Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

‘อิน-เอม’ 2 พี่น้องนักเรียนไทย คว้ารางวัลเหรียญทอง จากผลงานวิชาการระดับนานาชาติ ASIACHEM2025

สมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ The 20th Asian Chemical Congress (20 ACC )หรือ ASIACHEM2025 จาก Federation of Asian chemical societes (FACS) เพื่อสื่อสารเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางด้านวิทยาศาสตร์เคมีในสังคม โดยมีเป้าหมายนำไปสู่ความยั่งยืนของโลก ภายใต้ชื่องาน 

สำหรับงานดังกล่าวทาง สมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ ได้รับสิทธิ์ให้เป็นเจ้าภาพจาก The Federation of Asian Chemical Societies (FACS) และเจ้าภาพร่วมคือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย ศาสตราจารย์ ดร.สุภา หารหนองบัว เป็นประธานคณะกรรมการจัดการประชุม ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน 2568 ภายใต้หัวข้อการประชุมหลักคือ “Responsible Chemical Sciences for World Sustainability” ณ Berkeley Hotel Pratunam กรุงเทพฯ วัตถุประสงค์ของงานประชุมเพื่อมุ่งเน้นสื่อสารถึงความรับผิดชอบด้านวิทยาศาสตร์เคมีของสังคม เพื่อความยั่งยืนของโลก การประชุมจะครอบคลุมสาขาวิชาเคมีและมีเนื้อหาพิเศษที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญของเครือข่ายเคมีทั่วโลก เป็นการประชุมที่รวบรวมผู้เข้าร่วมจากทั่วทุกภูมิภาคและทั่วโลก 

ภายในงานนี้ นาย อริณชย์ ทองแตง (อิน) และ นางสาว อริสา ทองแตง (เอม) นักเรียน year 12 และ 11 จากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพเข้าร่วมการประกวด 20th Asian Chemical Congress (20ACC), ASIACHEM2025 ในหัวข้อ Living Carbonomics: Tracking Footprint and Storage Dynamics Above and Below Ground ซึ่งปรากฏว่า ผลงานดังกล่าวได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง พร้อมกับสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อีกครั้ง

‘ดร.อานนท์’ แนะหากต้องรบกับเขมรจริง ควรตีประจันตคีรีเขตกลับคืนมาเป็นของไทย ชี้ คนพื้นที่พูดภาษาไทย ทรัพยากรทางทะเลเพียบ ส่วนด้านพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณปล่อยไป เหตุคนคุณภาพต่ำคุยกันไม่รู้เรื่อง

(27 มิ.ย.68) รศ. ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล (Citizen data sciences) คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถ้ารบกันจริง ๆ อยากให้ไทยตีเอาประจันตคีรีเขตกลับคืนมาเป็นของไทย เพราะเป็นพื้นที่ที่ประชากรพูดภาษาไทย มีทรัพยากรทางทะเลมากมหาศาล ทำให้ขยายน่านน้ำของไทยออกไป ปกครองง่ายกว่าเพราะพูดภาษาไทยเป็นส่วนใหญ่ แก้ปัญหาข้อพิพาทเกาะกูดไปได้หมดสิ้น น้ำมันปิโตรเลียมในอ่าวไทยก็เป็นของเราทั้งหมด ทางออกทะเลของเขมรก็จะแคบลง

ส่วนมณฑลบูรพา คือ พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ นั้น แม้พื้นที่กว้างกว่า แต่ไม่มีทรัพยากรอะไร ประชากรพูดภาษาเขมร สื่อสารกันยาก ประชากรการศึกษาต่ำ คุณภาพประชากรไม่ค่อยดี เอามาเป็นของไทยก็เป็นภาระประเทศไทย ไม่สมควรรบเพื่อเอากลับคืนมาครับ ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่

‘ทหารพราน’ รวบชาวไทยลอบข้ามแดนไป-กลับกัมพูชา สองจุดตรวจจับได้ 43 ราย เผยจุดหมายปอยเปตทั้งสิ้น

เมื่อวันที่ (25 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพราน ฉก.อรัญประเทศ คุมเข้มแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ตรวจพบกลุ่มบุคคลลักลอบข้ามแดนใกล้บ้านผ่านศึก ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จึงประสานผู้นำท้องถิ่นเข้าตรวจสอบและจับกุมได้ทั้งหมด 33 คน เป็นชาย 20 หญิง 12 และเด็กชาย 1 คน ทั้งหมดเป็นชาวไทยที่เดินทางกลับจากกรุงปอยเปต กัมพูชา

กลุ่มดังกล่าวให้การว่าเคยทำงานอยู่ในฝั่งกัมพูชา แต่ต้องการเดินทางกลับไทยเนื่องจากสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอน พยายามเลี่ยงด่านตรวจโดยอ้อมออกจากเส้นทางหลักและข้ามตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่พบผู้ใดเป็นคนนำพากลุ่มเหล่านี้

ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดในพื้นที่ อ.ตาพระยา ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยเดินเท้าตามแนวสวนปาล์มใกล้เขตแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นชาวไทย 13 คน (ชาย 6 หญิง 7) พยายามลักลอบออกนอกประเทศเพื่อกลับไปเก็บของที่พักฝั่งกัมพูชา โดยมีนายหน้าคนไทยประสานให้ชาวกัมพูชามารับ ก่อนทั้งหมดถูกจับกุมระหว่างทาง

เจ้าหน้าที่ทหารได้ส่งตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมย้ำว่า จากเหตุการณ์จับกุมทั้งสองกรณี รวมถึงกรณีอื่นที่ผ่านมา พบว่าชาวไทยที่ลักลอบผ่านแดนผิดกฎหมายล้วนมีจุดหมายอยู่ที่กรุงปอยเปต ทั้งขาเข้าและขาออก เจ้าหน้าที่จึงยังคงวางกำลังเข้มแนวชายแดนเพื่อสกัดการลักลอบอย่างต่อเนื่อง

สตูล จัดการฝึกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรณีสึนามิ (C-MEX 25) เตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ 

(27 มิ.ย. 68) ที่โรงเรียนบ้านหาดทรายยาว ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นางสาววิภารัตน์ อร่ามเรือง หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูลและหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร และน้องๆนักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับภัยสึนามิ และการซักซ้อมขั้นตอนเตรียมความพร้อม อาทิ การทดสอบระบบวิทยุสื่อสาร และโดรนสำหรับสำรวจความเสียหาย 

ทั้งนี้การฝึกซ้อมแผนฯ มีประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมและลดความสูญเสียจากภัยพิบัติสึนามิ โดยช่วยให้ผู้คนเข้าใจวิธีรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน  ปฏิบัติตามขั้นตอนการอพยพที่ถูกต้อง และสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้ทันท่วงที ทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักและเข้าใจ การซ้อมแผนช่วยให้ผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าใจถึงลักษณะของสึนามิ สัญญาณเตือนภัย และวิธีการอพยพที่ถูกต้อง ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน การซ้อมแผนสึนามิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสึนามิ ช่วยให้ผู้คนสามารถเอาตัวรอดและช่วยเหลือผู้อื่นได้เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง

‘ฮุน เซน’ ปูดแผน ‘ทักษิณ’ ป่วยทิพย์หลอกคนไทย ลั่น!! เห็นกับตาไม่มีอาการป่วย แต่เมื่อถ่ายรูปกลับสวมเฝือก

(27 มิ.ย. 68) สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีไทย นายทักษิณ ชินวัตร โดยระบุว่า ทักษิณแกล้งป่วยหลายโรคเพื่อหลบเลี่ยงโทษทางกฎหมาย 

รายงานจากเฟรชนิวส์และพนมเปญโพสต์ระบุว่า ในการปราศรัยที่จังหวัดพระวิหาร ฮุนเซนกล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2567 เขาเข้าพบนายทักษิณ ซึ่งขณะนั้นดูปกติดี ไม่มีอาการป่วยใด ๆ แต่เมื่อถ่ายรูปกลับสวมเฝือกคอและชุดผู้ป่วย เพื่อหลอกสายตาประชาชนและเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย

ฮุนเซนยังเปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวตลอด 30 ปีกับทักษิณต้องสิ้นสุดลง เพราะรู้สึกถูกดูหมิ่นจากแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาออกมาเปิดเผยความจริงทั้งหมด

นอกจากนี้ ฮุนเซนยังตั้งคำถามต่อรัฐบาลไทยว่า หากเชื่อว่ากัมพูชารุกล้ำดินแดนจริง เหตุใดจึงไม่ดำเนินการอย่างเป็นทางการผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้ไทยแสดงความชัดเจนในเวทีสากล ไม่ใช่กล่าวหาเพียงลอย ๆ

ทัพเรือภาคที่ 1 บูรณาการความร่วมมือด้านกิจการมวลชนและประชาสัมพันธ์ร่วมกับ กอ.รมน.

พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) ให้การต้อนรับ พลตรี ธนาธิป สว่างแสง รองผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางมาประสานความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และกิจการมวลชนในพื้นที่ความรับผิดชอบของ กอ.รมน.ภาค 1

การพบปะในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการดำเนินงานด้านข้อมูลข่าวสาร การใช้มวลชนเป็นสื่อกลางในการสร้างการรับรู้ รวมถึงการแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง ทัพเรือภาคที่1 กอ.รมน. ศรชล.ภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการประชาสัมพันธ์ทั้งทางบกและทางทะเล ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

ในช่วงบ่าย คณะฯ ได้เดินทางเยี่ยมชมการสาธิตการตรวจค้นเรือต้องสงสัย โดยชุดตรวจค้นจากเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.996 จากกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ ทัพเรือภาคที่1 ในการรักษาความมั่นคงทางทะเล

จับตา! ‘ฮุนเซน’ เตรียมแฉทักษิณ 27 มิ.ย. เปรียบยุค ‘ประยุทธ์’ สัมพันธ์แน่นแฟ้นกว่าชัดเจน

(27 มิ.ย. 68) สถานการณ์การเมืองไทย-กัมพูชา กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลัง พนมเปญโพสต์ รายงานว่า สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เตรียมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตผู้นำไทย โดยจะเปิดโปงแผนเปลี่ยนผู้นำ และกล่าวหาว่ามีการดูหมิ่นสถาบัน พร้อมระบุจะเผยรายละเอียดให้คนไทยทราบภายในวันนี้ (27 มิ.ย.)

นอกจากนี้ ฮุนเซนยังกล่าวว่า ขณะนี้กัมพูชายังรอเจรจากับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าใครคือผู้มีอำนาจตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ พรรคการเมือง หรือผู้อยู่เบื้องหลังรัฐบาล ซึ่งทำให้การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องชะงัก

เขายังเปรียบเทียบสถานการณ์ในอดีตว่า ในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชามีเสถียรภาพและอยู่ในระดับสูงสุด แม้ประยุทธ์จะมีภูมิหลังเป็นทหาร แต่ก็สามารถรักษาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านไว้ได้ดีตลอดช่วงดำรงตำแหน่งเกือบสิบปี

ในทางกลับกัน ฮุนเซนมองว่า รัฐบาลไทยปัจจุบันกลับประสบปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านรอบด้าน ทั้งชายแดนเมียนมา ลาว มาเลเซีย และล่าสุดกับกัมพูชา ที่ต้องปิดจุดผ่านแดนฝ่ายเดียว โดยยังไม่มีความชัดเจนในการเจรจา ทำให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกำลังเผชิญภาวะถดถอย

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมมอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา และเวชภัณฑ์ แก่โรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์ และศูนย์การศึกษาพิเศษฯ ประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 25 – 26 มิถุนายน 2568 ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมมอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา ยาและเวชภัณฑ์ พร้อมจัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์ และศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยบริการบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสนับสนุนการศึกษาและส่งเสริมสุขภาพของเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล

ในการนี้ นายนนทวัฒน์ ตรีนันทวัน ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์ และนายพิชญุตม์ พงษ์สระพัง หัวหน้าหน่วยบริการบางสะพาน พร้อมคณะครูและนักเรียน ร่วมให้การต้อนรับคณะจากทัพเรือภาคที่ 1 อย่างอบอุ่น

กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมการศึกษาของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงสร้างความสุขและรอยยิ้มให้แก่เด็ก ๆ อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือกับประชาชนในพื้นที่ อันจะเป็นฐานความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกันในอนาคต

เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีสวนสนามปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 ชื่นชมผลการฝึก 8 สัปดาห์ ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากพลเรือน สู่ทหารที่มีความองอาจ เข้มแข็ง เกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจของน้องเล็กของกองทัพเรือ ก้าวสู่ชายชาติทหาร

เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 68)พล.ร.ท.อดิศักดิ์ แจงเล็ก เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ (จก.ยศ.ทร.) เป็นประธานในพิธีสวนสนามปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 1/68 ณ ลานสวนสนาม ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ศฝท.ยศ.ทร.) โดยมี น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) และคณะให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการ ศฝท.ยศ.ทร. ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดพิธีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนพลกองประจำการหลักสูตรทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 จำนวนทั้งสิ้น 2,894 นาย จัดเป็นกรมสวนสนาม ประกอบด้วย 4 กองพัน (19 กองร้อย และจัด 1 กองร้อยวิ่งสวนสนาม) แสดงออกถึงความเป็นทหารที่มีความองอาจ เข้มแข็ง พร้อมเพรียง และมีระเบียบวินัย ผ่านการสวนสนามให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ตลอดจนญาติได้เห็นผลของการฝึกอบรมตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์ ที่เปลี่ยนแปลงจากพลเรือนมาเป็นทหาร อีกทั้งยังแสดงออกถึงความสามัคคี และความสง่างาม สมกับการเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ

โอกาสนี้ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชมการแสดงออกของทหารใหม่ในการสวนสนามว่า “ผมอยากบอกกับทุกนายว่า ราชนาวีไม่ใช่แค่กองทัพ แต่คือบ้าน บ้านของลูกผู้ชาย บ้านหลังนี้อาจจะไม่ได้อบอุ่นด้วยความสะดวกสบาย แต่บ้านหลังนี้อบอุ่นด้วยหัวใจของนักรบ อบอุ่นด้วยวินัย ความเข้มแข็ง และความห่วงใยแบบพี่น้อง ที่พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างกันในยามยาก

จากวันที่พวกท่านเดินเข้าสู่ประตูศูนย์ฝึกด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคำถามและความกังวล จนถึงวันนี้ ท่านได้กลายเป็นชายชาติทหารที่กล้าหาญ มีวินัย และมีเกียรติ

ทหารเรือไม่ใช่แค่ตำแหน่งในเครื่องแบบ แต่คือผู้ที่พร้อมยืนหยัดกลางพายุ และไม่ถอยแม้ยามคลื่นลมแรง และวันนี้ผมเห็นแล้วว่าพวกท่านพร้อมแล้ว ผมขอชื่นชมในความพยายาม ความเสียสละ และความอดทนที่ทุกนายได้แสดงออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ และขอขอบคุณผู้บังคับบัญชา ครูฝึก และเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ สมกับความไว้วางใจของกองทัพเรือ

รวมถึงขอขอบคุณผู้ปกครองทุกท่าน ที่มอบบุตรหลานให้กับบ้านหลังนี้ บ้านของราชนาวี เราจะดูแลเขาอย่างดีที่สุดในฐานะทหาร ในฐานะลูกหลาน ในฐานะน้องเล็กของกองทัพเรือ และในฐานะนักรบแห่งราชนาวีไทย”

ทั้งนี้ทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานในหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ โดยจะมีการส่งตัวในวันที่ 1 ก.ค.68 ต่อไป

รอง ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิกิติ์ฯ ต้อนรับคณะ นศ. วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก

น.อ.หญิง อรัญญา เชยดี รอง ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ฝ่ายการพยาบาล ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานหลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทางสาขา การบริหารการพยาบาล รุ่นที่ 18 วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก 

ซึ่งประกอบด้วย นายทหารนักเรียน และคณาจารย์ จำนวน 54 คน ในการเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานห้องปรับความดันบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber) โดยมี ทีมแพทย์จากศูนย์เวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูงฯ ทำหน้าที่บรรยายในส่วนที่เกี่ยวข้อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top