ผลการวิเคราะห์จากนักวิชาการหลากหลายสาขาเปิดเผยว่า เด็กวัยอนุบาล 3-6 ขวบ คือช่วงเวลาสร้างทักษะสมองที่ดีที่สุด
ในวันหนึ่งที่อากาศเป็นใจ นักวิทยาศาสตร์สื่อประสาทสมอง (Neuroscientist) นัดนักจิตวิทยา (Psychologist) มานั่งทานข้าวจับเข่าเม้าธ์มอยกัน แล้ววันนั้น วงการการศึกษาก็ต้องสั่นสะเทือน เพราะสิ่งที่นักจิตวิทยาและนักสื่อประสาทคุยกันนั้น disrupt สูตรการศึกษาที่เราทำกันมาช้านาน ล้มกระดานทั้งวงการซะไม่เหลือเยื่อใยให้ต่อยอด นักลงทุนทางการศึกษาต้องทุบหม้อข้าวตัวเอง พลิกจากการลงทุนในระดับอุดมศึกษาไปในระดับอนุบาลแทน
นักจิตวิทยาไม่รอช้า นัดเพื่อนนักวิชาการวงการใกล้เคียงมาทานข้าวอีก มีทั้งนักชีววิทยา นักภาษาศาสตร์ นักฟิสิกส์ นักสังคมศาสตร์ รวมถึงนักคณิตศาสตร์ มาตกลงกันว่าจะเอาไงกันดีกับการค้นพบนี้ จึงเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ยัดทุกอย่างลงไป แล้วเรียกว่า Interpersonal Neurobiology (IN)
นัก Interpersonal Neurobiology หรือ IN บอกกับเราว่า พฤติกรรม สมอง และจิตใจนั้น ทำงานสอดประสานกันแยกจากกันไปไม่ได้ หรืออีกนัยหนึ่ง หากเราเน้นพัฒนาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเพียงสองอย่างนั้น ไม่เพียงพอต่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ได้เลย ยกตัวอย่าง ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกสอบได้คะแนนดีๆ จึงเน้นพัฒนาลูกด้านสติปัญญา ส่งลูกเรียนพิเศษเพิ่ม เคี่ยวเข็ญการบ้าน ปรากฏว่าลูกก็ยังทำได้ไม่ดี ไม่ใช่เพราะเน้นวิชาการไม่พอ แต่ลูกอาจจะขาดด้านพฤติกรรมหรือจิตใจ หรือทั้งสองอย่าง
วันนี้เรานำสิ่งที่เหล่า IN ค้นพบ มาลบล้างความเข้าใจเดิมที่เรามี คุณพ่อคุณแม่อ่านครั้งแรก อาจจะรู้สึกว่า ใช่เหรอ อ่านผิดหรือเปล่า จนต้องมาอ่านทวนกัน อยากให้ลองเปิดใจดูนะคะ ประโยชน์ที่ได้ย่อมตกถึงลูกเราอยู่แล้ว
นัก IN บอกว่า แก้ที่พฤติกรรมไม่ได้ผลหรอก ต้องแก้ที่ความสัมพันธ์
แก้ที่พฤติกรรมไม่ได้ผล ต้องแก้ที่ความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์คือหัวใจสำคัญของพัฒนาการ สามารถเปลี่ยนโครงสร้างสมองได้ ความสัมพันธ์จะไปเปลี่ยนโครงสร้างจิตใจ โครงสร้างจิตใจไปเปลี่ยนโครงสร้างพฤติกรรม พฤติกรรมสร้างวงจรในสมอง
การเรียนที่ดีที่สุดของเด็กคือการเล่น เด็กเรียนผ่านการเล่น
เวลาเด็กเล่นเขาจะมีความสุข เด็กอยากเล่นได้ดี จึงมีความตั้งใจในการเล่น ความสุขกับความตั้งใจรวมกัน เกิดเป็นสมาธิ พอเด็กอยากเล่นให้เก่งขึ้น สมองกับจิตใจจะทำงานร่วมกัน เกิดเป็น soft skill เมื่อเกิดวงจรสมาธิ วงจรสมองแก้ไขปัญหา ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนวงจรแข็งแรง เกิดเป็นทักษะ เด็กที่เล่นเยอะจะเรียนรู้เยอะ ธรรมชาติของเด็กถูกออกแบบมาให้อยากเล่น เพื่อจะได้เรียนรู้เยอะที่สุด ถ้าเด็กคนไหนไม่เล่นต้องมีอะไรไม่ปกติเกิดขึ้นค่ะ
ช่วงที่สร้างทักษะดีที่สุดคือวัย 3-6 ขวบ
ช่วง 3-6 ขวบ หรือวัยอนุบาล เรียกว่าเป็นระยะวิกฤติของ EF หรือระยะพัฒนาสมองส่วนหน้าหรือสร้างทักษะสมองที่ดีที่สุด เปรียบได้กับการสร้างแผนผังถนนใหญ่ที่ดีเพื่อรอการจราจรในอนาคต ถ้าลูกได้สร้างถนน 8 เลนที่แข็งแรงรอไว้จากการเล่นเยอะ ๆ ตั้งแต่ 3-6 ขวบ โตไปลูกจะพร้อมเรียนรู้ เรียนรู้เร็ว เรียนรู้เก่ง
ทักษะทางสังคมและอารมณ์ ตัวบงชี้ความสำเร็จของลูก
พัฒนาการทั้ง 4 ด้านในสมุดพกของลูกเราประกอบด้วย ร่างกาย สังคม อารมณ์ และสติปัญญา แต่ทักษะที่เป็นตัวบ่งชี้หรือมีนัยสำคัญต่อความสำเร็จของลูกเราคือ ทักษะอารมณ์และสังคม คะแนนจากการทำข้อสอบเป็นเพียงตัววัดผลทางวิชาการ ไม่ได้บอกว่าลูกจะประสบความสำเร็จเสมอไป
ความหมายของคำว่า ฉลาด ในยุค AI อาจไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ถึงโลกจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน แต่สิ่งที่เป็นเสาเข็มของโครงสร้างชีวิตลูกยังคงเป็นครอบครัว อย่างที่นัก IN ว่าไว้ สายสัมพันธ์คือจุดเริ่มต้นของจิตใจ จิตใจไปสู่พฤติกรรม พฤติกรรมไปสู่สมอง สมองที่นำไปสู่ความสุขและความสำเร็จของลูกค่ะ
สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ: เล่นน้อยโง่มาก เล่นมากโง่ได้
Link Link https://www.facebook.com/299800753872915/videos/2632024200444156
เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: พิมพ์นารา สุวรรณไตรย์