Thursday, 25 April 2024
NEWS

“บิ๊กตู่” ห่วง ปชช.ย้ำขับขี่เคารพกฏจราจร งดดื่มแอลกอฮอล์ ขอความร่วมมือ Work from Home 1 สัปดาห์ หลังจากกลับมาจากการไปท่องเที่ยวหรือภูมิลำเนา

ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (pmoc ) เผยแพร่ข้อความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยย้ำผู้ขับขี่ยานพาหนะต่างๆ ให้เคารพและปฏิบัติตามกฎจราจร รวมทั้งงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ระหว่างขับขี่ยานพาหนะ  เพื่อให้การเดินทางไปสู่ที่หมายอย่างปลอดภัยเพื่อจะได้ร่วมฉลองปีใหม่อยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้องอย่างมีความสุข 

พร้อมย้ำทุกฝ่ายต้องป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ขั้นสูงสุด ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขแบบครอบจักรวาล Universal Prevention และให้สถานประกอบกิจการและร้านอาหารต่าง ๆ เข้มงวดในการปฏิบัติตาม COVID Free Setting รวมทั้งการฉีดวัคชีนให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างน้อย 2 เข็ม แม้ในภาพรวมของประเทศไทยเริ่มดีขึ้นแล้ว  แต่ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น  

'คณะทำงานฟรุ้ทบอร์ด' ประเมินนโยบาย 'ซีโร่โควิด'​ (Zero Covid-19) กระทบส่งออกผลไม้ไทยไปจีนถึงขั้นวิกฤติ เสนอยกระดับปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ

'อลงกรณ์' วาง '​3 กลยุทธ์ 7 มาตรการ' รับมือฤดูผลิตผลไม้ล่วงหน้าพร้อมจับมือลาวเร่งเปิดบริการขนส่งทางรถไฟสายใหม่ไทย-ลาว-จีนโดยเร็วที่สุดเผย“เฉลิมชัย”ประสานฑูตจีนแก้ปัญหาด่านจีนปิดเตรียมประชุมคณะกรรมการเกษตรไทย-จีนประชุมมกราคมนี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้​ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ว่าได้จัดประชุมคณะทำงานฯ​ และเชิญทุกภาคส่วนร่วมประเมินสถานการณ์ปัญหาการขนส่งผลไม้ส่งออกไปจีนจากผลกระทบของนโยบายและมาตรการ​ Zero Covid19 ทำให้เกิดปัญหาการส่งออกผลไม้ไปจีนทางบกติดขัดอย่างรุนแรงเกือบทุกด่านบริเวณพรมแดนจีน-ลาวและจีน-เวียดนามซึ่งไทยต้องขนส่งผ่านแดนได้แก่ ด่านโมฮ่าน, ด่านเหอโขว่, ด่านตงชิง, ด่านผิงเสียง​ และด่านโหยวอี้กวน เป็นต้น

โดยที่ประชุมประเมินว่านโยบายซีโร่โควิด​(Zero Covid-19) จะกระทบการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนถึงขั้นวิกฤติ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันฤดูกาลผลิตปี​ 2565 จึงเสนอให้ยกระดับปัญหาการส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายและมาตรการ Zero Covid19​ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมทำงาน หรือมอบหมายคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้​ (Fruit Board)เป็นหลักในทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ

นอกจากนี้คณะทำงานฯ​ ได้กำหนด​ 3​ กลยุทธ์และ​ 7​ มาตรการเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้แก่... 

1.กลยุทธ์ความร่วมมือในการด้านมาตรการปฏิบัติในการป้องกันโควิดและระบบโลจิสติกส์

2.กลยุทธ์ด้านการตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ การตลาดออนไลน์และการตลาดแบบออฟไลน์

3.กลยุทธ์ด้านซัพพลาย เช่น การแปรรูป การจัดเก็บสินค้าด้วยห้องเย็น การขนส่งโดยระบบ Cold Chain การเกลี่ยปริมาณผลผลิตด้วยการผลิตผลไม้นอกฤดู

โดยมี 7 มาตรการเป็นแนวทางการทำงาน...

1.การเร่งเจรจาเปิดด่าน การกำหนดเกณฑ์ที่ชัดเจนในเรื่องการเปิด-ปิดด่าน โดยใช้การทูตในการสร้างความร่วมมือและการสร้างความเข้าใจผ่านกลไกทุกระดับโดยเฉพาะคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงเกษตรของสาธารณรัฐประชาชนจีน

2.มาตรการ Covid Certification ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

3.การเร่งเปิดบริการการขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟลาวจีนให้เร็วที่สุด

4.การเร่งจัดระบบโลจิสติกส์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศและการนำระบบ Cold Chainเข้ามาใช้จากต้นทางจนถึงปลายทาง

5.ขยายตลาดต่างประเทศไปยังตลาดรองอื่นๆ 

6.ขยายตลาดในประเทศ การกระจายขายภายในประเทศให้มากที่สุด ผ่านระบบสหกรณ์ บริษัทไปรษณีย์ไทย ประเทศขนส่งภาคเอกชน 

7.การแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การจัดเก็บผลไม้ระบบสต็อก การเกลี่ยผลผลิตผลไม้นอกฤดูกาล 

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ทุกมาตรการเป็นการบริหารเชิงรุกแบบบูรณาการ เพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดการพัฒนาและเกิดความยั่งยืนในระบบผลไม้ไทย

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเมื่อวันที่27ธันวาคมที่ผ่านมาโดยได้หยิบยกปัญหาด่านจีนและมาตรการซีโร่โควิดโดยสถานเอกอัครราชทูตจีนยินดีที่จะประสานการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการเกษตรไทย-จีนในเดือนมกราคมนี้และการประชุมเรื่องความร่วมมือด้านสุขอนามัยพืช-สัตว์ในเดือนถัดไป

“เราหวังว่า ด้วยความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่าง​ 2​ ประเทศจะช่วยให้ปัญหาคลี่คลายโดยเร็วก่อนจะถึงฤดูกาลผลผลิตผลไม้ของไทยในเดือนมีนาคม​ 2565 รวมทั้งการร่วมมือกับลาวและจีนในการขนส่งทางรถไฟจากไทยผ่านลาวไปจีนให้เปิดบริการโดยสมบูรณ์ให้เร็วที่สุด” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมที่ระดมพลผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนประกอบด้วยนายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายยุคล ชนะวัฒน์ นายชรัตน์ เนรัญชน ปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะทำงานฯ จากกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยมี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นฝ่ายเลขานุการคณะทำงานฯ และได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ได้แก่ที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง นครกว่างโจว นครเซี่ยงไฮ้ นายชาญศักดิ์ ชื่นชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าผลไม้และผู้ส่งออกผลไม้ไทย สมาคมทุเรียนไทย สมาคมผู้ส่งออกผักและผลไม้ เป็นต้น

ที่ประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลจากภาคเอกชนได้แก่ Guangzhou Speed Refrigeration Equipment Co,.Ltd. และสตีเวีย เทคนิว ประเทศไทย บจก. (บริษัทอุปกรณ์ทำความเย็นความเร็วกวางโจว) บริษัท อินเตอร์ เอ็กเพรส โลจิสติกส์ จำกัด บริษัท เวียงจันทร์ โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด ผู้ประกอบการโลจิสติกส์จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี Nitrogen Freezer เพื่อวางระบบโครงสร้างระบบโลจิสติกส์ Cold chain รวมทั้งรับทราบรายงานโครงการมหานครผลไม้จันทบุรี

“รองผบ.ทสส.” ลงพท.ตรวจเยี่ยมจุดบริการปชช. พร้อมมอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ 

พล.อ.นเรนทร์  สิริภูบาล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รองผบ.ทสส.)  เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 ของ กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ศาลาประชาคมบ้านชัยมงคล ถนนเดชอุดม-บุณฑริก อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี 

ทั้งนี้ ตามที่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 โดยขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ภายใต้หัวข้อ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยมอบหมายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาและส่วนราชการของกองบัญชาการกองทัพไทย จัดตั้งจุดบริการประชาชน ณ บริเวณที่ตั้งหน่วยทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 จำนวน 38 จุด

ประกอบด้วย การบริการสอบถามข้อมูลเส้นทาง การบริการห้องสุขา การตรวจสภาพและซ่อมแซมยานพาหนะ การบริการเครื่องดื่ม อาหารว่างและผ้าเย็น การบริการทางการแพทย์ การแจ้งเหตุร้องทุกข์ การบริการนวดผ่อนคลาย การแสดงดนตรี และการจำหน่ายของฝากและสินค้าราคาถูก เป็นต้น

ดับวันแรก 39 ราย เจ็บ 362 คน ศปถ.ประสานจว.เข้มดูแลความปลอดภัยถนนสายหลัก - เส้นทางเชื่อมต่อสู่ภูมิภาค

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปีผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่พ.ศ.2565 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 362 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 362 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.80 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด

ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.30 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 83.90 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.80 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.60 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 15.01 – 18.00 น. ร้อยละ 22.70  ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.94 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,875 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 5,721 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 360,412 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 62,932 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 18,142 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 7,939 ราย รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 5,007 ราย 

ทอ.จัด UAV แบบ RTAF U1 บินสำรวจเส้นทางคมนาคม ร่วมตำรวจ จ.สระแก้ว เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของปชช. ช่วงเทศกาลปีใหม่ พื้นที่จังหวัดสระแก้ว และใกล้เคียง 

พล.อ.ต.บุญเลิศ  อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้สั่งการให้ กองบิน 3 จังหวัดสระแก้ว สนับสนุนเครื่องบินไร้คนขับตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 1 (UAV แบบ RTAF U1) ในการบินสำรวจเส้นทางคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ตามที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วร้องขอ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 บริเวณทางหลวงหมายเลข 3395 (วัฒนานคร - โคคลาน) ทางหลวงหมายเลข 3486 (โคคลาน - บ้านใหม่ไทยถาวร) และทางหลวงหมายเลข 348 (เขาช่องตะโก) จังหวัดสระแก้ว

โดย กองทัพอากาศ ได้จัดเครื่องบินไร้คนขับตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 1 (RTAF U1) จากหน่วยบิน 3011 ฝูงบิน 301 กองบิน 3 สนับสนุนภารกิจดังกล่าว โดยเชื่อมสัญญาณ Video Downlink (VDL) ไปยังกองอำนวยการร่วม สำหรับบัญชาการและควบคุม (Command and Control Room) ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และห้องบัญชาการและควบคุมส่วนหน้า สถานีตำรวจภูธรตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เพื่อประสานการปฏิบัติร่วมกันในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 

สมุทรปราการ-ธารน้ำใจ “พระครูจาบ” วัดหนามแดง เมตตามอบถุงยังชีพ-เงินช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง

ที่ภายในศาลาวัดหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนามแดง มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่ได้รับความเดือดร้อนในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้ว และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 

สืบเนื่องจาก ท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งได้ประสานความช่วยเหลือผ่านผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ อสม. ให้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการคัดกรองผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงตามชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือโดยจะมอบถุงยังชีพพร้อมด้วยเงินสดช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้
โดยในวันนี้ ทางวัดหนามแดง โดยท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนามแดง พร้อมด้วย พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว พ.ต.อ.พรณรงค์ เจริญวัฒนวิญญู ผกก.พิสูจน์หลักฐานสมุทรปราการ พ.ต.อ.ชนินทร์ เคหะ ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.1 ร่วมมอบถุงยังชีพให้กับทางตัวแทนและญาติของผู้ป่วยติดเตียง จำนวนกว่า 150 ราย ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ เงินสดคนละ 500 บาท และสิ่งของอื่นๆ อีกหลายรายการ อีกทั้ง ถือเป็นการส่งมอบความสุข ความห่วงใยที่มีต่อพี่น้องประชาชน รับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง

ด้าน ท่านพระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) กล่าวว่า ในวันนี้ทางวัดหนามแดง มีความห่วงใยในการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่ขาดรายได้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ประสานความร่วมมือกับทางผู้นำชุมชนต่างๆ เจ้าหน้าที่ อสม.เร่งคัดกรองจำนวนผู้ป่วยติดเตียงเพื่อดำเนินการช่วยเหลือช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

เวียดนามปืนไว!! เซ็นสัญญาตัวแทนขายวัคซีน​โควิดแคปซูล แม้ยังอยู่ในช่วงการทดลองในคลินิก

เมื่อ 29 ธันวาคม 2021 Oramed Pharmaceuticals บริษัทยาสัญชาติอิสราเอลได้แถลงว่า ทีมผู้พัฒนาวัคซีน Covid-19 ในรูปแบบเม็ดแคปซูล Oravax ได้เซ็นสัญญากับบริษัทโฮลดิงส์เวียดนาม Tan Thanh Holdings เพื่อสั่งซื้อแคปซูลวัคซีน Oravax ล่วงหน้าแล้วถึง 10 ล้านเม็ด แม้ว่าตอนนี้จะเพิ่งอยู่ในช่วงการทดลองในคลินิกก็ตาม

จากข้อตกลงนี้ จะทำให้บริษัท Tan Thanh ของเวียดนามได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย Oravax วัคซีน Covid-19 ชนิดแคปซูลอย่างเป็นทางการ ทั้งในเวียดนาม และในย่านอาเซียนทั้งหมด ตั้งแต่ไทย ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ นั่นก็คือ อินโดนิเซีย 

ซึ่งยอดสั่งจองลวงหน้า 10 ล้านเม็ด เป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้น และคาดว่าจะมียอดสั่งซื้อตามมาอีกแน่นอน เนื่องจากทั้งผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่ายของเวียดนามมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำวัคซีนแคปซูลตีตลาดในย่านอาเซียน ที่มีประชากรมากถึง 660 ล้านคน 

หลังจากได้พัฒนาวัคซีน Covid-19 รูปแบบแคปซูลจนผ่านขั้นตอนการทดสอบในกลุ่มสัตว์ทดลองแล้ว นาดาฟ คิดรอน ผู้บริหารสูงสุดของ Oramed กล่าวว่า Oravax ได้เข้าสู่การทดสอบในคลินิกกับกลุ่มอาสาสมัครแล้ว คาดว่าจะรู้ผลลัพธ์ไม่เกินต้นปี 2022 นี้ 

โดยทางการเวียดนามกำลังพิจารณาจากผลการทดสอบในเฟส 2 นี้อย่างใกล้ชิด หากผลสัมฤทธิ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ รัฐบาลเวียดนามพร้อมอนุมัติให้ใช้วัคซีนแคปซูล Oravax ในกรณีฉุกเฉินได้ทันที ซึ่งจะมีผลอย่างมากในการทำตลาดวัคซีน Oravax ในภูมิภาคอาเซียน

จากการประเมินของ Oramed พบว่า กลุ่มประเทศทุ่มงบประมาณถึง 4% ของ GDP ในสวัสดิการสาธารณสุขในประเทศ คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญในแต่ละปี ที่เป็นโอกาสในการทำตลาดของวัคซีนแคปซูล Oravax 

ซึ่งวัคซีน Covid-19 ชนิดแคปซูลเม็ด กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากแม้ในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์ Omicron 

ดังนั้นการใช้วัคซีนชนิดแคปซูล ที่ใช้ได้ง่ายเหมือนยาทั่วไปอาจเป็นจุดเปลี่ยนเกมสำคัญในการกระจายวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว แต่เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวัคซีนแบบฉีดที่ใช้กันอยู่ตอนนี้มาก 

และหากวัคซีนแคปซูล Oravax ประสบความสำเร็จในการพัฒนา ก็นับว่าโชคดีของบริษัทโฮลดิงส์จากเวียดนาม ที่ปืนไว เซ็นสัญญาก่อนใครในภูมิภาคนี้


เรื่อง: ยีนส์​ อรุณรัตน์

อ้างอิง: Channal News Asia / Biospace.com / The Jerusarem Post

“ ตร.เตรียมความพร้อม ดูแลประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ”

วันนี้ (29 ธ.ค.2564) เวลา 16.30 น. ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้มอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการจราจร โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น. กว่า 14,000 นาย ช่วยอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่จะถึงนี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่าได้กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันอุบัติเหตุจราจรให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทางไป – กลับภูมิลำเนา เพื่อฉลองปีใหม่กับครอบครัวและบุคคลอันเป็นที่รักอย่างปลอดภัยและมีความสุข ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมความพร้อมการปฏิบัติในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยจัดกำลังข้าราชการตำรวจ จำนวน 14,000 นายเศษ ไว้คอยดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณเส้นทางเข้า – ออกกรุงเทพมหานคร, สถานีขนส่ง, สนามบิน และจุดเชื่อมต่อเส้นทางหลักให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดร่วมกับ บขส. เพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ การตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมอบนโยบายเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติดังนี้

1) ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในทุกส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชน โดยเน้นเส้นทางเข้า - ออก กรุงเทพมหานคร, สถานีขนส่ง, สถานีรถไฟ และสนามบิน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบประกอบในการวางแผนการเดินทาง

2) ขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกภาคส่วน ให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรโดยเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่

3) จัดให้มีจุดบริการประชาชน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

4) จัดเตรียม และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนกรณีมีเหตุฉุกเฉิน เช่น  รถยก, 
รถกู้ภัย, รถฉุกเฉินทางการแพทย์ เป็นต้น

5) การบังคับใช้กฎหมาย โดยให้มีการตั้งจุดตรวจเพื่อกวดขันวินัยจราจร, จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์, เพื่อป้องกันอุบัติเหตุให้กับประชาชน โดยเน้นพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

6) จัดกำลังพลตรวจตราการจัดงาน/กิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งร้านอาหาร สถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการควบคุมโรค เช่น การจำกัดจำนวนคนเข้ารับบริการ การเว้นระยะห่างไม่แออัดจนเกินไป และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร

รองผู้ว่ากทม. ผนึกกำลัง! กรมพก. เยี่ยมคนพิการ - ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มเปราะบาง

"นายสกลธี ภัททิยกุล" รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย "นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ" อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และนายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ และแนะนำสิทธิประโยชน์ของ "คนพิการ" พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่คนพิการติดเตียง และกลุ่มเปราะบาง จำนวน 46 รายในพื้นที่เคหะชุมชนทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่

อีกทั้ง ยังได้ให้คำแนะนำ คำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิ และสวัสดิการทางกฎหมายของ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการพ.ศ 2550 เพื่อเป็นเครื่องมือกลไกในการช่วยเหลือและขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของคนพิการที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที 

 

มองโกเลีย - พัฒนาโรงเรือน – ปลูกผักเพื่อความพอเพียง จากการระบาดของโควิด-19 และขาดแคลนผักที่นำเข้าจากจีนเนื่องจากชายแดนยังไม่เปิด

อูลานบาตอร์/มองโกเลีย - การปิดจุดผ่านแดนในเออร์เลียนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด ทำให้เกิดการขาดแคลนผักที่นำเข้าจากจีนไปยังมองโกเลีย เนื่องจากชายแดนยังไม่เปิด ชาวมองโกเลียจึงต้องปลูกผักใบในประเทศ

มองโกเลียนำเข้าผักใบ 21,000 ตันต่อปีในราคา 25 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์มาจากประเทศจีนและอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นการจัดหาให้กับผู้ประกอบการเรือนกระจกในประเทศ

บางคนที่ประสบความสำเร็จในการบริหารโรงเรือนได้เสนอแนะว่ารัฐบาลควรมีส่วนช่วยในการพัฒนาและสร้างมันขึ้นมาภายใต้สโลแกน “มาพัฒนาเหมืองที่ไม่ขุดของเรากันเถอะ” แล้วขายให้กับเกษตรกรที่มีประสบการณ์ด้วยเงินกู้ยืมที่พวกเขาจ่ายผ่านการขายผลิตภัณฑ์ของตน

แม้ว่าสภาพอากาศของชาวมองโกเลียจะแห้งแล้งและไม่แน่นอน ผู้อำนวยการบริษัท Munkh Nogoon Amidral Company Kh. Altantsatsral กล่าวว่าการเปิดโรงเรือนในประเทศมีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จเนื่องจากสภาพอากาศที่สดใสของมองโกเลีย เนื่องจากมี "แสงแดดมากกว่า 300 วันต่อปีและมีเมฆน้อยเพียงไม่กี่วัน"

ผู้อำนวยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัย โดยเน้นว่าบ้านสีเขียวโดยใช้แผงโซลาร์เซลล์จะช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ พวกเขายังตั้งเป้าที่จะปลูกเฉพาะอาหารและผักออร์แกนิกเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน นักปฐพีวิทยา S. Sarangerel กล่าวว่าพวกเขาเริ่มปลูกผัก 5 ชนิดตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม รวมทั้งผักโขม ผักกาดหอม และหัวหอม โดยเสริมว่าผักได้รับการปฏิสนธิด้วยมูลสัตว์และมูลไก่

ในการพูดคุยกับสำนักข่าว A24 นั้น Altantsatsral ได้เสนอข้อเสนอที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินการเรือนกระจกในอูลานบาตอร์

“ฉันมีข้อเสนอที่ชัดเจนในการพัฒนาเรือนกระจก เรือนกระจกควรรวมอยู่ในระบบสวนเกษตร ในห่วงโซ่คุณค่า และควรสร้างเรือนกระจกในฤดูหนาวขนาด 40-50 เฮกตาร์พร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้วยเงินทุนของรัฐ หลังจากนั้นควรขายเรือนกระจกที่เสร็จแล้วโดยจำนองให้กับผู้ที่มีประสบการณ์ในการปลูกผักมานานหลายปี”

 

‘วัชระ’ พิมพ์สมุด ‘ในหลวง ร.9’ แจกนักเรียนวันเด็ก ปลูกฝังความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มอบสมุดวันเด็ก 2565 จำนวน 260 เล่ม ให้นักเรียนโรงเรียนบ้านซอย 2 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยนางสาวจาริยา มินทการ ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นผู้รับมอบผ่านการประสานงานโดยคุณครูมนพัทธ์ สินธนามราพันธ์ เพื่อให้เด็ก ๆ มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตาม พระราโชบายด้านการศึกษา ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งการศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน

1.มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง

2.มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง

3.มีงานทำมีอาชีพ

4.เป็นพลเมืองดี

 

เพชรบูรณ์ - ‘มณฑลทหารบกที่ 36’ ร่วมกับ ‘เหล่ากาชาด’ จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต

ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 และประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 36 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลจิตอาสาของหน่วย ที่มาร่วมบริจาคโลหิต, ดวงตาและอวัยวะให้กับโรงพยาบาลเพชรบูรณ์และเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2564 และช่วยเหลือประชาชนในห้วงสถานการณ์โควิด-19  

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 13/2564 และประธานเปิดนิทรรศการ “โครงการของขวัญปีใหม่ สำหรับประชาชน มอบความสุขความปลอดภัย ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2565”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 13  โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมการประชุม ณห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีรายละเอียดเบื้องต้น เพื่อรับฟังรายงานผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านต่างๆ 

โดยคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคลได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ของข้าราชการตำรวจ เดือน ธ.ค. 2564 มีข้าราชการตำรวจลงโทษทั้งสิ้นจำนวน 28 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 26 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 2 นาย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค. 64 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 250 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 192 นาย ปลดออกจากราชการ จำนวน 49 นาย และให้ออกจากราชการ จำนวน 9 นาย และในโอกาสเดียวกันนี้  พล.อ. ประยุทธ์ฯ  ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด “กิจกรรมของขวัญปีใหม่ สำหรับประชาชน มอบความสุขปลอดภัย ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2565”ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 ซึ่งประกอบด้วย 6 โครงการ ที่จะมอบเป็นของขวัญแก่พี่น้องประชาชน และข้าราชการตำรวจ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2565 ดังนี้

1. ด้านป้องกันอาชญากรรม ได้แก่ 

(1)  โครงการ Smart Safety Zone 4.0 เป็นโครงการยกระดับการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ โดยผสมผสานทฤษฎีและแนวคิดในเรื่องการป้องกัน อาชญากรรม และอาชญาวิทยา มีการนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ ร่วมถึงการบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. 64) มีสถานีตำรวจในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนำร่องในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1-9 จำนวนทั้งสิ้นรวม 15 สถานีทั่วประเทศ สำหรับในปี 2565 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้มีการขยายการดำเนินโครงการไปยังทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ ทาง  http://smartsafetyzone.police.go.th

(2) โครงการฝากบ้าน 4.0 เป็นโครงการที่พัฒนามาจากโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่เป็นที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน โดยการนำเอาเทคโนโลยีที่เรียกว่าระบบคลาวด์กลางของภาครัฐ ในการเก็บข้อมูล ประมวลผล และนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน ผ่านทางแอปพลิเคชัน OBS  ที่มีการใช้ระบบQR Code ในระบบการตรวจสอบ การควบคุมการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชา และมีการส่งผลให้ประชาชนเจ้าของบ้านโดยทันที เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาดูแลบ้านของตนที่ฝากไว้ในโครงการ

(3) โครงการ CCTV ระวังภัย ระยะที่ 2 เป็นโครงการที่สืบเนื่องจากความสําเร็จในการดําเนินการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในระยะที่ 1 ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบความสำเร็จ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน ในปี 2565 ได้มีการขยายเขตพื้นที่ในการติดตั้งกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีกจำนวน 8,500 ตัว และในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 อีกจำนวน  5,000 ตัว

2. ด้านการสืบสวน ได้แก่

(1) โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร เป็นโครงการที่แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ชองกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการดำเนินงานชุมชนแบบยั่งยืน ในการป้องกัน และปราบปรามปัญหายาเสพติด บูรณาการความร่วมมือ กับทุกภาคส่วน ในการลดจำนวนผู้เสพ ผู้ขายยาเสพติดให้หมดไปจากชุมชน ลดอุปสงค์หรือจำนวนผู้ติดยาเสพติดในประเทศให้ลดลงได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน และเพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ซึ่งให้ถือว่า ผู้เสพ คือ “ผู้ป่วย” ทั้งนี้ ในปี 2564 มีการดำเนินงานในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,483 หมู่บ้าน/ชุมชน ในห้วงระยะเวลา 3 เดือน

(2) โครงการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมออนไลน์ เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นโดยกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาระบบในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อให้ได้รับการบริการที่รวดเร็ว ลดอัตราความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID – 19) ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผ่านระบบออนไลน์  โดยผ่านทางเว็บไซต์ www.crd-check.com พร้อมระบุสถานที่ติดต่อขอรับผลการตรวจสอบ ได้ที่กองทะเบียนประวัติ อาชญากร ศูนย์พิสูจน์หลักฐานจังหวัดทั่วประเทศ 

3. ด้านการท่องเที่ยวปลอดภัย ได้แก่

(1) โครงการสุภาพบุรุษจราจร เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างตำรวจจราจรต้นแบบที่มีความเป็นสุภาพบุรุษจราจร เป็นที่รักของประชาชน สร้างความเชื่อมั่นศรัทธา ตามหลัก 5 s คือ smile smart salute service mind standard ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน ลดจุดเสี่ยง และลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมแสวงหาความร่วมมือกับภาค ซึ่งกำหนดให้มีฝึกอบรมเสริมสร้างความรู้แก่ประชาชน อาทิ การสร้างอาสาจราจร และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม รวมถึงในเรื่องของการว่ากล่าวตักเตือนกรณี ความผิดเล็กน้อย โดยเปลี่ยนเป็นให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายจราจรกับผู้ที่ถูกว่ากล่าว เป็นต้น

(2) โครงการใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ เป็นโครงการต่อเนื่องมาจากปี 2564 ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับบริษัทมหาชน (จำกัด) ธนาคารกรุงไทย ในการพัฒนาระบบธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพื่อให้บริการรับชำระค่าปรับจราจรใบสั่งทุกประเภท ซึ่งได้เชื่อมโยงฐานข้อมูลใบสั่งของสถานีตำรวจทั่วประเทศ และกรมขนส่งทางบก โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2559 และได้มีการต่อยอดพัฒนาระบบ Police Ticket Management (PTM) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการบันทึกค่าปรับจราจร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกต่อพี่น้องประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน 

(3) โครงการ TOURIST POLICE I LERT U  เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นโดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ที่พัฒนาระบบนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ผ่านระบบ Application “TOURIST POLICE I LERT U” โดยมีระบบการระบุตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือ อีกทั้งการจัดตั้งจุดบริการกว่า 170 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นการดูแลความปลอดภัยและความอุ่นใจแก่นักท่องเที่ยวในการเดินทาง ทั้งนี้ ยังมีระบบสายด่วน Call Center 1155 ที่ให้บริการถึง 5 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, รัสเซีย, จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลี ตลอด 24 ชั่วโมง

สตูล - ติวเข้ม!! ยกระดับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวชุมชน

ที่วิทยาลัยชุมชนสตูล อำเภอเมือง จังหวัดสตูล สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล จัดโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยเชิญ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิด กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพชุมชนท่องเที่ยวจังหวัดสตูลรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 27- 29 ธันวาคม ปี พ.ศ.2564

นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวส่งเสริมการจัดการท่องเที่ยวให้เกิดการมีส่วนร่วมและยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดสตูล โดยมีการจัดกิจกรรมอบรมและศึกษาดูงานจำนวน 2 รุ่น  โดยรุ่นที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ธันวาคม 2564 ณ วิทยาลัยชุมชนและจังหวัดพัทลุง รุ่นที่ 2 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2565 ณ ศูนย์ เรียนรู้ชุมชนท่องเที่ยวบ้านพญาวังสาจังหวัดสตูลและจังหวัดตรัง โดยผู้เข้าอบรมจากสมาชิกและชุมชนเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดสตูลจำนวนรุ่นละ 55 คน

การส่งเสริมการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวในครั้งนี้เพื่อให้ความรู้และเป็นการเตรียมความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวแนวทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าการเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการรองรับนักท่องเที่ยวการส่งเสริมตลาดดิจิทัล รองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ new normal รวมทั้งการศึกษาดูงานเรียนรู้ชุมชนท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค โดยเชิญวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์ในเรื่องที่เกี่ยวข้องมาร่วมแลกเปลี่ยน

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า การอบรมศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดพัทลุงรุ่นที่ 1ในครั้งนี้ของชุมชนท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ขอให้ทุกคนได้เก็บเกี่ยวความรู้เพื่อมาปรับใช้ให้ตรงกับจุดแข็งของชุมชนของตัวเอง

 

โพล มธ. “เฉลิมชัย ศรีอ่อน”และ”กระทรวงเกษตรฯ.” ขึ้นแท่นรัฐมนตรีและกระทรวงที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดปี2564

ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อผลงานของรัฐบาล ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 21-25 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยสอบถามกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนในกรุงเทพมหานคร ประชาชนต่างจังหวัดในเขต อ.เมือง และประชาชนต่างจังหวัดในเขตต่างอำเภอ ปรากฎผลดังนี้

1.    ความพอใจภาพรวมผลงานและการทำงานของรัฐบาล พบว่า ประชาชนในกรุงเทพมหานคร พอใจ 49.47% ประชาชนต่างจังหวัดในเขต อ.เมือง พอใจ 51.08% และประชาชนต่างจังหวัดในเขตต่างอำเภอ พอใจ 65.60% 

2.    ภาพรวมผลงานและการทำงานของแต่ละกระทรวงที่ประชาชนพอใจมากที่สุด อันดับ 1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 58.58% อันดับ 2 กระทรวงสาธารณสุข 57.17% อันดับ 3 กระทรวงพาณิชย์ 56.83% และอันดับ 4 กระทรวงแรงงาน,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 54.65%

3.    ภาพรวมรัฐมนตรีที่ประชาชนชื่นชอบผลงานมากที่สุด อันดับ 1 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน 40.92% อันดับ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล 39.91% อันดับ 3 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ 35.41% และอันดับ 4 นายสุชาติ ชมกลิ่น,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 34.13% 

4.    ผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบและรับรู้มากที่สุด อันดับ 1 โครงการประกันรายได้เกษตรกร 40.16% อันดับ 2 โครงการ “คนละครึ่ง” 38.54% อันดับที่ 3 โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” 34.23% อันดับที่ 4 ผลงานตัวเลขการส่งออกสินค้า 33.42% อันดับที่ 5 โครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกร 32.61% อันดับ 6 การแก้ไขปัยหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 30.73% อันดับ 7 โครงการ “มง33 เรารักกัน” 30.51% อันดับ 8 โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.56% อันดับ 9 โครงการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว 11.32% และอันดับ 10 โครงการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 8.09%


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top