Wednesday, 24 April 2024
NEWS

จบกันแค่นี้!! 'อินเดีย'​ หยุดซื้อ​ '​Pfizer -​ Moderna'​ หันมาพึ่งพาวัคซีนตัวเอง | Knowledge Times EP.23

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
????จบกันแค่นี้!! 'อินเดีย'​ หยุดซื้อ​ '​Pfizer -​ Moderna'​ หันมาพึ่งพาวัคซีนตัวเอง

รัฐบาลกลางอินเดียตกลงใจที่จะไม่ซื้อวัคซีนเจ้าดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง Pfizer และ Moderna เพิ่ม โดยให้เหตุผลว่า วัคซีนที่พัฒนาเองในประเทศก็เพียงพอที่จะให้ฉีดให้กับประชาชนในประเทศแล้ว แถมยังมีราคาถูกกว่า สามารถจัดเก็บ และขนส่งด้วยตู้แช่ทั่วไป ในขณะที่วัคซีน mRNA ของสหรัฐฯ ต้องเก็บในอุณหภูมิระดับติดลบ ซึ่งในอินเดียยังมีความพร้อมตรงนี้ไม่มากพอ 

สำหรับวัคซีนสัญชาติอินเดีย ที่ผลิตได้เองในประเทศตอนนี้มีอยู่ 2 ตัวหลักๆ คือ Covishield หรือที่รู้จักอีกชื่อ คือ AstraZeneca ผลิตโดยบริษัท Serum Institute of India ที่พึ่งจะได้รับการรับรองจากอังกฤษ โดยสามารถเดินทางเข้าประเทศได้แบบไม่ต้องกักตัว หากฉีดครบ 2 โดส และ Covaxin วัคซีนสัญชาติอินเดียแท้ๆ ที่พัฒนาโดย Bharat Biotech

นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์อินเดียเพิ่งประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน DNA ตัวแรกของโลก ที่ชื่อว่า ไซคอฟ–ดี (ZyCoV-D) ผลิตโดยบริษัท ไซดัส คาดิลา (Zydus Cadila) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อ อยู่ที่ร้อยละ 66.6 เมื่อรับวัคซีนครบ 3 เข็ม โดยต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ ในการผลักตัวยาเข้าผิวหนังด้วยความเร็วสูง

อินเดีย จัดเป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลก และเคยได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นผู้กู้วิกฤติด้วยวัคซีน Covishield ที่จะสมทบเข้าโครงการ Covax ขององค์การอนามัยโลก แต่อินเดียมาเกิดการระบาดครั้งใหญ่ของ Covid-19 ในประเทศเสียก่อน รัฐบาลอินเดียจึงออกกฎหมายระงับการส่งออกวัคซีน Covid-19 ชั่วคราว

แต่ตอนนี้อินเดียสามารถควบคุมการแพร่ระบาดรุนแรงมาอยู่ในระดับที่รับมือได้แล้ว และได้ทยอยฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 800 ล้านโดสทั่วประเทศ ขณะที่กำลังผลิตวัคซีนเริ่มกลับมาเข้าที่ จนคาดว่าอินเดียจะสามารถกลับมาส่งออกวัคซีนได้ภายในเดือนตุลาคม 2021 นี้ 

จากเหตุผลที่ว่ามา ทำให้อินเดียไม่จำเป็นต้องซื้อวัคซีนของผู้ผลิตรายใหญ่จากสหรัฐฯ และมองว่าการใช้ของในประเทศก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการแล้ว

 รมว.เฮ้ง ร่วมคณะนายก ลุยตรวจน้ำท่วมชัยภูมิ เยี่ยมให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพช่วยชาวบ้าน และผู้ใช้แรงงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางร่วมคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชัยภูมิ จุดแรกตรวจติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่ตลาดคลองพุดซา อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์ จุดที่สองได้ให้กำลังใจบุคลากรและมอบสิ่งของจำเป็นแก่โรงพยาบาลชัยภูมิ และจุดที่สามตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ที่วัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ

โดย นายสุชาติ กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อน“เตี้ยนหมู่”ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จนพี่น้องแรงงาน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง และในวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจากผลกระทบดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเบื้องต้น

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันพบว่า ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นในหลายอำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ส่วนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชัยภูมิ ล่าสุดสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานชัยภูมิ ได้จัดรถ 6 ล้อ ให้บริการรับ – ส่งประชาชนตามจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล ศาลากลาง เป็นต้น หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานและเจ้าหน้าที่ช่วยงานโรงครัวพระราชทาน จัดทำข้าวกล่องแจกผู้ประสบภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ช่วยกรอกถุงทรายกันน้ำเข้าร่วมกับเทศบาลเมืองชัยภูมิ ส่วนการช่วยเหลือของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานภายหลังน้ำลดและรอการฟื้นฟู สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดจะจัดหน่วยให้บริการซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตร เพื่อลดรายจ่ายของประชาชนที่อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยของสายไฟภายในบ้าน

'สหรัฐฯ' หวั่นขาดดุลเงินสด เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐอเมริกา เตือนว่าเงินสดในคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ จะหมดลงในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 หากสภาคองเกรสไม่รีบขยายเพดานหนี้ของรัฐบาล

โดยเธอได้กล่าวในจดหมายถึงผู้นำรัฐสภา ระบุว่า "เงินทุนของกระทรวงการคลังจะหมดลงอย่างรวดเร็ว และยังไม่แน่ใจว่าเราจะสามารถดำเนินการตามพันธกรณีทั้งหมดของประเทศต่อไปได้หรือไม่หลังจากวันนั้น"

หลังจากที่เธอได้เคยออกคำเตือนในประเด็นดังกล่าวไปแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาโดยชี้ว่า มาตรการจัดสรรเงินสดของกระทรวงการคลังมีแนวโน้มที่จะหมดลงในเดือนตุลาคม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถชำระหนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ และยังจะกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง กระตุ้นให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น ราคาหุ้นร่วงหนัก หรือผลักดันให้เกิดความปั่นป่วนทางการเงิน

เธอได้เรียกร้องให้สภาคองเกรส ดำเนินการขยายหรือยกเลิกเพดานหนี้ชั่วคราวแบบด่วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มิเช่นนั้นนอกจากจะไม่สามารถชำระหนี้ได้แล้ว รัฐบาลจะไม่มีเงินสดสำหรับจ่ายให้แก่บรรดาข้าราชการ และผู้สูงอายุ หรืออาจทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนขาดแคลนเงินสด และยังเสี่ยงที่จะต้องชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลกลาง 

เตรียมร้องต่อ! ศรีสุวรรณ จ่อยื่น ป.ป.ช. หลัง ศาลปค.เพชรบุรี สั่งเพิกถอนใบอนุญาตฟาร์มเลี้ยงไก่กำนันดังราชบุรี

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2, หมู่ 11, หมู่ 12 ต.รางบัว และหมู่ 10 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อน และเสียหายจากการที่นายก อบต.รางบัว และปศุสัตว์ราชบุรี ได้อนุญาตให้กำนันตำบลรางบัว และนายทุนทำฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟาร์มกว่า 1 แสนตัว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็น น้ำเสีย และมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคไข้หวัดนก หรือเชื้อ H5N1 และเชื้อ H5N8 จนสมาคมฯ ต้องนำชาวบ้านไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพชรบุรีเมื่อ 29 พ.ย. 62 แล้วนั้น

บัดนี้ศาลปกครองเพชรบุรีได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา โดยมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทการเลี้ยงไก่ ลงวันที่ 11 ก.ย. 62 และใบอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตฟาร์มของกำนันในพื้นที่ดังกล่าว ฉบับวันที่ 10 ก.ย. 63 ที่นายกอบต.รางบัว ออกให้เสีย โดยให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีคำสั่งออกใบอนุญาตและคำสั่งต่ออายุใบอนุญาตโดยทันที

รมว.พม. ลงพื้นที่ช่วยเหลือคุณยาย อายุ 77 ปี อาศัยอยู่เพียงลำพังในเพิงไม้หลังคาสังกะสี ไม่มีญาติดูแล ที่ย่านบางซื่อ กทม. 

นายจุติ  ไกรฤกษ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่เยี่ยมและช่วยเหลือคุณยาย อายุ 77 ปี อาศัยอยู่เพียงลำพังในเพิงไม้หลังคาสังกะสี ไม่มีญาติดูแล สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ต้องใช้ Walker พยุงตัวเวลาเดิน มีอาการหลงลืม ภายในชุมชนตรอกข้างโรงหนังเฉลิมรัฐ  เขตบางซื่อ กทม. โดยได้บูรณาการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือร่วมกับ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางซื่อและสำนักอนามัย กระทรวงกลาโหม อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เขตบางซื่อ รวมทั้งภาคีเครือข่ายกระทรวง พม. ในพื้นที่ 

นายจุติ กล่าวว่า ตนเดินทางมาลงพื้นที่พร้อมกับภาคีเครือข่าย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ซึ่งสำเร็จได้เพราะทุกฝ่ายให้ความร่วมมือช่วยเหลือคุณยาย อายุ 77 ปี ที่มีอาการป่วยและอยู่ในภาวะยากลำบาก ลูกหลานไม่ได้อาศัยอยู่ด้วย คุณยายอยู่อย่างนี้มานานเพราะเข้าไม่ถึงสวัสดิการของรัฐ เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวง พม. ซึ่งมีหน้าที่หลักที่จะเข้ามาช่วยให้มีสิทธิได้ถูกต้องตามกฎหมายและสามารถเข้าถึงสวัสดิการสังคมได้ เรามาดูแลกันตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายไว้ว่า เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกกระทรวงพร้อมที่จะดูแลประชาชนทุกคน โดยเราอยากให้ประชาชนร่วมมือกันชี้เป้าเฝ้าระวัง ให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับความช่วยเหลือ โดยตนยืนยันว่าการช่วยเหลือจะไม่ทำเพียงครั้งเดียว แต่จะทำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตนขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือกันในวันนี้ หวังว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการทำงานร่วมมือกันทุกฝ่าย ตามนโยบายของรัฐบาลว่า จะไม่ให้มีช่องว่างระหว่างหน่วยงานราชการกับประชาชน ซึ่งจะเป็นจุดยืนยันได้ว่าทุกคนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ 

สยบดราม่า!! เปิดคุณสมบัติผู้บริจาคเลือด ห้ามใครบริจาคบ้าง หลังบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง เพจ ‘Madampam Makeup by Winlaphat’ โพสต์เสียความรู้สึก อ้างสภากาชาดไทย ไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ”

จากการที่ “บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง” เพจ ‘Madampam Makeup by Winlaphat’ ออกมาโพสต์ตำหนิสภากาชาดไทยที่ได้ปฏิเสธรับบริจาคเลือดของตนว่า ช่วงนี้ สภากาชาดขาดเลือด ผมกับเมียตั้งใจไปบริจาคเลือด แล้วทำคลิปช่วยประชาสัมพันธ์แล้วถึงได้รู้ว่า LGBT อย่าได้ริอาจไปบริจาคเลือดเชียว เพราะสภากาชาด ยังมีนโยบาย "ไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ" เพราะมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นพาหนะนำโรค นี่มันโลกยุคไหนแล้วครับ 

โคตรเสียความรู้สึกเลยครับ ขอบใจมาก ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับสภากาชาดตลอดไป งานอะไรก็ไม่ต้องมาให้ช่วยโปรโมท ถ้าในอนาคตผมต้องการเลือด ผมก็จะหาซื้อเอง 

ไม่อยากเชื่อ ว่าองค์กรที่ต้องการเลือดเพื่อช่วยคน ดันทำลายคนบริจาคเลือดด้วยการ เหยียดเพศ 

เมียผมน้องเดินร้องไห้กลับบ้านทั้งๆ ที่อยู่หน้าห้องบริจาค เพราะอะไร เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อเหรอ ผมไม่เข้าใจ การรับเลือดของเพศเดียวกันมันคือตราบาปอะไร

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สภากาชาดยังเคยขอให้เมียผมช่วยโปรโมทโครงการบริจาคเลือดอยู่เลย ย้อนแย้งสุดๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปดูระเบียบของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้ระบุคุณสมบัติผู้บริจาคเลือด ทั้งหมด 31 ข้อดังนี้
1.) อายุ 17 ปีบริบูรณ์ - 70 ปี

2.) น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป

3.) รู้สึกสบายดี สุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะบริจาคโลหิต ไม่มีอาการผิดปกติต่างๆ เช่น อาการอ่อนเพลียจากการอดนอน อาการมึนเมาจากการดื่มแอลกอฮอล์หรือสารอื่นๆ

4.) นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ อย่างน้อย 5 ชั่วโมง

5.) หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ภายใน 6 ชั่วโมง

6.) หากมีโรคประจำตัวต่างๆ ที่พบบ่อยในผู้บริจาคโลหิต

7.) กรณีรับประทานยาต่างๆ

8.) งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาบริจาคโลหิต 24 ชั่วโมง

9.) อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรต้องงดบริจาคโลหิตชั่วคราว

10.) คลอดบุตร หรือแท้งบุตร เว้น 6 เดือนเพื่อให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงให้กลับเป็นปกติก่อน

11.) มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
(1.) ท่านหรือคู่ของท่านเคยมีเพศสัมพันธ์กับ : ผู้ที่ไม่ใช่คู่ของตนเอง / ผู้ทำงานบริการทางเพศ / ผู้เสพยาเสพติด / ผู้ที่อาจติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ หากผู้บริจาคโลหิตและคู่ มีพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าว ย่อมมีผลกระทบต่อผู้ป่วยที่ได้รับโลหิตเช่นเดียวกัน จึงเป็นข้อกำหนดให้งดบริจาคโลหิตอย่างไม่มีกำหนด
(2.) ท่านเป็นเพศชาย ที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเพศชาย ซึ่งอัตราการติดเชื้อเอชไอวี ของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายสูงกว่าประชากรทั่วไปมาก และโอกาสที่จะมีผู้ที่อยู่ในระยะ window period ของการติดเชื้อ เอชไอวี ในกลุ่มนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป (window period คือ ระยะเวลาที่เพิ่งเริ่มติดเชื้อ ในร่างกายยังมีเชื้อจำนวนน้อย ไม่สามารถตรวจพบร่องรอยการติดเชื้อได้ด้วยวิธีทางห้องปฏิบัติการแต่สามารถถ่ายทอดไปยังผู้รับโลหิตได้) ข้อนี้จึงยังเป็นข้อกำหนดไม่รับบริจาคโลหิตอย่างถาวร

12.) เคยใช้ยารักษาหรือป้องกันโรคเอชไอวีให้งดการบริจาคอย่างถาวร

13.) อุดฟัน ขูดหินปูน เว้น 3 วัน / ถอนฟัน รักษารากฟัน เว้น 7 วัน

14.) ท้องเสีย ท้องร่วง เว้น 7 วัน

15.) เจาะหู ผิวหนัง สัก ลบรอยสัก ฝังเข็ม เว้น 4 เดือน

16.) ผ่าตัดเล็ก เว้น 7 วัน / ผ่าตัดใหญ่ เว้น 6 เดือน

17.) เคยป่วยและได้รับโลหิต หรือส่วนประกอบโลหิต ภายใน 1 ปี ที่ผ่านมา

18.) เคยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Stem Cells)

19.) เคยถูกเข็มที่เปื้อนเลือดตำ ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา

20.) เคยป่วยเป็นโรคตับอักเสบโดยทั่วไปการเป็นโรคตับอักเสบก่อนอายุ 11 ปี ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากไวรัสตับอักเสบ เอ เมื่อหายแล้วสามารถบริจาคโลหิตได้ แต่หากมีประวัติเป็นตับอักเสบหลังอายุ 11 ปี มักมีสาเหตุจากไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี ต้องงดบริจาคโลหิตถาวร เพื่อลดความเสี่ยงจากการถ่ายทอดเชื้อให้ผู้ป่วยที่ได้รับโลหิต

“บิ๊กตู่”ควงพี่รอง “อนุพงษ์ - สุชาติ" ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชาวชัยภูมิ

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 1 ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อตรวจสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรจากเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่

จะตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอำเภอเมืองชัยภูมิ ให้กำลังใจบุคลากรโรงพยาบาลชัยภูมิและมอบสิ่งของจำเป็นแก่โรงพยาบาลชัยภูมิ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอำเภอจัตุรัส ณ วัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส

“จุติ ไกรฤกษ์” รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ “ที่ปรึกษาสมเด็จอัครเดโช ฮุนเซน” นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา

ณ ห้องรับรอง ชั้น 9 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทาวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ Dr. H.E. Sok Sokrethya ที่ปรึกษาส่วนตัว นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือถึงแนวทางความร่วมมือด้านงานพัฒนาสังคม

เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลของสองประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักการเมืองรุ่นใหม่ของกัมพูชากับของประเทศไทย ตลอดจนเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแสวงหาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ในช่วงที่ทั้งสองประเทศเกิดโรคระบาดโควิด และหลังจากสถานการณ์โควิดผ่านไปแล้วด้วย

รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวต้อนรับ ด้วยความอบอุ่นและขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการท่องเที่ยวจากกัมพูชาที่ให้เกียรติมาเยือนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในวันนี้ ท่านหวังว่าความสัมพันธ์ที่ดีของสองประเทศจะเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

รัฐมนตรีจากกัมพูชา ได้กล่าวในนามของรัฐบาลกัมพูชาว่า รัฐบาลกัมพูชาใคร่ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ได้ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในด้านต่างๆ แก่รัฐบาลกัมพูชาด้วยดีมาโดยตลอด

Dr. Sok Sokrethya ได้เรียนเพิ่มเติมว่า ท่านนายกรัฐมนตรี สมเด็จฯ ฮุนเซน มีนโยบายส่งเสริมให้คนรุ่นหนุ่มสาวได้เข้ามาเป็นผู้บริหารบ้านเมืองทั้งในระบบราชการและในภาคการเมืองมากยิ่งขึ้น ตนเองในฐานะที่ท่านเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังเรียนรู้เรื่องการเมือง จึงมาขอเรียนรู้ประสบการณ์ทางการเมืองจากท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน

ภายหลังจากการหารือกันอย่างกระชับ ท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของไทย ได้เสนอเรื่องความร่วมมือสามด้านระหว่างประเทศไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา ดังนี้คือ

1. เรื่องของการแยกขยะที่ใช้แล้วซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน การมีอาชีพแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและคนจน และการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนโดยจะให้องค์กรเอกชนเข้าไปให้คำแนะนำ

2.การส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างสภาเยาวชนไทยกับสภาเยาวชนของกัมพูชา เพื่อให้เยาวชนของสองประเทศสามารถ พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการเยี่ยมเยียนกันระหว่างเยาวชนสองประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนสองประเทศในระยะยาวมากยิ่งขึ้น

3.การให้ความรู้และประสบการณ์ของการเคหะแห่งชาติเรื่องการจัดสร้างบ้านให้แก่ผู้มีรายได้น้อย

นายจุติ ไกรฤกษ์ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติของไทยมีประสบการณ์ที่สั่งสมมานานตามสมควร ทั้งที่เป็นจุดอ่อนและเป็นจุดแข็ง การเคหะแห่งชาติได้มีการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยดีขึ้น

ทั้งเรื่องขนาดของบ้านและราคา ในปัจจุบันบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยของการเคหะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและราคาถูกลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด การเคหะแห่งชาติมีนโยบายให้คนมีรายได้น้อยได้สามารถเช่าบ้านจากการเคหะแห่งชาติได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และหากผู้เช่ามีรายได้ดีขึ้นก็สามารถที่จะขอเปลี่ยนเป็นซื้อแทนได้

นายจุติ ไกรฤกษ์ ยังได้กล่าว ยกย่องราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าเป็นประเทศที่มีมรดกทางอารยธรรมที่เก่าแก่และมีโบราณสถานทางประวัติศาสตร์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศไทยไม่อาจเปรียบเทียบได้เลย

สำหรับกัมพูชาแล้ว มีความเห็นว่าการสร้างพิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ของกัมพูชาเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยกัมพูชาอาจเรียนรู้และศึกษาจากประสบการณ์การสร้างพิพิธภัณฑ์อย่างยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับกัมพูชาเป็นอย่างยิ่งทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นอกจากนี้ ท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังเห็นว่าสำหรับนโยบายด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา ซึ่งกำลังเริ่มต้นจะมีข้อได้เปรียบ เพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของไทยที่ผ่านมาทั้งด้านบวกและด้านลบ

 

เปิดตัว 'Ai Ailynn' วัย 21 เน็ตไอดอลเสมือนคนแรกของไทย

ตามรายงานของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) คาดว่าในปี 2021 นี้ สัดส่วนรายได้ของ Influencer จะอยู่ที่ 9% หรือคิดเป็นประมาณ 2,113 ล้านบาท แปลว่ามีเม็ดเงินจำนวนมากที่วิ่งอยู่ในงานด้าน Influencer นี้ และถ้าใครสามารถเข้าถึงมันได้ เม็ดเงินมหาศาลก็จะไหลเข้ามา แต่การจะปั้น Influencer สักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย..

นั่นก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "Virtual Influencer" ขึ้นมา หรือก็คือเหล่า "ไอดอลเสมือน" ที่มีชีวิตอยู่ในโลกดิจิทัล อาทิเช่น Rozy เน็ตไอดอลสาวของเกาหลี ที่ปัจจุบันรับงานโฆษณาไปแล้วกว่า 100 รายการ

‘ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ เคลื่อนกำลังพลจากลพบุรี - สู่ชัยภูมิ พร้อมยกทัพทีมบรรเทาชุด 2 นำชุดโรงครัวเคลื่อนที่ ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

วานนี้ (วันที่ 27 กันยายน 64) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายสมบูลย์ ขวัญอ่วม หัวหน้าแผนกบรรเทาสาธารณภัย  มอบหมายทีมบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิฯ ยกทัพจาก จังหวัดลพบุรี มุ่งสู่ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้เร่งอพยพประชาชนจากพื้นที่ประสบภัย พร้อมจัดกำลังทีมบรรเทาสาธารณภัย ชุด 2 พร้อมรถกู้ชีพ เรือท้องแบน อุปกรณ์การช่วยเหลือ ชุดโรงครัวเคลื่อนที่ และอาหารสุนัขและแมว ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดสุโขทัยเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือในทันที เมื่อถึงพื้นที่ทีมบรรเทาสาธารณภัยทั้ง 2 ชุดได้เร่งอพยพและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยในทันที

 

วันนี้ (วันที่ 28 กันยายน64) ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง (ชุดที่ 1 : ชัยภูมิ) นำโดย นายสำอาง สว่างแจ้ง ผู้ควบคุมหน่วยกู้ภัย เข้ารายงานตัวกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อวางแผนการช่วยเหลือแล้วเข้าช่วยเหลือ โดยมูลนิธิฯ จัดทีมกู้ภัย กู้ชีพ และอาสาสมัคร ลงพื้นที่ประสบภัยในพื้นที่ ต.หนองบัวใหญ่ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เคลื่อนย้ายคนป่วยออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังโรงพยาบาล พร้อมสนับสนุนภาครัฐนำอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่ม ลงพื้นที่แจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยภายในวัดสนามนาง

 

ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง(ชุดที่ 2 : จ.สุโขทัย) นำโดย นายสมบูลย์ ขวัญอ่วม หัวหน้าแผนกบรรเทาสาธารณภัยพร้อมด้วย นายขจรศักดิ์ คงอินทร์ ผู้ควบคุมหน่วยกู้ภัย จัดตั้งโรงครัวเคลื่อนที่ ณ วัดศรีเสวตวนาราม ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย ประกอบอาหารปรุงสุกบรรจุกล่อง พร้อมน้ำดื่ม จำนวน 2 มื้อ รวมจำนวน 3,950 ชุด พร้อมชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมวจำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่แจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ หมู่ 1, 2, 5 ,6, 11, 13 และ 14 ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย

 

รวมทั้งจัดทีมกู้ภัย กู้ชีพ และอาสาสมัคร เร่งอพยพผู้ประสบภัย รวมทั้งสนับสนุนกำลังพล และเรือท้องแบนแก่นางสาวพัชรอร วงศ์กำแหง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย  และคณะมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นำอาหารปรุงสุกบรรจุกล่องออกแจกจ่ายช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่

มณฑลทหารบกที่ 44 จัดพิธีอำลาชีวิตราชการทหารประจำการ ประจำปี 2564

ชุมพร - มณฑลทหารบกที่ 44 จัดพิธีอำลาชีวิตราชการทหารประจำการ ประจำปี 2564 

(28 ก.ย.64)​ พล.ต เสนีย์ ศรีหิรัญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที 44 ประชาน ในพิธีอำลาชีวิตราชการทหารประจำการให้กับข้าราชการ ในสังกัด ที่ครบเกษียณอายุราชการใน 30 กันยายน 2564 นี้ขึ้น เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและตอบแทน คุณความดี ให้กับข้าราชการที่ได้รับราชการมาด้วยความวิริยะ อุตสาหะมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติงานตาม ภาระหน้าที่ อย่างเต็มกำลังความสามารถก่อให้เกิดประโยชน์แก่กองทัพบกและประเทศชาติมาโดยตลอด 

พ.อ.อนุชาติ บุญยะศิลป์ ตัวแทนนายทหารอาวุโส ของผู้เกษียณอายุราชการได้กล่าวอำลา ผู้ปังคับบัญชาและ เพื่อนร่วมงาน ขอขอบคุณ พล.ต เสนีย์ ศรีหิรัญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที 44 ที่ได้จัด พิธีประดับเครื่องหมายยศ ให้กับข้ารายการที่ลาออกจากราชการ ตามโครงการ เกษียณอายุราชการก่อนกำหนดและได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้น ตลอดจนข้าราชการที่ปรับเป็นประจำมณฑลทหารบกที่ 44 ที่ได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้น งานพิธีอำลาชีวิตราชการทหารเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ และตอบแทนคุณความดีให้กับข้าราชการ ที่ได้รับราชการมาด้วยความวิริยะ อุตสาหะ มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติงาน ตามภาระหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ กองทัพบกและประเทศชาติมาโดยตลอด

 

"มาริโอ้-ใหม่" คว้านำชาย-นำหญิง “ทองเอกฯ” ละครดีเด่น รางวัลทีวีสีขาว ครั้งที่ 2

งานประกาศผล “รางวัลทีวีสีขาว” ครั้งที่ 2 รางวัลแรกในวงการโทรทัศน์ไทยที่ผู้ดำเนินงานมอบให้ทั้งรางวัลเกียรติยศสัญลักษณ์ ดอกไพล และเงินสนับสนุนกำลังใจ ซึ่งรางวัลประเภทรายการดีเด่น 10 รางวัล ผู้ชนะจะได้รับรางวัลพร้อมเงินสดรางวัลละ 200,000 บาท สำหรับรางวัลประเภทบุคคล 10 รางวัล ผู้ชนะจะได้รับรางวัล และเงินสดรางวัลละ 100,000 บาท มูลค่ารวม 3,000,000 บาท

โดยพิจารณาจากผลงานที่ออกอากาศทางทีวีดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม 2562 ต่อจาก ทีวีสีขาว ครั้งที่ 1 ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 สำหรับละครที่ออกอากาศไม่จบเรื่องเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 และไม่ได้พิจารณาในงานครั้งที่ 1 แต่จะได้รับการพิจารณาในครั้งนี้

ซึ่งผลการตัดสินอันบริสุทธิ์ยุติธรรมจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับนักวิชาการและนักสื่อสารมวลชน เทคะแนนให้ ทองเอกหมอยาท่าโฉลง ของผู้จัด "ปิยะ เศวตพิกุล" คว้ารางวัลละครดีเด่น ส่งผลให้ผู้กำกับ "ชุดาภา จันทเขตต์" รับรางวัลผู้กำกับการแสดงดีเด่น และพระเอก "มาริโอ้ เมาเร่อ" คว้ารางวัลนักแสดงนำชายดีเด่น สำหรับรางวัลนักแสดงนำหญิงดีเด่น ตกเป็นของ "ใหม่ เจริญปุระ" ผู้ตีบทแตกกระจุยจากละคร กรงกรรม ส่วนทีมละคร เลือดข้นคนจาง ได้รับรางวัล ทีมนักแสดงดีเด่น

สำหรับงานประกาศผลรางวัลทีวีสีขาว ครั้งที่ 2 ได้จัดให้มีการบันทึกเทปเพื่อนำไปออกอากาศให้ผู้ชมได้รับชมในวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 เวลา 23.00 - 00.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 HD ซึ่ง มูลนิธิจำนง รังสิกุล เชิญเพียงผู้ได้รับรางวัลในสาขาต่างๆ เข้ารับรางวัลเท่านั้น โดยมี นายพยงค์ คชาลัย ประธานมูลนิธิ จำนง รังสิกุล และ นายนคร วีระประวัติ หัวหน้าโครงการรางวัลทีวีสีขาวและรองประธานมูลนิธิฯ ให้การต้อนรับและแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล สุกัญญา ไรวินท์ รับหน้าที่พิธีกรประกาศผลรางวัลทั้ง 2 ประเภท โดยผู้ที่ได้รับรางวัลให้เกียรติเข้ารับด้วยตัวเอง

สรุปผลการตัดสิน “รางวัลทีวีสีขาว” ครั้งที่ 2 ประเภทบุคคล จำนวน 10 รางวัล มีดังต่อไปนี้

1.) รางวัลผู้ดำเนินรายการข่าวดีเด่น
ได้แก่ ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ จาก รายการเจาะประเด็นข่าวค่ำ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 HD
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ

2.) รางวัล ทีมรายงานข่าวดีเด่น
ได้แก่ ทีมข่าว 7HD จาก รายการข่าวเปิดเส้นทางทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนปอเนาะ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 HD
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณเตชะวัฒน์ สุขรักษ์

3.) รางวัล พิธีกรหญิงดีเด่น
ได้แก่ อรอุมา เกษตรพืชผล จากรายการสถานีประชาชน สถานีโทรทัศน์ Thai PBS ช่องหมายเลข 3
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณอรอุมา เกษตรพืชผล

4.) รางวัล พิธีกรชายดีเด่น
ได้แก่ มาโนช พุฒตาล จาก รายการสามัญชนคนไทย สถานีโทรทัศน์ Thai PBS ช่องหมายเลข 3
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณมาโนช พุฒตาล

5.) รางวัล ผู้เขียนบทละครโทรทัศน์ดีเด่น
ได้แก่ ศัลยา สุขะนิวัตติ์ จาก ละครก่อนอรุณจะรุ่ง สถานีโทรทัศน์ ช่อง GMM 25
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณศัลยา สุขะนิวัตติ์

6.) รางวัล ทีมสร้างสรรค์เพลงละครโทรทัศน์ดีเด่น
ไดัแก่ เพลง กลางหัวใจ เนื้อร้อง ปิติ ลิ้มเจริญ ทำนอง/เรียบเรียง หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม จาก ละคร
รักแลกภพ สถานีโทรทัศน์ ช่อง One 31
ผู้ขึ้นรับรางวัล: คุณโชคชัย หมู่มาก

7.) รางวัล ผู้กำกับการแสดงดีเด่น
ได้แก่ ชุดาภา จันทเขตต์ จาก ละครทองเอกหมอยา ท่าโฉลง สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 HD
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณชุดาภา จันทเขตต์

8.) รางวัล ทีมนักแสดงดีเด่น
ได้แก่ ทีมนักแสดง เลือดข้นคนจาง จากละครเลือดข้นคนจาง สถานีโทรทัศน์ ช่อง One 31
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณคัทลียา แมคอินทอช, คุณธนภพ ลีรัตนขจร

9.) รางวัล นักแสดงนำหญิงดีเด่น
ได้แก่ ใหม่ เจริญปุระ จาก ละครกรงกรรม สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 HD
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณใหม่ เจริญปุระ

10.) รางวัล นักแสดงนำชายดีเด่น
ได้แก่ มาริโอ้ เมาเร่อ จาก ละครทองเอกหมอยาท่าโฉลง สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 HD
ผู้ขึ้นรับรางวัล : คุณมาริโอ้ เมาเร่อ

กรมธนารักษ์ มอบหนังสืออนุญาตใช้ที่ราชพัสดุแก่ สตช. สร้างอาคารที่พักอาศัย เป็นสวัสดิการให้ข้าราชการตำรวจ

อธิบดีกรมธนารักษ์ มอบหนังสืออนุญาตให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้ที่ราชพัสดุบริเวณสถานีวิทยุการบินบางปิ้ง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยตามโครงการจัดหาสวัสดิการบ้านพักให้กับข้าราชการตำรวจ

(28 ก.ย.​64)​ ณ ห้อง​ "พรหมนอก" ชั้น 2 อาคาร A สํานักงานตํารวจแห่งชาติ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ มอบหนังสืออนุญาตใช้ที่ราชพัสดุ ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบ และมี นายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์, พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7, พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร. (สบ8) ปฏิบัติราชการ บช.น., พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พล.ต.อ.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.ท.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. ร่วมเป็นสักขีพยาน 

โดยหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุดังกล่าว เป็นที่ราชพัสดุที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจภูธรภาค 1 มีความประสงค์ขอใช้ที่ราชพัสดุรวม 6 แปลง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ เพื่อก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยตามโครงการจัดหาสวัสดิการบ้านพักให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Make it Better !! ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ ปรับยุทธศาสตร์ บุกธุรกิจใหม่ ยึดธงชัด!! “คิดจะทำ ต้องทำให้ดีสุดๆ”

‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ เปลี่ยนโลโก้ พร้อมปรับโฉมธุรกิจ ใหม่หมดจด ภายใต้ยุทธศาสตร์ Digital Content Commerce จัดทัพใหม่ 3 สายงานธุรกิจ ปั้น Digital Content ของตัวเอง นำโดย สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ THE STATES TIMES และอีกหลากหลาย นำไปหารายได้เจาะงบโฆษณาจากสินค้าต่าง ๆ และเป็นฐานสร้าง THE SHOPS TIMES ธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ ประกาศมุ่งไปข้างหน้า เปลี่ยนแปลง ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ แบบ 360 องศา พร้อมหาโอกาส รุกธุรกิจใหม่ที่หลากหลาย กระตุ้นรายได้ ฝ่ากระแสวิกฤตโควิด

นายณัฐภูมิ รัฐชยากร กรรมการผู้จัดการ ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ อีเวนต์ สื่อโฆษณา และ ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ มากว่า 16 ปี โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางบริษัทสามารถนำพาธุรกิจให้เติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด ‘Make it Better คิดจะทำ ต้องทำให้ดีสุดๆ’ อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระทบเป็นวงกว้างไปสู่แทบทุกธุรกิจในเมืองไทย รวมถึง ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ ด้วยเช่นกัน ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ จึงพยายามปรับนำเอาจุดแข็งทางธุรกิจในเครือที่มี และคิดว่าจะไปต่อได้ในโลกยุค New Normal เพื่อเดินหน้าสู่ Next Normal

“ดังนั้นเราจึงได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการจัดทัพใหม่เป็น 3 สายงานธุรกิจ ได้แก่ 
1.) สายงานธุรกิจ Newspective นำโดย คุณมนัญญา เตยะราชกุล ผู้จัดการทั่วไป Newspective ซึ่งทำงานกับเรามากว่า 14 ปี มีประสบการณ์อีเว้นท์ การทำ Branding งาน Production ทางโฆษณาต่าง ๆ มากมาย จะรับบทบาทในการพัฒนา THE SHOPS TIMES ธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ 

2.) สายงาน Blue Network นำโดย คุณหนึ่งฤทัย บางนาชาด ผู้จัดการทั่วไป Blue Network ซึ่งทำงานกับเรามากว่า 12 ปี มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในด้านการเป็นที่ปรึกษาการสื่อสารทางการตลาดให้กับสินค้าที่จะริเริ่มและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จะรับบทบาทในการพัฒนาการขายสื่อ Digital Content ให้กับ ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ 

และ 3.) สายงานธุรกิจ Make it Better ปั้นสื่อ Digital Content นำโดย สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ THE STATES TIMES ที่เติบโตสูงในช่วงที่ผ่านมา, THE STUDY TIMES สำนักข่าววัยเรียน, KIT MUSIC, THE BOSS TIMES เรื่องนี้ต้องถึงบอส, FengshuiBizDesigner และอื่นๆ โดยผมจะเป็นผู้รับบทบาทในการพัฒนา Digital Content ทั้งหมดนี้ ด้วยตัวเอง มั่นใจว่าภายใต้ยุทธศาสตร์ Digital Content Commerce นี้จะทำให้ ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ เติบโตและ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

‘ผศ.ดร.สิตางค์’ เชื่อ น้ำท่วมปีนี้ ไม่ซ้ำรอย 54 แนะนายกฯ อยู่บัญชาการน้ำท่วมดีกว่า

ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Sitang Pilailar’ ว่า... 

ประเด็น ‘น้ำปีนี้จะซ้ำรอย 54 หรือไม่’?

สรุปๆ นะคะ

1.) สถานการณ์น้ำปีนี้ เทียบเท่ากับน้ำปี 51 ซึ่งเกาะอยู่ที่ค่าเฉลี่ย...ไม่ต้องตกใจนำไปมาก

2.) ฝนสะสมในหน้าฝนปีนี้ ภาคเหนือยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1% ภาคกลางสูงกว่าค่าเฉลี่ย 4%...รวมๆ คือ ไม่หนีค่าเฉลี่ย (ปี 54 ฝนของแถวนี้เกินค่าเฉลี่ยไปราว 40%)...แต่ห่วงแล้งหน้าเถอะ!! เกรงว่าหมดฝนปุ๊บต้องประกาศภัยแล้งทันที!! 

3.) ระดับน้ำที่สถานีนครสวรรค์ยังต่ำกว่าตลิ่งอีก 2-3 เมตร ยังมีช่องว่างรับน้ำได้อีก แต่เส้นของปีนี้ เห็นว่าเส้นฝนมันชันขึ้นเร็ว คือ ฝนตกหนักในเวลาสั้น อย่างช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ตกหนัก น้ำจึงมาเร็วมาแรงให้ตกใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top