Sunday, 6 July 2025
NEWS

“บิ๊กป้อม” เร่ง โครงการบำบัดน้ำเสียมีนบุรี สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องสำรวจแหล่งมลพิษ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ จากมูลนิธิป่ารอยต่อฯร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมเห็นชอบหลักการ โครงการบำบัดนำ้เสียมีนบุรี ระยะที่ 2( กทม.)ที่สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 42,000 ลบ.ม.ต่อวัน โดยขอให้นำเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาก่อน และให้วางแผนการก่อสร้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ เพื่อไม่ให้กระทบการก่อสร้างและระบายน้ำ

นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินร่วมกันของ 8 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรุงเทพมหานครฯ  องค์การจัดการน้ำเสีย กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน และ จว.ฉะเชิงเทรา โดยมีงานที่สำคัญตามแผนหลัก 5 เป้าประสงค์ คือ  การแก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำ  การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรน้ำ การปรับปรุงภูมิทัศน์ และการเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำของประชาชน ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 11 ปี (64 - 67) รวม 84 โครงการ

ภาพรวมคลองแสนแสบ ยาวรวม 72 กม.เชื่อมโยงลุ่มน้ำเจ้าพระยาและบางปะกงในพื้นที่ กทม.และ ฉะเชิงเทรา ปัญหาคุณภาพน้ำโดยรวม พบอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมมาก ปริมาณน้ำเสียที่ระบายลงคลอง 807,672 ลบ.ม.ต่อวัน โดยมีน้ำเสียที่ไม่มีการจัดการกว่าร้อยละ 50  และมีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ฉะเชิงเทรา 9 แห่ง อยู่ในข่ายเฝ้าระวังและตรวจสอบกำกับดูแล  มีแผนงานโครงการระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ที่เตรียมการก่อสร้างรองรับใน 5 พื้นที่  สำหรับการเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ ช่วงวัดศรีบุญเรือง - สำนักงานเขตมีนบุรี ส่วนต่อขยาย ระยะทาง 10.5 กม.คาดว่าจะเปิดให้บริการประชาชน ใน พ.ค.65 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้กระทรวงมหาดไทย กทม. รวมทั้ง กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ เร่งสำรวจแหล่งกำเนิดมลพิษที่อยู่ริมคลองให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.65 และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังควบคู่กันอย่างเร่งด่วน เพื่อหยุดต้นทางน้ำเสียที่ไหลลงคลองให้ได้ โดยเฉพาะหลายชุมชน ที่ยังไม่มีการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งต้องทำความเข้าใจและสร้างการมีส่วนร่วม โดยขอให้เยาวชนในสถานศึกษานำร่อง 8 แห่งเข้าร่วมกิจกรรม สร้างจิตสำนึกและการตระหนักรู้ไปพร้อมกัน

ดราม่า ‘Emergency Room’ สะท้อนการศึกษาไทย อยากได้โอกาสดีๆ ต้องมีเงินเป็นใบเบิกทาง

นายปฐม อินทโรดม กรรมการครีเอทีฟ ดิจิทัลอีโคโนมี สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pathom Indarodom’ ถึงปมดราม่าข้อสอบครูผู้ช่วย 64 ว่า ดราม่าวันนี้คือข้อสอบครูผู้ช่วยที่เจอคำถามว่า Emergency Room คืออะไร แล้วผู้สมัครแห่ตอบเหมือน ๆ กันว่า “สระว่ายน้ำ” เจอแบบนี้แล้วไม่แปลกใจที่โรงเรียนอินเตอร์ในเมืองไทยเปิดเพิ่มขึ้นทุกปี สวนกระแสเด็กเกิดน้อยสุดเป็นประวัติการณ์เพราะพ่อแม่กลัวว่าหากลูกเรียนในระบบแล้วต้องเจอครูแบบนี้คงไม่ต้องคาดหวังอนาคตกันพอดี

นอกเหนือจากนั้นโรงเรียนอินเตอร์เป็นทางเลือกสำหรับการออกจากกฎระเบียบหยุมหยิมทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ฯลฯ พูดง่าย ๆ ว่าสังคมไทยเปิดโอกาสให้คนที่ไม่อยากทำตามกฎระเบียบได้ตั้งแต่เรียนชั้นประถม ด้วยการจ่ายแพงกว่าไปเรียนอินเตอร์แทนโรงเรียนปกติ

Meet THE STATES TIMES เดอะ ดีเบต กับ 'โบว์​ ณัฏฐา'​

#เดอะดีเบต

📌 ร่วมถกประเด็นร้อนในรอบสัปดาห์ ผ่านมุมมองสร้างสรรค์ จากคมคิดน่าสน 
📌 เพื่อดันผู้คนในสังคมไทย ‘ชั่งน้ำหนัก’ จากหลาก Topic ได้แบบรอบทิศ ไปกับ... 
🔥 ‘โบว์ - ณัฏฐา มหัทธนา’ ดำเนินรายการโดย ‘หยก THE STATES TIMES’

ในรายการ >> Meet THE STATES TIMES ‘เดอะ ดีเบต’ ครั้งแรกกับการร่วมถกประเด็นสุด​ Exclusive​ เฉพาะกิจระหว่าง​ THE​ STATES​ TIMES​ และ​ 'โบว์​ ณัฏฐา'​

Liveสดทุกวันเสาร์ 20.00 น.

ดีเดย์!! วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565

ติดตามได้ทุกช่องทางของ THE STATES TIMES

นักศึกษา 4ส. รุ่นที่ 12 ‘สถาบันพระปกเกล้า’ ลุยภาคอีสาน!! ‘ถอดบทเรียนเมืองขอนแก่น’ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน - ศึกษาภูมิปัญญากลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโขผ่านเส้นทางผ้าไหม

นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ รองเลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า นายศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล พร้อมคณาจารย์ และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 12 (4ส12) ศึกษาดูงานพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

>> จุดแรกที่ห้องออร์คิด บอลรูม 3 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น กับเวทีแลกเปลี่ยนประเด็นการบริหารจัดการเมืองอย่างยั่งยืน ถอดบทเรียน “Khon Kaen Smart City and Low Carbon City”  โดยนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมผู้เกี่ยวข้อง อธิบายถึงโครงการขนส่งมวลชนรางเบา (LRT)  ของบริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด วิสาหกิจของ 5 เทศบาลในจังหวัดขอนแก่น ที่เป็นการพัฒนาด้านคมนาคมเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการจราจรของเมือง

จังหวัดขอนแก่น มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ อีกทั้งยังอยู่ตรงกลางของภาคอีสาน จึงเป็นเมืองศูนย์กลางของการพัฒนาในหลากหลายด้าน การที่เมืองขอนแก่นเติบโตอย่างรวดเร็ว ย่อมทำให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมา ทั้งปัญหามลพิษ ความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะปัญหาด้านระบบขนส่งมวลชน และช่องว่างของรายได้ของประชากร ลำพังเพียงงบประมาณจากภาครัฐมักเป็นการกระจายงบแบบรวมศูนย์ ไม่เพียงพอสำหรับการแก้ไขปัญหาได้

ปี 2556 นักธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น ได้รวมกลุ่มกันเพื่อจัดตั้ง บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด (Khon Kaen Think Thank - KKTT) โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาเมืองขอนแก่นให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยระดมทุนร่วมกันจำนวน 200 ล้านบาท ก่อตั้งกองทุนพัฒนาเมือง บริหารเงินกองทุนโดย บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด ในการขับเคลื่อนพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนทางราง (Light Rail Transit system – LRT) ได้รับเงินสนับสนุนในการทำการศึกษาระบบรางที่เหมาะสมโดย สนข. และเกิดเป็นแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดขอนแก่นขึ้นมา จำนวน 5 สาย พาดผ่านพื้นที่ 5 เขตเทศบาล

โดยรัฐบาลลงนามอนุมัติให้จัดทำ สายท่าพระ-สำราญ เป็นเส้นทางแรกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 ต่อมาเดือนมีนาคม 2560 กระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้ 5 เทศบาลในจังหวัดขอนแก่น จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ขอนแก่นทรานซิสเต็ม จำกัด (KKTS) เพื่อบริการจัดการและจัดเก็บรายได้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ

ขอนแก่น Smart City มาตรฐานสากลนั้นประกอบไปด้วย 6 สาขา ได้แก่ Smart Mobility, Smart Living, Smart Citizen, Smart Economy, Smart Environment และ Smart Governance เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น และประชากรสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม 

>> จุดที่สอง รับฟังการบรรยายถึงกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน จ.ขอนแก่น (บ้านโฮมแสนสุข) เป็น ‘ศูนย์ตั้งหลักชีวิต’ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ  เพื่อให้เป็นสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกันหรือไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งในอนาคตศูนย์แห่งนี้จะเป็นที่ตั้งหลักของชีวิต พัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านความเป็นอยู่ ด้านกลุ่มอาชีพ ด้านสวัสดิการ การดูแลซึ่งกันและกัน เพื่อให้กลุ่มคนไร้บ้านมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

>> จุดที่สาม ลงพื้นที่ศึกษากลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข บ้านดอนข่า อ.ชนบท เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบยั่งยืนและความเข้มแข็งของชุมชนผ่านเส้นทางผ้าไหม” ซึ่งจุดเด่นกลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข ของผ้าไหมมัดหมี่ย้อมสี ธรรมชาติด้วยน้ำจุลุลินทรีย์ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาตรฐาน เป็นสากล สร้างชุมชนให้ยั่งยืน เป็นการยกระดับความสามารถด้านการผลิต นวัตกรรม การเชื่อมโยง และพัฒนาการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งทำให้ชุมชนได้สร้างงาน สร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว

 

'แรมโบ้' คอนเฟิร์ม ทิ้ง พปชร. เตรียมซบ 'รวมไทยสร้างชาติ'

7 ก.พ. 65 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีกระแสข่าว นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดมีการยืนยันว่า นายเสกสกล ได้มีหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา

‘อ่างเก็บน้ำใต้ดิน’ ใครไม่ทำ ‘ในหลวงรัชกาลที่ ๙’ ทำ!! | MEET THE STATES TIMES EP.60

📌 ‘อ่างเก็บน้ำใต้ดิน’ ใครไม่ทำ... ‘ในหลวงรัชกาลที่ ๙’ ทำ!!
📌 กษัตริย์นักพัฒนา!! ผู้ทรงสรรค์สร้าง ‘ชลประทาน’

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

จีนเสนอ “เรือดำน้ำมือสอง” 2 ลำมาแล้ว คาดให้ฟรีในฐานะมิตรประเทศ แต่ต้องปรับคืนสภาพให้พร้อมใช้งาน ทร. อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจะไปเจรจาหรือไม่ 

เมื่อวันที่ 5 ก.พ.มีรายงานว่า จากกระแสข่าวสาธารณรัฐประชาชนจีนจะมอบเรือดำน้ำชั้น Song (ซ่ง) ให้ไทย 2 ลำ แต่ไม่มีคำยืนยันจากกองทัพเรือ และ กระทรวงกลาโหมของไทยในเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทางบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีนซึ่งรับหน้าที่บริหารเรือดำน้ำมือสองที่กำลังปลดประจำการในกองเรือดำน้ำกองทัพเรือจีน  ได้ประสานงานเพื่อแจ้งความประสงค์ผ่านสำนักผู้ช่วยฑูตทหารประจำกรุงปักกิ่ง ว่าทางบริษัททีเรือดำน้ำมือสองจำนวนหลายลำ ที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์กับกองทัพเรือไทย หากสนใจในโครงการดังกล่าวให้แจ้งความประสงค์ในการหารือในรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่าเป็นการให้เปล่า หรือเป็นการซื้อในราคามิตรภาพ  
 
แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ ระบุว่า  เป็นครั้งแรกที่มีการแสดงเจตนารมณ์อย่างเป็นทางการ เพราะก่อนหน้านี้เป็นเพียงกระแสข่าวว่าทางการจีนได้มีการพูดคุยกับคณะทำงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  และจะให้เรือดำน้ำฟรี 2 ลำ แต่ไม่มีการยืนยันข่าวจากฝั่งของ พล.อ.ประวิตร แต่อย่างใด ทั้งนี้  ทางพล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ จะได้นำข้อเสนอของบริษัทฯ ไปพิจารณาร่วมกับ พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์  เสนาธิการทหารเรือ  ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ทร. ว่าจะไปพูดคุยในรายละเอียดหรือไม่ และถ้าสรุปว่าจะพูดคุย ก็ต้องดูรายละเอียดว่ามีข้อเสนออย่างไร  ซึ่งจะเป็นการให้เปล่า หรือ เป็นการซื้อในราคามิตรภาพ ยังไม่มีการยืนยัน
 
อย่างไรก็ตาม สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มอบเรือดำน้ำ ชั้น Ming(หมิง)ให้กับกองทัพเรือเมียนมาร์ เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ ทร.เมียนมาร์มีเรือดำน้ำเข้าประจำการแล้ว 2 ลำ จึงคาดว่าข้อเสนอของจีนจะเป็นเสนอแบบให้เปล่ากับไทยในฐานะมิตรประเทศเช่นกัน   ซึ่งต้องดูในรายละเอียดว่าจะต้องซ่อมปรับคืนสภาพ และ ต้องใช้งบประมาณในนำเข้าประจำการเท่าใด รวมถึงมีข้อเสนออื่นๆ ที่ ทร.ไทยจะได้รับเพิ่มเติมหรือไม่ 

ทหารสหรัฐฯ บุกจู่โจม ‘ผู้นำไอเอส’ ในซีเรีย ด้านผู้นำจนมุม บึ้มตัวเอง ลากเด็กตายเพียบ

อาบู อิบราฮิม อัล-ฮาชีมี อัล-กูราจี ซึ่งขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ‘ไอเอส’ ได้เสียชีวิต หลังจากที่เขาตัดสินใจจุดชนวนระเบิดตัวเองและสมาชิกในครอบครัว ระหว่างทหารสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการจู่โจมในซีเรีย จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) ซึ่งก่อความเสียหายครั้งใหญ่ต่อกลุ่มญิฮาดกลุ่มนี้ที่กำลังพยายามรวมกลุ่มใหม่ในฐานะกองโจร หลังจากสูญเสียดินแดนยึดครองอันกว้างขวางไปเกือบหมดแล้ว

อาบู อิบราฮิม อัล-ฮาชีมี อัล-กูราจี ซึ่งขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ‘ไอเอส’ ตั้งแต่การเสียชีวิตของอาบู บักร์ อัล-บักดาดี ในปี 2019 โดย อัล-บักดาดี เองก็เสียชีวิตด้วยการจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายเช่นกัน ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมจากหน่วยคอมมานโดของสหรัฐฯ

ไบเดน และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่าในระหว่างที่กองกำลังของอเมริกาเข้าใกล้ กูราจี ในเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อคืนวันพุธ (2 ก.พ.) เขาจุดชนวนระเบิด ซึ่งคร่าชีวิตสมาชิกในครอบครัวของเขาเช่นกัน ในนั้นรวมถึงเด็กหลายคน

แรงระเบิดรุนแรงมากถึงขั้นซัดศพหลายศพปลิวออกจากอาคาร 3 ชั้น ซึ่งเป็นแหล่งหลบซ่อนของ กูราจี และตกลงสู่ถนนที่อยู่โดยรอบ ในเมืองอัตเมห์ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พร้อมกล่าวโทษพวกรัฐอิสลามสำหรับชีวิตพลเรือนทุกคนที่ต้องมาสูญเสียไปในเหตุการณ์นี้

"ขอบคุณความกล้าหาญของทหารของเรา ไม่มีอีกแล้วผู้นำก่อการร้ายที่น่าขยะแขยง" ไบเดนกล่าวในทำเนียบขาว

ทั้ง ไบเดน และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่ได้ให้ตัวเลขของผู้เสียชีวิต แต่หน่วยกู้ภัยของซีเรียระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย ในนั้นเป็นผู้หญิง 4 คน และเด็ก 6 คน

การเสียชีวิตของกูราจี ถือเป็นความเสียหายอีกครั้งของกลุ่มรัฐอิสลาม เกือบ 3 ปีหลังจากคำประกาศสถาปนาการปกครองแบบกาหลิบของพวกเขาพังครืนลง ในขณะที่นักรบของพวกเขาประสบความปราชัยต่อกองกำลังสหรัฐฯ และอิรัก

นับตั้งแต่นั้นกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ก็หันมาโจมตีก่อความไม่สงบในอิรักและซีเรีย หนล่าสุดเร็วๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดยกลุ่มมือปืนบุกจู่โจมเรือนจำแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งใช้เป็นสถานที่คุมขังพวกผู้ต้องสงสัยไอเอส

ไบเดนและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า กูราจี วัย 45 ปี คือกำลังขับเคลื่อนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยยาซิดี ทางภาคเหนือของอิรักในปี 2014 และบอกว่าเขาเคยดูแลเครือข่ายของรัฐอิสลามสาขาต่างๆ ไล่ตั้งแต่แอฟริกาไปจนถึงอัฟกานิสถาน

"ปฏิบัติการเมื่อคืนที่ผ่านมา สามารถพรากผู้นำก่อการร้ายคนสำคัญออกจากสมรภูมิรบ และส่งสารอย่างแข็งกร้าวถึงพวกก่อการร้ายทั่วโลก เราจะไล่ล่าพวกแกและหาพวกแกพบ" ไบเดน กล่าว 

ทั้งนี้ ปฏิบัติการสังหาร กูราจี ช่วยกอบกู้ชื่อเสียงนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลไบเดนคืนมาได้บางส่วน หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเมื่อปีที่แล้ว สืบเนื่องจากปฏิบัติการอพยพกองกำลังสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

ชาวบ้านในเมืองอัตเมห์ ใกล้แนวชายแดนซีเรีย-ตุรกี เผยว่า พบเห็นเฮลิคอปเตอร์หลายลำลงจอด และได้ยินเสียงปืนและระเบิดดังระงม ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมที่เริ่มต้นขึ้นตอนราวๆ เที่ยงคืน กองกำลังสหรัฐฯ ได้ใช้ลำโพงประกาศเตือนผู้หญิงและเด็กให้ออกนอกพื้นที่

เพนตากอนเผยว่า มีชาวบ้าน 10 คนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่จู่โจม ในนั้นรวมถึงเด็ก ขณะที่ พล.อ.แฟรงค์ แม็คเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่าทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัยและปล่อยไว้ ณ จุดเกิดเหตุ ตอนที่กองกำลังสหรัฐฯ ถอนตัวออกมา

ชวนคิดเรื่อง ‘หวยแพง’ ปัญหา ‘ตัวแรง’ ของทุกรัฐบาล | MEET THE STATES TIMES EP.59

📌ชวนคิดเรื่อง ‘หวยแพง’ ปัญหา ‘ตัวแรง’ ของทุกรัฐบาล!!
📌เมาท์มอยเรื่อง ‘หวย ๆ’  ปัญหาจิตป่วยที่ทำยังไงก็ ‘แก้ไม่ตก’!!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

กองทัพเรือ ยุติภารกิจกู้คราบน้ำมันกลางทะเลระยอง หลังไม่พบคราบน้ำมันหลงเหลือในทะเล พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้กรมเจ้าท่า เร่งฟื้นฟูต่อไป

(4 ก.พ.65)​ นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายธีรพล ประภากร ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน มิสเตอร์โรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พล.ร.ท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1​ (ศรชล.ภาค 1), พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ และนายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 13 ร่วมแถลงข่าว สรุปผลการปฏิบัติงานการขจัดคราบน้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง ของบริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่งจำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ที่ห้องประชุมเคียงทะเล รีสอร์ท ริมหาดแม่รำพึง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางกองทัพเรือ ได้เข้าดำเนินการเก็บกู้ตั้งแต่ทราบเรื่อง โดยระดมสรรพกำลังของกองทัพเรือ ทั้งยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ดำเนินการเก็บกู้คราบน้ำมันทันที ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังพร้อมให้สนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งทาง ผบ.ทร. มีความเป็นห่วงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทั้งภาคการท่องเที่ยว ทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบ กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว และได้มีการปิดศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันรั่วดังกล่าว หลังไม่พบคราบน้ำมันแล้ว และส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปฟื้นฟูฯ ต่อไป

ด้าน นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 13 กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเล ชายหาดระยอง เป็นข้อมูลพื้นฐานความเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำทะเล ทั้งนี้ควรเลี่ยงลงเล่นน้ำบริเวณลานหินขาวหินดำ-ก้นอ่าว ในช่วงนี้ไปก่อน โดยเฉพาะเด็กเพราะมีผิวที่บอบบาง ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษ ต้องใช้เวลาในการเฝ้าระวังต่อไปอย่างน้อย 3 ปี เพื่อตรวจสอบว่าคุณภาพน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือไม่

ด้านมิสเตอร์ โรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคนช่วยกัน จนประสบผลสำเร็จในวันนี้ ทาง SPRC พร้อมฟื้นฟูให้กลับมาสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก พร้อมเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสียหายในครั้งนี้ด้วย

พบ ‘กระเบนนก’ สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ แหวกว่ายกลางทะเลใสที่ ‘หมู่เกาะสุรินทร์’

อช.หมู่เกาะสุรินทร์ เผยคลิปหาชมยาก ‘กระเบนนก’ แหวกว่ายอย่างสวยงาม ท่ามกลางน้ำทะเลสวยใสที่อ่าวไทรเอน เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

เพจ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ - Mu Ko Surin National Park เผยคลิปสั้นๆ แต่หาชมยากของ ‘กระเบนนก’ กำลังแหวกว่ายอย่างสวยงาม ท่ามกลางน้ำทะเลสวยใส โดยแอดมินเพจระบุว่า พบกระเบนนกตัวนี้บริเวณอ่าวไทรเอน ซึ่งนานๆ จะพบเห็นสักครั้ง

กระเบนนก (Spotted Eagle Ray) หรือกระเบนจุดขาว หรือกระเบนเนื้อดำ หรือกระเบนค้างคาว (ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Aetobatus ocellatus)

กระเบนนก ได้รับฉายาว่าเป็น ‘วิหคแห่งท้องทะเล’ เป็นสัตว์ที่อยู่ในบัญชีแดง (Red List) ของ IUCN องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มีสถานภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (Vulnerable) ในระดับโลก

สหรัฐฯ เสียงแข็ง ปฏิเสธส่งอาวุธชนกลุ่มน้อย บอกสื่ออย่าเชื่อ ‘โซเชียลมีเดีย’

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) Mr. Michael Heath อุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าวสหรัฐฯ สนับสนุนอาวุธให้กับชนกลุ่มน้อยต่อสู้กับกองทัพเมียนมาตามแนวชายแดนว่า ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนยุทโธปกรณ์ให้กับฝ่ายตรงข้ามเมียนมา เรากับไทยช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมและวัคซีน อย่าเชื่อสิ่งใดที่อ่านในโซเชียลมีเดีย และขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่เป็นความจริง

'แอมเนสตี้' เรียกร้องประชาคมโลกใช้โอลิมปิก กดดันให้มีการปรับปรุงสิทธิมนุษยชนในจีน

'แอมเนสตี้' เรียกร้องประชาคมโลกใช้โอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิก ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน 4 - 20 ก.พ. นี้ เป็นโอกาสในการกดดันให้มีการปรับปรุงสิทธิมนุษยชนในประเทศจีน

4 ก.พ. 65 - แอมเนสตี้เรียกร้องประชาคมโลกต้องใช้โอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิกเป็นโอกาสในการกดดันให้มีการปรับปรุงสิทธิมนุษยชนในประเทศจีน ซึ่งมหกรรมกีฬานี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 20 กุมภาพันธ์นี้ ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

เมืองหลวงของจีนจะได้ต้อนรับทัพนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และนักการทูตจากทั่วโลก ในการแข่งขันที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 4 กุมภาพันธ์ แต่มหกรรมกีฬานี้จะเกิดขึ้นท่ามกลางการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องหลายประการในประเทศจีน

อัลคัน อาคาด นักวิจัยเกี่ยวกับประเทศจีน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “แม้มีความคาดหวังว่าการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งจะเป็นมหกรรมกีฬาในความทรงจำ แต่คนที่เฝ้ารอดูไม่ควรเพิกเฉยต่อปัญหาซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของจีน นักกฎหมายและนักกิจกรรมต้องถูกจำคุกเพียงเพราะทำงานของตนอย่างสงบ เหยื่อผู้ถูกละเมิดทางเพศต้องเผชิญกับบทลงโทษเพียงเพราะกล้าออกมาเปิดโปง มีการคาดการณ์ว่าในแต่ละปีมีผู้ถูกประหารชีวิตหลายพันคน กลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมจำนวนมากต้องเผชิญกับการถูกกักขัง ถูกทรมานและประหัตประหารอย่างเป็นระบบในค่ายกักกัน”

“การแข่งขันครั้งนี้ไม่ควรถูกใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากสถิติด้านสิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายลงของจีน ในทางตรงกันข้าม ควรถูกใช้เป็นโอกาสเพื่อกดดันให้จีนแก้ปัญหาเหล่านี้”

ไอโอซีควรประกันให้มีการทำตามสัญญา

รัฐบาลจีนให้หลักประกันหลายประการเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว รวมทั้งการเคารพเสรีภาพสื่อ สิทธิด้านแรงงาน “การพลัดถิ่นฐาน” และประกันโอกาสอย่างแท้จริงที่จะให้มีการเดินขบวนโดยสงบระหว่างการแข่งขันครั้งนี้

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ดำเนินการอย่างเต็มที่และให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการปฏิบัติเพื่อตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนต่อสาธารณะ ก่อนและระหว่างการแข่งขันครั้งนี้

“สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกถูกละเมิดอย่างเป็นระบบในประเทศจีน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ไอโอซีและคณะกรรมการโอลิมปิกของชาติต่างๆ ในการแข่งขันครั้งนี้ ต้องเคารพความต้องการของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ด้านกีฬาที่ต้องการพูดถึงปัญหาสิทธิมนุษยชน รวมทั้งประเด็นที่ถูกมองว่า “ละเอียดอ่อน” สำหรับทางการจีน”

“ไอโอซียังต้องยืนยันว่า รัฐบาลจีนปฏิบัติตามคำสัญญาที่จะประกันให้เกิดเสรีภาพของสื่อมวลชน ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ถูกปิดกั้นทั้งสำหรับนักข่าวชาวจีนและนักข่าวต่างประเทศ และให้การประกันว่าผู้ที่ต้องการชุมนุมประท้วงโดยสงบในระหว่างการแข่งขันครั้งนี้จะสามารถกระทำการเช่นนั้นได้” อัลคัน อาคาดกล่าว

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้ตัวแทนรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมทั้งผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชน และจัดให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระสำคัญสุดในการหารือกับทางการจีน

อัลคัน อาคาดกล่าวเสริมว่า “โลกต้องเรียนรู้จากบทเรียนของโอลิมปิกเมื่อปี 2551 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่งเช่นเดียวกัน ตอนนั้นรัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะปรับปรุงสิทธิมนุษยชน แต่การปรับปรุงดังกล่าวกลับไม่เคยเกิดขึ้นจริงอย่างที่เคยสัญญาไว้”

“โอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่งในปีนี้ จะต้องไม่กลายเป็นเพียงโอกาสของการใช้กีฬาในการฟอกตนเองของทางการจีน และประชาคมโลกต้องไม่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมเพื่อโฆษณาชวนเชื่อในครั้งนี้ด้วย”

นักกิจกรรมถูกควบคุมตัวในจีน

ก่อนการแข่งขันครั้งนี้จะเริ่มขึ้น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เปิดตัวการรณรงค์ “ปล่อยตัวบุคคลทั้งห้า” (‘Free the Five’) เพื่อเน้นให้เห็นชะตากรรมของนักกิจกรรมชาวจีนทั้งห้าคน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบุคคลจำนวนมากที่ถูกควบคุมตัวเพียงเพราะการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออก ได้แก่ จาง จ่าน นักข่าวพลเมือง อิลฮัม โทห์ทิ ศาสตราจารย์ชาวอุยกูร์ หลี่ เชี่ยวฉู่ นักกิจกรรมด้านสิทธิแรงงาน กาว จื้อเซิ่ง ทนายความสิทธิมนุษยชน และรินเชน จูลทริม บล็อกเกอร์ชาวทิเบต

“การคุมขังโดยไม่เป็นธรรมต่อนักกิจกรรมทั้งห้าคน สะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับความเห็นต่างของรัฐบาลจีน อีกทั้งยังสะท้อนความพยายามที่จะลงโทษผู้เห็นต่างอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

“ถ้ารัฐบาลจีนต้องการใช้โอลิมปิกเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างภาพสัญลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ทางการจีนก็ควรเริ่มจากการปล่อยตัวผู้ที่ถูกดำเนินคดีหรือถูกควบคุมตัวเพียงเพราะการใช้สิทธิมนุษยชนของตน” อัลคัน อาคาดกล่าว

หุ้นส่วนร้านโอมากาเสะ ขอโทษปมคอมเมนต์แรง ยัน!! ไม่คิดเหยียดใคร ทำไปเพราะอารมณ์

หลังเกิดกรณียูทูบเบอร์ดัง ‘แจ็ก แปปโฮ’ ขึ้นไปยืนเหยียบไปบนบาร์ร้านโอมากาเสะ จนกลายเป็นประเด็นร้อนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมดังกล่าว อีกทั้งในด้าน ดีเจกฤษ-กฤษ ชลาธรทรัพย์ อดีตดีเจชื่อดัง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร้านยังตอบคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ‘คนที่ติไม่มีเงินมากินครับ ได้แต่กดคีย์บอร์ดอยู่บ้าน ตอนนี้ลูกค้าจองเต็มเลย’ ด้วยนั้น

เช้าวันนี้ (4 ก.พ. 65) ที่ร้าน MANEKU OMAKASE เภสัชกร ดร. ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี และ ดีเจกฤษ-กฤษ ชลาธรทรัพย์ ก็ได้จัดแถลงข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดย ดร.ปัณณวิช กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันบอร์ดบริหารก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนโต๊ะทั้งหมดแล้ว สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่โทษใคร ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

“ทางเราขอเป็นตัวแทนออกมาขอโทษ แล้วก็รับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” เขากล่าว

ขณะเดียวกันยังบอกด้วยว่าต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยจะอธิบายให้ลูกค้าทราบว่าเป็นกฎของร้าน

ด้าน ดีเจกฤษ ให้รายละเอียดเพิ่มว่า วันดังกล่าวเป็นการเหมาร้านจัดไพรเวตดินเนอร์ เพื่อเปิดตัวซิงเกิลใหม่ของหมอสุนิล ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้คุยกับหมอสุนิลแล้ว ขณะที่ ‘แจ็ก แปปโฮ’ หรือ ‘จาตุรงค์ พาโพธิ์’ ก็ฝากขอโทษมา

“ทุกคนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้”

สำหรับกรณีคอมเมนต์ ‘คนที่ติไม่มีเงินมากินครับ ได้แต่กดคีย์บอร์ดอยู่บ้าน’ ทั้งยังว่า ‘ตอนนี้ลูกค้าจองกันเต็มเลยครับ’ ของเขาที่หลายคนมองว่าเป็นการเหยียดคนอื่น ดีเจกฤษ ได้กล่าวขอโทษพร้อมกับยกมือไหว้

“ก่อนอื่นต้องโทษจริงๆ สำหรับถ้อยคำของผมที่ไม่เหมาะสม อาจจะเป็นด้วยอารมณ์หลายๆ อย่าง ที่เราไม่คาดคิด เราโต้ตอบกับเพื่อนรุ่นที่พี่สนิทในเฟซบุ๊กของเรา แล้วใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ซึ่งผมก็ขอน้อมรับความผิด ผมขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกหรือเหยียดหยามลูกค้า หรือไม่ให้เกียรติลูกค้า แต่ว่าเอาเป็นว่าผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกครั้งต่อไปก็แล้วกันครับ ขอบคุณครับ”

ในส่วนของลูกค้า ดีเจกฤษ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุยังไม่ได้เปิดรับจองลูกค้าใหม่ๆ เพราะร้านจะปิดชั่วคราวเพื่อเปลี่ยนโต๊ะ

เมื่อถามถึงความรู้สึกว่ากลัวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับร้านว่าคนจะไม่กล้ามาจองหรือไม่นั้น ทาง ดร.ปัณณวิชญ์ กล่าวว่า “ทางเราพยายามทำให้ดีที่สุด ให้ลูกค้าพอใจ สบายใจ ซึ่งในเรื่องความสะอาดเราเคลียร์หมดแล้วว่าจะทำตามที่ตกลงทั้งหมด ส่วนเรื่องของความเชื่อมั่น แต่ละคนที่อยากจะมาทานหรือไม่อยากจะมาทาน อันนี้เป็นสิทธิ์ของลูกค้า ซึ่งเรายอมรับกับการที่เขาจะมาคอมเมนต์ติชมหรืออะไรต่างๆ”

ส่วนดราม่าเรื่องคอมเมนต์ของดีเจกฤษที่เกิดขึ้น ดีเจกฤษ เสริมอีกว่า “บางทีอารมณ์น้อยใจน่ะครับ คือแบบทางร้านยังไม่ได้มาชี้แจง บางทีหลายๆ คนเข้ามา คืออารมณ์น้อยใจกับเพื่อนเรา เพื่อนรุ่นพี่สนิท ในเฟซบุ๊ก ก็อย่างที่ผมบอก ขอโทษจริงๆ”

อาสาสมัครแรงงาน ผู้ประกันตน ผู้ประกอบการ SMEs จ.เพชรบูรณ์ ปลื้ม !! รมว.เฮ้ง ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจถึงที่ 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบูธกิจกรรมการให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเพชรบูรณ์ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

โดยมี นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเขาค้อ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย สำหรับการตรวจเยี่ยมบูธกิจกรรมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเพชรบูรณ์ในครั้งนี้ ประกอบด้วย โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ พบปะอาสาสมัครแรงงาน สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงาน SMEs และพบปะแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ/ผลิตภาพสถานประกอบการ โครงการส่งเสริมสวัสดิการแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง เยี่ยมผู้ประกันตนทุพพลภาพ ซึ่งผ่านการฝึกอาชีพจากศูนย์ฟื้นฟูฯ และนำผลิตภัณฑ์มานำเสนอ รวมทั้งพบปะให้กำลังใจผู้ประกันตน ม.40 จังหวัดเพชรบูรณ์อีกด้วย 

โดย นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันนี้ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาตรวจเยี่ยมและพบปะผู้ประกอบการ SMEs อาสาสมัครแรงงาน รวมทั้งผู้ประกันตน ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งทุกท่านเป็นกลไกสำคัญในการร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 
รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน กระทรวงแรงงานได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ อาทิ  การเยียวยานายจ้าง ผู้ประกันตน ม.33, ม.39 และ ม.40 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีนายจ้าง จำนวน 721 ราย เป็นเงิน 17,658,000 บาท ผู้ประกันตนรวม 3 มาตรา จำนวน 285,280 คน เป็นเงิน 2,798,760,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,816,418,000 บาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top