Wednesday, 2 July 2025
NEWS

เชียงใหม่ - กองพันสีขาว สังคมปลอดภัยจากยาเสพติด กองบิน ๔๑

เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕ กองบิน ๔๑ จัดกิจกรรมโครงการกองพันสีขาว สังคมปลอดภัยจากยาเสพติด กองบิน ๔๑ โดยมี นาวาอากาศเอก วัฒนา บัวชุม รองผู้บังคับการกองบิน ๔๑ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย นาวาอากาศโท ภูมิพัฒน์ เลิศวัฒนาสิรภัทร ผู้บังคับกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน ๔๑, ข้าราชการกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน ๔๑ และทหารกองประจำการ กองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน ๔๑ ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ณ หอประชุมเดชะตุงคะ กองบิน ๔๑

Good Morning THE STATES TIMES | ประจำวันที่ 30 มีนาคม 2565

เช้านี้มีอะไรอัปเดต!!
#GoodMorningTHESTATESTIMES
ประจำวันที่ 30 มีนาคม 2565

พบกับประเด็นข่าวน่าลิงก์ Good Morning THE STATES TIMES
ข่าวยามเช้าที่จะมาสแตนบาย ทุกวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป
โดย ปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา

.

.

บ้านเราแซ่บกว่า!! 'เจ๊ปอง ท็อปนิวส์' โพสต์หมดทุกข์หมดโศกแล้ว หลังข่าวสะพัด ถอนตัวร่วมผลิตข่าวกับช่อง 5 

29 มี.ค.2565 - จากกรณี รายการ "ข่าวเที่ยง ททบ.5" ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ดำเนินรายการโดย นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก และ นางสาวกิตติมา ธารารัตนกุล ถูกตัดสัญญาณกะทันหัน ระหว่างเวลา 12.51 น. เมื่อ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสองกำลังนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ทั้งนี้ รายการดังกล่าว มีบริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ GMC กลุ่มที่มาจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์ (Top News) ของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้ร่วมผลิตรายการส่งสัญญาณผ่านอินเทอร์เน็ตระบบ Live U จากสตูดิโอท็อปนิวส์ โครงการธนาซิตี้ ที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ ไปยัง ททบ.5 สนามเป้า

ต่อมามีกระแสข่าวว่า Top News ขอถอนตัวจากการร่วมผลิตข่าวทั้งหมด โดยมีผลวันที่ 31 มี.ค. นี้ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวอีกครั้งจาก นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "กราบสวัสดีค่ะ หมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัยนะคะ #ท็อปนิวส์77 บ้านเราแซ่บกว่า สบายใจกว่า"

"บิ๊กบี้” เยือนผู้นำทหาร สปป.ลาว  สานสัมพันธ์ย้ำความร่วมมือชายแดนพัฒนาภูมิภาคอย่างยั่งยืน 

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.พร้อมด้วย พลตรีหญิง พิมพ์พิศา จิตต์แก้วแท้ นายกสมาคมแม่บ้านทหารบก และคณะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 29 – 30 มีนาคม 2565 ภายใต้ การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของทั้งสองประเทศ 

โดยผบ.ทบ.เข้าเยี่ยมคำนับ พลเอก จันสะหมอน จันยะลาด รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศหารือด้านความร่วมมือระหว่างราชอาณาจักรไทยกับ สปป.ลาว 

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงมิตรภาพระหว่างกองทัพบกไทยและกองทัพประชาชนลาว ที่มีมาอย่างยาวนานถึง 71 ปี โดยเฉพาะการเยือนระหว่างผู้นำทางทหารของทั้งสองประเทศและยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมใดๆอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อไป อีกทั้งได้ชื่นชมการบริหารจัดการโควิด-19 ของ สปป.ลาว ที่มีความรวดเร็ว ทั้งการจัดหาวัคซีนและความเข้มงวดในมาตรการ 

ในขณะที่พล.อ.จันสะหมอน กล่าวว่าทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นร่วมกันดูแลชายแดนให้มีความสงบเรียบร้อยพร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาทั้งทางบกและทางน้ำ รวมถึงการจัดกิจกรรมเช่น การกีฬา การแพทย์ทหาร การฝึกบรรเทาภัยเพื่อให้พร้อมรับภัยพิบัติต่างๆ 

จากนั้นผู้บัญชาการทหารบก ได้เข้าหารือข้อราชการกับพล.ต.คำเลียง อุทะไกสอน หัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ  และ พลจัตวา พันแสง บุนพัน รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ  โดยแสดงความชื่นชม สปป.ลาวที่กำหนดนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เมื่อสิงหาคม 2564 ส่งผลให้มีการจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมากในห้วงที่ผ่านมาและยังได้เสนอให้มีการฝึกร่วม/ผสม ของหน่วยรบพิเศษในลักษณะการฝึกแลกเปลี่ยนของหน่วยทหารขนาดเล็กและการแลกเปลี่ยนศึกษาดูงานในด้านอื่นๆ

ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าโวย โดนตำรวจ “รีดไถ” แนะ ปคบ. ให้ความชัดเจนผู้ใช้ผิดหรือไม่ ด้านทนายเกิดผลเชื่อผู้ใช้ไม่ผิด

เฟซบุ๊กเพจ "บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร" โพสต์ถามความคิดเห็นของผู้บุหรี่ไฟฟ้าว่าเคยโดนเจ้าที่หน้ารัฐจับและปรับเพราะพกบุหรี่ไฟฟ้าบ้างหรือไม่ พร้อมข้อความ "ไหนลองเล่าซิ ที่ไหน เท่าไหร่" ซึ่งมีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาแชร์ประสบการณ์กว่า 490 ราย และมีการแชร์โพสต์ออกไปกว่า 70 ครั้ง โดยส่วนใหญ่เล่าให้ฟังว่าโดนจับและต้องจ่ายค่าปรับนอกระบบตั้งแต่ 2 พัน – 7 หมื่นบาทพร้อมยึดของกลาง บางรายต้องนอนโรงพัก 1 คืนและขึ้นศาล บางรายถูกเพิ่มข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ขณะที่บางรายต่อรองกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอแลกกับอิสรภาพและการไม่ต้องเป็นคดีความ

ผู้ใช้รายหลายยังแสดงความคิดเห็นด้วยว่า ตำรวจเองก็ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันเต็มโรงพัก บางรายก็ว่าตำรวจจับแต่คนใช้ ส่วนคนวางขายอยู่เต็มตลาดกลับปล่อยให้ขายได้ เช่นความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า “เคยโดนเรียกค่าปรับ 1 หมื่นบาทแถวเทพารักษ์ เพราะวางไว้ตรงที่วางแก้วน้ำในรถ แล้วตำรวจส่องไฟเข้ามาเห็น เลยโดนให้จอดข้างทาง ค้นรถ แล้วยึดบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย” อีกรายหนึ่งบอกว่า “เคยโดนจับแต่รอดมาได้ เพราะแลกกับเอ็มร้อย 2 ขวด”

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ แอดมินเพจ "บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร" และตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ หรือ ECST เปิดเผยว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ถือเป็นการทุจริตประพฤติมิชอบ และเป็นการเอากฎหมายมาทำร้ายประชาชน "ปัญหาผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติถูกรีดไถ เรียกรับเงินค่าปรับแบบไม่ถูกต้อง มีมานานแล้วและเกินกว่าเหตุไปมาก ซึ่งต้นทางมาจากการห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้าและข้อกฎหมายที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความผิดของผู้ใช้ เลยกลายเป็นการเปิดช่องให้ตำรวจทุจริตเรียกเงินจากผู้ใช้ ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วกว่า 70 ประเทศกลับให้มีการควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย มีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน พวกเราเห็นว่าประเทศไทยควรต้องปลดล็อกแบนบุหรี่ไฟฟ้า แล้วเอามาควบคุมให้ถูกกฎหมายแทน ผู้ใช้จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อการทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบนี้ จึงขอเรียกร้องให้ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. ได้ออกมาให้ความกระจ่างกับสังคมว่าการจับกุมผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและการตั้งศาลเตี้ยแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ทำได้หรือไม่”

“EA- MEA -JR” ยักษ์ใหญ่พลังงานไฟฟ้าผนึกกำลังร่วมพัฒนาโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ (EV Smart Charging Station) เพิ่มความคล่องตัวการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าของไทย

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่ง บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด (EMN) บริษัทย่อย ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) โดย นายวิลาส   เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และบมจ. เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) โดยคุณจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นผู้ร่วมลงนาม ใน "โครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า"(EV Smart Charging Station) เพื่อสนับสนุนความคล่องตัวให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ประเดิม 2 โครงการแรก พร้อมต่อยอดความร่วมมือยานยนต์ไฟฟ้าชนิดอื่น "สมโภชน์ อาหุนัย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ตั้งเป้าผลิตยานยนต์ไร้มลพิษให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2573

นาย สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด (EMN) ซึ่งบริษัทย่อย ของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้เครื่องหมายการค้า “EA Anywhere” ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับการไฟฟ้านครหลวง และบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR ในโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Smart Charging Station)

สำหรับวัตถุประสงค์ของความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า โดยส่งเสริมการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้มีความคล่องตัวสูงขึ้น จึงได้ร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ (EV Smart Charging Station) ตลอดจนสร้างโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ไฟฟ้า  โดย กฟน. จะอำนวยความสะดวกในการดำเนินการขอใช้ไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า และ JR จะเป็นผู้วางแผนและดำเนินโครงการด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทร่วมกับ EMN

ต่างสายพันธ์ติดซ้ำได้!! ศูนย์จีโนมฯ เผยเคยติดเชื้อโอมิครอน BA.1 ติด BA.2 ซ้ำได้ แม้เชื้อเหมือนกันแต่ไม่ทั้งหมด - พบได้น้อยแค่ 1 ในร้อย 

เพจศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล เปิดเผยถึงโอกาสที่จะติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.2” ซ้ำหลังจากเคยติดเชื้อ “BA.1” ว่าเกิดขึ้นได้ แต่พบไม่บ่อย เพียงร้อยละ 1 โดยไม่พบอาการรุนแรงในผู้ติดเชื้อซ้ำ ที่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวใน รพ. หรือเสียชีวิต ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้มีการติดเชื้อซ้ำได้ เนื่องจาก BA.1 และ BA.2 ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว หากเปรียบเทียบกับคนเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายคือ BA.1 และ B A.2 เหมือนเด็กแฝด มีความเหมือนกันในระดับพี่น้องจากพ่อแม่คนเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด บริเวณหนามบางส่วนจะมีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนกัน BA.1 บริเวณหนามกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.2 จำนวน 7 ตำแหน่ง BA.2 บริเวณหนามกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.1 จำนวน 5 ตำแหน่ง ทำให้ภูมิคุ้มกันแอนติบอดีที่ได้จากการติดเชื้อ BA.1 ไม่อาจปกป้องการติดเชื้อจาก BA.2 ได้ 100%

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การติดเชื้อโควิดต่างสายพันธุ์ สามารถติดเชื้อได้ เช่น หายจากสายพันธุ์เดลตา ก็ติดสายพันธุ์โอมิครอนซ้ำได้ ส่วนกรณีสายพันธุ์โอมิครอนเหมือนกัน แต่เป็นคนละสายพันธุ์ย่อย เช่น BA.1 กับ BA.2 ยังเป็นเรื่องใหม่ ต้องติดตามรายละเอียดข้อเท็จจริงอีกครั้ง ตามหลักแล้วก็มีโอกาส แต่จะ 1 ในแสน หรือ 1 ในล้าน ต้องดูข้อมูลประกอบ รวมถึงดูระยะเวลาด้วย เนื่องจากเมื่อติดเชื้อแล้วจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อ ส่วนใหญ่จะไม่ติดซ้ำในระยะเวลาสั้นๆ ยกเว้นคนที่มีปัญหาเรื่องการสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย

เซ่นข่าวสงคราม!! ผอ.ททบ.5 หลุดเก้าอี้ เซ่นสงครามรัสเซีย-ยูเครน เจ้าตัวปัด โดนปลด แต่ขอพ้นหน้าที่เอง

29 มี.ค.2565 - จากกรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานบอร์ดถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) มีคำสั่งให้ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 พ้นจากหน้าที่ โดยให้ พล.ท.วิสันติ สระศรีดา เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน เป็นต้นไป เนื่องเนื่องจากกรณีเข้าพบทูตรัสเซีย-ยูเครน

พล.อ.รังษี ยอมรับว่า ตนทำหนังสืออนุมัติถึง ผบ.ทบ.ขอพ้นหน้าที่ ผอ.ททบ. ด้วยเหตุผลและความจำเป็นส่วนตัว ซึ่ง ผบ.ทบ เซ็นอนุมัติพ้นหน้าที่ และไม่ขอพูดอะไร พูดไปก็ไม่มีประโยชน์

"ไม่ใช่การปลด แต่ผมขออนุมัติพ้นจากหน้าที่เอง อย่าบอกว่าปลด ไม่แฟร์กับ ผบ.ทบ. ผมพึ่งได้รับคำสั่งเมื่อเช้า ก่อน ผบ.ทบ.เดินทางไปลาว" พล.อ.รังษี กล่าว

เมื่อถามว่า เกิดจากกรณีข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือไม่ พล.อ.รังษี กล่าวว่า เป็นเรื่องของสื่อที่ต้องไปหาข้อมูลเอาเอง ตนไม่มีอยากพูดอะไร เพราะตนเป็นคู่กรณี การพูดถึงบุคคลที่สาม เดี๋ยวทัวร์จะลง

ถามย้ำว่า เป็นกรณีที่บริษัทร่วมผลิต มีการนำเสนอข่าวรัสเซีย-ยูเครน ทั้งที่ถูกสั่งห้ามมาก่อนหน้านี้ พล.อ.รังษี กล่าวว่า สื่อต้องไปหาข้อมูลเอง เพราะตนพูดอะไรไม่ได้จริงๆ พูดไป ก็ไม่ดีกับใครทั้งสิ้น และความจริงก็เป็นไปตามที่ตนพูด โดยสื่อกับก็ติดตามข่าวและรู้เท่าๆกัน

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ไม่พอใจข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.รังษี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ แต่ย้ำว่า ตนเป็นคนขออนุมัติ ผบ. ทบ.พ้นจากหน้าที่เอง ด้วยเหตุผลและความจำเป็นส่วนตัว

“ผบ.ทสส.” ประธาน พิธีส่งกำลังพล กองร้อยทหารช่าง เฉพาะกิจไทย/เซาท์ซูดาน บก.ทท. ก่อนการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของUN ในสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน 

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่กรมการทหารช่าง จังหวัดราชบุรี พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพล กองร้อยทหารช่าง เฉพาะกิจไทย/เซาท์ซูดาน จำนวน 273 นาย ของกองทัพไทย ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (UN) ในสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (United Nations Mission in South Sudan : UNMISS) ผลัดที่ 3

การส่งกำลังพลฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการผลัดเปลี่ยนกำลังระหว่าง กำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ตั้งแต่เดือน กันยายน 2563 จนถึงปัจจุบัน กับ กำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 3 เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีที่มีต่อ UN

โดยกำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 3 จำนวน 273 นาย มีกำหนดเดินทางออกจากประเทศไทย ไปปฏิบัติภารกิจ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ในวันที่ 6 เมษายน 2565 ทั้งนี้ในห้วงเวลาที่ผ่านมา กองกำลัง กองร้อยทหารช่างของไทย ได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติและองค์การต่าง ๆในความเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะคุณสมบัติพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากชาติใด ๆ ได้แก่ การปฏิบัติงานทางการช่างที่มีประสิทธิภาพ ที่ได้รับการมอบหมายจากฝ่ายวิศวกรรมประจำภารกิจ ตลอดจนการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาพัฒนาเพื่อความมั่นคงอย่างยั่งยืน ให้แก่ประชาชนชาวสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ควบคู่ไปกับการปฏิบัติภารกิจทางยุทธวิธี ดังนั้น กองกำลังของไทย จึงได้รับการพิจารณาจากสหประชาชาติ ตามพันธกรณีให้เข้าร่วมการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นบทบาท เกียรติภูมิ และความภาคภูมิใจของประเทศไทยในเวทีโลก รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้กับกำลังพลของกองทัพไทยในการปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังชาติต่างๆ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปสู่ความเป็นเลิศตามมาตรฐานสากลต่อไป

คนญี่ปุ่นหนุน!! คะแนนนิยม ‘คิชิดะ’ ขยับขึ้น 6 จุด หลังดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

โตเกียว (รอยเตอร์ส/เกียวโด) - ผลการสำรวจความเห็นชาวญี่ปุ่นพบว่า ความนิยมของนายกรัฐมนตรีเพิ่มขึ้น 6 จุด หลังคว่ำบาตรรัสเซีย ที่ยกกองทัพบุกยูเครน

ความนิยมของนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 6 จุด อยู่ที่ร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ โดยโพลล์หยั่งเสียงชาวญี่ปุ่นพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามราว 2 ใน 3 เห็นด้วยที่รัฐบาลญี่ปุ่นดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียยกกองทัพบุกยูเครน ซึ่งญี่ปุ่นดำเนินการต่อรัสเซียหลายอย่าง รวมถึงอายัดทรัพย์สินของบุคคลและบริษัทรัสเซีย ตลอดจนถอดรัสเซียออกจากประเทศที่ได้สิทธิพิเศษทางการค้า หรือ MFN

ผู้ตอบแบบสอบถามราวร้อยละ 44 ที่ดำเนินการสำรวจความเห็นโดยหนังสือพิมพ์นิคเคอิเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ระบุว่า พวกเขาเห็นด้วยที่รัฐบาลญี่ปุ่นคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามราวร้อยละ 41 ระบุว่าควรจะลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียอย่างรุนแรง ส่วนชาวญี่ปุ่นร้อยละ 90 เห็นด้วยที่รัฐบาลตัดสินใจรับผู้อพยพจากยูเครน

กระบี่ - RSPO ผลิตวิทยากรชำนาญการ มุ่งยกระดับเกษตรกรสวนปาล์มสู่การผลิตน้ำมันปาล์มยั่งยืน

28 มีนาคม 2565 ณ ห้องประชุมโรงแรมพีซ ลากูนา รีสอร์ท แอนด์ สปา กระบี่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่  - สถาบันฝึกอบรมเกษตรกรรายย่อย RSPO หรือ องค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน ผู้นำด้านมาตรฐานการผลิตปาล์มยั่งยืนของโลก จัดฝึกอบรมหลักสูตรวิทยากรชำนาญการ (Master Training) เพื่อยกระดับองค์ความรู้ด้านการผลิตปาล์มน้ำมันยั่งยืนแก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มของไทย ให้แก่ ผู้จัดการ พี่เลี้ยงเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปาล์มยั่งยืน จากจังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พังงา อาจารย์จากมหาวิทยาเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จำนวน 20 ท่าน
 

เพราะความต้องการใช้น้ำมันปาล์มที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชนและแรงงาน  จึงเกิดกระแสเรียกร้องให้ภาคธุรกิจปรับระบบการผลิตและการใช้น้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน สำหรับประเทศไทย ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่ คือ เกษตกรรรายย่อย ซึ่งเป็นผู้ผลิตต้นน้ำของห่วงโซ่การผลิตยังมีข้อจำกัดด้านโอกาสรวมทั้งการส่งเสริมจากภาครัฐและเอกชนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อปรับเปลี่ยนและยกระดับการผลิตน้ำมันปาล์มจากวิถีดั้งเดิมไปสู่มาตรฐาน RSPO

เกษตรกรรายย่อยชาวสวนปาล์ม ถือเป็นหัวใจสำคัญในการพลิกอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันไทยสู่ความยั่งยืน จากข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรปีพ.ศ.2562 ระบุว่ามีเนื้อที่ยืนต้นปาล์มน้ำมันรวมของประเทศไทย 6,102,852 ไร่ หากคิดสัดส่วนของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO ประเทศไทย คาดว่าภายในปีนี้จะมีประมาณ 244,212.71 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 4 ของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันรวมของประเทศไทย ดังนั้นเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตปาล์มน้ำมันสู่มาตรฐานสากล จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยทักษะองค์ความรู้ด้านการจัดการสวนอย่างยั่งยืน และการรับรองมาตรฐานสากลที่จะช่วยให้สามารถเข้าสู่ตลาดโลกได้

ขวัญใจวัยรุ่น!! "ปิยบุตร" สุดป๊อบ! คณะก้าวหน้าบูธเเตก  ปชช. - นศ แห่ซื้อหนังสือ พร้อมขอลายเซ็นพรึ่บ

ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 50 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 20 บรรยากาศที่บูธ A14 ‘ คณะก้าวหน้า ’ มีนักศึกษาเเละประชาชนที่สนใจเเละผู้สนับสนุนติดตามในผลงานของคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล เดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 17.15 น. "ปิยบุตร แสงกนกกุล" แกนนำคณะก้าวหน้า เดินทางมาถึงบูธคณะก้าวหน้า เพื่อแจกลายเซ็นให้สำหรับนักศึกษา ประชาชน ที่เดินทางเข้ามาซื้อหนังสือ “จนกว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”

“ถามว่า เราจะสู้กันไปเมื่อถึงจะชนะ คำถามนี้มันสะท้อนให้เห็นว่า ประชาธิปไตยมันอาจจะไม่ใช่จุดสิ้นสุดก็ได้ เมื่อบริบทการเมืองเปลี่ยนไป มันก็เปลี่ยนไปตาม ปัญหาระดับใหญ่คือ โครงสร้างทางการเมือง มันไปกระจุกตัวอยู่ไม่กี่คน ตั้งเเต่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่มา สิ่งสำคัญคือ เราต้องการเปลี่ยนขั้วการเมืองเดิม ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายอำนาจรัฐ ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เเละนี่เป็นโจทย์ใหญ่ที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันไปต่อสู้กับกลุ่มทุนอำนาจใหญ่ที่มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของประเทศ"  ปิยบุตร กล่าว

“น้องๆ ที่มาซื้อหนังสือ หลายคนมาซื้อหนังสือตั้งแต่ตอนยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง จนวันนี้เขามีสิทธิที่จะเลือกตั้งเเล้ว นี่สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน นิวโหวตเตอร์มันเปลี่ยนไป เขาต้องการเห็นการเปลี่ยนเเปลงของสังคม ที่พวกเราจะส่งมอบอนาคตให้พวกเขาในวันข้างหน้า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผมคิดว่าเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ ที่คนกรุงเทพมหานคร ต้องตื่นตัวทางการเมือง หลังจากที่เราไม่ได้เลือกตั้งภายหลังการรัฐประหารของระบอบเผด็จการ “ ปิยบุตร กล่าวเพิ่มเติม

กลาโหมรัสเซีย โว บุกยูเครน 1 เดือนเป็นไปตามแผน ทำลายกองทัพเคียฟยับ เดินหน้าปลดแอก ‘ดอนบาสส์’

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันว่า การปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของตนกำลังดำเนินไปตามแผนการที่วางไว้ โดยสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญๆ ทั้งหมดของขั้นตอนแรกแห่งการปฏิบัติการได้อย่างสมบูรณ์ในภาพรวมแล้ว ทั้งนี้ ตามการแถลงข่าวครั้งใหญ่ของกระทรวงเมื่อวันศุกร์ (25 มี.ค.) ที่ผ่านมา

ตามการแถลงของกระทรวง กองทัพยูเครนประสบความสูญเสียอย่างร้ายแรง กล่าวคือ กำลังทางอากาศและกำลังป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนถูกทำลายแทบหมดสิ้น ขณะที่กองทัพเรือยูเครนไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปแล้ว เวลาเดียวกัน ดินแดนดอนบาสส์เกือบทั้งหมดได้รับการปลดแอกแล้ว

ผลการประเมินการปฏิบัติการ

“ในภาพรวม เป้าหมายสำคัญๆ ในขั้นตอนแรกของการปฏิบัติการครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว” รองเสนาธิการใหญ่ (General Staff deputy head) ของรัสเซีย พล.ท.เซียร์เก รุดสกอย (Colonel General Sergey Rudskoy) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้

เขาอธิบายต่อไปว่า จากการที่ศักยภาพทางการทหารของยูเครนถูกลดทอนลงไปอย่างสำคัญแล้วเช่นนี้ จะทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะรวมศูนย์ความพยายามหลักไปที่เป้าหมายสำคัญที่สุด อันได้แก่ การปลดแอกดินแดนดอนบาสส์ ขณะที่ตัวการปฏิบัติการเองจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อบรรลุ “เป้าหมายต่างๆ ที่วางเอาไว้โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด อย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ทั้งหมด”

พล.ท.รุดสกอย บอกว่า เวลานี้กองทหารรัสเซียได้เข้าล้อมเมืองใหญ่สำคัญๆ ของยูเครนเอาไว้จำนวนหนึ่ง ได้แก่ เคียฟ คาร์คอฟ เชอร์นิกอฟ ซูมี และนิโกลาเยฟ ส่วนเขตเคอร์ซอน และเกือบทั้งหมดของเขตซาโปโรชเย ต่างตกอยู่ใต้การควบคุมของฝ่ายรัสเซียอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“สาธารณชน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญบางคน ตั้งคำถามขึ้นมาว่าเราทำอะไรรอบๆ พวกเมืองใหญ่ของยูเครนที่ถูกล้อมหล่านี้ […] ตั้งแต่เริ่มต้นแล้วเราก็ไม่ได้มีแผนการบุกโจมตีเข้าไปในเมืองเหล่านี้ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการทำลาย และลดความสูญเสียในหมู่บุคลากรและในหมู่พลเรือนให้เหลือน้อยที่สุด” รุดสกอย กล่าว แต่ชี้ด้วยว่า ทางเลือกดังกล่าวไม่ใช่ว่าจะถูกบอกปัดไม่นำมาใช้กันเลย

ตามปากคำของนายทหารอาวุโสผู้นี้ อาวุธต่างๆ ของรัสเซีย “แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ และความไว้วางใจได้ในระดับสูง รวมทั้งมีความสามารถในการนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว”

เขาระบุว่า ระหว่างช่วงเดือนแรกของการปฏิบัติการ ทหารรัสเซียเสียชีวิตไป 1,351 คน ขณะที่บาดเจ็บ 3,825 คน

ความสูญเสียของฝ่ายยูเครน

สำหรับกองทหารยูเครน สูญเสียกำลังคนอย่างชนิดที่ไม่สามารถแก้ไขกอบกู้ได้เป็นจำนวนมากกว่า 14,000 คน ขณะที่จำนวนของการสูญเสียทั้งหมดทั้งที่เป็นพลทหารและนายทหารอยู่ที่ราวๆ 30,000 คน หรือเท่ากับประมาณ 11.5% ของบุคลากรในกองทัพยูเครน

รุดสกอยแจกแจงว่า กำลังทางอากาศและระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนนั้น “ถูกทำลายไปแทบหมดสิ้น” เวลาเดียวกันกองทัพเรือยูเครน “ไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปแล้ว”

สำหรับขบวนกองทหารภาคพื้นดินของยูเครนทั้ง 24 ขบวนล้วนประสบ “ความสูญเสียอย่างสำคัญ” และเนื่องจากว่ายูเครนนั้นไม่มีกำลังพลสำรองที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงบังคับให้ยูเครนต้องชดเชยกำลังที่สูญเสียไปด้วยการระดมพลกะเกณฑ์ทหารใหม่ๆ ตลอดจนการใช้หน่วยรักษาดินแดนที่ไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมอย่างถูกต้องเหมาะสม

ไม่เพียงเท่านั้น ยูเครนยังสูญเสียยานยนต์สู้รบของตนไปในจำนวนที่สำคัญ กล่าวคือ 65.7% ของรถถังและยานหุ้นเกราะทั้งหมด 42.8% ของปืนใหญ่สนามและปืนครกทั้งหมด 30.5% ของระบบยิงจรวดแบบหลายลำกล้องทั้งหมด และ 82% ของระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ เอส-300 และ บุค-เอ็ม 1 ของตน รวมทั้ง 85% ของระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี โตชกา-ยู ทั้งหมดก็ถูกกำจัดไปแล้ว

ยิ่งกว่านั้น สามในสี่ของเครื่องบินทหารของยูเครน และครึ่งหนึ่งของเฮลิคอปเตอร์ของยูเครนได้ถูกทำลายไปเรียบร้อย ส่วนในจำนวนโดรน บายรัคตาร์ ทีบี-2 จำนวน 36 เครื่อง ก็เหลืออยู่เพียงเครื่องเดียวเท่านั้นที่ยังใช้งานได้

กองทหารรัสเซียยังได้ดำเนินการโจมตีสนามบินทหารแห่งหลักๆ ของยูเครน 16 แห่ง ทำลายคลังยุทธสัมภาระและคลังแสงรวม 39 แห่ง คลังเหล่านี้เป็นที่เก็บรวบรวมมากกว่า 70% ของยานยนต์ทหาร อุปกรณ์ต่างๆ และเชื้อเพลิง ตลอดจนเครื่องกระสุนน้ำหนักมากกว่า 1 ล้านตัน อาวุธที่มีความแม่นยำสูงของรัสเซียยังโจมตีถูกโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางทหารแห่งสำคัญๆ 30 แห่ง

สถานการณ์ในดอนบาสส์

สำหรับสถานการณ์ในดอนบาสส์ รุดสกอยอธิบายว่า ระหว่างช่วงเดือนแรกของการปฏิบัติการ พื้นที่ส่วนสำคัญของสาธารณรัฐประชาชนโดเน็ตสก์ และสาธารณรัฐประชาชนลูกานสก์ ได้รับการปลดแอก คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 54% และ 93% ตามลำดับ ส่วนกองทหารบ้านของประชาชนของสาธารณรัฐทั้ง 2 ก็สามารถเข้าควบคุมเหนือชุมชนต่างๆ มากกว่า 276 แห่ง

กองทหารยูเครนในดอนบาสส์สูญเสียกำลังพลไปประมาณหนึ่งในสี่ หรือเท่ากับราวๆ 16,000 คน โดยที่ 7,000 คนในจำนวนนี้ไม่สามารถแก้ไขกอบกู้กลับมาได้อีกแล้ว

เวลานี้ กองกำลังของสาธารณรัฐประชาชนลูกานสก์ สู้รบอยู่ใกล้ๆ เซเวโรโดเน็ตสก์ และ ลิซิชฮานสก์ ขณะที่กองกำลังของสาธารณรัฐประชาชนโดเน็ตสก์ยังคงดำเนินการปลดแอกเมืองมาริอูโปล และเปิดการรุกในทางด้านตะวันตกของโดเน็ตสก์

นายทหารอาวุโสผู้นี้ระบุว่า มีผู้คนมากกว่า 23,000 คนจาก 37 ประเทศแสดงความพรักพร้อมที่จะเข้าสู้รบเพื่อดอนบาสส์ และมอสโกเสนอแนะให้สาธารณรัฐทั้งสองยอมรับความช่วยเหลือนี้ ทว่าสาธารณรัฐทั้งสองปฏิเสธข้อเสนอนี้

“พวกเขามีกำลังพลและอาวุธพอเพียงแล้ว” รุดสกอย อธิบาย

อย่างไรก็ตาม กองทหารรัสเซียได้ส่งมอบข้าวของทางทหารที่ยึดเอาไว้ได้ให้แก่สาธารณรัฐทั้งสอง ที่ควรต้องพูดถึงเป็นพิเศษก็คือ สาธารณรัฐทั้งสองได้รับมอบรถถังและยานหุ้มเกราะไปแล้ว 113 คัน ระบบขีปนาวุธต่อสู้รถถัง “เจฟลิน” 138 ชุด และเครื่องยิงระเบิดต่อสู้รถถัง NLAW 67 ชุด

ความช่วยเหลือจากฝ่ายตะวันตกที่ให้แก่ทางการเคียฟ

ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นการปฏิบัติการครั้งนี้ พวกรัฐต่างๆ ของตะวันตกได้ลำเลียงขนส่งชุดปืนใหญ่กว่า 100 หน่วย ระบบขีปนาวุธป้องกันทางอากาศแบบคนคนเดียวพกพาไปได้จำนวนเกือบ 900 ชุด  และอาวุธต่อสู้รถถัง 3,800 ชุด

“เราเห็นว่าการที่ฝ่ายตะวันตกลำเลียงขนส่งอาวุธเหล่านี้ไปให้ทางการเคียฟคือความผิดพลาดอย่างมโหฬาร การกระทำเช่นนี้มีแต่ทำให้การสู้รบขัดแย้งคราวนี้ยืดเยื้อออกไป เพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตาย และจะไม่สามารถส่งผลกระทบกระเทือนผลลัพธ์ของการปฏิบัติการ เป้าหมายแท้จริงของการลำเลียงขนส่งเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อสนับสนุนยูเครนเลย แต่เพื่อดึงลากยูเครนให้เข้าไปในการสู้รบขัดแย้งทางการทหารอย่างยืดเยื้อ “จนกระทั่งถึงพลเมืองชาวยูเครนคนสุดท้าย” รุดสกอย กล่าว

รองเสนาธิการใหญ่ของรัสเซียเตือนด้วยว่า มอสโกจะไม่ยอมปล่อยให้มีการลำเลียงขนส่งเครื่องบินและระบบป้องกันภัยทางอากาศไปถึงทางการเคียฟโดยไม่มีการติดตามใส่ใจ และจะ “ดำเนินการตอบโต้อย่างเหมาะสมในทันที” ถ้าหากมีใครพยายามจัดตั้งพื้นที่ห้ามบินขึ้นเหนือยูเครน

สำหรับจำนวนของพวกนักรบรับจ้างชาวต่างประเทศและนักรบชาวต่างประเทศในยูเครนนั้น รุดสกอย บอกว่าตอนแรกมี 6,600 คน แต่เวลานี้เริ่มลดลงมาแล้ว เรื่องนี้ไม่เพียงต้องขอบคุณการโจมตีด้วยความแม่นยำสูงใส่ฐานต่างๆ ของพวกเขาและค่ายฝึกต่างๆ ของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นพราะพวกเขาเองหลบหนีไปยังรัฐเพื่อนบ้านต่างๆ โดยที่ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ไม่มีนักรบรับจ้างชาวต่างชาติแม้แต่คนเดียวเดินทางไปยังยูเครน ขณะที่มีพวกนักรบ 285 คนหลบหนีไป

วางยาพิษ ‘เสี่ยหมี’ - นักสันติภาพยูเครน ระหว่างร่วมการเจรจาสันติภาพ 2 ประเทศ

วอลล์ สตรีท รายงานข่าวด่วนว่า โรมัน อับราโมวิช อดีตเจ้าของสโมสรฟุตบอล เชลซี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจของรัสเซีย ได้ถูกลักลอบวางยาพิษ พร้อมกับนักเจรจาเพื่อสันติภาพชาวยูเครน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในการประชุมที่กรุงเคียฟ มีผู้ถูกวางยาพิษทั้งสิ้น 3 คนด้วยกัน หนึ่งในนั้นรายงานข่าวยืนยันว่าเป็น โรมัน อับราโมวิช

โรมัน พร้อมด้วยผู้ประกอบการชาวรัสเซียอีกคนหนึ่งได้มีส่วนร่วมในการเจรจาร่วมกับตัวแทนของยูเครน  ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 3 มีนาคมได้เกิดขึ้นที่ยูเครน และการประชุมดำเนินไปจนถึงเวลาประมาณ 22:00 น.

Good Morning THE STATES TIMES | ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2565

เช้านี้มีอะไรอัปเดต!!
#GoodMorningTHESTATESTIMES
ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2565

พบกับประเด็นข่าวน่าลิงก์ Good Morning THE STATES TIMES
ข่าวยามเช้าที่จะมาสแตนบาย ทุกวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป
โดย ปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top