Thursday, 25 April 2024
NEWS

สธ. เผยผู้ติด 'โอมิครอน' อาการน้อยถึงไม่มี ส่วน 90% ของเชื้ออยู่หลอดลมมากกว่าลงปอด

ที่กระทรวงสาธารณสุข สธ. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงฉากทัศน์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย และอัปเดตสถานการณ์เชื้อโอมิครอน ว่า... 

ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. - 18 ธ.ค. 64 เป็นต้นมา สะสม 514 รายที่เป็นต้นเชื้อ กระจายใน 14 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากระบบเข้าประเทศทั้ง 3 ระบบ ได้แก่ ระบบไม่กักตัว (Test and go), ระบบแซนด์บอกซ์ (Sand box) และระบบกักตัว (Quarantine) แล้วเราตรวจจับได้หลังจากนั้นคนเหล่านี้จะกลับไปพื้นที่ต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในการควบคุม แต่บางส่วนเล็ดลอดออกไป พบเป็นการสัมผัสใกล้ชิดผู้เดินทางจากต่างประเทศประมาณ 20% เช่น ไปเยี่ยมญาติ ก็อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ จึงต้องระมัดระวังให้มาก

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอาการโอมิครอน ของผู้ติดเชื้อมีดังนี้... 

>> อาการน้อยจนถึงไม่มีอาการ 90% 
>> มีอาการเล็กน้อย 10% 
>> อาการมาก 3-4% 

ขณะที่ โอมิครอนพบที่หลอดลมมากกว่าลงปอด 

ดังนั้นอาการที่พบได้มากคือ ‘ไอ’ แต่หากลงปอดก็จะมีความรุนแรงเช่นเดียวกับเดลตา 

ส่วนการศึกษาจากผู้ติดเชื้อโอมิครอน 41 รายที่เราทำการรักษาอยู่ พบว่า อาการไอ 54%, เจ็บคอ 37%, ไข้ 29%, ปวดกล้ามเนื้อ 15%, มีน้ำมูก 12%, ปวดศีรษะ 10% หายใจลำบาก 5% และไม่ได้กลิ่น 2%

ทั้งนี้เราพบอาการไม่ได้กลิ่นน้อย พบเพียง 1 ราย โดยเราให้ยาที่มีอยู่คือ ฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 5 วันตามมาตรฐาน เราจึงพบว่า หากให้ยาตั้งแต่ต้น อาการจะดีขึ้นภายใน 24-72 ชั่วโมง อาการฟื้นกลับมาเป็นปกติได้

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีเสนอฉากทัศน์พยากรณ์ในกรณีที่มีการแพร่ระบาดของโอมิครอนใน 3 รูปแบบ…

“มนุษย์ควัน” เผย วุฒิสภาฟิลิปปินส์ผ่านกฎหมายคุมบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย

เฟซบุ๊กเพจ “มนุษย์ควัน” เผยวุฒิสภาฟิลิปปินส์ผ่านร่างกฎหมายยาสูบไร้ควัน  ตั้งเป้าควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์แบบให้ความร้อน เพื่อไม่ให้เด็กเข้าถึงได้ ขณะที่เปิดทางให้สิงห์นักสูบผู้ใหญ่ 17 ล้านคนมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่อันตรายน้อยกว่า ชี้รัฐสภาไทยและรัฐบาลควรดูเป็นตัวอย่าง

นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ “มนุษย์ควัน” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 30,000 คนที่รณงรงค์เรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ไร้ควัน เผยความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการออกกฎหมายผลิตภัณฑ์นิโคตินแบบไม่เผาไหม้ หรือ Vaporized Nicotine Product bill ในประเทศฟิลิปปินส์ว่า “วุฒิสภาฟิลิปปินส์เพิ่งผ่านร่างกฎหมายนี้เป็นที่เรียบร้อยมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากที่ก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรของฟิลิปปินส์ก็มีมติเห็นชอบในร่างกฎหมายนี้มาแล้ว ซึ่งสภาฯฟิลิปปินส์เชื่อว่าจะช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศได้ และยังจะช่วยให้คนสูบบุหรี่กว่า 17 ล้านคนในฟิลิปปินส์มีโอกาสเปลี่ยนไปไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่”

ร่างกฎหมายผลิตภัณฑ์นิโคตินแบบไม่เผาไหม้ มีสาระสำคัญเพื่อควบคุมการนําเข้า ผลิต ขาย การบรรจุ การจัดจําหน่าย การใช้และการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (HTPs) ตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อป้องกันประชาชนจากอันตรายของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน
 
“ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่ใช้ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนแต่ก็มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศ เลยจำเป็นต้องมีการออกกฎหมายเพื่อควบคุมให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ 79 ประเทศทั่วโลก เช่น อังกฤษ สหภาพยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา คือการมีมาตรการควบคุมที่เฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เลย แต่ประเทศไทยกลับเลือกที่จะแบนบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน โดยไม่ดูความต้องการของผู้สูบบุหรี่ที่มองหาผลิตภัณฑ์ทดแทนการสูบบุหรี่ที่อันตรายน้อยกว่า ดังนั้นการแบนจึงไม่ได้ผล เพราะก็ยังมีคนแอบซื้อ แอบใช้ จำนวนมาก ซึ่งอาจรวมถึงเด็กๆ และเยาวชนด้วย มีการขายกันเกลื่อนในโลกออนไลน์ แถมรัฐเก็บภาษีสรรพสามิต หรือภาษีศุลกากรก็ไม่ได้เลย”

 

อดีตนักเรียนเกาหลีใต้ เผยคุ้ม!! พัฒนา ‘คลองช่องนนทรี’ คล้าย ‘คลองชองกเยชอน’ จากคลองดำ สู่พิกัดแห่งความเป็นหน้าเป็นตา 

นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจ ฟาร์มปลาสวยงาม แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Nitipat Bhandhumachinda’ ในฐานะมุมมองหนึ่งของอดีตนักเรียนเกาหลีใต้ ว่า...

นับจากมีประเด็นคลองช่องนนทรี ก็มีคนชอบถามผมที่เคยเรียนเกาหลีว่า โครงการนี้ เมื่อเทียบกับ คลอง ชองกเยชอน (청계천) แล้วคิดว่าอย่างไร

ผมก็ตอบไปตามความจริงว่า แม้สมัยที่เรียนอยู่เกาหลี ผมจะชอบขี่เสือหมอบ ร่อนถ่ายรูปไปตามที่ต่างๆ แถวๆ นั้น แต่ไม่เคยสังเกตสนใจไอ้คลองโบราณอายุหลายร้อยปีนี้เลย

เพราะคลองที่โดนตึกรามบ้านช่องและถนนหนทาง สร้างขึ้นมากดทับ มากมาย จนน้ำเน่าเสียไปทั้งคลองนั้น
มันเป็นผลจากการขยายเมืองอย่างรวดเร็ว ของยุคเกาหลีก้าวกระโดด จนเป็นรอยด่างกลางเมืองที่ซ่อนตัวเงียบๆ ไม่มีใครอยากเห็นหรือให้ความสนใจ

ช่วงที่กรุงโซลต้องการจะพัฒนาคลองชองกเยชอน ที่มีความยาวเกือบๆ 6 กิโลเมตร ให้สะอาด ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล (ประมาณหมื่นล้านบาท) และต้องเวนคืนบ้านเรือนหลายแห่ง ก็โดนกระหน่ำต่อต้านมากมาย

แต่พอสร้างเสร็จก็กลายเป็นแหล่งรวมความสนใจ กลายเป็นหน้าเป็นตา และจุดท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจของกรุงโซล

ถามผมว่าผมชอบหน้าตาของคลองชองกเยชอนในสมัยนี้ไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ค่อยชอบหรอก เพราะผมไม่ใช่คนที่ชอบสิ่งปลูกสร้างที่อลังการไม่เป็นธรรมชาติ

แต่ถ้าถามว่าดีมีประโยชน์ไหมนั้น ก็ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกับคลองน้ำดำๆ รายล้อมไปด้วยแหล่งเสื่อมโทรมอย่างสมัยก่อนแล้ว ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาปรับปรุงได้คุ้มค่าแม้จะใช้เงินลงทุนมากมายก็ตาม

เด็กนร.ชายแดนยิ้มออก!! หลังพี่ทหาร นพค. 45 มอบอาคารน้ำดื่มเป็นของขวัญปีใหม่ให้นักเรียนสตูล ตามนโยบาย ‘1 นพค. 1 ชุมชน 1 โรงเรียน’ หลังที่ผ่านมาพบพื้นที่น้ำแดงเป็นสนิมกินไม่ได้

วันที่ 27 ธ.ค.2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มอบหมายให้ พลเอกจีรัชญ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยมี พลตรี กฤษณ์ จันทรนิยม ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก อาทิตย์ภากร สังขรัตน์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ส่งมอบอาคารบริการน้ำดื่มระบบ RO กำลังผลิตขนาด 250 ลิตรต่อชั่วโมง ให้กับโรงเรียนและชุมชนบ้านควนโต๊ะเหลง ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นผู้แทนชาวสตูลในการรับมอบ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 ได้เข้าดำเนินโครงการ 1 นพค. 1 ฟาร์ม 1 โรงเรียน 1 ชุมชน

ซึ่งหน่วยฯ จะเข้าให้การสนับสนุนการทำฟาร์มตัวอย่างตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ ตลอดจนให้การสนับสนุนโรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ตั้งหน่วยทุก ๆ ด้าน เพื่อลดช่องว่าง สร้างความรัก ความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดี ต่อเยาวชนซึ่งเป็นนักเรียน และประชาชนในชุมชนใกล้เคียง พร้อมกันนี้ยังได้เยี่ยมชมกลุ่มแม่บ้านทำขนมพื้นเมือง ที่ทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 ให้การสนับสนุนในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมาอีกด้วย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 จัดสร้างอาคารบริการน้ำดื่ม ภายใต้นโยบาย 1 นพค. 1 ชุมชน 1 โรงเรียน ให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านควนโต๊ะเหลง เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ ที่โรงเรียนบ้านควนโต๊ะเหลง ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล 

โดย พลตรี กฤษณ์ จันทร์นิยม ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นประธานส่งมอบอาคารบริการน้ำดื่มระบบ RO เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน  โดย นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย เป็นประธานในการรับมอบ พร้อมด้วย น.อ.อาทิตย์ภากร สังขรัตน์ ผบ.นพค.45 พร้อมส่วนราชการ ให้การต้อนรับ

ในโอกาสนี้ ทางโรงเรียนบ้านควนโต๊ะเหลง จัดการแสดงขอบคุณน้ำใจของผู้ใหญ่ใจดีโดยเด็กนักเรียน ก่อนร่วมกันทำพิธีเปิด อาคารบริการน้ำดื่ม  พร้อมดื่มน้ำโชว์สร้างความมั่นใจว่าน้ำสะอาด ดื่มได้จริง ๆ สำหรับโรงเรียนบ้านควนโต๊ะเหลงนั้น  ในช่วงขาดแคลนน้ำ ทางโรงเรียนจะให้นักเรียนนำน้ำดื่มมาเอง แต้เมื่อมีอาคารบริการน้ำดื่มแล้ว นักเรียนเพียงน้ำขวดเปล่ามาจากบ้าน แล้วมาเติมน้ำจากอาคารบริการน้ำดื่มได้อย่างสะดวกสบาย และได้ดื่มน้ำสะอาดที่ผ่านระบบการกรองแล้ว

ด้าน พลตรี กฤษณ์ จันทร์นิยม ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา  กล่าวว่า  อาคารบริการน้ำดื่มดังกล่าวมีระบบปฏิบัติการแบบ RO หรือระบบการคัดแยกกรองน้ำ ได้อย่างละเอียดสูตรผ่านแผ่นกรองและเยื่อเมมเบรน  ส่วนน้ำเสียที่ไม่สามารถผ่านการกรอง ก็จะถูกแยก และนำไปอยู่ในระบบน้ำทิ้งโดยมีกำลังการผลิตขนาด 250 ลิตรต่อชั่วโมง  และผ่านเครื่องทำความเย็น  ซึ่งอาคารบริการน้ำดื่มนี้ จัดอยู่ในโครงการจัดหาน้ำกินน้ำใช้ ปีงบประมาณ 2565 โดยมีหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการจนแล้วเสร็จ และในโอกาสใกล้จะถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 จึงขอมอบอาคารบริการน้ำดื่มแก่โรงเรียน  และชุมชนบ้านควนโต๊ะเหลง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุก ๆ คนโดยใช้ประโยชน์ร่วมกันตามนโยบาย 1 นพค. 1 ชุมชน 1 โรงเรียน ซึ่งเป็นนโยบาย ที่จะสร้างความรักใคร่สามัคคีและลดช่องว่างระหว่างหน่วย นพค. โรงเรียน ตลอดจนชุมชนรอบข้าง

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า จากข้อมูลทราบว่าทางหน่วยบัญชาการทหารพัฒนามีนโยบายให้หน่วยขึ้นตรงดำเนินการโครงการ 1 นพค. 1 ชุมชน 1 โรงเรียนคือให้แต่ละนพค. ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เข้าให้การสนับสนุนโรงเรียนและชุมชน ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบซึ่งเป็นนโยบาย ที่จะเพิ่มความแน่นแฟ้นให้กับหน่วยงานราชการ ประชาชน ตลอดจนบุตรหลานซึ่งเป็นนักเรียน ในโอกาสนี้ผมก็ขอให้ทุกฝ่ายช่วยดูแลรักษาและใช้ประโยชน์อาคารบริการน้ำดื่มนี้ให้มากที่สุด ดังเจตนารมณ์ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจังหวัดสตูล จะได้รับการสนับสนุนโครงการดี ๆ ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 ดังเช่นที่ผ่านมา และในโอกาสใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ ผมขออวยพรให้ทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้จงประสบแต่ความสุขความเจริญมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง คิดสิ่งใดให้สมดังปรารถนาตลอดปี 2565

ด้าน นางฮาสาน๊ะ ยีปันจอ ผอ.รร.บ้านควนโต๊ะเหลง กล่าวขอบคุณทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 ที่ได้มอบอาคารน้ำดื่มให้กับนักเรียน นับเป็นเรื่องที่ดีเพราะเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำดื่ม โดยเฉพาะช่วงภัยแล้ง นักเรียนจะได้นำขวดเปล่ามาเติมน้ำได้ที่อาคารบริการน้ำดื่มได้ โดยไม่ต้องนำน้ำมาจากบ้าน นอกจากนี้ชุมชนก็ยังได้ใช้ร่วมกันด้วย เพราะช่วงเย็นประชาชนจะมาออกกำลังกาย ก็สามารถใช้น้ำสะอาด

รองปลัดแรงงาน ประธานออกรางวัล “บัตรแรงงานเชิญรับโชค” สลากบำรุงสภากาชาดไทย กระทรวงแรงงาน ปี 2564

วันที่ 27 ธันวาคม 2564 เวลา 10.30 น. นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในการหมุนวงล้อ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานร่วมเป็นสักขีพยานการออกรางวัล “บัตรแรงงานเชิญรับโชค” ประจำปี 2564 สลากบำรุงสภากาชาดไทย กระทรวงแรงงาน รายได้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย อาคารแพทยพัฒน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ดังนี้

>> รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ All New MG5 เลขที่ออก 40373

>> รางวัลที่ 2 จำนวน 1 รางวัล สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เลขที่ออก 12012

>> รางวัลที่ 3 จำนวน 6 รางวัล สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท เลขที่ออก 11950, 16427, 16609, 24344, 32951, 46050

>> รางวัลที่ 4 จำนวน 40 รางวัล สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง (รางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 1 ครั้ง) เลขที่ออก 019

ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกรางวัลสามารถนำใบสลากพร้อมด้วยบัตรประจำตัวประชาชนไปรับรางวัลได้ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2564 - 26 มีนาคม 2565 ระหว่างเวลา 09.00 - 16.00 น. โดยติดต่อขอรับรางวัลที่ กองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ชั้น 4 กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี ดินแดงกรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ : 02232 1144, 02232 1157 (ทั้งนี้หากพ้นกำหนดแล้วถือว่าสละสิทธิ์ในการรับรางวัล และมอบรางวัลให้กับสภากาชาดไทย)

 

โฆษกรัฐบาลเผย "นายกฯ" สั่งคุมเข้มระบบขนส่ง การจราจร และมาตรการป้องกันโควิด-19   ตั้งแต่วันนี้  เตรียมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนในสัปดาห์สุดท้ายของปืนี้  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงการเดินทางของพี่น้องประชาชนในสัปดาห์สุดท้ายของปืนี้  ซึ่งคาดจะมีการเดินทางข้ามจังหวัด/พื้นที่จำนวนมาก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขประสานกระทรวงคมนาคม บริษัทขนส่งทางบก  (บขส.) เตรียมมาตรการรองรับประชาชนที่จะมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ

โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า กรณีรถโดยสารที่ต้องใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป ควรมีการตรวจ ATK ผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทุกคน ส่วนผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะใช้บริการทั้งที่สถานีขนส่งและบนรถโดยสารตลอดการเดินทาง  สำหรับพนักงานขับรถและพนักงานบริการจะต้องมีการตรวจ ATK  ก่อนปฏิบัติงาน ตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 นอกจากนี้  ยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเตรียมรองรับการเดินทางตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 รวมระยะเวลา 7 วัน ติดตามการใช้เส้นทางจราจรทางถนน ให้มีความคล่องตัว ไม่ติดขัดด้วย

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีหวังว่า ปีนี้จะสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ และลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากที่สุด ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ด้วย
ทั้งนี้  บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)  คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มประมาณ 30% จากในช่วงปีใหม่ 64 โดยคาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้  เที่ยวไประหว่างวันที่ 28 – 30 ธันวาคม 2564 จะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 60,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม,รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,700 เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 2 – 3 มกราคม 2565 คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 50,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 4,500 เที่ยว  ซึ่ง บขส. พร้อมให้บริการด้วยรถโดยสารที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus และจัดการเดินรถตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย

 

UN ออกโรงประณาม - เรียกร้องรัฐบาลสืบสวน กรณีทหารพม่าฆ่า - เผาชาวบ้านในรัฐกะยา 35 ราย

เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติรายหนึ่งระบุเมื่อวันอาทิตย์ (26 ธ.ค.) ว่า เขาสยดสยองต่อรายงานข่าวที่น่าเชื่อถือ กรณีมีพลเรือนอย่างน้อย 35 รายถูกสังหารและเผาร่างจนไหม้เกรียมในพม่า และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการสืบสวน

เจ้าหน้าที่ 2 คนของกลุ่มไม่แสวงหากำไร เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) ยังคงสูญหาย หลังรถยนต์ของพวกเขาเป็นหนึ่งในหลายๆ คันที่ถูกโจมตีและจุดไฟเผาในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่รัฐกะยา

องค์กรเฝ้าระวังกลุ่มหนึ่งและสื่อมวลชนท้องถิ่นกล่าวโทษเหตุโจมตีดังกล่าวไปที่คณะรัฐประหาร

มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการใหญ่ด้านกิจการมนุษยธรรมของสหประชาชาติ ระบุในถ้อยแถลงว่า "ผมขอประณามเหตุการณ์ร้ายแรงนี้และทุกการโจมตีที่มีต่อพลเรือนทั่วประเทศ" พร้อมเรียกร้อง "ขอให้มีการสืบสวนอย่างละเอียดและโปร่งใส"

พม่าตกอยู่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงมาตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในเดือนกุมภาพันธ์ และจนถึงตอนนี้มีประชาชนเสียชีวิตจากการถูกปราบปรามโดยกองกำลังด้านความมั่นคงไปแล้วมากกว่า 1,300 ราย

กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People's Defence Forces) ผุดขึ้นทั่วประเทศเพื่อต่อสู้กับคณะรัฐประหาร ดึงทหารเข้าสู่ทางตันแห่งการปะทะและตอบโต้นองเลือด

เมื่อวันเสาร์ (25 ธ.ค.) ภาพถ่ายที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าเป็นภาพของรถบรรทุกถูกเผา 2 คันและรถยนต์อีกคันบนทางหลวงสายหนึ่งในเมืองพรูโซ ในรัฐกะยา และพบเห็นศพดำเป็นตอตะโกหลายศพอยู่ภายใน

สมาชิกของกองกำลังพิทักษ์ประชาชนในท้องถิ่น เปิดเผยว่านักรบของพวกเขาพบยานพาหนะเหล่านี้ในตอนเช้าวันเสาร์ (25 ธ.ค.) หลังได้ยินข่าวว่าทหารได้เรียกตรวจยานพาหนะหลายคันในพรูโซ หลังเกิดการปะทะกับนักรบของกลุ่มในบริเวณใกล้เคียงในวันศุกร์ (24 ธ.ค.)

"ตอนที่เราไปตรวจสอบพื้นที่ในตอนเช้าวันนี้ เราพบร่างผู้เสียชีวิตในสภาพไหม้เกรียมอยู่ในรถบรรทุก 2 คัน เราพบศพผู้เสียชีวิต 27 ศพ" สมาชิกรายนี้บอกกับเอเอฟพีในตอนเช้าวันเสาร์ (25 ธ.ค.) โดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม

ทีมเชียงใหม่มหานคร ร่วมพัฒนา "ตลาดน้ำ ท่าจะฮักสบแฝก" เชียงใหม่

ที่ผ่านมา ณ ท่าจะฮักสบแฝก หมู่ที่ 2 บ้านสบแฝก ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ "ทีมเชียงใหม่มหานคร" จิตอาสาช่วยเหลือสังคมเพื่อคนเชียงใหม่ นำโดย "นายทศพร สุจา" หัวหน้ากลุ่มเชียงใหม่มหานคร / ดร.ชวาล พ่วงฟัก  / นายสุรพันธ์ พัฒนพงษ์ / นางสาวสุริยะวรัญญา อสัตถสนธิ / นางสาว สุริยาวรัญญา อสัตถสนธิ / นางสาวมณีญาภรณ์ สมบัติจินดา /นายณัฐพล มุคำหล้า / นาย นิธิทัศน์ เด่นสท้าน / นางสาว จิตสุริยะมาตา จิตจักรวาลทอง และ ดร.ณัฐนนท์ จิรกิจนิมิตร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ / ท่านอดีต สจ. ภราดร มนตรีกุล ณ อยุธยา / นางสาว เจนจิรา มนตรีกุล ณ อยุธยา / นาย อดุลย์ ตานัน ผู้ใหญ่บ้านสบแฝกหมู่ 2 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

และทุกหน่วยงานสำคัญอื่น ๆ ของชุมชนบ้านสบแฝกหมู่ 2 ร่วมประชุมเสวนา การพัฒนาร่วมกันที่เริ่มจากความตั้งใจของผู้ใหญ่บ้านที่ต้องการผลักดันให้พื้นที่ดังกล่าวให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน โดยมีความตั้งใจจะผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชน ริมแม่น้ำปิง มีทั้งการตั้งร้านค้า และส่งเสริมกิจกรรมทางน้ำ เช่น การล่องแพ ระยะทางเกือบ2 กิโลเมตร ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว ดำเนินการโดยคนในชุมชนที่มีความชำนาญในการล่องแพ  จนประสบความสำเร็จเป็นสถานที่ที่คนในพื้นที่และรวมไปถึงในจังหวัดเชียงใหม่ รู้จักกันในนาม " ท่าจะฮักสบแฝก" แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ตามระเบียบมาตรการการควบคุมโรคติดต่อ ทำให้การท่องเที่ยวและการสร้างรายได้ของชุมชนเกิดวิกฤต ส่งผลกระทบให้ "ท่าจะฮักสบแฟก" ต้องปิดตัวลงชั่วคราว และทิ้งสถานที่ให้รกร้าง ยาวนานเกือบ 2 ปี 

ทั้งนี้ นายอดุลย์ ตานัน ผู้ใหญ่บ้านสบแฝกหมู่ 2 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้เสนอแนวทางพัฒนาพื้นที่ "ท่าจะฮักสบแฝก"  ฟื้นฟูให้กลับมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนอีกครั้ง และมีแนวทางจะพัฒนาให้เกิดรายได้ในชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชน  โดยทางทีมงาน "เชียงใหม่มหานคร" และน้องแพน สุริยะวรัญญา อสัตถสนธิ ได้เข้ามาช่วยระดมความคิดและวางแผนร่วมกันกับชุมชนเพื่อพัฒนาสถานที่ดังกล่าว ทางทีมงานได้มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานและหาแนวทางขับเคลื่อนโครงการให้สัมฤทธิ์ผลในอนาคต

 

“นายกฯ” ปลื้ม ยินดีช้างศึกไทย ทะลุชิงแชมป์ฟุตบอลอาเซียน AFF Suzuki Cup 2020 ชวนคนไทยร่วมเชียร์นัดชิง  29ธ.ค.-1ม.ค.65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยินดีกับนักฟุตบอลทีมชาติไทย และชื่นชมการแข่งขัน แม้จะเสมอทีมชาติเวียดนาม ประตู 0-0ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน AFF Suzuki Cup 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 นับเป็นความสำเร็จหลังจากชนะทีมชาติเวียดนามในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ด้วยประตู 2-0 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2564 เอาชนะแชมป์เก่าอย่างเวียดนามด้วยคะแนนรวมสองนัด 2 – 0 

“บิ๊กตู่" สั่งคุมเข้มระบบขนส่ง การจราจร และมาตรการป้องกันโควิด-19   ตั้งแต่วันนี้  เตรียมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนในสัปดาห์สุดท้ายของปืนี้  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงการเดินทางของประชาชนในสัปดาห์สุดท้ายของปืนี้  ซึ่งคาดจะมีการเดินทางข้ามจังหวัด พื้นที่จำนวนมาก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขประสานกระทรวงคมนาคม บริษัทขนส่งทางบก  (บขส.) เตรียมมาตรการรองรับประชาชนที่จะมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า กรณีรถโดยสารที่ต้องใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป ควรมีการตรวจ ATK ผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทุกคน ส่วนผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะใช้บริการทั้งที่สถานีขนส่งและบนรถโดยสารตลอดการเดินทาง  สำหรับพนักงานขับรถและพนักงานบริการจะต้องมีการตรวจ ATK  ก่อนปฏิบัติงาน ตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 นอกจากนี้  ยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเตรียมรองรับการเดินทางตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 รวมระยะเวลา 7 วัน ติดตามการใช้เส้นทางจราจรทางถนน ให้มีความคล่องตัว ไม่ติดขัดด้วย

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีหวังว่า ปีนี้จะสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ และลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากที่สุด ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ด้วย

ทั้งนี้  บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)  คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มประมาณ 30% จากในช่วงปีใหม่ 64 โดยคาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ เที่ยวไประหว่างวันที่ 28 – 30 ธันวาคม 2564 จะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 60,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม,รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,700 เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 2 – 3 มกราคม 2565 คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 50,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 4,500 เที่ยว  ซึ่ง บขส. พร้อมให้บริการด้วยรถโดยสารที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus และจัดการเดินรถตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย

 

'นายกฯ' ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องส่งผล EU รับรองระบบ Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงมติของสหภาพยุโรป (EU) ที่รับรอง Thailand Digital Health Pass บน "หมอพร้อม" เพื่อใช้ในการเดินทางเข้า 60 ประเทศ/ดินแดน ที่ EU ให้การรับรอง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชื่นชมและขอบคุณการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนสำคัญในความคืบหน้านี้ สะท้อนการดำเนินนโยบาย และการปฏิบัติงานของไทย ที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ระบบ Thailand Digital Health Pass สอดคล้อง รองรับการทำงานร่วมกับ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ EU รับรอง Thailand Digital Health Pass บน "หมอพร้อม" โดยรับรองและเชื่อมต่อการใช้งาน Digital Health Pass ให้ประเทศไทยเป็นลำดับที่ 2 ของอาเซียน ส่งผลให้ใบรับรองการฉีดวัคซีนบนแอพหมอพร้อมสามารถนำไปใช้งานได้เทียบเท่ากับเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 ของ EU โดยจะเริ่มใช้งานได้ในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งข้อมูลที่ปรากฎจะมีทั้งสถานะการได้รับวัคซีน ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งแบบ RT-CPR และ ATK รวมถึงประวัติการหายจากโรคโควิด-19

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยสำหรับการเดินทางพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ฝากเน้นย้ำ 10 ข้อ ขับขี่ปลอดภัย 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 สำหรับในช่วง 7 วันอันตราย ได้มอบนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้ไปช่วยดูแลความปลอดภัยการเดินทางของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งดูแลและรับผิดชอบงานด้านการจราจร พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการจราจร ได้ไปวางมาตรการป้องกัน และเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยในท้องถนน ในช่วงประชาชนเดินทางทั้งไปและกลับภูมิลำเนาไปฉลองเทศกาลปีใหม่ 2565

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใย สำหรับการเดินทางพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 จึงอยากจะเน้นย้ำ 10 ข้อ ในการขับขี่ปลอดภัย ดังต่อไปนี้

พรปีใหม่ พรของพ่อ พรจากฟ้าเพื่อความสุขของชาวไทย | MEET THE STATES TIMES EP.50

📌 พรปีใหม่ พรของพ่อ พรจากฟ้าเพื่อความสุขของชาวไทย
📌 ย้อนรำลึกพรปีใหม่ ‘พ่อหลวง ร.9’ พรพระราชทาน...ดุจน้ำทิพย์ชโลมใจชาวไทย!!

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

‘ส.ค.ส’ ส่งความสุขจาก ‘รอยปรุ’ ตาม ‘การปรุง’ สู่สืบสานกำลังใจแด่คนไทย | MEET THE STATES TIMES EP.49

📌 ‘ส.ค.ส’ ส่งความสุขจาก ‘รอยปรุ’ ตาม ‘การปรุง’ สู่สืบสานกำลังใจแด่คนไทย
📌ย้อนอดีต ‘ส.ค.ส’ พระราชทานแห่งความทรงจำ ของขวัญรับปีใหม่ปวงชนชาวไทยจาก ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ !!
ในรายการ MEET THE STATES TIMES

🕗เวลา 2 ทุ่มตรง รับชมไปพร้อมกัน !!

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

📽 ช่องทางรับชม LIVE
Facebook: THE STATES TIMES
YouTube: THE STATES TIMES
TikTok: THE STATES TIMES

2 กระทรวง ผนึกกำลัง!! สนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการ จากอุบัติเหตุทางถนน เป็นของขวัญปีใหม่ 2565

ณ ห้องประชุมอาคารสโมสร กระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานร่วมกันในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ อันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนระหว่าง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์

โดยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมและประธานกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

นายอนุทิน กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และมีเจตนารมณ์ที่จะสร้างสังคมแห่งโอกาส ที่มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน “ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยเฉพาะการดูแลคนพิการให้เข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และได้รับการพัฒนาศักยภาพไปพร้อมกัน ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงมียุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

โดยการสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ทุกเพศภาวะและทุกกลุ่ม สร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตและการมีส่วนร่วมเป็นพลังในสังคมสำหรับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงวัย พัฒนาระบบบริการสุขภาพ ลดความเหลื่อมล้ำของคุณภาพการบริการในแต่ละระบบ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงหน่วยบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ

โดยในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ให้ประสบความสำเร็จ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในโอกาสนี้จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม สนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือแก่ผู้พิการ เพื่อให้ผู้พิการสามารถดำรงชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงกับบุคคลทั่วไป

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top