Wednesday, 21 May 2025
NEWS FEED

สสส. สร้างนักสื่อสารสร้างสรรค์ต้นแบบ เยาวชน 4 ภูมิภาค เป็นผู้นำเครือข่ายสื่อออนไลน์ท้องถิ่น หวังดึงพลังเยาวชนสร้างความเปลี่ยนแปลงสู่สังคม

เยาวชน 4 ภูมิภาค ร่วมผลิตสื่อสร้างสรรค์ หวังดึงพลังเด็กและเยาวชนสร้างสื่อสร้างสรรค์เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงสู้สังคม และพัฒนาเป็นผู้นำเครือข่ายสื่อมวลชนออนไลน์ท้องถิ่นและชุมชน ด้วยต้นแบบหลักสูตรสื่อชุมชนสื่อสารสุขภาวะ

วันที่ 20-21 ธันวาคม 2564 ที่ โรงแรม ทีเคพาเลซ แอนด์คอนเวนชั่น แจ้งวัฒนะ กทม. โครงการสื่อเป็นโรงเรียนของสังคมแห่งการเรียนรู้ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการการพัฒนาขับเคลื่อนผู้นำเครือข่ายสื่อมวลชนออนไลน์ท้องถิ่น และชุมชนด้วยต้นแบบ หลักสูตรสื่อชุมชนสื่อสารสุขภาวะ ขึ้นเพื่อพัฒนา “นักสื่อสารสร้างสรรค์” ให้เป็นพลเมืองที่ตื่นรู้และผู้นำการเปลี่ยนแปลง การบูรณาการปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อระบบการเรียนรู้ใหม่” ทั้งยังหวังดึงพลังเด็กและเยาวชนสร้างสื่อสร้างสรรค์เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงสู้สังคมต่อไป

นายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการโครงการสื่อเป็นโรงเรียนของสังคม กล่าวว่า การพัฒนา “นักสื่อสารสร้างสรรค์” ให้เป็นพลเมืองที่ตื่นรู้และผู้นำการเปลี่ยนแปลง การบูรณาการปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อระบบการเรียนรู้ใหม่” ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเกิดขึ้นปีที่ 6 ภายใต้โครงการการพัฒนาขับเคลื่อนผู้นำเครือข่ายสื่อมวลชนออนไลน์ท้องถิ่นและชุมชนด้วยต้นแบบหลักสูตรสื่อชุมชนสื่อสารสุขภาวะ” โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ มีเครือข่ายเข้าร่วมเพื่อเป็นต้นแบบในการทำงาน ครอบคลุมใน 4 ภูมิภาค อาทิ ภาคอีสาน โดย พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ จากไทยเสรีนิวส์, ภาคเหนือ โดยคุณชัยวัฒน์ จันทิมา จากพะเยาทีวี, ภาคใต้ โดยคุณภูวสิษฏ์ สุกใส จากสงขลาโฟกัส และภาคกลาง โดยคุณสืบพงษ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต จากกลุ่มพลังแห่งต้นกล้า ที่ได้นำทัพเด็กและเยาวชนในภูมิภาคนั้นๆ มาร่วมโครงการการพัฒนาขับเคลื่อนผู้นำเครือข่ายสื่อมวลชนออนไลน์ท้องถิ่น และชุมชนด้วยต้นแบบ หลักสูตรสื่อชุมชนสื่อสารสุขภาวะ จำนวนกว่า 80 คน

ได้มาเรียนรู้การทำงานก่อนลงไปสร้างสรรค์สื่อจริง ด้วยหลักสูตรใหม่ที่ทันสมัย และสามารถนำไปใช้ได้จริงกับการทำงาน อย่าง 1. ดิจิทัลพลิกโลก (Digital Disruption) 2. การสื่อสารสุขภาวะ (Community for Health) 3. รู้เท่าทันสื่อสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล (Media Information and Digital Literacy : MIDL) 4. กฎหมายและจริยธรรมการสื่อสาร  5. การสืบค้น การวิเคราะห์ข้อมูลและการจัดทำแผนชุมชน 6.ความคิดสร้างสรรค์และการเล่าเรื่อง 7.การออกแบบและผลิตสื่อ 8.การสื่อสารและการจัดการภาวะวิกฤต 9.การสื่อสารเพื่อการฟื้นฟูและเยี่ยวยา 10.การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ 11.การต่อยอดเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ 12.การประเมินผลและการถอดบทเรียนออนไลน์ และ 13.การออกแบบและผลิตสื่อ 2 

“ในการสร้างสรรค์สื่อในครั้งนี้เพื่อเป็นการสื่อสารไปยังสังคมได้แพร่หลายมากขึ้นจึงมีการเน้นให้มีการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อาทิ Facebook, Instagram, Twitter, YouTube, Tiktok หรืออื่นๆ ตามที่นำเสนอภายใต้ประเด็นที่กำหนดอย่าง 1.รองรับสังคมผู้สูงวัย 2.ปัจจัยเสี่ยงทางด้านสุขภาวะ 3.ทักษะรู้เท่าทันสื่อและความรอบรู้ด้านสุขภาพ 4.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 5.อัตลักษณ์ – ความดี – คนดีของสังคม ซึ่งสามารถติดตามผลงานของเยาวชนทั้งหมดในครั้งนี้ได้ที่ www.artculture4health.com/mass ครับ”  นายดนัย หวังบุญชัย กล่าว

ททท.เปิดแผนจัดเคาท์ดาวน์ทั่วไทย 5  จังหวัด

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้จัดงานเทศกาล “Amazing Thailand Countdown 2022-Amazing New Chapters” จะจัดขึ้นพร้อมกันระหว่างวันที่ 27-31 ธ.ค. 2564 ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา และระยอง โดยจัดแสดงวัฒนธรรมผสมผสานกับ วิถีไทยวิถีถิ่น ศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับการควบคุมมาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุขที่เข้มงวด ซึ่งในแต่ละพื้นที่ ททท. ได้กำหนดจัดงานในรูปแบบวิถีปกติใหม่ ภายในงานจะได้พบกับการประดับตกแต่งไฟสวยงาม การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงดนตรี อาทิ โขน และดนตรีร่วมสมัย โซนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและอาหารท้องถิ่น และเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยไฮไลท์สำคัญการแสดงพลุช่วงนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565  

สำหรับงาน Amazing Thailand Countdown 2022 ในแต่ละพื้นที่จะมีเอกลักษณ์และกิจกรรมในการจัดงานที่แตกต่างกันไป  ประกอบด้วย 1. จังหวัดภูเก็ต จัดขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.10 หาดปลายสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ คือ การแสดงจากศิลปินโอเปร่าระดับโลกชาวอิตาเลียน “อันเดรอา โบเชลลี” การแสดงจากศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย อาทิ แก้ม วิชญาณี, กิต กิตตินันท์, แอน ธิติมา, ป้อม ออโต้บาห์น, ปุ๊ อัญชลี, ปั่น ไพบูลย์เกียรติ, กบ เสาวนิตย์, อุ้ย รวิวรรณ, แอน นันทนา, ผิง ผิง โกลด์เด้นซอง, ตี๋ วิวิศน์ ชมความอลังการเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยไฮไลท์ด้วยการแสดงพลุชุด “มหัศจรรย์ความสุขแห่งไข่มุกอันดามัน” จำนวนกว่า 20,000 ดอก ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  

2. จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 27 - 31 ธ.ค. 2564 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (หอคำหลวง) จังหวัดเชียงใหม่ ชมกิจกรรมไฮไลท์ การจุดพลุ 9 ชุด และเอกลักษณ์ความเป็นล้านนา การตกแต่งประดับไฟในรูปแบบสวนแสงในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ พบกับแสงเหนือในการเปิดศักราชเข้าสู่ปีใหม่ ชมการแสดง Lanna Symphony Orchestra ร่วมกับศิลปินพื้นบ้านล้านนา และการแสดงดนตรีจากศิลปิน เช่น วงเคลียร์ , ลิปตา , ปาล์มมี่  

3. จังหวัดระยอง วันที่ 27 - 31 ธ.ค. 2564 ณ หาดแสงจันทร์ (บริเวณแหลมเจริญ) จังหวัดระยอง กิจกรรมไฮไลท์ คือ การแสดงพลุชุด 10 ชุด สื่อความหมายถึง “เมืองระยอง ยิ่งมอง ยิ่งเพลิน” โดยใช้พลุที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เมื่อสะเก็ดพลุตกลงสู่ทะเล จะเป็นอาหารปลาและสัตว์น้ำได้ การันตีความยิ่งใหญ่และสวยงาม โดยแชมป์พลุโลก พร้อมชมการแสดงจากศิลปินพื้นถิ่นและอัตลักษณ์ชุมชนและการแสดงควงกระบองไฟบนชายหาด พรีเมี่ยม คาบาเร่ต์โชว์ จังหวัดชลบุรี การแสดงดนตรีของศิลปินเจ-เจตริน, วงซิลลี่ ฟูลส์, โต๋-ศักดิ์สิทธิ์, แสตมป์-อภิวัชร์, แว่นใหญ่ แอนด์ โมนิก, บอย พีซเมคเกอร์ 

โรงพยาบาลพญาไท 3 จัดทำบุญ สักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2565 

ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล นพ.สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 3 รศ.คลินิก พญ.วารุณี จินารัตน์ ผอ.แพทย์ นพ.อภิชัย โตวณะบุตร ผช.ผอ.แพทย์ คุณศุภกร พะวันนา ผอ.ฝ่ายบริหารการตลาดกลุ่ม PMC คุณ ณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผอ.ฝ่ายการตลาด คุณนิตยา กฤตธนเวท ผอ.บริหาร พว.ภาวิณี วัยปัทมะ ผอ.ฝ่ายการพยาบาล คุณนิภาภรณ์ เปรมสงวนศิลป ผอ.บริหารพัฒนาคุณภาพ พร้อมบรรดา แพทย์ พนักงาน ร่วมจัดงานทำบุญ สักการะ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บริเวณด้านหน้า โรงพยาบาล เพื่อเป็นศิริมงคล เดินหน้าบริการลูกค้าด้วยความเข้มแข็ง ปลอดภัย เนื่องในโอกาสเทศกาล ปีใหม่ 2565 ที่จะมาถึง

'อดีตทูตฯ' แนะ!! หลักสร้างสัมพันธ์อันดีต่อเพื่อนบ้าน อย่าไปจุ้นจ้านวิจารณ์-ล้อเลียนเรื่องภายใน

นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

เห็นข่าวที่สื่อทางการลาวออกมาตำหนิ NBT ที่นำเสนอข่าวรถไฟลาวจีนในทางลบและกระทบความรู้สึกต่อคนลาวนั้น

ในฐานะที่ผมเคยทำงานที่ลาวมา 2 วาระ และเคยดูแลเรื่องที่ลาวเคยประท้วงไทยมาหลายเรื่อง อยากบอกว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าไปวิจารณ์กิจการภายในของลาวเลยครับ ได้ไม่คุ้มเสีย 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NBT เป็นสื่อทางการของไทย ถือว่าไม่สมควรครับ เตือนด้วยความหวังดีจริงๆ

ลาวเขาก็มีศักดิ์ศรี เขาเป็นประเทศนะครับ ตรงนี้ที่คนไทยยังไม่เข้าใจอีกมาก

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ฉะสื่อค่ายดัง ทำขายขี้หน้า บิดเบือนเรื่องรถไฟความเร็วสูง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีที่สื่อลาวอัดสื่อไทยบางสำนักบิดเบือนเสนอข่าวคนลาวไม่มีเงินซื้อตั๋วนั่งรถไฟความเร็วสูง โดยระบุว่า ขายขี้หน้า อยู่ดีไม่ว่าดี สถานีโทรทัศน์ของไทยรายงานข่าวเรื่องรถไฟความเร็วสูงของลาวที่จีนสร้าง แถมท้ายว่า ราคาค่าตั๋วแพง คนลาวไม่มีปัญญานั่ง คงขาดทุนยับ ติดหนี้หัวโต

มันเรื่องอะไรของ.. ึง สถานีข่าวควรจะเสนอแต่ข่าว ไม่ใช่ใส่ความคิดเห็นลงไปในเนื้อข่าว ใครสั่งใครสอน 

‘ก.แรงงาน’ เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วย “การบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ” ภายหลังโควิด-19 ฟื้นเศรษฐกิจไทย!!

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เตรียมพร้อมกำลังแรงงานข้ามชาติต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

วันที่ 21 ธันวาคม 2564 เวลา 09.30 น นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังแรงงานข้ามชาติต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลายลงหรือกลับสู่สภาวะปกติ ณ โรงแรมโนโวเทล มารีน่า ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง กล่าวว่ารัฐบาลโดยการนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการชะลอ และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น จึงได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญในการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกมิติของการโยกย้ายถิ่นฐานของแรงงาน ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยให้มีสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค และเป็นธรรม ตามหลักการเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เพื่อให้แรงงานข้ามชาติที่ทำงานในประเทศไทยได้รับการดูแลคุ้มครองเท่าเทียมกับแรงงานชาวไทย และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของสากล

สุโขทัย-อสม. "สุโขทัยชวนวิ่ง" ครั้งที่ 1

สมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย จัดกิจกรรม อสม. สุโขทัยชวนวิ่ง  2021 ครั้งที่ 1 ในเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ณ.เกาะกลางรูปหัวใจ ทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) ตำบลบ้านกล้วย เมืองสุโขทัย ซึ่งมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ทั้ง 9 อำเภอ เข้าร่วมกิจกรรมการ  การแข่งขันในครั้งนี้  แบ่งออกเป็น  2 ประเภท คือ   มินิฟันรัน  3  กิโลเมตร   ฟันรัน 6 กิโลเมตร  พร้อมมาตรการจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมงาน ลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่น”ไทยชนะ” มี ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย เขต 1 ร่วมกิจกรรมนำวิ่ง พร้อมมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน โดยมีนายจรัญ จันดี รองแพทย์ สสจ.สุโขทัย นางผ่องนภา เนียมน่วม นายกสมาคม อสม.จ.สุโขทัย อสม.ทุกอำเภอ  นายสมคิด เดชชุษณะนาถ ชมรมวิ่ง 2.5 สุโขทัย พร้อมคณะร่วมจัดกิจกรรม

'น้าแอ๊ด' แนะ!! อย่าเชื่อฝรั่งเข้ามาแบ่งแยกคนไทย อ้างประชาธิปไตยมาใช้ยึดประเทศ

“น้าแอ๊ด” อบรมสามนิ้ว! อย่าเชื่อพวกฝรั่งเข้ามาแบ่งแยกคนไทย ซัดอ้างปชต. แต่แอบยึดประเทศ!

จากกรณีของสถานการณ์ในประเทศไทย เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งมีเป้าหมายไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกล่าวอ้างว่า เป็นเพียงการปฏิรูป และภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนนั้น เป็นการล้มล้างการปกครอง ทั้งยังมีขบวนการต่างชาติ เข้ามาแทรกแซงการเมืองไทย ด้วยเจตนาที่จะก่อให้เกิดเหตุความวุ่นวาย และใช้เด็กเป็นเหยื่อทำให้สังคมไทยแตกแยกนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในความสงสัย เป็นที่เฝ้าจับตามองของคนไทยมาโดยตลอด

รวมถึงข้อสงสัยว่าใครบ้างอยู่เบื้องหลังชักใยเด็กเหล่านี้ นับแต่เกิดการชุมนุมของ “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” หรือในนาม “กลุ่มคณะราษฎร 2563”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ในรายการ คุยให้เด็กมันฟัง ที่มีน้าเน็ก ป๋อง กพล และเสนาหอย เข้ามาร่วมพูดคุย โดยแขกรับเชิญก็คือ ยืนยง โอภากุล หรือน้าแอ๊ด คาราบาว ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตระดับตำนานของเมืองไทย ได้เล่าถึงเหตุการณ์และจุดเริ่มต้นของการแต่งเพลงเพื่อชีวิต และได้พูดในรายการมีเนื้อหาที่น่าสนใจว่า

“อยากจะเตือนคนไทยด้วยกันว่า ถ้าเรารักกันต้องสามัคคีกัน อย่าไปเชื่อไอ้พวกฝรั่งที่เข้ามาแบ่งแยกเราแล้วปกครอง เวียดนามโดนฝรั่งเศส ทำให้เกิดการลุกขึ้นมาต่อสู้ ปลดปล่อยจากฝรั่งเศสแล้ว ไอ้ญี่ปุ่นกับไอ้กัน ก็มันเข้ามาอีก ในที่สุดไอ้กันก็เข้ามาเสือก ดูซิว่ามันสูญเสียงบประมาณเท่าไหร่ ในอินโดจีน ไม่ว่าจะเวียดนาม ลาว เขมร มันเสียเท่าไหร่ คุ้มไหมกับที่มันลงทุน มันมีความหวังอะไรกับเรา เพราะมันต้องการจะมายึดแผ่นดินของพวกเรา ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันนี้ มันจะยึดของพวกเราด้วยอะไร เมื่อก่อนมันจะยึด ด้วยอาวุธกองทัพ แต่ตอนนี้มันจะยึดด้วยประชาธิปไตย ผมพูดแค่นี้จบ”

ผู้ว่าฯนราธิวาส พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาด จ.นราธิวาส ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก

จากเหตุพนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกพังส่งผลให้น้ำไหลทะลัก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 700 หลังคาเรือน นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนางสิริวิมล พงษ์อักษร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส หลังจากที่เกิดกรณีพนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกพัง ส่งผลให้น้ำไหลทะลัก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลมูโนะ ได้รับความเสียหายจำนวน 2 หมู่บ้าน ได้แก่บ้านมูโนะ หมู่ที่ 1 และบ้านปาดังยอ หมู่ที่ 3 ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร 700 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 1,975 คน

นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากการที่พนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกพัง เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลทะลักจากแม่น้ำสุไหงโกลก เข้ามาท่วมในพื้นที่บ้านเมืองราษฎร พื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ของตำบลมูโนะ เสียหายไป 700 หลังคาเรือน ด้วยความห่วงใยพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย จึงได้มาสำรวจที่เกิดเหตุ และคาดว่าพนังกั้นน้ำน่าจะมีรอยรั่วหรือมีการกัดเซาะ ทำให้น้ำไหลทะลักเข้ามาท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มากว่า 10 ปีแล้ว

ในครั้งนี้ตั้งใจนำเวชภัณฑ์ และหน้ากากอนามัยนำมามอบให้กับพี่น้องที่ประสบอุทกภัย พร้อมกับถุงยังชีพช่วยเหลือในเบื้องต้น  อย่างไรก็ตามในส่วนของการช่วยเหลือในเรื่องของการอพยพ ได้จัดจุดอพยพพี่น้องประชาชน ไว้ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในหมู่บ้าน ซึ่งทางส่วนท้องถิ่น โดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ก็ได้จัดอาหารไว้ 3 มื้อ ดูแลพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึงแล้ว

 

อยุธยา- จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ททท. แถลงข่าวจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2022 พร้อมรับนักท่องเที่ยว เป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวผ่านสู่การเริ่มต้นใหม่ในปี 2565 อย่างมีพลังใจและมีความหวัง

นายวีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ร่วมกับ นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าว เตรียมจัดงานเฉลิมฉลอง Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya เบิกนภารับขวัญปีใหม่  ในระหว่างวันที่ 27 – 31 ธันวาคม 2564 ณ วัดพระราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

ภายในงานจะมีโซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจภายในงาน อาทิ  โซนตลาดน้ำวิถีไทยภาคกลาง เล่าเรื่องราวความผูกพันของคนทยกับสายน้ำผ่านมัลติมีเดียแสง โซนเวทีการแสดง โดยแรงบันดาลใจจาก "พระปรางค์" อันเป็นสิ่งก่อสร้างประเภทหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย โดยหยิบยกรูปทรงของพระปรางค์และนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีนทันสมัย กิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การแสดงดนตรีไทยพื้นบ้านภาคกลางประยุกต์และร่วมสมัย วงดนตรีท้องถิ่น (Local Band) ตลาดวิถีไทย (Thai Street Market) มหกรรมอาหารไทย ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์จาก SME ภาคกลาง นอกจากนั้น ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ อาทิ การตกแต่งประดับไฟสวยงาม / ขบวนพาเหรดพชุดพิเศษ "ปีใหม่สุขใจไทยระรื่น  การแสดงโขนสมมุติชุดใหญ่ 30 คน การแสดงพลุ 7 องก์

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวว่า จากมติศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ที่ได้อนุมัติจัดงาน  Amazing Thailand Countdown 2022 ในพื้นที่ 5 จังหวัดหลักของประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ระยอง นครราชสีมา ภูเก็ต และพระนครศรีอยุธยา ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดนั้น   สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นพื้นที่ตัวแทนของภาคกลางภายใต้ซื่องาน Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya ผ่านธีมอู่ข่าวอู่น้ำ โดยมีคอนเซ็ปต์ The Flow of Life สะท้อนความโดดเด่นของภาคกลางที่เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ   โดยร้อยโยงเป็นความผูกพันของสายน้ำกับการใช้ชีวิต พร้อมกับอำนวยอวยชัยให้ปีใหม่ชีวิตลื่นไหลไร้อุปสรรค เหมือนสายน้ำเย็นที่ไหลหล่อเลี้ยงชีวิต เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวผ่านสู่การเริ่มต้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2565 อย่างมีพลังใจและมีความหวัง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top