Friday, 29 March 2024
NEWS

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการอุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจเฉลิมพระเกียรติ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร  ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า 
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดโครงการ “อุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพและวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564” ณ วัดเทพศิรินทราวาส ระหว่างวันที่ 26 พ.ย.ถึง 15 ธ.ค.64 นั้น

วันพุธที่ 1 ธ.ค.64 พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน
ในพิธีอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติฯ ณ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 

โดยมีผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธีฯ ซึ่งมีกำหนดการ ดังนี้... 

• เวลา 16.30 น. พิธีถวายราชสักการะและเจริญพระพุทธมนต์สมโภชนาค ณ มณฑลพิธีลานพระศรีมหาโพธิ์ วัดเทพศิรินทราวาส
• เวลา 17.30 น. - พิธีมอบบาตรและผ้าไตร ณ มณฑลพิธีลานพระศรีมหาโพธิ์ วัดเทพศิรินทราวาส
• เวลา 18.00 น. - พิธีบรรพชาและอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดเทพศิริน
ทราวาส

‘อีลอน มัสก์’ วีนแตกทีมพัฒนาจรวด Starship หลังผลิตได้ล่าช้า จนอาจเสียงานในปีหน้า

อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัท SpaceX ออกอาการเหวี่ยงแรง เมื่อทราบข่าวการผลิตยานขับเคลื่อนยนต์ขับเคลื่อนจรวดรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า ‘Raptor’ ไม่คืบหน้าอย่างที่ตั้งใจ และอาจเสี่ยงต่ออนาคตของ SpaceX ถึงขั้นล้มละลายได้ 

โดย อีลอน มัสก์ ได้ส่งอีเมลไปหาทีมงานฝ่ายการผลิต และเรียกปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเป็น “The Raptor production crisis” - วิกฤติการผลิตเครื่องยนต์แร็ปเตอร์ และย้ำให้ทีมงานทราบถึงปัญหาใหญ่นี้ว่า “บริษัทเสี่ยงมากที่จะล้มละลายได้เลยถ้าพวกเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่จะพายานอวกาศ Starship ขึ้นบินได้จริงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อเที่ยวได้ในปีหน้า”

ยาน Starship เป็นโครงการระดับมหึมา และล้ำสมัยที่สุดของ SpaceX ที่จะให้ในการขนส่งในเชิงพาณิชย์ไปสู่ดวงจันทร์ และมุ่งมั่นที่จะพิชิตดาวอังคารให้ได้ มีการทดสอบ Prototype มาแล้วหลายรุ่นในฐานที่รัฐเท็กซัส แต่หากต้องการส่งยานให้ไกลถึงวงโคจรรอบโลก ต้องอาศัยเครื่องยนต์ขับเคลื่อนตัวใหม่ คือรุ่น Raptor ที่ต้องใช้ถึง 39 เครื่องยนต์ต่อยาน 1 ลำ 

สำหรับความล่าช้าของสายการผลิต และพัฒนายานขับเคลื่อนรุ่นใหม่ กลายเป็นปัญหาภายในบริษัท SpaceX ที่มีข่าวลือถึงความไม่พอใจของ อีลอน มัสก์ มาหลายเดือนแล้ว ตามมาด้วยข่าวการลาออกของ วิล เฮลสเลย์ รองประธานฝ่ายยานขับเคลื่อน และ ลี โรเซน รองประธานฝ่ายภารกิจการปล่อยยานสำรวจ 2 คีย์แมนหลักที่ทำงานให้กับ SpaceX มานานเกือบ 10 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากความล่าช้าของการพัฒนาเครื่องยนต์ Raptor นี่เอง

หลังจากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น ตัวอีลอน มัสก์ ที่มีแผนจะพักผ่อนยาวในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ก็จำเป็นต้องยกเลิกทริปพักผ่อน กลับมาจี้งานผลิตเครื่องยนต์ Raptor ด้วยตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้น่าจะจริง เพราะมีอีเมลยืนยันว่า อีลอน มัสก์ ร้อนใจกับโครงการพัฒนายานอวกาศของเขาขนาดไหน หลุดถึงสำนักข่าว CNBC ของสหรัฐอเมริกากันเลยทีเดียว

ผช.รมว.แรงงาน เปิดสัมมนาจัดทำกรอบร่างวิธีการทดสอบ พิจารณาและปรับปรุงร่างคู่มือวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการจัดทำกรอบร่างวิธีการทดสอบ พิจารณาและปรับปรุงร่างคู่มือวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 – 3 ธันวาคม 2564 โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดการสัมมนา ณ โรงแรมโนโวเทลมารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยกล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีภารกิจหลักคือ การพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดำเนินการ มีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน

ตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 4 อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต มาตรฐานฝีมือแรงงานได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้มีความทันสมัย ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเสมอมา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนคือ การส่งเสริมการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ของรัฐบาล

การจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ จึงเป็นภารกิจที่สำคัญของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่จะเตรียมพร้อมทักษะฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพสอดรับกับยุทธศาสตร์ของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งในการจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ มีขั้นตอนในการจัดทำคู่มือวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นคู่มือสำหรับผู้ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและใช้ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานให้กับแรงงานที่อยู่ในระบบการจ้างงาน และแรงงานนอกระบบ ซึ่งต้องสอดคล้องกับเทคโนโลยี สภาพการจ้างงาน และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ นายสุรชัยฯ กล่าวในท้ายสุด

นอกจากนี้ นายสุรชัยฯ ได้เยี่ยมชม บูธสาขาช่างเชื่อมท่อพอลิเอทีลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) สาธิตการเชื่อมชิ้นงาน โดยบริษัท วีบี เวลดิ้ง เทคโนโลยี่ จำกัด บูธเครื่องมือวัดทางอุตสาหกรรม แสดงระบบการวัดด้วยการประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ โดยบริษัท มิตูโยโย (ประเทศไทย) จำกัด บูธเยาวชนแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ สาขาช่างควบคุมเครื่องจักรกล CNC แสดงชิ้นงานที่เป็นผลงานการเก็บตัวฝึกซ้อมเยาวชน โดยบริษัท เด็นโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด และบูธสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชั้นสูง แสดงหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และระบบ PLC โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (MARA)

รัฐบาลทหารพม่าฟ้อง ‘ซูจี’ ข้อหาคอร์รัปชันเพิ่มอีกกระทง

รอยเตอร์ - สถานีโทรทัศน์ MRTV ของรัฐบาลพม่ารายงาน ว่า รัฐบาลทหารได้ยื่นฟ้องข้อหาคอร์รัปชันกับอองซานซูจีและอดีตประธานาธิบดีวิน มี้น เพิ่มอีกกระทง

ข้อหาใหม่เกี่ยวข้องกับการซื้อและเช่าเฮลิคอปเตอร์ และอยู่ภายใต้กฎหมายต่อต้านการทุจริต ที่มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี สำหรับการกระทำผิด

ซูจีถูกขับออกจากตำแหน่งในการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. และเผชิญกับคดีความเกือบ 12 คดี ที่รวมถึงข้อหายุยงปลุกปั่นและการละเมิดข้อจำกัดโควิด-19 ซึ่งซูจีได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดจนถึงตอนนี้

'แม่แอนชิลี​'​ แจง!! ลูกสาวแอนตี้กระเป๋าหนังสัตว์ แถมคอยห้ามตลอด​ หากคุณแม่คิดจะช็อป

จากเพจ​ วิทยาลัยนางงาม​ Beauty​ Queen College​ ได้โพสต์ข้อความของคุณแม่วันดี สุริวงษ์​ (คุณแม่แอนชิลี)​ ที่เปิดเผยในคอมเมนต์เพจวิทยาลัยนางงาม ถึงกรณี 'กระเป๋าหนังสัตว์' ที่มารีญา พูลเลิศลาภ ออกโรงว่าไม่ควรใช้ในยุค 2021 ใจความว่า...

แอนชิลี เป็นคนหนึ่งที่แอนตี้การใช้ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ และมักจะห้ามไม่ให้แม่ซื้อสินค้าเหล่านั้น ถ้าซื้อ ก็จะต้องไม่มีแอนอยู่ด้วย โดยข้อความต้นฉบับ มีดังนี้...

รายการ "คนละไม้ คนละมือ" ขึ้นกราบสักการะ "พระอุรังคธาตุ" ในองค์พระธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อเผยแผ่พุทธประวัติ และ ความเป็นมา

ณ วัดพระธาตุพนม ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" พิธีกร ช่วง "คนละไม้_คนละมือ" รายการ "เปิดฟ้า"  ออกอากาศ ทาง ททบ.5 ได้รับความเมตตา กรุณา พระเดชพระคุณเจ้า "พระเทพวรมุนี" ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ และเจ้าอาวาส "วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร"  อนุเคราะห์ บรรยายธรรมะพร้อมทั้ง อนุญาตให้ทีมงานถ่ายทำรายการ เพื่อเผยแผ่พุทธประวัติความเป็นมาของ "องค์พระธาตุพนม"

ในการนี้ ทางทีมงานรายการขอกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง ที่ท่าน"พระครูศรีพนมวรคุณ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เมตตา กรุณา บรรยายพุทธประวัติ  และความเป็นมาในพุทธกาลการสร้าง "พระธาตุพนม" ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน พระบรมธาตุที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่ โบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธกาลประมาณ พ.ศ.๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้าตั้งตระหง่าน อยู่ริมฝั่งโขง เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อยโหญ่ ตามตํานานอุรังคธาตุกล่าวถึง พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นํา "พระอุรังคธาตุ" (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากชมพูทวีปและท้าวพญาผู้ครองนครทั้ง ๕ เป็นประธาน ในการสร้างที่ประดิษฐาน "พระอุรังคธาตุ" อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุพนมในปัจจุบัน

ทั้งนี้ทางรายการฯยังได้รับเกียรติจาก ดร.สุริยนต์ หลาบหนองแสง เลขาสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม / นายนพรัตน์ ฉัตรเพชรตระการ ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม / นายชิสนุ เริงสังข์ ( อาจารย์ณัฐ ) เข้าร่วมสายธารธรรมเข้ากราบสักการะ "องค์พระธาตุพนม" ในครั้งนี้ด้วย จากนั้น "ดร.สุริยนต์ หลาบหนองแสง" เลขานุการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม

'ดร.ปิติ'​ ปลื้ม!! มาตรการสนามบินสุวรรณภูมิ ตอบโจทย์ทุกคนเข้าไทย​ 'ปลอดภัย​ -​ สะดวก'​

ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ โพสต์เฟซบุ๊กว่า... 

ขอชื่นชม การจัดระบบตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ ทั้งของสนามบิน และของกระทรวงสาธารณสุข ที่สนามบินสุวรรณภูมิครับ

15 นาที สามารถผ่านจุดตรวจ Thailand Pass QR code ได้ โดยระหว่างรอ จัดเก้าอี้ และเจ้าหน้าที่ที่สื่อสารทั้ง ไทย, อังกฤษ, จีน คอยตรวจเอกสาร แล้วให้เข้าไปตรวจ QR code เป็นชุดๆ มีเครื่องมือครบน่าจะประมาณ 30 kiosk

ชาวนาเฮ! เปิดไทม์ไลน์ ธกส. โอนเงินประกันรายได้ เริ่ม  9 ธ.ค. นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขั้นตอนการดำเนินการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จะได้เร่งรัดโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของพี่น้องเกษตรกรในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติวงเงินสำหรับโครงการประกันรายได้เกษตกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 เพิ่มเติม  จำนวน 76,080.95 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดย ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรในโครงการ ฯ ในช่วง 9-14 ธ.ค. นี้   

นายธนกร กล่าวว่า ธ.ก.ส.  เผยขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้ 
30 พ.ย.   คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม
1 ธ.ค. 64  : ธ.ก.ส.  รับแจ้งมติ
3  ธ.ค. 64 : คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ธ.ก.ส.  พิจารณาและคณะกรรมการ ธ.ก.ส. พิจารณา
7. ธ.ค.  64 : ตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์
8. ธ.ค. 64 : เตรียมการโอนเงิน 
9. -14 ธ.ค. 64 :โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรตามโครงการ

นายธนกร กล่าวว่า นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐบาล หลังจากมติครม. อนุมัติการจ่ายเงินจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และโครงการคู่ขนาน ช่วยเหลือชาวนาในส่วนของต้นทุนและปัจจัยการผลิต รวมถึง เมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นการยืนยันให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ได้ตอบรับและใส่ใจความเดือดร้อนของเกษตรกร และเร่งแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวนาอย่างเร่งด่วน

‘พรรคประชากรไทย’ ชูธง!! แก้ไขปัญหาปากท้องชาวบ้าน วาระเร่งด่วนอัดฉีดเงินเดือน 6,000 บาท แก่ผู้ป่วยติดเตียง - คนพิการ ลั่น! พร้อมเต็มที่จะเป็นฝ่ายบริหาร ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความสุขของประชากรไทยทั่วประเทศ

ที่วัดกลางเชียงยืน ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม พรรคประชากรไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมี ดร.คณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรคประชากรไทย พร้อมด้วยกรรมการกองทุนเพื่อพัฒนาการเมือง สมาชิกพรรค และประชาชน ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำ จ.มหาสารคาม ร่วมสังเกตการณ์ และทุกคนที่เข้าร่วมประชุม ปฏิบัติตนภายใต้มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ดร.คณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรคประชากรไทย กล่าวว่าการประชุมพรรคประชากรไทยครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่เพิ่งจะมีโอกาสจัดขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ยังเป็นการประชุมเพื่อให้ความรู้ทางการเมืองแก่สมาชิกพรรคประชากรไทย และประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยอีกด้วย โดยเฉพาะยังเป็นการประชุมครั้งสำคัญ เพื่อทำการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แทนชุดเดิมที่หมดวาระ

หลังจากให้ความรู้ทางการเมืองแก่สมาชิกพรรคประชากรไทยและประชาชนแล้ว ในที่ประชุมได้มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยผลการเลือกตั้ง ดร.คณิศร สมมะลวน อดีตหัวหน้าพรรคคนล่าสุดและรักษาการหัวหน้าพรรคมาก่อนหน้าที่จะมีการประชุม ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกสมัย โดยรองหัวหน้าพรรค 6 คน ประกอบด้วย ดร.พิทักษ์ สันติวงค์สกุล, นายอภิพัฒน์, พิทยานรเศรษฐี, นายกิจการ ศรีพระพร, นายสมัย  เปลี่ยนเดชา, นายทองพูล สุขเมือง และ ดร.ธนารัชต์  สมคเณ, เลขาธิการพรรค ดร.เรืองชัย กลางขุนทด, รองเลขาธิการ 2 คน ดร.ปถมัง อมาตยกุล และนางสาวไอยวรินทร์  ไชยจิรยาญาณ, เหรัญญิก นางนันทวัน  เขียวงามดี, นายทะเบียน นางปรีชา สง่าศิลป์, โฆษกพรรค ร.ศ.ดร.ภคพล จักรพันธ์ อนุฤทธิ์, กรรมการพรรค 2 คน  นายจรัล  อำภัย และ นาย ณ.เณร จันทร์เปล่ง

ดร.คณิศร กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชากรไทย ตระหนักในความเดือดร้อน ความเป็นอยู่ และสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะสภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ำ จากผลกระทบของสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น ทางพรรคประชากรไทย จึงได้กำหนดนโยบายที่ชัดเจน ในการที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาทุกด้าน ซึ่งหากได้เข้ามาบริหารประเทศ นโยบายสำคัญที่พรรคประชากรไทยจะดำเนินการคือเพิ่มเบี้ยสวัสดิการผู้สูงอายุ เดือนละ 3,000 บาท ผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการ เดือนละ 6,000 บาท ขณะที่ด้านการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และอื่นๆ มีนโยบายจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพทางการเกษตร หรือด้านสิ่งแวดล้อม มีนโยบายพลังงานสะอาด ด้านสังคม แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง รวมทั้งนโยบายแก้ปัญหาการว่างงาน เป็นต้น ซึ่งวันนี้ พรรคประชากรไทยมีความพร้อมที่จะนำนโยบายที่ดี มีประโยชน์ต่อประชาชนทุกด้าน จึงพร้อมที่จะแก้ไขปัญหา และพร้อมที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อความสุขของประชากรไทยทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม พรรคประชากรไทย (ปชท.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2522 โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค โดยผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2522  พรรคประชากรไทยได้รับเลือกตั้ง 29 ที่นั่ง จากจำนวน 32  ที่นั่งในกรุงเทพมหานคร และอีก 3 ที่นั่งในต่างจังหวัด

 

ทัวร์ลง!! ‘น้องลูกหนัง’ หลังเตรียมลุยเคป็อป แอนตี้สลิ่มขู่แบน ขุดอดีตครอบครัวนกหวีด

น้องลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวฝาแฝดคนสวย ของ ‘ตั้ว ศรัญยู’ และ ‘เปิ้ล หัทยา’ ที่ล่าสุดมีภาพให้ฮือฮา จนอดที่จะตื่นเต้น และดีใจกับเธอไม่ได้ หลังจากฝ่าฟันอุปสรรค และได้รับการยอมรับในฐานะศิลปิน 

โดยเมื่อทวิตเตอร์รายหนึ่งได้เผยภาพพร้อมประวัติส่วนตัว ว่าเป็นสมาชิกคนไทยจากวง H1-KEY หรือวงเกิร์ลกรุ๊ปใหม่จากค่าย GLG (Grandline Group) ที่เตรียมเดบิวต์อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2022 หลังจากมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นศิลปินเคป็อปมาตั้งแต่เด็ก ท่ามกลางการสนับสนุนของครอบครัววงษ์กระจ่าง ซึ่งเธอได้เดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัย Ewha Womans University และเป็นเด็กฝึก (เทรนนี่) ของค่าย LIONHEART มาเป็นเวลานานหลายปีจนกระทั่งสำเร็จการศึกษา และได้เดบิวต์เป็นศิลปินในที่สุด

ตำรวจ! จับมือมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100 เปิดตัวโครงการ "อาสาตาจราจร" มอบรางวัลแก่ผู้บันทึกภาพการทำผิดกฎจราจร

วันนี้ (30 พ.ย. 64) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย คุณคณาวัฒน์ วงศ์แก้ว ผู้แทนคณะทำงานเสริมสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนจากคลิปวีดิโอ (VDO) ของวุฒิสภา , คุณหมอแท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการระดมบังคับใช้กฎหมายจราจรเข้มข้น และเปิดโครงการ “อาสาตาจราจร” โดยมอบรางวัลและเกียรติบัตรให้กับผู้ส่งภาพหลักฐานที่ได้รับคัดเลือก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการจัดระเบียบการจราจรที่ดีขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (จยย.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ตน ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. กำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ฯ ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและเป็นอันตรายต่อผู้อื่น โดยเน้น กวดขัน จับกุม ผู้กระทำผิดใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่  1) ขับรถย้อนศร  2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร  3) ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า และ 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และหากพฤติการณ์การกระทำผิดตามข้อหาดังกล่าว มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หรือประชาชนทั่วไป จะมีการดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น”  ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท  และต้องยื่นฟ้องผู้กระทำผิดต่อศาล พร้อมทั้งมีคำร้องขอให้ศาลริบรถของกลาง 

ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดระเบียบการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  หรือ ศจร.ตร. กำหนดมาตรการการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและมีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวอีกว่า ศจร.ตร. ได้เริ่มมาตรการดังกล่าว ตั้งแต่ 15 พ.ย.64  เป็นต้นมา โดยกำหนดให้มีการระดมการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นครั้งแรกในวันที่ 15-24  พฤศจิกายน 2564 รวม 10 วัน  สามารถจับกุมผู้กระทำผิด ดังนี้

1) ขับรถย้อนศร  20,671 ราย  แบ่งเป็น รถ จยย.ทั่วไป 17,469 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี 2,283 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 919 ราย

2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร  8,748 ราย แบ่งเป็น รถ จยย.ทั่วไป 6,914 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี  1,494 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 340 ราย

3) ขับรถรถจักรยานยนต์บนทางเท้า 2,870 ราย แบ่งเป็นรถ จยย.ทั่วไป  1,892 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี  669 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 309 ราย

 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว 600  ราย แบ่งเป็นรถ จยย.ทั่วไป 590 ราย รถ จยย.เดลิเวอรี 9 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 1 ราย

รวมผลการดำเนินการทั้ง 4 ข้อหา จับกุมรวมทั้งสิ้น 32,889 ราย แบ่งเป็น รถ จยย.ทั่วไป 26,865 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี  4,455  ราย และรถ จยย.สาธารณะ 1,596 ราย

นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยอีก 54 ราย  ซึ่งศาลพิพากษา ลงโทษปรับจำนวน 41 คดี ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงโทษ และสั่งริบรถ จยย.ตกเป็นของแผ่นดินอีกหลายกรณี ตัวอย่างเช่น กรณี การจัดทริป “น้ำไม่อาบ”  ของ ภ.จว.เพชรบูณ์  ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 เดือน และปรับ 2,000 บาท  โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี และริบรถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุด้วย

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ศจร.ตร. ได้ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ, สวพ.91 และ จส.100 ในการทำโครงการ “อาสาตาจราจร” โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนร่วมกันทำหน้าที่พลเมืองดีในการตรวจตราการกระทำผิดฎหมายจราจร โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนส่งคลิป กล้องหน้ารถหรือคลิปจากมือถือ ที่บันทึกเหตุการณ์การทำผิดกฎจราจร ที่สำคัญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนโดยส่วนรวม  ส่งคลิปมายัง 4 ช่องทาง ได้แก่ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., สวพ.91 ,จส.100  และ เพจมูลนิธิเมา ไม่ขับ โดย ศจร.ตร. จะรวบรวมข้อมูลส่งต่อไปยังสถานีตำรวจพื้นที่ เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  โดยตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564 เป็นต้นมา

จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนส่งคลิป การกระทำผิดกฎจราจรมายัง ตร. รวมทั้งสิ้น 36  คลิป  คลิปที่สำคัญ เช่น  คลิปรถจักรยานยนต์ ขับรถย้อนศร บนทางด่วนบูรพาวิถี ซึ่งจากคลิปดังกล่าว ตร. ได้สืบสวนไปยังผู้ครอบครองรถ จนสามารถติดตามผู้ขับขี่ ในวันเกิดเหตุมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย โดยดำเนินคดี 6 ข้อหา โดยปรับจำนวน 5 ข้อหา ได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รายดังกล่าวจำนวน 6 ข้อหา ได้แก่ (1) ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ( ปรับ 500 บาท)  (2) ไม่ชำระภาษีประจำปี ( ปรับ 500 บาท )  (3)  ไม่จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ปรับ 1000 บาท ) (4) ไม่สวมหมวกนิรภัย (ปรับ 500 บาท ) (5) ฝ่าฝืนป้ายเครื่องหมายจราจร (ปรับ 1000บาท ) และ (6) ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย (อยู่ระหว่างฟ้องคดีต่อศาล) หรือคลิปรถกระบะบรรทุกสิ่งของเต็มคันรถ จนเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ทาง บนทางหลวงหมายเลข 3701 พื้นที่ สภ.หนองขาม ได้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  โดยดำเนินคดี 2 ข้อหา (1) ไม่จัดให้มีสิ่งป้องกันการตกหล่น (ปรับ 400 บาท) และ (2) บรรทุกสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด (ปรับ 500 บาท) 

 

 

'ศ.นพ.นิธิ' ชี้ ต้องจับตา Omicron อย่างใกล้ชิด อย่าตระหนกเกินเหตุ ย้ำ!! ต้องสวมหน้ากาก - ล้างมือ - เว้นระยะห่าง

เรียกได้ว่ากลายเป็นข่าวระทึกโลกส่งท้ายปี 2021 กันเลยก็ว่าได้ สำหรับข่าวการค้นพบโควิด-19 สายพันธุ์ ‘Omicron (B.1.1.529)’ ซึ่งพบในแอฟริกาใต้ และขยายวงพบเจอในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร, เบลเยียม, เยอรมนี, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, เนเธอร์แลนด์, แคนาดา และล่าสุดกับสิงคโปร์ 

ปัจจุบันมีข้อมูลเพียงว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนนี้มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบ แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของความรุนแรงของโรค ยังอยู่ระหว่างการศึกษา 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอธิการบดีวิทยาลัย วิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ (ววจ.) ได้เผยถึงความเข้าใจต่อโควิดสายพันธุ์ Omicron กับ THE STATES TIMES ผ่านรายการ Click on Clear THE TOPIC EP.96 เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 64 ไว้อย่างน่าสนใจ ว่า...

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์ของวัคซีนที่ยังฉีดกันไม่ทั่วถึงทั้งโลก ก็จะยังคงมีการกลายพันธุ์ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งโควิดเองก็มีการกลายพันธุ์ซ้ำหลายหน เช่นเดียวกันกับสายพันธุ์ล่าสุดอย่าง Omicron ที่ในความเป็นจริงอาจจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เราเพิ่งจะรู้จักมันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากมองสายพันธุ์ Omicron ที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ ก็ไม่ได้ระบาดทั่วทั้งโลก และเท่าที่ทราบ คือ ต้นตออย่าง ‘แอฟริกาใต้’ ผู้คนที่ติดเชื้อก็ยังมีอาการไม่หนักมากนัก ฉะนั้นอย่าพึ่งตื่นตระหนก!! เพียงแต่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งตอนนี้หลายๆ ประเทศก็มีการเฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกันกับในประเทศไทย 

ทั้งนี้ เริ่มมีคำถามว่า วัคซีนและยาจะยังมีประโยชน์หรือไม่? เพราะหลายคนกังวลว่าจะรับมือ Omicron ไม่ได้ดีเท่ากับไวรัสรุ่นแรก ๆ แต่อยากให้เชื่อมั่นว่าวัคซีนที่มีอยู่ในตลาดยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยหนักได้ดีอยู่ ขณะเดียวกันไวรัสส่วนใหญ่ มักจะอ่อนแอลงไปตามธรรมชาติ และวัคซีนมี่ผลิตออกมาก็ทำได้เพียงวิ่งตามการกลายพันธุ์ของไวรัส ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกัน

ศ.นพ.นิธิ เผยอีกว่า ตอนนี้สิ่งที่คนไทยต้องตระหนัก คือ วัคซีนประจำตัว ได้แก่...
1.) การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ช่วยให้ไม่แพร่เชื้อจากเราไปให้คนอื่นด้วยนอกจากที่จะรับเชื้อมา
2.) การอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท และการรักษาระยะห่าง ควรมีความเคร่งครัดมากขึ้น และมีสติมากขึ้น
3.) ใครที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือถึงเวลาได้รับเข็มกระตุ้นแล้ว ก็ควรเร่งเข้ารับวัคซีน

ดราม่า​ 'บวชจนรวย'​ สะท้อนความอคติสังคมไทย อย่าทำร้ายใครเพียงเพราะเห็นตรงกันข้าม

หลังจาก​ 'พระมหาไพรวัลย์'​ ได้เตรียมจ่อฟ้อง​ 'สื่อดัง'​ หลังถูกกล่าวหาบวชจนรวย​หมื่นล้าน มีเงินดั่งมหาเศรษฐีไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด​ 'พระมหาไพรวัลย์'​ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก​ 'ไพรวัลย์​ วรรณบุตร'​ เกี่ยวกับเรื่องนี้​ ว่า... 

จะชอบจะชังอาตมาไม่ว่า แต่อย่าทำร้ายกันด้วยความเท็จที่ไม่จริงเลย อย่าเป็นเหยื่อของความเกลียดชัง อย่าเป็นเหยื่อของความอคติ อย่าทำร้ายใครเพียงเพราะเขาเห็นตรงกันข้ามกับเรา อาตมาจะรอการขอโทษอย่างเป็นทางการนะ แล้วอาตมาจะยุติการดำเนินคดี

'พระมหาสมปองฯ'​ กำหนดสึก​ 3​ พ.ย. 66 ตรงวันคล้ายวันเกิด 45 ปี

(29 พ.ย.64)​ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต กล่าวถึงการลาสิกขาบทของตัวเองว่า... 

เตรียมลาสึกเช่นกัน โดยกำหนดมานานแล้ว แต่ได้เลื่อนไปก่อน เพราะต้องเรียน ทำงานและญาติโยมยังนิมนต์ 

ส่วนที่อาตมาต้องสึกส่วนหนึ่งต้องดูแลโยมแม่ และส่วนหนึ่งมาจากเรื่องท่านเจ้าคุณ แต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนพระมหาไพรวัลย์ โดยอาตมายังมีพี่สาวช่วยดูแลโยมแม่อยู่ แต่พระมหาไพรวัลย์ไม่มีใครดูแลโยมแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพูดและกำหนดไว้แล้ว จะสึกในวันที่ 3 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันเกิดของอาตมา อายุครบ 45 ปี 

"สุเทพ"  มั่นใจใช้ข้อเท็จจริงสู้คดีทุจริตโรงพัก 396 แห่ง มั่นใจ ทำตามมติ ครม.ยันไม่ได้ยุ่งการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งข้อสังเกตเหตุใด ป.ป.ช.ฟ้องเอง เพราะอัยการสั่งไม่ฟ้อง

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงแหน่งทางการเมือง   นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินมาศาลฏีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง สนามหลวง ตามนัด ที่ป.ป.ช.ส่งตัวฟ้องศาล  กรณียื่นฟ้องในคดีทุจริตสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ และแฟลตตำรวจ 163 หลัง  รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5,200 ล้านบาท 

โดยนายสุเทพยืนยันต่อสู้คดีด้วยข้อเท็จจริง และชี้ว่าถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาการทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หลัง ป.ป.ช.สอบสวนคดีมานายนับ 10 ปี ส่งผลต่อชื่อเสียง ทั้งที่ได้ต่อสู้เรื่องต้านการทุจริตมาตลอด แต่มาถูกกล่าวหาการทุจริตเสียเอง  และยืนยันข้อต่อสู้คดีว่าไม่ได้กระทำการใดที่ผิดจากมติ ครม. 

และการสั่ง การและ พิจารณาต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของข้อกฎหมายระเบียบปฏิบัติ ในฐานะที่กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตัดสินใจในแง่ของนโยบาย การปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยอนุมัติตามที่มีการเสนอได้ในราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่แต้งง่าผ่านการประมูลชอบตามกฎหมายแล้วจึงได้ลงนาม ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์อะไรกับบริษัท การสร้างสถานีตำรวจไม่แล้วเสร็จเป็นเรื่องของการบริหารจัดการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top