล็ต จำนวน  4 เครื่อง และ.โทรศัพท์บ้าน จำนวน  7 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay)”

สตม. รวบผู้ต้องหาชาวเกาหลี OVERSTAY มี INTERPOL Red Notice คดีร่วมกับพวกฉ้อโกง ความเสียหายรวมกว่า 1,600 ล้านบาท

กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายเยจุน (นามสมมติ) อายุ 51 ปี สัญชาติเกาหลี โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถของคอนโดมิเนียมย่าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี

พฤติการณ์จับกุม กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับหนังสือจากกงสุลฝ่ายตำรวจประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ประสานงานขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการผลักดันนายเยจุน (นามสมมติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับสาธารณรัฐเกาหลีในคดีฉ้อโกง และเป็นบุคคลเป็นที่ต้องการตัวของทางการสาธารณรัฐเกาหลี ตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ที่ A-6937/8-2022 ลงวันที่ 19 ส.ค.2565 โดยมีพฤติการณ์ในการกระทำผิด กล่าวคือ นายเยจุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินของกลุ่มบริษัทหนึ่งในสาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างเดือน พ.ย. 2561 ถึงเดือน เม.ย. 2563 ได้ร่วมกับพวก สมรู้ร่วมคิดในการยักยอกทรัพย์สิน จำนวนเงินรวม 491 พันล้านวอน จากบริษัท 5 แห่ง เช่น Kales Hoidings Inc. Chankhanee Invest Inc. 

สตม.รวบผู้ต้องหาแดนมังกรหนีคดีฉ้อโกง ผู้เสียหาย 7,704 ราย มูลค่าความเสียหาย กว่า 6,000 ล้านบาท

กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กรณีสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย มีหนังสือขอให้จับกุมและผลักดัน นายเต๋อ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกหมายจับและต้องการตัวไปดำเนินคดี ในความผิดฐานฉ้อโกง โดยมีพฤติการณ์กระทำผิด คือ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2557 นายเต๋อได้จดทะเบียนและก่อตั้งบริษัท Jiahe โดยไม่มีการอนุมัติจากผู้กำกับดูแลการเงินฝากสาธารณะ นายเต๋อได้แนะนำโครงการลงทุน "Great Health Industry" แก่นักลงทุนโดยการออกใบปลิวของขวัญ การจัดกิจกรรมและทัวร์ฟรี จากนั้นได้ถอนเงินฝากสาธารณะไปอย่างผิดกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ของการทำกำไร ทำให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ จำนวน 7,704 ราย มูลค่าความเสียหาย 1.27 พันล้านหยวน (ประมาณ 6.35 พันล้านบาท) และในปี พ.ศ.2564 นายเต๋อ ได้หนีออกจากท่าอากาศยานนานาชาติโดยเที่ยวบิน Shanghai-Pudong  กก.1 บก.สส.สตม.ได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายเต๋อ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทางด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ บก.ตม.2 เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 ได้รับการตรวจลงตราประเภท THAILAND PRIVILEGE CARD (PE) และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด จึงได้ขออนุมัติ ผบก.สส.สตม. ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มีพฤติการณ์สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top