Sunday, 6 July 2025
NEWS FEED

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่และการเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ

ระหว่างวันที่ 3 - 4 กรกฎาคม 2568 ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่และการเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ณ โรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์  ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยบริการบางสะพาน ธนาคารปูม้า บ้านปากคลอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน ให้สามารถร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายชาวประมง ผู้นำชุมชน โรงเรียน และประชาชนในพื้นที่ทุกภาคส่วน

โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การพัฒนาโรงเรียน การปรับปรุงภูมิทัศน์ เลี้ยงอาหารกลางวันนักเรียนเด็กนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและบกพร่องทางสติปัญญา เก็บขยะชายหาด และทาสีอาคาร ซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ให้กับ ธนาคารปูม้า บ้านปากคลอง

ALL NEW MG3 HYBRID+ คว้ารางวัล Affordable Hybrid Car of the Year 2025 ด้วยระบบไฮบริด สมรรถนะเหนือชั้น!! ราคาคุ้มค่า และประหยัดน้ำมัน ยอดเยี่ยม

(5 ก.ค. 68) บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศ ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยความสำเร็จอันโดดเด่นของ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่สร้างชื่อเสียงอีกครั้งในตลาดยุโรป ด้วยการคว้ารางวัล Affordable Hybrid Car of the Year 2025 จากสื่อยานยนต์ชั้นนำแห่งสหราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยได้รับคำชื่นชมทั้งในด้านสมรรถนะอันทรงพลัง การขับขี่ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความคุ้มค่าเหนือราคา และความประหยัดน้ำมันที่เกินความคาดหมาย ซึ่งรุ่นที่จำหน่ายในตลาดโลกนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ผลิตและประกอบในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเป็น “ไฮบริดตัวจี๊ด” ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลกอย่างแท้จริง

ตลาดรถยนต์ไฮบริดขนาดเล็กถือเป็นตลาดที่มีความท้าทาย ด้วยการแข่งขันที่สูงและมีตัวเลือกที่หลากหลาย โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยแนวคิดในการออกแบบที่มุ่งเน้นทั้ง สมรรถนะและความคุ้มค่า ด้วยระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมพละกำลังรวมสูงสุดถึง 192 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 8 วินาที ซึ่งถือเป็นระดับสมรรถนะที่เหนือกว่ามาตรฐานของรถในเซกเมนต์เดียวกันอย่างชัดเจน สมรรถนะนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ 'ความแรง' หากแต่เป็นการออกแบบให้ แรงอย่างมั่นใจ เร้าใจอย่างมีสมดุล พร้อมตอบสนองได้อย่างคล่องตัวทั้งการใช้งานในเมือง รวมไปถึงบนถนนสายหลักที่ต้องการกำลังเครื่องที่ต่อเนื่องและนิ่งแน่น

หนึ่งในคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและสื่อมวลชนสายยานยนต์ระดับแนวหน้าคือ “อัตราความประหยัดน้ำมันที่น่าทึ่ง ผสานความรู้สึกในการขับขี่ที่ใกล้เคียงกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%” โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานเป็นหลัก จึงสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้เฉลี่ยสูงถึง 26.2 กิโลเมตรต่อลิตร ทำระยะทางได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร การันตีด้วยการขับทดสอบโดยสื่อมวลชนในประเทศไทยและทั่วโลก สะท้อนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้ใช้จริงในทุกมิติ ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ให้ความกว้างขวางเหนือกว่ารถระดับเดียวกัน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่รองรับได้มากถึง 1,037 ลิตร เติมเต็มฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ ALL NEW MG3 HYBRID+ ยังสามารถครองใจทั้งผู้บริโภคและนักวิจารณ์ในระดับสากล ด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติอย่าง Affordable Car of the Year 2024 จาก Auto Express UK และ Best Value Car จาก The Business Car Awards ประเทศอังกฤษ ตอกย้ำความคุ้มค่าที่ไม่ใช่แค่คำพูด สำหรับประเทศไทย ALL NEW MG3 HYBRID+ ยังได้รับเกียรติสูงสุดด้วยการรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 (Thailand Car of the Year 2024) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ถือเป็นบทพิสูจน์อีกขั้นของคุณค่าทางผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะและความคุ้มค่าจริงในสายตาผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ALL NEW MG3 HYBRID+ ไม่ได้เป็นเพียงยนตรกรรมรุ่นใหม่ในกลุ่มไฮบริดราคาประหยัด แต่ได้ก้าวลงแข่งขันในเกมการแข่งขัน Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นสมรรถนะของรถยนต์ที่ลงตัว นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญของความมุ่งมั่นจาก เอ็มจี ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การผลิตรถยนต์ แต่ยังเดินหน้าสร้างสรรค์อนาคตของการขับเคลื่อนผ่านนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเข้าถึงได้จริงสำหรับผู้บริโภคในทุกระดับ ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเป็น “ไฮบริดตัวจี๊ด” กับการเปลี่ยนผ่านที่ทรงพลัง สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะเหนือชั้น และความคุ้มค่าเหนือความคาดหมายไว้ได้อย่างลงตัวในรถยนต์รุ่นเดียว การได้รับรางวัล “Affordable Hybrid Car of the Year 2025” จากสื่อยานยนต์ชั้นนำในสหราชอาณาจักรถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่สะท้อนถึงความไว้วางใจระดับนานาชาติที่มีต่อแบรนด์ ทั้งนี้ เอ็มจี จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ใช้จริงในราคาที่เข้าถึงง่าย พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตของยนตรกรรมอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”

ALL NEW MG3 HYBRID+ ไฮบริดคุณภาพที่ครบเครื่องและคุ้มค่า ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 579,900 บาท พร้อมแคมเปญพิเศษ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 8,888 บาท หรือ ผ่อนสบาย ๆ เริ่มเพียง 2,516 บาทต่อเดือน พร้อมการรับประกันตัวรถและระบบไฮบริดนาน 6 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร รวมถึง การรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง โดยผู้สนใจสามารถทดลองขับและเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการคุณภาพ เอ็มจี ทั่วประเทศ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจี ได้ที่ 
Website: www.mgcars.com 
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand

ผบช.สตม. ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ ตม.จว.จันทบุรีและสระแก้ว

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค.68) พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อม พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 และ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.4 ได้เดินทางตรวจเยี่ยม ตม.จว.จันทบุรี และ ตม.จว.สระแก้ว ในพื้นที่ บก.ตม.3 เพื่อมอบนโยบายและติดตามผลการปฏิบัติงาน พร้อมสร้างขวัญกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ข้าราชการตำรวจ ตม.ในพื้นที่  นอกจากนี้  ยังได้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง ตม.จังหวัด ฝ่ายทหาร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อติดตามและวางแผนรับมือต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานภายในสถานการณ์ชายแดนในปัจจุบัน ขอให้เข้มงวดในการตรวจบุคคลและยานพาหนะในการเข้า-ออกราชอาณาจักรตามกฎหมายและมาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติของ สตม. ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือและบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แนวทางการปฏิบัติของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ในการข้ามผ่านแดนกรณีเพื่อการศึกษาหรือเจ็บป่วยที่มีความจำเป็นต้องรักษาพยาบาล ให้พิจารณาดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยธรรมสากล พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า - ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

‘อีซูซุ’ จัดทัพรถโชว์!! ในคอนเซ็ปต์ ‘อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย’ ชู!! ปิกอัพคุณภาพ ‘ดีแมคซ์ ดีจริง’ใน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025

(5 ก.ค. 68)  กลุ่มตรีเพชร โดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ในงาน 'ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025' อีซูซุได้นำรถหลากรุ่นหลากสไตล์ รวม 8 คัน 

นำโดย รถอเนกประสงค์สุดหรู NEW! ISUZU MU-X 'THE NEXT PEAK' 4 คัน แบ่งเป็นรถมาตรฐานโรงงาน 2 คัน และรถตกแต่งพิเศษ 2 คัน โดยแต่งแนวแคมป์ปิ้งตอบรับสายท่องเที่ยว และแต่งหล่อรอบคันสำหรับสายเท่สปอร์ต 

ส่วนอีก 4 คันเป็นรถปิกอัพ NEW! ISUZU D-MAX ที่มาในคอนเซ็ปต์ “ดีแมคซ์ ดีจริง” ปิกอัพที่รวมทุกความต้องการไว้ครบ ทั้งในเรื่องความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน การเกาะถนน และความคุ้มค่า พร้อมกันนี้ยังได้ตอกย้ำแนวคิด “ISUZU Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” สะท้อนความจริงใจในการดำเนินธุรกิจของอีซูซุในประเทศไทยตลอด 68 ปี โดยไม่เพียงพร้อมบริการดูแลและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้รถตลอดอายุการใช้งานเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงการพัฒนาไปข้างหน้าของสังคมไทยควบคู่กันไปด้วย ทั้งในฐานะผู้ผลิตที่มั่นใจในการวางรากฐานการผลิตรถปิกอัพในไทยเพื่อส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกโดยใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศมากกว่า 90% และร่วมกับคู่ค้าธุรกิจชิ้นส่วนในประเทศสร้างห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่แข็งแกร่งของไทยในระดับโลก ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศไทยทั้งในด้านการผลิตและบริการอย่างครบวงจร 

และในปี 2568 นี้ ประสบการณ์เข้าศูนย์บริการอีซูซุจะเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการยกระดับสู่ Digital Experience เต็มรูปแบบ เพื่อให้ทุกการเข้าศูนย์ฯ ของลูกค้า ง่าย ชัดเจน และสะดวกยิ่งกว่าที่เคย ตั้งแต่การนัดหมาย ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัน-เวลาที่สะดวกได้ด้วยตนเอง การเสนองานซ่อมด้วยภาพถ่ายจริงเพื่อให้ง่ายในการตัดสินใจ พร้อมแอปพลิเคชัน my-ISUZU ที่แสดงผลการตรวจสภาพรถ และประวัติการซ่อมย้อนหลัง เพิ่มความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นในทุกครั้งที่เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอีซูซุ ตามสโลแกน “ศูนย์บริการอีซูซุ วางใจได้ ตลอดการใช้งาน”

นอกจากนี้ อีซูซุยังได้จัดแคมเพจ์น “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์” สำหรับลูกค้าที่ซื้อและรับรถอีซูซุดีแมคซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2568  ลุ้นรับรางวัลจี้ทองคำน้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 26,051.39 บาท จับรางวัลทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 22 รางวัล จำนวน 9 สัปดาห์ รวม 198 รางวัล คิดเป็นมูลค่ารวม 5,158,175.17 บาท (การลุ้นรางวัลจะถูกแบ่งตามรอบการจับรางวัล โดยผู้โชคดีมีสิทธิ์ได้รับรางวัลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น)

มาร่วม “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” กับ 'อีซูซุ' ยนตรกรรมคุณภาพเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย สัมผัสความพีคในด้านอรรถประโยชน์ที่เหนือกว่าของรถอเนกประสงค์สุดหรู NEW! MU-X 'THE NEXT PEAK' และรถปิกอัพตัวจริง NEW! ISUZU D-MAX ที่พร้อมเติมเต็มความคุ้มค่าดีจริงครบด้านทั้งแรงจัด ประหยัดจัด ทนจัด เกาะถนนจัด และคุ้มจัด พร้อมเปิดประสบการณ์การขับขี่รถอีซูซุด้วยตัวท่านเอง ได้ในงาน 'ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025' ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2568 ฮอลล์ 102-103 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา 

ติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

บัณฑิตสาว หลั่งน้ำตา!! สอบผ่าน ได้ทำงานประจำศาล ลำดับที่ 1 แต่ถูกยกเลิกสัญญา กะทันหัน ก่อนเริ่มงาน 1 วัน อ้าง!! จบไม่ตรง

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค. 68) นางสุพร อายุ 54 ปีแม่ค้าขายกะหรี่ฟัพท์ บริเวณตลอด ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีฯ ร้องเรียนขอความเป็นธรรมและช่วยเหลือ น.ส.อนุธิดา หรือน้องเมย์ อายุ 22 ปีเนื่องจาก น.ส.อนุธิดา หรือน้องเมย์ เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สงขลา คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ ก่อนจบได้เข้าฝึกงานที่สำนักงานอำนวยการประจำศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 เดือน

และทางสำนักงานอำนวยการประจำศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกาศสอบคัดเลือกเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการรายบุคคล ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม บุตรสาวตนจึงได้ตัดสินใจสมัครสอบและดำเนินการสอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2568 ประกาศผลสอบทางเว็บไซต์ของ สำนักงานอำนวยการประจำศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 20 มิ.ย.2568 โดยประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านจำนวน 5 คน และบุตรสาวตนเป็นผู้สอบได้ในลำดับที่ 1 ทางสำนักงานอำนวยการประจำศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แจ้งให้บุตรสาวตนไปรายงานตัวและทำสัญญาจ้างในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย. 2568 เวลา 09.00 น.พร้อมทั้งวางเงินสดประกันสัญญาจ้างร้อยละ 5 ของเงินค่าจ้าง เดือนละ 14,000 บาท เป็นเงิน 2,111 บาท 

“ตนและสามีพร้อมบุตรสาวดีใจเป็นอย่างมากที่ลูกสาวมีงานทำจะมีรายได้มาช่วยเหลือครอบครัวไป ในวันที่ทราบข่าวว่าสอบได้ลำดับที่ 1 ครอบครัวไม่มีเงินวางประกันสัญญาจ้าง แต่ก็วิ่งหยิบยืมเพื่อนบ้านจนสามารถไปรายงานตัวและทำสัญญาจ้างตามระเบียบที่กำหนดครบถ้วน มีกำหนดเข้าเริ่มทำงานวันที่ 1 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งบุตรสาวของตนได้เดินทางไปดูสถานที่ทำงาน จัดเตรียมโต๊ะทำงานเป็นที่เรียบร้อย แต่ในวันที่ 30 มิ.ย.2568 ก่อนวันเริ่มงาน 1 วันเหมือนฝันสลายเพราะทางหัวหน้า ฯได้แจ้งให้บุตรสาวของตนให้ไปเซ็นยกเลิกสัญญาจ้าง โดยอ้างว่าทางสำนักงานใหญ่ระบุว่า “จบสาขาที่ไม่ตรงกับความต้องการ” โดยบุตรสาวตนเสียใจเป็นอย่างมาก ต้องจำใจเดินทางไปเซ็นยกเลิกสัญญาจ้างด้วยความเสียใจ 

อย่างไรก็ตามแม้จะเซ็นยกเลิกการจ้างงานไปแล้วแต่ทางสำนักงานอำนวยการประจำศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชก็ยัง ไม่คืนเงินค่าประกันสัญญา 2,111 บาทให้บุตรสาวแต่อย่างใด

ในขณะที่ น.ส.อนุธิดา หรือน้องเมย์ ซึ่งอยู่ในสภาพเครียด เศร้า เสียใจ กล่าวว่า ตนตั้งใจเรียนมาก ๆ เพราะทราบดีว่าครอบครัวลำบาก ฐานะยากจนเมื่อสอบ
เข้าทำงานได้ลำดับที่ 1 และผ่านการรายงานตัว ทำสัญญาจ้างจ่ายค่าประกันเรียบร้อยแล้วกลับถูกยกเลิกสัญญาและ

ทราบว่าเขาได้มีการเรียกคนที่สอบได้ลำดับที่ 2 มาทำสัญญาจ้างและเริ่มเข้าทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งตนคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นในสำนักงานอำนวยการประจำศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อย่างไรมันส่งผลกระทบกับชีวิตตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก น.ส.อนุธิดา หรือน้องเมย์ กล่าวทั้งน้ำตา

🌎 กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ทบทวนยุทธศาสตร์กลางปี รับมือเศรษฐกิจและการเมือง ที่ผันผวนตั้งแต่ต้นปี เพื่อผลักดันการเติบโตในครึ่งหลังปี 2568[2025] 🌟

นำโดยคุณสมบัติ-ดร.ชลิดา-ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ร่วมระดมความคิด  ปรับวิธีการจัดการและสานพลังผู้บริหารกลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ  เพื่อก้าวสู่ความเติบโต อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน  ไปด้วยกัน ระหว่าง 5-6 ก.ค. 2568 ณ ห้องประชุม GRAND INTERLINK 

🤝 “Sustainable Growth”

'พระครู' เมืองเพชร เดินกลับวัดหลังรับพัดยศเสร็จ สมถะเรียบง่ายไม่ต้องมีรถแห่ มีแค่ 2 เท้าให้ก้าวเดิน

(4 ก.ค. 68) ผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อก @user615231788198 โพสต์ภาพพระรูปหนึ่งถือพัดยศเดินอยู่ริมถนน โดยมีผู้ติดตามสองคนเดินตาม โดยระบุข้อความว่า "หาชมได้ยากมาก พระครูสัญญาบัตร ไม่ทราบว่าท่านอยู่วัดไหน ชื่อนามท่านว่าอย่างไร แต่ดูท่านคงสมถะเรียบง่าย น่าศรัทธา รับพัดยศเสร็จเดินกลับแบบไม่อายใคร ไม่มีรถมารับแห่ ไม่มีขบวนใหญ่โต มีแต่เท้าเดิน 2 ข้าง 2 มือที่ถือพัด และเดินอย่างสง่างาม"

อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ว่า พระรูปนี้ คือ ‘พระครูปทุมวัชรวรภาณ’ หรือ ‘หลวงพ่อชุม’ เจ้าอาวาสวัดประดิษฐวนาราม ต.บ้านหม้อ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งหลวงพ่อได้เข้ารับพัดยศที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม และเมื่อพิธีรับพัดยศเสร็จสิ้น ท่านก็เดินกลับวัดทันที

เชียงใหม่-กองบิน 41 ให้การต้อนรับคณะเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุนัข ม้า และล่อ และการปฏิบัติงานด้านสัตวแพทย์ สัตวบาล และสัตวรักษ์

นาวาอากาศเอก ปกป้อง สุระกุล รองผู้บังคับการกองบิน 41 ให้การต้อนรับคณะกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลัง ในโอกาสเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุนัข ม้า และล่อ และการปฏิบัติงานด้านสัตวแพทย์ สัตวบาล และสัตวรักษ์ ของกองบิน 41 เพื่อ นำข้อมูลไปประกอบการพิจารณากำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุผลพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านสุนัข ม้าและล่อ และตำแหน่งพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านสัตวแพทย์สัตวบาลและสัตวรักษ์ ระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2568 ณ กองบิน 41 

ในการนี้คณะฯ ได้ชมการสาธิตการตรวจค้นของสุนัขทหาร จากหมวดสุนัขทหาร กองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 41 พร้อมทั้งเยี่ยมชมการจัดแสดงอากาศยาน เครื่องบินโจมตีแบบที่ 8 (AT-6TH) ที่ประจำการ ณ โรงเก็บฝูง 411 กองบิน 41

ร้อยเอ็ด…แพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ครั้งที่ 8 ปี 2568 อำเภอเมืองร้อยเอ็ด

(4 ก.ค.68) เวลา 09.30 น. ที่ โรงเรียนบ้านปอภารราษฎร์บำรุง บ้านปอภาร ตำบลปอภาร อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  เป็นประธานกิจกรรมหน่วยแพทย์ พอ.สว. และโครงการจังหวัดร้อยเอ็ดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ครั้งที่ 8 ปี 2568 โดยมีรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม

เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ที่ทรงได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอนุญาตให้เป็นจังหวัด พอ.สว. ลำดับที่ 53 ซึ่งได้มีการมอบสิ่งของพระราชทานแก่ราษฎรณ์ในพื้นที่ ประกอบไปด้วย ถุงยังชีพ รถจักรยาน และทุนการศึกษาแก่นักเรียน พร้อมมีการจัดบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เช่น การตรวจคัดกรองภาวะสุขภาพ การรักษาทางทันตกรรม เพื่อช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล ป้องกันโรค และฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร ให้ได้รับบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับโครงการจังหวัดร้อยเอ็ดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข จากทุกหน่วยงาน ที่จะเป็นประโยชน์ ในการรับบริการ ข้อมูลข่าวสาร และการส่งเสริมอาชีพ ซึ่งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหา ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

DSI จับกุมแม่ทีมแชร์ลูกโซ่ ‘แม่มณี’ คาสุวรรณภูมิ เตรียมบินฉลองวันเกิดแต่เจอหมายจับฉ้อโกง

เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่ DSI ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมนางสาวปานหทัย (หรือนริศรา สงวนนามสกุล) หนึ่งในแม่ทีมแชร์ลูกโซ่ 'แม่มณี' ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อฉลองวันเกิด โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฉ้อโกงประชาชน

คดีนี้เกี่ยวข้องกับการชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึง 93% ต่อเดือน หรือมากกว่าร้อยละ 3,000 ต่อปี ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด มีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 1,100 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

หลังจับกุม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิตามกฎหมาย พร้อมบันทึกภาพและเสียงตลอดกระบวนการ จากนั้นส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการฝากขังตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ คดีแชร์แม่มณีถือเป็นหนึ่งในคดีฉ้อโกงประชาชนรายใหญ่ของไทย ซึ่งมีผู้ร่วมกระทำความผิดรวม 31 คน โดยมีนางสาววันทนีย์ หรือ 'แม่มณี' เป็นหัวหน้า เครือข่ายใช้สื่อออนไลน์หลอกลวงประชาชน ด้วยการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กและการไลฟ์สด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการระดมทุน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top