Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง​ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยความร่วมมือโครงการติดตาม แนะนำช่วยเหลือเด็กและเยาวชน

(7​ ก.พ.65)​ นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค​ 7 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยความร่วมมือโครงการติดตาม แนะนำ ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนเข้าฝึกประสบการณ์ทักษะอาชีพในสถานประกอบการ ระหว่างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมี พันตำรวจโทวรรพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมลงนามในครั้งนี้   

โดยทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมมือกันส่งเสริมเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของศาลเยาวชนและครอบครัวกับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความควบคุมของสถานพินิจตลอดจนศูนย์ฝึกและอบรม ให้ได้มีโอกาสในการประกอบอาชีพตามความถนัดหรือความสนใจ เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เด็กและเยาวชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพพึ่งพาอาศัยตนเองและเลี้ยงครอบครัวได้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น โดยได้รับการแก้ไขอย่างครบวงจร เพื่อคืนเด็กและเยาวชนที่มีคุณภาพสู่สังคมและลดอัตราการกระทำความผิดซ้ำของเด็กและเยาวชน

'นายกฯ' มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกฯ 17,997,636 บาท ส่งมอบขวัญกำลังใจถึงผู้ประสบสาธารณภัยและครอบครัว ที่เกิดจากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 17,997,636 บาท ตามนโยบายนายกรัฐมนตรีที่ให้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากสาธารณภัยเพิ่มเติม นอกจากการช่วยเหลือตามปกติของส่วนราชการแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบสาธารณภัยและครอบครัวผู้ประสบสาธารณภัยที่เกิดจากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ทั่วประเทศ

โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 

นายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 17,997,636 บาท ให้แก่ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธ์รัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับมอบแทนผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ เพื่อมอบและส่งต่อความห่วงใยไปยังผู้ประสบสาธารณภัยและครอบครัวผู้ประสบสาธารณภัยในพื้นที่ต่อไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตราด อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ สมุทรสาคร อ่างทอง อุทัยธานี และขอนแก่น จำนวน 38 ราย จำนวนเงิน 7,924,141 บาท

2. การให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากเหตุช้างป่า ในจังหวัดระยอง และจันทบุรี จำนวน 4 ราย จำนวนเงิน 120,000 บาท

3. การให้ความช่วยเหลือกรณีบ้านเรือนเสียหายจากเหตุอุทกภัย พายุโซนร้อน “ปาบึก” เพิ่มเติม ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 274 หลังคาเรือน จำนวนเงิน 3,987,512 บาท

4. การให้ความช่วยเหลือ กรณีบ้านเรือนของผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสที่ครอบครัวมีฐานะยากจน เสียหายจากเหตุอุทกภัย เมื่อปี พ.ศ. 2563 ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 156 หลังคาเรือน จำนวนเงิน 3,835,983 บาท 5. การให้ความช่วยเหลือกรณีราษฎรอาสาปฏิบัติงานลาดตระเวนไฟป่า เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 30,000 บาท

6. การให้ความช่วยเหลือกรณีท่อก๊าซธรรมชาติรั่ว และเกิดอัคคีภัย เพิ่มเติม ในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 51 ราย จำนวนเงิน 800,000 บาท 7. การให้ความช่วยเหลือ กรณีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เพิ่มเติม จำนวน 2 ราย เป็นเงิน 1,300,000 บาท

มกุฎราชกุมารซาอุฯ ทรงตอบรับเยือนไทย ฟื้นความสัมพันธ์ กระชับแน่นแฟ้น 2 ประเทศ

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย หลังมีการปรับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เป็นปกติอย่างเต็มรูปแบบ ว่า หลังจากนี้นอกจากเรื่องการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตของกันและกันแล้ว เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซิซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ทรงตอบรับการกราบเรียนเชิญของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเสด็จฯ เยือนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อถึงเวลาที่มกุฎราชกุมารซาอุฯ เสด็จฯ เยือนไทยก็ต้องมีการลงนามในความตกลงใหญ่ที่ครอบคลุมความสัมพันธ์ทั้งหมด

“เฉลิมชัย”เร่งปฏิรูปพลิกโฉมกระทรวงเกษตรฯ พอใจผลการพัฒนาการบริหารและการบริการภาครัฐด้วยระบบดิจิตอล “อลงกรณ์” ชู 641เทคโนโลยีใหม่ถ่ายทอดสู่เกษตรกรพร้อมผนึกสภาอุตสาหกรรมฯ ขยายเกษตรอัจฉริยะ 2 ล้านไร่ เตรียมจัดงานเกษตรสร้างสรรค์สู่เกษตรมูลค่าสูงเดือนนี้ตามด้วย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC)เปิดเผยวันนี้(7ก.พ.)ถึงผลงานความคืบหน้าของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร4.0ประจำเดือนมกราคม2565ซึ่งเป็น1ใน5ยุทธศาสตร์การปฏิรูปภาคเกษตรกรรมของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า จากผลการปฏิรูปการบริการและการบริหารภาครัฐของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และการดำเนินงานของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(AIC : Agritech and Innovation Center) มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พอใจต่อผลการทำงานล่าสุดโดยเฉพาะการดำเนินงานด้านระบบบริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล(  Gov Tech )ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความคืบหน้าถึง70% จากพัฒนาบริการภาครัฐทั้งหมด 176 ระบบเปลี่ยนเป็นการบริการภาครัฐด้วยดิจิตอล( Digital Service )แล้ว 156 ระบบ ซึ่งในส่วนนี้ดำเนินการเสร็จสิ้นและให้บริการแล้ว 109 ระบบหรือคิดเป็น 70% 

ส่วนการพัฒนาNSW(National  Single Window)54 ระบบ อยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ 47 ระบบ ในขณะที่ด้านระบบฐานข้อมูลดิจิตอล( Big Data )โดยศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติได้เชื่อมโยงข้อมูลสู่ภูมิภาคกับศูนย์ AIC เช่นศูนย์AICเพชรบุรี(มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี)ในการพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการวิจัยและพัฒนาเกลือทะเลไทยเชิงบูรณาการ การวิจัยและพัฒนาต้นแบบด้าน IT เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการด้านเกษตรกรรม และศูนย์ AIC จังหวัดเชียงราย ในการดำเนินโครงการ Flagship ร่วมกับ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟอาราบิกา การใช้งานระบบ CKAN เพื่อจัดทำ Data Catalogเป็นต้นทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ได้สั่งการให้มีการจัดประชุมเรื่อง NSW เป็นการเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์เพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศและการพยากรณ์ข้อมูลราคาและตลาดสินค้าเกษตรในต่างประเทศ

สำหรับด้านเกษตรอัจฉริยะ ได้มีการรายงานการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะ ปี พ.ศ. 2565-2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และการขับเคลื่อนการบูรณาการด้านเกษตรอัจฉริยะ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการเกษตรแม่นยำ2ล้านไร่จับคู่เกษตรแปลงใหญ่(Big Farm)กับบริษัทอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่(Big Brother) โครงการความร่วมมือด้านSmart Farming กับบริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จำกัด(มหาชน) เพื่อขับเคลื่อนแปลงใหญ่เกษตรอัจฉริยะข้าว และระบบช่วยการตรวจประเมินระยะไกล (Remote Audit) หรือการตรวจผ่านระบบออนไลน์ แปลง GAP และเกษตรอินทรีย์ (Organic) (แอปพลิเคชัน Kasettrack) 

สำหรับด้าน E-Commerce ได้มีการขับเคลื่อนเรื่องแผนการกระจายผลไม้ในประเทศ และความร่วมมือด้านการเกษตรและการค้าไทย-บาห์เรน รวมทั้งโครงการThailand  E-Commerce Village 

ส่วนงานด้านธุรกิจเกษตร (Agribusiness) มีการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาแบรนด์ธุรกิจ SMEs ด้วยการสร้างสรรค์คาแรคเตอร์ให้โดนใจกลุ่มผู้บริโภค และการประชาสัมพันธ์การจัดงานตลาดนัด Local CIP Fair และ Character Walking Street โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่าย ในระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2565 

นอกจากนี้นายอลงกรณ์ได้มอบนโยบายให้คณะอนุกรรมการด้านธุรกิจเกษตร ศึกษาจุดอ่อนจุดแข็งในเรื่องของระบบธุรกิจเกษตรแบบ Contract Farming ภายใต้กฎหมายปัจจุบันว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งที่จะต้องดำเนินการแก้ไขพัฒนาอย่างไร และการขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่ด้วยคณะทำงานของ AIC ในการพัฒนาธุรกิจเกษตร 

เปิดใจ หนุ่มไลฟ์ขายรองเท้า 2 ปี คนดูไม่เกิน 5 คน ลั่น ไม่ท้อขอสู้ แม้ไม่มีคนดูก็ไม่เป็นไร

เปิดใจหนุ่มไลฟ์ขายรองเท้า 2 ปีคนดูไม่เกิน 5 คน ลั่นไม่ท้อขอสู้ เผยคำพูดกินใจ “ไม่มีคนดูไม่เป็นอะไรครับ ผมนั่งคุยคนเดียวก็ได้” ก่อนคนแห่ซื้อถล่มทลาย

จากกรณีผู้ใช้ Tiktok ใช้ชื่อ @chompoo1450 โพสต์คลิปหนุ่มไลฟ์ขายรองเท้ามือสอง มีคนดูไม่ถึง 5 คน แต่หนุ่มคนนี้ก็ยังไลฟ์ต่อไป ซึ่งคำพูดที่กินใจคนดู หนุ่มคนนี้บอกว่า “ไม่มีคนดูไม่เป็นอะไรครับ ผมนั่งคุยคนเดียวก็ได้” ทำให้คลิปนี้กลายเป็นไวรัลใน Tiktok คนแห่ดู 3.8 ล้านครั้ง

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 65 ข่าวสดออนไลน์ พูดคุยกับนายไพลิน จ่อยสาครู หรือน้องปื๊ด อายุ 23 ปี เล่าว่า ทำงานขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดแถวจรัญสนิทวงศ์ กทม. และใช้เวลาว่างช่วงค่ำๆ มาเริ่มไลฟ์ขายรองเท้า ในเพจ “รองเท้ามือสองของแท้ P&N” ประมาณ 3 ปี แต่มาเริ่มไลฟ์สดจริงๆ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนไลฟ์สดขายรองเท้าผ้าใบ ทุกวันนี้ไลฟ์สดขายรองเท้าแตะ ยอดผู้ชมอยู่ที่ 1-2 คน มีบางวัน 10 คน แต่ไม่ได้ไลฟ์สดเป็นประจำ ตนจะไลฟ์สดหลังจากว่างจากงานประจำ

หอพัก ม.ดัง แคนาดา อ้าง!! แค่สร้างบรรยากาศให้รื่นเริง หลังแจก ‘อั่งเปา’ ใส่ ‘แบงก์กงเต็ก’ ให้ชุมชน นศ.จีน

ดราม่าสนั่นโลกโซเชียลจีน หลังช่วงตรุษจีนที่ผ่านมามีกลุ่มนักศึกษาชาวจีนที่ไปเรียนและอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยโตรอนโตของแคนาดา ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลงในโซเชียลมีเดียว่า พวกเขาได้รับ “ซองอั่งเปา” จากทางหอพักของมหาวิทยาลัย แต่เมื่อเปิดซองออกมาแล้วไม่ได้มีเงินจริงๆ อยู่แต่อย่างใด แต่กลับมีแต่ “แบงก์กงเต็ก”

"ธนบัตร" ซึ่งมีคำว่า "HELL BANK NOTE" พิมพ์ด้านหน้าและด้านหลังเป็นภาษาอังกฤษ ได้ถูกแจกจ่ายไปยังลูกหอซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน สร้างความตกใจให้กับนักศึกษาในชุมชนชาวจีนที่มหาวิทยาลัยโตรอนโตเป็นอย่างมาก

ภาพถ่ายแบงก์กงเต็กในซองอั่งเปา ซึ่งถูกถ่ายโดยผู้อยู่อาศัยในหอพักของทางมหาวิทยาลัยได้แพร่กระจายไปทั่วแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน รวมถึง WeChat และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียภาษาอังกฤษ Reddit และ Instagram

'กรณ์' ชวนเที่ยวงาน Bangkok Design Week จิตวิญญาณ - ประวัติศาสตร์ - วิถีชีวิต

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อคืนทีมงาน creative ของพรรคชวนผมไปเที่ยวงาน Bangkok Design Week ในส่วนที่จัดที่อาคาร New World 

ตื่นตาตื่นใจ น่าไปมากครับ!

ใครที่ไม่รู้ New World เป็นตึกร้างในย่านบางลำพู ในอดีตเคยเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ มี ‘ลิฟต์แก้ว’ ตัวแรกๆ ในประเทศไทย แต่แล้วก็จบด้วยความขัดแย้งและโศกนาฏกรรม เหตุเกิดขึ้นเพราะมีการก่อสร้างจำนวนชั้นเกินใบอนุญาต และเมื่อ 30 กว่าปีก่อนถูกสั่งให้ทุบจาก 11 ชั้นเหลือ 5 ชั้น แต่ระหว่างทุบเกิดอุบัติเหตุทำให้ผู้ค้าชั้นล่างเสียชีวิต เลยถูกสั่งปิดและฟ้องร้องกันจนหมดสัญญาเช่าตึก จากนั้นถูกทิ้งร้างมานาน หลังคาก็ไม่มี สภาพทรุดโทรม ไม่ต่างกับอาคารในหนังผีหรือหนังสงคราม

เสน่ห์ของกรุงเทพ (และเมืองอื่นๆ อีกหลายเมืองทั่วประเทศ) ไม่ได้มาจากการสร้างของใหม่ แต่มาจากการนำจิตวิญญาณ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่มาผสมผสานกับการออกแบบและงานศิลปะ เพื่อให้เกิดความกลมกลืนและประสบการณ์ที่ทั้ง ทันสมัย authentic และ unique (ของแท้และมีเอกลักษณ์)

“บิ๊กป้อม” เร่ง โครงการบำบัดน้ำเสียมีนบุรี สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องสำรวจแหล่งมลพิษ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ จากมูลนิธิป่ารอยต่อฯร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมเห็นชอบหลักการ โครงการบำบัดนำ้เสียมีนบุรี ระยะที่ 2( กทม.)ที่สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 42,000 ลบ.ม.ต่อวัน โดยขอให้นำเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาก่อน และให้วางแผนการก่อสร้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ เพื่อไม่ให้กระทบการก่อสร้างและระบายน้ำ

นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินร่วมกันของ 8 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรุงเทพมหานครฯ  องค์การจัดการน้ำเสีย กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน และ จว.ฉะเชิงเทรา โดยมีงานที่สำคัญตามแผนหลัก 5 เป้าประสงค์ คือ  การแก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำ  การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรน้ำ การปรับปรุงภูมิทัศน์ และการเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำของประชาชน ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 11 ปี (64 - 67) รวม 84 โครงการ

ภาพรวมคลองแสนแสบ ยาวรวม 72 กม.เชื่อมโยงลุ่มน้ำเจ้าพระยาและบางปะกงในพื้นที่ กทม.และ ฉะเชิงเทรา ปัญหาคุณภาพน้ำโดยรวม พบอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมมาก ปริมาณน้ำเสียที่ระบายลงคลอง 807,672 ลบ.ม.ต่อวัน โดยมีน้ำเสียที่ไม่มีการจัดการกว่าร้อยละ 50  และมีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ฉะเชิงเทรา 9 แห่ง อยู่ในข่ายเฝ้าระวังและตรวจสอบกำกับดูแล  มีแผนงานโครงการระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ที่เตรียมการก่อสร้างรองรับใน 5 พื้นที่  สำหรับการเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ ช่วงวัดศรีบุญเรือง - สำนักงานเขตมีนบุรี ส่วนต่อขยาย ระยะทาง 10.5 กม.คาดว่าจะเปิดให้บริการประชาชน ใน พ.ค.65 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้กระทรวงมหาดไทย กทม. รวมทั้ง กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ เร่งสำรวจแหล่งกำเนิดมลพิษที่อยู่ริมคลองให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.65 และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังควบคู่กันอย่างเร่งด่วน เพื่อหยุดต้นทางน้ำเสียที่ไหลลงคลองให้ได้ โดยเฉพาะหลายชุมชน ที่ยังไม่มีการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งต้องทำความเข้าใจและสร้างการมีส่วนร่วม โดยขอให้เยาวชนในสถานศึกษานำร่อง 8 แห่งเข้าร่วมกิจกรรม สร้างจิตสำนึกและการตระหนักรู้ไปพร้อมกัน

ดราม่า ‘Emergency Room’ สะท้อนการศึกษาไทย อยากได้โอกาสดีๆ ต้องมีเงินเป็นใบเบิกทาง

นายปฐม อินทโรดม กรรมการครีเอทีฟ ดิจิทัลอีโคโนมี สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pathom Indarodom’ ถึงปมดราม่าข้อสอบครูผู้ช่วย 64 ว่า ดราม่าวันนี้คือข้อสอบครูผู้ช่วยที่เจอคำถามว่า Emergency Room คืออะไร แล้วผู้สมัครแห่ตอบเหมือน ๆ กันว่า “สระว่ายน้ำ” เจอแบบนี้แล้วไม่แปลกใจที่โรงเรียนอินเตอร์ในเมืองไทยเปิดเพิ่มขึ้นทุกปี สวนกระแสเด็กเกิดน้อยสุดเป็นประวัติการณ์เพราะพ่อแม่กลัวว่าหากลูกเรียนในระบบแล้วต้องเจอครูแบบนี้คงไม่ต้องคาดหวังอนาคตกันพอดี

นอกเหนือจากนั้นโรงเรียนอินเตอร์เป็นทางเลือกสำหรับการออกจากกฎระเบียบหยุมหยิมทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ฯลฯ พูดง่าย ๆ ว่าสังคมไทยเปิดโอกาสให้คนที่ไม่อยากทำตามกฎระเบียบได้ตั้งแต่เรียนชั้นประถม ด้วยการจ่ายแพงกว่าไปเรียนอินเตอร์แทนโรงเรียนปกติ

นักศึกษา 4ส. รุ่นที่ 12 ‘สถาบันพระปกเกล้า’ ลุยภาคอีสาน!! ‘ถอดบทเรียนเมืองขอนแก่น’ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน - ศึกษาภูมิปัญญากลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโขผ่านเส้นทางผ้าไหม

นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ รองเลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า นายศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล พร้อมคณาจารย์ และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 12 (4ส12) ศึกษาดูงานพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

>> จุดแรกที่ห้องออร์คิด บอลรูม 3 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น กับเวทีแลกเปลี่ยนประเด็นการบริหารจัดการเมืองอย่างยั่งยืน ถอดบทเรียน “Khon Kaen Smart City and Low Carbon City”  โดยนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมผู้เกี่ยวข้อง อธิบายถึงโครงการขนส่งมวลชนรางเบา (LRT)  ของบริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด วิสาหกิจของ 5 เทศบาลในจังหวัดขอนแก่น ที่เป็นการพัฒนาด้านคมนาคมเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการจราจรของเมือง

จังหวัดขอนแก่น มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ อีกทั้งยังอยู่ตรงกลางของภาคอีสาน จึงเป็นเมืองศูนย์กลางของการพัฒนาในหลากหลายด้าน การที่เมืองขอนแก่นเติบโตอย่างรวดเร็ว ย่อมทำให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมา ทั้งปัญหามลพิษ ความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะปัญหาด้านระบบขนส่งมวลชน และช่องว่างของรายได้ของประชากร ลำพังเพียงงบประมาณจากภาครัฐมักเป็นการกระจายงบแบบรวมศูนย์ ไม่เพียงพอสำหรับการแก้ไขปัญหาได้

ปี 2556 นักธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น ได้รวมกลุ่มกันเพื่อจัดตั้ง บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด (Khon Kaen Think Thank - KKTT) โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาเมืองขอนแก่นให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยระดมทุนร่วมกันจำนวน 200 ล้านบาท ก่อตั้งกองทุนพัฒนาเมือง บริหารเงินกองทุนโดย บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด ในการขับเคลื่อนพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนทางราง (Light Rail Transit system – LRT) ได้รับเงินสนับสนุนในการทำการศึกษาระบบรางที่เหมาะสมโดย สนข. และเกิดเป็นแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดขอนแก่นขึ้นมา จำนวน 5 สาย พาดผ่านพื้นที่ 5 เขตเทศบาล

โดยรัฐบาลลงนามอนุมัติให้จัดทำ สายท่าพระ-สำราญ เป็นเส้นทางแรกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 ต่อมาเดือนมีนาคม 2560 กระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้ 5 เทศบาลในจังหวัดขอนแก่น จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ขอนแก่นทรานซิสเต็ม จำกัด (KKTS) เพื่อบริการจัดการและจัดเก็บรายได้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ

ขอนแก่น Smart City มาตรฐานสากลนั้นประกอบไปด้วย 6 สาขา ได้แก่ Smart Mobility, Smart Living, Smart Citizen, Smart Economy, Smart Environment และ Smart Governance เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น และประชากรสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม 

>> จุดที่สอง รับฟังการบรรยายถึงกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน จ.ขอนแก่น (บ้านโฮมแสนสุข) เป็น ‘ศูนย์ตั้งหลักชีวิต’ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ  เพื่อให้เป็นสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกันหรือไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งในอนาคตศูนย์แห่งนี้จะเป็นที่ตั้งหลักของชีวิต พัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านความเป็นอยู่ ด้านกลุ่มอาชีพ ด้านสวัสดิการ การดูแลซึ่งกันและกัน เพื่อให้กลุ่มคนไร้บ้านมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

>> จุดที่สาม ลงพื้นที่ศึกษากลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข บ้านดอนข่า อ.ชนบท เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบยั่งยืนและความเข้มแข็งของชุมชนผ่านเส้นทางผ้าไหม” ซึ่งจุดเด่นกลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข ของผ้าไหมมัดหมี่ย้อมสี ธรรมชาติด้วยน้ำจุลุลินทรีย์ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาตรฐาน เป็นสากล สร้างชุมชนให้ยั่งยืน เป็นการยกระดับความสามารถด้านการผลิต นวัตกรรม การเชื่อมโยง และพัฒนาการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งทำให้ชุมชนได้สร้างงาน สร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top