เรื่องจริงที่เด็ก ๆ ขอจากลุงซานต้าคลอส

“You better watch out, You better not cry

(หนูดูดีๆนะ หนูต้องไม่ร้องไห้นะ)

You better not pout, I’m telling you why

(หนูต้องไม่ทำหน้ามุ่ยนะ ชั้นจะบอกอะไรให้)

Santa Claus is coming to town”

(ลุงซานต้าคลอสกำลังมา)

คริสต์มาสและปีใหม่เพิ่งผ่านไปหมาด ๆ ช่วงนี้ไม่ว่าจะไปร้านกาแฟ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ที่ที่คุณนั่งอยู่ เริ่มตกแต่งสถานที่ด้วยต้นสน กล่องของขวัญ ประดับไฟกระพริบและสายรุ้ง เปิดเพลงสร้างบรรยากาศเฉลิมฉลอง พอพูดถึงคริสต์มาส สำหรับเด็ก ๆ แล้ว นี่เป็นสัญญาณที่บอกถึงการเตรียมหยิบถุงเท้ามาแขวนรอ ‘ลุงซานต้าใจดี’ นั่งรถรากกวางเรนเดียร์เหาะลงมาจากท้องฟ้าในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อมาแจกของขวัญให้กับเด็ก ๆ ที่ประพฤติตัวเป็นเด็กดี

แต่ก็มีเรื่องจริงหนึ่งที่น่าสนใจ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จดหมายหลายแสนฉบับต่อปีที่เด็ก ๆ เขียนไปขอของขวัญจากลุงซานต้าคลอส จนศาสตราจารย์ Carole Slotterback นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ทนเห็นกองภูเขาจดหมายที่เก็บอยู่ที่ทำการไปรษณีย์ไม่ไหว หยิบจดหมายมา 1200 ฉบับ เปิดอ่านดูและพบกับสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็ก ๆ เหล่านั้น

ศาสตราจารย์ Slotterback บอกว่า จดหมายของเด็ก ๆ ถูกเขียนด้วยลายมือของเด็กเองเสมอ ตกแต่งด้วยการวาดรูประบายสี ติดสติ๊กเกอร์ เด็ก ๆ หลายคน ไม่ลืมที่จะเขียนที่อยู่ของตัวเอง และเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองให้ลุงซานต้าติดต่อได้เผื่อไว้ในกรณีที่ลุงซานต้าหาบ้านไม่เจอ เด็กส่วนใหญ่ขอของเล่น แถมกำชับกับลุงซานต้าด้วยว่า ปีนี้ไม่เอาเสื้อผ้านะ

ภาษาที่เด็ก ๆ ใช้ในจดหมายถึงลุงซานต้านั้น ช่างต่อรองเจรจา พูดเพราะหว่านล้อมให้ลุงซานต้าใจอ่อนอย่างไม่ธรรมดา หรือเด็กบางคนถึงกับใช้ภาษาที่รุนแรงข่มขู่ลุงซานต้ากันเลยก็มีเหมือนกัน

ในบรรดาจดหมายกองใหญ่นั้น มีเด็กจำนวนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ขอของเล่น เขาขอสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เด็ก ๆ เขียนไปหาลุงซานต้าว่า ขอให้คุณพ่อคุณแม่เลิกทะเลาะกัน ขอให้คุณยายหายป่วย และมีจดหมายสีชมพูสดฉบับหนึ่งที่ทำให้ศาสตราจารย์ Slotterback ต้องตื้นตัน เป็นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือตัวบรรจงว่า หนูขอคุณแม่ เพราะคุณพ่อต้องทำงานเหนื่อยเลี้ยงดูครอบครัวอยู่คนเดียว อยากมีคุณแม่มาช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง 

ศาสตราจารย์บอกอีกว่ามีจดหมายประเภทขอความช่วยเหลืออยู่ประมาณ 3-6% และปริมาณของจดหมายถึงลุงซานตาคลอสจะยิ่งเยอะขึ้นในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี น่าเสียดายที่ไม่มีจดหมายฉบับไหนเลยไปถึงมือซานต้าคลอส

“He knows if you have been bad or good so be good for a goodness sake…”

(ลุงซานต้ารู้ว่าใครเป็นเด็กดีหรือเป็นเด็กไม่ดี ฉะนั้นจงทำดีเพื่อประโยชน์ที่ดีงาม)

ตำนานปรัมปราทางศาสนากลายมาเป็นทริคให้เด็กประพฤติตัวดีน่ารักนั้นได้ผลดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม นักจิตวิทยาคลินิกชาวออสเตรเลีย Kathy McKay อ้างว่า มีโอกาสที่เด็กจะได้รับผลกระทบจากการโกหกเรื่องซานต้าคลอสได้เช่นกัน

ศาสตราจารย์ Slotterback แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครอง ลองให้ลูก ๆ เขียนจดหมายหรือทำลิสต์ของขวัญถึงลุงซานต้า เพื่อจะได้รู้ว่า เด็ก ๆ ต้องการอะไร ชอบอะไร ไม่อยากได้อะไร ให้เด็กได้หัดเขียนอย่างมีเป้าหมายและกำชับให้เขียนอย่างสุภาพ 

หากลูกถามเราว่าซานต้าคลอสมีอยู่จริงมั้ย คำตอบที่ปลอดภัยที่สุดต่อความรู้สึกผิดหวังกับเด็กนั้น ให้คุณพ่อคุณแม่ตอบไปตามความเป็นจริงที่เหมาะสมกับวัยของลูกค่ะ 

อย่าเพิ่งตัดสินว่าลูกอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ลูกอาจจะขออีกอย่างที่ไม่ได้ขอกับคุณพ่อคุณแม่จากลุงซานต้าก็ได้ แล้วถ้าลูกเป็นเด็กดีเพราะขอของขวัญลุงซานต้าไว้ ลุงซานต้าคลอสตัวจริงอย่าลืมทำตามที่ลูกขอด้วยนะคะ


ข้อมูลอ้างอิง : https://www.voathai.com/a/a-47-2009-12-25-voa1-90651069/922866.html

https://www.melbournechildpsychology.com.au/blog/believing-in-santa-claus-harmless-or-hurtful/ 

สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก Link https://www.facebook.com/foryourchildz

เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: พิมพ์นารา สุวรรณไตรย์