Wednesday, 24 April 2024
NEWS FEED

'หนุ่มเมา' ควงมีดเดินป่วนโรงพยาบาล อ้างมาขอพาราเซตามอล สะท้อน!! ความปลอดภัย 'ชีวิตแพทย์-บุคลากร' น่าห่วง

(24 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย ร.ต.อ.ไกรศักดิ์ เฉยฉิว รอง สวป.สภ.บางปะกง กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ นำอุปกรณ์ไม้ง่ามเข้าสกัดเหตุความวุ่นวาย หลังมีชายคนหนึ่งเมาพกมีดเข้ามาโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 หมู่ 1 ตงบางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยชายคนดังกล่าว ได้พกมีดเข้ามาโรงพยาบาล แล้วเดินป่วนขึ้นไปถึงชั้น 7 ของตึก ทำให้หมอและพยาบาลที่เข้าเวรอยู่ต้องปิดประตูในห้องที่ทำงานเพื่อความปลอดภัย

ต่อมาเจ้าหน้าที่เวรเปลได้เดินตามหาชายคนดังกล่าว จนมาพบว่าแอบเข้าไปหลับในห้องสังเกตอาการผู้ป่วย โดยวางอาวุธมีดยาว 1 ฟุต ไว้ข้างตัว จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบุกเข้าทำการจับกุมชายคนดังกล่าวทันที

จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวคือ นายนิกร จันทร์เรือง อายุ 31 ปี อยู่ในอาการมึนเมา และเปิดเสียงสวดมนต์ในมือถือ ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวไปที่ สภ.บางปะกง

ด้าน ร.ต.อ.ไกรศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายนิกร ขี่รถจักรยานยนต์พาคนเมาที่นอนข้างทางมาส่งที่โรงพัก โดยให้นอนอยู่ที่หน้าโรงพัก แล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทันที ซึ่ง นายนิกร บอกว่าตนมีอาการปวดหัวเลยขี่รถไปโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 เพื่อจะหาหมอเอายาแก้ปวดหัวเท่านั้น แต่จำไม่ได้ว่าต้องไปที่ห้องไหน จึงเดินไปทั่ว ก่อนจะง่วงนอน เลยเดินหาห้องนอนพักผ่อน ส่วนมีดแค่พกไว้ป้องกันตัวเฉย ๆ

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบรถเข็นวีลแชร์ แก่สำนักงานจัดหางาน จ.นนทบุรี เติมกำลังใจให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้

วันที่ 24 เมษายน 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วยทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ แก่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนนทบุรี และผ้าอ้อมผู้ใหญ่
เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ที่สำนักงานแรงงาน จังหวัดนนทบุรี ศาลากลางจังหวัด ชั้น 1 (อาคาร 3 ชั้น) ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้ดิฉันในนามประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ได้ร่วมมือกับ สำนักงานจัดหางานจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ยากไร้ ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ และผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) โดยมอบรถเข็นวีลแชร์ แก่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนนทบุรี สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้ามาติดต่อใช้บริการที่สำนักงานฯ นอกจากนี้ ยังได้รับการติดต่อประสานงานจาก นางสุนทรี วิลาทอง จัดหางานจังหวัดนนทบุรี ให้นำผ้าอ้อมผู้ใหญ่ มามอบให้กับ นายพรศักดิ์ คงนุช (อายุ 58 ปี) ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน มอบกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ 

แม่เผยคลิป ‘ลูกน้อย’ ทำ ‘ลาบูบู้’ เล่นเอง เหตุราคาดีดแรงซื้อไม่ได้ ด้านชาวเน็ตเอ็นดู!! ความใสซื่อ-ไม่รู้จักฟุ่มเฟือย-รู้คุณค่าของเงิน

(24 เม.ย. 67) เรียกว่ากระแส ‘ลาบูบู้’ (Labubu) มาแรงแบบทั่วบ้านทั่วเมือง จากที่หายากอยู่แล้ว พอสาว ‘ลิซ่า’ ถือ ก็ยิ่งหายากและราคาพุ่งทยานมากขึ้นไปอีก บางคนพร้อมจ่ายก็ยอมเสียแพงกว่าราคาปกติให้ได้มา แต่บางคนที่ไม่พร้อมก็จำต้องตัดใจ

เช่นเดียวกับคุณแม่ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งที่ได้โพสต์คลิปวิดีโอ เป็นภาพ ลาบูบู้ เวอร์ชันตุ๊กตากระดาษทำเองของลูกน้อย

ซึ่งเจ้าของคลิปขึ้นข้อความว่า เมื่อแม่กลับมาเห็นลาบูบู้ของลูก ลูกพูดว่าลาบูบู้ของหนูน่ารักไหม หนูทำเองเพราะมันแพงซื้อไม่ได้ แม่ขอโทษนะ ที่แม่ซื้อให้หนูไม่ได้ พร้อมระบุแคปชันว่า “แม่ขอโทษนะลูก แม่จะพยายามเก็บเงินซื้อให้หนูนะลูก”

หลังคลิปนี้ถูกโพสต์ไปก็มีผู้คนเข้าชมกว่า 6 ล้านครั้ง คนที่ได้เห็นต่างรู้สึกจุกอกกับความใสซื่อของเด็กน้อย ที่รู้ว่า ลาบูบู้ เป็นของเล่นราคาแพงเกินไป จึงเลือกที่จะสร้างความสุขจากสิ่งของใกล้ตัวแทน

จากนั้นก็มีคนเข้ามาเสนอตัวจะซื้อของจริงให้ แต่ทางคุณแม่ก็ปฏิเสธ บอกว่า “ขอบคุณพี่ที่เมตตาน้องนะคะ แต่คุณแม่คิดว่าตอนนี้มันราคาสูงไปค่ะ เราน่าจะรอให้ราคามันลดลงมาปกติได้ค่ะ คุณแม่ไม่อยากรบกวนพวกพี่ ๆ ด้วยค่ะ คุณแม่เกรงใจทุกคนมากค่ะ ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ใจดีมากค่ะ”

ทำเอาหลายคนแห่เข้ามาชมทัศคติที่ดีของทั้งแม่และลูก ลูกก็ไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักคุณค่าของเงินตั้งแต่ยังเด็ก ไม่งอแงจะเอาของแพง ส่วนแม่ก็ไม่อยากได้ของคนอื่นทั้งที่ไม่จำเป็น แม้จะมีคนเสนอให้ฟรี สอนให้ลูกรู้จักความเหมาะสม

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์

วันนี้ (วันพุธที่ 24 เมษายน 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ  นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย จำนวน 32 ครอบครัว 81 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,000 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว 18 ชุด รายบุคคล 14 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 309,000 บาท (สามแสนเก้าพันบาทถ้วน) โดยมี นายตวงอัฐ บุตรวิชา นายอำเภอรัตนบุรี พร้อมด้วย นายวีระ เทพวงศ์ศิริรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัตนบุรี และ คณะมูลนิธิสุรินทร์สามัคคีกุศลสถานสงเคราะห์ (จิบเต็กเซี่ยงตึ๊ง) และ คณะมูลนิธิสุรินทร์ฌาปนกิจสงเคราะห์ (ไต่ฮงกง) ร่วมในพิธี ณ บริเวณตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์

ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ” ให้กำลังใจเยาวชนในการแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งที่ 10 "สองเล เกมส์" ซึ่งมีนักเรียนกว่าพันคนทั่วประเทศร่วมแข่งขัน

วันนี้ (24 เมษายน 2567) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) เดินทางไปให้กำลังใจนักเรียนระดับประถมศึกษาสังกัดโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในการแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งที่ 10 ประจำปี 2567 ชิงถ้วยพระพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “สองเลเกมส์” ที่สนามกีฬาราชนิเวศน์กรีฑาสถาน กองกำกับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ (ค่ายพระรามหก) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมี พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมคณะ ร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ มีกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 เมษายนนี้ โดยมีนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 1,400 คนทั่วประเทศร่วมการแข่งขัน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้ขอบคุณและชื่นชมกรมพลศึกษาและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ได้ร่วมกันจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับน้องๆ นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนจากทั่วประเทศ ในโอกาสนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้มอบเหรียญรางวัลให้แก่นักกีฬาที่ชนะการแข่งขันกรีฑา รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ด้วย

'พวงเพ็ชร' สั่งสำนักพุทธตรวจสอบ พ่อ-แม่ ‘น้องไนซ์ เชื่อมจิต’ หากพบเข้าข่าย 'หลอกลวง-หาประโยชน์' สั่งฟันทันที

(24 เม.ย. 67) ที่ทำเนียบ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาตรวจสอบ 'น้องไนซ์' เด็กอายุ 8 ขวบที่อ้างตัวเป็นบุตรพระพุทธเจ้า สอนธรรมมะด้วยการเชื่อมจิตที่ไม่มีอยู่ในคำสอน โดยได้สั่งการไปยัง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่บ้านพักของครอบครัวเด็กอายุ 8 ขวบ พร้อมกับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง เพื่อตรวจสอบโดยด่วนแล้ว ว่าการกระทำของเด็กอายุ 8 ขวบ เป็นอย่างไรและมีความเหมาะสมหรือไม่ 

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาประสานงานกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมลงไปตรวจสอบโดยด่วน เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้จะต้องเข้าไปตรวจสอบกับผู้ปกครองด้วยว่ามีการป้อนข้อมูลที่ผิดให้กับลูกหรือไม่ เพราะลำพังเด็กที่มีอายุยังน้อยน่าจะยังไม่มีการนึกคิดไตร่ตรองอะไรได้มาก รวมถึงตรวจสอบว่ามีใครอยู่เบื้องหลังเพื่อหวังหาประโยชน์จากน้องไนซ์หรือไม่

“ส่วนตัวมองว่าการที่นำเรื่องพระพุทธเจ้ามาอ้างอิงเช่นนี้ ไม่ตรงกับหลักคำสอนของพุทธศาสนา อีกทั้งทำให้ประชาชนหลงเชื่อ ดังนั้นจึงให้สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และหากมีประเด็นใดที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จะดำเนินการตามกฎหมายหรือมีพระภิกษุสามเณรรูปใดเข้าไปเกี่ยวข้องให้ดำเนินทันทีโดยไม่มีการละเว้น ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณก่อนรับฟังคำสอนดังกล่าวด้วย” นางพวงเพ็ชร กล่าว

'มธ.' แจง!! มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเคสดัง หลัง 'ไอลอว์' ตั้งคำถามเล่มจบ ป.เอก 'สว.สมชาย'

(24 เม.ย.67) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่สังคมได้ตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการกระทำผิดจริยธรรมทางวิชาการด้วยเหตุการณ์ลอกงานทางวิชาการของนักศึกษาระดับปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารกระบวนการยุติธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รายหนึ่งนั้น

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอชี้แจงว่า ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวจะได้รับการเผยแพร่เป็นการทั่วไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้บริหารของหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารกระบวนการยุติธรรม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และได้ดำเนินการสรุปข้อเท็จจริงและเสนอมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อไป

ทั้งนี้ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอยืนยันว่า คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการกำชับและส่งเสริมให้นักศึกษาและบุคลากรของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมทางวิชาการ เพื่อรักษามาตรฐานและคุณภาพทางวิชาการของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สืบไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก iLaw ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งคำถามถึงวิทยานิพนธ์ระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารกระบวนการยุติธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเลือกทำดุษฎีนิพนธ์ในหัวข้อ 'รูปแบบและวิธีการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย' ของนายสมชาย แสวงการ สว. ที่ระบุว่า พบความคล้ายกับข้อความจากหลากหลายแห่ง ซึ่งหลายจุดนั้น เหมือนต้นทางทุกตัวอักษร

'หมอดื้อ' เฉลย!! ทำไมยังพูดผลกระทบวัคซีน ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว ลั่น!! มันไม่ได้ผ่านไป ผลเสียยังฝังอยู่กับตัว ควรระงับเทคโนโลยีนี้

(24 เม.ย.67) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า

คนถามว่ามาพูดเรื่องผลกระทบทำไมในเมื่อมันผ่านไปแล้ว?

คำตอบคือ

1- มันไม่ได้ผ่านไปครับยังฝังอยู่กับตัวเราและใครยังไม่มีอาการปรากฏไม่ควรนิ่งนอนใจ รักษาตัวให้ดีหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นในร่างกายการควบคุมอาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ คุมโรคประจำตัว กำลังสม่ำเสมอ แดดและกระบวนการถอนพิษ เป็นไปได้

2- เพื่อให้หยุด ระงับเทคโนโลยีนี้ เพื่อใช้กับวัคซีนอื่น ๆ ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยน และไม่มีขั้นตอนในการควบคุมความปลอดภัยและเลิกบริการฉีด เลิกบังคับให้ฉีด ของวัคซีนนี้ จากการจุดกระแสต่าง ๆ

3- เพื่อให้ตระหนักในผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้เข้าใจว่า ไม่ใช่โรคที่คิดไปเอง ดังที่ถูกสั่งพักงาน เพราะหมอวินิจฉัยไม่ได้แต่ในที่สุดพบการอักเสบมากมายมหาศาลในร่างกายแม้กระทั่งไปทำ PET scan เจอการอักเสบทั่วตัวและต่อมน้ำเหลืองโตเต็มตัว

4- เพื่อให้มีการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบอย่างจริงจัง เป็นหมื่นเป็นแสนคน

5- ในที่สุดเพื่อหาคนรับผิดชอบ เมื่อรู้ความจริงแทนที่จะระงับ กลับส่งเสริมต่อและทำการเปลี่ยนความจริงให้เป็นเท็จ

คนเหล่านี้ ต่ำทราม และไม่ควรเป็นคนไทย

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ” เปิดโครงการ CSI Challenge 2024 เฟ้นหาสุดยอดทีมปฏิบัติการพิสูจน์หลักฐาน มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาศักยภาพการตรวจสถานที่เกิดเหตุของตำรวจพิสูจน์หลักฐานไทย ในระดับสากล

วันนี้ (24 เม.ย.67) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มพูนทักษะ และพัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ที่ปฏิบัติงานด้านการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (CSI Challenge 2024) โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ , พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และข้าราชการตำรวจสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมพิธี ณ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายนเรศวร จังหวัดเพชรบุรี

ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจให้ความสำคัญในการเพิ่มพูนทักษะ และพัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ด้านการตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจ                 สถานที่เกิดเหตุ ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักและเป็นกระบวนการแรกของการได้มาซึ่งพยานหลักฐาน และจะต้องมีขั้นตอนการเก็บวัตถุพยานตามมาตรฐานสากล โดยใช้หลัก 12 ขั้นตอน ของ FBI ตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17020 ทั้งนี้ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้ตรวจติดตามคุณภาพภายใน (Internal Audit) การตรวจสถานที่เกิดเหตุของทุกศูนย์ทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานอยู่เสมอ แต่ปีนี้มีความพิเศษกว่าทุกครั้ง ด้วยการจัดโครงการ CSI Challenge 2024 ขึ้น โดยคัดเลือกหน่วยที่มีผลคะแนนสูงสุดของการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ในรอบ Internal Audit ในคดีเกี่ยวกับชีวิต ได้แก่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 , คดีเกี่ยวกับทรัพย์ ได้แก่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และคดีเกี่ยวกับระเบิด ได้แก่  ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 มาแข่งขันเพื่อหาทีมที่มีความสมบูรณ์ที่สุด

การแข่งขัน CSI Challenge 2024 จะมีการจำลองสถานการณ์ในรูปแบบเดียวกัน มีคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการอาวุโส และคณะกรรมการประจำจุด เป็นผู้ตัดสิน โดยเกณฑ์การให้คะแนน จะให้คะแนนตามขั้นตอนวิธีปฏิบัติ การตรวจสถานที่เกิดเหตุ 12 ขั้นตอน ตามมาตรฐาน ISO 17020  โดยพิจารณาจากความสามารถในการทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบชัดเจน ตรวจเก็บวัตถุพยานได้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามหลักวิชาการ สามารถเชื่อมโยงคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่จำกัด ซึ่งโครงการ CSI Challenge 2024 จะช่วยเพิ่มพูนทักษะ และประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งนำความรู้และประสบการณ์ในการแข่งขันครั้งนี้ไปพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน

ภายหลังพิธีเปิด รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ได้เดินชมบูธนิทรรศการแสดงเครื่องมืออุปกรณ์อันทันสมัยของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่นำมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการตรวจพิสูจน์หลักฐานในปัจจุบัน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจเป็นหน่วยหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมวัตถุพยาน และตรวจพิสูจน์หลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ มีนักวิทยาศาสตร์ที่ปฏิบัติหน้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักในการปฏิบัติงานเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ภายใต้การปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากล จึงขอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจทุกคนได้ใช้ความรู้ความสามารถในการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ไปใช้ในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำไปพัฒนาการทำงานให้สามารถนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด โดยใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์อย่างมีมาตรฐานสากล

‘เจ๊จง’ เปิดใจลดราคาหมูทอด ไม่ได้ทำเอากระแส แต่เมื่อราคาวัตถุดิบลดราคา ร้านค้าควรลดตาม

จากกรณีร้านหมูทอดเจ๊จง ร้านหมูทอดชื่อดังประกาศลดราคาหมูทอด ทั้งขายเป็นขีดเป็นกิโล จากขีดละ 31 บาท เหลือขีดละ 30 บาท หมูทอดราคา 300 บาทต่อกิโลกรัม จนทำเอาได้ใจผู้บริโภค

(23 เม.ย.67) คุณจงใจ กิจแสวง หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ‘หมูทอดเจ๊จง’ เจ้าของร้านหมูทอดชื่อดัง เผยถึงสาเหตุของการประกาศลดราคาหมูทอดลงว่า จริง ๆ ไม่มีอะไรเลย แต่สืบเนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตนไปหาหมอกับลูก ที่มีสาขาอยู่ที่ตลาดสดธนบุรี และลูกเล่าให้ฟังว่ามีลูกค้ามาบอกว่ารักตนมาก เพราะเวลาของขึ้นราคาก็ขึ้น เวลาของลดราคาก็ลงตามด้วย ตนเลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ารักดี

ต่อมาวันอาทิตย์เวลาประมาณสามทุ่ม ตนเลยโทรหาลูกทุกคนว่า “โอเคมั้ย ถ้าวันจันทร์จะลด 10 บาท” ลูกก็บอกว่าแล้วแต่ตน ก็เลยตัดสินใจที่จะประกาศลดราคา แต่ยกเว้นสาขาในห้างสรรพสินค้า เนื่องด้วยราคาค่าเช่าที่แพง โดยตนมองว่าที่ตนลดขีดละ 1 บาท แต่ถ้าเป็นกิโล ก็เท่ากับลด 10 บาท ก็ไม่ใช่น้อย ๆ บางคนซื้อไป 1 กิโลกรัม สามารถกินได้หลายวันเลย

สำหรับเรื่องนี้ เจ๊จงมองว่า แล้วแต่มุมมอง แต่ถ้าหากว่าอยากจะอยู่นาน ๆ ก็ต้องมีความจริงใจต่อผู้บริโภค ‘เธอบ้าง ฉันบ้าง’ ไม่ใช่ว่าจะเอาอย่างเดียว มันเลยทำให้ตนยังอยู่ได้มากว่า 20 ปี และยังส่งต่อธุรกิจให้กับลูกอีก 4 คนได้ด้วย รวมถึงยังทำให้ลูกค้ารักร้านตน และรักลูกตนด้วย

เจ๊จง กล่าวอีกว่า ไม่ได้มองว่าที่ตนทำเป็นการสวนกระแส แต่ตนเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ขนาดช่วงที่หมูแพง มีผู้ใหญ่มาดูราคาขายให้ตนว่าต้องขายเท่านี้ แต่ตนมองว่าแพงไป ก็ไม่ขายราคานั้น หรือช่วงที่หมูลดราคา แต่ของอย่างอื่นขึ้น เช่น แก๊ส, พริก หรือแม้กระทั่งค่าแรง แต่ตนไม่กังวล เพราะค่าแรงลูกจ้างร้านตนได้เยอะกว่าที่รัฐบาลจะให้ขึ้นค่าแรงอยู่แล้ว ซึ่งราคาที่ลดมานี้ ตนคิดว่าน่าจะสามารถตรึงเอาไว้อีกสักพักเลย

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ลดราคาเพื่อหวังให้ลูกค้ามาซื้อเยอะขึ้น เพราะลูกค้าที่ร้านตนเยอะแบบนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ตนเป็นคนที่เล่นโซเชียลมีเดีย เห็นว่ามีคนที่ลำบากอีกเยอะ อย่างเคสหนึ่งที่ยอมขายของในบ้านทั้งหมด เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าเทอมลูก ตนเลยมองว่าการช่วยเหลือแค่นิด ๆ หน่อย ๆ อาจทำให้เขาดีขึ้นก็ได้

ทั้งนี้ตนก็แปลกใจที่เมื่อเวลาราคาวัตถุดิบขึ้น ร้านค้าต่างขึ้นราคา แต่เมื่อถึงเวลาราคาวัตถุดิบลดราคา กลับไม่ลดราคาสินค้าตามด้วย แต่ร้านตนนั้นทำแบบนี้มานานแล้ว เวลาขึ้นราคาจะขึ้นครั้งละ 1-2 บาท และเวลาลดราคาก็จะลดครั้งละ 1-2 บาท ตามราคาที่ขึ้นไป

ตนจึงอยากให้แม่ค้าหลาย ๆ คนดูเป็นแบบอย่างว่า ถ้าอยากจะขายได้นาน ๆ ส่งต่อถึงรุ่นลูกได้ ก็ลองนำไปปรับใช้ดู แต่ทั้งนี้ตนก็เข้าใจร้านเล็ก ๆ ว่าอาจจะขายน้อย เวลาซื้อวัตถุดิบ ก็ซื้อในปริมาณที่เยอะไม่ได้ แต่ถ้าขายได้ทำราคาได้ ก็ควรจะแบ่ง ๆ กัน ลดราคาได้ก็ลด จะได้ขายได้นาน ๆ

ที่ตนออกมาประกาศลดราคาแบบนี้ ตนไม่ได้ตั้งใจจะไปทำลายร้านอื่น ตนเข้าใจแต่ตนอยากให้ดูร้านตนมากกว่าว่าทำไมถึงขายมาได้นาน

สุดท้ายนี้อยากขอบคุณลูกค้าทุกคน ที่รักในแบรนด์หมูทอดเจ๊จง ยืนยันว่าจะแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และจะส่งเจตนารมณ์ไปถึงรุ่นลูกด้วยว่าอย่าเอาเปรียบซึ่งกันและกัน แล้วจะอยู่ในสังคมได้ ส่วนที่หลายคนอวยยศตนว่า ‘เจ๊จง คนจริง’ นั้น ตนมองว่าเป็นคนจริงใจมากว่า

ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ร้านหมูทอดเจ๊จง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มาซื้อหมูทอดและอาหารที่ร้านเป็นประจำ เนื่องจากมีราคาที่ถูก และมองว่าการที่เจ๊จงลดราคาแบบนี้ถือเป็นการคืนกำไรให้ผู้บริโภค และจริงใจต่อลูกค้า บางรายเป็นลูกค้าประจำเดินทางมาไกล เพื่อซื้อหมูทอดโดยเฉพาะ เพราะรักเจ๊จง เจ๊จงช่วยเหลือคนที่ลำบากมาเยอะ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top